คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : overnight : 3
3
ทันทีที่ผมก้าวขาเข้ามาในห้องชานยอล ผมก็วางสัมภาระไว้ตรงห้องนั่งเล่นจากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังห้องที่ผมเคยนอน แล้วโดดขึ้นเตียงทันทีเมื่อตอนนั้นทันที
ทำไงได้…ก็คนมันขี้เกียจ…
“นี่พี่ย้ายเข้ามาครั้งแรกก็โดดขึ้นเตียงรอผมเลยหรือไง ?”
“นี่นาย! จะบ้าเหรอ ฉันขี้เกียจโว้ย!”
“ถึงว่าทำไมอ้วน…”
อะ…อ้วนเหรอ ?
“เห้ย มันจะมากไปและ ฉันไม่อ้วนสักหน่อยถ้าไม่รู้จริงอย่ามาพูดดีกว่าครับ”
“แบบนี้ไม่เรียกว่าอ้วนแล้วเขาเรียกว่าอะไรละครับ ?”
“เขาเรียกซ่อนรูปว้อยย ที่จริงหุ่นฉันน่ะเหมือนนายแบบมากกกกกก”พูดจบผมก็เด้งตัวขึ้นมานั่งผมเตียงแล้วโพสต์ท่า
“เห้ยๆจะทำอะไรวะ”ผมถามเขาเมื่อเห็นเขากำลังจะถอดเสื้อ
“พี่อยู่บนเตียงแล้วผมกำลังถอดเสื้อ คิดว่าผมกำลังจะทำอะไรล่ะ”ชานยอลถอดเสื้อออกแล้วส่งคำถามนั้นมาให้ผม โอพระเจ้า…หุ่นเขาราวกับนายแบบในนิตยสารที่วางขายตามท้องตลาด หน้าท้องขาวๆนั่นมีซิกแพคเป็นลอนๆเล็กน้อยถึงแม้ว่าจะมีไม่มากแบบนักเล่นกล้าม แต่มันดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว…
จะบ้าเหรอ ! มานั่งชมมันทำไมเนี่ย ! ผมควรจะตกใจดิ
“อย่า…แม้แต่จะคิด…”ผมกลืนน้ำลายลงคอช้าๆแล้วหลับตาเมื่อเห็นชานยอลเดินตรงมาทางนี้ อึก…มันจะทำอะไรของมันวะ
นี่ผมกำลังจะเสียซิงใช่มั้ย ?
ไม่นะ…เมื่อกี้ในห้องน้ำเขายังบอกว่าจะไม่อะไรผมนี่นา
แต่นั่นมันตอนนั้น…
แต่แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อสิ่งที่เขาทำมันผิดกับสิ่งที่ผมคิดไว้
“ผมกำลังจะอาบน้ำนะครับ”ริมฝีปากเขาแตะกับใบหูผมเล็กน้อยก่อนที่เสียงทุ้มๆและแหบนิดๆนั่นจะกระซิบผม
ให้ตายเถอะ ! เขาแค่จะอาบน้ำนี่ผมคิดไปถึงไหนแล้ว !!
เขาหมุนตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้ตรงตู้เสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้ผมนั่งจุมปุ๊กอยู่บนเตียงกับความคิดปัญญาอ่อนๆของตัวเอง
จะบ้าไปแล้วเหรอ ! นี่ผมกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
ถึงแม้ว่าผมจะได้รับขนานนามจากคณะที่ผมอยู่ว่า’สวย’กว่าผู้หญิงบางคน แถมใบหน้าของผมนั้นก็ดูดีไม่ใช่น้อยๆเลย แต่ผมก็ยังไม่เคย…เรื่องอย่างว่าน่ะนะ
ถึงแม้จะมีคนมาจีบเยอะก็เถอะ แต่ผมไม่เคยมีแฟน …
ถามว่าคนประเภทไหนที่ชอบมาจีบผม ตอบเลยว่าหนึ่งในนั้นไม่มีผู้หญิงแม้แต่คนเดียว
ผมเคยไปขอผู้หญิงคนนึงเป็นแฟนแต่แล้วก็โดนปฏิเสธกลับมาพร้อมกับเหตุผลที่ว่า…
‘ 'นายน่ะสวยกว่าฉันอีก ถ้าเดินข้างกันฉันไม่กลายเป็นหลุมดำไปเลยเรอะ'
นั่นคือเหตุผลที่ผมคิดว่าปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
แล้วผมก็ได้มาสนิทกับลู่หานและดีโอ
จากนั้นผมก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย
ปัญญาอ่อนสิ้นดี เหอะๆ
“พี่ครับ…”
อะ..อึก ผมแทบเลือดกำเดาไหลเมื่อชานยอลเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ไม่น่าออกมาเพ่ยพ่านต่อหน้าผม เขามีผ้าเช็ดตัวชิ้นเดียวที่พันปกปิดท่อนล่างไว้
แต่นั่นมันก็ไม่ได้ลดความเซ็กซี่ลงไปเลย
“นาย! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ !”ผมก้มหน้างุดอายจนแทบแทรกแผ่นดิน เลยหยิบหมอนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดขว้างเขาไปทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น
“หะ…เห้ย!”ผมตกใจกับเสียงที่เขาโวยวายเล็กน้อย“หลับตา! พี่ ! ผมบอกให้หลับตา !”
หลับตา…? หลับทำไมวะ
ผมค่อยเงยหน้าขึ้นไปมองทีละนิด แต่แล้วก็เจอกับอะไรบางอย่าง…
อูว…ให้สามคำ…
มัน ใหญ่ มาก
ด้วยอารมณ์ตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้าของผม ทำไมผมจ้องมันแบบไม่แม้แต่จะกระพริบตา
ใหญ่จริงๆด้วยแฮะ
เห้ยจะบ้าเหรอ ไปชมมันทำไมวะ
ว่าแล้วผมก็รีบหมุนท่านั่งของตัวเองแล้วหันหลังให้ชานยอล
บะ…บ้า บ้าไปแล้ว ทำไมมาเปลือยกายต่อหน้าหนุ่มน้อยวัยใสอย่างผมด้วยนะ ฮือออออออ จะเป็นตากุ้งยิงมั้ยเนี่ย ฮือออออออออออออออออออออออออออออ
“โอเค พะ…พี่หันมาได้แล้วครับ”ผมค่อยๆหันหลังกลับมามองชานยอลที่ตอนนี้กำลังตกใจไม่น้อยกับการที่ผมไปมองเขาแบบนั้น
“เฮ้อ…”ผมถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเขาอยู่ในสภาพที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
“พี่ชอบเหรอครับ”ชานยอลเดินเข้ามานั่งข้างๆผมบนเตียงก่อนที่จะถามประโยคน่าตบนั่นออกมา
“ชะ…ชอบ ? ชอบอะไรวะ”ผมแกล้งถามเขาเหมือนผมไม่เข้าใจ แต่ที่จริงแล้วก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาหมายถึงอะไร
“เห็นมองซะตาโตเชียว อยากลองจับมั้ยละ”
อยากลองจับมั้ย ?
นั่นสิ...ถ้าได้จับสักครั้งจะรู้สึกยังไงนะ ผมสามารถที่จะจับมันได้จริงๆน่ะเหรอ...
