ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #65 : ◣Fanfic◥ [LawxLuffy] Labyrinth (Special: Thank you for 1000 Favorites ♥ )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 285
      8
      8 ก.ค. 66

    Title: Labyrinth
    Pairing: Law x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 1/1
    แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


















     


    เป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงว่าสวรรค์และนรกถูกกำหนดมาให้เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน...


            สวรรค์ที่ใครต่างก็จินตนาการว่าเป็นสถานที่ที่สุขสงบและงดงาม ความจริงแล้วกลับมีกฎเกณฑ์มากมาย หน้าที่หลักของเหล่าทูตสวรรค์คือการชี้นำแนวทางแก่มนุษย์

     

    และนรกก็คือสถานที่แห่งความชั่วร้าย แหล่งรวมกิเลส และความดำมืดของจิตใจ

     

           ครั้งหนึ่งเคยมีปีศาจตกหลุมรักทูตสวรรค์แม้เพิ่งเคยพบกันครั้งแรก ปีศาจตนนั้นรู้ดีว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวฝืนกฎธรรมชาติ แม้จะไม่มีทางเป็นไปได้แต่เขาก็ไม่สน ทูตสวรรค์ผู้นั้นได้รับมอบหมายให้ลงไปยังโลกมนุษย์เพื่อปฏิบัติภารกิจชี้นำลูกแกะที่หลงผิดสู่ทางสว่าง เขาจึงไม่รอช้าที่จะตามติดคนที่ถวิลหาไปยังโลกมนุษย์เช่นเดียวกัน

     

           สถานที่ที่ใกล้เคียงกับพระผู้เป็นเจ้าอย่างโบสถ์ในแถบชานเมืองห่างไกลเป็นสถานที่ที่ทูตสวรรค์ตั้งใจเลือก เขามีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนเดิมทุกอย่าง ซุกซ่อนเอาไว้เพียงปีกสีขาวเพื่อกลมกลืนกับมนุษย์ ปีศาจที่เห็นเช่นนั้นก็เลือกแปลงกายเป็นมนุษย์บ้าง แต่เพราะเป็นปฏิปักษ์ต่อสวรรค์จึงไม่อาจย่างกรายเข้าไปในโบสถ์นั้นได้

     

           เขาหาโอกาสให้ได้พบเจอกับทูตสวรรค์ผู้นั้นอยู่หลายครั้ง แม้ดวงตาจะมองออกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ แต่ทูตสวรรค์ที่ถูกปลูกฝังให้มีความรักและเมตตาก็ไม่ได้รังเกียจปีศาจตนนั้น จากคนไม่รู้จักเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความคุ้นเคย ความคุ้นเคยนั้นสานต่อเป็นความหวั่นไหว พวกเขาสนิทสนมกันเกินกว่าข้อห้ามระหว่างสวรรค์และนรกได้ขีดเส้นไว้

     

    นายไม่ใช่ทูตสวรรค์เหมือนกับฉัน แล้วนายเป็นใคร ผู้มาจากโลกเบื้องบนเอ่ยถาม

     

    ณ ตอนนั้นปีศาจหนุ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาหลงรักคนตรงหน้าจนไม่อาจถอนตัว ร่างที่สูงใหญ่กว่าตัดสินใจคว้าคนตรงหน้ามาจุมพิตบนริมฝีปากอย่างแผ่วเบา คนโดนจู่โจมรีบอาศัยจังหวะนั้นผลักออก พลังที่ต่อต้านกันทำให้ทูตสวรรค์รับรู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

     

    พลังงานบางอย่างกำลังไหลเวียนเข้าสู่กายของเขาอย่างไม่อาจต้าน แม้จะรู้ตัวแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นปีศาจ แต่ก็ไม่อาจห้ามใจตนเองให้หยุดรักคนตรงหน้าได้

     

    ภายหลังความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่ได้ถึงหูสวรรค์ พวกเขาก่อพันธะสัญญาที่ไม่ควรเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วทูตสวรรค์ผู้นั้นก็ถูกลงโทษโดยการพรากปีกทั้งสองข้างออกไปตลอดกาล ร่องรอยของปีกคู่นั้นยังคงทิ้งไว้กลางแผ่นหลังผอมบาง

