คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ▲ [D.Gray man] White & Dark lord (Tyki x Allen) - Part 7
แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)
บรรยากาศของยามค่ำคืนทั้งเงียบสงัดและหนาวเย็น สายลมที่โชยมาอ่อนๆส่งให้รู้สึกขนลุกได้ไม่ยาก ดวงตาสีขี้เถ้าทอดมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของชายตรงหน้า เป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้ของวันที่เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะความไม่เข้าใจ
นอนไม่หลับ…
ก็เลยจะให้เขามาอดนอนเป็นเพื่อนงั้นหรอ
ร่างเล็กอาศัยจังหวะถอยเข้าไปหาโต๊ะตัวหนึ่งที่วางอยู่ที่มุมโถง
บนนั้นมีทั้งเครื่องดื่มและแจกันอันใหญ่วางตกแต่งไว้ ฉวยเอาถาดอาหารวงกลมอันหนึ่งมาไว้ในอ้อมกอด
หวังว่าอย่างน้อยความแข็งนี่มันจะพอช่วยป้องกันตัวให้ได้
ต่อให้ท่าทีจะเป็นมิตรจนน่าใจหาย
แต่อเลนก็ยังไม่ได้ไว้ใจพฤติกรรมแปลกประหลาดของคนตรงหน้า
ริมฝีปากได้รูปเอาแต่ระบายยิ้มอยู่แบบนั้น
ส่งให้ใบหน้านั้นยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า
วันที่พระจันทร์เต็มดวงเจ้าหมอนั่นไม่มีพลังอะไรหรอกนะ”
ทีกี้เลิกสนใจท่าทีลนลานของเด็กตรงหน้า
กายสูงใหญ่เบี่ยงออกไปทางระเบียงที่เปิดกว้างให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืน
พระจันทร์ในเวลานี้ทอแสงสีเหลืองทองโดดเด่นท่ามกลางหมู่ดาว
คนที่ยืนมองภาพนั้นมีท่าทีผ่อนคลายลง
เขาไม่ได้ขยับกายเข้ามาใกล้มากขึ้น
เพียงแต่สาวเท้าไปยืนยังระเบียงอีกฟากที่ไม่ห่างกันมากแทน
หมอนั่นที่คนๆนี้กำลังพูดถึงอาจจะหมายถึงร่างผมยาวที่มีผิวสีเทาคนนั้น
บางอย่างสะกดไว้ให้อเลนรู้สึกอยากรู้เรื่องราวของผู้นำตระกูลโนอาให้มากกว่านี้
“ฉันก็แค่มนุษย์คนนึงเท่านั้น
ส่วนเจ้านั่นเป็นปีศาจ เราสองคนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันน่ะ”
ไม่รู้หรอกว่าอะไรดลใจให้ร่างสูงพูดออกมาได้ยาวเหยียดขนาดนี้
แต่ใบหน้าคมคายที่ประดับด้วยรอยยิ้มนั้นราวกับต้องการจะบอกว่านี่เป็นความลับของตระกูลโนอา
ทีกี้ไว้ใจเขาที่เป็นคนจากศาสนจักรตั้งแต่เมื่อไร ทั้งที่เจ้าตัวก็รู้ว่าพรุ่งนี้ความทรงจำทั้งหมดจะไหลกลับเข้าไปรวมในร่างเดิม
บางทีผู้ชายคนนี้อาจจะรู้อยู่แล้วว่าต่อให้บอกไป
อเลนก็ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ดี
“แล้วเธอล่ะ
มีเรื่องอะไรที่อยากจะเล่าให้ฉันฟังหรือเปล่า”
ยื่นหมูยื่นแมวอย่างนั้นสิ…
จุดประสงค์ของการพบเจอครั้งนี้ก็เพราะอยากรู้เรื่องราวทุกอย่างที่อาจเป็นภัยต่อตัวเอง
ช่วงเวลาแต่ละวันดำเนินไปโดยที่คนทั้งคู่ยังไม่เคยไว้ใจกัน
พอโดนอีกฝ่ายตั้งแง่ทั้งที่ใบหน้ายังคงยิ้มไว้แบบนั้นก็รู้สึกแย่ขึ้นมานิดหน่อย
แต่เพราะเด็กหนุ่มเกลียดชังสิ่งที่ศาสนจักรมอบให้มากกว่าจะจงรักภักดี
บางทีการเล่าทุกอย่างออกไปอาจจะดีกว่า ตราบเท่าที่ยังไม่กำจัดทิ้ง
สิ่งนั้นก็จะตามล่าเขาไปตลอดชีวิต โนอาเองก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบข้อนั้นโดยตรง
“ผมเองก็เป็นบรรณาการให้เจ้านั่นครับ”
“…..”
