ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OMG!! น้องชายผมหายไปแล้ว!! [Yaoi , Boy's Love]

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 58


     



    บทที่ 2

     

     

     

     

    “เฮ้ย!! เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงมีหน้าอกได้กันล่ะเนี่ย แล้ว... มันหายไปไหนกัน!!!!!” ผมสติแตกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมพยายามใช้มือควานหาสิ่งที่เคยติดอยู่ตรงหว่างขาของผมเมื่อไม่นานมานี้ แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรผมก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า ดีไม่ดีอาจจับไปจับมาอาจจะเจอหลุมก็เป็นได้ “อ๊า........”

     

     

    ผมหมดแรงทรุดลงกับพื้นห้องน้ำ ตอนนี้สติผมหลุดลอยออกไปไกลแล้วภายในหัวก็เกิดคำถามขึ้นมามากมายจนหัวผมแทบจะระเบิด แต่สิ่งที่ผมพอจะจับตนชนปลายถูกเรื่องเดียวนั้นก็คือ... เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ใช่ความฝัน!! ผมถูกก๊อตทำให้กลายเป็นผู้หญิงไปจริงๆ แล้วเรื่องอื่นๆล่ะ ผมต้องพยายามนึกถึงที่ก๊อตบอกอย่างอื่นด้วยรู้สึกว่าจะ...

     

     

    วิธีทำให้กลับเป็นเหมือนเดิมก็คือ... เจ้าต้องเป็นหนึ่งเดียวกันคนที่เจ้ารัก

     

     

    ผมนั่งพิจารณาอยู่ซักพักหนึ่งถึงคำพูดของก๊อต เป็นหนึ่งเดียวคนที่เจ้ารัก... เป็นหนึ่งเดียว... กับคนที่รัก... หนึ่งเดียว... หลังจากที่พยายามตีความจากคำพูดของก๊อตอยู่ดีๆหน้าของผมก็รู้ร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสามารถ ไม่จริงหรอกมั่งบางทีการเป็นหนึ่งเป็นอาจจะหมายถึง... เออ ไอ้อันนั้นไง!! เพื่อนสนิทแบบเพื่อนตายแน่ๆเลย ก๊อตคงอยากให้ผมเป็นเพื่อนกับเซนล่ะมั่ง ใช่เลยต้องใช่แน่ๆ!!!! แต่เห็นบอกว่ามีวิธีแก้แบบชั่วคราวด้วยนิถ้าจะไม่ผิด...

     

     

    เมื่อได้รับจุมพิตจากคนที่เกิดเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 29 กุมภาพันธ์

     

     

    ปึก!!

     

     

    ผมต่อยพื้นห้องน้ำไปหนึ่งทีด้วยความหงุดหงิด นี่คงจะต้องแกล้งกันแน่ๆคิดว่าคนที่เกิดวันที่29กุมภาพันธ์มันมีเยอะนักรึไงห๊ะ!! แถมยังเรื่องมากต้องตอนเที่นงคืนอีกน่ะ แล้วนี่จะไปหาคนแบบนั้นที่ไหนล่ะเนี่ย แถมยังกลับเป็นผู้ชายได้แค่ห้าวันอีก แบบนี้มัน...

     

     

    จะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใครก็ได้น่ะ

     

     

    ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อนึกถึงอีกหนึ่งคำพูดของก๊อตขึ้นมา เอาไปปรึกษาใครก็ได้งั้นเหรอ... ทันใดนั้นเองก็ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ผมค่อยๆพยุงร่างกายตัวให้ยืนขึ้น และเดินออกจากห้องน้ำเดินตรงไปที่โทรศัพท์มือถือ ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดหาเบอร์ของเพื่อนเทยทันที ผมเอาโทรศัพท์แนบหูทันทีเสียงรอสายที่ดังขึ้นมาหนึ่งครั้งเพียงไม่กี่วินาที แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนนานเป็นนาที และในที่สุดเพื่อนเทยก็กดรับสายของผม

     

     

    ฮัลโหล... มีไร...

     

     

    เสียงของแมวดาวที่ดังผ่ายโทรศัพท์มานั้นทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่ามันพึ่งตื่น ถ้าเป็นปกติผมก็คงจะกดวางสายแล้วปล่อยให้มันนอนต่อไป แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่แล้วปัญหาของผมไม่ใช่สิ่งที่จะรอได้เหมือนเรื่องอื่นๆ “ตอนนี้แกอยู่ไหน!! ทำอะไรอยู่!!

