ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #51 : ◣Fanfic◥ [AllxLuffy] Candied dream : Cottage in the wild(2) (Part10)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.14K
      38
      14 มิ.ย. 65

    Title: Candied dream : Cottage in the wild (2)
    Pairing: All x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 10/20

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




















         ที่จริงแล้วลูฟี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก ว่าความจริงแล้วผู้ชายสองคนที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่นี่กำลังวางแผนอะไรเอาไว้ในใจหรือเปล่า... พอจะคิดว่าเป็นคนดี พวกเขาก็มักจะทำตัวแปลกๆแบบที่ไม่ค่อยเข้าใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน …ไม่มีใครให้คำตอบนั้นได้ พอถามกับเอสและซาโบไปทีไร ก็มักจะถูกบ่ายเบี่ยงประเด็นไปอยู่เสมอ 

     

    ก็คงเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งของลูฟี่ล่ะมั๊ง… ที่เจ้าตัวดันเชื่อคำพูดของคนอื่นอย่างง่ายดายทั้งๆที่เพิ่งพบกันครั้งแรก 

     

    อยากจะกลับไปในเร็ววันเหมือนกัน... แต่คงมีแต่ต้องพึ่งคนที่คุ้นเคยสถานที่เหล่านี้ดีเท่านั้น 

     

    การมาอาศัยอยู่บ้านพวกเขาแบบไม่มีอะไรตอบแทน ทำให้ไม่ค่อยอยากจะท้วงเรื่องอยากกลับบ้านเร็วๆไปซักเท่าไร กิจวัตรของเช้าวันต่อมายังคงวนเวียนอยู่ที่เดิม เอสเป็นคนชวนให้ลูฟี่เข้าไปเก็บผลไม้ด้วยกันอีกครั้ง ผ่านสวนดอกไม้หลากสีที่ส่งบรรยากาศสดชื่น ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกชอบมันอยู่ไม่น้อย วันนี้พวกเขาเก็เกี่ยวผลไม้มาได้เยอะจนเต็มตระกร้า... มันมากพอที่จะเก็บเอาไว้ได้หลายวันโดยที่วันพรุ่งนี้ไม่จำเป็นต้องถ่อมาเก็บอีก 

     

    มื้อเย็นดำเนินไปด้วยบรรยากาศครื้นเครงแบบที่ลูฟี่ไม่เคยสัมผัสกับมันมาก่อน ใจหนึ่งก็รู้สึกสนุกกับมันดี แต่อีกใจก็ยังไม่อยากทิ้งโลกที่จากมาอยู่ดี การอยู่ที่นี่มันไม่ได้แย่ แต่คนตัวเล็กกลับรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่สถานที่สำหรับเขา... 

     

    แก้วที่มีรูปร่างเหมือนกับถังเหล้าย่อส่วนซึ่งบรรจุเต็มไปด้วยน้ำองุ่นสีสวย ถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากบาง รสชาติหอมหวานของมันที่ละเลียดลงกับปลายลิ้นไม่เคยทำให้ลูฟี่ผิดหวัง เขาออกจะชอบมันสุดๆเลยด้วยซ้ำ แต่เพียงชั่วครู่ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาลิ้มรสเครื่องดื่มนั้น สัมผัสนุ่มหยุ่นก็แตะลงที่แก้มข้างหนึ่งของใบหน้าหวาน ไหล่เล็กสะดุ้งตัวโยนจนเกือบปัดแก้วตกพื้น หันมองไปยังตัวการที่ตอนนี้ยังคงนั่งยิ้มด้วยท่าทีเริงร่า พลันความร้อนก็ฉาบแล่นขึ้นมาทั่วทั้งใบหน้า 

     

    “ พวกนายทำอะไรเนี่ย! ” สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยโดนปู่หอมแก้มด้วยความรักแบบนี้เลยซักครั้ง ไหนจะใบหน้ายิ้มแย้มแบบที่ไม่รู้สึกอะไรเลยนั่นมันอะไรกัน 

     

