ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] MY DADDY | LUMIN

    ลำดับตอนที่ #2 : MY DADDY | CHAPTER01

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 57




    CHAPTER 01

     



     

                ติ๊ง ต่อง

                โอ้ะ! พิซซ่ามาแล้วแน่เลยเด็กมินซอกเด้งตัวขึ้นจากโซฟาตัวยาวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งด๊อกแด๊กไปเปิดประตู โดยที่ลู่หานไม่จำเป็นต้องออกคำสั่ง ก็แน่ล่ะในเมื่อเจ้าตัวเป็นคนงอแงว่าหิวแถมยังสั่งให้ลู่หานโทรสั่งพิซซ่ามาให้กินอีกต่างหาก หลังจากวุ่นวายกับการปรากฏตัวของเด็กมินซอกเมื่อช่วงเช้าแล้วเขาก็สำนึกได้ว่าร่างกายยังต้องการอาหารเข้าไปเพิ่มพลัง ดังนั้นลู่หานก็ไม่ได้ขัดอะไรแล้วก็กลายเป็นต้องยอมจ่ายค่ามื้อเช้าสำหรับสองคนด้วยเงินของเขาเอง

               
    ขอบคุณครับ~ลู่หานนั่งมองเด็กมินซอกรับพิซซ่าถาดใหญ่จากพนักงานส่งพิซซ่า คนตัวเล็กโค้งให้อย่างมีมารยาทอย่างที่ลู่หานเพิ่งจะเคยเห็น พร้อมกับเอ่ยเสียงร่าเริงก่อนจะยกมือเล็กๆนั่นโบกไปมาให้กับพนักงานที่เดินจากไป



                ต้องมีของกินมาล่อสินะ...



               
    ปะป๊ามานั่งนี่สิมินซอกวางพิซซ่าถาดใหญ่ในมือลงบนโต๊ะตัวเตี้ยที่ตั้งอยู่หน้าโซฟาก่อนจะนั่งลงกับพื้นแล้วเริ่มลงมือจัดการของกินตรงหน้า ลู่หานไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ยอมลงไปนั่งกับพื้นฝั่งตรงข้ามกับอีกคน นั่งเท้าคางมองเด็กหัวกลมที่ตั้งใจยัดพิซซ่าคำโตเข้าปาก แก้มกลมๆนั้นพองขึ้นมาเพราะของกินที่อัดแน่นอยู่เต็มปาก

               
    ไม่กินหรอ?ลู่หานเกือบจะหลุดขำออกมาตอนที่เด็กตรงหน้าเอ่ยถามทั้งที่ปากยังเต็มไปด้วยของกิน เสียงอู้อี้เอ่ยถามพร้อมกับแววตาฉงน ในมือยังมีพิซซ่าจ่ออยู่ตรงปากของตัวเอง

                กินไปเถอะ ระวังติดคอลู่หานบอกก่อนจะลุกเดินออกไปยังโซนห้องครัว




                มินซอกเงยหน้าขึ้นมองเมื่ออีกคนเดินกลับมาพร้อมกับเหยือกน้ำและแก้วสองใบ อีกคนวางของที่ถือมาลงบนโต๊ะตัวเตี้ยก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกันตามเดิม มินซอกกระพริบตามองปริบๆก่อนจะยื่นพิซซ่าที่ตัวเองกัดไปแล้วครึ่งหนึ่งไปจ่อปากอีกคน


                อ้าม~

                ลู่หานขมวดคิ้วมองคนตัวเล็กที่ทำเสียงใสพร้อมทำท่าอ้าปากกว้าง

                กินเองได้ลู่หานดันมือคนตัวเล็กออก ก่อนจะเอื้อมไปหยิบพิซซ่าชิ้นใหม่ พลางเอ่ยออกมาเบาๆ กัดแล้วยังจะเอามาป้อนอีก 
               
    ชิมินซอกยู่ปากก่อนจะวางพิซซ่าครึ่งชิ้นนั้นลงบนกล่อง เอื้อมไปหยิบเหยือกน้ำมาเทใส่แก้วในขณะที่อีกคนยัดพิซซ่าในมือเข้าปาก ตอนที่วางแก้วลงหลังจากดื่มน้ำอึกใหญ่ดวงตากลมก็เหลือบขึ้นมองคนตรงหน้า




