คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : overnight : 7
7
"เหนื่อย..."
"ทำไมพี่เหนื่อยง่ายจัง"
"ก็นาย...เล่นพาไปไกลซะขนาดนั้น ไม่ให้เหนื่อยก็ไม่รู้ว่าจะพูดว่าไงแล้ว..."
"พี่ไม่มีสิทธิ์หลับนะ ตื่นขึ้นมาคุยกับผมก่อน..."
"ไม่สงไม่สนแล้ว จะนอนโว้ย! อย่ายุ่ง"
"ผมอุตส่าห์ให้ของที่พี่ชอบนะ"
"แค่ดอกเดียวเนี่ยนะ..."
"ผมน่ะให้กี่ดอกก็ได้...แต่พี่นะจะเอาแค่ดอกเดียวเองไม่ใช่เหรอ"
"ย๊า! อย่ามาไร้สาระน่า...ขับรถไป!!"
อิเด็กหูกางนี่ตื๊อให้ผมคุยเป็นเพื่อนมันอยู่นั่นแหละ ผมก็บอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่าคนจะนอนนน ไอเด็กนี่ก็ยังตอแยอีกกกก ดูซิเนี่ย ถ้านอนน้อยแล้วพรุ่งนี่ตื่นแล้วไม่หล่อใครจะรับผิดชอบ หาาาาาาา เมื่อตอนกลางวันก็เล่นพาไปเดินดูต้นไม้ดอกไม้ซะรอบบ้านเลย ไอผมเองก็บ้าที่ไปบอกชานยอลว่าเดี๋ยวรดน้ำเอง ไอชานยอลก็อุตส่าห์บอกผมแล้วนะว่าต้องตัดต้องแต่งกิ่ง แต่ผมก็ยังเสล่อบอกไปว่าจะทำเองอีก คนดีไง แล้วสุดท้ายเป็นยังไงล่ะ...
สภาพก็อย่างที่เห็นนี่แหละ...น้ำหนักลงหลายโลเลยมั้งนี่...(ไม่ใช่มันนี่นะคนละอัน)
"โอเคครับยอมๆ พี่นอนไปก่อนเลยก็ได้"
เออ ต้องให้มันได้แบบนี้สิ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร คิกๆ
Special Chanyeol Talk
ตอนนี้ผมยังโอเคดีครับ...ที่ต้องมาขับรถทางไกลในขณะที่อีกคนหลับอยู่ข้างๆแบบนี้ ที่จริงผมเองก็ง่วงนะ แต่ให้ทำไงได้ก็คนมันต้องขับรถนี้
เอาล่ะผมว่าถ้าผมบ่นมากคนอ่านต้องเบื่อแน่ๆ เอ้ะ ผมเดาถูกใช่มั้ยครับ หรือยังไง? อยากฟังผมบ่นหรือเปล่าก็บอกด้วยละกัน
ที่จริงก็แอบโกรธคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างๆนิดๆนะ ตัวเองหลับทั้งๆที่ผมขับรถคนเดียวแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แต่เอาเถอะ ผมให้อภัยในความน่ารักแล้วกัน
ใบหน้าเล็กๆนั่นยามหลับอยู่ดูน่ารักใสๆแบบไร้พิษสง ผิดกับตอนที่ตื่นลิบลับ ถามว่าตอนตื่นเป็นยังไงน่ะเหรอ…
จุกจิกจู้จี้ ขี่บ่น ชอบเซ้าซี้ กินเก่ง เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง เรียกได้ว่ามาเป็นเซตอย่างกับกระเช้าแบรนด์รังนกแท้ของขวัญปีใหม่เลยก็ว่าได้ แล้วถามว่ารำคาญมั้ย
ในตอนแรกก็รำคาญอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมมันกลายเป็นความน่ารักส่วนบุคคลซะงั้น ให้ทำไงได้ล่ะ จะรำคาญไปตลอดไม่ก็ไม่ใช่เรื่องใช่ป้ะ ยังไงๆก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน
นานจนกว่า…ความลับจะแตก…
End Special Chanyeol Talk
