ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ [One Piece] Straw hat & 7 huntsmans !? [Yaoi] [END]

    ลำดับตอนที่ #3 : Page II : Rumor

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.96K
      87
      24 เม.ย. 65



     


     

     

    “ คราวหน้าอยากได้อะไรก็มาทำงานที่นี่เลยสิ เอาไว้ฉันจะแบ่งไว้ให้ทุกวัน ”

      

    “ เห... จริงหรอป้า! ก็น่าจะบอกอย่างนี้ตั้งนานแล้วนี่นา ” 

     

         ปากก็ว่าไปในขณะที่มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยสัมภาระจำนวนมากมาย สุดท้ายเด็กหนุ่มร่างเล็กก็ต้องมาช่วยงานเป็นค่าตอบแทนสำหรับอาหารที่ตนขโมยไป เขาคิดว่าขืนมาทำงานแบบนี้อยู่ตลอดเวลา คงไม่พ้นอาหารหายไปหมดด้วยฝีมือตัวเองและโดนไล่ออกอยู่ดี เพราะแบบนั้นลูฟี่ถึงสนุกกับการได้เข้าไปล่าสัตว์ในป่ามากกว่า 

     

         ผู้คนในหมู่บ้านนี้มักจะอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวใหญ่ๆ ลูฟี่เติบโตมากับการที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาพ่อแม่ เพื่อนๆของเขาหลายคนใช้ชีวิตร่วมกันมาแบบนั้น ถึงจะชอบมาป่วนที่ตลาดอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร 

     

         ร่างเล็กขนย้ายกล่องลงไปวางยังพื้นตามที่แม่ค้าวัยกลางคนสั่ง เขามีร่างกายบอบบางแต่กลับแรงเยอะผิดกับรูปร่าง กล่องจำนวนไม่น้อยถูกขนย้ายไปในเวลาไม่นานนัก นั่นก็หมายความว่างานในวันนี้ได้เสร็จลงแล้ว 

     

    “ เอ้านี่! ค่าจ้างสำหรับวันนี้ คราวหลังถ้าอยากได้อาหารก็มาทำงานกับพวกฉันเอาแล้วกัน ” 

     

         มืออวบอูมของหญิงสาวยื่นอาหารจำนวนหนึ่งให้กับเด็กหนุ่ม เขารับมันมาอย่างงงๆ ก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหวาน มือเล็กจับหมวกฟางใบเก่าที่ห้อยเอาไว้ที่คอตลอดเวลาขึ้นมาสวม กล่าวขอบคุณและเดินตรงกลับไปยังที่พักของตัวเอง มันเป็นเพียงบ้านหลังเก่าสภาพโทรมๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็อบอุ่นพอแล้วสำหรับเขา

      

    “ อ๊า..! กลับมาพอดีเลยลูฟี่ ดูนี่สิว่าฉันได้อะไรมา! ” 

     

         เสียงทุ้มน้อยๆทักขึ้นทันทีที่ลูฟี่ก้าวเดินมาหยุดยังบ้านหลังนั้น ด้านหน้ามีท่อระบายน้ำสภาพเก่าๆไม่ได้ใช้งานวางซ้อนทับกันอยู่ ดวงตากลมโตเลื่อนไปมองยังต้นเสียง ก่อนพบกับร่างของเด็กหนุ่มอีกคนนั่งอยู่บนท่อระบายน้ำนั้น ในมือเจ้าตัวมีเหรียญจำนวนหนึ่งที่แบ่งออกมาจากถุงใส่เหรียญเล็กๆซึ่งวางอยู่ข้างกัน เขาเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างผอมแห้ง ผิวสีแทน ผมหยิกฟูสีดำยาวประบ่าถูกสวมทับด้วยหมวกสีขาว สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดคงหนีไม่พ้นจมูกที่ยาวออกมาอย่างแปลกประหลาดของเจ้าตัว 

     

    “ เร็วๆนี้ฉันกำลังจะออกเดินทาง นายเองก็ตัดสินใจได้แล้วนะว่าจะทำยังไงต่อไป ” 

     

    “ อื้อ… อะนี่... วันนี้ฉันได้อาหารนี่มาล่ะ นี่ส่วนของนาย อุซป ” ลูฟี่พยักหน้ารับพร้อมแสดงสีหน้าลำบากใจออกมาเพียงครู่หนึ่ง ร่างเล็กก็เดินไปยื่นอาหารที่เพิ่งได้มาให้กับอีกคน 

     

