คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ◣Fanfic◥ [Lawxluffy] Kamisama no purezento (One shot)
Pairing: Law x Luffy
Rate: PG-13
Writer: PINKUHERO
Part: 1/1
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มันคงจะเป็นวันปกติ... คงเป็นวันที่กิจวัตรประจำวันของผมมันวนซ้ำอยู่ที่เดิม
ใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป
เป็นคนธรรมดาที่หาได้ตามท้องถนน
มันคงจะเป็นแบบนั้น...
ถ้าไม่มี 'สิ่งนั้น' เข้ามาในชีวิต...
6/10/xx
วันนี้เป็นวันเกิดของผม
ตอนสายของวันที่แสนน่าเบื่อ ดวงอาทิตย์สาดแสงจ้าตอนรับวันใหม่
ฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยต้นไม้หลากสี บรรยากาศตอนนี้ก็คงจะเรียกได้ว่า อบอุ่น
ล่ะมั๊ง
ผมพาร่างของตัวเองออกมาจากห้องนอนที่ไร้การตกแต่งใดๆ
เป็นอีกวันที่ต้องหยุดนอนอยู่บ้านเฉยๆเพราะไม่มีเรียน
มือของผมเลื่อนไปเปิดตู้สีขาว หยิบเอาอาหารชั้นเลิศที่เรียกว่า 'ราเม็ง' ออกมาเติมน้ำร้อน
รอซักสามนาทีก็จะได้มื้อเช้า ว่าแล้วก็พาร่างตัวเองไปนั่งยังหน้าโทรทัศน์อย่างปกติ
กิ๊ง
ก่อง ~~
โทรทัศน์ช่องเดิมถ่ายทอดละครรักกุ๊กกิ๊กที่ผมไม่เคยสนใจ
จังหวะที่กำลังจะกดเปลี่ยนช่องนั้น เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ
น่าแปลกที่วันนี้บุรุษไปรษณีย์มาทำงานช้ากว่าปกติ เพราะผมไม่เคยจะตื่นทันได้เห็นหน้าของเขาเลยซักครั้ง
น่าตื่นเต้นดีนะ... สำหรับคนอย่างผมที่แม้แต่วันไปเรียนก็ยังตื่นสายเนี่ย
จนกระทั่งเมื่อผมมาหยุดอยู่หน้าประตู
จังหวะที่กำลังจะเปิดประตูมันทำให้รู้สึกใจเต้นตุบตับแปลกๆ
สาบานว่าผมไม่ได้หวั่นไหวกับคนส่งไปรษณีย์เลยซักนิด
แต่เพราะบรรยากาศข้างนอกมันเงียบเกินไปต่างหาก
และแล้วผมก็รู้ว่าหน้าห้องมันไม่ได้มีอะไรอยู่เลยตั้งแต่แรก
กระแสลมที่ไม่รู้มาจากไหนพัดโกรกผ่านหน้าผมไปจนรู้สึกหนาววาบขึ้นมาแปลกๆ
ใบไม้ที่ร่วงลงมาปลิวว่อนไปทางเดียวกัน นี่ผมเบลอขนาดหูฝาดไปเลยหรือไง
ไร้สาระชะมัด...
แอด...
“ งือ... ” พอจะปิดประตู
อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาทำให้ผมชะงักกึก
เหมือนกับว่าไม่อยากให้ผมเดินออกไปจากประตูนี่
จุดบอดของสายตาที่ผมมองข้ามไปก็คือด้านล่าง
เสียงเล็กๆดังมาจากตรงนั้น มันเหมือนกับกล่องใส่พัสดุใหญ่ๆอย่างพวกโทรทัศน์
ผมคงจะดีใจมากหากมันเป็นรางวัลที่เคยส่งชิงโชคไป
แต่ข้างกล่องมันบังเอิญมีกระดาษแผ่นหนึ่งแปะเอาไว้ว่า 'ช่วยเลี้ยงด้วยนะคะ' ด้วยน่ะสิ
ให้ตายสิ... เดี๋ยวนี้เจ้าของพากันไร้ความรับผิดชอบหมดเลยหรือไงกัน
แถมยังลงทุนเอามาวางไว้หน้าห้องของผมที่อยู่ตั้งชั้น 2 อีกต่างหาก
กล่องใหญ่ขนาดนี้จะมีแมวซักกี่ตัวกัน... ห้องผมไม่ได้มีที่สำหรับเลี้ยงมันเยอะขนาดนั้นหรอกนะ
หา!!