“อื้ออออออออออออออออออออออออออออ”ผมหยัดตัวขึ้นแล้วบิดขี้เกียจสุดแรง เมื่อคืนนี้จำได้ว่าหลับแบบทุลักทุเลบนรถนี่นา แล้วจู่ๆกลับมาอยู่ในห้องได้ไงเนี่ย
จะได้คำตอบก็ต่อเมื่อหันไปมองคนข้างๆที่หลับตาพริ้มอยู่ อ่อ…ฝีมือไอเด็กโย่งนี่เองสินะ ไม่ต้องบอกก็รู้ ไม่อยากพูดอะไรมากหรอกนะ ใครใช้ให้อุ้มมาเล่า ก็รู้ๆอยู่ว่าผมตัวหนัก เด็กนี่ก็เสล่อจริ๊ง
คิดได้แบบนั้นก็พาตัวเองลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปอาบน้ำวันนี้ว่าจะทำอาหารเช้าให้กินเป็นการขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืน
ในขณะที่น้ำเย็นๆไหลผ่านตัว ในสมองก็คิดเรื่องทำอาหารเช้าไปด้วย จะทำอะไรดีล่ะ…ในเมื่อตัวผมเองก็ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง
หยิบครีมอาบน้ำขึ้นมาแล้วบีบใส่ฝ่ามือ ก่อนที่จะถูตัวแล้วฮัมเพลงเบาๆ แต่อยู่ดีๆหน้าหล่อๆของชานยอลก็ลอยเข้ามาในหัว
อ้ากกกกกกก ไปคิดถึงมันทำไมกันวะแบคฮยอน เออแต่มันก็น่าคิดถึงนิดนึงแหละวะมันอุตส่าห์ให้ที่อยู่อาศัยกับผมในช่วงที่ผมกำลังลี้ภัยอยู่นี่
ถึงตอนนี้ก็ยังสงสัยอยู่ดีที่ตัวผมเองปล่อยให้ชานยอลเข้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แล้วก็มีอีกเรื่องที่ยังสงสัยไม่หายจนถึงตอนนี้ก็เหมือนกัน เรื่องที่ชานยอลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผมทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
อ้ากก ผมสะบัดไล่ความคิดในหัวออกไปสองสามทีก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดน้ำฝักบัวให้ไหลชำระสบู่ที่ใช้ถูกายเมื่อกี้
แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง ไม่เห็นต้องไปสงสัยเขาเลยนี่
(ห้องครัวประมาณนี้)
แต่งตัวเสร็จก็เดินเข้ามาในห้องครัวอย่างเงอะงะ เพราะทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่างตามที่บอกไว้ตั้งแต่แรกนั่นแหละ
เออ…ค่อยๆคิดสิ หมอนั่นคงยังไม่ตื่นง่ายๆหรอกมั้ง
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นถุงขนมปังวางอยู่บนเคาน์เตอร์ อ่า…ใช้แล้ว ขนมปังปิ้งทาแยมกับนมอุ่นๆคนละแก้วก็แล้วกัน ช่วยไม่ได้นี่ผมไม่ได้เป็นแม่ศรีเรือนสักหน่อย ถ้าอยากได้คนทำอาหารอร่อยๆก็ไปหาเอาเองแล้วกัน ตอนนี้เอานี่ไปก่อน
ผมเอื้อมมือไปหยิบถุงขนมปังหลังจากที่ก่อนหน้านี้นั่งคิดว่าจะทำอะไรดีอยู่บนเก้าอี้ตั้งนานสองนาน ก่อนที่จะยืนขึ้นแล้วหมุนตัวไปทางซ้ายแล้วเดินไปยังเครื่องปิ้งขนมปังที่ว่างอยู่ข้างเตาอบ
จัดการวางถุงขนมปังลงข้างๆเครื่องปิ้งขนมปัง เปิดปากถุงออกแล้วหยิบขนมปังออกมาสองแผ่น ก่อนที่จะบรรจงใส่ขนมปังชิ้นแรกเข้าไปก่อนจะตามไปด้วยแผ่นที่สอง จากนั้นก็กดสวิตข้างๆเครื่องปิ้งขนมปังลง เท่านี้ก็แค่รอจนกว่าจะดีด