     

    แม้จะเสียปีกไปแล้ว แต่ทูตสวรรค์ก็ไม่อาจแก่ชรา เขาไม่มีความรู้สึกหิวเหมือนมนุษย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าตัวจะถูกสังหารไม่ได้ นั่นคือบทลงโทษให้โดนทอดทิ้งไว้บนโลกมนุษย์ตลอดกาล

     

    สุดท้ายแล้วแม้แต่ปีศาจตนนั้นก็หายสาบสูญไปหลังเรื่องราวทุกอย่างจบสิ้น ทิ้งไว้เพียงบาดแผลฉกรรจ์ที่กลางหลังที่ไม่มีวันจางหาย

     

     

     

     

     

     

           ริมฝีปากสีกุหลาบยกยิ้มบางๆ หลังเล่านิทานก่อนนอนให้แก่เด็กน้อยคนหนึ่ง เจ้าตัวที่กำลังนอนห่มผ้าขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนใช้ดวงตาสีเหลืองทองทอดมองใบหน้าของคนข้างตัว

     

    ลูฟี่เล่าเรื่องตัวเองอยู่หรือเปล่า” ประโยคที่เด็กชายวัยหกขวบเอ่ยขึ้นทำให้เจ้าของชื่อต้องเลิกคิ้วประหลาดใจ ครั้นพอเห็นดวงตากลมๆ ที่จ้องเขม็งด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็อดหัวเราะแห้งออกมาไม่ได้

     

    “จะเป็นฉันได้ยังไงกันล่ะ” เขาลูบกลุ่มผมสีดำนั้นอย่างเอ็นดู

     

    “เพราะลูฟี่น่ารักเหมือนทูตสวรรค์เลย!

     

    คนอายุมากกว่ายกมือขึ้นมาลูบบริเวณหลังคอที่มีสัญลักษณ์บางอย่างสลักอยู่ของตน มันดูเหมือนกับพันธะสัญญาบางอย่าง

     

    “นอนได้แล้วนะ เป็นเด็กเป็นเล็กเที่ยวมาพูดจาแบบนี้ได้ไง”

     

    ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กน้อยหัวเราะร่า แต่เขาก็ยอมหลับตาและเข้านอนอย่างที่คนข้างตัวว่าโดยไม่ขัดข้อง

     

    เด็กคนนี้พูดถูกทุกอย่างเป็นความจริงว่าทูตสวรรค์คนนั้นก็คือเขา

     

    พันธะสัญญาที่เกิดจากรอยจูบครั้งนั้นฝังอยู่บนร่างกาย และมันยังไม่จางหายไป นั่นหมายความว่าเจ้าของของมันยังมีชีวิตอยู่ แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยปรากฏตัวออกมาให้เห็นอีกเลยหลังเกิดเรื่องวุ่นวายคราวนั้น

     

    หลังเคว้งคว้างจนไม่เป็นทำอะไรอยู่นาน ทางเลือกของเขาก็มีเพียงการกลับมาอยู่ที่โบสถ์เดิมอีกครั้ง และมีเพียงบาทหลวงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ความลับทั้งหมด แต่ก็ยังให้การต้อนรับอย่างดี เขาใช้ชีวิตอยู่ในนามลูกชายของบาทหลวง ชาวบ้านในชนบทเองก็เข้าใจเช่นนั้น

     

    โชคชะตากลับเล่นตลกอีกครั้ง เมื่อคืนคริสมาสต์ของปีหนึ่งที่หิมะตกหนักจนท่วมหนา สีขาวโพลนปกคลุมพื้นที่ชานเมืองทั้งหมด วันนั้นลูฟี่เจอเด็กชายวัยประมาณห้าหกขวบกำลังนอนจมกองหิมะด้วยสีหน้าซีดเซียว เขากำลังนอนรอความตายหากไม่มีใครช่วยเหลือเสียก่อน

