คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
Chapter 1
ในห้วงลึกแห่งความฝันอันไร้ที่สิ้นสุด ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เห็นเพียงความมืดและความหนาวเหน็บเท่านั้น
กลัว… คือความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นจากภายในหลังจากคดคู้อยู่ในความมืดเป็นเวลานานจนไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีก ไม่ว่าเขาจะพยายามดิ้นรนออกจากที่แห่งนี้ยังไงก็เปล่าประโยชน์
“………………………”
ความเงียบรอบด้านราวกับกำลังดูดกลืนตัวตนของเขาให้ดิ่งลึกลงไปในความมืด ความมืด..กำลังกัดกินตัวเขา
“เดวี่…นายอยู่ไหน” น้ำเสียงแหบพร่าก้องกังวานไปทั่วความฝัน เปล่งสะท้อนซับไปซับมาให้ได้ยินราวกับที่แห่งนี้เป็นกรงมืดอันไร้จุดสิ้นสุด
“เดวี่..เดวี่…” ขอบตากลับมาร้อนผ่าวอีกครั้งก่อนน้ำเสียงจะจุกอยู่ที่อก…และเป็นอีกครั้งที่เสียงสะอื้นได้หลุดออกจากริมฝีปากสีซีดที่ขาดเลือดนั่น
…ช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ที…
“..จัส..”
“!” คล้ายกับได้ยินเสียงกระซิบเรียกของใครบางคนทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นด้วยความหวัง
“เดวี่!?” จัสเดโรหลุดร้องออกมาอย่างดีใจ สองมือไขว้คว้าไปทั่วความมืดมิด หวังให้สัมผัสได้ถึงตัวของอีกฝ่าย “นายอยู่ที่ไหน! เดวี่!!”
“…………………”
“เดวี่?” ความเงียบที่ตอบกลับมาเริ่มทำให้ร่างบางรู้สึกใจไม่ดี “เดวี่!นายอยู่ตรงไหน!ตอบกลับมาหน่อยสิ!เดวี่!!เดวี่!!!” ร่างบางร้องตะโกนสุดเสียงด้วยกับน้ำตาที่เอ่อนองใบหน้า
“ฮึก…ฮืออออออออ…”เสียงร้องไห้โฮดังก้องไปยังรอบด้าน เมื่อคิดว่าตัวเองกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง เจ้าของเสียงร้องไห้จึงยิ่งร้องหนักโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น “...ฮึก..เดวี่…”
“..ฮืออออออ….อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว…”
หมับ!
สัมผัสเย็นที่เอื้อมแตะบ่าทำเอาร่างเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เผลอเงยหน้าขึ้นมองทั้งๆที่ไม่อาจจมองเห็น
“อยู่นี่เอง..”
เฮือก!!!
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกลุกพรวดออกจากเตียงนอนด้วยกับใบหน้าตื่นตระหนกที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ดวงตาสีทองหวานเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
เอ๋?
แต่ไม่นานสติก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง มือเรียวเอื้อมแตะหยาดน้ำอุ่นด้วยความงงงวยก่อนยกชายเสื้อยาวเช็ดน้ำตาที่น่าอับอายออกไป
นี่เรา…ร้องไห้?
โครม!
เสียงบางอย่างกระแทกพื้นเรียกร่างเล็กให้หันไปมองด้วยความตกใจเช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่ใบหน้าซีดเผือกราวกับเจอภูตผีปีศาจอยู่ตรงหน้าอย่างไรอย่างนั้น
“อะ..อะ..ฟะ..ฟื้นแล้ว!!!” ชายหนุ่มร้องเสียงหลง ขาสั่นผับกองอยู่กับพื้นไม่กล้าขยับ จัสเดโรเองก็เกิดอาการหวาดกลัวอีกฝ่ายไม่แพ้กัน
“ว้ากกกกกกกกก!!!!” และชายหนุ่มก็วิ่งหนีหายไปจากห้องอย่างไม่คิดชีวิตทิ้งเด็กหนุ่มให้นั่งมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง
อะไร?
ดวงตาสีทองฉายแววสับสน กวาดมองรอบด้านอย่างขลาดกลัว…ภายในห้องพักสีขาวไร้การประดับตกแต่งใดๆนอกจากเตียงที่ตนนั่งอยู่ ถุงน้ำบางอย่างที่เต็มไปด้วยสีดำทมิฬที่โยงติดกับตัว เก้าอี้ที่ล้มกองกับพื้นตัวนั้นแล้วก็ผ่าม่านสีขาวที่ปลิวเพราะแรงลมนั่น
สีขาว!สีขาว!สีขาว!