ในระหว่างนั้นก็เดินไปที่ตู้เย็นแล้วเปิดออก กวาดสายตามองหาแยม แล้วก็พบแยมหลากรสที่วางเรียงกันอยู่ในช่องที่อยู่ด้านประตูตู้เย็น อา…ให้เลือกว่าจะกินรสไหนมันก็ไม่ยากหรอก อย่างผมนี่ต้องแยมสตอรว์เบอร์รีเท่านั้น ห้ามอย่างอื่นเด็ดขาด แต่ของชานยอลล่ะ เด็กนั่นจะชอบกินอะไรวะ ช่างมันเอารสเดียวกันนี่แหละ
คิดได้แบบนั้นก็คว้าขวดแยมออกมาจากตู้เย็นแล้วเดินไปเปิดลิ้นชักตรงเคาน์เตอร์ออกหยิบช้อนสำหรับทาแยมออกมาหนึ่งคัน ปิดลิ้นชักเข้าไปแล้วเอื้อมมือขึ้นไปด้านบนเปิดตู้ที่คาดว่าจะมีจานอยู่ในนั้น ว้าว…ในนี้มีจานอยู่จริงๆด้วย แหม่ คนหล่ออย่างผมเนี่ยเดาอะไรไว้ไม่มีผิดจริงๆ
หยิบจานสีขาวใบเล็กออกมาสองใบพอดีกับเสียงที่ขนมปังดีดขึ้นมาเพราะสุกแล้ว ผมวางจานและช้อนลงข้างๆเครื่องปิ้งขนมปังแล้วรีบหยิบขนมปังออกมาวางบนจานอย่างไว อูย…ร้อนชะมัด มือหล่อๆนี่เกือบพังแน่ะ ถ้ามันพังนะผมจะตามไปตบชานยอล เอ้ยผิดเรื่องละ เอาล่ะรีบๆใส่ขนมปังเข้าไปอีกคู่ดีกว่าเดี๋ยวหมอนั่นตื่นขึ้นมาก่อนแล้วจะแย่
ในระหว่างที่รอขนมปังอีกคู่ดีด ผมก็หันมาให้ความสนใจกับขนมปังคู่แรกที่สุกแล้วแทน ผมจัดการเปิดฝาของขวดแยมสตอรว์เบอร์รี่แล้วใช้ช้อนสำหรับทาแยมตักแยมขึ้นมาแล้วป้ายลงบนขนมปังจากนั้นก็เกลี่ยให้ทั่ว
ไม่ต้องให้ผมบรรยายความรู้สึกของคนอ่านหรอกครับ ตอนนี้คนอ่านก็รู้สึกเหมือนกันว่ากำลังดูครัวคุณต๋อยอยู่ใช่มั้ยล่ะครับ แต่ขอโทษนะ บอกไว้ก่อนเลยว่าผมน่ะทำอาหารไม่เป็น ถึงแม้ว่าผมจะหล่อก็เถอะ
ทาเสร็จไปแล้วคู่นึงก็หยิบอีกคู่นึงที่เพิ่งดีดเมื่อกี้มาทาต่อ จัดแจงวางขนมปังสองคู่วางไว้บนจานสองจาน แล้วหยิบสองจานนี้ไปวางบนโต๊ะอีกที
ผมเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบนมออกมาเทใส่แก้วที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรก จากนั้นก็เอาเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟทีเดียวสองแก้ว
ให้ทำไงได้ขี้เกียจแล้วอ้าแง
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นเขายืนทำอะไรกันในห้องได้เป็นชั่วโมงๆ นี่ผมยืนมายี่สิบนาทีก็เบื่อแล้วก็ขี้เกียจแล้วเนี่ย ผมไม่ได้ประหลาดอยู่คนเดียวใช่มั้ย
ได้ยินเสียงไมโครเวฟดังเป็นสัญญาณที่บอกให้ควรเอาของข้างในออกมาได้แล้วผม หยิบถุงมือกันความร้อนที่แขวนไว้ข้างๆเตาอบมาสวม แล้วหยิบนมสองแก้วออกมาจากไมโครเวฟ
“ทำอะไรแต่เช้า…”
เสียงงัวเงียๆของชานยอลดังขึ้น ไอคนบ้า!! มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงเมื่อกี้เกือบทำนมหล่นแตกนะจะบอกให้!! ไอเด็กโย่ง!