นั่นแมวหรอ!! ไม่ใช่... ที่อยู่ในนั้นน่ะ
มันเป็นแมว.. ไม่สิ เป็นคน!!
เด็กหนุ่มตัวเล็กคนหนึ่งนอนขดอยู่ในนั้นเหมือนกำลังหลับสนิท
บนหัวมีสิ่งที่งอกขึ้นมาที่เหมือนกับ 'หู' และที่สำคัญ สิ่งที่กองอยู่ข้างๆกับต้นขาของเขานั่นน่ะมัน 'หาง' ไม่ใช่หรือไงกัน!!
ผมเข้าใจนะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของผม...
ดูยังไงนี่มันก็เป็นการแกล้งกันชัดๆ
หูกับหางนั่นมันจะเป็นของจริงได้ยังไงกัน
ใครกันที่บังอาจมาเล่นตลกร้ายกับผมแบบนี้....
7/10/xx
เพราะเจ้านั่นทำให้ผมขาดเรียน
กลางดึกของวันใหม่ ในขณะที่ผมกำลังหลับสบายใต้ผ้าห่มผืนโปรด
อยู่ๆผมก็รู้สึกว่าที่นอนมันแคบผิดปกติ
ที่จริงตัวผมมันไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้นแบบเดอะฮัคส์หรอกนะ
มีอะไรก็ไม่รู้มายุกยิกยุกยิกอยู่ข้างๆผม
เหมือนกำลังจะเบียดเข้ามาหาความอบอุ่นยังไงยังงั้น
และแล้วบางสิ่งก็ทำให้ผมนึกออก
พอรู้สึกตัวผมก็รีบเด้งตัวออกจากที่นอนในทันที
ผมวิ่งไปเปิดไฟและไม่ลืมที่จะกระชากผ้าห่มผืนนั้นออกอย่างไม่ใยดี
เป็นอย่างที่คิด... เจ้าสิ่งที่นอนขดอยู่บนเตียงของผมนั่นน่ะมันเป็นเด็กคนนั้นที่เคยนอนอยู่ในกล่อง
จริงๆแล้วตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะสนใจอะไรหรอก
กะจะปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นหรือไม่ก็จับโยนลงแม่น้ำไปแล้ว
ถ้าคนที่อยู่ห้องข้างๆไม่บังเอิญเดินขึ้นมาพอดี
แล้วยังมองหน้าผมเหมือนคนโรคจิตอีกด้วยน่ะ...
แล้วอะไรของมันล่ะเนี่ย... เสื้อผ้าอะไรก็ไม่ใส่มาเลยซักนิด
เพราะอากาศตอนดึกๆนี่มันหนาวสินะ ถึงได้มาหาที่ซุกแบบนี้
พอกันที... ไม่รู้หรอกนะว่าต้องการอะไรจากผม
แต่เลิกเล่นแบบนี้ซักที
“ งือ.. ” ผมตัดสินใจหิ้วปีกเจ้าเด็กนั่นออกมา
เขาดิ้นขลุกขลักและยังส่งเสียงร้องออกมาเหมือนแมวไม่มีผิด เนื้อตัวมอมแมมชะมัด
อย่างกับไปคลุกดินที่ไหนมา ปลุกขนาดนี้ก็ยังไม่ยอมตื่น ขี้เซายิ่งกว่าแมวตัวจริงซะอีก
ถึงจะน่ารักยังไงผมก็ไม่สนใจหรอกนะ ถ้าจะมาทำให้ผมปวดหัวแบบนี้น่ะ...
ซ่า!!
“ แง่ว! แง่ว! ” เจ้าเด็กนั่นดิ้นไม่ยอมหยุดหลังจากที่ผมเอาฝักบัวมาจ่อ
แต่ก็ยังสู้แรงผมที่ล็อกแขนเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี กลัวน้ำไม่พอ ยังทำท่าสลัดขนด้วยอีก
จนทำให้ตอนนี้ตัวผมเปียกไปหมดแล้ว
คิดบ้าอะไรอยู่กันเนี่ย... เลิกเล่นเป็นแมวได้แล้ว
ตู้ม!!