เหมือนร่างเล็กจะเกิดอาการรังเกียจสีขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาจึงโยนผ้าห่มที่คลุมตนออกไปให้ห่างตัว กระโดดลงจากเตียงสีขาวที่นั่งอยู่และฉีกเสื้อที่ตนสวมโยนมันลงไปกองกับพื้นอย่างรังเกียจ
สีขาว…สี..บริสุทธิ์!!!
ร่างเล็กใช้มือขยุ้มสีที่น่ารังเกียจแทนการระบายความโกรธที่พลุกพล่านนี่ ไม่รู้เพราะอะไรแต่สีนี้มันกลับกระตุ้นความรู้สึกเกลียดโดยสันชาติญาติ
“หายไปซะ..หายไปซะ..หายไปซะ!!!”
แคว่ก!
ห้องที่เคยสะอาดเรียบร้อยบัดนี้กลับเละเทะไปด้วยเศษชิ้นส่วนของสีขาวที่เกลื่อนกระจายไปทั่วพื้นห้อง ผู้ทำลายเพียงหนึ่งเดียวนั่งหอบหายใจแผ่วเบาก่อนโยนเศษผ้าในมือทิ้งไปให้ไกลหูไกลตา
…สกปรก…
“ท่านเอ็กโซซิทส์ทางนี้ครับ!!” เสียงที่ดังจากนอกห้องเรียกสติจัสเดโรให้กลับคืนมา เด็กหนุ่มเผยสีหน้าตื่นตระหนกก่อนสำนึกตัวได้ว่าตนเองเผลอทำเรื่องผิดพลาดออกไปซะแล้ว
ทำยังไงดี..
ความรู้สึกอึดอัดรวมกระจุกอยู่ที่ลำคอ ความหวาดกลัวแทรกซึมเข้าในจิตใจ ไม่รู้ทำไม…แต่หากได้ทำผิดลงไปเขาถึงต้องกลัวสิ่งที่จะเกิดตามมา…
“เด็กไม่ดีต้องถูกทำโทษนะขอรับกระผม”
…การลงโทษ…
“ไม่เอา!!”
ปัง!!
ประตูถูกกระแทกเปิดด้วยแรงมหาศาลของใครบางคน เจ้าของเงานั้นพุ่งเข้าจู่โจมร่างเล็กอย่างไม่รอช้า ซึ่งตามสัญชาติญาณการเอาตัวรอด คนถูกมุ่งทำร้ายกระโดดหลบข้ามเหนือศีรษะอีกฝ่ายไปโดยไม่รู้ตัว
ต้องหนี!!! เป็นเพียงความรู้สึกเดียวที่ร่างกายร้องบอก จิตสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวอีกฝ่ายนั้นบ่งชัดว่าจะเอาให้ถึงตาย!!
“แก…” เจ้าของร่างบางอรชรหันกลับมาด้วยกับจิตสังหารที่เพิ่มทวีคูณทำเอาคนตัวเล็กหน้าซีดลงถนัดตา และในทันทีที่อีกฝ่ายขยับ สองเท้าเล็กรีบออกตัววิ่งในทันใด
แต่…
โครม!!
ร่างกายที่ยังไม่สมานดีล้มกระแทกพื้นเสียงดัง แรงหนักที่กดลงบนลำตัวแทบทำให้จัสเดโรไม่มีแรงขยับ สัมผัสเย็นที่เข้าแนบจุดตายที่ลำคอสร้างความตื่นตระหนกให้กับเจ้าตัว
เสียงหัวใจเต้นรัวด้วยความหวาดกลัวกับความตายที่มาเยือนในเวลาอันใกล้ ร่างกายเย็นเหยียบขึ้นมาราวกับพร้อมต้อนรับความตายนี่ทุกเมื่อ
นี่เรา..กำลังจะตาย..อย่างงั้นเหรอ?
“เดี๋ยว!นี่คุณจะทำอะไรน่ะ!!” เสียงตะโกนแว้ดดังมาจากหน้าห้องเรียกความสนใจจากทั้งสองได้อย่างดีเยี่ยม
“เจ้าถั่วงอก..” ร่างบางพึมพำ จากเส้นปูดที่เห็นบนใบหน้างามแล้ว…ดูก็รู้ว่ากำลังโกรธ
“คุณคุโมอิมีคำสั่งให้จับตัวนะครับไม่ใช่ฆ่า!” อเลนว่าใส่พลางดึงร่างเล็กออกมาจากอีกฝ่าย สัมผัสตามตัวเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีตรงไหนบาดเจ็บ “ไม่เป็นไรนะครับจัสเดโร?”