    “ อ้า...ตัวนายนี่หอมชะมัดเลยน้า! ” ชายผมดำแสดงใบหน้าเคลิ้ม ส่งให้ลูฟี่ทำได้แค่มองกลับไปพร้อมคิ้วขมวดเหมือนจะค้อนเบาๆแต่ก็ยังตามเหตุการณ์ไม่ทัน เห็นซาโบที่วางมือจากหม้อต้มที่กำลังปรุง ย้ายร่างสูงมานั่งขนาบข้างเด็กหนุ่มบนเก้าอี้ที่ตนลากติดมือมาด้วย 

     

    “ นี่น่ะคือ'ธรรมเนียม'ยังไงล่ะ... ” 

     

    “ ธรรมเนียม...? ” 

     

    คิ้วเรียวขมวดพันกันยุ่งกว่าเดิม สีหน้าเหมือนต้องการจะถามว่า ธรรมเนียมแปลกประหลาดอะไรของพวกนายกัน... 

     

    “ บ้านเรามีกฏว่าพี่น้องจะต้องหอมแก้มกันทุกวันน่ะ... ” ใบหน้าหล่อเหลาของคนผมทองปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ในเวลานี้มันไม่ใช่เวลาที่จะพูดอะไรแบบนั้นออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เข้ากันอย่างสิ้นเชิงเอาซะเลย... ลูฟี่มีท่าทางเลิ่กลั่ก พวงแก้มขึ้นสีแดงจางๆ มือไม้ไม่สามารถวางเก็บอยู่กับที่ได้ด้วยความรู้สึกอายอย่างที่ไม่เคยมี 

     

    “ ..พวกนายก็โตๆกันขนาดนี้แล้วนะ ไม่เห็นจะต้องทำเลย! ” การกระทำแบบนี้เหมือนกับเขาเป็นเด็กเล็กๆเลย นี่พวกเขากำลังเล่นบทพ่อแม่ลูกอยู่หรือไง... 

     

    “ ฮ่าฮ่า... ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ตอนนี้ไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่ก่อนนอนฉันจะมาทวงธรรมเนียมที่ตกลงกันไว้อีกครั้งแล้วกัน ” 

     

    เอสเดินออกไปทำอย่างอื่นทั้งอย่างนั้น แต่คำพูดที่ว่าจะมาทวงนั่นอดทำให้ลูฟี่รู้สึกร้อนๆที่หน้าไม่ได้... 

     

    เวลาในโลกที่เหมือนกับความฝันค่อยๆผ่านไป รู้สึกตัวอีกทีท้องฟ้าก็มีเพียงความมืดปกคลุม อากาศของที่นี่ค่อนข้างหนาวเย็นเมื่อเทียบกับหลายๆที่ที่ลูฟี่ได้ไปมา เขาทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ตัวนิ่มใกล้ๆกับเตาผิงของบ้าน ในขณะเดียวกันก็ยังสวมผ้าคลุมสีแดงที่ได้มาจากสองพี่น้องเอาไว้ 

     

    ชุดที่เด็กหนุ่มสวมใส่ตอนนี้ไม่ได้เป็นกระโปรง มันถูกเปลี่ยนตั้งแต่ตอนเจอกับอุปราชแปลกๆนั่น แต่เปลี่ยนไปได้อย่างไรลูฟี่ก็จำไม่ได้เลย โชคยังดีที่เขาได้ชุดใหม่มาจากทั้งเอสและซาโบ มันคือชุดที่คล้ายกับจั๊มสูทสีดำ ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายที่หนาพอจะให้ความอบอุ่นได้ ติดก็ตรงส่วนแขนและขาของมัน บริเวณแขนเสื้อถูกทำให้เป็นแขนกุด ความยาวขากางเกงก็ยาวคลุมหัวเข่าของเขาพอดี แต่แถมด้วยผ้าคลุมสีแดงทับอีกชั้นแล้วมันก็ไม่ได้แย่ซักเท่าไร... 

     

    ก็ยังดีกว่าการต้องใส่เสื้อคลุมไร้กระดุมกับกางเกงขาพองๆแบบก่อนหน้านี้ เวลาลมเย็นๆพัดผ่านหน้าท้องทีไรก็ขนลุกขึ้นมาทุกที... 

