NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Whisper of LOVE • Short Fanfiction』

    ลำดับตอนที่ #28 : ▲ [D.Gray man] White & Dark lord (Tyki x Allen) - Part 7

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 65


    แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)










               บรรยากาศของยามค่ำคืนทั้งเงียบสงัดและหนาวเย็น สายลมที่โชยมาอ่อนๆส่งให้รู้สึกขนลุกได้ไม่ยาก ดวงตาสีขี้เถ้าทอดมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของชายตรงหน้า เป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้ของวันที่เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะความไม่เข้าใจ

     

    นอนไม่หลับ ก็เลยจะให้เขามาอดนอนเป็นเพื่อนงั้นหรอ

     

            ร่างเล็กอาศัยจังหวะถอยเข้าไปหาโต๊ะตัวหนึ่งที่วางอยู่ที่มุมโถง บนนั้นมีทั้งเครื่องดื่มและแจกันอันใหญ่วางตกแต่งไว้ ฉวยเอาถาดอาหารวงกลมอันหนึ่งมาไว้ในอ้อมกอด หวังว่าอย่างน้อยความแข็งนี่มันจะพอช่วยป้องกันตัวให้ได้

     

            ต่อให้ท่าทีจะเป็นมิตรจนน่าใจหาย แต่อเลนก็ยังไม่ได้ไว้ใจพฤติกรรมแปลกประหลาดของคนตรงหน้า ริมฝีปากได้รูปเอาแต่ระบายยิ้มอยู่แบบนั้น ส่งให้ใบหน้านั้นยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม

     

    “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า วันที่พระจันทร์เต็มดวงเจ้าหมอนั่นไม่มีพลังอะไรหรอกนะ” ทีกี้เลิกสนใจท่าทีลนลานของเด็กตรงหน้า กายสูงใหญ่เบี่ยงออกไปทางระเบียงที่เปิดกว้างให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืน พระจันทร์ในเวลานี้ทอแสงสีเหลืองทองโดดเด่นท่ามกลางหมู่ดาว

     

            คนที่ยืนมองภาพนั้นมีท่าทีผ่อนคลายลง เขาไม่ได้ขยับกายเข้ามาใกล้มากขึ้น เพียงแต่สาวเท้าไปยืนยังระเบียงอีกฟากที่ไม่ห่างกันมากแทน หมอนั่นที่คนๆนี้กำลังพูดถึงอาจจะหมายถึงร่างผมยาวที่มีผิวสีเทาคนนั้น

     

    บางอย่างสะกดไว้ให้อเลนรู้สึกอยากรู้เรื่องราวของผู้นำตระกูลโนอาให้มากกว่านี้

     

    “ฉันก็แค่มนุษย์คนนึงเท่านั้น ส่วนเจ้านั่นเป็นปีศาจ เราสองคนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันน่ะ”

     

            ไม่รู้หรอกว่าอะไรดลใจให้ร่างสูงพูดออกมาได้ยาวเหยียดขนาดนี้ แต่ใบหน้าคมคายที่ประดับด้วยรอยยิ้มนั้นราวกับต้องการจะบอกว่านี่เป็นความลับของตระกูลโนอา ทีกี้ไว้ใจเขาที่เป็นคนจากศาสนจักรตั้งแต่เมื่อไร ทั้งที่เจ้าตัวก็รู้ว่าพรุ่งนี้ความทรงจำทั้งหมดจะไหลกลับเข้าไปรวมในร่างเดิม

     

    บางทีผู้ชายคนนี้อาจจะรู้อยู่แล้วว่าต่อให้บอกไป อเลนก็ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ดี

     

    “แล้วเธอล่ะ มีเรื่องอะไรที่อยากจะเล่าให้ฉันฟังหรือเปล่า”

     