                “...!” ลู่หานชะงักเล็กน้อยตอนที่กำลังจะอ้าปากงับพิซซ่าในมืออีกคำ เมื่อคนตัวเล็กยืดตัวเข้ามาก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมมาแตะมุมปากเบาๆแล้วใช้นิ้วเล็กเกลี่ยคราบซอสที่เลอะมุมปากของเขาออกให้ มินซอกหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอ่ยล้อ
               
    กินเลอะเหมือนเด็ก ลู่หานนิ่งค้างอยู่พักเดียวก่อนจะกลอกตาไปมา แวบหนึ่งที่แอบเหลือบมองเด็กหัวกลมที่ดึงตัวกลับไปให้ความสนใจกับของกินในมือต่อ



               
    คริสบอกหรือเปล่าว่าต้องมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?ลู่หานถามขึ้นตอนที่ปล่อยให้เวลาผ่านไปพักหนึ่ง
               
    ไม่อ่ะ บอกแค่ว่าให้มาหาลู่หาน
                “แล้วก็มาเนี่ยนะลู่หานย่นคิ้ว
               
    อื้อมินซอกพยักหน้าหงึกก่อนจะหยิบพิซซ่ามากินอีก
               
    ใครบอกให้ไปไหนก็ไปว่างั้นลู่หานเหล่มองมินซอกที่ยังเอาแต่ยัดของกินเข้าปาก นึกแปลกใจที่เด็กคนนี้ดูไม่สะทกสะท้านกับการที่ต้องมาอาศัยอยู่กับคนที่ไม่รู้จัก แถมยังวางตัวสบายๆแบบที่ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจที่ต้องออกมาอยู่ในที่ที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มินซอกอยู่ที่ไหน กับใคร แต่จะให้ถามออกไปตรงๆมันก็ออกจะดูเสียมารยาทจนเกินไป อีกอย่างก็กลัวว่าคำถามประเภทนั้นอาจจะไปแทงใจดำเด็กนี่เข้า

               
    แน่สิ สนุกออก มินซอกเอ่ยขึ้น จะว่ายังไงดีล่ะ ผมน่ะอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เด็กๆแล้ว พ่อแม่อะไรนั่นแทบจะไม่เคยเจอด้วยซ้ำคนตัวเล็กเล่าด้วยท่าทางทีสบายๆทั้งที่มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่อีกคนกลับดูจะไม่ใส่ใจนัก
               
    ...
                “ไม่สิ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของผมคือใครน้ำเสียงของคนตัวเล็กไม่ได้ต่างไปจากทีแรก มันยังคงปกติเสียจนลู่หานแปลกใจกับคริสผมก็เพิ่งเจอเขาเมื่ออาทิตย์ก่อน ผู้หญิงคนนั้นบอกให้ผมไปหาเขาผู้หญิงคนนั้น ที่เด็กมินซอกพูดถึงคงจะหมายถึง แม่ สินะ
                “แล้วผู้หญิงคนนั้น เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ?
                ไม่รู้สิ คงไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของเขาล่ะมั้งมินซอกทำท่านึกอยู่แวบหนึ่งก่อนจะตอบออกมา
               
    งั้นนายก็รู้น่ะสิว่าเพราะอะไรถึงถูกส่งตัวไปหาคริส?
                อื้ม ตอนแรกผมคิดว่าคริสคือผู้โชคร้าย แต่สุดท้ายกลายเป็นปะป๊าลู่หาน~มินซอกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงพลางยิ้มตาหยี
               
    แล้วกับคริสทำไมนายไม่เรียกปะป๊า?
                ก็คริสไม่ใช่ปะป๊านี่ 
               
    แล้วฉันเป็นปะป๊านายรึไง?ลู่หานขมวดคิ้วถาม
                “คริสบอกว่าจากนี้ไปลู่หานจะดูแลผม เพราะงั้นลู่หานก็ต้องเป็นปะป๊าผมสิ
                “…” ลู่หานถึงกลับพูดไม่ออก เขาได้แค่ส่ายหน้าเบาๆพลางถอนหายใจออกมา
               