“อะ..อือ..”
“เอาล่ะ งั้นเราไปหาคุณโคมุอิกันเถอะ” อเลนยิ้มอย่างอ่อนโยนตามฉบับ
..อึดอัดจัง..
จัสเดโรคิดขณะเดินอยู่กึ่งกลางระหว่างอเลนและคันดะ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักแอะ แค่บรรยากาศทะมึนที่แผ่ออกมาจากร่างสูงโปร่งก็ทำกระอักกระอวนจะตายอยู่แล้ว ยังต้องทนสายตาเคลือบแคลงที่มองมาจากบริเวณรอบๆนั่นอีก
“อะ เอ่อ…”ร่างเล็กเปล่งเสียงเรียกเบาๆ แล้วต้องแปลกใจที่มันแห้งผากจนน่าขนลุก
“คอแห้งเหรอครับ?”อเลนเลิกคิ้ว “รอเดี๋ยวนะครับ ถึงห้องคุณโคมุอิแล้วคงมีอะไรให้ดื่ม”
จริงๆจัสไม่ได้จะบอกว่าตัวเองคอแห้ง แต่พอโดนท้วงมาแบบนั้นก็รู้สึกอยากดื่มอะไรขึ้นมาจริงๆนั่นแหละ มือบางยกลูบคลำบริเวณลำคอ ดวงตาสีทองเหลือบเห็นกำไลบางอย่างที่สวมใส่ข้อมือ
ไอ้นี่มันอะไร?
“ถึงแล้วครับ”
เป็นเวลาเดียวกับที่ทั้งสามหยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่ง อเลนเคาะประตูสองสามครั้งและเอ่ยปากขออนุญาตก่อนเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องเต็มไปด้วยเอกสารกองเป็นตั้งๆทั้งบนโต๊ะและบนพื้น จัสเดโรชะเง้อหน้าดูก่อนถูกผลักเข้าไปโดยฝีมือจอมโหดหน้าสวยที่อยู่ด้านหลัง
“มาแล้วเหรอ…”
ร่างหนึ่งในชุดกาวน์สีขาวของนักวิทยาศาสตร์เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม ดวงตาใต้แว่นเหลี่ยมไร้กรอบฉายแววยิ้มเช่นกัน
“ยินดีต้อนรับสู่ศาสนจักรจัสเดโรคุง นั่งสิ”
จัสเดโรนั่งลงอย่างว่าง่ายบนโซฟาที่เต็มไปด้วยกระดาษและหนังสือต่างๆ ร่างเล็กเงยหน้าสำรวจรอบๆห้องอย่างสนอกสนใจพลางแกว่งเท้าเล่นเหมือนเด็กๆ
“ขอบใจมากนะทั้งสองคน คันดะคุงกลับไปพักได้แล้วล่ะ”โคมุอิเอ่ยด้วยแววยิ้ม
“ชิ”คันดะส่งเสียงขัดใจ แต่ก็ยอมจากไปแต่โดยดีภายในห้องจึงเหลือแค่โคมุอิ อเลนและจัสเดโรเท่านั้น
ก๊อก ก๊อก
“พี่คะ กาแฟได้แล้วค่ะ”รินารี่เอ่ยเสียงใส และเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำสามใบอย่างรู้หน้าที่
“อเลนคุงนี่จ้ะ”เธอยื่นน้ำเปล่าให้แล้วหันไปหาร่างเล็กที่นั่งบนโซฟา
“อึก..”
จัสเดโรจ้องเธอเขม็ง รินารี่อึกอักเล็กน้อยก่อนยื่นแก้วน้ำให้ด้วยรอยยิ้มฝืนๆ “เชิญจ้ะ” ไม่รอช้าจัสเดโรรับแก้วน้ำมาดื่มอึกๆอย่างรวดเร็วก่อนถอนหายใจออกมายาวๆอย่างสดชื่น
“รู้สึกดีชะมัด ขอบใจนะคุณผู้หญิง”จัสฉีกยิ้มกว้าง ท่าทางเป็นมิตรกว่าในจัตุรัสนาวาเยอะจนรินารี่เบาใจและออกจากห้องไปเงียบๆ
“………………….”