            ยื่นหมูยื่นแมวอย่างนั้นสิ จุดประสงค์ของการพบเจอครั้งนี้ก็เพราะอยากรู้เรื่องราวทุกอย่างที่อาจเป็นภัยต่อตัวเอง ช่วงเวลาแต่ละวันดำเนินไปโดยที่คนทั้งคู่ยังไม่เคยไว้ใจกัน พอโดนอีกฝ่ายตั้งแง่ทั้งที่ใบหน้ายังคงยิ้มไว้แบบนั้นก็รู้สึกแย่ขึ้นมานิดหน่อย

     

            แต่เพราะเด็กหนุ่มเกลียดชังสิ่งที่ศาสนจักรมอบให้มากกว่าจะจงรักภักดี บางทีการเล่าทุกอย่างออกไปอาจจะดีกว่า ตราบเท่าที่ยังไม่กำจัดทิ้ง สิ่งนั้นก็จะตามล่าเขาไปตลอดชีวิต โนอาเองก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบข้อนั้นโดยตรง

     

    “ผมเองก็เป็นบรรณาการให้เจ้านั่นครับ”

     

    …..

     

            ดวงตาสีทองจ้องมองใบหน้าหวานที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอารมณ์แบบนั้นจากอีกฝ่าย แต่รอยยิ้มนั้นมันช่างดูเศร้าเหลือเกินในสายตาของเขา

     

    “แต่เพราะมันฆ่าคนสำคัญของผมไปหลายคน เลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมดหวังกับศาสนจักรขึ้นมา” คนตัวเล็กก้มลงมองฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเอง มือข้างซ้ายที่ควรจะเป็นสีไข่ไก่เหมือนมนุษย์ปกติกลับเคลือบไปด้วยสีแดงราวกับโลหิต

     

    คำสาปที่สิ่งนั้นมอบให้อเลนมาตั้งแต่จำความได้ คือการต้องโดนพรากสิ่งสำคัญไปตลอดชีวิต

     

            น่าแปลกที่บรรยากาศที่ผ่อนคลายของทีกี้คนนี้ทำให้เขากล้าพูดทุกอย่างออกมาอย่างน่าประหลาด ทำไมถึงยังเลือกที่จะเก็บเขาไว้ข้างตัว เป็นคำถามที่เด็กหนุ่มไม่เคยได้คำตอบกลับมาเลยสักครั้ง

     

    “ศาสนจักรอาจจะส่งอโพคริฟอสมาอีกเมื่อไรก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นคุณยังจะอยากให้ผมอยู่ด้วยอีกงั้นหรอครับ”

     

    “ฉันไม่รู้ว่าเจ้าร่างสีดำมันคิดยังไงหรอกนะ” ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่กายสูงใหญ่ขยับเข้ามาใกล้อย่างไม่ทันตั้งตัว พอเห็นท่าทางเหมือนจะหดคอหนีของคนตัวเล็ก ฝ่ามือใหญ่ก็ชิงวางลงบนกลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา พร้อมระบายรอยยิ้มจนดวงตาคู่คมหรี่เล็กลง

     

    เพราะแบบนี้ถึงได้พยายามหนีอยู่ตลอดเวลาแทนที่จะกำจัดโนอาให้หมดสิ้นอย่างนั้นสินะ

     

    “แต่ฉันชอบอยู่กับเธอมากกว่า”

     

    พูดอะไรของเขาเนี่ย

     

            แขนทั้งสองข้างของอเลนกระชับถาดรูปวงกลมเข้ามากอดแน่นขึ้น ท่าทีอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างกะทันหันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ความรู้สึกเห่อร้อนปกคลุมทั้งหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว ได้แต่หวังว่าความมืดของตอนกลางคืนจะช่วยพลางหน้าแดงๆนี้เอาไว้

     

     

     

     

     

     

            อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนงานแต่งตั้งผู้นำตระกูลคนใหม่ของโนอาจะถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์หลังนี้ พอรู้ความจริงข้อนั้นทีกี้ก็เอาแต่บ่นกระปอดกระแปดว่าเขาไม่ชอบงานสังสรรค์ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าจะมีปีศาจจำนวนมากมายถูกเชิญมาเข้าร่วม เพราะในโลกปีศาจแห่งนี้โนอามีอำนาจมากกว่าที่อเลนจะจินตนาการได้

     

            ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าพอมีทางไหนที่จะหลีกเลี่ยงการไปเจอปีศาจจำนวนมากมายนั่นได้บ้าง แต่ความหวังนั้นก็พลันดับวูบไปเมื่อโร้ดชี้แจงว่าเจ้าสาวของหัวหน้าตระกูลก็ต้องถูกเปิดตัวในวันนั้นเช่นกัน ทั้งที่ปฏิเสธไปแล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย เด็กสาวคนนั้นก็ทำเพียงแค่ยิ้มละไมด้วยสีหน้าแล้วยังไง’ ใส่เท่านั้น

     

            เช้าวันใหม่ของเด็กหนุ่มเริ่มต้นขึ้นด้วยการโดนจับลากไปวัดตัว ช่างตัดเสื้อจากร้านชื่อดังแห่กันเข้ามาในคฤหาสน์และสั่งให้เขายืนเฉยๆจนกว่าจะได้เนื้อผ้าและดีไซน์ที่เจ้าตัวพอใจ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยชุดสีขาวทั้งตัวเพราะมันเข้ากับสีผมและผิวที่ขาวจัดของเขา

     

            กายบางทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้าหลังยืนเกร็งมาค่อนวัน ไม่เข้าใจเลยว่าชุดออกงานของผู้ชายมันจะมีอะไรยุ่งยากขนาดนั้น

     

            ไม่นานนักภาพของว่าที่ผู้นำตระกูลที่โดนโร้ดดันหลังเข้ามาพร้อมใบหน้าบึ้งตึงก็ปรากฏให้เห็น ทีกี้เองก็โดนลากเข้ามาในห้องลองชุดทั้งความไม่ยินดี กายสูงโปร่งหยุดลงตรงหน้า อเลนจึงก้มหน้าหลบเจ้าของดวงตาคู่คมที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นเขา

     

            ประโยคที่ผู้ชายคนนี้พูดไว้เมื่อคืนพระจันทร์เต็มดวงวนกลับมาดังซ้ำในหัว ต่อให้ตอนนั้นจะถูกแยกร่างออกเป็นสอง แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ลืมสิ่งที่ตัวเองพูดไปอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นใบหน้าคมคายคงไม่ระบายยิ้มละมุนชวนให้เจ็บหัวใจออกมาหรอก

     

    ไม่กล้าสู้หน้า ตอนนั้นเขาคิดอะไรถึงได้พูดแบบนั้นออกมากันนะ

     

    วันนั้นเธอต้องมาอยู่ข้างๆฉันทั้งงาน อย่าหายไปไหนล่ะ” เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยขึ้นทั้งที่ไม่ได้มองคนข้างตัว แขนยาวกางออกข้างหนึ่งเพื่อให้ช่างตัดเสื้อสามารถแทรกตัวเข้ามาวัดขนาดได้ รอยยิ้มบนริมฝีปากนั้นก็ยังไม่ได้หายไปไหน

     

    คำพูดแบบนี้อีกแล้ว อเลนยกมือขึ้นมากำอกเสื้อด้านซ้ายของตนแน่น

     

    หัวใจเต้นแรงจนเจ็บไปหมดแล้ว

     

    ท่ามกลางโลกปีศาจที่น่ากลัวและไม่รู้จัก แม้จะยังไม่รู้จักทีกี้ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการอยู่กับชายคนนี้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยที่สุด

     

     

     

     

     

     

