NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Whisper of LOVE • Short Fanfiction』

    ลำดับตอนที่ #26 : ▲ [D.Gray man] White & Dark lord (Tyki x Allen) - Part 5

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 65


    ** มีฉากบรรยายถึงเลือด และการใช้ความรุนแรงภายในตอน เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ**



    แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)










    ดวงตาสีทองจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขา บรรยากาศรอบตัวว่าที่ผู้นำตระกูลโนอาหนักอึ้งจนหายใจลำบาก

     

    “เป็นเรื่องจริงสินะ ที่ศาสนจักรเกลียดชังพวกฉันจนยอมทำทุกอย่าง” 

     

           อเลนเหนื่อยล้าเกินกว่าจะอธิบายสิ่งใด ดวงตาสีเงินทำเพียงมองกลับไปตรงๆ แม้แต่ใบหน้าหวานนั้นก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวที่เจ้าตัวมักจะแสดงให้เห็นอยู่เสมอ

     

    “ถ้าอย่างนั้นคุณจะฆ่าผมให้ตายเลยไหมครับ”

     

           แววตาของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไป ในเวลานี้มันกลับเจือไปด้วยความหม่นหมอง ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันเจ้าตัวดูรักชีวิตตัวเองมากกว่านี้ แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเมื่ออโพคริฟอสปรากฏตัว คงมีเบื้องหลังอีกหลายอย่างที่ทีกี้ยังไม่ล่วงรู้

     

           ชายหนุ่มเคยได้ฟังเรื่องราวของพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์มาครั้งหนึ่ง ว่ากันว่ามันเป็นตัวตนที่อาจไม่มีอยู่จริง แต่หากมีสิ่งนั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาจากพระเจ้าโดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายล้างสิ่งผิดบาปให้หมดสิ้น ด้วยเหตุนั้นโนอาที่พระเจ้าชิงชังจึงตกเป็นเป้าหมายของอโพคริฟอสไปโดยปริยาย

     

    เคยได้ยินเพียงชื่อว่ามันปรากฏตัวครั้งสุดท้ายเมื่อหลายพันปีก่อน แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้

     

           เจ้าของใบหน้าคมคายจ้องมองคนตรงหน้าที่ยังไม่ได้ย้ายสายตาออกไปไหน สุดท้ายเด็กคนนี้ก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของศาสนจักร จะด้วยวิธีไหนก็ตาม แต่อเลนก็ลากพลังศักดิ์สิทธิ์นั่นเข้ามาในโลกนี้แล้ว ในเวลานี้ทีกี้ทั้งรู้สึกผิดหวังอย่างเต็มอก

          

           แต่สายสัมพันธ์บางอย่างทำให้ไม่อาจสังหารคนตรงหน้าได้เช่นกัน พระเจ้าที่เขาชิงชังยึดอำนาจที่มีในมือไปไม่พอ ยังส่งโซลเมทที่หมายจะเอาชีวิตมาไว้ใกล้ตัวเสียด้วย

     

    น่าตลก... ทั้งที่รู้สึกเกลียดมากขนาดนั้น แต่ชายหนุ่มกลับรักเด็กจากศาสนจักรคนนี้มากพอๆกับความรู้สึกที่อยากฆ่าให้ตายเสียตรงนี้

     

           เวลาดำเนินไปอย่างเชื่องช้า บรรยากาศรอบตัวตึงเครียดเสียจนอเลนคิดว่าเขาจะโดนกำจัดทิ้ง แต่ร่างสูงก็ไม่ได้ทำแบบนั้น ราวกับเกมจ้องตานี้จะไม่มีวันจบสิ้นหากไม่มีใครคนหนึ่งหลบตาไปเสียก่อน ซึ่งเด็กหนุ่มเลือกที่จะทำแบบนั้น

     

           เจ้าของเรือนผมสีขาวไม่ได้อยากตาย เขาอยากหนีไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก และไม่เข้าใจเหตุผลของคนที่ช่วยเหลือให้มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้เช่นกัน เป็นความจริงว่าการเป็นหนึ่งเดียวกับอโพคริฟอสจะสามารถทำลายโนอาได้ แต่เพราะเจ้านั่นพรากคนสำคัญในชีวิตของเขาไปหลายครั้ง ความรู้สึกโกรธแค้นในจิตใจกลับมีมากกว่าจะทำตามคำสั่งของศาสนจักรเสียด้วยซ้ำ