อิห่าแบค!! ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้วะฮือๆ
"จะ...จะบ้าหรือไง บัดสีบัดเถลิง"ผมพูดคำที่มันไม่น่าจะหลุดออกมาจากปากผมได้ มันเป็นคำที่สมัยคุณป้าสมัยสาวๆชอบใช้
"คิดว่าผมจะให้พี่จับจริงๆหรือไง?"ชานยอลพูดแล้วมองหน้าผมด้วยใบหน้าทะเล้น
อีตาบ้า! แล้วใครมันจะไปอยากจับจริงๆกันเล่า ! เอ้ะ...แต่ที่จริงก็อยากลองจับดูสักครั้งนะ เห้ย!จะบ้าเหรอ โอ้ยย มึงเป็นอะไรไปเนี่ยแบคคคค
"บ้า!"ผมทุบหลังเขาอย่างสุดแรงไปทีนึง แล้วผมก็ทำท่ากระมิดกระเมี้ยนเหมือนเด็กสาววัยแรกแย้ม
"เออๆผมบ้าก็ได้ครับ"
"นี่จะยอมรับก็ยอมง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?"ผมถามคนตรงหน้าด้วยใบหน้าสงสัยเล็หน้อย เด็กนี่นิสัยแปลกๆแฮะ...
"เรามาตกลงกันเรื่องพี่ดีกว่าครับ"
"ว่ามา"ผมกดกอดอกแล้วฟังคนตรงหน้าอย่างตั้งใจ
"พี่มาอยู่ห้องผมแล้ว ถือว่าผมเป็นผู้ปกครองพี่นะ"
"ผู้ปกครอง? หึ นายจะบ้าหรือไง นายเนี่ยนะจะมาเป็นผู้ปกครองฉัน!"ผมว่าแล้วใช้นิ้วชี้ของตัวเองจิ้มๆที่หน้าผากเขาสองสามที
“นี่ผมจริงจังนะ ช่วยขริงจังสักห้านาทีจะได้มั้ย”ชานยอลพูดแล้วจับนิ้วผมให้พ้นไปจากหน้าผากตนเอง
“นี่นายหลอกด่าฉันว่าฉันไม่เคยจริงจังเลย!?”
“ผมยังไม่ได้พูดแบบนั้นแม้แต่คำเดียเลยนะครับ”
อ้ากกกกก มันกวนตีนผม ผมอยากกระทืบมันนนนน
แต่สุดท้ายผมก็ได้แต่กรีดร้องอยู่เงียบๆในใจ แหงล่ะ ใครมันจะไปกล้าทำคนที่ตัวใหญ่อย่างกับควายแบบนั้น ถ้าทำมีหวังได้โดนจับทุ่มแน่
“เอาไป”
ชานยอลยื่นบัตรแข็งๆให้ ซึ่งพอรับมาก็พบว่าเป็นคีย์การ์ดดีๆนี่เอง โอเคต่อไปนี้ผมต้องย้ายตัวเองมาอยู่ที่นี่ตลอดแล้วสินะ…จะไม่ได้กลับห้องตัวเองอีกแล้วสินะ
พอมานั่งคิดๆดูแล้วก็แทบจะไม่รู้เลยว่าผมได้ไปเอาความไว้ใจคนตรงหน้ามาจากไหน ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันได้วันเดียวเองแท้ๆ
แค่คืนเดียวเท่านั้น…
ผมสะบัดหัวเบาๆเพื่อไล่ความคิดไร้สาระนั่นออกไปจากหะว ก่อนที่จะสบตาคนตรงหน้าอย่างจริงจังแล้วเริ่มพูดคุยกัน
“การที่จะอยู่กับผมมีกฎทั้งหมด 5 ข้อ”เขาพูดแล้วยกมือขึ้นมาทำเลขห้า
“ว่ามา”
“ข้อแรก ห้ามรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของผม”
“อย่างเช่น ?”อย่าบอกนะว่าห้องที่ผมเข้าไปนอนครั้งที่แล้วจะเป็นห้องของเขาน่ะ แล้วถ้าเขาไม่ให้เข้าไปในที่ของเขาแบบนั้นแล้วผมจะนอนที่ไหน…
“ห้องนั้นไง”เขาพูดแล้วชี้ไปยังห้องๆหนึ่งที่ประตูถูกทาเป็นสีเดียวกันกับฝาผนัง ถ้าไม่สังเกตนี่แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีห้องๆนั้นอยู่ด้วย
“อ่าห้ะ”เฮ้อ โล่งอก ดีจังที่ไม่ได้บอกว่าห้องที่ผมนอนคราวที่แล้ว ถ้าแบบนั้นมีหวังต้องระเห็จออกมานอนบนโซฟานี่แน่
“ส่วนห้องที่พี่เคยนอนคราวที่แล้วน่ะ คือห้องนอนผม…”นั่นไงเดาถูกด้วย“ซึ่งถ้าพี่นอนห้องนั้นแล้วผมจะไปนอนที่ไหนกันล่ะหืม ?”