            และแล้ววันแต่งตั้งผู้นำตระกูลคนใหม่ก็มาถึงแบบไม่ให้ทันตั้งตัว เสียงอื้ออึงและบรรยากาศของงานได้ยินมาถึงชั้นสองของคฤหาสน์แม้ประตูจะถูกปิดสนิท อเลนรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ทั่วท้อง พลังปีศาจจำนวนมากมายที่เขาสัมผัสได้มีไม่ต่ำกว่าร้อย งานนี้มันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก

     

            หากลงไปทั้งอย่างนี้คงไม่พ้นได้โดนกินจนไม่เหลือแม้แต่วิญญาณแน่นอน เขาอยากซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้จนงานจบไปเลย แต่ก็อดสงสารโร้ดที่วิ่งวุ่นมาเป็นธุระให้หลายครั้งไม่ได้ ส่วนเจ้าของงานที่ไม่ได้อยากเปิดตัวอะไรต่อหน้าคนหมู่มากก็ยังอุตส่าห์ร่อนจดหมายเชิญชวนคนรู้จักมาได้มากมายขนาดนี้

     

            ชุดของเขาถูกจัดแจงให้เข้าที่ เหลือแค่เจ้าของงานลงไปเปิดงานก็เท่านั้น มือบางหมุนลูกบิดประตูออกจากห้องของตัวเอง ทำได้แค่หยุดยืนอยู่หน้าบันไดที่อับสายตาผู้คน จำนวนผู้เข้าร่วมแม้จะมีมากมายแต่คฤหาสน์หลังนี้ก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอย ดวงตาสีขี้เถ้าเหลือบไปเห็นกลุ่มคนที่รู้สึกคุ้นตา แม้แต่คนจากตระกูลโนอาก็มากันครบแล้ว

     

    ลงไปกันเลยไหมหนุ่มน้อย

     

            เสียงนั้นดึงคนตัวเล็กออกจากภวังค์ แต่ลมหายใจก็ต้องพาลสะดุดกึกอีกครั้งเมื่อเห็นภาพของคนที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ทีกี้ในเวลานี้ไม่ได้รวบผมตึงไปด้านหลังเหมือนทุกครั้ง แต่เลือกที่จะปล่อยมันยาวลงมาระต้นคอ ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกับร่างมนุษย์นั้นไม่มีผิด ต่างก็แค่สีผิวของเขาที่เป็นสีน้ำตาลเทา องค์ประกอบทุกอย่างส่งให้ดูดีราวกับภาพวาดชั้นเลิศจนเผลออึ้งไปชั่วขณะ บนแขนแกร่งพาดไปด้วยผ้าคลุมอะไรบางอย่างที่สีตัดกับชุดติดมาด้วย

     

    พลันสติที่เพิ่งกลับมาก็ทำให้ไล่ลาดสะดุ้งขึ้น ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงเล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าเผลอจ้องอีกฝ่ายนานเกินไปหน่อย

     

    “เอ่อ ผมจะลงไปได้จริงๆหรอครับ”

     

    เขาไม่เคยเจอปีศาจเยอะขนาดนี้มาก่อน แค่ได้กลิ่นอายก็รู้สึกมึนหัวแล้ว

     

    “เธอไม่จำเป็นต้องมัดผมหรอกนะ ปล่อยไว้ก็สวยดีแล้ว” ทีกี้ตั้งใจเมินประโยคและท่าทีหวาดกลัวของคนตรงหน้า เขายกยิ้มเมื่อเห็นคิ้วเรียวขมวดยุ่งเข้าหากันกับคำว่าสวย ที่เพิ่งได้ยินผ่านหู

     

            มือหนาเอื้อมเข้าไปหยุดข้างใบหูของคนตัวเล็กกว่า สะกิดเพียงเล็กน้อยริบบิ้นที่เคยรวบผมสีขาวก็คลายออกจนกลุ่มผมนุ่มตกลงมาปกคลุมลำคอระหงส์ ริมฝีปากได้รูปสัมผัสลงแผ่วเบากับสิ่งที่ติดมือมาจนดวงตากลมโตของคนตรงหน้าเบิกกว้างเป็นไข่ห่าน