         ลูฟี่กับอุซปเติบโตมาด้วยกันในหมู่บ้านแห่งนี้ พวกเขาจึงเป็นเหมือนทั้งพี่น้องและเพื่อนไปในคราวเดียวกัน บ้านหลังนี้เป็นดั่งสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าเล็กๆที่ไม่ได้มีผู้ดูแลที่แน่นอน ชาวบ้านผลัดกันมาดูแลเด็กๆตามที่เวลาของพวกเขาจะเอื้ออำนวย ถึงจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆโทรมๆ แต่ก็มีความอบอุ่นมากกว่าที่มองเห็นจากภายนอก

      

         พวกเขาเติบโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว หลายๆคนมักจะเลือกประกอบอาชีพที่ตนสนใจ หรือไม่ก็ออกเดินทางไปยังเมืองอื่น อุซปมีความสามารถในการเล่าเรื่องโกหกได้อย่างลื่นไหล และเขาก็ใช้ความสามารถนั้นในการหาเงิน เร็วๆนี้เด็กหนุ่มจมูกยาวตัดสินใจว่าจะออกเดินทางไปสู่เมืองอื่นเพื่อหาทางทำเงินให้กับตนเอง ส่วนลูฟี่นั้น ถึงจะอยากออกเดินทางเหมือนกัน แต่เขาก็ยังไม่มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ…

      

    “ นายอย่าเอาแต่ผักเพราะกินส่วนที่เป็นเนื้อหมดแล้วมาให้ฉันเซ่!!” คนจมูกยาวโวยวาย ก่อนที่ลูฟี่จะเพียงแค่หัวเราะ    ชิชิกลับมาเป็นคำตอบให้อีกฝ่ายโมโหเล่น

      

    “ อ้อจริงสิ! ได้ยินข่าวมาว่าแถบๆชายหาดมีพวกโจรสลัดขึ้นฝั่งมาด้วยล่ะ ช่วงนี้นายก็พยายามขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเอาก็แล้วกัน ” 

     

         พอนึกถึงเรื่องที่ได้ยินมา คนผิวแทนก็หน้าซีดลงอย่างชัดเจน หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่แถบชายทะเล และมักจะตกเป็นเป้าหมายของโจรสลัดและโจรภูเขาได้ง่าย คราวที่แล้วลูฟี่เองก็เพิ่งจะไปหาเรื่องกับโจรภูเขาที่ร้านผลไม้มาหมาดๆ คราวนี้ดันมีข่าวของโจรสลัดเข้ามาอีก ...เด็กหนุ่มอย่างพวกเขาไม่ได้มีทรัพย์สินมากมายพอที่จะให้ใครมาปล้นได้

      

    “ เห...งั้นหรอ ” 

     

         พอประโยคนั้นกล่าวจบลง เจ้าของใบหน้าหวานก็เผยรอยยิ้มออกมาแทบจะทันที ส่งให้อุซปรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เวลาที่ลูฟี่ทำสีหน้าแบบนี้ออกมาทีไร แสดงว่าเจ้าตัวจะต้องวางแผนอะไรซักอย่างไว้ในหัวแน่ๆ

     

      

     

     

     

         ใจกลางป่าทึบที่ต้นไม้สูงใหญ่พอที่จะบดบังแสงอาทิตย์จนเกือบมิด ส่งให้พื้นด้านล่างมีเพียงไม้พุ่มเตี้ยเกิดเป็นหย่อมๆ และอากาศเย็นสบายถึงแม้จะเป็นเวลากลางวัน ถัดออกไปไม่ไกลมีพื้นที่ติดต่อกับชายหาดสีฟ้าครามกว้างสุดลูกหูลูกตา เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังให้ได้ยินอยู่เป็นระยะๆ อีกนัยหนึ่งก็นับว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจไม่น้อย

      

         ร่องรอยของแคมป์ไฟที่เคยมีอยู่ในเวลานี้เหลือเพียงเศษไม้กรอบดำที่ถูกเผาไหม้จนเกือบหมด ข้างๆกันเป็นที่พักชั่วคราวที่สร้างจากไม้และใบไม้ เนื้อสัตว์และผลไม้ที่เพิ่งหามาได้ถูกจัดวางเอาไว้ไม่ใกล้ไม่ไกล

      

