คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : overnight : 6
6
ง่วงชะมัด…แถมยังมองไม่เห็นอะไรเลยอีกต่างหาก น้องชานนี่ก็โรคจิตนะครับชอบทำอะไรแปลกๆอยู่เรื่อยเลย ผมนั่งง่วงทั้งที่ดวงตาของผมอยู่ภายใต้ผ้าพันคอนี่มาเกือบชั่วโมงแล้วมั้ง ทำไมมันถึงได้นานขนาดนี้ จะพาไปที่ไหนกัน…
“ถึงแล้วครับ”
ไม่นานนักรถก็จอดนิ่งอีกครั้งแต่ต่างกันกับทุกครั้งเพราะว่าครั้งนี้มันคือการถึงที่หมายไม่ได้ติดไฟแดงแบบทุกๆครั้งที่นั่งรอมาตลอดทาง ไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงคล้ายเสียงคนเปิดประตูรถฝั่งชานยอลแล้วไม่นานต่อจากนั้นสักเท่าไรเสียงแบบนั้นก็ตามมาในฝั่งประตูที่ผมนั่งอยู่
“ลงมาได้แล้ว”
“จะให้ลงไปทั้งๆที่ฉันมีผ้าปิดตาอยู่แบบนี้น่ะเหรอ ใช้อะไรคิดน่ะก้นกบหรือเปล่า”
“ทำไมต้องว่าผมว่าใช้ก้นกบคิดด้วยล่ะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ โอเคครับ…ผมจะใจเย็นที่สุดเวลาพูดกับพี่…รอเดี๋ยวนะเดี๋ยวแกะผ้าปิดตาให้”
ทันใดนั้นมือของชานยอลก็สัมผัสโดนกับใบหน้าผมก่อนจะค่อยๆแกะผ้าปิดตาออกให้ผม ผมหรี่ตาลงเล็กน้อยเนื่องจากอยู่ในความมืดมานานพอเจอแสงแดดแบบนี้เลยปรับตัวไม่ทัน ผมค่อยๆก้าวขาออกมายืนด้านนอกภาพที่เห็นตรงหน้าคือบ้านหลังหนึ่งที่มีสวนกว้างๆอยู่รอบๆ บ้านหลังนี้มีขนาดไม่ค่อยใหญ่เท่าไรเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนดอกไม้ สวยจัง…ว่าแต่นี่บ้านใครกันนะ คงจะไม่ใช่บ้านเด็กนี่หรอกมั้ง ชานยอลคงม่านั่งรดน้ำต้นไม้ทุกเช้าหรอกน่า…มันไม่เข้ากับเขาเลยสักนิด
“อา…สวยจัง”
“อยากเข้าไปมั้ยล่ะ”
“ฉัน…เข้าไปได้ด้วยเหรอ?”
“ทำไมจะเข้าไปไม่ได้ล่ะครับ นี่มันบ้านผม”
“บ้าน…นาย…?”ผมทวนคำพูดของชานยอลอีกรอบ ผมไม่แน่ใจกับคำพูดนั้นเท่าไร บ้านเขาเหรอ แล้วใครอยู่ล่ะ เพราะตัวชานยอลเองก็อยู่คอนโดเดียวกับผมไม่ใช่เหรอ…
“ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าใครอยู่ พ่อแม่ผมอยู่เองแหละ”ชานยอลพูดจบก็เดินเข้าไปในรั้วบ้านหลังนี้ ทิ้งให้ผมยืนเอ๋ออยู่กับอากาศรอบๆตัว แหงล่ะ ใครมันจะยอมไปยืนเอ๋อคนเดียวอย่างน้อยก็มีอากาศนี่แหละเอ๋อเป็นเพื่อนผม คิกๆ
ผมรีบสาวเท้าเดินตามเขาข้าไปในรั้วบ้านทันที ใครใช้ให้เดินเร็ววะ! ไอผมน่ะก็รู้ว่าชานยอลขายาวไม่ใช่ผมหรอกที่ขาสั้นจนเดินตามเขาไม่ทัน เป็นเขาต่างหากล่ะที่ขายาวผิดมนุษย์มนาทั่วไป
ชานยอลเองเดินไปนั่งที่ระเบียงบ้านที่ยื่นออกมา ผมเดินไปหยุดที่บริเวณที่ปลูกดอกเดซี่ มันสวยมากๆเลยล่ะ ดอกเดซี่ต่างพากันออกดอกสวย ผมน่ะ…ชอบดอกเดซี่มาก…
"ชอบเหรอครับแม่ผมเป็นคนปลูกเองแหละ"