     

           สิ่งนั้นปรากฏตัวขึ้นอย่างถูกจังหวะ ศาสนจักรที่เขาเคยนับถือเขียนประวัติศาสตร์ให้ตัวเองกลายเป็นพระเอก และโยนบทตัวร้ายให้กับโนอา เขาไม่รู้หรอกว่าความจริงของเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่

     

    “บรรณาการยังจำเป็นอยู่ไหมครับ” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้ามองคู่สนทนา

     

    “ถ้าเป็นแบบนั้นผมจะเดินออกไปเองเพื่อความสบายใจของพวกคุณ”

     

    แต่ไหนแต่ไรโนอาก็เกลียดชังศาสนจักรเหมือนกัน พวกเขาคงไม่ได้ใยดีอะไรกับเจ้าสาวจากโลกมนุษย์แค่คนเดียวอยู่แล้ว

     

    ราวกับคำพูดนั้นกำลังท้าทายคนฟัง ทีกี้กลั้วหัวเราะในลำคอด้วยความขบขัน

     

    “เธอคิดว่ามนุษย์จะสามารถเอาชีวิตรอดในโลกปีศาจได้งั้นหรอ” เพราะมนุษย์อ่อนแอ ยิ่งโดนยึดพลังศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วก็ยิ่งอ่อนแอ ปล่อยให้เด็กหนุ่มออกไปภายนอกก็เหมือนฆ่าตัวตายทั้งนั้น

     

    “ก่อนที่นายจะโมโหขนาดนั้นช่วยคิดให้ดีก่อนเถอะทีกี้”

     

           เป็นเสียงของโร้ดที่แทรกเข้ามาท่ามกลางความเงียบ ร่างเล็กเดินมาหยุดต่อหน้าคนจากศาสนจักรพร้อมทอดมองอย่างมีความหมาย สีหน้าของทีกี้ในเวลานี้ให้ความรู้สึกว่าไม่ควรต่อบทสนทนาไปมากกว่านั้น เขาโดนความเกลียดชังเข้าครอบงำจนมองข้ามรายละเอียดเล็กๆไป

     

    ด้วยเงื่อนไขของโซลเมท ต่อให้มนุษย์จะสัมผัสได้อย่างเบาบาง แต่ก็ไม่ได้ผิดไปที่ว่าพวกเขาไม่อาจสังหารอีกฝ่ายได้เช่นกัน

     

    “คิดว่าอเลนจะฆ่านายได้หรือไง”

     

           ครั้งแรกที่สัมผัสได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ แปลกเกินไปที่คนจากศาสนจักรกลับพยายามหนีเอาชีวิตรอดอย่างไร้สติ ราวกับรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป้าหมายของสิ่งนั้นไม่ใช่โนอาโดยตรง

     

    “เห็นบอกว่าเป้าหมายของมันคือนายงั้นหรอ” ฝ่ามือที่วางอยู่บนที่นอนเผลอกำผ้าห่มแน่น แววตาของเด็กหนุ่มสั่นไหวตามคำพูดนั้น เป็นความจริงที่ว่าเขาเคยพูดไปแบบนั้นขณะที่มันยังอยู่

     

    อเลนรู้ดีว่าบรรณาการถูกวางตัวให้เป็นเขามาตั้งแต่แรก ไม่ใช่ต่อโนอาแต่เป็นอโพคริฟอส

     

           เขาไม่ได้มีความเกลียดชังต่อโนอา เรื่องราวทุกอย่างก็แค่ปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อปลูกฝังให้ชิงชังต่อกันก็เท่านั้น แม้จะเติบโตมาในโลกมนุษย์ แต่สิ่งที่ทำร้ายเขามาโดยตลอดกลับเป็นมนุษย์ด้วยกันเอง ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็รับรู้ได้ดีว่าความเกลียดชังของโนอาต่อศาสนจักรเป็นของจริง

     

    “เธอมาทำดีกับผมทำไมครับ ทั้งที่ผมเป็นคนลากมันมาหาเธอแท้ๆ” ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน โร้ดไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่กลับปฏิบัติด้วยเหมือนเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แม้อเลนจะยังไม่ได้ไว้ใจแต่ก็ไม่เข้าใจเหตุผลของการกระทำอยู่ดี

     

    “แล้วถ้าฉันฆ่านาย มันจะเกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ”

     

