คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ ๒ :: สมุดอาถรรพ์
บทที่ ๒ :: สมุดอาถรรพ์
เสียงตามสายของโรงเรียนก็ดังตามปกติในทุกๆวันตอนเช้าตรู่ บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างหนาวพอสมควร นักเรียนส่วนใหญ่ก็พกเสื้อกันหนาวมาโรงเรียน
ภาคินในวันนี้ก็เหมือนกัน เขาเดินเข้าประตูโรงเรียนแล้วกล่าวทักทายอาจารย์ที่
ยืนประจำที่หน้าประตูโรงเรียน เขาได้ใส่เสื้อของโรงเรียนใหม่อย่างสง่างาม เมื่อเขาเดินมาได้ไม่ไกลนักเส้นทางที่อยู่เบื้องหน้าของเขาคือทางแยกไปห้องประชาสัมพันธ์กับทางแยกไปห้องฝ่ายปกครอง แต่ด้วยที่ตอนนั้นยังเช้ามาก เขายังไม่อยากที่จะขึ้นไปบนห้อง เลยเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่เขาเคยเห็นหญิงสาวปริศนาครั้งก่อน เมื่อเขาเดินไป สิ่งที่พบเห็นกลับว่างเปล่าไร้ผู้คนในระรอกบริเวณนั้นเลย มีแต่ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ลมพัดความหนาวและความเย็นยะเยือก พัดวาบเข้ามาในสันหลังของภาคิน เขาหันหลังกลับไปมองสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง เด็กน้อยคนหนึ่งวัยประมาณมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ ยืนจ้องมองเขาอยู่
ด้วยสภาพที่ร้องไห้ แขนของเด็กคนนั้นข้างหนึ่งถือสมุด1เล่มไว้ เป็นสมุดสีดำแดง หน้าปกดูโบราณเก่าแก่ประมาณ10ปีได้ แน่นอนว่าเขาอดใจที่จะไม่สงสัยคงไม่ได้ “ไอ้หนู พี่ขอดูสมุดที่ถือหน่อยสิ มันเป็นสมุดอะไรหรอ?” เด็กคนนั้นก็เงยหน้ามองภาคินด้วยความแปลกใจ พร้อมเอ่ยปฏิเสธ แล้วก็วิ่งหนีไปในที่สุด
วันนี้การเข้าแถวยามเช้าก็เป็นไปตามปกติเหมือนวันประกาศผล ขณะที่อาจารย์กำลังถือไมล์ประกาศอยู่ จู่ๆก็มีเสียงดังลั่น พร้อมกับเสียงดังตุบ เลือดสีแดงก่ำได้กระฉูดไปทั่วบริเวณนั้น เสียงกรี๊ดก็ตามมาติดๆ ทุกคนหยุดชะงักพร้อมวิ่งไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที ภาคินก็เช่นกัน สิ่งที่สยดสยองก็อยู่ที่เบื้องหน้าของเขาอย่างชัดเจน เด็กนักเรียนผู้ชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นอนคว่ำจมกองเลือดสีแดงก่ำ แขนหัก ขาหัก คอหัก ไม่เป็นท่าเลย สภาพสะอิดสะเอียนนั้นทำเอาทุกคนหลอนไปตามๆกัน รปภ.และ อาจารย์พยาบาลก็วิ่งมาดูสภาพนักเรียน เขากระโดดจากตึกชั้นเรียนที่ 5 ซึ่งชั้นนั้นเป็นชั้นห้องดนตรีและนาฏศิลป์ไทย
เขามองจากด้านบนแล้วมองลงมาที่จุดเกิดเหตุ ข้างๆมือของเด็กคนนั้นมีสมุดที่เขาเห็นเมื่อเช้า รปภ.ได้เคลื่อนย้ายนักเรียน เขาตายคาที่ทันที หน้าของศพหัน
หงายขึ้น สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งไปกว่านั้นคือ เป็นเด็กคนเมื่อเช้าที่ถือสมุดนั่นเอง!
จากนั้นอาจารย์ก็ประกาศเสียงตามสายให้นักเรียนทุกคนขึ้นไปเรียน อย่าไปพูดเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ให้ใครฟัง ภาคินเดินตามแถวของเขาขึ้นห้องพร้อมๆ
กับคุณาธรรย์และไพลิน เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้น เขาเก็บปากเงียบไว้ เสียงจอแจซุบซิบกันก็ดังทั่วชั้นเรียน เพื่อนๆก็เอาแต่พูดเรื่องนี้กันจนถึงกลางวัน
“คิน นายว่าเด็กที่โดดลงมามันคิดอะไรอยู่วะ?”คุณาธรรย์ถามท่ามกลางโต๊ะอาหาร ภาคินไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น เขายังอึ้งค้างกับเหตุการณ์เมื่อเช้า
“คิดสั้นสิวะ ถามได้” ไพลินตอบคุณาธรรย์แทนภาคิน บรรยากาศวันนี้
ดูหมองหม่นมาก ทุกคนเอาแต่พูดเรื่องเด็กที่โดดตึกลงมากันยกใหญ่
ภาคินสงสัยอย่างหนัก
-ทำไมเด็กคนเมื่อเช้าที่ถือสมุดเล่มนั้นไม่ยอมให้ดูสมุด
-ทำไมเด็กคนเมื่อเช้าถึงต้องกระโดดตึกลงมา5ชั้น
-ทำไมสมุดเล่มนั้นต้องอยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นด้วย
คำถามต่างต่างนานาก็วนเวียนอยู่ในหัวสมองของเขา การเรียนวันนี้ไม่เข้าสมองของภาคินเลยแม้แต่นิด จนช่วงเย็นของวันเปิดเทอม เขาเพิ่งไปเล่นบาสมากับเพื่อนซี้ทั้ง2คน ผู้คนยืนมุงดูอะไรซักอย่างตอนนั้น ทำให้ทั้งสามก็ต้องวิ่งไปดูว่า
มันเกิดอะไรขึ้น ไม่ทันที่พวกเขาจะเดินไปถึงตรงนั้น ทินพากรก็วิ่งออกมาหน้าตาตื่น “พวกแกอย่าเข้าไปดูนะเว่ย!!”พลันวิ่งออกมา แต่ภาคินกับเพื่อนๆก็อดใจดูไม่ได้ เขาเดินไปที่ตรงนั้น พร้อมกับชะโงกหน้ามองดูด้วยความเบียด เสียงของไพลินก็ดังขึ้น “เห้ย!!!!นั่นมัน วรันกร นี่หว่า เห้ย!!!??” ภาคินอึ้งเขาหันไปมองคุณาธรรย์อย่างทันควัน วรันกร คือเพื่อนที่คุยกับทินพากรอย่างถูกปาก กลับต้องมาตายโดยไม่มีสาเหตุ มือข้างหนึ่งของเขาถือสมุดเล่มนั้นไว้...
ภาคินถึงกับต้องทรุดลงเลยทีเดียว มีคนตาย2คนในวันนี้แล้ว ทำไมกันสมุดเล่มนั้นต้องอยู่ในที่เกิดเหตุ เขารีบตรงไปหาทินพากรทันทีแต่ก็ไม่ทันแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้าน เขานึกคิดสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้
“คิน เรียนวันนี้เป็นยังไงบ้างลูก?” แม่ของเขาเอ่ยถาม เขาตอบไปว่าปกติดีทุกอย่าง แต่ในหัวสมองตอนนี้มันมีเรื่องให้สงสัยมากมาย ....
♠------♣-----♠
ความคิดเห็น