     

    ทูตสวรรค์ในรูปลักษณ์ของเด็กหนุ่มวัยยังไม่ถึงยี่สิบปีจึงมีหน้าที่เป็นเหมือนพี่ชายก็ไม่เชิง จะว่าเป็นพ่อก็ไม่ใช่เพราะเขาเองก็เด็กเกินไปที่จะเป็นแบบนั้น จะว่าเป็นผู้ปกครองก็คงไม่ผิดไปจากคำนิยามนั้นเท่าไรนัก

     

    และชื่อ ทราฟาลก้า ลอว์ คือชื่อที่บาทหลวงตั้งให้แก่เด็กชายคนนั้น

     

     

     

     

     

     

    เช้าวันใหม่ของทูตสวรรค์ถูกรบกวนด้วยแรงเขย่าและเสียงเรียกเล็กๆ ของเด็กคนหนึ่ง ร่างบางถูกดันหลังให้อยู่ในท่านั่งทั้งใบหน้างัวเงีย เด็กชายคนนั้นวิ่งไปหยิบเสื้อแขนยาวตัวหนึ่งมาสวมให้ ยัดแขนทีละข้างเข้าไป และออกแรงดึงคนตัวสูงกว่าให้เดินตามออกไปนอกประตู

     

    “ทำไมทำตัวเหมือนเด็กไม่โตซักทีอย่างนี้นะ วันนี้ต้องไปเป็นผู้ปกครองให้ฉันแท้ๆ” คนโดนว่าที่เพิ่งจะตื่นดีกระพริบตาปริบๆ เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังวิ่งออกไปตามท้องถนน

     

    “ทั้งที่รับปากกันไว้แล้วยังตื่นสายอีก”

     

    “นี่โทราโอะนายยังไม่ได้กินข้าวนี่” แต่ประโยคแรกที่เจ้าตัวพูดออกมาดันเป็นเรื่องกินเสียอย่างนั้น เจ้าของชื่อเพียงขมวดคิ้วยุ่งในขณะที่มือยังจูงคนอายุมากกว่าวิ่งไปด้วยกัน

     

    “ไว้ไปหาเอาหน้างานก็ได้น่า”

     

    ดวงตากลมโตของลูฟี่จ้องมองเด็กตรงหน้าด้วยความงุนงง เขากำลังโดนเด็กสิบขวบด่าว่าเป็นเด็กไม่โตหรอ

     

    เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะตั้งแต่เรื่องครั้งนั้นปกติแล้วลูกมนุษย์คนหนึ่งโตเร็วแบบนี้หรือเปล่า

     

    เขามองแขนขาของเจ้าตัวที่ยาวกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่โทราโอะโตขึ้นมากขนาดนี้ แม้ใบหน้านั้นดูกำลังรำคาญและเอาแต่บ่นเขาไม่หยุด แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกไป

     

    คิดมากไปเองล่ะมั้งพฤติกรรมของเจ้าตัวก็ดูสมวัยดี

     

    “ตัวนายจะสูงเท่าฉันอยู่แล้วนะ” ลูฟี่ว่าขณะเดินมาถึงหน้าโรงเรียนประถม พร้อมทำมือวัดส่วนสูงของคนทั้งคู่ที่ต่างกันเพียงช่วงหัว คนถูกพูดถึงทำหน้าสงสัยเล็กน้อย

     

    “ลูฟี่นั่นแหละตัวเล็กเกินไปแล้ว กินเยอะขนาดนั้นทำไมยังตัวแค่นี้” ว่าพร้อมยกแขนข้างหนึ่งของคนอายุมากกว่าขึ้น แขนของลูฟี่ผอมบางเสียจนกลัวว่าเผลอจับแรงแล้วจะหักเหมือนกิ่งไม้

     

    ก็เพราะว่าไม่เคยหิว และไม่มีวันเติบโตไปกว่านี้ เลยแสร้งกินเพื่อให้ดูเหมือนมนุษย์ทั่วไปอย่างไรล่ะ

     