ดวงตาสีทองจ้องมองใบหน้าหวานที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอารมณ์แบบนั้นจากอีกฝ่าย
แต่รอยยิ้มนั้นมันช่างดูเศร้าเหลือเกินในสายตาของเขา
“แต่เพราะมันฆ่าคนสำคัญของผมไปหลายคน
เลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมดหวังกับศาสนจักรขึ้นมา”
คนตัวเล็กก้มลงมองฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเอง
มือข้างซ้ายที่ควรจะเป็นสีไข่ไก่เหมือนมนุษย์ปกติกลับเคลือบไปด้วยสีแดงราวกับโลหิต
คำสาปที่สิ่งนั้นมอบให้อเลนมาตั้งแต่จำความได้…
คือการต้องโดนพรากสิ่งสำคัญไปตลอดชีวิต
น่าแปลกที่บรรยากาศที่ผ่อนคลายของทีกี้คนนี้ทำให้เขากล้าพูดทุกอย่างออกมาอย่างน่าประหลาด
ทำไมถึงยังเลือกที่จะเก็บเขาไว้ข้างตัว
เป็นคำถามที่เด็กหนุ่มไม่เคยได้คำตอบกลับมาเลยสักครั้ง
“ศาสนจักรอาจจะส่งอโพคริฟอสมาอีกเมื่อไรก็ได้
เมื่อถึงตอนนั้นคุณยังจะอยากให้ผมอยู่ด้วยอีกงั้นหรอครับ”
“ฉันไม่รู้ว่าเจ้าร่างสีดำมันคิดยังไงหรอกนะ”
ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่กายสูงใหญ่ขยับเข้ามาใกล้อย่างไม่ทันตั้งตัว
พอเห็นท่าทางเหมือนจะหดคอหนีของคนตัวเล็ก ฝ่ามือใหญ่ก็ชิงวางลงบนกลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา พร้อมระบายรอยยิ้มจนดวงตาคู่คมหรี่เล็กลง
เพราะแบบนี้ถึงได้พยายามหนีอยู่ตลอดเวลาแทนที่จะกำจัดโนอาให้หมดสิ้นอย่างนั้นสินะ
“แต่ฉันชอบอยู่กับเธอมากกว่า”
พูดอะไรของเขาเนี่ย…
แขนทั้งสองข้างของอเลนกระชับถาดรูปวงกลมเข้ามากอดแน่นขึ้น
ท่าทีอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างกะทันหันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
ความรู้สึกเห่อร้อนปกคลุมทั้งหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว
ได้แต่หวังว่าความมืดของตอนกลางคืนจะช่วยพลางหน้าแดงๆนี้เอาไว้
อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนงานแต่งตั้งผู้นำตระกูลคนใหม่ของโนอาจะถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์หลังนี้
พอรู้ความจริงข้อนั้นทีกี้ก็เอาแต่บ่นกระปอดกระแปดว่าเขาไม่ชอบงานสังสรรค์
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าจะมีปีศาจจำนวนมากมายถูกเชิญมาเข้าร่วม
เพราะในโลกปีศาจแห่งนี้โนอามีอำนาจมากกว่าที่อเลนจะจินตนาการได้
ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าพอมีทางไหนที่จะหลีกเลี่ยงการไปเจอปีศาจจำนวนมากมายนั่นได้บ้าง แต่ความหวังนั้นก็พลันดับวูบไปเมื่อโร้ดชี้แจงว่าเจ้าสาวของหัวหน้าตระกูลก็ต้องถูกเปิดตัวในวันนั้นเช่นกัน ทั้งที่ปฏิเสธไปแล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย เด็กสาวคนนั้นก็ทำเพียงแค่ยิ้มละไมด้วยสีหน้า ‘แล้วยังไง’ ใส่เท่านั้น