“เช้าบ้าเช้าบออะไรนี่มันสิบโมงแล้วโว้ยยย พ่อคนตื่นสายยยยคุณนายบานเย็นนน”
“รู้ว่าไม่เช้า…แต่พี่ลุกขึ้นมาทำอะไรเนี่ย หืม?”
ในขณะที่ชานยอลถาม ผมก็เห็นสายตาเขามองไปที่ถุงขนมปัง แยม นม ที่ว่างบนเคาน์เตอร์
“กะ…ก็ทำอาหารเช้าให้นายกินไงเล่า!”เมื่อผมพูดประโยคนี้ออกไปผมเห็นชานยอลทำท่าเหมือนจะขำในสิ่งที่ผมพูดแต่ก็ต้องกลั้นไว้
“ไอเด็กโข่งงงงงงงงงงง ขำไรไม่ทราบบบบ”
“เปล่าครับๆ ฮะๆ”
“ไอเน่า ไอซากศพ ไปอาบน้ำไปปปปปปปปปปปปปปปปปปป”ผมโวยวายออกไปด้วยความเขิน โอ้ยย คนอุตส่าห์ตื่นมาทำอาหารเช้าให้กินยังมีหน้ามาขำอีก
ทันทีที่ชานยอลเดินออกจากห้องครัวไปผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะอีกระลอกหนึ่งดังขึ้นมากระทบโสตประสาท
“555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555”
ไอคนบ้า!! ไอกวนตีน! ไอหล่อแต่หน้า ไม่ดิท่อนบนก็หล่อ แต่ท่อนล่างนี่ไม่รู้ ไอทำอาหารเป็น ไอเก่งไปซะทุกเรื่อง โว้ยยยยยยยย อยากจะด่าแต่ไอเด็กนี่แม่งไม่มีอะไรให้ด่าเลยอะดิครับ อึดอัดโว้ย โอ้เยยยยยยยยยยยยยย
มัวแต่อายไปก็ไม่ได้อะไร ผมจึงจัดการเก็บของที่เอาออกมาทั้งหมดเข้าตู่เย็นเหมือนเดิม แล้วจัดโต๊ะอาหารสำหรับมื้อเช้านี้
บ้าเอ้ย -__-
“อืม…”ชานยอลกัดขนมปังเข้าไปหนึ่งคำ ไอผมนี่ก็มองไม่วางตาเพราะกลัวว่าแยมจะรสชาติไม่ถูกปากอีกคน
“เป็นไง…”ผมที่สองมือถือขนมปังอยู่เหมือนกันถามขึ้น แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นไม่ใช่คำตอบอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับเป็น…
หลังจากที่ชานยอลกัดคำแรกเข้าไป เด็กนี่ก็ยัดทั้งแผ่นที่เหลือเข้าไปในปาก เคี้ยวไปได้ไม่นานก็กระดกนมตามเข้าไปแบบวันช็อต
สรุปมันอร่อยหรือไม่อร่อยวะ…
“แล้วพี่ไม่กิน?”ชานยอลถามขึ้นเมื่อเห็นผมค้างอย่างกับถูกสตาฟไว้ จะให้กินได้ไงวะ คนมันกำลังอึ้งอยู่
“กินดิ!”ผมเองก็ยัดขนมปังเข้าไปในปากเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ผมค่อยๆกัดที่ละคำ
“วันนี้ผมไม่ออกไปไหนนะ ขี้เกียจ”
“เออเชิญ”
(30%)
♥
“ไม่อ้อนให้พาไปหน่อยเหรอ”
“อ้อนอะไรฉันก็เหนื่อยเหมือนกัน”
“นึกว่าอยากออกไปตะแลดแต๊ดแต๋ซะอีก”
“นี่นายหลอกด่าฉันว่าชอบออกไปตะแลดแต๊ดแต๋งั้นเหรอ!?”