ในห้องที่เหลือคนเพียงสามคนกลับมาเงียบอีกครั้ง สำหรับอเลนและโคมุอิเป็นบรรยากาศกดดันที่นั่งอึ้งประหลาดๆส่วนคนต้นเหตุที่ทำให้ทั้งสองหวาดระแวงกลับนั่งแกว่งเท้าสะบายอารมณ์บนโซฟา
“อเลนคุง”
โคมุอิเอ่ยเรียกเสียงนิ่งหลังจากรอดูปฏิกิริยาร่างตรงหน้าอยู่นาน แต่อีกฝ่ายดูจะไม่แสดงอาการอาละวาด โกรธ โมโหหรืออะไรที่ย่ำแย่เลยสักนิด เอาแต่จดๆจ้องๆห้องที่รกไปด้วยเอกสารนี่อยู่นั่นแหละ
“ไหนลองเล่ารายละเอียดตอนที่ตื่นซิ”โคมุอิกระซิบ ปรับระดับเสียงให้เบาเพื่อไม่ให้ร่างเล็กผมทองได้ยิน
“ก็ไม่มีอะไรนะครับ เขาแค่ตกใจที่โดนคันดะโจมตีและยังไม่แสดงอาการอาละวาดอะไรด้วยก็เลยไม่ได้คุมตัวอะไรมาก”อเลนกระซิบกลับ ดวงตาสีขี้เถ้าเหลือบมองจัสเดโรเล็กน้อย “แล้วดูเหมือนจะจำผมไม่ได้ด้วยนะครับ”
ทั้งที่ตอนนั้นเล่นงานเราซะปางตายเพราะหนี้ของอาจารย์แท้ๆ อเลนลอบคิดต่อในใจ
“เธอต้องการจะบอกอะไรอเลนคุง…”
“อันนี้ผมแค่คิดนะครับ แต่เป็นไปได้ไหมที่ฝ่ายนั้นจะ…สูญเสียความทรงจำ?”
เปรี๊ยะ!
แว่นโคมุอิร้าวขึ้นมาทันใด บรรยากาศในห้องเย็นตัวลงติดลบยี่สิบองศาเหมือนเห็นพายุหิมะโหมกระหน่ำอยู่เป็นฉากหลัง โคมุอิกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“ตะ แต่ว่าผมแค่คาดการเฉยๆนะครับ.. บางทีฝ่ายนั้นอาจจะแกล้งแสดงละครก็ได้”อเลนรีบขัดขึ้นแต่ในใจรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้เพราะจากการต่อสู้กันในจัตุรัสนาวา เขาพอรู้ว่าจัสเดโรเป็นพวกนิสัยยังไง..ละมั้ง?
“เอ่อ…จัสเดโรคุง ฉันมีคำถามจะถามเธอ”
“อื๋อ?”ร่างเล็กหันสบตาอย่างซื่อๆตามนิสัย ทำโคมุอินึกเชื่อคำคาดการของอเลนไปมากกว่าครึ่ง
“เธอจำ…อะไรได้รึเปล่า”
“จำอะไรล่ะ”จัสสวนกลับทันที
“เอ่อ..อย่างสาเหตุที่เธออยู่ที่นี่…หรือไม่ก็สาเหตุของผ้าพันแผลบนตัวเธอ” พูดถึงตรงนี้จัสเดโรก้มลงมองร่างกายตัวเองพบผ้าพันแผลที่พันรอบอกของตัวเองแต่ไร้ซึ่งความเจ็บปวด มือบางยกลูบๆคลำๆอย่างสนใจ
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่?แล้วอีกอย่างที่ฉันมาอยู่ที่นี่เพราะนายเรียกไม่ใช่เหรอ เพี้ยนรึเปล่านายน่ะ”พูดจบจัสเดโรก็หัวเราะคิกคักขำๆตามแบบฉบับเจ้าตัว แต่โคมุอิกลับขำไม่ออก
“อเลนคุง…”
“ครับ?”
“ฝากดูแลเขาทีนะ” ไม่รอฟังเสียงตอบรับโคมุอิลุกพรวดจากที่นั่ง เดินฝ่ากองเอกสารบนพื้นและปิดประตูเสียงดังปัง ทิ้งอเลนกับจัสเดโรให้มองตาปริบๆ
“เขาไปไหน?”จัสเดโรเอ่ยปากถามก่อน
“คงไปหาผู้บัญชาการ..ละมั้งครับ”
==========================================================================
เราคิดว่าโนอาคงไม่ชอบสิ่งที่บริสุทธิ์อย่างสีขาว แต่ก็ลืมนึกไปว่าในตอนที่ไวสลี่ได้ความทรงจำโนอากลับคืนมาและโนอาทุกคนออกไปต้อนรับ…พวกโนอาใส่สีขาวหมดเลยนี่หว่า=[]=!!
มันเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต…แต่เราไม่คิดจะแก้หรอกนะ(ฮะๆ)
เจอกันตอนหน้า!
อย่าลืมคอมเม้นต์กันล่ะทุกคน
ความคิดเห็น