           เขาเบนหน้าหลบสายตา เมื่อไรก็ตามที่อเลน วอล์คเกอร์ไร้ตัวตน อโพคริฟอสก็จะได้พลังในส่วนที่ขาดหายไป นั่นหมายถึงจุดจบของตระกูลโนอาเช่นกัน ความจริงเหล่านั้นคือสิ่งที่ไม่ได้พูดให้ชัดเจนตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะอยู่หรือตายทางไหนก็มีแต่เป็นภัย เพราะแบบนั้นถึงอยากรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

     

    “แค่ปล่อยผมออกไปจากที่นี่ก็พอแล้วครับ”

     

    “ว่ายังไงทีกี้ นายจะเอายังไงกับอเลนดีล่ะ”

     

           เด็กสาวมองท่าทีที่อ่อนลงของอเลนอย่างครุ่นคิด มีเรื่องราวอีกมากมายที่คนตรงหน้ายังเก็บงำเอาไว้ เพราะเป็นคนระแวดระวังตัวจึงไม่ยอมไว้ใจใคร ส่วนว่าที่ผู้นำตระกูลเองก็เจ็บปวดกับพลังที่ควบคุมไม่ได้ของตัวเองมาโดยตลอด สิ่งที่คนทั้งคู่ยังขาดไปก็คือการเปิดใจยอมรับซึ่งกันและกัน จนกว่าจะทำแบบนั้นได้ความบาดหมางก็คงไม่มีวันหมดไป

     

    บรรณาการที่ศาสนจักรส่งมาแล้ว แม้จะถูกสลับตัวแต่ก็ได้โซลเมทมาแทน โร้ดยิ้มอย่างรู้ทันเมื่อรู้ว่าคนรักศักดิ์ศรีอย่างทีกี้ไม่มีทางคืนให้ไปอย่างง่ายดายแน่

     

    “ฉันไม่ให้เธอไปไหนทั้งนั้น คนที่ตัดสินว่าเธอจะอยู่หรือตายก็คือฉัน”

     

     

     

     

     

     

           เป็นอีกวันที่เจ้าของเรือนผมสีขาวถูกบังคับให้นอน และตื่นขึ้นมาเพื่อกลับมาทำหน้าที่เสมือนทาสรับใช้ของเจ้าของคฤหาสน์อีกครั้ง ไม่เคยมีวันไหนที่เขาได้นอนหลับเต็มอิ่ม เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ไม่อาจข่มตาลงนอนได้

     

           เด็กสาวตัวเล็กกลับไปตั้งแต่ยังไม่รุ่งสางเพราะมีธุระทางบ้านต้องไปจัดการ ส่วนอเลนทำได้เพียงเดินตามร่างสูงของคนผมดำไปยังรถม้าเพื่อออกไปทำธุระภายในเมืองเช่นกัน

     

           บรรยากาศภายในกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆเหมือนกับวันแรกที่มาถึง ทีกี้ไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสนทนากับเขา คงจะโดนชายคนนี้เกลียดเข้าให้แล้วเป็นแน่ เป็นความจริงว่าอเลนไม่สามารถหนีไปไหนได้ แม้แต่จะกลับไปยังศาสนจักรก็ไม่ได้เช่นกัน

     

           เด็กหนุ่มไม่มีความกล้าพอที่จะออกมายังโลกภายนอก ดวงตาสีเงินจับจ้องอยู่เพียงปลายเท้าของตน กลิ่นอายของปีศาจอบอวนตลอดเส้นทางที่รถม้าเคลื่อนผ่าน นิ้วเรียวทั้งห้าได้แต่กำข้อมืออีกข้างแน่น เขากลัวว่ากลิ่นอายของตัวเองจะไปดึงดูดปีศาจตนอื่นเข้าหา เพราะที่นี่ไม่ใช่โลกมนุษย์ และไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าจะสามารถมีชีวิตรอดกลับไปได้

     

           ทันทีที่รถม้าจอดสนิทและปลายเท้าทั้งคู่ก้าวลงมาสัมผัสกับพื้น สายตามากมายก็ทิ่มแทงเข้ามาจนรู้สึกขนลุก รอบตัวของเขาเป็นปีศาจ สาเหตุที่พวกมันไม่เข้ามาโจมตีเพราะมีทีกี้ที่มีอำนาจมากกว่ายืนอยู่ตรงนี้ แม้จะไม่ได้ไว้ใจแต่คนตัวเล็กก็เลือกที่จะไม่ทิ้งระยะห่างจากร่างสูงมากนัก