ไอเด็กบ้านี่มันหลอกด่าผม! เรื่องอะไรผมจะยอมเล่า!ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆซะด้วย งั้นก็คอยดูดีๆแล้วกันว่าผมจะทำอะไรต่อไป…
ผมก็จะงอนไอเด็กนี่น่ะสิ!
ขืนด่ากลับมีหวังได้โดนหักค่าขนมเป็นแน่…เออว่าแต่ทำไมผมดูเหมือนเป็นลูกชานยอลเข้าไปทุกวัน ทั้งๆที่เด็กนี่ก็เรียกผมว่าพี่ แต่ทำไมผมรู้สึกแบบนั้น…
แหงล่ะสิ มีพี่ที่ไหนมารอรับเงินค่าขนมจากน้องทุกวันแบบนี้บ้างล่ะ
ผมเดินสะบัดก้นออกไปจากห้องครัวทิ้งไว้ให้ชานยอลนั่งงงอยู่บนโต๊ะอาหารคนเดียว งอนแล้วโว้ย!ล้างจานเองแล้วกัน
ตัดสินใจเดินเข้ามาในห้องก่อนแล้วล็อคประตูก่อนจะกระโดดขึ้นเตียง ให้มันได้แบบนี้สิวะ5555555 ผมหัวเราะแบบบ้าคลั่งอยู่กับตัวเองราวกับผู้ได้ชัยชนะ ทั้งๆที่ความจริงยังไงๆชานยอลก็เหนือกว่าผมอยู่ดีนั่นแหละ เขาเป็นคนคุมเกมนี่…
ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกางเกงแล้วเปิดโปรแกรมแชทอย่าง Line ขึ้นมาก่อนที่จะกดไปที่ห้องแชทของผมกับไอลู่ ผมรัวนิ้วพิมพ์ข้อความลงไป
มึงอยู่ไหนเนี่ย
10:39 AM
ผมภาวนาขอให้มันตอบกลับมาเร็วๆ เหงาเว้ยครับ ไม่มีมีคนคุยด้วยกำลังงอนไอคนข้างนอกอยู่ นี่ไงๆขึ้นอ่านแล้ว เอ้ารีบสิรีบรีบๆพิมพ์สิไอหอย
อยู่ในใจเธอว์
10:40 AM
อย่ามาเสี่ยวใส่กู คุยเป็นเพื่อนพี่หน่อยครับ
10:40 AM
พี่พ่อมึงดิ กูไม่ว่างโว้ยคุยกับผัวอยู่
10:40 AM
อ๋อ เดี๋ยวนี้เห็นผัวดีกว่าเพื่อน?
10:41 AM
แบบคนแมนไง รักผัว
10:41 AM
คนแมนแม่มึงดิมีผัว -_-
10:41 AM
เอ้า ชวนให้กูคุยเป็นเพื่อนแต่เสือกด่ากู
มึงนี่นะ…
10:41 AM
แล้วสรุปมึงจะคุยเป็นเพื่อนกูมั้ย?