เช้าวันใหม่ของเด็กหนุ่มเริ่มต้นขึ้นด้วยการโดนจับลากไปวัดตัว
ช่างตัดเสื้อจากร้านชื่อดังแห่กันเข้ามาในคฤหาสน์และสั่งให้เขายืนเฉยๆจนกว่าจะได้เนื้อผ้าและดีไซน์ที่เจ้าตัวพอใจ
สุดท้ายก็ลงเอยด้วยชุดสีขาวทั้งตัวเพราะมันเข้ากับสีผมและผิวที่ขาวจัดของเขา
กายบางทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้าหลังยืนเกร็งมาค่อนวัน
ไม่เข้าใจเลยว่าชุดออกงานของผู้ชายมันจะมีอะไรยุ่งยากขนาดนั้น
ไม่นานนักภาพของว่าที่ผู้นำตระกูลที่โดนโร้ดดันหลังเข้ามาพร้อมใบหน้าบึ้งตึงก็ปรากฏให้เห็น
ทีกี้เองก็โดนลากเข้ามาในห้องลองชุดทั้งความไม่ยินดี กายสูงโปร่งหยุดลงตรงหน้า
อเลนจึงก้มหน้าหลบเจ้าของดวงตาคู่คมที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นเขา
ประโยคที่ผู้ชายคนนี้พูดไว้เมื่อคืนพระจันทร์เต็มดวงวนกลับมาดังซ้ำในหัว
ต่อให้ตอนนั้นจะถูกแยกร่างออกเป็นสอง
แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ลืมสิ่งที่ตัวเองพูดไปอย่างแน่นอน
ไม่อย่างนั้นใบหน้าคมคายคงไม่ระบายยิ้มละมุนชวนให้เจ็บหัวใจออกมาหรอก
ไม่กล้าสู้หน้า…
ตอนนั้นเขาคิดอะไรถึงได้พูดแบบนั้นออกมากันนะ
“วันนั้นเธอต้องมาอยู่ข้างๆฉันทั้งงาน
อย่าหายไปไหนล่ะ” เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยขึ้นทั้งที่ไม่ได้มองคนข้างตัว แขนยาวกางออกข้างหนึ่งเพื่อให้ช่างตัดเสื้อสามารถแทรกตัวเข้ามาวัดขนาดได้
รอยยิ้มบนริมฝีปากนั้นก็ยังไม่ได้หายไปไหน
คำพูดแบบนี้อีกแล้ว…
อเลนยกมือขึ้นมากำอกเสื้อด้านซ้ายของตนแน่น
หัวใจเต้นแรงจนเจ็บไปหมดแล้ว…
ท่ามกลางโลกปีศาจที่น่ากลัวและไม่รู้จัก
แม้จะยังไม่รู้จักทีกี้ดี
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการอยู่กับชายคนนี้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยที่สุด
และแล้ววันแต่งตั้งผู้นำตระกูลคนใหม่ก็มาถึงแบบไม่ให้ทันตั้งตัว
เสียงอื้ออึงและบรรยากาศของงานได้ยินมาถึงชั้นสองของคฤหาสน์แม้ประตูจะถูกปิดสนิท
อเลนรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ทั่วท้อง
พลังปีศาจจำนวนมากมายที่เขาสัมผัสได้มีไม่ต่ำกว่าร้อย
งานนี้มันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก
หากลงไปทั้งอย่างนี้คงไม่พ้นได้โดนกินจนไม่เหลือแม้แต่วิญญาณแน่นอน
เขาอยากซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้จนงานจบไปเลย
แต่ก็อดสงสารโร้ดที่วิ่งวุ่นมาเป็นธุระให้หลายครั้งไม่ได้
ส่วนเจ้าของงานที่ไม่ได้อยากเปิดตัวอะไรต่อหน้าคนหมู่มากก็ยังอุตส่าห์ร่อนจดหมายเชิญชวนคนรู้จักมาได้มากมายขนาดนี้
ชุดของเขาถูกจัดแจงให้เข้าที่
เหลือแค่เจ้าของงานลงไปเปิดงานก็เท่านั้น
มือบางหมุนลูกบิดประตูออกจากห้องของตัวเอง
ทำได้แค่หยุดยืนอยู่หน้าบันไดที่อับสายตาผู้คน