ในที่สุดความอดทนมันก็หมดลง
ผมเหวี่ยงเจ้านั่นลงไปในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำเปิดเอาไว้รออยู่แล้ว
ในที่สุดก็ยอมสงบซักทีสินะ เสียงเล็กๆนั่นกำลังสำลักน้ำออกมาไม่หยุด
มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาขยี้ตากับจมูกพัลวัน
“ ค..แค่ก ท..ทำอะไรของนายน่ะ!
”
หืม... พูดได้ด้วยงั้นหรอเนี่ย นั่นสินะ... ก็นายมันไม่ใช่แมวซักหน่อย
“ เพราะนายทำให้ฉันเปียกไงล่ะ... บอกมาว่านายต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ” ผมบีบแชมพูและขยี้หัวเจ้านั่นอย่างหมั่นไส้
และแน่นอนว่าเขาก็ต้องดิ้นซะจนฟองมันกระเด็นมาโดนตัวผมเต็มไปหมด
เจ้าเด็กนี่นี่นะ...
“ เอาออกไปนะ! เอาฉันออกไปจากอ่างนี่ด้วย!!
” เขาตะโกนลั่น มือก็ตีน้ำวุ่นวายไปหมด
สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างกับคนอาบน้ำใหม่เลยซักนิด เพราะเสียงโวยวายนี่
มันจะทำให้คนห้องข้างๆตื่นขึ้นมาด่าผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ นี่มันกลางดึกนะ...
เพราะดิ้นไปดิ้นมานั่นแหละ ฟองแชมพูมันถึงได้ไหลเข้าตาหมดแล้ว
ไม่รู้ว่าผมเป็นผู้ช่วยชีวิตหรือพี่เลี้ยงเด็กกันแน่
รู้สึกเหมือนกำลังดูแลเด็กอยู่ไม่ผิดเลย....
หลังจากที่จัดการกับฟองที่เข้าตาออกไปได้เรียบร้อยแล้ว
ผมก็เอื้อมมือไปดึงหูแมวข้างหนึ่งที่แสนจะเกะกะลูกตาออก
แต่สิ่งที่ได้กลับมานั่นกลับเป็น...
“ โอ๊ยยยยย!! เจ้าบ้า! มันเจ็บนะ!! ”
และตอนนั้นเอง... ผมถึงได้รู้ว่า
หูกับหางที่ติดมากับเจ้านั่นน่ะ...มันเป็นของจริง...
14/10/xx
เจ้านั่นทำตัววุ่นวายชะมัด...
หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เจ้าแมวบ้านั่นมาอยู่ด้วย อืม... มันทำให้ผมทำอะไรลำบากขึ้นเยอะ
เวลาจะไปเรียนก็ต้องสั่งให้เขาอยู่เฝ้าบ้านเฉยๆ
พอกลับมาก็จะเจอกับสภาพห้องที่เละเทะไม่เป็นท่า และถ้าวันไหนมีอาหารติดมือกลับมา
เขาก็จะกระโจนเข้ามากอดแบบไม่ทันตั้งตัว
จะว่าไปเมื่อวานเจ้านั่นก็มาเลียหน้าผมด้วยนี่นา เลยจัดด่าไปฉาดใหญ่เลย... เล่นหงอยไปพักใหญ่เลยล่ะ
ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องรู้สึกใจเต้นแปลกๆกับเจ้านี่ด้วยก็ไม่รู้
ทั้งๆที่มันน่ารำคาญขนาดนั้นแท้ๆ
กับเจ้านั่นถ้าดุใส่หน่อยก็จะยอมพูดแบบคนปกติ
จนกระทั่งตอนนี้ผมได้ข้อมูลมาเพียงคร่าวๆ ชื่อของเขาก็คือ'ลูฟี่' ส่วนเรื่องหูกับหางและประวัติก่อนหน้านี้นั้น
เหมือนเจ้าตัวจะจำอะไรไม่ได้ซักอย่าง
วันนี้ผมซื้อปลาซาบะกลับมา 2 ตัว
เจ้าเด็กนั่นชอบกินปลาอย่างที่แมวเป็นจริงๆ แต่จะว่าไป... ความจริงเขาก็กินได้ทุกอย่างนั่นแหละ แถมยังกินเยอะชะมัดเลยด้วย
แต่ดูเหมือนคงจะชอบปลาที่สุดอยู่ดีล่ะนะ ...