     

    ดวงจันทร์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าชัดเจน สังเกตเห็นได้จากหน้าต่างที่ตอนนี้ถูกปิดเอาไว้เพื่อกันลมหนาวจากภายนอก มันเป็นพระจันทร์เต็มดวงที่มีสีเหลืองนวลน่ามอง นั่นทำให้ลูฟี่รู้สึกได้ว่านี่คงจะใกล้ถึงเวลาเข้านอนของเขาแล้ว...

      

    คนพวกนั้นส่งเขาเข้านอนตั้งแต่เวลายังไม่ทันจะดึก ด้วยเหตุผลที่ว่า 'เป็นเด็กเป็นเล็กต้องเข้านอนแต่หัวค่ำเด็กหนุ่มไม่ได้ขัดอะไรกลับไปมากนัก ถึงมันจะขัดกับนิสัยลิงโลดไม่ค่อยอยู่กับที่ของตัวเองบ้างก็เถอะ แต่ก็อยากเถียงกลับไปเหมือนกัน... ตอนที่อยู่ด้วยกันกับพวกเขา ก็มีบ้างที่รู้สึกว่าเป็นพี่ชายอยู่หรอก แต่ทั้งเอสและซาโบชอบทำเหมือนเขาเป็นเด้กตัวน้อยๆเลยแฮะ... 

     

    เป็นคืนที่สองที่เขาได้มาอยู่ในกระท่อมเล็กๆหลังนี้ ที่จริงลูฟี่ก็ยังไม่ได้ลืมคำพูดที่ว่า ที่นี่มีธรรมเนียมแปลกๆอย่างการหอมแก้มไปหรอก เพราะแบบนั้นเขาถึงได้ทำเป็นลืม และหวังว่าผู้ชายอีกสองคนก็จะลืมไปด้วยเหมือนกัน ร่างเล็กๆนั้นเดินตรงไปสู่เตียงของตัวเองที่วันนี้เป็นเวรของเอสที่ต้องสละให้เขายืมนอน คว้าเอาผ้าห่มมาถือเอาไว้ หวังจะแทรกตัวเข้าไปแล้วหลับไปเฉยๆแบบที่ไม่ต้องมาหอมแก้มใครอีก แต่พลันข้อมือเล็กก็ถูกดึงโดยใครบางคนจนต้องเซออกไปด้านข้าง ใบหน้าของคนๆนั้นทำเอาสีหน้าของเด็กหนุ่มต้องเจื่อนลงเล็กน้อย... 

     

    เอส... 

     

    “ เอาล่ะลูฟี่... ได้เวลานายมาหอมแก้มฉันแล้ว ” เอสยิ้มกว้างโชว์ฟันครบทุกซี่ นั่นทำให้ลูฟี่รู้สึกเขินขึ้นมาไม่น้อย เจ้าของร่างบอบบางเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กับพี่ชายผมดำอย่างเกร็งๆ ก่อนที่จุมพิตที่แสนเขินอายจะถูกประทับไปบนใบหน้าด้านข้างของเอส แขนแกร่งก็ไม่รอช้าที่จะรวบเอวของเด็กหนุ่มเอาไว้ประหนึ่งงูเลื้อยพันตัว แต่ไม่ทันได้เคลื่อนไหวอะไรต่อ ร่างเล็กๆก็ถูกคว้าไปยังชายอีกคนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ข้างๆพร้อมรอยยิ้มเหี้ยม 

     

    นายนี่มันฉวยโอกาสเกินไปแล้ว...! 

     

    “ ฉันบ้างสิ... ถ้านายไม่ทำฉันก็ไม่ปล่อยให้นายไปนอนหรอกนะ ” 

     

    เป็นเสียงของซาโบที่เอ่ยขึ้น รอยยิ้มของเขาดูอ่อนโยน ส่งให้ดูเป็นผู้ชายที่สุขุมกว่าอีกคน ริมฝีปากบางจรดลงกับใบหน้าคมคายของคนผมทองด้วยท่าทีเคอะเขินเหมือนกับคราวแรก ช่วงเวลาที่กำลังทำอะไรไม่ถูก ก็ถูกซาโบชิงหอมแก้มกลับมาแบบไม่ได้ทันตั้งตัว นั่นทำให้ลูฟี่สะดุ้งตัวโยน เขาเผลอถอยตัวออกห่างไปโดยอัตโนมัติ ดวงตาสีดำก็พลางมองใบหน้าของพี่ชายทั้งคู่สลับกันไปมา 