จำนวนผู้เข้าร่วมแม้จะมีมากมายแต่คฤหาสน์หลังนี้ก็ยังเหลือพื้นที่ใช้สอย
ดวงตาสีขี้เถ้าเหลือบไปเห็นกลุ่มคนที่รู้สึกคุ้นตา
แม้แต่คนจากตระกูลโนอาก็มากันครบแล้ว
“ลงไปกันเลยไหมหนุ่มน้อย”
เสียงนั้นดึงคนตัวเล็กออกจากภวังค์
แต่ลมหายใจก็ต้องพาลสะดุดกึกอีกครั้งเมื่อเห็นภาพของคนที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ทีกี้ในเวลานี้ไม่ได้รวบผมตึงไปด้านหลังเหมือนทุกครั้ง
แต่เลือกที่จะปล่อยมันยาวลงมาระต้นคอ
ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกับร่างมนุษย์นั้นไม่มีผิด
ต่างก็แค่สีผิวของเขาที่เป็นสีน้ำตาลเทา
องค์ประกอบทุกอย่างส่งให้ดูดีราวกับภาพวาดชั้นเลิศจนเผลออึ้งไปชั่วขณะ
บนแขนแกร่งพาดไปด้วยผ้าคลุมอะไรบางอย่างที่สีตัดกับชุดติดมาด้วย
พลันสติที่เพิ่งกลับมาก็ทำให้ไล่ลาดสะดุ้งขึ้น
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงเล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าเผลอจ้องอีกฝ่ายนานเกินไปหน่อย
“เอ่อ…
ผมจะลงไปได้จริงๆหรอครับ”
เขาไม่เคยเจอปีศาจเยอะขนาดนี้มาก่อน
แค่ได้กลิ่นอายก็รู้สึกมึนหัวแล้ว
“เธอไม่จำเป็นต้องมัดผมหรอกนะ
ปล่อยไว้ก็สวยดีแล้ว” ทีกี้ตั้งใจเมินประโยคและท่าทีหวาดกลัวของคนตรงหน้า
เขายกยิ้มเมื่อเห็นคิ้วเรียวขมวดยุ่งเข้าหากันกับคำว่า ‘สวย’ ที่เพิ่งได้ยินผ่านหู
มือหนาเอื้อมเข้าไปหยุดข้างใบหูของคนตัวเล็กกว่า
สะกิดเพียงเล็กน้อยริบบิ้นที่เคยรวบผมสีขาวก็คลายออกจนกลุ่มผมนุ่มตกลงมาปกคลุมลำคอระหงส์
ริมฝีปากได้รูปสัมผัสลงแผ่วเบากับสิ่งที่ติดมือมาจนดวงตากลมโตของคนตรงหน้าเบิกกว้างเป็นไข่ห่าน
“ทำอะไรของคุณน่ะครับ!”
มันเรียกให้พวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อไปจนถึงใบหู
ชายหนุ่มเก็บริบบิ้นเส้นเดิมลงกระเป๋าเสื้อสูทอย่างถือวิสาสะ
ก่อนจะกางผ้าคลุมที่ถือติดตัวมาตั้งแต่เมื่อครู่ สวมลงบนไหล่บางของเจ้าสาวของงาน
พร้อมผูกเชือกตรงอกเป็นโบว์ให้เรียบร้อย
“เสื้อคลุมนี่จะช่วยกลบกลิ่นอายของเธอเอาไว้”
“แล้วก็ต่างหูนี่
ฉันลืมเอาให้ งั้นใส่ตอนนี้เลยก็แล้วกัน”
เขาสาละวนอยู่กับใบหูข้างซ้ายของเด็กหนุ่ม
ใบหน้าคมคายเคลื่อนเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นกายของอีกฝ่าย
ไม่นานนักน้ำหนักของเครื่องประดับก็ทิ้งตัวลงกับติ่งหูข้างนั้นเมื่อทีกี้เพิ่งสวมใส่ให้อย่างเบามือ
อเลนทำได้แค่ยืนแข็งทื่อพร้อมใบหน้าที่เคลือบไปด้วยเลือดฝาด
ความคิดในหัวตีกันจนสับสนว่าทำไมคนๆนี้ถึงมายืนแต่งตัวให้
ซ้ำยังจับนู่นจับนี่ราวกับเขาเป็นตุ๊กตา
มือบางยกขึ้นจับใบหูด้านซ้ายที่มีบางสิ่งห้อยระย้าอยู่ทั้งใบหน้าขึ้นสี
“…ขอบคุณนะครับ” รอยยิ้มน้อยๆระบายลงบนริมฝีปากสีกุหลาบ
ต่างหูคู่นั้นเข้ากับใบหน้าสวยได้อย่างลงตัว