    มองผมแบบนั้นหมายความว่าไง?มินซอกหรี่ตามองอีกคนที่นั่งมองเขาด้วยแววตาประหลาด  


                “นายโตมาแบบไหนกันนะ?ลู่หานเท้าคางมองก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ
               
    “…อืมมมมินซอกเท้าคางเลียนแบบอีกคนพลางทำท่าคิดหนัก


                “ถ้าจะให้เล่าชีวิตตอนเด็กๆล่ะก็...พอจำความได้ก็อยู่กับแม่บ้าน เขาเรียกว่าไงนะ แม่นมมั้งมินซอกเริ่มเล่า พอต้องเข้าโรงเรียนก็ถูกส่งให้เข้าโรงเรียนประจำ วันหยุดก็ไม่ได้กลับบ้านหรอกเพราะไม่มีใครมารับ...เอ้อ วันจบการศึกษาผม ก็ไม่มีใครมาด้วยนะ เศร้าชะมัดคนตัวเล็กเล่ามาถึงตรงนี้แล้วก็หัวเราะกับตัวเอง ไม่ได้มีอะไรน่าขำเลยซักนิดแต่มินซอกก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองหัวเราะทำไมแค่คิดถึงวันที่ตัวเองโดดเดี่ยวท่ามกลางบรรยากาศของคนรอบข้างที่มีพ่อแม่ มีครอบครัวมาแสดงความยินดีในวันจบการศึกษาก็รู้สึกหน่วงขึ้นมาแปลกๆ ที่หัวเราะก็คง...ปลอบใจตัวเองอย่างนั้นล่ะมั้ง
               
    แต่ผมชอบชีวิตอิสระแบบนั้นนะมินซอกยิ้มกว้างตอนที่พูดจบ
               
    ...
                “แล้วปะป๊าล่ะ?มินซอกถามเมื่ออีกคนเอาแต่นั่งจ้องหน้าเขาเงียบๆ
               
    ฉันหรอ? ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก ลู่หานตอบก่อนจะมองไปทางอื่น
               
    ได้ไงอ่ะ ผมเล่าเรื่องของผมไปตั้งเยอะมินซอกท้วง
               
    นายก็ต้องเล่าอยู่แล้ว จากนี้ไปฉันคือผู้ปกครองของนายเพราะฉะนั้นฉันต้องรู้ทุกเรื่องของนาย ต่อไปก็รู้ไว้ด้วยว่านายจะไม่มีชีวิตอิสระแบบนั้นอีกแล้ว ลู่หานร่ายยาวพลางมองอีกคนด้วยท่าทีจริงจัง จนมินซอกหลุดขำออกมาเบาๆ
               
    เข้าใจแล้วครับปะป๊า~



                สงสัยว่าคงต้องยอมเป็น ปะป๊าจำเป็นให้เด็กนี่ไปซักพักแล้วล่ะ ลู่หานคิด
                มินซอกไม่เคยสัมผัสกับคำว่าครอบครัวมาตั้งแต่เกิด...แต่ต่อจากนี้ไปมันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า
    ครอบครัวสำหรับคนตัวเล็กนี่แล้วก็ได้มั้ง


     

    ×



                เวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงเย็น หลังจากลู่หานจัดการหาห้องว่างให้สำหรับสมาชิกใหม่ เด็กมินซอกโยนกระเป๋าเป้ของตัวเองลงบนเตียงก่อนจะกระโจนขึ้นไปกลิ้งไปมาอยู่พักใหญ่จนเขาต้องปรามให้รีบมาจัดข้าวของ มินซอกรื้อข้าวของในกระเป๋าออกมากระจายไปทั่วห้องจนลู่หานถึงกับต้องยกมือขึ้นกุมขมับ
               
    อ่ะคนตัวเล็กยื่นแฟ้มอะไรสักอย่างมาให้ตรงหน้าคนที่ยืนอยู่ ในขณะที่ตัวเองนั่งกวาดข้าวของไปมา
               
    อะไร?ลู่หานทำหน้างงตอนรับสิ่งนั้นมาไว้ในมือก่อนจะเปิดดูแล้วก็พบว่ามันคือเอกสารการเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายของมินซอก
               
    คริสเอามาให้ บอกว่าต้องไปโรงเรียน มินซอกบอกทั้งที่ยังวุ่นวายอยู่กับข้าวของของตัวเอง
               