     

    เหมือนกับคำที่ผู้ชายคนนี้พูดไว้เมื่อวานไม่มีผิด ไม่ให้หนีไปไหน เพราะยังไงก็ไม่มีวันหนีได้อยู่ดี

     

    ทำเป็นพูดเหมือนตัวเองเก่งกล้า สุดท้ายแม้แต่จะออกห่างจากผู้นำตระกูลโนอาก็ยังทำไม่ได้… ความกลัวต่อปีศาจมันมากกว่าที่เขาคิด

     

           ทีกี้แวะซื้อของหลายร้านอย่างผิดวิสัย แต่อเลนก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะรู้สึกกลัวกับสายตาของปีศาจรอบตัวที่มองมามากกว่า ของมากมายถูกยื่นมาให้ถือ และมันเริ่มมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มจะรับมือไม่ไหว

     

           หากไม่รวมกลิ่นอายและความจริงว่าผู้คนที่นี่เป็นปีศาจ โดยทั่วไปแล้วระบบทุกอย่างก็คล้ายคลึงกับโลกมนุษย์ มีการซื้อขายและใช้เงินตราสำหรับแลกเปลี่ยนสิ่งของ พวกเขาต่างก็ใช้ความสามารถที่ตนมีในการรังสรรค์สิ่งต่างๆออกมา

     

           เมื่อเห็นว่าร่างสูงอยู่ไม่ห่างออกไป จึงตัดสินใจยกของทั้งหมดไปวางไว้บนรถม้าก่อน พวกเขาทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ผู้ชายคนนั้นยังใช้งานเด็กหนุ่มเหมือนทุกครั้ง แต่ไม่ยอมปริปากสนทนาด้วยสักคำ ตอนที่รู้ตัวว่าวันนี้ต้องตามเข้ามาในเมืองด้วย ก็เพราะคนรับใช้คนหนึ่งมาเคาะประตูบอกถึงหน้าห้อง

     

    กลิ่นหอมจังเลยนะ เธอน่ะเป็นมนุษย์งั้นหรอ

     

           เสียงเย็นยะเยือกทำให้เจ้าของใบหน้าหวานที่กำลังเหม่อสะดุ้งขึ้น กลิ่นอายของปีศาจคละคลุ้งจนแสบจมูก เบื้องหน้าคือร่างสูงใหญ่ที่กำลังแย้มยิ้มด้วยความพอใจ อเลนรีบถอยหลังหนีทันที มองไปรอบตัวกลับไม่พบร่างสูงของทีกี้ที่เคยยืนอยู่อีกต่อไป

     

           เผลอละสายตาไปแค่ครู่เดียวเขาก็ดึงดูดปีศาจให้เข้าหาได้อย่างง่ายดาย ความรู้สึกชาวาบปกคลุมไปทั่วร่างกาย แม้ตอนนี้จะไม่รู้ว่าผู้นำตระกูลโนอาคนนั้นหายไปไหน แต่สิ่งเดียวที่นึกขึ้นมาได้คือต้องรีบกลับไปที่ร้านเดิม อย่างน้อยผู้ชายคนนั้นน่าจะยังไม่ได้เดินออกไปไหนไกล

     

    หมับ

     

    แต่ก็ไม่ทันจังหวะที่ปีศาจตรงหน้าคว้าข้อมือของเขาไว้ด้วยความว่องไว แรงบีบมันมากพอจะทำให้เบ้หน้าเข้าหากัน

     

    “น่าสนใจ ทำไมมนุษย์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”

     

    “ปล่อยผมนะครับ! 

     

    น่ากลัว… ใบหน้ากระหายที่เขามักจะเห็นจากปีศาจบ่อยๆมาตั้งแต่เด็ก ตัดสินใจกระชากข้อมือของตัวเองออกมาอย่างสุดแรงและรีบพาตัวเองออกไปอีกทาง

     

    มีแต่ต้องหนีเท่านั้น

     

           แต่เดิมศาสนจักรมีเหล่าผู้ต่อต้านปีศาจที่เรียกว่าเอ็กโซซิสต์ ผลพวงจากสงครามศักดิ์สิทธิ์ทำให้พวกเขาต้องพึ่งพาอาวุธในการต่อสู้สถานเดียว และอเลน วอล์คเกอร์ที่ไร้อาวุธจึงกลายเป็นแค่มนุษย์ไร้พลังคนหนึ่งเท่านั้น