ผมสอนวิธีใช้ของต่างๆในบ้านกับเขาทุกอย่าง ถึงแม้ภายนอกจะดูเป็นคน
แต่ที่จริงแล้วเขากลับใช้อะไรไม่เป็นซักอย่าง ตั้งแต่โถปัสสาวะไปจนถึงช้อนกินข้าว
อ้อ... เจ้าเด็กนี่มีแปรงสีฟันแล้วด้วยนะ
กว่าจะใช้เป็นก็เล่นยากเอาเรื่องเหมือนกัน
ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบแปรงฟันซักเท่าไรแฮะ...
เฮ้อ... นายน่ะเป็นใครกันแน่นะ...
หวังว่าคงไม่ใช่มิจฉาชีพมาหลอกฉันหรอกนะ...
23/10/xx
มันต้องไม่เป็นแบบนั้นแน่ๆ
เอ๊ะ... ช่วงนี้ผมบันทึกน้อยลงอย่างงั้นหรอ.. เฮ้อ..ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย งานที่มหา'ลัยก็เยอะเป็นบ้า แถมกลับบ้านก็ยังต้องมาดูแลเจ้าแมวนี่อีก
นับวันเขาก็ยิ่งกินเยอะขึ้นทุกที
แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเขาเอาท้องที่ไหนไปเก็บ ถึงได้ไม่อ้วนเลยซักนิด
เพราะว่าวันนี้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ ถึงจะเหนื่อย
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงได้นึกสงสารเจ้าเด็กนี่ขึ้นมา
ผมตั้งใจจะพาเขาออกไปเดินเล่นข้างนอก โดยให้สวมหมวกฟางพรางหูแมวเอาไว้
กับเสื้อกั๊กและกางเกงขาสั้นแบบเด็กๆ
โดยไม่ลืมที่จะให้เขาเก็บหางเอาไว้ในกางเกงให้มิด
“ นี่ๆ
โทราโอะ ทำไมถึงต้องใส่ชุดนี้อ่ะ ? ”
'โทราโอะ' นั่นแหละคือชื่อที่เขาเรียกผม
ทั้งๆที่จริงแล้วชื่อที่แสนจะเพอร์เฟคของผมก็คือ 'ทราฟาลก้า
ลอว์' แท้ๆ แต่พอสอนให้เรียกหลายครั้งต่อหลายครั้ง
เจ้านี่ก็ทำท่าเหมือนลิ้นพันกัน สุดท้ายก็ได้แต่เอียงคอเรียกผมว่า 'โทราโอะ'
ช่วยไม่ได้ล่ะนะ... ผมคงต้องยอมให้เขาเรียกแบบนั้น
เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องแพ้ให้กับท่าเอียงคอที่หูกระดิกไปพร้อมกันน่ะ.... ผมคงจะบ้าไปแล้วแน่ๆ
จะว่าไปเขาก็ยังไม่รู้สินะว่าผมจะพาไปที่ไหน...
“ แล้วนายชอบชุดนี้หรือเปล่าล่ะ?
”
“ ชอบสิ!! ชอบ!! ใส่สบายมากๆเลยล่ะ!
” เขาพูดพร้อมกับยิ้มร่า
หยิบหมวกที่สวมอยู่บนหัวลงมามองด้วยตาเป็นประกาย
โดยไม่ได้ทันรู้สึกตัวว่าหูกับหางมันกำลังกระดิกเบาๆ
หารู้ไม่ว่าไอท่าทางแบบนี้น่ะ... มันจะน่ารักเกินไปแล้ว
ฟลุบ!
“ ถ้างั้นวันนี้ฉันจะพานายออกไปข้างนอก... จะไปมั๊ย ” ผมรีบคว้าหมวกจากมือมาสวมหัวของเขา พร้อมกับเปิดประตูห้องรอการตัดสินใจ
ไม่อยากให้ใครมาเห็นสีหน้าของผมตอนนี้เลย... ให้ตายสิ
นี่ผมกำลังเป็นอะไรไปนะ... ไม่อยากจะคิดเลย
“ ไปสิ!! นายจะพาไปจริงๆหรอ! ”
เจ้าแมวบ้า... ถ้าเกิดว่านายมาหลอกฉันจริงๆ
ฉันจะฆ่าให้ตายเลยคอยดูสิ...