         ร่างสูงของชายคนหนึ่งปรากฏออกมาจากที่พักชั่วคราวนั้น เขาสวมใส่ผ้าคลุมสีดำปกปิดเสื้อผ้าที่อยู่ภายในจนมิด บริเวณเอวกางเกงด้านขวาเหน็บไปด้วยดาบยาวท่าทางน่ากลัว ปืนลูกซองพาดไว้บริเวณบ่าด้านซ้าย ทรงผมสีโดดเด่นยาวระต้นคอซึ่งเจ้าของดูจะไม่ได้สนใจจัดทรงมันซักเท่าไรนัก ขายาวก้าวตรงไปตามทางที่จะพาไปสู่ชายหาด ดูเหมือนว่าเขาจะต้องตุนอาหารเอาไว้เพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง เนื่องจากชายหนุ่มเพิ่งได้ยินข่าวลือแปลกๆบางอย่างมาจากหมู่บ้านแห่งนี้

      

    มันมีสภาพทรุดโทรมเกินกว่าที่ใครจะคิดได้ว่า‘คนคนนั้น’จะอยู่ที่นี่ …แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นที่ที่ปลอดภัยได้อย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน 

     

         ใช้เวลาไปพักหนึ่ง ร่างนั้นก็กลับมาพร้อมกับปลาตัวใหญ่สองสามตัวในมือ จังหวะที่กำลังจะก้าวเดินกลับไปสู่ที่พัก สัญชาตญาณของชายหนุ่มก็สั่งให้เขาระแวงระวังกับบางสิ่งโดยอัตโนมัติ

      

         มีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลกำลังอยู่ใกล้กับที่พักของเขา… มันอาจจะเป็นสัตว์ป่า ทั้งที่กินพืชและกินเนื้อ หรืออาจจะเป็นมนุษย์ด้วยกันเองก็ได้ ที่นี่ก็ไม่ได้ห่างไกลไปจากหมู่บ้านซักเท่าไรนัก

      

         มือหนาขยับลูกซองด้านหลังให้เข้ามาจับได้สะดวก เสียงกรอกแกรกยังคงดังขึ้นมาเป็นระยะๆ ตรงบริเวณที่ร่างสูงเก็บเสบียงเอาไว้พอดี ปลายเท้าทั้งคู่พยายามย่องให้เบาที่สุดด้วยความชำนาญ ในการจับเหยื่อจะต้องระวังอย่างยิ่งไม่ให้ฝ่ายนั้นได้ทันรู้ตัว

      

    “ อ๊ะ! แย่แล้ว! ” 

     

         แต่ดูเหมือนความคิดนั้นจะใช้ไม่ได้กับสิ่งมีชีวิตดังกล่าว เสียงเล็กๆดังขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่านั่นคือมนุษย์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะสาวฝีเท้าเข้าไปให้เร็วขึ้น …เหยื่อที่ตื่นตระหนกมีแต่ต้องต้อนให้จนมุม

      

    เสียงเล็กๆค่อนไปทางหวานแบบนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือเปล่านะ… หรือถ้าเป็นผู้ชายก็เดาได้ไม่ยากว่ายังเป็นเพียงเด็กหนุ่มเท่านั้น

      

    แซ่ก แซ่ก 

     

         เสียงฝีเท้าวิ่งผ่านพุ่มหญ้าไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเองก็ลืมไปว่าเหยื่อที่คุ้นเคยกับสภาพป่านี้ดีจะทำให้เขาเสียเปรียบกว่า แต่ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนักสำหรับร่างกายแข็งแรงสมส่วนที่ได้มาจากการออกล่าสัตว์อยู่เสมอ กายสูงใหญ่สาวเท้าตามไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อได้เห็นร่างของอีกฝ่ายที่ผ่านหน้าไป

      

         มันรวดเร็วมากจนไม่ได้สังเกตว่าใบหน้าของคนๆนั้นเป็นอย่างไร แต่ก็พอดูออกว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างผอมแห้งที่มีท่าทางปราดเปรียวคล่องแคล่ว บนศีรษะสวมหมวกฟางเก่าๆใบหนึ่งเอาไว้ …สิ่งนั้นที่ทำให้ทั้งร่างชะงักลงเหมือนกับถูกกดสวิตซ์ 

     

    หมวกใบนั้น…? หรือจะแค่คิดไปเองเท่านั้น 

     

          คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังครุ่นคิด บนใบหน้าคมมีรอยแผลเป็นพาดผ่านบริเวณตาซ้าย ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างที่ปนกันยุ่ง ถึงอย่างนั้นริมฝีปากหนากลับค่อยๆปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา

      

    จะโชคชะตา ลางสังหรณ์หรืออะไรก็ตาม …เขามั่นใจว่าวันพรุ่งนี้เด็กหนุ่มคนนั้นจะมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน

     

      

     

     

     

    พรวด!! 