“กะ…ก็นอนบนโซฟานี่ไง”
“ให้เจ้าของห้องนอนบนโซฟาแบบนี้มันดีแล้วเหรอครับ”
“ตะ…แต่ฉันเป็นโรคนอนดิ้นนะถ้าให้นอนบนโซฟานี่คงได้ดิ้นตกตายกันพอดี”นาทีนี้แถก่อนล่ะครับ ใครมันจะยอมไปนอนบนโซฟากัน ถึงแม้ว่าโซฟานี่มันอาจจะไม่เหมือนโซฟาทั่วไปเพราะมันกว้างกว่านิดหน่อย แต่ผมชอบนอนเตียงใหญ่ๆนี่นา
“นั่นสิแล้วทำยังไงดีนะ เพราะผมก็จะไม่ยอมนอนโซฟาเหมือนกัน”
“งะ…งั้นนอนด้วยกันก็ได้”
“มันจะพอเหรอครับ เตียงนั่นกับอีกสองคนน่ะ ?”
“พอสิ…เตียงนายน่ะออกจะใหญ่จะตายไป แต่ตอนนอนห้ามล้ำเขตฉันนะ”
“โอโหแฮะ มีเขตด้วย แต่นี่มันห้องผมนะครับ”
“ดะ…เดี๋ยวฉันจ่ายค่าเช่าให้”ผมพูดออกไปทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเงินมาจ่ายเขาจากที่ไหน เพราะตอนที่อยู่ห้องเก่าไคก็เป็นคนออกให้ทั้งนั้น แถมผมยังไม่ได้ทำงานอะไรเลยสักอย่าง ถ้าจะให้ไปขอพ่อแม่ก็…เอ่อพ่อแม่ผมน่ะเสียไปเมื่อสี่ปีที่แล้วตั้งแต่ผมเข้ามหาลัย ผมอยู่กับไคมาตลอดเลย…แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วสินะ…ผมก็คงต้องออกไปหางานทำแหละ…
“พี่ยังไม่มีงานทำไม่ใช่หรือไง ? และนี่ก็รวมอยู่ในกฎข้อที่สองของผมด้วย”
“กฎข้อที่สองเหรอ? ว่ามา”
“กฎข้อที่สองคือผมจะให้เงินพี่วันละสามหมื่นวอน แต่ถ้าซื้ออะไรแล้วต้องเขียนใส่สมุดนี่มาส่งผมทุกวันด้วยนะ”ชานยอลพูดแล้วยื่นสมุดที่หน้าปกเป็นลายริลัคคุมะมาให้ผม
ให้ผมบันทึกรายรับ รายจ่ายมาส่งทุกวันแบบนี้น่ะนะ ? หึ ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เขาทำกับผมเหมือนกำลังเลี้ยงลูกอยู่ยังไงยังงั้นแหละ
“แต่ถ้าวันไหนพี่ไม่ยอมมาส่งสมุดนี่กับผม วันต่อไปจะหักออกวันละห้าพันวอน…”
“อะ…เอ่อครับ ข้อต่อไปเลยครับพ่อ”
คนตรงหน้านี่มันน่าหมั่นไส้จริงๆเลยครับ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้มีพระคุณนะ พ่อจะโวยใส่ให้หูดับไปสามสิบสามวันเลย!