     

    “ทำอะไรของคุณน่ะครับ!” มันเรียกให้พวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อไปจนถึงใบหู

     

            ชายหนุ่มเก็บริบบิ้นเส้นเดิมลงกระเป๋าเสื้อสูทอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะกางผ้าคลุมที่ถือติดตัวมาตั้งแต่เมื่อครู่ สวมลงบนไหล่บางของเจ้าสาวของงาน พร้อมผูกเชือกตรงอกเป็นโบว์ให้เรียบร้อย

     

    “เสื้อคลุมนี่จะช่วยกลบกลิ่นอายของเธอเอาไว้”

     

    “แล้วก็ต่างหูนี่ ฉันลืมเอาให้ งั้นใส่ตอนนี้เลยก็แล้วกัน” เขาสาละวนอยู่กับใบหูข้างซ้ายของเด็กหนุ่ม ใบหน้าคมคายเคลื่อนเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นกายของอีกฝ่าย ไม่นานนักน้ำหนักของเครื่องประดับก็ทิ้งตัวลงกับติ่งหูข้างนั้นเมื่อทีกี้เพิ่งสวมใส่ให้อย่างเบามือ

     

            อเลนทำได้แค่ยืนแข็งทื่อพร้อมใบหน้าที่เคลือบไปด้วยเลือดฝาด ความคิดในหัวตีกันจนสับสนว่าทำไมคนๆนี้ถึงมายืนแต่งตัวให้ ซ้ำยังจับนู่นจับนี่ราวกับเขาเป็นตุ๊กตา มือบางยกขึ้นจับใบหูด้านซ้ายที่มีบางสิ่งห้อยระย้าอยู่ทั้งใบหน้าขึ้นสี

     

    ขอบคุณนะครับ” รอยยิ้มน้อยๆระบายลงบนริมฝีปากสีกุหลาบ ต่างหูคู่นั้นเข้ากับใบหน้าสวยได้อย่างลงตัว

     

            มือหนาที่สวมถุงมือยื่นมาวางตรงหน้า ในวันนี้มันเป็นสีดำเข้ากับชุดของเจ้าตัว ทีกี้ระบายยิ้มอ่อนโยนพร้อมดวงตาสีทองที่กำลังเปล่งประกาย ทั้งรอยยิ้มและสายตาแบบนั้นมันอันตรายเกินไปสำหรับคนมอง

     

            ทั้งที่เคยคิดว่าท่าทางแบบนี้เหมือนกับเจ้าของกำลังขอมือสุนัข แต่อเลนก็ยอมวางนิ้วเรียวของตัวเองลงบนฝ่ามืออีกฝ่าย มือของทีกี้ใหญ่มากจนกุมมือเขาได้มิดเลยด้วยซ้ำ อุณหภูมิร่างกายของฝ่ายนั้นที่ส่งมาถึงทำให้หัวใจเต้นระส่ำอย่างไม่เป็นจังหวะ

     

            ความวุ่นวายและเสียงจอแจของห้องโถงสดับลงอย่างง่ายดาย ดนตรีที่เคยบรรเลงเปลี่ยนจังหวะการเล่นเมื่อปลายเท้าของผู้มาใหม่กำลังก้าวลงมาจากบันไดของคฤหาสน์

     

            คนหนึ่งเป็นชายตัวสูงชะลูด กายแกร่งสวมเสื้อโค้ทเนื้อดีดั่งเช่นทุกครั้ง แต่เสื้อเชิ้ตตัวในเป็นสีดำสนิท ประกอบกับคนข้างตัวผู้มีเรือนผมสีขาวยาวระต้นคอ ผิวเนียนละเอียดขาวจัดตัดกับผิวสีหม่นของคนข้างตัว ใบหูข้างหนึ่งประดับไปด้วยต่างหูสีแดงระย้าเช่นแผลเป็นบนใบหน้า ร่างบางปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีขาวผ่อง เล่นรายละเอียดเป็นขนนกฟูฟ่องบริเวณหัวไหล่