มือหนาที่สวมถุงมือยื่นมาวางตรงหน้า
ในวันนี้มันเป็นสีดำเข้ากับชุดของเจ้าตัว
ทีกี้ระบายยิ้มอ่อนโยนพร้อมดวงตาสีทองที่กำลังเปล่งประกาย
ทั้งรอยยิ้มและสายตาแบบนั้นมันอันตรายเกินไปสำหรับคนมอง
ทั้งที่เคยคิดว่าท่าทางแบบนี้เหมือนกับเจ้าของกำลังขอมือสุนัข
แต่อเลนก็ยอมวางนิ้วเรียวของตัวเองลงบนฝ่ามืออีกฝ่าย
มือของทีกี้ใหญ่มากจนกุมมือเขาได้มิดเลยด้วยซ้ำ อุณหภูมิร่างกายของฝ่ายนั้นที่ส่งมาถึงทำให้หัวใจเต้นระส่ำอย่างไม่เป็นจังหวะ
ความวุ่นวายและเสียงจอแจของห้องโถงสดับลงอย่างง่ายดาย
ดนตรีที่เคยบรรเลงเปลี่ยนจังหวะการเล่นเมื่อปลายเท้าของผู้มาใหม่กำลังก้าวลงมาจากบันไดของคฤหาสน์
คนหนึ่งเป็นชายตัวสูงชะลูด
กายแกร่งสวมเสื้อโค้ทเนื้อดีดั่งเช่นทุกครั้ง แต่เสื้อเชิ้ตตัวในเป็นสีดำสนิท
ประกอบกับคนข้างตัวผู้มีเรือนผมสีขาวยาวระต้นคอ
ผิวเนียนละเอียดขาวจัดตัดกับผิวสีหม่นของคนข้างตัว ใบหูข้างหนึ่งประดับไปด้วยต่างหูสีแดงระย้าเช่นแผลเป็นบนใบหน้า
ร่างบางปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีขาวผ่อง เล่นรายละเอียดเป็นขนนกฟูฟ่องบริเวณหัวไหล่
ในเวลานี้คนทั้งคู่ต่างแต่งตัวในโทนตรงข้ามแต่ก็เข้ากันอย่างน่าประหลาด
สร้างเสียงฮือฮาให้แก่คนทั้งงานได้ไม่น้อย
เมื่อคนหนึ่งราวกับปีศาจผู้มีอำนาจอันน่าเกรงขาม
แต่ผู้มีศักดิ์เป็นว่าที่เจ้าสาวกลับงดงามราวกับฑูตสวรรค์
โดยที่ไม่อาจมองออกได้เลยว่าเจ้าตัวมีเพศสภาพเป็นหญิงหรือชาย
“อย่าปล่อยมือจากฉันล่ะ”
คนตัวสูงยื่นแขนข้างหนึ่งให้คนข้างตัว ส่งให้มือเรียวรีบเข้ามาเกาะอย่างรู้หน้าที่
“เข้าใจแล้วครับ”
เพราะกลัวปีศาจรอบตัวเกินกว่าจะครองสติได้
มือทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มจึงสั่นระริกขนาดนั้น ดวงตาสีทองทอดมองเจ้าของเรือนผมสีขาวที่ในเวลานี้เอาแต่ก้มหน้าต่ำโดยไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ดีว่าคนตัวเล็กกลัวปีศาจที่รายล้อมมากเท่าใด
ก็กะว่าจะอยู่ในห้องโถงนี้ไม่นานเท่าไรนักหรอก…
มือหนาเอื้อมไปสัมผัสหลังมือเย็นเฉียบของอเลนอย่างแผ่วเบาราวกับต้องการปลอบขวัญ
น่าแปลกที่มันให้ความรู้สึกสบายใจขึ้นมาได้จนความกลัวที่เคยมีเริ่มมลายหายไป
ปีศาจรอบตัวไม่ได้เข้ามาโจมตีเพราะมีชายคนนี้อยู่
ใบหูของอเลนขึ้นสีแดงเมื่อเห็นรอยยิ้มหล่อเหลา
เป็นความจริงว่าการอยู่ข้างๆคนๆนี้แล้วเขาจะปลอดภัย
เวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมง
ผู้ร่วมงานบางส่วนทยอยกลับไปแล้วจนเริ่มบางตา
ตอนนี้อเลนกำลังยืนอยู่กับโร้ดและคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี …ไวส์ลี่
เด็กหนุ่มที่มีห้าตาบนใบหน้านั่น
คราวที่แล้วเขาโดนยัดเยียดไวน์ให้ดื่มจนตื่นมาแล้วปวดหัวไปหมด
เพราะทีกี้เข้าใจว่าโนอาสองคนนี้ไว้ใจได้