     

           ไม่นานมันคงจะตามหาเขาเจอ จำเป็นต้องล่อออกไปตรงที่ที่ไม่พลุกพล่าน จะได้ไม่ดึงดูดปีศาจตัวอื่นมาเพิ่มอีก ด้วยกลิ่นอายของพลังในตัวที่เขามี มันจึงรุนแรงมากกว่าที่ปีศาจจะได้กลิ่นมนุษย์ทั่วไปอีกหลายเท่า

     

           อเลนกัดฟันแน่นอย่างเจ็บใจ เพราะผู้ตัดสินว่าจะอยู่หรือตายคือผู้ชายคนนั้น ทีกี้กำลังทำให้เขารู้ถึงความสำคัญของโนอา หากยอมเป็นบรรณาการที่ดีเด็กหนุ่มก็จะปลอดภัยจากเงื้อมมือของปีศาจตนอื่น แต่หากต่อต้านก็จะโดนปล่อยให้ตายอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้

     

    เขากำลังถูกยื่นเงื่อนไขว่าจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เลยหากขาดการมีอยู่ของโนอา

     

           ในช่วงเวลาที่คิดว่าน่าจะพอทิ้งระยะห่างออกมาได้แล้ว อยู่ๆปีศาจตัวเดิมก็ปรากฏกายขึ้นมาดักเส้นทางตรงหน้าไว้จนมิด วัดกันด้วยปัจจัยทางกายภาพ ไม่ว่าอย่างไรเด็กหนุ่มก็ไม่อาจสู้ปีศาจด้วยมือเปล่าได้เลย ปลายเท้าทั้งคู่พลันถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ

     

    ไม่รู้เหตุผลหรอกว่าทำไมโนอาถึงยังไม่กำจัดเขาให้จบเรื่อง… นึกโกรธตัวเองที่ในเวลาสุดท้ายของชีวิตก็ยังหวังให้ชายคนนั้นมาช่วย

     

    อเลนกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ความตายของเขาก็เหมือนการปูทางให้อโพคริฟอสทำสิ่งที่มันต้องการได้สำเร็จ

     

           จังหวะนั้นแผ่นหลังของเด็กหนุ่มชนเข้ากับแผ่นอกของใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง ไม่ทันได้หันกลับไปมอง กลิ่นอายที่คุ้นเคยและความรู้สึกเหมือนไฟช็อตที่เกิดขึ้นเมื่ออีกฝ่ายคว้าไหล่อันสั่นระริกของเขาไว้แน่นก็ทำให้รู้ตัว

     

    “เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน”

     

           ของเหลวสีแดงกระเซ็นมาโดนใบหน้าด้านหนึ่งพร้อมกับแขนทั้งสองข้างของปีศาจตรงหน้าที่ขาดออกเป็นสองท่อน เสียงกรีดร้องอย่างทรมานตามมาหลังเจ้าตัวรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด แต่ตัวต้นเหตุที่ยืนอยู่ด้านหลังอเลนก็ไม่ได้สนใจ

     

    “กลับไปกับฉันได้แล้ว”

     

     

     

     

     

     

           เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นอย่างเชื่องช้า อเลนทำได้เพียงยืนมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกอยู่พักใหญ่ ชุดราคาแพงทำให้เขารู้สึกแปลกไป เป็นความจริงว่าศาสนจักรไม่ได้มีเงินมากมายขนาดจะให้เอ็กโซซิสต์ทุกคนใช้ได้อย่างฟุ่มเฟือย เสื้อผ้าที่เขามีจึงเป็นตัวเดิมๆที่ใส่วนซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดสภาพก็เท่านั้น

     

           โดยปกติแล้วผู้นำตระกูลโนอาเป็นชายที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ลำพังแค่การออกไปซื้อของใช้ในเมือง แค่ชี้นิ้วสั่งคนรับใช้ในคฤหาสน์ให้ออกไปแทนก็ทำได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น

     

           วันก่อนหลังรถม้ามาถึงที่คฤหาสน์ คนรับใช้ต่างก็กุลีกุจอกันเข้ามายกสัมภาระตรงไปยังห้องของเขา จนถึงตอนนี้อเลนก็ยังไม่อาจเข้าใจได้อยู่ดีว่าทีกี้จะซื้อของมากมายขนาดนั้นให้เขาไปเพื่ออะไรกัน การกระทำของชายคนนั้นรับมือยากจนไม่รู้จะตอบสนองกลับไปอย่างไรดี