    “อะไรของนายเนี่ย ฉันจับนายยกทั้งตัวด้วยมือเดียวยังได้เลยนะ” ตอบกลับไปพร้อมคิ้วเรียวที่ขมวดพันกันยุ่งเหมือนคนหงุดหงิด

     

    เพราะว่าเขามีร่างกายเพียงหนึ่งตั้งแต่แรกแต่เรื่องที่พละกำลังมากกว่ามนุษย์ปกติก็ยังไม่เปลี่ยนไป

     

    หลังจากคนทั้งคู่เข้ามายังห้องโถงกลางของโรงเรียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้พักหนึ่ง เบื้องหน้ากำลังจัดแสดงละครของเด็กประถมและลูฟี่ก็ดูจะเพลิดเพลินไปกับมัน ทราฟาลก้าก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าของคนข้างตัวพร้อมคำถามมากมายในหัว

     

    “นี่ลูฟี่ ทั้งที่ฉันโตขนาดนี้ ทำไมลูฟี่ถึงไม่เปลี่ยนไปเลยล่ะ” ดวงตากลมโตหันไปสบเข้ากับดวงตาสีทองของอีกฝ่าย เด็กน้อยเอาแต่จ้องนิ่งอย่างไม่รู้ความหมายจนคนอายุมากกว่าเป็นฝ่ายยอมแพ้หลบสายตาไปก่อน เขายกมือข้างหนึ่งมาดันหัวเด็กน้อยขี้สงสัยเบาๆ

     

    “เพราะอยู่ด้วยกันตลอด นายถึงไม่สังเกตว่าฉันเปลี่ยนไปต่างหากล่ะ” ใบหน้าหวานระบายยิ้มแห้ง

     

    “จะมาคิดอะไรเยอะแยะทำไม”

     

     

     

     

     

     

           แต่การเติบโตของทราฟาลก้า ลอว์กลับเร็วกว่าที่เขาคิด จนแม้แต่ลูฟี่ก็เริ่มรู้สึกแปลกใจ หลายครั้งที่เด็กน้อยต้องทรมานกลางดึกเพราะสรีระร่างกายที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้น เสื้อผ้าชุดที่เจ้าตัวใส่นอนกลายเป็นชุดเล็กคับภายในชั่วข้ามคืน

     

    ทูตสวรรค์ในร่างเด็กหนุ่มเริ่มแน่ใจแล้วว่าโทราโอะที่เขารู้จักอาจไม่ใช่มนุษย์

     

           สิ่งแรกที่อดนึกถึงไม่ได้คือปีศาจที่เป็นสาเหตุของเรื่องราวทุกอย่าง เพราะไม่ว่าเด็กคนนี้จะเติบโตขึ้นมากเท่าไร ใบหน้าของเจ้าตัวก็เหมือนกับเขาคนนั้นมากเสียจนช่วงหลังๆ เริ่มปฏิบัติตัวด้วยลำบาก

     

           แต่พอลองคิดทบทวนอีกครั้ง เด็กนี่ก็เข้าออกโบสถ์ได้ไม่เหมือนกับปีศาจที่รู้จัก และพันธะสัญญาที่สลักไว้ที่หลังคอของเขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใด มันคงจะเป็นความบังเอิญ

     

    ลอว์คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษบางอย่างที่แม้แต่ลูฟี่ก็ยังไม่รู้จัก เพราะโลกใบนี้กว้างขวางเกินกว่าที่เขาจะรู้

     

     

           การเติบโตของลอว์เป็นไปอย่างก้าวกระโดด จากเด็กตัวน้อยวันนั้นกลายเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ดูภายนอกอายุอานามก็เหมือนจะปาไปยี่สิบกว่าปีแล้ว ทูตสวรรค์ที่ไม่มีวันเติบโตสูงเพียงบ่าของเขาเท่านั้น

     

    ในเวลานี้ลูฟี่จึงดูเหมือนเป็นน้องของทราฟาลก้ามากกว่า และเจ้าตัวก็มีความรู้ความสามารถจนกลายเป็นหมอประจำโบสถ์ไปเสียแล้ว