“ข้อที่สาม ห้ามกลับห้องช้ากว่าหนึ่งทุ่ม ช้ากว่านั้นผมจะให้พี่นอนนอกห้องและจะหักเงินในวันต่อไปด้วย”
นะ…หนึ่งทุ่ม! ให้เข้านอนอย่างกับเวลาเด็กประถมเนี่ยนะ! หมดกันเวลาสุดหรรษาหลังเลิกเรียนของผม ฮืออออออ
“อ้อ แต่วันเสาร์ อาทิตย์ อนุญาตให้กลับหลังหนึ่งทุ่มได้ แต่ยังไงก็ต้องกลับก่อนสามทุ่มอยู่ดีนะครับ”
นี่ยังดีที่เสาร์ อาทิตย์ให้เวลาออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง…แต่ยังไงมันก็แย่อยู่ดีนั่นแหละ!
“ข้อที่สี่ คุณจะต้องไปจ่ายตลาดก่อนกลับห้องทุกวัน ซื้อของสดมาใส่ในตู้เย็นแล้วก็กลับห้องตรงตามเวลาที่ผมกำหนดไว้ด้วย”
“ห้ะ! นี่นายจะบ้าไปแล้วหรือไง! ให้ฉันกลับห้องก่อนหนึ่งทุ่มยังไม่พอยังจะต้องให้ฉันไปจ่ายตลาดอีก!?”
โอ้ยยย นั่นแปลว่าหลังผมเลิกเรียนเสร็จก็ต้องไปจ่ายตลาดทันทีแบบนั้นเหรอ? แสดงว่าต่อไปนี้หลังเลิกเรียนผมจะไม่มีเวลาไปเที่ยวกับอิลู่อิโด้แล้วใช่ม้ายยยย
“หรือจะขัดครับ? ถ้าขัดผมหักเงินอีกนะ”
ถ้ามันจะหักเยอะขนาดนี้ทำไมไม่หักให้เหลือวันละสิบบาทไปเลยล่ะโว้ย (นี่ประชดนะ)
“แต่ฉันทำกับข้าวไม่เป็นนะบอกไว้ก่อน!”
“ทำไม่เป็นก็จะสอนครับ แต่ช่วงแรกๆเดี๋ยวทำให้กินก่อน”
ไม่จริงใช่มั้ย…นี่อุตส่าห์เอาเหตุผลควายๆมาอ้างแล้วนะเนี่ย ยังไม่ได้ผลแถมยังได้ดับเบิ้ลเป็นการสอนทำกับข้าวอีก โอ้ย ผมไม่ได้อยยากเรียนหลักสูตรแม่บ้านนะโว้ย!
“และสำหรับข้อสุดท้าย…”
ฮิๆข้อสุดท้ายแล้วล่ะครับ
“ต้องเชื่อฟังคำสั่งผมทุกอย่างไม่ว่าผมจะสั่งอะไร”
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อะไรวะ!!! ข้อสุดท้ายนี่มัน… โอ้ยถ้าทำตามกฎข้อสุดท้ายนี่แม่งก็ครอบคลุมทุกอย่างแล้วแหละครับ ไม่ทราบว่าจะร่างกฎสี่ข้อแรกไปทำซากอะไร
“มันจะไม่มากไปหน่อยหรือไง!”
“ถ้ามาก…ก็ไปหาที่อยู่เองแล้วกันนะครับ”
“เออ! ไปหาที่อยู่เองก็ได้วะ!”
ผมพูดแล้วลากกระเป๋าที่เอาเข้ามาตอนแรกเตรียมออกไปหน้าประตู แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้
ถ้าไปอยู่กับอิลู่…แล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้…
มันคงให้ยืมก็จริงแต่มันก็ตัวคนเดียวเหมือนกันไม่มีเงินมากพอสำหรับอยู่สองคนแน่…
แล้วอิโด้ล่ะ
ถ้าไปอยู่กับมันคงโดนลากกลับไปหาไคอะจริง แม่งเอ้ย!