"จริงเหรอ?"ผมถามเขาอย่างสนใจ ว้าว แม่เขาต้องเป็นคนที่เก่งมากแน่ๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะปลูกดอกไม้ให้สวยทั้งสวนแบบนี้
"จริงครับ พี่ชอบใช่มั้ย...ผมว่ามันก็เหมาะกับพี่ดีนะ แล้วพี่รู้ความหมายของมันมั้ย"
"รู้สิ มันเป็นดอกไม้แทนความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจต่อกันและกัน เป็นตัวแทนความรักอันซื้อสัตย์ ภักดี และขาวสะอาด"ผมหลับตาแล้วร่ายในสิ่งที่ผมศึกษาเกี่ยวกับดอกไม้นี้ออกมา
"พี่เองศึกษาเรื่องดอกไม้กับเขาด้วยเหรอ ไม่น่าเชื่อเลย..."
"แหงล่ะ ตอนมัธยมฉันเคยเป็นประธานชมรมพฤกษศาสตร์ด้วยนะ"ผมพูดอวดแล้วเดินไปนั่งข้างๆเขา
"อย่างพี่เนี่ยนะ!"ชานยอลอุทานออกมาแล้วหันมามองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดเมื่อกี้
"ใช่สิ...ฉันชอบดอกไม้ที่สุดเลย..."
"อย่างกับผู้หญิงแน่ะ"
"แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะ!"ผมรีบปฏิเสธออกมาผมน่ะ...หงุดหงิดทุกครั้งทีเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังแล้วทุกคนก็จะหาว่าผมเหมือนผู้หญิงทุกที ผมน่ะ...ไม่อยากเป็นผู้หญิงหรอก ผู้หญิงเป็นเพศที่งี่เง่าและบางครั้งก็ตอแหล
"ครับๆ ผมบอกว่าเหมือนไม่ใช่เป็น"
"อ้าวชานยอล...พาใครมาน่ะลูก"
เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นก่อนที่เราสองคนจะหันไปมองพร้อมกัน ผู้หญิงคนนี้ใครกัน หน้าเหมือนชานยอลมาก แม่...? แต่ทำไมยังดูไม่แก่กันนะ
"อ้าวแม่มาได้จังหวะพอดีเลย นี่แฟนผม"
"บ้าเหรอ! ใครเป็นแฟนนายกัน!...อะ...เอ่อ ผมเป็นรุ่นพี่ของเขาน่ะครับไม่ใช่แฟนหรอก"ผมรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน ไอเด็กบ้า! ไปบอกแบบนั้นได้ยังไงกัน
"แฟนผมชอบปากแข็งแบบนี้แหละครับแม่ อย่าไปถือสาอะไรเขาเลย"
ผมหันไปส่งสายตาเขียวๆให้เขาทันทีเมื่อชานยอลพูดประโยคนั้นออกมา บอกแล้วำงว่าไม่ใช่แฟนโว้ยยย หงุดหงิดดด เดี๋ยวตบด้วยขวดน้ำยาล้างห้องน้ำตาแควกๆซะเลยนี่
"ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ไม่ถือ"
หญิงสาวที่เป็นแม่ชานยอลบอกอย่างใจดีกับผม เอ่อ...ผมรู้ครับว่าแม่ไม่ถือเพราะแม่ไม่ชอบให้เมื่อย แต่ผมถือโว้ยย ผมชอบเมื่อย(เกี่ยวมั้ย?:ไรท์)
"เข้ามาข้างในก่อนสิ"
ภายในบ้านถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลอ่อนดูให้ความอบอุ่น ผมนั่งที่บนเบาะนุ่มที่วางอยู่บนพื้นกับโต๊ะญี่ปุ่น อา...ถึงบ้านจะไม่ดูหรูหราอะไรมากแต่มันให้ความรู้สึกอุ่นใจแบบแปลกๆ
"เดี๋ยวแม่ปลอกแอปเปิ้ลให้กินนะลูก นั่งรอตรงนี้แป้บนึงนะ"
"คะ...ครับ"