     

    นานเท่าไรไม่รู้ที่ลงมาอยู่ในโลกมนุษย์ ทูตสวรรค์อย่างเขาก็จำไม่ได้


    แม้ตราพันธะสัญญาจะยังไม่หายไปแต่ภาพของปีศาจตนนั้นกำลังค่อยๆ ถูกลบไปอย่างช้าๆ

     

           จนกระทั่งวันคริสมาสต์ของปีนี้วนมาถึง โบสถ์แห่งนี้ที่เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของผู้คนได้จัดงานเหมือนกับทุกปี โถงกว้างประดับไปด้วยต้นไม้ที่มีชาวบ้านเอากล่องของขวัญและของเล็กๆ น้อยๆ มาประดับตกแต่ง อาหารและขนมถูกกะเกณฑ์มารวมกันเพิ่งแบ่งปันกันอย่างทั่วถึง

     

    ลูฟี่ยังคงเป็นศูนย์กลางของผู้คนเช่นทุกปี เขาอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเด็กๆ ที่มักจะเข้ามาฟังเรื่องเล่าสนุกๆ จากเจ้าตัว

     

    เพราะทูตสวรรค์มีหน้าที่มอบความสุขและชี้นำทางสว่างให้แก่ลูกแกะผู้หลงทาง และเด็กหนุ่มก็ยังทำเช่นนั้นตลอดมา

     

           แต่แล้วความรู้สึกหนึ่งก็เข้าโจมตีคนที่กำลังยิ้มแย้มให้อ่อนแอลงอย่างกะทันหัน เด็กหนุ่มรู้สึกออกร้อนไปทั่วตัวอย่างไม่มีสาเหตุ ก้อนเนื้อที่อยู่ใต้อกกำลังบีบรัดอย่างรุนแรงราวกับจะฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้

     

    กายบอบบางทรุดลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว สร้างความตกใจให้แก่ชาวบ้านไม่น้อย ลมหายใจของเจ้าตัวหอบเหนื่อยทั้งใบหน้าทรมาน เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามกรอบหน้าหวาน และอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้นราวกับไฟ

     

    มีเพียงหมอประจำโบสถ์เท่านั้นที่วิ่งเข้ามาคนแรก และอุ้มร่างผอมบางนั้นตรงไปยังห้องพยาบาล

     

           ลูฟี่ใช้เวลาทั้งวันอยู่บนเตียงของห้องพยาบาล ความรู้สึกออกร้อนไปทั้งตัวเล่นงานตลอดเวลาจนทำให้ไม่อาจข่มตานอนได้ ทั้งอย่างนั้นสติของเขาก็เลือนรางเกินกว่าจะจดจำรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ เห็นเพียงภาพของหมอหนุ่มที่วนเข้ามาเช็ดตัวให้เขาหลายครั้ง จนอุณหภูมิของร่างกายเริ่มกลับสู่ปกติ

     

           เปลือกตาบางเปิดขึ้นกลางดึกอย่างเชื่องช้า เขาชันแผ่นหลังบอบบางขึ้นนั่งด้วยความอ่อนแรง ดวงตาสีดำทอดมองออกไปนอกหน้าต่างที่เปลี่ยนเป็นความมืดมิดไปแล้วอย่างไม่มีความหมาย มองเห็นทั้งดาวทั้งดวงจันทร์ที่เด่นหลาท่ามกลางท้องฟ้ากว้าง

     

    มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาบีบนวดขมับที่เริ่มปวดตุบๆ พร้อมคิ้วเรียวที่ขมวดยุ่ง

     

    นี่มันเรื่องอะไรกันนะ ไหนว่าทูตสวรรค์ ต่อให้ถูกขับไล่ลงมาก็ไม่มีวันเจ็บป่วยไม่ใช่หรือ

     

    ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อตอนกลางวันมันราวกับวันนั้นที่โดนพรากปีกทั้งสองข้างไป ทรมานเหมือนจะตาย แต่สวรรค์ก็ไม่ได้ให้โอกาสตายกับเขา