    “…” ลู่หานเปิดแฟ้มประวัติคร่าวๆของมินซอก พร้อมกับรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับกฎระเบียบการเข้าศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้ พอเห็นชื่อโรงเรียนแล้วก็ต้องอ้าปากค้างเพราะมันคือโรงเรียนไฮสคูลอันดับต้นๆของเกาหลีใต้ ในตอนท้ายมีลายเซ็นของคริสที่เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนของมินซอก คาดว่าคริสคงจัดการเรื่องโรงเรียนให้มินซอกมาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างน้อยลู่หานก็เบาใจไปหนึ่งเรื่องที่ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเทอมที่แพงหูฉี่
               
    มีชุดด้วยคนตัวเล็กชูมันขึ้นมาให้ดู
               
    โรงเรียนหรูซะด้วย
                แน่นอนสิมินซอกเงยหน้าขึ้นมายิ้มแป้น

                ลู่หานแค่มองหัวกลมของอีกคนที่กลับไปจัดการข้าวของบนพื้น แล้วโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็สั่นครืดขึ้นมา เขาแยกตัวออกมาจากห้องนั้นแล้วก็กดรับสายเมื่อหน้าจอมือถือโชว์ชื่อของผู้จัดการคนสนิท
               
    ว่าไง
                [ลงมาหน่อย อยู่หน้าบ้าน]
                “ห้ะ!”



                “จะมาทำไมไม่บอกก่อนลู่หานว่าตอนที่รีบวิ่งลงมาจากชั้นสองแล้วเปิดประตูต้อนรับอี้ชิง ผู้จัดการที่เขาเพิ่งคุยไปด้วยเมื่อช่วงสาย
               
    เดี๋ยวนี้ต้องโทรบอกก่อนจะเข้ามาได้หรือไง?อี้ชิงว่าขณะที่หอบหิ้วถุงใส่ของมาเต็มไม้เต็มมือ เดินไปในโซนครัวอย่างคุ้นเคยก่อนจะวางข้าวของลงบนโต๊ะในครัว
               
    แล้วมีอะไร ไหนบอกว่าวันนี้ไม่มีงาน?ลู่หานเดินเข้ามาช่วยหยิบจับของในถุงออกมาวาง อี้ชิงเป็นผู้จัดการที่สนิทกับเขาเพราะรู้จักกันมาก่อนจะเข้าวงการเสียอีก เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อนสนิทแล้วก็เพื่อนร่วมงานเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่อี้ชิงจะเป็นคนจัดการซื้อข้าวของเครื่องใช้รวมทั้งอาหารมาไว้ให้ลู่หานเพราะเขาไม่ได้มีแม่บ้านมาคอยดูแลเรื่องงานบ้าน เหตุผลก็เพราะอี้ชิงอีกนั่นแหละที่ยื่นมือเข้ามาจัดการให้
               
    ก็ไม่มี แต่จะเข้ามาบอกว่าพรุ่งนี้มีอี้ชิงบอกตอนที่หยิบผลไม้หลากหลายชนิดไปใส่ไว้ในตู้เย็น ตอนเช้านายต้องเข้าบริษัท ประธานเรียกพบเห็นว่ามีสินค้าแบรนด์ดังมาติดต่อให้นายไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้น่ะ ฉันรู้มาคร่าวๆเดี๋ยวพรุ่งนี้มีประชุมก็คงรู้รายละเอียดเพิ่มเติม
                “อ่อ…” ลู่หานพยักหน้ารับ
               
    ตอนนี้มีงานเข้ามาเรื่อยๆตอนนี้ที่จีนก็ดูจะสนใจนายด้วย ได้ข่าวแว่วๆว่าอาจจะติดต่อมาอี้ชิงเป็นคนจัดการทุกอย่างในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว เขาวางใจที่จะให้อี้ชิงจัดการตารางงานรวมถึงรับงานต่างๆโดยที่เขาแทบไม่ต้องตัดสินใจ
                แล้วเรื่องเด็กมินซอกนี่ก็คงต้องบอกให้รู้ด้วย
               
    เออ นี่…”


                ปะป๊า!”