31/10/xx
เป็นปีศาจแมวที่น่ารักที่สุดเลยล่ะมั๊ง...
วันนี้เป็นวันฮาโลวีนนี่นะ... เจ้าแมวบ้านี่ดูจะตื่นเต้นกับวันนี้ซะเหลือเกิน
คะยั้นคะยอจะให้ผมพาออกไปเดินเที่ยวในเมืองตอนกลางคืนให้ได้
เห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วล่ะ... ในเมืองติดไฟประดับไว้เพียบเลย
แถมยังมีพวกฟักทองกับรถม้าอีกต่างหาก
บ้าชะมัด... ทำไมผมจะต้องมาแต่งตัวด้วยก็ไม่รู้
ลุ่มล่ามชะมัด แวมพงแวมไพร์อะไรกัน
ตอนออกจากบ้านมาผมก็เผลอเอาหมวกไปสวมให้เจ้านั่นหลายครั้งอยู่เหมือนกัน
ลืมไปซะสนิทว่าตอนนี้อยู่ในงานฮาโลวีน จะมีหูมีหางก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ดูเขาจะตื่นเต้นกับงานนี่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะวิ่งเข้าใส่ร้านขายอาหารอยู่ดีสินะ...
เหอะ... ปีศาจแมวงั้นหรอ
คงเป็นปีศาจแมวที่น่ารักที่สุดเลยล่ะมั๊ง...
19/11/xx
วันนี้เป็นวันที่งานยุ่งที่สุดในรอบปี
ตั้งแต่เข้าเดือนพฤศจิกายนมานี่ ผมไม่ค่อยมีเวลาได้บันทึกอะไรเลยแฮะ
ช่วงนี้อาจารย์เอะอะอะไรก็สอบท่าเดียว
บางวิชาก็ให้งานกันแบบไม่เกรงใจเวลาอ่านหนังสือกันบ้างเลย
ผมก็เลยต้องมานั่งอ่านหนังสือดึกๆทุกวัน
แต่มีคนอยู่เป็นเพื่อนด้วยแบบนี้ก็คงไม่ขาดอะไรอีกแล้วล่ะ....
ผมเช่าหนังมาให้เขาดูแก้เบื่อตอนที่กำลังอ่านหนังสือ หมอนี่น่ะ
เวลาเปิดโทรทัศน์ เขาจะนั่งอยู่กับมันได้ทีละหลายๆชั่วโมงเลยทีเดียว
เรียกว่าเหมือนกับเด็กไม่มีผิดเลยใช่มั๊ยล่ะ? อาจจะเป็นการสอนให้เขาเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบมนุษย์ไปในตัวได้เลยล่ะมั๊ง
เวลาที่ดูข่าวหรือละครต่างๆ... .
มีช่วงหนึ่งที่เขาลุกออกไปจากหน้าจอโทรทัศน์
เพราะคิดว่าคงจะไปเข้าห้องน้ำผมเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
แต่มันก็นานเกินไปจนผมรู้สึกแปลกใจ
เสียงถ้วยชามกระทบกันดังมาจากครัวที่อยู่ด้านหลัง ถ้าคิดไม่ผิด...เขาคงคิดจะทำอะไรแปลกๆอีกแน่ๆ
พอผมคิดจะเดินออกไปดู
ก็เห็นเขาเดินออกมาพร้อมแก้วเซรามิคมีหูในมือข้างละแก้ว
ควันสีขาวลอยออกมาจากสิ่งที่บรรจุอยู่ข้างใน
หน้าของเจ้าแมวนี่เลอะไปด้วยคราบเขม่าสีดำ
ไม่นานนักเขาก็ยกแก้วทั้งสองใบมาวางตรงหน้าผม
โกโก้กับนมสดงั้นหรอ?
“ นายทำมาให้ฉันหรอ...? ” เขาพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ
นึกแล้วก็อดขำไม่ได้ เขาทำเป็นด้วยหรอเนี่ย
“ ฉันก็ดูจากตอนที่นายทำไงล่ะ...