     

    “ เหวออออ!! นี่มันอะไรเนี่ย!! ” 

     

         เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด ในที่สุดเหยื่อตัวน้อยก็มาติดกับดักที่ชายหนุ่มวางเอาไว้โดยไม่ได้ทันรู้ตัว เด็กหนุ่มเจ้าปัญหาคนนั้นดูเหมือนจะต้องการขโมยเสบียงที่เขาจัดหาไว้ จึงได้วางเสบียงเหล่านั้นเอาไว้เป็นตัวล่อ พร้อมกับดักที่ติดตั้งเอาไว้อย่างรอบคอบ 

     

    ไม่คิดว่าจะตกหลุมพรางง่ายๆแบบนี้… มันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากเลยแท้ๆ 

     

    “ ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ นายทำอะไรของนายเนี่ย!! ” ร่างกายที่ดูจะบอบบางนั้นดิ้นขลุกขลักอยู่ในตาข่าย มันถูกผูกไว้กับกิ่งไม้ท่าทางแข็งแรงอีกที ใบหน้าและแขนขามอมแมมไม่น้อย สายตาของเหยื่อตัวน้อยดูเหมือนจะมองเห็นร่างของเขาที่กำลังเดินเข้าไปใกล้ได้พอดี แต่สิ่งที่ร่างสูงสนใจจากคนตัวเล็กคนนี้ดูจะเป็นเพียงแค่หมวกฟางที่เจ้าตัวพกมาด้วยเท่านั้น 

     

    “ หา… แล้วเรื่องอะไรฉันจะต้องปล่อยนายลงมาด้วยล่ะเจ้าหนู ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้าคมนั้น ส่งตรงไปยังเด็กหนุ่ม จนเสียงเล็กนั้นโวยวายกลับมา 

     

    “ ฉันมีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนี้! เพราะฉะนั้นนายก็ปล่อยฉันลงได้แล้ว! ” 

     

    คนตัวใหญ่หัวเราะในลำคอเบาๆกับคำพูดของอีกฝ่าย… ตรรกะไหนของนายถึงได้คิดออกมาแบบนั้นกัน 

     

    “ เหตุผลที่นายมาขโมยเสบียงของฉันน่ะหรอ ถ้าฟังดูเข้าท่าฉันจะปล่อยนายลงก็ได้นะ ” 

     

    “ พ..เพราะนายเป็นโจรสลัดยังไงล่ะ! เสบียงที่มาจากการขูดรีด ต่อให้ฉันขโมยมาก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก! ”    คนตัวเล็กดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้ ใบหน้าหวานนั้นขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง ริมฝีปากบางมู่เข้าหากันจนใบหน้านั้นดูตลกขึ้นมา

      

    “ หืม…? ฉันเนี่ยนะโจรสลัด? ” เสียงทุ้มถามขึ้นอย่างฉงน ฟังดูก็สมเหตุสมผลที่มาขโมยอาหารของเขาไปไม่น้อยอยู่ แต่บังเอิญว่าเขาไม่ใช่โจรสลัดนี่สิ... 

     

    เป็นนายพรานต่างหาก... 

     

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกยกขึ้นมาบนใบหน้าคมอีกครั้ง ...อะไรก็ไม่รู้มาดลใจให้เขารู้สึกอยากแกล้งคนตัวเล็กให้มากกว่านี้

      

    “ คำตอบของนายไม่มีเหตุผล ...ฉันจะลงโทษนายซะ ” 

     

    “ อ๊ะ!! ” 

     

         เรียกว่าไม่ทันจะได้ตั้งตัวอะไร เชือกที่ห้อยอยู่กับกิ่งไม้ก็ขาดออกเป็นสองส่วนจากปลายดาบที่มือขวาของคนตัวสูง ร่างที่ถูกห่อไปด้วยตาข่ายแข็งแรงนั้นร่วงลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกโดยอัตโนมัติ แต่ก่อนจะถึงพื้นก็มีบ่ากว้างของคนตัวใหญ่มารับร่างเล็กๆเอาไว้ได้ทันเวลาเหมือนรู้จังหวะ 

     

         ลูฟี่กำลังถูกแบกอยู่บนบ่าของผู้ชายแปลกหน้าคนนี้... คนที่แข็งแรงพอที่จะยกร่างทั้งร่างของเขาที่ไม่ได้มีน้ำหนักน้อยอะไรเลยได้อย่างหน้าตาเฉย

      