                ทั้งสองคนหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ย่ำรัวลงมาจากชั้นสองแล้วลู่หานก็ต้องกุมขมับรอบที่นับไม่ได้ กำลังจะบอกอี้ชิงแท้ๆ หมอนี่ถ้าได้เห็นเด็กนั่นคงได้ปวดประสาทกับเขาแน่
               
    ปะป๊าไหนวะ?อี้ชิงหันมามองหน้าลู่หาน
               
    “…”
               
                โอ้ะ!” มินซอกโผล่หน้าเข้ามาในห้องครัวแล้วก็ต้องชะงักเมื่อในห้องนั้นไม่ได้มีเพียงแค่คนที่เขาตามหา
               
    ใครอ่ะ?คนตัวเล็กทำหน้างงก่อนจะเดินเข้าไป
               
    ใครวะ?อี้ชิงมองหน้าคนที่เข้ามาใหม่สลับกับมองหน้าลู่หานไปมา

                “ลูกคริส? อี้ชิงทวนคำตอบของอีกคนหลังจากแยกตัวออกมานั่งในห้องรับแขก ปล่อยให้เด็กมินซอกเพลิดเพลินกับข้าวของที่อี้ชิงซื้อมา หลังจากแนะนำตัวคร่าวๆให้สองคนรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันเรียบร้อยแล้ว
               
    ไม่เชิงอ่ะ เอามาฝากลู่หานตอบก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟา
                “ยังไง? ไม่เข้าใจอี้ชิงตอนนี้กำลังผูกปมคิ้วหนาของตัวเองเข้าด้วยกันตอนที่ยืดคอยาวมาทางเขา
               
    ก็ไม่รู้ว่ายังไงเหมือนกัน รู้แค่ว่ามันฝากให้ช่วยดูแลให้ลู่หานพ่นลมหายใจหน่ายออกมา
               
    ตอนนี้คริสไปถ่ายหนังที่จีนนี่ เห็นว่าพักหลังนี้รับงานทางโน้นเป็นส่วนใหญ่อี้ชิงขมวดคิ้วก่อนจะทำท่าคิดกับตัวเอง เพราะงั้นก็เลยต้องเอาลูกมาฝากนาย?อี้ชิงหันมาทำหน้างงใส่เขาอีกครั้ง เฮ้ย เดี๋ยวดิหมอนั่นไปแอบมีลูกโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?


                “ก็บอกว่าไม่เชิงไง เรื่องมันซับซ้อน ฉันไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนลู่หานเพียงแค่บอกปัดไป
               
    อ่าว แล้วยังไงนายก็ต้องรับเด็กคนนั้นมาเลี้ยงแทน แบบนี้?อี้ชิงเลิกคิ้วถามอีกคน
               
    แล้วจะให้ปล่อยไปเฉยๆรึไงเล่าก็ในเมื่อคริสขอร้องเขาไว้แล้ว ออกจะยัดเยียดไปหน่อยแต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อเด็กคนนั้นก็ไม่มีที่ให้ไปแล้ว
               
    แล้วนี่คิดจะบอกเรื่องนี้กับฉันเมื่อไหร่?คราวนี้อี้ชิงหันมาถามคาดโทษ
               
    ก็กำลังจะบอกนั่นแหละ เด็กนั่นเพิ่งจะมาถึงเมื่อเช้าลู่หานพ่นลมหายใจหน่ายออกมาตอนที่รู้สึกว่าเหมือนกำลังโดนผู้ปกครองสอบสวนทั้งที่ไม่ได้มีความผิด
               
    อะไรจะยอมรับง่ายขนาดนั้น…” อี้ชิงหรี่ตามองคนที่เอนกายพร้อมกับปิดเปลือกตาลง
               
    ยอมรับอะไร?ลู่หานเปิดเปลือกตาขึ้นมาเค้นเสียงถาม
               
    ก็ยอมรับเด็กคนนั้นมาดูแลไง...ง่ายไปรึเปล่าน่ะลู่หานอี้ชิงเอียงคอก่อนจะกระทุ้งศอกใส่สีข้างอีกคนเบาๆ ...เพราะเด็กนั่นน่ารักสินะอี้ชิงพูดพลางกระตุกยิ้มมุมปาก
               
    น่ารักบ้าอะไร แสบจะตายเถอะลู่หานผลักไหล่อี้ชิงออกห่าง ก่อนจะชักสีหน้าใส่เมื่ออีกคนเอาแต่มองเขาด้วยแววตาจ้องจับผิด
               
    เลิกมองฉันแบบนั้นซะทีเถอะน่า!”