เขาถึงปล่อยให้อเลนมาอยู่ตรงนี้
อย่างน้อยโร้ดก็ไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตาไปง่ายๆอย่างแน่นอน แต่กับโนอาผมสีขาวที่กำลังยืนยิ้มแฉ่งให้อยู่ทำให้เด็กหนุ่มไม่ค่อยสบายใจนัก
“ไง อเลน
วอล์คเกอร์” ซ้ำยังยกแก้วเครื่องดื่มในมือให้เป็นการทักทาย
เพราะว่าอายุไล่เลี่ยกันหรือเปล่านะ
คนๆนี้ถึงได้ชอบเข้าหาเขานัก…
“วันนี้นายก็มาดื่มกับฉันอีกสิ
คราวก่อนทำไมแค่ไวน์แก้วเดียวก็เดินเซแล้ว”
“ขอปฏิเสธครับ”
มองจากดาวอังคารก็ดูออกว่าคนๆนี้กำลังเมา
ทั้งที่รู้ว่าตัวเองคออ่อนเหมือนกันทำไมถึงได้ชอบลากเขาเข้าไปร่วมวงด้วยทุกที
ปลายเท้าทั้งคู่พยายามขยับหนี
แต่มนุษย์ที่เสียเปรียบทางด้านกำลังก็ไม่อาจสู้แรงของคนที่กระโจนเข้ามาคล้องคออย่างสนิทสนมได้อยู่ดี
เป็นอีกครั้งที่อเลนพยายามแกะแขนของอีกฝ่ายออก
แต่ไวส์ลี่ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นเกิดขึ้นง่ายๆ
แก้วทรงยาวใบหนึ่งโดนยัดใส่มือของเขาอีกแล้ว…
ลอร์ดทีกี้ มิกก์ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะ
แต่เพราะงานเลี้ยงที่ต้องจัดขึ้นตามธรรมเนียมทำให้เขาหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้
หลังจากต้องทักทายคนมีหน้ามีตาในสังคมไปมากมายก็เพิ่งมีจังหวะให้หยุดพักหายใจ
ดวงตาสีทองกวาดมองหาคนที่ติดอยู่ในความคิดแทบจะทันที
“เจ้านั่นเอาอีกแล้วหรอ”
มันก็ดีที่เด็กหนุ่มจากโลกมนุษย์คนนั้นยังปลอดภัยดีและอยู่กับคนที่ไว้ใจได้ หากแต่ร่างบางในชุดสีขาวนั่นกำลังอยู่ในอ้อมแขนของไวส์ลี่
ซ้ำร้ายร่างของทั้งสองที่มีส่วนสูงใกล้เคียงกันก็กำลังเซไปซ้ายทีขวาทีจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่
เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
ขายาวรีบก้าวเข้าไปใกล้ทันทีที่รู้ว่าอยู่ตรงนั้น
“นายเอาอะไรให้หนุ่มน้อยกินอีกเนี่ย”
คราวที่แล้วแค่ไวน์แก้วเดียวก็เดินไม่ตรงทาง
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมเสียอีก
โร้ดที่ยืนอยู่ข้างๆกันหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของคนตัวสูง
เธอชี้นิ้วไปยังแก้วใบหนึ่งในมือไวส์ลี่ที่มีเครื่องดื่มสีอำพันเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งแก้ว
มันกระฉอกออกมาเมื่อร่างของคนทั้งคู่รั้งกันไปมาแต่ยังไม่ล้มเสียที
“เจ้านั่นไง
คราวนี้สามแก้ว” พลางยกสามนิ้วขึ้นมาประกอบ
ทีกี้นึกสงสัยว่าทำไมเด็กสาวถึงได้ไม่ยอมห้าม
เขาถอนหายใจอีกครั้งก่อนดึงเจ้าของผิวขาวจัดเข้ามาใกล้
อเลนตัวเหลวอย่างกับลูกโป่งน้ำ หน้าผากมนเซถลามาชนแผ่นอกกว้าง
สัมผัสนั้นให้ความรู้สึกราวกับไฟช็อตเช่นเดียวกับทุกครั้ง
อย่างน้อยก็หาเหตุผลที่จะปลีกตัวออกจากงานได้แล้ว
เขาเองก็เหนื่อยเต็มที…