     

     

    ตอนนี้เทยอยู่บ้าน เทยพึ่งจะตื่นเนี่ย

     

     

    “แมว... แกมาหาฉันตอนนี้เลยได้ไหม...”

     

     

    หา? แกจะบ้าเหรอเช้าขนาดนนี้เนี่ยน่ะ ยัยแมวดาวตอยกลับมาแบบสงสัยปนหงุดหงิด ก็จริงอยู่ที่ว่ามันออกจะกะทันหันไปหน่อย แต่ว่า...

     

     

    “ขอร้องล่ะมาหาฉันทีเถอะ!!!!!

     

     

    ด้วยความขาดสติผมจึงตะโกนออกไปเสียงดัง ส่วนแมวดาวเมื่อได้ยินก็เงียบไปทำเอาผมรู้สึกแย่จนต้องรีบพูดขอโทษออกไป “เออ... โทษทีน่ะพอดีเครียดน่ะก็เลย...”

     

     

    โอเคหล่อนรออยู่ที่ห้องนะ เดี๋ยวฉันไปลากหัวอีกสองตัวเสร็จแล้วเดี๋ยวจะไปหา

     

     

    ตรู๊ด....

     

     

    แมวดาวกดวางสายไปแล้ว ส่วนผมก็รู้สึกโล่งอกที่ไม่ถูกเพื่อนปฏิเสธในเวลาแบบนี้ เพราะถ้าขืนให้ผมคิดเองอยู่คนเดียวล่ะก็ บางทีความคิดฆ่าตัวตายอาจจะลอยเข้ามาในสมองซักวันหนึ่งก็เป็นได้ ผมเองหลังพิงกับกำแพง ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดก็คือหาวิธีแก้ไขกับสิ่งที่เกิดสิน่ะ...

     

    .

    .

    .

     

    หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงสามสาวก็ได้มาถึงยังห้องของผม

     

     

    “...”

     

     

    หลังจากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ทั้งสามคนฟัง ความเงียบเข้าปกคลุมห้องของผม ทั้งสามทำหน้าอึ้งแบบที่ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ผมพูดจะเป็นเรื่องจริงก็ขนาดตัวผมตอนแรกยังนึกว่าเป็นความฝันเลย หลังจากที่เหมือนจะสติหลุดกันทั้งห้องในที่สุดก็มีคนที่กล้าหาญเปิดประเด็นก่อนเป็นคนแรกนั้นก็คือ...

     

     

    หมับ!!!!

     

     

    “เฮ้ย!!!!” ส้มเช้งใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่หน้าอกของผมทั้งสองข้าง และบีบอย่างแรกทำเอาผมสะดุ้งไปทั้งร่างแล้วจึงรีบใช้มือทั้งสองข้างจับมือของส้มเช้งออกไป ทั้งๆที่ส้มเช้งเป็นตุ๊ด(แต่ร่างกายก็เป็นผู้ชาย)ทำไมผมต้องรู้สึกแปลกตอนถูกจับหน้าอกด้วยล่ะเนี่ย “ทำบ้าอะไรของแกเนี่ย!!

     

     

    “ขี้โกงนี่นา ไหงแกถึงได้มีหน่มน๊มไปก่อนพวกฉันได้ล่ะย๊ะ ของแท้ไม่ใช้ซีลีโคลน แถมยังใหญ่กว่าผู้หญิงแท้ตั้งแต่เกิดหลายคนอีก อิจค่ะอิจ!!!!!”  ส้มเช้งลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นเรื่องที่ผมมีหน้าอกก่อนมัน ส่วนคนอื่นก็ไม่ได้ห้ามเพียงแต่จ้องมาที่หน้าอกผมแบบแปลกเหมือนกัน “อะไรกันค่ะ แบบนี้แบบนี้ก็เท่ากับว่าแกได้ตัด...โดยไม่ต้องเสียตังเลยนะ...แอ้ก!!