แม่ชานยอลพูดจบก็เดินหายไปในห้องครัวทันที ทิ้งไว้ให้ผมอยู่กับชานยอลเพียงแค่สองคนเท่านั้น ความเงียบค่อยๆเข้าปกคลุมผมกับเขา ในมือผมกำดอกเดซี่สีขาวแน่นด้วยความอึดอัด ผมแอบมองเขานิดนึงก่อนที่จะเลื่อนสายตาตัวเองกลับมาวางที่เดิม
"แอบมองผมทำไมครับ"
"ปะ...เปล่า"
โอ้ยยยย อิหอยแบค จะแอบมองเขายังโดนเขาจับได้เลย ทำไมโง่แบบนี้เนี่ย
"มองได้นะผมไม่ถือ"ชานยอลพูดจบก็ใช้สองมือของเขาประคองหน้าของผมให้หันไปมองหน้าเขาตรงๆ ตาของเขาจ้องลึกเข้ามาในตาของผม เราสบตากันเนิ่นนานโดยต่างคนต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ จนกระทั่งมีเสียงวางจานกระทบลงบนโต๊ะดังขี้นเรียกสติเราสองคนให้กลับมาที่เดิม
"เดี๋ยวแม่ไปทำความสะอาดด้านบนก่อนนะทำค้างไว้ยังไม่เสร็จเลย กินกันตามสบายกันนะลูก"
"ครับแม่"ชานยอลตอบรับประโยคเมื่อกี้ของแม่ของเขา ผมได้แต่นั่งก้มหน้าเมื่อรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอึดอัดที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ผมเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลมากัดแก้ความอัดอึด ชานยอลเองก็หยิบมันมากินเหมือนกัน และก็เป็นอีกครั้งที่เขาเป็นฝ่ายเอ่ยชวนคุยก่อน
"เงียบแบบนี้ไม่เหมือนพี่เลยเนอะ"
"ปกติฉันต้องเป็นยังไงห้ะ"
"ก็...ถ้าปกติพี่ต้องพูดมาก หรือไม่ก็กวนประสาทผม แล้วจู่ๆนี่ก็เงียบๆเป็นอะไรหรือเปล่าครับหืม?"
"กะ...ก็นิดหน่อย ฉันแค่คิดถึงพ่อแม่...นาย...ดูมีความสุขดีเนอะ"
แหงล่ะจะไม่ให้ผมอิจฉาได้ไงบ้านก็รวยพ่อแม่ก็มีพร้อมแถมเรียนเก่งอีกต่างหากหล่อก็หล่อ...โอ้ย เพอร์เฟคไปซะทุกอย่างเลย จนผมต้องมานั่งคิดย้อนไปเลยว่าผมรู้จักกันชานยอลได้ยังไงกัน
"ผมก็ไม่ได้มีความสุขกับทุกอย่างเหมือนที่พี่เห็นหรอกครับ...ผมเฝ้าตามคนๆหนึ่งมาตลอดสามปีผม...ผมเอาของๆเขามาแต่ไม่รู้จะเอาไปคืนได้ยังไง"
"ของที่ว่านั่นคืออะไรเหรอ..."อย่าหาว่าเผือกเลยครับเล่ามาขนาดนี้ก็ขอรู้อีกหน่อยแล้วกัน
"อย่ารู้เลยครับ พี่รู้ไปก็ช่วยอะไรผมไม่ได้หรอก"
"อ่า..."เอ้า!ไอเด็กนี่หลอกด่าผมหรือเปล่าวะ ช่วยได้หรือไม่ได้ทำไมไม่บอกมาก่อนเล่าเอ้อ...ประหลาดแท้เหลา"แล้วห้องนั้นอะ"
"ห้องไหนครับ?"แน่ะ ยังจะมาทำงงใส่อีก มันก็มีอยู่ห้องเดียวแหละน้อง
"ห้องนั้นที่คอนโดอะ...ที่นานบอกว่าห้ามใครเข้าไป"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ...พี่อย่าพยายามอยากรู้มากไปกว่านี้เลย"
"อืม..."แงงงง แม่ครับเขาว่าผมเผือดอ้าาา แบคไม่ยอม แม่ตีมันให้แบคหน่อยงืออออ ไอเด็กบ้า!ถามดีๆไม่ยอมตอบนี่ถ้าเห็นว่าไม่ให้เงินใช้ทุกวันนะขุดมาด่าทั้งโครตแล้ว!