    ×



     

                อี้ชิง มาบ่อยๆนะเด็กมินซอกฉีกยิ้มตาหยีตอนที่โบกมือล่ำลาผู้จัดการตัวขาวอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่และสามคนได้คุยกันไปบ้างแล้วอี้ชิงก็ขอตัวกลับ ไม่รู้ว่าเด็กมินซอกไปสนิทชิดเชื้อกันขนาดที่เรียกอีกฝ่ายโดยไม่มีคำนำหน้านามแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ดูอี้ชิงเองก็ไม่ได้ถือสาอะไรแถมยังโบกไม้โบกมือกลับมาอีกต่างหาก
               
    โอเคครับน้องมินซอก อย่าดื้อกับปะป๊านะอี้ชิงหันมายิ้มกวนใส่ลู่หาน ตอนที่พูดคำว่า ปะป๊าใส่หน้าเขา
               
    ไม่ดื้อๆหราาาา
                ลู่หานเพียงแค่ปรายตามองเด็กที่ยืนส่งยิ้มให้อี้ชิงอยู่ข้างๆ
               
    ไว้พรุ่งนี้เจอกันลู่หาน พี่กลับแล้วนะน้องมินซอกอี้ชิงยิ้มให้มินซอกหนึ่งที ก่อนจะหันมาบอกลาเขาแล้วก็หันไปล่ำลาน้องมินซอกของเจ้าตัวอีกหนึ่งรอบ
               
    อือๆ ลู่หานพยักหน้ารับก่อนจะปัดมือไล่หน่ายๆ

               






                ลู่หานเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว เขาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้ผมที่ยังไม่แห้งสนิทเบาๆก่อนจะทิ้งกายลงนั่งพิงหัวเตียง หลังจากอี้ชิงกลับไปเมื่อตอนหัวค่ำเขาก็บอกให้เด็กมินซอกไปอาบน้ำ คนตัวเล็กไม่ได้อิดออดยอมทำตามคำสั่งเขาแต่โดนดี แล้วก็วิ่งหายขึ้นไปบนห้องของเจ้าตัวที่เขายกให้
                ห้องของเด็กมินซอกอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน ลู่หานซื้อบ้านเดี่ยวเป็นของตัวเองหลังจากทำงานเก็บเงินมาหลายปี ตัวบ้านเป็นตึกสีขาวสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ห่างจากเขตผู้คนพลุ่งพล่านเพราะเขาชอบความสงบมากกว่าสถานที่แออัด อีกอย่างก็เพราะว่าเป็นนักแสดงที่มีหลายคนคอยจับตามองทั้งแฟนคลับแล้วก็พวกนักข่าวเขาเลยเลือกที่ที่เป็นส่วนตัวมากที่สุด ลู่หานไม่ได้กลับบ้านเกิดของตัวเองที่อยู่ปักกิ่งมาหลายปีแล้วเพราะตารางงานที่ยุ่งจนแทบไม่มีเวลา หลายครั้งที่โดนคนเป็นพ่อแม่บ่นอย่างน้อยใจที่ลูกชายคนเดียวไม่กลับมาเยี่ยมบ้างเลย แต่ลู่หานก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่เขาจะกลับไปหา




                ก๊อก ก๊อก



                ตอนที่หยิบมือถือขึ้นมาเช็ค แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอน คงจะเป็นใครอื่นไปไม่
    ล้วนอกจากเด็กมินซอก แต่ว่าพอมองนาฬิกาที่บอกเวลาสามทุ่มแล้วลู่หานก็เลยขมวดคิ้วมุ่น จนป่านนี้แล้วเด็กนั่นยังไม่หลับอีกรึไง?