     

    “ แล้วพวกนายสองคนล่ะ...ไม่หอมแก้มกันหรือไง? ” เสียงเล็กที่เอ่ยคำถามขึ้นมา ทำให้อยู่ๆบรรยากาศโดยรอบก็เงียบไปเฉยๆ พี่ชายสองคนเพียงแค่หันมามองหน้ากันนิ่งๆ พักหนึ่งก็หันมามองหน้าเขาอีกที 

     

    หืม...? มีอะไรแปลกงั้นหรอ 

     

    “ ฮ่าๆ เอาไว้คราวหลังก็แล้วกันนะ ” 

     

    เอสเป็นคนตอบคำถามนั้น เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาพวกเขาทั้งคู่ก็พร้อมใจกันหัวเราะประสานเสียงกันแบบที่ลูฟี่ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็พยักหน้ารับไปทั้งอย่างนั้น 

     

    เด็กตัวเล็กถูกส่งเข้าสู่นิทราพร้อมรอยยิ้มของพี่ชายทั้งสอง ถึงภายในใจของเขากำลังจะรู้สึกปั่นป่วนไม่น้อยก็เถอะ...แพรขนตาที่เรียงตัวอย่างมีระเบียบหลับพริ้มลงอย่างสงบนิ่ง ใบหน้าหวานยามหลับไหลมันช่างเป็นใบหน้าที่น่ามองสำหรับคนที่พบเห็น ชายหนุ่มร่างสูงหันมองหน้ากันเงียบๆอีกครั้ง ก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆจะปรากฏบนใบหน้าของทั้งคู่ มันเป็นรอยยิ้มที่ทั้งอ่อนโยนและแฝงความหมายอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วยกัน... 

     

    แบบนี้ก็ไม่เลวแฮะ... เด็กคนนี้น่ารักชะมัดเลย... 

     

    อากาศยามดึกเริ่มลดอุณหภูมิลงเรื่อยๆ คนร่างเล็กที่นอนหลับไม่ได้สติขดตัวเข้าหากันใต้ผ้าห่มโดยอัตโนมัติ คืนที่ควรจะหลับสบายเช่นนี้กลับมีลมหนาวมากวนใจเขา นอกจากนั้น ร่างนั้นยังพลิกไปซ้ายทีขวาที ไม่สามารถนอนนิ่งๆอยู่ในอิริยาบถเดิมได้ บนใบหน้าหวานปรากฏเหงื่อเม็ดเล็กๆ 

     

    ก่อนที่ทั้งร่างจะเด้งตัวขึ้นนั่งทั้งที่ตายังปิดอยู่ มือเรียวยกขึ้นเกาศีรษะที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง คิ้วของเจ้าตัวขมวดยุ่ง... 

     

    ปวดฉี่... ทำไมต้องมาปวดเอาในเวลาแบบนี้ด้วย... กวนใจชะมัดเลย 

     

    ปลายเท้าคู่นั้นเดินโซซัดโซเซออกไปเข้าห้องน้ำทั้งที่ยังสะลึมสะลืออยู่ อากาศหนาวๆแบบนี้ทำให้เขาต้องเผลอสั่นกล้ามเนื้อไปตาม โครงสร้างของบ้านหลังนี้ก็ดันสร้างห้องน้ำแยกเอาไว้ข้างนอกซะด้วย จึงจำเป็นต้องเดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้เช่นกัน บรรยากาศยามค่ำคืนของภายนอกในเวลานี้มีดวงจันทร์เต็มดวงที่ดูจะใหญ่ผิดปกติคอยให้แสงสว่างได้อย่างดี... 