เอาล่ะคราวนี้ผมจะไม่ปล่อยให้ผ่านไปเหมือนคราวก่อนๆแน่ คราวนี้เลือดเผือกในตัวมันสูงขึ้น คราวนี้ต้องรู้ให้ได้โว้ยย ว่ามันคือห้องอะไร อยากรู้ อยากรู้ ทำตัวน่าสงสัยนักนะ เด็กนี่เป็นคนยังไงกัน…
Special Luhan Talk
โอ้ยยยย อิเพื่อนบ้า หายหัวไปไหนตั้งแต่เช้าเนี่ยดูซิเนี่ยทิ้งไว้ให้ผมนั่งเขินอยู่กับฮุนนี่ในห้องคาราโอเกะเนี่ย
ที่จริงเราเข้ามาในห้องนี่เกือบชั่วโมงแล้วล่ะแต่ต่างคนก็ต่างไม่เลือกเพลงสักที เมื่อกี้น้องเขาบอกว่ายกให้ผมร้องก่อนเลย ใครมันจะไปกล้าร้องต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบกันเล่าไอเด็กสิ้นคิด! เห็นแก่ๆแบบนี้ก็เขินอายเป็นนะโว้ย แน่ะๆตอนที่ผมบ่นในใจน้องฮุนนี่ก็นั่งหลบมุมอยู่ที่โซฟาดูๆหน้าแบบนี้มันเหมือนคนใกล้จะหลับแล้วชัดๆ แล้วนี่จะทิ้งให้ผมเปลี่ยวเอกาอยู่คนเดียวงั้นเหรอ ฮือๆลู่ไม่ยอมนะป๊า ป๊าจัดการเซฮุนหน่อยแง เห้ยเดี๋ยวไม่ใช่ละผิดโหมด ตอนนี่ผมต้องเล่นเป็นพี่ลู่เวอร์ไร้เดียงสา ดะ…เดี๋ยวน้องฮุนนี่กำลังจะทำอะไรน่ะ เห้ยๆ
อยู่ดีๆน้องฮุนนี่ก็หยิบสมุดเพลงมาเปิดดูลิสต์เพลงจากนั้นก็กดเลขลงไปก่อนที่จะหยิบไมค์ออกมาจ่อที่ปากตัวเองแล้วร้องอย่างมั่นใจ
ทายซิเพลงที่ร้องนี่อะไรเอ่ย…?
หมดเวลาคิดแล้วค่ะท่านผู้โช้มมม เอ้ยผิดๆหมดเวลาคิดแล้วครับเอาเป็นว่าผมขอเฉลยเลยละกัน เพลงMamaครับท่านผู้ชม
“Turn back!!!”
อูยยย ตกกระใจหมดเลยแต่ไม่พลอยโจนนะ เห้ยผิดละนั่นมันตกกระไดพลอยโจน พอๆเข้าเรื่องๆเมื่อกี้ผมแทบร้องออกมาเมื่อจู่ๆน้องเขาก็เร่งโวลลุมขึ้นมาเสียดื้อๆ โอ้ย…ท่อนเมื่อกี้น้องเขาเล่นใส่สุดเสียงช่างต่างกันท่อนแรกๆมากมายนัก
เด็กนี่ช่างดูต่างกับวันแรกที่ผมเจออย่างลิบลับ เมื่อตอนครั้งแรกนะเหมือนจะเป็นคนเข้าถึงยากหยิ่งๆอะไรงี้ แต่ความเป็นจริง…ก็อย่างที่เห็นตอนนี้นั่นแหละ อ้าวเพลงจบซะงั้น คราวนี้จะร้องเพลงอะไรอีกล่ะ…
“พี่ไม่ร้องด้วยกันเหรอครับ”
แบบนี้เขาไม่เรียกว่าถามความเห็นแล้วครับเล่นยื่นไมค์มาให้ซะขนาดนี้ก็ต้องร้องสักหน่อยแล้วกัน จัดไปอย่าให้เสีย!