     

    ตื่นแล้วหรอลูฟี่

     

    เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งที่เอ่ยทักทายทำให้ไหล่เล็กทั้งสองข้างสะดุ้งขึ้น เพราะมัวแต่คิดวุ่นวายอยู่ในหัว จึงไม่ได้ทันรู้ตัวเลยว่าในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงเขาแค่คนเดียว

     

    “โทราโอะ นายอยู่ด้วยตั้งแต่แรกหรอ” ทันทีที่ได้ยินเสียงเล็กตอบกลับ เจ้าของชื่อก็สาวขายาวๆ เข้ามาใกล้

     

    “ขอโทษทีนะที่วันนี้ฉันอ่อนแอชะมัด ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป

     

           เสียงเล็กของทูตสวรรค์เป็นอันต้องขาดห้วงไปเท่านั้น เมื่อร่างของคนตัวสูงกว่าที่เข้ามาใกล้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินลงง่ายๆ เขาโน้มตัวลงมาใกล้กับร่างบางที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียง แขนแกร่งทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาค้ำกับเตียงเอาไว้

     

           ใบหน้าคมคายแบบนี้ ดวงตาสีทองที่กำลังเปล่งประกายในยามค่ำคืนแบบนี้ ทั้งที่คิดว่าเคยลืมไปได้แล้ว ทำไมลอว์จึงเติบโตขึ้นมาหน้าเหมือนกับปีศาจตนนั้นได้มากขนาดนี้นะ

     

    “ลูฟี่ นายมีอะไรจะบอกฉันหรือเปล่า” เจ้าของชื่อไม่เข้าใจคำถามนั้น เขาเอนตัวหลบอีกฝ่ายที่ทำท่าจะเข้ามาใกล้กว่าเดิม

     

    “นายหมายถึงอะไร”

     

    แต่ยิ่งหนีก็ยิ่งหลบไม่พ้น ร่างที่สูงใหญ่โน้มตัวเข้ามาใกล้ขึ้นมากกว่าเดิมจนใบหน้าแทบจะชนกัน สภาพแบบนี้มันอะไรกันเนี่ย

     

    “ฉันเติบโตมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ นายอยู่ข้างฉันมาตลอด” ดวงตาสีทองของอีกฝ่ายจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขา นิ่งเสียจนคนถูกมองแสดงสีหน้ากลับไปไม่ถูก

     

    แต่ทำไมนายถึงไม่แก่ลงเลย”

     

    แขนข้างหนึ่งโดนฝ่ามือใหญ่กอบกุมเอาไว้แบบไม่ให้ทันตั้งตัว ลูฟี่สะดุ้งจนตัวโยน ดูเหมือนการสลัดให้หลุดออกจากพันธนาการนั้นจะไม่ประสบผลสำเร็จ

     

    “ทำอะไรของนายเนี่ยโทราโอะ”

     

    นายไม่ใช่มนุษย์ใช่ไหม

     

    ม่านตาสีดำของคนถูกกดดันขยายกว้าง บรรยากาศส่งให้เจ้าตัวไม่กล้าแม้แต่จะสบตาคนตรงหน้าที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก

     

    “พูดอะไรของนายฉันยังกินข้าว ฉันเหนื่อยได้ ไม่สบายได้ นายก็เห็นนี่” แม้คำพูดเหล่านั้นจะเอ่ยขึ้นทันทีเหมือนคนกำลังแก้ตัว แต่สิ่งที่ร่างบางกำลังเอ่ยก็เป็นความจริงทั้งหมด

     

    คนเป็นหมอจ้องนิ่ง ใบหน้าคมคายไม่ได้แสดงสีหน้าใด ในขณะที่เด็กหนุ่มตรงหน้าดูมีพิรุจอย่างเห็นได้ชัด

     

    “ลูฟี่ แต่นายไม่มีชีพจรแม้แต่ตอนนี้ที่ฉันจับแขนนายอยู่ก็ไม่มีชีพจรเลยซักนิด”

     

    ….