     

    ใช้เวลาเพียงไม่นานเด็กหนุ่มก็เดินกลับเข้าสู่บ้านตามเดิม การได้ปลดปล่อยปัสสาวะทำให้เขาสบายตัวขึ้น แต่ในขณะเดียวกันสมองที่สะลึมสะลือก็ค่อยสร่างความง่วงงุนลงเล็กน้อย ดวงตากลมโตทอดมองเห็นเงารางๆของคนตัวสูงผ่านทางประตูบ้านที่เปิดเอาไว้อยู่ และคิดว่านั่นคงเป็นพี่ชายทั้งสองจึงเดินกลับไปโดยไม่ได้กังวลอะไร... 

     

    “ ฮ้าว... เอสกับซาโบ พวกนายยังไม่นอนกันงั้นหรอ? ” พอได้เห็นใบหน้าชัดเจนก็ทักทายขึ้นตามความคุ้นเคย 

     

    “ อ้อใช่... ที่จริงมันยังไม่ใช่เวลานอนของพวกฉันน่ะ ” เอสตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่สายลมเย็นๆจะพัดผ่านมาอีกรอบจนเด็กหนุ่มต้องกระชับผ้าคลุมที่สวมเอาไว้ตลอดเวลาเข้าหากันมากขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โดนชักชวนให้เข้าในกระท่อมที่อบอุ่นกว่า 

     

    เอ... เมื่อกี๊มันมีอะไรที่แปลกไปหรือเปล่านะ... 

     

    พอคิดได้แบบนั้น ลูฟี่ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมใบหน้าครุ่นคิด พยายามใช้ความคิดดูว่ามันมีอะไรที่ไม่คุ้นเคยหรือเปล่า ในขณะที่กำลังเดินกลับสู่เตียงนอนเพื่อพักผ่อนต่อ สายตาของเด็กหนุ่มก็พลันมองเห็นบางสิ่งที่แขวนติดกับผนังเอาไว้... 

     

    เอ๊ะ... นั่นมันหมวกของทั้งเอสและซาโบนี่นา

     

    หมายความว่าเขาทั้งคู่ก็ไม่ได้ใส่หมวกเอาไว้สินะ... จะว่าไปก็ยังไม่เคยเห็นพวกเขาตอนถอดหมวกเลยนี่นา... 

     

    ดวงตาคู่สวยมองกลับไปยังร่างของพี่ชายทั้งคู่ ซึ่งในเวลานี้กำลังยืนมองเด็กหนุ่มอยู่ไม่ห่าง พวกเขายืนนิ่งเหมือนกำลังรอให้ลูฟี่หันกลับไปมอง ทั้งเอสและซาโบที่ไม่ได้สวมหมวกปีกกว้างเอาไว้ เผยให้เห็นทรงผมหยักศกที่ซ่อนเอาไว้ใต้หมวกตลอดเวลา และนั่นทำให้เด็กหนุ่มต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ... 

     

    นั่นน่ะ...ทำไมกันล่ะ... 

     

    “ นี่ลูฟี่... พวกฉันตัดสินใจว่าจะไม่ให้นายกลับไปแล้วล่ะ ” เป็นซาโบที่เอ่ยประโยคนั้นขึ้นมา คราวนี้ใบหน้าคมคายของเขากับนิ่งสนิท ในขณะเดียวกันที่แววตาไม่ล้อเล่นของเขาจ้องมาที่เด็กหนุ่มอย่างนิ่งสงบจนลูฟี่อดรู้สึกตกใจขึ้นมาไม่ได้ 

     

    ไม่ให้กลับไป... หมายความว่ายังไงแล้วสัญญาที่ให้ไว้นั่นล่ะ...! 

     

    “ พวกนายโกหกนี่นาทำไมกันล่ะ..? พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ! ” 

     

    เด็กหนุ่มเริ่มโวยวาย อุตส่าห์เชื่อใจว่าพวกเขาจะเป็นคนที่พากลับบ้านได้ทั้งทีเลยนะ... ในสถานที่ที่ไม่รู้จักอะไรซักอย่างแบบนี้ ที่พึ่งมีแต่เอสและซาโบเท่านั้น... ใบหน้าคมคายของเอสเผยรอยยิ้มอ่อนโยนที่พยายามจะทำให้รู้สึกสบายใจ... แต่ในเวลานี้ลูฟี่ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย 

     

    “ ไม่เอาน่า... บ้านของนายก็อยู่ที่นี่ไงลูฟี่ ” 

     

    ไม่ใช่... ถึงจะอยู่แล้วรู้สึกมีความสุขกับมัน... แต่มันก็ไม่คุ้นเคย 

     

    ที่นี่ยังไม่ใช่ที่ของเขาเลย... 