คิดได้ดังนั้นก็ลากกระเป๋ากลับไปนั่งที่เดิม แล้วกระแทกก้นลงกับโซฟา
“โอเค ยอมก็ยอมวะ!”
ผมรับกระดาษที่มีกฎห้าข้ออยู่ในนั้นมาเซ็นอย่างลวกๆแล้วส่งมันกลับไปให้เจ้าของ
มันไม่มีทางเลือกแล้วนี่หว่า…
แล้วไอกฎบ้าๆนั่นข้อสุดท้าย เด็กนี่คงไม่กล้าสั่งให้ผมทำอะไรแปลกๆหรอกมั้ง ผมเป็นถึงรุ่นพี่เขาเชียวนะ…
รุ่นพี่ที่อยู่ในกำมือเด็กนี่ไง! โถ่เว้ย!
“เดี๋ยวผมมา รอแป้บ”
ชานยอลพูดกับผมก่อนที่จะสะบัดตูดเข้าไปในห้องที่เขาบอกว่าห้ามผมเข้าไป อยากจะรู้จริงๆว่าในห้องนั้นมันมีอะไรวะ ทำไมถึงห้ามนักห้ามหนา เอาไว้วันหลังรอให้เด็กนั่นแผลอก่อนเหอะเจอแบคฮยอนคนนี้เผือกแน่
Special Sehun Talk
“ยอโบเซโย”ตามสายโดยที่ยังไม่ทันได้ดูเบอร์ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโทรมา
“ยอโบเซโย นี่สุดหล่อจากเกาะทะเลใต้เองครับ”
โหย ไอห่านี่กวนตีนเสียงแบบนี้แม่งมีอยู่คนเดียวอะ ไอชานยอลไง สงสัยแม่งดูบาร์บี้มากไปหน่อยช่วงนี้เล่นมาจากเกาะทะเลใต้เชียวสัส
“มีไรว่ามา จะสั่งคอนแท็กกูใช่มั้ยเอากี่แพ็คดี”
“มึงเก็บไว้ใส่คนเดียวเหอะสัส ”
เอ้า ถ้าเก็บไว้ใส่คนเดียวแล้วไอที่กองๆอยู่เต็มห้องเนี่ยคงจะใส่คนเดียวหมดหรอกสัส
“แล้วตกลงมึงมีไร”
“มีคนมาอยู่กับกูแล้วว่ะ”
“เอ้า นี่มึงหาเมียได้แล้วเหรอวะ”
ปกติเห็นแม่งมั่วไปทั่ว แล้วนี่แม่งหาเป็นตัวเป็นตนได้แล้วเหรอวะ แหม ผมคิดว่าผมจะเจอก่อนมันซะอีก พลาดแล้วว่ะโอเซฮุน เจอไอปาร์คแซงละ
“ไม่ใช่เว้ยสัส เขาเป็นรุ่นพี่คณะนิเทศอะ กูเจอเขาเมื่อวานตอนเขาเมา”
“โห เมาแบบนี้ก็เข้าทางมึงเลยอะดิ แบบเก็บเรียบเลยป้ะมึง”
“เรียบพ่ง เออนอกเรื่องมานานละกูโทรมาเพื่อที่จะถามมึงว่าทำไมยังให้จีบเขาติดวะ พี่เขาแม่งน่ารักดี กูกะว่าจะจีบ”
“นี่มึงพาเขามาอยู่ห้องเดียวกันแล้วยังไม่ได้เป็นแฟนกันเนี่ยนะ? แล้วได้กันยัง”