10:42 AM
ไม่ว่ะโทษที ขอตัวไปคุยกับฮุนนี่ก่อนนะ แอร๊ย
10:42 AM
แอร๊ยพ่ง-_-
10:42 AM
เมื่อเห็นมันตอบกลับมาแบบนั้น ผมก็ตอบกลับไปก่อนที่จะล็อคหน้าจอแล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเหมือนเดิมทันที กวนตีนชิบ…เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนะโว้ย…อ่อ แสดงว่าใช้วลีที่ว่าเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนไม่ได้ ถ้าแบบนี้ก็คงต้องใช้…เห็นผู้ชายที่เป็นผัวดีกว่าเพื่อนผู้ชาย…เออแบบนี่ค่อยโอเคหน่อย เห้ย!จะบ้าเหรอ ไร้สาระชิบหาย เออๆผมจะหยุดเล่นมุกละ
ก๊อก ก๊อก
“ไม่ต้องเคาะเลย! งอนโว้ย”
“ผมไม่ได้จะมาง้อ ผมจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
ประโยคนี้ทำเอาผมหงายหลังเลย…อ้ากกก ไอเด็กชั่ว ไอเด็กไม่ยอมง้อพี่มันดูๆผมแค่จะเล่นตัวนิดนึงเพราะคิดว่ามันจะเข้ามาง้อ แต่ดู…ดูมัน มันแค่บอกว่าจะเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า!
ผมก็เลยต้องจำใจเดินไปเปิดประตูให้ชานยอลเข้ามา แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า…
ผมลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ที่ชานยอลกินข้าวเช้า มันยังไม่ได้อาบน้ำโว้ยยย เอ้ะ...หรือาบแล้วหว่า? มันอาบแล้วนี่หว่า แล้วจเข้ามาทำเพื่อ...?(โปรดอ่านให้เป็นเสียงสูงในประโยคคำถาม)
ไม่ได้ๆผมต้องรีบหลบก่อนที่จะได้เห็นอะไรเหมือนวันนั้นอีก ไม่ใช่ว่าไม่อยากดูหรอกนะ เอ้ย ไม่ใช่ว่าอยากดูหรอกนะ หลบแป้บ
ผมที่หลบอยู่อีกฝั่งของข้างเตียงโผล่หัวพ้นขอบเตียงขึ้นมาดูเล็กน้อยว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยัง เออ…เปลี่ยนเสร็จแล้วนี่หว่า เปลี่ยนไวดีแท้
เปลี่ยนเสื้อผ้าแบบนี้…จะออกไปข้างนอก…?
“ออกมาได้แล้ว เราจะออกไปข้างนอกกัน”
“ไหนบอกวันนี้จะไม่ออกไปไหนไง”
“นี่เป็นวิธีง้อของผม อย่าถามมาก”
โอโหดูมัน…ดูมัน!!จะง้อผมยังจะมาหยิ่งใส่ผมอีก หายงอนดีป้ะวะเนี่ยไอเด็กโข่ง
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ไป…”
“พี่ไม่มีสิทธิ์เลือก ผมหักเงินนะ”
“เออ!ไปก็ได้!”
โอโห ผมนี่ยอมทำตามเด็กนี่ง่ายๆเลยเหรอเนี่ย ผมนี่รักษาอิมเมจของคนงอนได้ไม่นานเลยเนอะ ไม่ใช่อะไรหรอก เงินสำคัญที่สุด! เงินคือปัจจัยอันดับหนึ่งในการใช้ชีวิต มนุษย์เรายอมรับสิ่งที่เรียกว่าเงินให้ใช้เป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยนสินค้า การแลกเปลี่ยนสินค้าจะเกิดขึ้นที่ตลาด…นี่ผมกำลังสอนเศรษฐศาสตร์อยู่ใช่มั้ย โอเคข้ามมันไปเถอะครับ
ไม่นานนักเราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป…เออห้างนั่นแหละ ว่าแต่ไม่มีที่เที่ยวที่อื่นแล้วหรือไงกันทำไมชอบพามาแต่ห้าง ห้าง ห้าง แล้วก็ห้างวะ วันหลังผมจะเป็นคนพาไอเด็กนี่ไปเที่ยวสวนสนุกเอง
ระหว่างที่ชานยอลพาผมเดินไปทางโซนขายเสื้อผ้า จู่ๆก็มีผู้หญิงกลุ่มนึงเดินเข้ามาหาเราสองคน
เรียกว่ามาหาเราสองคนมันก็ไม่ถูกนักหรอก เรียกว่าเดินเข้ามาหาชานยอลคนเดียวดีกว่า ฮึ่ย!! ทำไมไม่เดินเข้ามาหาผมวะ ผมไม่หล่อตรงไหนไม่ทราบ!