    “ ทำอะไรของนายเนี่ย! ปล่อยฉันเลยนะ!! ” เจ้าของใบหน้าหวานโวยวาย มือพยายามปัดป่ายไปรอบข้างแต่ก็ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ค่อยได้ซักเท่าไร ตาข่ายนี่ทำให้เขาขยับตัวไม่สะดวก แถมยังถูกห่อเป็นก้อนๆอยู่ด้านหลังใครก็ไม่รู้อีก

      

         ขายาวคู่นั้นย่างสามขุมตรงไปยังหน้าผาเตี้ยๆของป่าที่มีพื้นที่ติดกับทะเล มันไม่ได้สูงอะไรมากมาย แต่พื้นด้านล่างกลับเป็นน้ำทะเลที่ลึกพอจะทำให้คนจมลงไปได้อย่างง่ายดาย วินาทีนั้น ไม่ต้องบอกลูฟี่ก็รู้ตัวได้ทันทีว่าตนเองกำลังจะเจอกับอะไร... 

     

    “ อย่านะ! นั่นนายจะทำอะไร!! ” 

     

         มือเรียวพยายามหาที่จับเท่าที่สถานการณ์จะเอื้ออำนวย ผ้าคุมที่อีกฝ่ายสวมเอาไว้ถูกนิ้วทั้งสิบยึดเอาไว้แน่น แต่แค่เท่านั้นดูเหมือนจะไม่สามารถสู้แรงของคนอุ้มที่มีมากกว่าได้ เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนกับร่างทั้งร่างลอยหวือออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ กายบอบบางกำลังตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง จนใกล้จะปะทะกับผิวน้ำอยู่รอมร่อ

      

    ตู้มมม!! 

     

         ทั้งคนทั้งตาข่ายถูกโยนลงสู่พื้นน้ำโดยไม่ลังเล ชายหนุ่มยืนมองผลงานอยู่ที่เดิมก่อนจะหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ไม่นานนักตาข่ายที่ไร้ที่ยึดเกาะก็ค่อยๆแผ่ออกด้านข้าง ปล่อยร่างบอบบางนั้นให้เป็นอิสระ ...เขาก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดจะปล่อยให้คนๆหนึ่งถูกถ่วงน้ำตายเพียงเพราะอาหารไม่กี่อย่างหรอกนะ ยังไงถ้าหาทางว่ายน้ำและปีนขึ้นมาได้ เด็กหนุ่มคนนั้นก็จะปลอดภัยแล้ว 

     

         แต่ถึงอย่างนั้น… น้ำทะเลกลับกำลังกระจัดกระจายจากฝ่ามือของคนตัวเล็กที่พยายามกระเสือกกระสนขึ้นมาสู่ผิวน้ำ เสียงหายใจหอบแรงและไอคร่อกแคร่กเกิดจากการสำลักน้ำเข้าไปจำนวนไม่น้อย เด็กหนุ่มไม่สามารถประคองทั้งร่างนั้นเอาไว้ได้ อีกไม่นานคงได้ลงไปนอนเล่นอยู่ที่ก้นทะเลเป็นแน่...

      

    “ ช..ช่วย...ช่วยด้วย!! ” 

     

    ดูเหมือนร่างสูงจะคิดผิดไปที่ปล่อยเด็กคนนี้ลงไปในน้ำ... 

     

    “ ฉ…ฉัน ว่ายน้ำไม่เป็น!! ”

     

     

     

      

     

     

         อีกด้านหนึ่ง ณ ที่พักของเด็กหนุ่ม ร่างผอมแห้งเดินวนอยู่หน้าท่อระบายน้ำเก่าๆอยู่หลายรอบ ด้วยใบหน้ากังวลปนถอดสี ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่จินตนาการณ์ถึงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไรนัก นึกอยากจะเอ่ยคำ ขอโทษออกมาเป็นล้านๆครั้ง เมื่อเพื่อนตัวขาวอีกคนเล่นหายไปในป่าซักพักแล้วไม่ยอมกลับมาซักที

      

     

    “ ลูฟี่ ฉันขอโทษ... ดูเหมือนเรื่องโจรสลัดนั่นจะกลายเป็นแค่ข่าวลือไปแล้วสิ... ”


     


     

     

     

    อัพตอนใหม่แล้วค่าาาาา ขอโทษที่มาช้ามากกก;-;

    ตอนแรกตั้งใจว่าจะแต่งสดไปตามอารมณ์นะ ตอนนี้แต่งสดไม่ไหวแล้วค่ะ

    ไม่งั้นเนื้อเรื่องจะมั่วมาก เลยไปร่างพล็อตอยู่นานมาก

    ตอนต่อไปไรต์จะรีบมาอัพน้า;-;

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×