     

    “นายเป็นใครกันแน่”

     

           ดวงตาสีทองคู่นั้นดูกำลังเต็มไปด้วยคำถาม เขาไม่มีชีพจรอยู่แล้วตั้งแต่แรก ทั้งแบบนั้นแต่ก็แสร้งใช้ชีวิตเป็นมนุษย์มาโดยตลอดจนเวลาผ่านมานานขนาดนี้

     

           โทราโอะไม่ใช่เด็กน้อยในวันนั้นแล้วสินะ ในช่วงชีวิตที่เจ้าตัวเริ่มเติบโตตามกาลเวลา เขาก็คิดเอาไว้แล้วว่าซักวันคงเก็บความลับเรื่องที่ตัวเองไม่มีวันแก่ลงไว้ไม่ได้

     

    “รู้แล้วนายห้ามไปบอกใครนะ” ใบหน้าหวานขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยสีหน้ากังวล

     

    ฉันไม่ใช่มนุษย์จริงๆ อย่างที่นายคิด

     

    ไม่คิดว่าเวลาที่เคยกังวลจะมาถึงเร็วกว่าที่คิด

     

    แต่รอยยิ้มบนริมฝีปากได้รูปของชายตรงหน้าทำให้ทูตสวรรค์ต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ เป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่แปลกประหลาดเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้

     

    “ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว กว่านายจะยอมบอกกันได้ก็ป่านนี้เลยนะ” ลอว์ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว เขาเป็นชายหนุ่มที่เฉลียวฉลาด และรับรู้มาตั้งนานแล้วว่าคนข้างตัวที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคงไม่ใช่มนุษย์

     

    “นายแกล้งฉันนี่!” มือบางรีบดันใบหน้าคมคายที่ระบายยิ้มแปลกๆ ให้ห่างออกไป

     

    “หยุดเอาหน้ามาใกล้ซักที ฉันเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน” เรื่องที่เหนื่อยแล้วน่ะจริง แต่ก็นอนมาเยอะจนไม่ได้อยากนอนอีกแล้วแหละ

     

    ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่การพูดคุยกับคนตรงหน้าช่างทำได้อย่างยากลำบาก

     

    เพราะช่องว่างของช่วงอายุที่ต่างกันหรือเปล่านะ เด็กน้อยที่เคยเรียกเขาว่า ลูฟี่ ทุกคำพูดก็ยังเปลี่ยนสรรพนามไปแล้ว

     

    รูปลักษณ์ภายนอกของเจ้าตัวทำให้เขากลายเป็นเด็กกะโปโลแทน ยิ่งทำให้ปฏิบัติตัวด้วยลำบากขึ้นไปอีก

     

    “ถ้าไม่ใช่มนุษย์ แล้วนายเป็นอะไร”

     

    “ทูตสวรรค์โดนยึดปีกแบบที่เคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆ หรือเปล่า” ลูฟี่ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเกาหลังคอตัวเองด้วยสายตาเลิ่กลั่ก ยังอุตส่าห์จะจำได้อีกนะ

     

    “ใช่ แล้วนั่นก็เป็นเรื่องของฉันด้วย”

     

    พอความลับมาแตกแบบนี้ก็อายเหมือนกันแฮะเล่นเอาไม่กล้ามองหน้าเจ้าเด็กนี่เลย

     

    แต่ครั้นตวัดดวงตามองแค่แวบเดียว คนตัวสูงกลับยังไม่ยอมหุบยิ้มประหลาดๆ นั่น ซ้ำยังส่งเสียงหัวเราะในลำคอด้วยอีก มือหนาเลื่อนมาวางบนกลุ่มผมนุ่มของทูตสวรรค์ตรงหน้า ก่อนออกแรงขยี้จนคนตัวเล็กกว่าต้องมองค้อนกลับไปด้วยสายตาเจ้าเด็กนี่! อย่างไม่ยอมแพ้

     