“อะ..เอ่อ ขอเบอร์ของคุณหน่อยได้มั้ยคะ”ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มนั้นพูดขึ้นมา โอโห แม่นี่ไม่เห็นหัวโด่ๆของผมเลยให้ตายเถอะ
ชานยอลเงียบไปสักพัก ผมเองก็ได้แต่มองชานยอลว่าจะทำยังไงต่อไปเมื่อถูกขอเบอร์แบบนี้ ปฏิเสธเธอไปสิไอบ้า! เร็วๆเลยวันนี้ตั้งใจจะมาง้อผมไม่ใช่เหรอ ถ้าบังอาจให้เบอร์ไปจะงอนอีกระลอกนะจะบอกให้แง่งงงงงง
“คุณกล้าขอเบอร์ผมทั้งๆที่หมาข้างๆผมทำท่าจะกัดคุณแบบนี้น่ะเหรอ?”
“อะ…เอ่อ คือค่ะ…”
ดูๆดูมัน เปรียบเทียบให้ผมเป็นหมาแล้วเรียกผู้หญิงข้างหน้าว่าคุณ ดูมันพูด
“แต่ขอโทษด้วยนะครับ ผมเป็นเจ้าของหมาตัวนี้ แล้วเจ้าของคนนี้ก็รักหมามากด้วย”ชานยอลพูดแล้วจับมือผม
วะฮะฮ่า! ได้ผล ผู้หญิงที่เข้ามาขอเบอร์ชานยอลเงียบไปเลยกับประโยคเด็ดลูกชิ้นเด้งเมื่อกี้นี้ ว้ายอีชะนี เขาชอบหมาโว้ยไม่ได้ชอบผู้หญิงแบบหล่อน
เขาลากผมออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินตรงไปที่โซนขายเสื้อผ้าทันที เราทั้งสองเดินเข้าไปในร้านๆหนึ่งที่ขายเสื้อสกรีน
“มาเอาของที่สั่งไว้ครับ”ชานยอลพูดกับเจ้าของร้าน ไม่นานนักเจ้าของร้านก็หยิบถึงกระดาษใบหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้ชานยอล
“นี่ค่ะ”
“ขอบคุณครับ…ไปกันได้แล้วพี่แบคฮยอน”
เขาพูดกับเจ้าของร้านสั้นๆเพียงไม่กี่คำเท่านั้น ชานยอลลากผมออกมาจากร้านนั้นแล้วรีบเดินอออกจากห้างไปขึ้นรถทันที
“มาเพื่อแค่นี้เนี่ยนะ?”
“มาเพื่อแค่นี้ แต่ถ้าพี่เห็นของพี่จะไม่พูดว่าของแค่นี้แน่นอน”
“ว่าแต่มันคือเสื้ออะไรอะ”
ผมทำถ้าจะเอื้อมไปหยิบถุงกระดาษสีดำท่าวางอยู่บนเบาะหลัง แต่ก็โดนคนที่นั่งประจำที่อยู่ที่ที่คนขับคว้าหมับเอาที่มือไว้ซะก่อน
“ดูไม่ได้หรือไง!”
“ไม่ได้ จนกว่าจะถึงห้อง”
“เออ!”