     

            ในเวลานี้คนทั้งคู่ต่างแต่งตัวในโทนตรงข้ามแต่ก็เข้ากันอย่างน่าประหลาด สร้างเสียงฮือฮาให้แก่คนทั้งงานได้ไม่น้อย เมื่อคนหนึ่งราวกับปีศาจผู้มีอำนาจอันน่าเกรงขาม แต่ผู้มีศักดิ์เป็นว่าที่เจ้าสาวกลับงดงามราวกับฑูตสวรรค์ โดยที่ไม่อาจมองออกได้เลยว่าเจ้าตัวมีเพศสภาพเป็นหญิงหรือชาย

     

    “อย่าปล่อยมือจากฉันล่ะ” คนตัวสูงยื่นแขนข้างหนึ่งให้คนข้างตัว ส่งให้มือเรียวรีบเข้ามาเกาะอย่างรู้หน้าที่

     

    “เข้าใจแล้วครับ”

     

            เพราะกลัวปีศาจรอบตัวเกินกว่าจะครองสติได้ มือทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มจึงสั่นระริกขนาดนั้น ดวงตาสีทองทอดมองเจ้าของเรือนผมสีขาวที่ในเวลานี้เอาแต่ก้มหน้าต่ำโดยไม่ได้พูดอะไร

     

    เขารู้ดีว่าคนตัวเล็กกลัวปีศาจที่รายล้อมมากเท่าใด ก็กะว่าจะอยู่ในห้องโถงนี้ไม่นานเท่าไรนักหรอก

     

            มือหนาเอื้อมไปสัมผัสหลังมือเย็นเฉียบของอเลนอย่างแผ่วเบาราวกับต้องการปลอบขวัญ น่าแปลกที่มันให้ความรู้สึกสบายใจขึ้นมาได้จนความกลัวที่เคยมีเริ่มมลายหายไป ปีศาจรอบตัวไม่ได้เข้ามาโจมตีเพราะมีชายคนนี้อยู่

     

    ใบหูของอเลนขึ้นสีแดงเมื่อเห็นรอยยิ้มหล่อเหลา เป็นความจริงว่าการอยู่ข้างๆคนๆนี้แล้วเขาจะปลอดภัย

     

     

     

     

     

     

            เวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมง ผู้ร่วมงานบางส่วนทยอยกลับไปแล้วจนเริ่มบางตา ตอนนี้อเลนกำลังยืนอยู่กับโร้ดและคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไวส์ลี่ เด็กหนุ่มที่มีห้าตาบนใบหน้านั่น คราวที่แล้วเขาโดนยัดเยียดไวน์ให้ดื่มจนตื่นมาแล้วปวดหัวไปหมด

     

            เพราะทีกี้เข้าใจว่าโนอาสองคนนี้ไว้ใจได้ เขาถึงปล่อยให้อเลนมาอยู่ตรงนี้ อย่างน้อยโร้ดก็ไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตาไปง่ายๆอย่างแน่นอน แต่กับโนอาผมสีขาวที่กำลังยืนยิ้มแฉ่งให้อยู่ทำให้เด็กหนุ่มไม่ค่อยสบายใจนัก

     

    “ไง อเลน วอล์คเกอร์” ซ้ำยังยกแก้วเครื่องดื่มในมือให้เป็นการทักทาย

     

    เพราะว่าอายุไล่เลี่ยกันหรือเปล่านะ คนๆนี้ถึงได้ชอบเข้าหาเขานัก

     

    “วันนี้นายก็มาดื่มกับฉันอีกสิ คราวก่อนทำไมแค่ไวน์แก้วเดียวก็เดินเซแล้ว”

     

    “ขอปฏิเสธครับ”

     