“เลือกเพลงไวไวเลยน้อง”
“ได้เลยเพ่จัดไป”
กลายเป็นว่าจากตอนแรกที่ผมบ่นฮุนนี่ตอนนี้ผมกลับร้องเองซะงั้น จะโทษผมไม่ได้นะครับ น้องฮุนเขาส่งไมค์มาให้นี่นา จังหวะเพลงดังขึ้นใกล้จะถึงท่อนร้องบวกับสายตาเว้าวอนที่น้องฮุนนี่ส่งมาให้ผมว่าร้องเถอะ นั่นทำให้ผมใจอ่อนอย่างเสียมิได้ เอ้ะหรือผมคิดไปเองหว่า
“Ayo! GG! Yeah Yeah 시작해 볼까?(ชีจักแฮ บลกา?)”เป็นผมเองที่เริ่มเปิดเพลงนี้ก่อน
“어-머! 얘 좀 봐라 얘, 무슨 일이 있었길래머릴 잘랐대? 응?(ออมอ! แย จม บวารา แย มูซึน อีรี อีซอซกิลแร มอริล จัลรัซแด? อึง)”ตามด้วยเซฮุนที่ตอนนี้เสียงน้องเขาสะดิ้งสุด เอ่อ…ผมเริ่มแอบสงสัยนิดๆว่าสรุปน้องเขาแมนหรือเปล่าเนี่ย ช่างมันเถอะมามันส์กับเพลงกันดีกว่า วู้ฮู้ว!!!
“I got a boy 멋진! I got a boy 착한! I got a boy awesome boy 완전 반했나 봐(I got a boy มอซจิน! I got a boy ชักฮัน I got a boy awesome boy วันจอน บันแฮซนา บวา)”
และแล้วเราก็ลากยาวไปเกือบกว่ายี่สิบเพลง คิดดูว่าเหนื่อยแค่ไหนนี่ผมถึงกับหอบเลยครับ น้องฮุนนี่เล่นเอาซะผมเหนื่อยแทบไม่ได้หายใจเลย แล้วแต่ละเพลงที่น้องเขาเลือกนี่เป็นเพลงเร็วทั้งน้านนนน พี่ลู่หายใจไม่ทันครับน้อง สงสัยน้องจะเป็นพวกชอบจังหวะเร็วๆแรงๆแฮะ
“ผมเหนื่อยแล้วพี่ เราไปหาน้ำกินกันเถอะ **”
แหมน้องครับ ร้องไปหลายสิบเพลงแบบนั้นไม่เหนื่อยก็ไม่รู้ว่าจะว่ายังไงแล้วครับ ถ้าใครไม่เหนื่อยนี่คงเป็นยอดมนุษย์แมนล่ะนี่พูดเลยจากใจคนน่ารัก
เอาล่ะ หลังจากที่เราสองคนทำกิจกรรมที่เหนื่อยมากๆกันมาทั้งคู่แล้วก็มาหยุดอยู่ที่ร้านชานมร้านหนึ่ง โอ้…ผมนี่เห็นน้องเขาตาเป็นประกายวิบวับระยิบระยับวิ้งๆเลยล่ะครับตอนลากผมว่ายืนอยู่หน้าร้านนี่ เซฮุนลากผมเข้าไปในร้านก่อนที่จะสั่งเมนู
“เอาชานมช็อกโกแลตบานาน่าครับ…”จากนั้นเซฮุนก็หันมาถามผม”แล้วพี่ล่ะเอาอะไร”แหม่สั่งไปเลยครับอย่าให้มันยุ่งยาก ผมนี่ก็กินประจำอยู่แล้ว
“เอาชานมเผือกแล้วกัน”
“เอาชานมเผือกอีกแก้วนะครับ…ครับทั้งหมดสองแก้ว”
“ทั้งหมด11000วอนค่ะ”
“นี่ครับ”
อ้ากกกพี่ลู่รับไม่ได้ครับบบ อิชะนีนี่อย่าคิดว่าผมไม่เห็นนะ ตอนน้องฮุนนี่ยื่นแบงค์ให้เมื่อกี้นางแอบจับเต็มๆเลย แง่งๆ นี่มันของพี่ลู่นะโฟร้ยยย อย่าบังอาจเอามืออันโสมมมาแตะต้องมือน้องฮุนนี่ให้แปดเปื้อนความชั่วร้ายเป็นอันขาด เดี๋ยวพ่อตบด้วยแก้วชานมเลยนี่ ฮึ่ย!