    “นายยังไม่หายดี ยังไงคืนนี้ก็พักผ่อนก่อนเถอะนะ” มือข้างเดิมที่เคยขยี้หัวย้ายมาวางบนไหล่เล็ก ก่อนออกแรงดันให้เด็กหนุ่มตรงหน้าล้มตัวลงนอนอย่างแผ่วเบา แม้แผ่นหลังบางจะนอนราบไปกับเตียงแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมผละฝ่ามือออกไป

     

    ใบหน้าคมคายจ้องลูฟี่มาจากด้านบน มองกันด้วยดวงตาสีทองคู่นั้นอีกแล้ว

     

    “ฉันจะอยู่ข้างๆ นายทั้งคืนเอง”

     

    ยิ่งเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนจากอีกฝ่าย ยิ่งกระตุ้นให้คนหน้าหวานรีบหลับตาแน่น

     

    “ฉันจะนอนแล้ว!” เจ้าเด็กนี่ต้องกำลังตั้งใจแกล้งเขาแน่ๆ

     

    ทราฟาลก้าทำอย่างที่ปากของเขาว่าไว้ ร่างสูงโปร่งเพียงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ทูตสวรรค์ตัวน้อยจนเจ้าตัวผล็อยหลับไปเพราะความอ่อนเพลียจริงๆ คิ้วเรียวทั้งสองข้างคลายออกจากกันเพราะร่างกายที่เข้าสู่นิทรา

     

    นิ้วยาวของคนเป็นหมอปัดไรผมที่ร่วงลงมาปกคลุมใบหน้าหวานออก ก่อนพิจารณารายละเอียดบนนั้นให้ชัดเจนอย่างตั้งใจ เขาไล้ปลายนิ้วไปตามปลายจมูกรั้นก่อนที่รอยยิ้มบางๆ จะปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากได้รูปอีกครั้ง

     

    ทอดมองตราพันธะสัญญาที่สลักอยู่บริเวณหลังคอของร่างเล็กด้วยดวงตาสีทองคู่เดิมที่ในเวลานี้กำลังเปล่งประกายท่ามกลางความมืดมิด พร้อมๆ กับรายละเอียดบนผิวเรียบเนียนที่ค่อยๆ เรืองแสงขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

     

    ทุกอย่างมันเป็นไปตามความตั้งใจของเขาตั้งแต่แรก

     

     

    ลูฟี่เป็นของเขาคนเดียว และเป็นของเขาตลอดไป

     

     

      

     





    แวะเข้ามาอัพตอนพิเศษแล้วค่าา

    จะบอกว่าเนื้อหาตอนนี้แต่งง่ายมากก(ซะงั้น) พลอตไหลเข้าหัวเป็นฉากๆ เลยค่ะ
    อาจจะเพราะเคยร่างเอาไว้สั้นๆ พอหยิบมาต่อยอดมันก็เลยเขียนได้ไว

    เกือบจะแปะไว้บนหัวตอนแล้วว่าลูฟี่อาจจะหลุดคาแรคเตอร์ได้
    แต่พอจบตอนจริงๆ มันก็ไม่หลุดหรอกเนาะ เพราะพี่หมอเราออกจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้555555
    มันช่างกร๊าวใจเหลือเกิน อยากลองแต่งลอว์เป็นปีศาจซักเรื่องดูค่ะ
    เสียดายที่เป็นเรื่องสั้นตอนเดียวจบเนอะ;-;

    สำหรับตอนหน้าเป็นคิวของฟิค Akaito ที่ค้างคากันมานานซักทีค่ะ
    สารภาพว่ายังวางพลอตไม่เสร็จเพราะมีแนวโน้มว่าจะยาวมาก
    อาจจะพิจารณาไปลงในบทความแยกอีกที
    ถ้ายังไงเดี๋ยวไรเตอร์จะมาอัพเดตนะคะ

    ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้ค่ะ 2000 กว่า Favorites แล้ว ♥
    จะเข้ามาอัพฟิคอีกเรื่อยๆเท่าที่ใจอยากทำเลยค่ะ เพราะไรเตอร์รักลูฟี่มากๆ และลูฟี่จะเป็นน้องน้อยของทุกคนเสมอไป 

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×