“สัส เอะอะก็จะให้ได้ทุกทีเลยก็อยากอยู่ ตอนแรกก็ดูเหมือนง่ายแต่ตอนนี้กูว่ายากแล้วว่ะ พี่เขาแม่งเป็นคนแปลกๆ”
“แล้วพี่เขาชื่ออะไรวะ”
“บยอน แบคฮยอน”
“โหววววววววววววววววววววววววววว มึงไปสอยนางฟ้าคณะนิเทศมาได้ไงวะ อิสัสเก่งอะมึง”
ชานยอลแม่งเจ๋งสัสอะ ใครๆก็รู้ว่าพี่แบคฮยอนแม่งนางฟ้าชัดๆ แต่เคยได้ยินคนเขาพูดกันว่าเพื่อนสนิทเขานางฟ้ากว่า จะว่าไปก็อยากรู้ว่ะว่าเพื่อนเขาเป็นใคร
“เออสัสแต่ตอนนี้มึงต้องตอบกูก่อนว่ามึงทำไงดี”
“ไม่อะกูไม่บอกมึงจนกว่าจะขอเบอร์เพื่อนสนิทเขามาให้กูได้”
“เพื่อน!? คนไหนวะเพื่อนสนิทเขามีตั้งสองคน”
อ้าวชิบหายละครับ…จะขอเบอร์ทีดันไม่รู้อีกว่าเพื่อนเขาคนไหน
“คนที่มึงคิดว่าสวยอะมึง”
“เพื่อนเขาเป็นผู้ชายจะสวยได้ไงวะ”
กวนตีนกูอีก…
“มึงเข้าใจความหมายของกูใช่ป้ะละกูรู้อย่ามาเฉไฉสัสไปขอมาแล้วกูจะบอกมึง”
“กูไม่รู้ว่าคนไหนสวยกว่ากันว่ะ เคยเจอแค่คนเดียวเอง”
“กูว่าคนที่มึงเคยเจอแม่งไม่ใช่แน่ๆว่ะ ไปขออีกคนนึงมาดิ้”
“แล้วกูจะเจอคนสวยไม่ได้เหรอวะ คนที่กูเจอก็สวยนะเว้ยสัส”
“ไม่อะกูว่าไม่ใช่คนนั้นแน่”
“เออสัสถ้ากูขอมาได้แล้วมึงไม่บอกนะ…”
“ไปขอมาให้ได้ก่อนเถอะ เดี๋ยวกูแถมคอนแท็กให้สองคู่เลยเอาแบบให้มึงเลือกสีเอง”
“กูบอกว่ากูไม่ใส่!!”
“บายครับ”
หึหึ รอให้ได้เบอร์มาก่อนเถอะพ่อจะจีบให้ลุกไปไหนไม่ได้เลยคอยดู
End Special Sehun talk
อา…ออกมาแล้วสินะ ทำไมเข้าไปนานจัง
“นี่นาย! ทำไมเข้าไปนานจังรู้มั้ยเนี่ยว่าหิวเนี่ย หิวๆๆ”
“ถ้าหิวเดี๋ยวทำอะไรให้กิน แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“ห้ะ? ข้อแลกเปลี่ยน? ข้อแลกเปลี่ยนอะไรวะ เออรีบๆว่ามาคนมันหิวเว้ยย”
ถึงม่าจะไม่รู้ว่าข้อแรกเปลี่ยนที่ชานยอลว่ามันคืออะไร แต่ช่างมันเถอะตอนนี้หิวมากกว่าแลกอะไรมาให้หมดแหละ
“ขอเบอร์เพื่อนสนิทพี่หน่อยดิ”
“ห้ะ นี่นายตามฉันไม่พอยังจะไปตามระรานเพื่อนฉันอีกเหรอ?”