               
    ว่า?ตอนที่เดินไปดึงบานประตูเข้ามาหาตัวแล้วก็เห็นว่าเด็กมินซอกยืนกอดหมอนอยู่ตรงหน้าห้อง
               
    นอนด้วยคนตัวเล็กบอกหน้านิ่งก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว

               
    นี่ ก็ยกห้องนั้นให้แล้วไงลู่หานจำต้องยอมปิดประตูห้องนอนแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงปลายเตียง เมื่ออีกคนกระโจนลงไปนอนบนเตียงกว้างของเขาเรียบร้อย
               
    ว้าว~ เตียงกว้างจัง ผมชอบห้องนี้อีกคนไม่ได้หันมาตอบคำถามแต่กลับกลิ้งตัวไปมาบนเตียงอย่างสนุกสนาน ลู่หานเงยหน้าขึ้นพลางยกมือขึ้นบีบสันจมูกเบาๆ


                นี่มันอะไรกันอีกล่ะเนี่ย...



               
    กลับไปนอนห้องตัวเองสิลู่หานว่าก่อนจะเดินไปคว้าต้นแขนอีกคนขึ้นมา
               
    ไม่เอามินซอกงอหน้าใส่ก่อนจะสะบัดแขนออกแล้วมุดตัวเข้าไปใต้ผ้านวมผืนหนา ลู่หานพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้งกับความรั้นของเด็กหัวกลม เขาเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆผ้าห่มที่ถูกอีกคนม้วนตัวอยู่ด้านในเป็นก้อนกลมๆ
               
    อะไรของนายอีกเนี่ยนี่เด็กมินซอกตั้งใจจะป่วนเขาทุกนาทีเลยรึไงกัน
               
    ขอนอนด้วย ไม่กล้านอนคนเดียวอ่ะมินซอกโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มก่อนจะเอ่ยเสียงเบาออกมา ใบหน้ากลมกับแววตาที่มองมาติดจะอ้อนอยู่เล็กน้อย
               
    อย่าบอกว่ากลัวผี?ลู่หานขมวดคิ้วถาม
               
    “…” 



                คนตัวเล็กไม่ได้ตอบมีเพียงความเงียบที่ส่งมาทางแววตาเป็นคำตอบว่าข้อสันนิษฐานของลู่หานนั้นถูกต้อง ลู่หานยกยิ้มขำตอนที่เห็นเด็กใต้ผ้าห่มผืนหนากลอกตามองไปทั่วห้องราวกับว่ากำลังหวาดระแวงว่าจะมีสิ่งลี้ลับภายในห้องนี้

               
    ผมไม่เคยนอนคนเดียว...มินซอกไม่ได้โกหก เขาเคยอยู่โรงเรียนประจำแล้วที่หอก็อยู่กับเพื่อนตลอด มินซอกไม่เคยนอนคนเดียวเลยตั้งแต่เกิดมา เขาไม่ใช่คนขี้ขลาด มินซอกแค่กลัวเวลาที่รอบข้างมืดสนิทแล้วภายในห้องแคบๆมีเพียงแค่เขาคนเดียว



                มินซอกไม่ได้กลัวผีซะหน่อย...เขาแค่กลัวความมืดต่างหาก



               
    ให้แค่คืนนี้ลู่หานบอกก่อนจะเอนหลังพิงหัวเตียง
               
    ไม่เอาดิ ผมบอกว่าไม่เคยนอนคนเดียวไงคราวนี้อีกคนสะบัดผ้าห่มออกก่อนจะนั่งทำหน้าขึงขังมองมาที่เขา
               
    ก็หัดซะสิ โตขนาดนี้แล้ว
                “ไม่เอา
                “เด็กคนไหนบอกว่าจะไม่ดื้อลู่หานหรี่ตามองคนตัวเล็กที่นั่งเบะปากอยู่
               
    ปะป๊า~



                แน่ะ...มีทำเสียงอ้อน



                สองคืนลู่หานยื่นคำขาดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา แล้วก็เลิกให้ความสนใจกับเด็กที่นั่งทำหน้างองุ้มอยู่ข้างๆ
               
    ใจร้ายชะมัดมินซอกทิ้งตัวลงนอนเมื่ออีกคนเมินเขา ลู่หานลอบยิ้มขำเมื่อคราวนี้คนตัวเล็กเป็นฝ่ายยอมแพ้ไปก่อน
               