อูย…แต่ตอนนางเขย่าชานม หน้าอกหน้าใจของนางนั่นสั่นแรงไปตามความแรงการเขย่า ผมเห็นน้องฮุนนี่มองด้วยอ้า! ไม่ยอม! อย่าให้ผมไปเสริมนมนะ พ่อจะให้ลูกบีบเล่นทุกวันเลย แง่งๆ
“น้องฮุนนี่…”
“อะ…อะไรครับ”
“ชอบกินชานมไข่มุกเหรอ?”ผมรีบหาเรื่องคุยทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาน้องฮุนที่จ้องไอนั่นแบบไม่วงตา แง่งๆแกหัดเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร บังอาจไปมองของคนอื่นทั้งๆที่เราเคยนอนด้วยกันแล้วอะนะ! ไม่ยอมงือออ(แค่เคยนอนเตียงเดียวกันเฉยๆค่ะเสี่ยวลู่ ใจเย็นค่ะมันยังไม่มีอะไร :ไรท์)
“ชอบกินครับ ถ้าว่างเมื่อไรเป็นต้องกิน อ้อ แถวๆคอนโดมีร้านนึงอร่อยมากเลยครับร้านนั้นเป็นร้านประจำผม”
“งั้น…คราวหน้าไปกินด้วยกันมั้ย”โอ้ยยย ผมนี่เขินเลยขรั่บ ชวนน้องฮุนนี่ไปกินแหละฮริ้ง เขินโฟร้ยยยยยยยย
“โอเคเลยครับ ไว้คราวหลังพี่ไปหาผมที่คอนโดแล้วกันนะ”
“ดะ…ได้เลย”กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด โดนผู้ชายชวนไปคอนโดโว้ยยยย เขินครับเขิน แหน่ะๆรู้นะว่าคิดอะไรกับเราอยู่น่ะ บอกมาตรงๆก็ได้
“ชานมไข่มุกได้แล้วค่ะ”
จู่ๆชะนีนี่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนจะกระแทกชานมไข่มุกลงกันเคาเตอร์ อิจฉาก็บอกมา ว้ายๆเขาชอบผู้ชายโว้ยไม่ได้ชอบชะนีแบบเธอ ที่มองมิลค์เมื่อกี้น่ะไม่นับ เขามองเฉยๆย่ะ ว้ายๆ
“เดินไปกินไปหรือจะนั่งในร้านนี้ครับ?”
“เดินไปกินไปดีกว่าเยอะเลย ไปกันเถอะ”ใครมันจะอยู่ให้ชะนีมองเล่นกันล่ะ น่าเบื่อจริงๆพวกไม่รู้จักว่าของใครเป็นของใคร น้องฮุนนี่ก็เหมือนกันยังจะมาชวนอยู่ต่ออีกจะดูมิลค์ยัยชะนีนี่ใช่มั้ยล่ะ ไม่บอกว่าจะอยู่ต่อให้โง่หรอก โฮะๆๆๆๆ
End Special Luhan Talk writer แง้ว ตอนนี้มันกลวงมากอะฮือ ขอโทษน้าที่มาอัพช้าเค้าไม่ค่อยมีเวลาเลยอะแง แล้วแอบสงสัยกันมั้ยน้าว่าในห้องน้องชานนั้นมีอะไรกัน โฮะๆ หรือว่าความจริงแล้วอาจจะไม่มี...? ติ้กต้อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ช่วงนี้ใกล้กีฬาสีแล้วด้วยอาจจะอัพช้า แต่ยังไงก็จะมารีบต่อให้ทุกคนน้า จุ้บๆ
ความคิดเห็น