ผมกระแทกเสียงก่อนที่จะหดตัวลงมานั่งประจำที่ตัวเองตามเดิม ของแค่นี้ขอดูหน่อยก็ไม่ได้ทีเมื่อกี้ยังบอกว่ารักหมาอยู่เลย เห้ยว่าแต่ทำไมผมต้องยอมเป็นหมาของมันด้วยวะ เออช่างมันเถอะก็ยอมไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนี่นา
สักพักรถก็มาจอดในที่จอดรถสำหรับผู้อยู่อาศัยของคอนโดนี้ ผมรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งกลับห้องทิ้งให้ชานยอลจัดการกับถุงใบนั้น แต่ก็ต้องชะงักเมื่อ…
ท้องเจ้ากรรมนี่มันเสล่อร้องขึ้นมาน่ะสินี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว…
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ต้องมาร้องเลยไอท้องบ้า หยุดเดี๋ยวนี้ๆๆๆๆเพิ่งจะกินขนมปังไปเมื่อตอนสิบโมงเองนะ มะฮ่ายยยยยย
ในที่สุดก็ต้องมายืนรอไอเด็กขาโก่งนี่แล้วก็ต้องเดินไปพร้อมๆกันสินะ…ไม่ไหวเลย แต่ผมก็สงสัยนะว่าทำไมตัวเองมีนิสัยเผือกขนาดนี้ ติดมาจากใครกันน้า อ่อ..ไอลู่ชัวร์ๆแม่งชอบเผือกทุกเรื่อง 5555555
(ลู่หาน:ฮัดชิ้ววววววววววววว ใครนินทากูวะ -_-)
“อ้าว ไม่วิ่งไปแล้วเหรอครับ?”ดูมัน…นี่โง่จริงๆหรือแกล้งโง่เนี่ย…ไม่ดิ ไอเด็กนี่มันตั้งใจจะเยาะเย้ยผมมากกว่าว่ายังไงๆผมก็ไม่มีสิทธิ์งอน เออใช้สิ้ เป็นแค่พี่นี่ไม่ใช่แฟน เชอะ
ทีแรกผมก็ไม่ได้ตอบอะไรกับไปกับประโยคเมื่อกี้นี้ แต่…
โครกก โครกก
ไม่ใช่เสียงกดชักโครกหรอก แต่มันเป็นเสียงท้องของผมร้องเองเย่ เอ่อไม่ทราบว่าจะเย่ทำไมวะเอ้อ เพราะเสียงนี้เสียงเดียวเลยทำให้ชานยอลหันมามองหน้าผมในขณะที่กำลังจะหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาแตะเพื่อเปิดประตู
ชานยอลเลิกคิ้วขึ้นมาข้างหนึ่งราวกับจะบอกเป็นนัยๆว่า’หิวเหรอ? เพิ่งกินไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เองนะ’เออ ก็หิวอะอันนี้ยอมรับ ให้ทำไงได้ล่ะ
(ห้องประมาณนี้นะคะ)
เดินเข้ามาในห้องผมก็โดดขึ้นโซฟาเป็นอันดับแรกก่อที่จะคว้ารีโมทที่อยู่บนโต๊ะมาเปิดทีวีดู อันที่จริงก็ไม่ได้อยากดูนักหรอกแต่…ดูเพื่อให้ลืมความหิว…ชานยอลเองก็ปิดประตูให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินมานั่งข้างๆผมแล้ววางถุงกระดาษลงบนโต๊ะ
อ่าฮ่า…ได้โอกาสแล้วทีนี้ ผมลอบมองชานยอลที่สายตาจดจ่ออยู่กับทีวีที่ผมเปิดเมื่อกี้สลับกับถุงกระดาษสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะ เอาล่ะ…ได้โอกาสแล้ว
หมับ
ไม่ใช่ว่าผมคว้าอะไรได้หรอกฮึก…แต่มือของผมถูกคว้าไว้โดนท่านชานอีกครั้ง
“อยากรู้ขนาดนั้นเลย?”
“เออครับ”
ถ้าไม่อยากรู้มากๆก็คงไม่แสดงออกชัดเจนแบบนี้หรอกนะ ทำไมน้องชานชานโง่แบบนี้ล่ะครับ
“ถ้าอยากรู้ก็จะให้ดู…”
(100%)
♥
writer
อยากอ่านไวไวก็เม้นต์หน่อยน้า เค้าก็ปั่นสุดชีวิตเหมือนกานน
ก็แบบว่าในถุงนั้นอะไรกันน้า ขอบอกว่าเกี่ยวข้องกับรูปหัวตอนด้วย คนสวยมักจะเดาถูก จุ้บส์
*อยู่ในช่วงใกล้สอบ อัพช้า*
ความคิดเห็น