     

     

    ผมใช้มือคอของส้มเช้งอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดการพูดไร้สาระเอาไว้ก่อนที่มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ส่วนสลิ่มกับแมวดาวที่ดูจะซีเรียสกับเรื่องมากกว่าก้เริ่มที่จะหันหน้าเข้ากันเพื่อคุยเรื่องของผมแล้ว ช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วชวนให้ประทับจะ...

     

     

    “หล่อนคิดว่าจะทำให้ออกมาสวยขนาดนนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่ว่ะ”

     

     

    “นี่พวกแก!!!!” ผมตะโกนออกมาเสียงดังจนสลิ่มและแนวดาวเขยิบถอยหลังออกไปด้านหลังพร้อมกับทำท่าแลบลิ้นใส่ผม มันน่าลุกไปเขกหัวกันคนละทีสองทีซะเหลือเกิน ผมส่งสายตาอาฆาตไปให้ทั้งสองคนทำให้พวกหยุดทำและก้มหน้าลงกับพื้นทำเหมือนกับว่าสำนึกผิก(แต่ก็คงจะไม่สำนึกอยู่ดี) “พวกแกเนี่ยจริงจังกันหน่อยได้ไหมไหมฉันเครียดอยู่นะโว้ย!!

     

     

    “แหมๆก็เลยอยากให้หายเครียดไง” ส้มเช้งพูดขึ้นพร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นมานั่งข้างๆผม รวมถึงแมวดาวและสลิ่มที่เขยิบตูดออกไปเมื่อกี้ก็ค่อยลุกมานั่งใกล้ๆกัน อยู่ดีก็ดึงเข้าดราม่าแบบนี้มันก็ปรับตัวยากเหมือนกันนะ “ก่อนอื่นเลย... วิธีแก้ปัญหานี้ก็แกจะไปxxxเซนแค่นั้นจบ!!

     

     

    “พูดง่ายไปไหมอีX-!!” ผมสถบเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งที่ส้มเช้งพูด หน้าผมเริ่มร้อนขึ้นเล็กน้อย ทำไมยัยถึงได้พูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉยกันนะการที่เราจะไปมีอะไรกับคนอื่นได้นี่มันเหมือนถอดเสื้อถอดกางเกงรึไง “แล้วฉันจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไงล่ะจะบ้ารึไง”

     

     

    “แล้วแกจะทำยังไงห๊ะ มันมีวิธีอื่นรึยังไง!!” เมื่อถูกสวนกลับด้วยคำพูดนี้ก็อึ้งไปไม่ถูก ก็จริงว่ามันไม่มีวิธีอื่น “หรือแกจะไปตามหาคนที่เกิดวันที่29กุมภาพันธ์ แต่ยังไงแกก็มีเวลาแค่สามเดือนน่ะ อ้อ... มีอีกวิธีคือแกก็เปลี่ยนไปชอบคนอื่นสิ ตอนนี้แกไม่ใช้ผู้ชายแล้วด้วยนะ ทีนี้ขอบเขตเรื่องเพศก็หายไปแล้ว จะชอบผู้ชายคนไหนก็ได้ไม่ผิด”

     

     

    “ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ...” กาตไปตามหาคนที่เกิดวันที่29กุมภาพันธ์ก็คงจะใช่เรื่องง่ายแถมยังต้องเกิดตอนเที่ยงคืนอีกยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ แต่จะให้ไปxxxผมว่าตามตรงเลยนะตัวผมเองยังไม่มั่นใจเลยว่ารักเขาจริงๆรึป่าว บางทีอาจจะแค่ชอบที่หน้าตา นิสัย แล้วก็บุคลิกก็เป็นไปได้ ยิ่งตัวเลือกสุดท้ายนี่ตัดออกไปได้เลย เพราะคนอย่างผมคงจะไม่เข้าใจความหมายของชื่อตัวเองไปจนวันตายนั่นล่ะ “...”

     

     

    “ตอบมาแค่จะทำหรือไม่ทำก็พอ”

     

    .

    .

    .