     

           สัมภาระทั้งหมดเป็นเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็น ทีกี้เลือกสไตล์เสื้อผ้าในแบบที่เขาชอบใส่ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสวมทับด้วยกั๊กสีเลือดหมู แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไรแต่กลับปรากฏลายดอกกุหลาบอย่างประณีตเมื่อโดนแสง เข้าชุดกับกางเกงสีทึบและรองเท้าหนังสีน้ำตาลทรงสูง

     

    ทุกอย่างมันพอดีตัวไปหมดจนทำให้รู้สาเหตุที่โดนพาตัวไปด้วยวันก่อนอย่างแจ่มแจ้ง

     

    คุณทำแบบนี้ทำไมครับ ทั้งที่เกลียดผมมากมายขนาดนั้น

     

           เป็นประโยคที่เด็กหนุ่มถามออกไปทันทีที่ตั้งสติได้ ของราคาแพงจากคนตรงหน้าก็ไม่ได้ทำให้อเลนพอใจ มันไม่มีความจำเป็นอะไรด้วยซ้ำที่ผู้ชายคนนี้จะมาทำดีด้วย

     

    เสื้อผ้าเก่าๆของเธอมันขัดตา’ ดวงตาสีทองของอีกฝ่ายไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับรังเกียจเด็กหนุ่มนักหนา

     

    เพราะสัญญางี่เง่าอย่างเจ้าสาวของโนอานั่น แต่งตัวให้มันสมฐานะหน่อยแล้วกัน

     

           อเลนรวบผมสีขาวของตนไปด้านหลังก่อนมัดด้วยริบบิ้นผ้าเส้นหนึ่งทั้งสีหน้าหงุดหงิด อย่างไรก็ตามเหตุผลของผู้ชายคนนั้นก็ยังฟังไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะมัววุ่นวายกับเรื่องราวหลายอย่าง ผมของเขาก็เลยยาวจนมัดรวบมาได้ตั้งขนาดนี้แล้ว เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาขัดจังหวะ ก่อนการปรากฏตัวของผู้มาใหม่จะไม่ได้ผิดไปจากที่คาดเท่าไรนัก

     

    “อรุณสวัสดิ์อเลน” เป็นโร้ดที่เดินเข้ามาพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม ได้ยินคนใช้บอกว่าเธอจะแวะเข้ามาแป๊บหนึ่งก่อนออกไปข้างนอก

     

    “ทีกี้ยังไม่ได้บอกเหตุผลที่เขาซื้อเสื้อผ้าให้เธอใหม่สินะ”

     

    “ครับ?” คิ้วเรียวยกขึ้นด้วยความแปลกใจ จะบอกว่ามีเหตุผลอื่นอีกด้วยหรือไง นอกจากเสื้อผ้าชุดเก่าของเขามันซอมซ่อจนน่าขัดตานั่น

     

    “แฟชั่นไม่ถูกใจเขางั้นหรอครับ”

     

    สีหน้าไม่พอใจที่พูดขึ้นอย่างจริงจังทำให้โร้ดพ่นหัวเราะออกมา

     

    “ไม่ใช่ซักหน่อย นายไปขึ้นรถม้าได้แล้ว อีกเดี๋ยวฉันจะออกไปพร้อมปะป๊า”

     

    ออกไปข้างนอกอีกแล้วหรอ

     

           อาจเพราะทิฐิและความไม่พอใจส่วนตัว อเลนเลือกที่จะไม่แตะต้องเสื้อผ้าที่ทีกี้เลือกให้มาโดยตลอด เขาเดินไปไหนมาไหนด้วยชุดเก่าๆที่ชายคนนั้นบอกว่าขัดตามาสองวันเต็ม จนล่าสุดเจ้าตัวออกคำสั่งว่าให้สวมชุดที่ซื้อมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่คิดว่าจะต้องออกไปข้างนอกอีกครั้ง

     

           ปลายเท้าทั้งคู่พาตัวเองมาหยุดหน้าคฤหาสน์ที่มีรถม้าคันเดิมจอดรออยู่ เขารอจังหวะให้ทีกี้เดินขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้วจึงพาตัวเองเข้าไปตาม ใบหน้าหวานเสมองออกไปนอกหน้าต่างแบบที่ชอบทำโดยไม่ได้สนใจร่างสูงที่นั่งตรงข้าม

     