    พรุ่งนี้ไปส่งที่โรงเรียนด้วยเสียงเล็กดังงุ้งงิ้งขึ้นมาอีกครั้ง
                “ไปเองสิ พรุ่งนี้ไม่ว่างลู่หานบอกทั้งที่ยังให้ความสนใจกับหน้าจอมือถืออยู่
               
    ไปยังไงเล่า ผมรู้ซะที่ไหนล่ะว่าโรงเรียนมันอยู่ส่วนไหนของโลกน่ะลู่หานหันมามองหน้าเมื่อคนตัวเล็กเริ่มกวนประสาท
               
    เดี๋ยวให้อี้ชิงไปส่งลู่หานบอกก่อนจะจัดการส่งไลน์ไปหาอี้ชิงเพราะเขาต้องเข้าบริษัทแต่เช้า คงไปส่งเด็กมินซอกไม่ได้ เพียงครู่เดียวอี้ชิงก็ตอบตกลงเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ
               
    พรุ่งนี้เดี๋ยวอี้ชิงมารับหันไปบอกคนตัวเล็กที่นอนเอียงคอมองตามทุกการเคลื่อนไหวของเขา
               
    ก็ได้มินซอกยู่ปากเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้


               
    ผมมีคำถาม มินซอกเอียงคอมองอีกครั้งหลังจากทั้งคู่เงียบกันไปพักหนึ่ง ตอนเด็กๆปะป๊าเคยฟังนิทานก่อนนอนมั้ย?
                “หืม?ลู่หานละสายตาจากหน้าจอเครื่องมือสื่อสารแล้วหันมาสบตากับอีกคนที่นอนอยู่
               
    ผมไม่เคยเลยอ่ะ เล่านิทานให้ฟังหน่อยดิ
                โตแล้วใครเขาฟังนิทานก่อนนอนกัน?ลู่หานส่ายหน้าหน่ายก่อนจะวางมือถือลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง เด็กมินซอกนี่มีอะไรมาทำให้เขาประหลาดใจได้ทุกเวลาจริงๆ
               
    ก็ผมไงมินซอกไม่ยอมแพ้
                “นอนได้แล้วลู่หานตัดบทแล้วทำท่าจะเอื้อมมือไปปิดไฟในห้องนอน แต่ก็ชะงักเมื่อเสียงเล็กดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
               
    แต่ผมอยากรู้จริงๆนี่นาว่าความรู้สึกเวลาฟังนิทานก่อนนอนมันเป็นยังไง... 



                ลู่หานหันมามองคนตัวเล็กที่เอ่ยออกเบาๆ อีกคนไม่ได้มองหน้าเขาเหมือนทุกทีดวงตากลมมองเพดานห้องเบื้องบนเงียบๆ
               
    ไว้วันหลังแล้วกันจบประโยคที่คนโตกว่าพูดออกมาแล้วมินซอกก็หันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอีกคนก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
               
    จริงนะ!”
                “นอนซะทีเถอะน่าลู่หานบอกปัด แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อคนตัวเล็กยืดตัวขึ้นมาแตะริมฝีปากบางเข้าที่หน้าผากของเขาเบาๆก่อนจะผละออกอย่างรวดเร็ว คนที่นั่งอยู่นิ่งอึ้งไปพักหนึ่งตอนที่รู้สึกว่าได้ยินเสียงจุ๊บเบาๆตอนริมฝีปากนั้นทาบทับลงบนหน้าผากของตัวเอง



               
    กู๊ดไนท์ปะป๊า~คนตัวเล็กยิ้มน้อยๆตอนที่ดึงตัวกลับไปนอนตามเดิม ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายของตัวเองแล้วนอนหลับตาพริ้ม

     




              มินซอกคงยังไม่รู้...
                ความลับข้อแรกของปะป๊าลู่หาน...แพ้ลูกอ้อน


     

    TBC.


    #ficlupapa

     

     

    TALK:
    ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ น่ารักมากเลยย
    ขอบคุณที่ชอบปะป๊าลู่กับน้องมินซอกเวอร์ชั่นนี้นะคะ
    ดีใจมากๆที่ชอบกัน แง
    TAT จะพยายามอัพบ่อยๆน้า
    กู๊ดไนท์นะคะทุกโคนนนนนนนนนน ~


                

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×