ตัดสินใจอุ้มร่างที่แม้แต่จะยืนด้วยตัวเองยังทำไม่ได้เข้ามาไว้ในอ้อมแขน
น้ำหนักตัวของเด็กหนุ่มเบาเสียจนน่าตกใจ เขาส่งเสียงงึมงำไม่ได้ศัพท์ในลำคอ
หัวทุยๆขยับเบียดแผ่นอกคนตรงหน้าเพราะไม่รู้สึกสบายตัว
ขายาวพาร่างนั้นตรงไปยังห้องนอนของเจ้าตัวโดยไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น
เจ้าไวส์ลี่ก็รู้ว่าเด็กคนนี้คออ่อนแต่ยังจะยัดเยียดแอลกอฮอล์มาให้ดื่มตั้งสามแก้ว
เขาไม่แน่ใจว่าเครื่องดื่มจากโลกปีศาจจะมีผลข้างเคียงต่อมนุษย์อย่างไร
อย่างร้ายแรงอาจจะทำให้นอนซมไปหลายวันเลยก็ได้
ทีกี้วางร่างของอเลนให้ยืนพิงตัวเขาไว้เมื่อการอุ้มทำให้หมุนลูกบิดประตูได้ยากลำบาก
ทันทีที่เอี้ยวตัวไปปิดประตูและเตรียมจะหิ้วปีกคนตัวเล็กไปวางลงบนเตียงก็ต้องชะงักด้วยความตกใจ
เมื่อเจ้าของร่างที่เคยยืนพิงอกยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแปะที่ข้างแก้มของเขาอย่างกะทันหัน
ดูเหมือนจะเมาจนไม่ได้สติไปแล้ว
ดวงตาสีเงินที่ในเวลานี้กำลังเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขา
ก้อนเนื้อใต้อกพลันเต้นระส่ำเมื่ออีกฝ่ายออกแรงดึงให้ก้มตัว
ใบหน้าหวานเคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้า
ก่อนริมฝีปากนุ่มจะสัมผัสเข้ากับริมฝีปากของเขา
อเลนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร
แต่สัมผัสตรงหน้าคือสิ่งแรกที่ต้องการ ยามที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับอีกฝ่าย
มันให้ความรู้สึกนุ่มนวลและหอมหวานจนไม่อยากละออกไปไหน
แต่ความรู้สึกหายใจไม่ออกเพราะอ่อนประสบการณ์ทำให้ต้องผละออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงยืนหอบอย่างหมดท่า
เขารู้ว่าคนตรงหน้าคือทีกี้ หัวหน้าตระกูลโนอาที่เพิ่งถูกแต่งตั้งอย่างเต็มตัวในวันนี้
ทั้งอย่างนั้นกลับไม่อาจห้ามการกระทำของตัวเองได้
สายตาที่พร่าเลือนไปด้วยน้ำตาทำให้มองไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังมีสีหน้าแบบไหน
แอลกอฮอล์ทำให้ภาพตรงหน้าหมุนวนจนไร้เรี่ยวแรง ความรู้สึกร้อนระอุแผดเผาจากในอกขึ้นไปถึงใบหน้าราวกับจะปะทุเสียให้ได้ในตอนนี้
“ทีกี้ครับ
…ผมรู้สึกร้อนมาก”
เขินมั้ย เพราะคนแต่งก็เขินเหมือนกันค่ะ กิ๊ด;/////;
ไวส์ลี่เธอทำอะไรลงไป555555 แต่ทำดีแล้วแหละเนาะ
รีบมาลงไว้ก่อน ก่อนจะหายไป
จะมาแจ้งข่าวว่าไรเตอร์กำลังจะสอบเข้าทำงานในวันที่ 21 นี้ค่ะ
ทำให้หลังจากนี้จะไม่ได้เข้ามาอัพซักพัก
แต่สอบเสร็จแล้วจะกลับมาต่อแน่นอนค่ะ ขอลาไปอ่านหนังสือก่อนนะคะTT
ปล.ตอนหน้าจะมีเนื้อหาส่วนที่ลงในเด็กดีไม่ได้
ไรเตอร์จะไม่แปะลิงก์ ไม่ทิ้งเมลล์ใดๆไว้ในบทความนี้นะคะ
ไปติดตามกันได้ในแฟนเพจและรอรเลยค่ะ
แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่ะ
ความคิดเห็น