     

    “...อืม” ผมพูดออกไปเบาๆและพยัคหน้าหนึ่งเป็นอันตอบตกลง เมื่อแมวดาวได้ยินอย่างนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดีดนิ้วหนึ่งที สลิ่มและส้มเช้งก็ยืนขึ้นทั้งสามคนยืนเรียงหน้ากันเป็นแถวตรง อยู่ดีๆบรรยากาศก็ดูตรึงเครียดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก แถมทั้งสามคนยังทำหน้าเหมือนว่ากำลังจะไปออกรบที่ไหนก็ไม่รู้ “ยัยส้มเช้งแกไปจัดการหาทางลากตัวเซนออกมาให้ได้ ส่วนยัยสลิ่มแกรีบไปหาเสื้อผ้าแล้วก็เครื่องสำอางที่ต้องใช้มา และแกรัก... เตรียมรับผลจากคำตอบของได้เลย”

     

     

     หลังที่แมวดาวพูดจบก็เหมือนเป็นสัญญาณให้ทั้งสองคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ที่ได้รับ ส่วนผมที่เริ่มรู้สึกถึงอันตรายก็เริ่มเข้ามาสู่ตัวผม ทำให้ผมเริ่มที่จะขยับหนีแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะภัยคุกคามนั้นได้มาจับไหล่ของผมเอาไว้แล้ว “แกจะไปไหน...”

     

     

    “เออ... คือรู้สึกว่าอยากเข้าห้องน้ำน่ะ”

     

     

    “ไม่ได้... แกต้องอยู่เรียนวิชาแพทย์กับฉัน...”

     

     

    “ห๊ะ!! ฉันไม่ได้อยากเป็นหมอนะไม่เอา!!

     

     

    “วิชาแพทศยาโว้ย!!!!!!

     

    .

    .

    .

     

    อีกด้านหนึ่งบนสวรรค์ก๊อตและอาเรจกำลังดูเหตุการณ์สุดแสนจะวุ่นวายผ่านทางจอทีวีขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของก๊อต ทางก๊อตนั้นหัวเราะชอบใจกับเหตุการณืที่เกิดขึ้น(โดยฝีมือของตัวเอง) แต่ผิดอาเรจที่ได้แต่ยืนนิ่งไม่มีเสียงหัวเราะจากการดูเหตุการณ์ณืที่เกิดขึ้น “ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างที่คิดเอาไว้เลยเจ้านี่มันน่าสนใจจริงๆด้วย ขนาดพึ่งยังทำให้ข้าตื่นเต้นได้ขนาดนี้”

     

     

    ก๊อตยังคงหัวเราะชอบใจต่างกับอาเรจที่เริ่มแผ่ขยายจิตสังหารไปทั่วจนในที่สุดก็เริ่มรู้สึกและต้องเหลียวหลังกลับมามอง “ท่านรู้ใช่ไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไป... คำสาปเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้จนกว่าจะทำตามเงื่อนไขได้สำเร็จ ท่านก็รู้แล้วทำไมถึงยังเลือกที่จะทำแบบนี้...”

     

     

    “เอ๋ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรซักหน่อยนี่นา บู้บู้”

     

     

    “ท่านอ่านข้อมูลในเอกสารเล่มหมดรึยัง...”

     

     

    “...” พอเจอคำถามนี้เข้าไปกีอตถึงกับนิ่งและปิดปากเงียบ เพราะความจริงแล้วก๊อตอ่านไปได้แค่หนึ่งในสี่ส่วนเท่านั้น อาจจะยังอ่านไม่ถึงส่วนสำคัญเลยด้วยซ้ำ เมื่ออาเรจเห็นท่าทางของก๊อตก็รู้คำตอบของคำถามเมื่อกี้แล้ว อาเรจค่อยเดินอ้อมหลังของและออกไปทางประตู “เดี๋ยวก่อนสิอาเรจ... แล้วข้อมูลที่ว่านั่นมันอะไรกันล่ะ!!

     

     

    “...ท่านเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ ดังนั้นท่านก็ต้องเตรียมรับผิดชอบสิ่งที่ตามมาด้วยล่ะ” เป็นคำตอบที่ไม่ตรงคำถามขนาดที่ก๊อตยังต้องกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ อาเรจเดินออกไปจากห้องทิ้งก๊อตเอาไว้คนเดียว ในหัวของก๊อตเริ่มมีสามัญสำนึกเกิดขึ้นมาบ้างและคำๆหนึ่งที่กำลังวิ่งอยู่ในสมองแน่ๆเลยก็คือ...

     

     

    ...ซวยแล้ว

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×