“ผมไม่ได้ละลาน มีคนขอ”
“เออให้ก็ได้ จะเอาคนไหนล่ะ”
“คนละคนกับคนที่ผมเจอเมื่อวันก่อนอะ”
เบอร์อิโด้น่ะเหรอ แต่มันมีแฟนแล้วนะ…จะเอาไปทำไมวะ นี่มันไม่รู้หรือแกล้งโง่เนี่ย เออเอาไปก็ได้วะแกล้งคนสนุกดี คิกๆ ถ้าเกิดวันไหนแม่งโทรไปแล้วไครับสายละก็มีสนุกแน่งานนี้
“เอาโทรศัพท์มาดิ”
เขาล้วงไอโฟนในกางเกงแล้วยื่นให้ผม ผมรับมทันทีแล้วจัดการเมมเบอร์อิโด้ลงไปจากนั้นก็ยื่นส่งให้เจ้าของตามเดิม
“เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”
“เรียบร้อยแล้วดิ อ้อ เบอร์เพื่อนที่ฉันให้ไปอะ มันชื่อโดคยองซูนะ เรียกสั้นๆว่าดีโอก็ได้”
“มาบอกผมทำไมครับ”
“ก็นายจะได้ไปบอกเพื่อนนายถูกไง”
“ครับ”
เขาตอบผมสั้นๆก่อนที่จะหยิบไอโฟนขึ้นมากดอีกครั้ง คาดว่าจะส่งเบอร์ให้เพื่อนนั่นแหละ ไหน…แอบดูหน่อยซิ
ชานยอลแห่งเกาะทะเลใต้:0xx-xxxxxxx ชื่อโดคยองซู
เซฮุนหล่อลากซุง:ขอบใจมากเพื่อน
ชานยอลแห่งเกาะทะเลใต้:ไม่เป็นไรกูหล่อ
เซฮุนหล่อลากซุง:ไว้กูจีบติดแล้วจะมาบอกวิธีมึงนะเพื่อน
ชานยอลแห่งเกาะทะเลใต้:สัส!มึงหลอกกู
เซฮุนหล่อลากซุง:กูไม่ได้หลอกกูหล่อครับ บาย
จากนั้นผมก็เห็นชานยอลปิดโปรแกรมแชทอย่างหัวเสีย สงสัยจะโดนนายเซฮุนหล่อลากซุงอะไรนั่นหลอก ตลกชะมัด ฮ่าๆ
“พี่ครับ…มันเรื่องของผมนะ…”เขาพูดกับผมเมื่อเห็นผมชะโงกหน้าไปดูเขาแชทกับเพื่อน อะไรกัน…ก็คนมันอยากรู้นี่นา…
“นายมีเพื่อนสนิทกี่คนเหรอ”ผมถามเขา เผื่อว่าไอคนที่ลู่มันจะจีบเนี่ยอาจจะไม่ใช่คนที่ขอเบอร์อิโด้มันไปก็ได้ ขอร้องอย่าให้เป็นแบบนั้นเลย…
“ถ้าสนิทจริงๆก็คนนี้คนเดียวแหละ”
“ทำไมฟังประโยคนี้ของนายแล้วมันขนลุกแปลกๆวะ”
ผมพูดกลบเกลื่อน เพราะตอนนี้ความคิดในหัวของมีแต่คำว่า ชิบ หาย ละ ลอยอยู่เต็มหัวไปหมด นี่อิลู่จะชวดอีกแล้วเรอะ รู้งี้ไม่น่าให้เบอร์ไปเลย น่าจะให้เบอร์อิลู่ไป
“เป็นอะไรครับ”
“ช่างมันเถอะ ว่าแต่ทำไมเพื่อนนายต้องขอเบอร์อิโด้ด้วยอะ”
“มันบอกว่ามันเคยเจอเพื่อนพี่คนนึงสวยมากหน้านี่ราวกับนางฟ้า แต่ติดอยู่อย่างเดียวที่มันจำชื่อไม่ได้”
แล้วทำไมไม่บอกกูตั้งแต่แรกครับ…
คนที่เหมือนนางฟ้านี่มันก็มีแค่คนเดียวนั่นแหละคืออิลู่เนี่ย อิโด้แม่งไม่ใช่หรอกรายนั้นเขาเรียกน่ารักมากกว่า
หึหึ พลาดแล้วน้องเอ๋ย…โอเซฮุน
writer
เอาแล้วครับ หนุ่มน้อยโอเซฮุน
ร่วมสกรีมลงแท็ก
#ฟิคข้ามคืน
ความคิดเห็น