” ก้มหน้างุดพร้อมกับซ่อนอาการเขินเอาไว้
หน้านี่แดงไปถึงใบหูแล้วนะเจ้าแมวบ้า นายนี่มันน่ารักชะมัด...
ไปทำอะไรพังอีกหรือเปล่าล่ะเนี่ย...
“ กินสิ... ฉันอยากรู้ว่ามันอร่อยมั๊ย ”
เขาว่าพร้อมกับยกนมสดที่เหมือนจะเทมาจากกล่องขึ้นมาซดเบาๆ
โดยที่สายตาไม่ได้ละออกไปจากใบหน้าของผมเลยซักนิด
แบบนั้นน่ะกำลังหวังคำตอบจากผมสุดๆเลยไม่ใช่หรือไง....
ผมยกโกโก้แก้วที่เหลืออยู่ขึ้นมาจิบเล็กน้อย
แต่มันก็อดไม่ได้ที่รู้สึกอยากจะพ่นออกไปเสียตรงนั้น
หวานชะมัดเลย... ใส่น้ำตาลเข้าไปเยอะแค่ไหนล่ะเนี่ย
ผมยกมือขึ้นไปขยี้ผมยุ่งๆของเขาอย่างรู้สึกเอ็นดู
กับคนที่ตั้งใจทำมาให้แบบนี้จะไปว่าได้ยังไงกัน
แล้วก็อย่ามาทำหน้าแดงแบบนั้นใส่กันนะ
แบบนั้นน่ะมันน่ารักสุดๆเลยไม่ใช่หรือไงกัน...
“ ขอบใจมากนะ... อร่อยมากเลยล่ะ ”
“ อื้อ!
” เขายิ้มกว้างซะจนตาหยี ทำให้ผมอดยิ้มตามไปไม่ได้เลยทีเดียว
หึ... โกโก้เขาเอาไว้กินก่อนนอนนะเจ้าบ้า... ฉันน่ะยังต้องอ่านหนังสืออีกเยอะเลย
เวลาผ่านไปนานจนกระทั่งหนังในแผ่นนั้นจบลง
เจ้าแมวนั่นที่ท่าทางจะงัวเงียน่าดูพาร่างตัวเองมานอนข้างๆกับผม
นาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาตีหนึ่งครึ่ง ผมจึงเอื้อมไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้
เวลานอนเขาเองก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากแมวดีๆตัวนึงนี่เอง
ขดตัวจนแทบจะกลมแบบนั้นไม่เมื่อยบ้างหรือไงนะ...
ผมพาร่างของตัวเองเข้าไปสำรวจความเสียหายในครัว มีแก้วแตกไปซักประมาณ 2-3 ใบได้ แถมหม้อต้มน้ำก็ยังไหม้อีกต่างหาก มิน่าล่ะ... หน้าของเขาถึงได้มีแต่เขม่าดำๆนั่น
พอจัดการกับเศษแก้วทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
ผมก็อุ้มร่างของคนตัวเล็กขึ้นไปไว้บนเตียง เช็ดรอยเปื้อนบนหน้าออกจนหมด
ถึงจะดูฉวยโอกาสไปซักหน่อย... แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะจุมพิตลงไปที่ริมฝีปากบางๆนั่น
ราตรีสวัสดิ์นะเด็กน้อย... นายน่ะมัน ชักจะน่ารักขึ้นทุกวันเลยนะ
สิ่งที่ผมจะไม่มีวันเสียไปอย่างเด็ดขาด
ก็คงจะเป็น 'เขาคนนี้' ล่ะมั๊ง...
แมวตัวหนึ่งที่ผมเจอในกล่องหน้าห้องในวันเกิดที่แสนจะธรรมดา...
เหมือนกับเขามาเปลี่ยนชีวิตที่แสนซ้ำซากของผมให้พิเศษกว่าเดิม...
จริงๆแล้วผมก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพระเจ้าซักเท่าไรหรอกนะ...
แต่เขาคงจะเป็น 'ของขวัญจากพระเจ้า' ที่เอ็นดูคนธรรมดาๆอย่างผม
และก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ผม 'รัก' เข้าซะแล้วล่ะ...
ความคิดเห็น