     

    “ แล้วก็โตเกียวอะไรนั่น... พวกเราไม่รู้จักหรอกนะ ” 

     

    ซาโบพูดต่อกัน ถึงแม้ใบหน้าคมคายนั้นจะคงรอยยิ้มเอาไว้ แต่มันก็ไม่จริงใจเลย... มันต่างไปจากพี่ชายที่ยิ้มแย้มที่พวกเขาเคยสร้างให้ลูฟี่เห็นมาโดยตลอด เจ้าของร่างเล็กยืนมองพี่ชายทั้งสองคนนิ่งๆ ในเวลานี้เขารู้สึกไม่ดีเอาซะเลย... ดวงตาสีรัตติกาลทอดมองไปเหนือศีรษะของพี่ชายทั้งสอง บนนั้นมีบางสิ่งแหลมๆที่งอกออกมา มันดูนุ่มนิ่มและมีทั้งขนสีเดียวกันกับเส้นผมปกคลุมอยู่ เอสที่ในเวลานี้กลับสวมใส่แค่กางเกงกับรองเท้า ทั้งที่อากาศมันหนาวแบบนี้ เพราะเขามีปัจจัยบางอย่างที่แม้อากาศหนาวก็ทำอะไรไม่ได้... 

     

    พวกเขาหลอกลวงมาโดยตลอด... 

     

    “ นี่... ทำไมพวกนายถึงได้มีหูตรงนั้นด้วยล่ะ? ” มันงอกออกมาจากกลางหัว เป็นหูของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทสุนัขถ้าเด็กหนุ่มไม่ได้มองผิดไป... เอสเป็นคนตอบคำถามนั้นกลับมาด้วยท่าทางไม่ยี่ระ 

     

    “ หืม...นี่น่ะหรอเป็นเรื่องปกติของเมืองนี้อยู่แล้วนะ ไม่ว่าใครก็มีหูแบบนี้กันทั้งนั้น ” มือเรียวยกขึ้นสัมผัสหูสีดำข้างหนึ่งของตน พับมันเล่นด้วยส่วนนั้นมีส่วนประกอบเป็นเพียงกระดูกอ่อนๆเท่านั้น 

     

    “ งั้นหรอ... ” 

     

    ใครจะไปเชื่อล่ะ...ก็พวกนายพอฉันตรงมากลางป่าเลยนี่นา 

     

    “ แล้วทำไมพวกนายถึงมีเขี้ยวที่แหลมคมแบบนั้นล่ะ...? ” 

     

    “ ...ของแบบนี้มีเอาไว้เคี้ยวอาหารได้สะดวกๆยังไงล่ะ ” ซาโบตอบคำถามแทน ลูฟี่ไม่รู้ว่าพวกเขาไปเอาเขี้ยวแบบนั้นมาจากไหน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันยังคงเป็นฟันเรียบๆแบบมนุษย์ทั่วไปอยู่เลย 

     

    จะเกี่ยวข้องกับพระจันทร์เต็มดวงนั่นหรือเปล่านะ... 

     

    ทำไมคนที่บอกว่าอยากเป็นพี่น้องกับเขาในเวลาแบบนี้ช่างไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย... ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่กำลังแกว่งไปมาเบาๆอยู่บริเวณเอวกางเกงด้านหลังของพวกเขา มันเป็นพวกขนท่าทางนุ่มนิ่ม มองดูแล้วก็น่าสัมผัสดีอยู่หรอก... 

     

    “ แล้วหางนั่นล่ะ... ทำไมพวกนายถึงมีมันด้วยล่ะ? ” 

     

    แต่พอรวมกับองค์ประกอบทุกอย่างแล้วมันทำให้ดูน่ากลัวขึ้นมาทันตา... 