           ตั้งแต่อโพคริฟอสปรากฏตัวคราวนั้น ทีกี้ก็เลือกที่จะพาอเลนไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา แม้จะยังไม่เข้าใจเหตุผลแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นมานิดหน่อย อย่างไรก็ตามการเดินทางออกไปในที่ที่มีแต่ปีศาจ มันทำให้เด็กหนุ่มไม่มีทางเลือกใดนอกจากต้องทำตัวติดกับชายคนนี้ให้มากที่สุดก็เท่านั้น

     

    เขาจะปลอดภัยถ้าอยู่ใกล้คนๆนี้ เพราะเจ้าตัวมอบเงื่อนไขแบบนั้นมาให้

     

           น้ำหนักของบางสิ่งที่วางลงบนตักทำให้เจ้าของดวงตาสีขี้เถ้าหันกลับมาสนใจได้อีกครั้ง อเลนมองกองผ้าที่ทีกี้เพิ่งโยนมาให้ด้วยความงุนงง ถ้าจำไม่ผิดมันคือเสื้อโค้ทสีน้ำตาลที่เคยอยู่ในมือของผู้ชายตรงหน้าตั้งแต่ก่อนขึ้นรถมา

     

    “สวมไว้สิ กลิ่นอายของฉันจะทำให้พวกนั้นไม่กล้าโจมตีเธอ” รอยยิ้มหล่อเหลากับสีหน้าอ่อนโยนที่ส่งมาให้ทำเอาคนมองทำตัวไม่ถูก

     

           อเลนรีบยกเสื้อตัวนั้นมาสวมอย่างลนลาน ท่าทางแบบนั้นทำเอาเด็กหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย กลิ่นอายของหัวหน้าตระกูลโนอาคละคลุ้งตามเนื้อผ้าเต็มไปหมดอย่างที่เจ้าตัวพูด เขาก้มหน้างุดลงไปกับคอเสื้อที่ตั้งสูงขึ้นมา เพราะเป็นเสื้อของคนที่ตัวใหญ่กว่า ความยาวมันถึงได้มากพอขนาดจะใส่เป็นเดรสได้เลย

     

           ความไม่รู้ทำให้เขากลัวและตัดสินอีกฝ่ายว่าไม่ดีทั้งที่ยังไม่เคยเจอกันมาก่อน แม้จะไม่ได้ชอบใจและไม่รู้เหตุผลจากการกระทำหลายๆอย่าง แต่อย่างน้อยตอนนี้อเลนก็รู้สึกว่าอยากจะเข้าใจคนตรงหน้าให้มากกว่านี้สักหน่อย

     

    “ขอบคุณนะครับ… สำหรับทุกๆอย่าง”

     

           ประโยคหลังเบาลงแต่ก็ไม่ได้เบาจนฟังไม่ได้ความ ทีกี้ทำท่าจะพูดอะไรออกมาแต่ก็ทำได้เพียงเม้มปากเข้าหากันแน่น แม้คิ้วของเด็กตรงหน้าจะขมวดเข้าหากันราวกับไม่ชอบใจและซ่อนใบหน้าไว้ใต้ปกเสื้อก็ตาม แต่ใบหูทั้งสองข้างกลับกำลังระบายสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด

     

           เจ้าของดวงตาสีทองย่นคิ้วเข้าหากันก่อนย้ายสายตาออกไปด้านนอกเหมือนไม่พอใจ ความรู้สึกบางอย่างที่เกาะกุมหัวใจทำให้เขากลืนคำพูดประชดประชันลงไปในลำคอจนหมด

     

    “เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าง่ายๆ”

     

     

    จริงอย่างที่โร้ดว่า ไม่ว่าหนุ่มน้อยจะตั้งใจล่ออะโพคริฟอสมาหรือไม่ แต่ท่าทางหวาดกลัวที่เห็นเมื่อตอนนั้นดูเป็นอาการคาดไม่ถึงมากกว่าความตั้งใจเสียอีก

     

       



     







              

    นิสัยที่เห็นชัดอย่างนึงของอเลนคือการไม่ยอมพูด
    แล้วเก็บปัญหาทุกอย่างไว้กับตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้คนอื่นจะไปเข้าใจได้ยังไงเนอะ;-;

    ส่วนอีกคนนึงก็ปากไม่ตรงกับใจซะเหลือเกิน น่าปวดหัวกับคู่นี้จริงๆค่ะ

    แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่ะ





    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×