            มองจากดาวอังคารก็ดูออกว่าคนๆนี้กำลังเมา ทั้งที่รู้ว่าตัวเองคออ่อนเหมือนกันทำไมถึงได้ชอบลากเขาเข้าไปร่วมวงด้วยทุกที ปลายเท้าทั้งคู่พยายามขยับหนี แต่มนุษย์ที่เสียเปรียบทางด้านกำลังก็ไม่อาจสู้แรงของคนที่กระโจนเข้ามาคล้องคออย่างสนิทสนมได้อยู่ดี

     

    เป็นอีกครั้งที่อเลนพยายามแกะแขนของอีกฝ่ายออก แต่ไวส์ลี่ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นเกิดขึ้นง่ายๆ

     

    แก้วทรงยาวใบหนึ่งโดนยัดใส่มือของเขาอีกแล้ว

     

     

     

     

     

     

            ลอร์ดทีกี้ มิกก์ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะ แต่เพราะงานเลี้ยงที่ต้องจัดขึ้นตามธรรมเนียมทำให้เขาหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้ หลังจากต้องทักทายคนมีหน้ามีตาในสังคมไปมากมายก็เพิ่งมีจังหวะให้หยุดพักหายใจ ดวงตาสีทองกวาดมองหาคนที่ติดอยู่ในความคิดแทบจะทันที

     

    “เจ้านั่นเอาอีกแล้วหรอ” มันก็ดีที่เด็กหนุ่มจากโลกมนุษย์คนนั้นยังปลอดภัยดีและอยู่กับคนที่ไว้ใจได้ หากแต่ร่างบางในชุดสีขาวนั่นกำลังอยู่ในอ้อมแขนของไวส์ลี่ ซ้ำร้ายร่างของทั้งสองที่มีส่วนสูงใกล้เคียงกันก็กำลังเซไปซ้ายทีขวาทีจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่

     

    เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ขายาวรีบก้าวเข้าไปใกล้ทันทีที่รู้ว่าอยู่ตรงนั้น

     

    “นายเอาอะไรให้หนุ่มน้อยกินอีกเนี่ย” คราวที่แล้วแค่ไวน์แก้วเดียวก็เดินไม่ตรงทาง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมเสียอีก

     

            โร้ดที่ยืนอยู่ข้างๆกันหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของคนตัวสูง เธอชี้นิ้วไปยังแก้วใบหนึ่งในมือไวส์ลี่ที่มีเครื่องดื่มสีอำพันเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งแก้ว มันกระฉอกออกมาเมื่อร่างของคนทั้งคู่รั้งกันไปมาแต่ยังไม่ล้มเสียที

     

    “เจ้านั่นไง คราวนี้สามแก้ว” พลางยกสามนิ้วขึ้นมาประกอบ

     

            ทีกี้นึกสงสัยว่าทำไมเด็กสาวถึงได้ไม่ยอมห้าม เขาถอนหายใจอีกครั้งก่อนดึงเจ้าของผิวขาวจัดเข้ามาใกล้ อเลนตัวเหลวอย่างกับลูกโป่งน้ำ หน้าผากมนเซถลามาชนแผ่นอกกว้าง สัมผัสนั้นให้ความรู้สึกราวกับไฟช็อตเช่นเดียวกับทุกครั้ง

     

    อย่างน้อยก็หาเหตุผลที่จะปลีกตัวออกจากงานได้แล้ว เขาเองก็เหนื่อยเต็มที

     

            ตัดสินใจอุ้มร่างที่แม้แต่จะยืนด้วยตัวเองยังทำไม่ได้เข้ามาไว้ในอ้อมแขน น้ำหนักตัวของเด็กหนุ่มเบาเสียจนน่าตกใจ เขาส่งเสียงงึมงำไม่ได้ศัพท์ในลำคอ หัวทุยๆขยับเบียดแผ่นอกคนตรงหน้าเพราะไม่รู้สึกสบายตัว