     

    เอสกับซาโบหันหน้าไปมองกันโดยอัตโนมัติ พวกเขาส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน สุดท้ายเรื่องราวมันก็ได้ดำเนินมาสู่ขีดจำกัดเสียแล้ว ใบหน้าคมคายทั้งคู่หันมามองเจ้าหญิงน้อยตรงหน้า น้ำเสียงทุ้มทั้งสองโทนเอ่ยขึ้นพร้อมกันโดยไม่จำเป็นต้องนัดหมายอะไร... 

     

    “ เพราะพวกเราคือหมาป่ายังไงล่ะ...! ” 

     

    โดยนิสัยแล้วลูฟี่ดันเป็นคนประเภทไม่กลัวอะไรซักอย่างเสียด้วยสิ... 

     

    เด็กหนุ่มเพียงแค่มองพวกเขาทั้งคู่อยู่นิ่งๆเท่านั้น ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามามันไม่ใช่ความหวาดกลัว... แต่เป็นความผิดหวังซะมากกว่า พวกเขาหลอกตัวเองมาโดยตลอด... 

     

    “ ทำไมล่ะ... ฉันมีความสุขมากนะที่มีพวกนายเป็นพี่ชายน่ะ ” 

     

    ในโลกความจริงเขาไม่ได้หาโอกาสอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆนักหรอกนะ... แต่พวกเขากลับกำลังทำลายมันลงไปซะอย่างนั้น 

     

    “ แต่ความรู้สึกที่ว่านายเป็นเหมือนน้องชายน่ะ... ฉันไม่ได้โกหกหรอกนะ ” ซาโบเอ่ยประโยคนั้นพร้อมรอยยิ้ม แต่หลังจากนั้นเอสก็เดินเข้ามา ก่อนจะจับปลายคางของเด็กหนุ่มและเชยมันขึ้น ดวงตาสีดำสนิทเช่นเดียวกับลูฟี่กำลังมองสำรวจที่ใบหน้าหวานพร้อมรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจ 

     

    “ สนใจจะเป็นอาหารของพวกฉันได้หรือยัง ...อยากจะกินนายเข้าไปทั้งตัวจะแย่อยู่แล้ว ” 

     

    เด็กหนุ่มก็อยากจะตะโกนกลับไปเหมือนกัน... ว่าไม่มีพี่ชายคนไหนที่คิดจะกินน้องชายตัวเองแบบนี้หรอกนะ

     

    ลูฟี่อาศัยจังหวะนั้นปัดมือของเอสออก ปลายเท้าทั้งคู่พาร่างหลบออกไป ผลักประตูออกจากกระท่อมหลังนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนสองชายหนุ่มจะไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งฝีเท้าตามมาจนเด็กหนุ่มอดจะร้องเหวอออกมาไม่ได้

      

    “ อย่าตามมานะฉันจะกลับไปด้วยตัวเอง ไม่ไว้ใจพวกนายอีกแล้ว! ” มือเรียวขยับผ้าคลุมสีแดงขึ้นปิดศีรษะ อากาศที่หนาวเย็นแบบนี้ทำให้การหลบหนีมันบวกเพิ่มความทรมานเข้าไปด้วย พวกหมาป่าน่ะมีจมูกดียิ่งกว่าอะไร...จะต้องหนีไปไกลแค่ไหนกัน คนพวกนี้ถึงจะตามหาเขาไม่เจอ 

     

    “ นายมันก็แค่ลูกแกะตัวน้อย ที่จะมาเป็นอาหารของหมาป่าผู้หิวโหยอย่างพวกเรายังไงล่ะ... ” เสียงซาโบที่พูดขึ้นไล่หลัง อดทำให้ลูฟี่รู้สึกเคืองขึ้นมาไม่ได้ 

     

    ฉันอยู่กับพวกนายเพื่อเป็นอาหารเท่านั้นน่ะหรอ... จะไม่ยอมให้โดนจับง่ายๆหรอกนะ 

     

    ปลายเท้าคู่นี้จะออกวิ่งไปเรื่อยๆ... ถ้าไม่เหนื่อยที่จะวิ่งตามก็ตามมาเลย 

     