     

            ขายาวพาร่างนั้นตรงไปยังห้องนอนของเจ้าตัวโดยไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น เจ้าไวส์ลี่ก็รู้ว่าเด็กคนนี้คออ่อนแต่ยังจะยัดเยียดแอลกอฮอล์มาให้ดื่มตั้งสามแก้ว เขาไม่แน่ใจว่าเครื่องดื่มจากโลกปีศาจจะมีผลข้างเคียงต่อมนุษย์อย่างไร อย่างร้ายแรงอาจจะทำให้นอนซมไปหลายวันเลยก็ได้

     

            ทีกี้วางร่างของอเลนให้ยืนพิงตัวเขาไว้เมื่อการอุ้มทำให้หมุนลูกบิดประตูได้ยากลำบาก ทันทีที่เอี้ยวตัวไปปิดประตูและเตรียมจะหิ้วปีกคนตัวเล็กไปวางลงบนเตียงก็ต้องชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเจ้าของร่างที่เคยยืนพิงอกยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแปะที่ข้างแก้มของเขาอย่างกะทันหัน

     

            ดูเหมือนจะเมาจนไม่ได้สติไปแล้ว ดวงตาสีเงินที่ในเวลานี้กำลังเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขา ก้อนเนื้อใต้อกพลันเต้นระส่ำเมื่ออีกฝ่ายออกแรงดึงให้ก้มตัว ใบหน้าหวานเคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้า ก่อนริมฝีปากนุ่มจะสัมผัสเข้ากับริมฝีปากของเขา

     

            อเลนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร แต่สัมผัสตรงหน้าคือสิ่งแรกที่ต้องการ ยามที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับอีกฝ่าย มันให้ความรู้สึกนุ่มนวลและหอมหวานจนไม่อยากละออกไปไหน แต่ความรู้สึกหายใจไม่ออกเพราะอ่อนประสบการณ์ทำให้ต้องผละออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงยืนหอบอย่างหมดท่า

     

            เขารู้ว่าคนตรงหน้าคือทีกี้ หัวหน้าตระกูลโนอาที่เพิ่งถูกแต่งตั้งอย่างเต็มตัวในวันนี้ ทั้งอย่างนั้นกลับไม่อาจห้ามการกระทำของตัวเองได้ สายตาที่พร่าเลือนไปด้วยน้ำตาทำให้มองไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังมีสีหน้าแบบไหน แอลกอฮอล์ทำให้ภาพตรงหน้าหมุนวนจนไร้เรี่ยวแรง ความรู้สึกร้อนระอุแผดเผาจากในอกขึ้นไปถึงใบหน้าราวกับจะปะทุเสียให้ได้ในตอนนี้

     

     

    ทีกี้ครับ ผมรู้สึกร้อนมาก

     



     






              

    เขินมั้ย เพราะคนแต่งก็เขินเหมือนกันค่ะ กิ๊ด;/////;
    ไวส์ลี่เธอทำอะไรลงไป555555 แต่ทำดีแล้วแหละเนาะ
    รีบมาลงไว้ก่อน ก่อนจะหายไป

    จะมาแจ้งข่าวว่าไรเตอร์กำลังจะสอบเข้าทำงานในวันที่ 21 นี้ค่ะ
    ทำให้หลังจากนี้จะไม่ได้เข้ามาอัพซักพัก

    แต่สอบเสร็จแล้วจะกลับมาต่อแน่นอนค่ะ ขอลาไปอ่านหนังสือก่อนนะคะTT

    ปล.ตอนหน้าจะมีเนื้อหาส่วนที่ลงในเด็กดีไม่ได้
    ไรเตอร์จะไม่แปะลิงก์ ไม่ทิ้งเมลล์ใดๆไว้ในบทความนี้นะคะ

    ไปติดตามกันได้ในแฟนเพจและรอรเลยค่ะ 

    แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่ะ





    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×