    “ นายก็ลองคิดดูสิ... หมาป่ากับลูกแกะ ...สิ่งมีชีวิตชนิดไหนจะวิ่งเร็วกว่ากันนะ ” เสียงเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับมีเสียงลมพัดโกรกยามวิกาลที่เข้ามาร่วมด้วย ปลายเท้าเล็กๆคู่นั้นพยายามเร่งหนีหมาป่าหนุ่มทั้งคู่ให้เร็วที่สุด

      

    ต้นไม้โดยรอบที่พอมองเห็นจากแสงจันทร์เริ่มเพิ่มความรกทึบมากกว่าเดิม เขาคงจะหลุดมาในส่วนป่าที่ลึกกว่าเดิมแล้วแน่ๆ 

     

    วูม...

      

    เป็นอีกครั้งที่ลมหนาวพัดโกรกผ่านร่างของเด็กหนุ่ม ต่างออกไปก็ตรงคราวนี้ที่มันเพิ่มความรุนแรงเข้าไปอย่างน่าประหลาด ลูฟี่ต้องคว้าผ้าคลุมสีแดงเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้มันหลุดปลิวไปพร้อมกับสายลม เสียงของยอดไม้ที่เสียดสีกันดังขึ้นเป็นระรอก ที่จริงมันก็ไม่ได้ถึงกับหนาวเหน็บอะไรมากมาย... แต่ลมที่พัดผ่านผิวหนังแบบนี้ก็ทำให้ตัวสั่นไปทั้งตัว เป็นแบบนั้นอยู่เพียงระยะหนึ่ง สายลมเหล่านั้นก็สงบไป เหมือนต้องการเพียงแค่แวะมาทักทายและจากไปเฉยๆเท่านั้น... 

     

    ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ปลิวพัดผ่านใบหน้า และค่อยๆร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างเชื่องช้า... 

     

    มันมีเพียงแต่ความเงียบเชียบเท่านั้นที่เหลืออยู่... เสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมาหายไปแล้ว... 

     

    ลูฟี่ตวัดมองทั้งซ้ายและขวา ดูเหมือนที่นี่จะมีเพียงเขากับต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นรกทึบหลงเหลือไว้เท่านั้น... ไร้วี่แววของผู้ล่า ไร้เสียงกรอบแกรบยามที่ปลายเท้าสัมผัสกับพื้น ทำให้เด็กหนุ่มรู้ตัวได้ว่า สองหมาป่านั้นได้หายไปแล้ว

      

     

    หลุดเข้ามาในที่ใหม่อีกแล้วหรือเปล่านะ... แถมยังหนาวกว่าเดิมด้วยอีกต่างหาก...

     

     

     

     

    เพราะความจริงแล้ว... คำหลอกลวงเหล่านั้นคือคำพูดของคุณหมาป่า

    นี่...ทำไมถึงมีหูแหลมๆแบบนั้น ...ทำไมถึงมีฟันแหลมคม และพวงหางท่าทางนุ่มนิ่มแบบนั้นล่ะ...?

    ก็เพราะว่าเป็นหมาป่ายังไงล่ะ... พวกเรารอคุณลูกแกะแบบเธอมาตั้งนานแล้วนะ

    น่าเสียดายที่เธอดันรีบหนีไปซะก่อนน่ะสิ...

     

      

     







     

    อัพแล้วค่าาา ขอโทษที่มัวเถลไถลอยู่นานมากกกกจริงๆค่ะ
     
    เรื่องนี้ยิ่งแต่งเหมือนรู้สึกยิ่งยืดเยื้อแฮะ;-; ยังไม่มีการตรวจคำผิดใดๆนะคะ
    ตอนนี้นังไรท์ง่วงมากและเบลอมากเช่นกันค่ะ 

    กำลังคิดว่าจะเปิดโหวตฟิคเรื่องต่อไปค่ะ (แต่เรื่องนี้เพิ่งดำเนินมาได้เพียงครึ่งทางอยู่เลย)

    นังไรท์จะมีการปรับระบบอะไรนิดหน่อยค่ะ

    ถ้ามีส่วนไหนของตอนที่มันแปลกๆนั่นคือเบลอเองล้วนๆนะคะ55555
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×