คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : ◣Fanfic◥ [LawxLuffy] Hey! you are my cutie code =) (Part7)
Rate: PG-13
Writer: PINKUHERO
Part: 7/9
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โอเค... ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เตรียมตัวเริ่มแผน…
อันดับแรก... เจ้าเด็กนั่นเลิกเรียนตอนบ่ายสาม ...ไม่แวะที่อื่น ...และวันนี้น่าจะตรงกลับบ้านเลย
ส่วนพี่ชายกับเจ้าคนหัวเขียวๆติดอยู่ชมรมช่วงเย็น
ได้โอกาสที่เขาจะต้องทำอะไรซักอย่างให้ได้...
อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นสตอล์กเกอร์ไปซะแล้ว...
คนตัวสูงกำลังดักรออยู่ที่ทางกลับบ้านของลูฟี่
ดวงตาคมกริบจ้องไปที่ประตูโรงเรียนไม่วางสายตาจนนักเรียนรอบข้างที่กำลังเดินกลับเหมือนกันรู้สึกระแวงแปลกๆ ...แต่เรื่องนั้นเขาสนที่ไหนกันล่ะ ...เพราะอีกซักพักเด็กน่ารักคนนั้นก็จะเดินออกมาแล้ว
ร่างเล็กๆสะพายกระเป๋านักเรียนที่ไหล่ข้างขวา
หมวกฟางใบเดิมถูกสวมอยู่บนศีรษะ
ส่วนมือข้างที่ว่างก็กำลังถืออมยิ้มอันเล็กๆที่ดูท่าคงจะกินมาได้ซักพักแล้ว
ร่างนั้นกำลังเดินเข้ามาทางนี้เรื่อยๆ ผ่านประตูโรงเรียนและบ้านสองหลังที่ตั้งอยู่ไม่ห่าง...
มาแล้ว... เข้ามาในระยะที่กำหนดแล้ว...
เวลาเนียนได้เริ่มขึ้น...!
ปลายเท้าของคนตัวสูงค่อยๆขยับออกมาจากหลังเสาไฟฟ้าที่ช่วยอำพรางตัว
ไหลรวมเข้าไปกับฝูงชนที่กำลังกลับทางเดียวกัน
กระเป๋าใส่ดาบขนาดไม่ธรรมดากับหมวกขนสัตว์ที่อยู่บนหัวของเขาดูจะเป็นจุดสนใจในคนหมู่มากไม่น้อย ...ที่เหลือก็รอแค่ว่าใครอีกคนจะสังเกตเห็นก็เท่านั้น
ถึงจะคิดแบบนั้นก็เถอะ...
ช่วยสังเกตเห็นฉันซักทีสิเจ้าหมวกฟาง...!
“ โฮ่ยยยยย! โทราโอะ! นั่นนายใช่หรือเปล่าาาา ” เสียงเล็กๆน่ารักๆที่เขาคุ้นเคย ...ใช่เลยแบบนั้น! คนๆนั้นสังเกตเห็นเขาแล้ว แต่หากจะหันกลับไปทันทีมันก็จะดูมีพิรุธจนเกินไป
...ต้องเนียนทำเป็นไม่ได้ยินไปก่อน
“ ฮ...โฮ่ยยยย โทราโอะ! ฉันเองไงฉันเอง! ”
เสียงปลายเท้าที่กำลังตรงมาทางคนตัวสูงดังขึ้นไม่ห่าง
พร้อมกับร่างของลูฟี่ที่โบกมือเรียกคนเป็นรุ่นพี่ด้วยท่าทางเหมือนคนกำลังดีใจ ...ครั้นเขาจะไม่หันไปตอบมันก็ออกจะใจร้ายกับเด็กน่ารักคนนั้นเกินไป
“ นาย... หมวกฟาง ? ” ใบหน้าคมคายหันกลับไปมองคนตัวเล็กนิ่งๆ
สีหน้าแสดงความตกใจบ้างพอเป็นพิธี...(?)
ภารกิจเป็นอันเสร็จสิ้น... ได้เดินกลับบ้านกับรุ่นน้องคนนี้แบบเนียนๆซักที...
เสียงทุ้มหัวเราะออกมาผ่านลำคอด้วยความพอใจ...
“ จ..เจอกันอีกแล้ว เอ่อ...กลับด้วยกันมั๊ย ” ร่างเล็กหยุดลงตรงหน้าของคนเป็นรุ่นพี่ บนใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มบางๆที่คนมองรู้สึกเหมือนกำเดาจะพุ่ง
“ เอาสิ...”
...ไม่อย่างนั้นจะลงทุนทำขนาดนี้ไปทำไม
ปลายเท้าของลูฟี่หยุดลงข้างๆร่างของลอว์
ก่อนที่ทั้งสองคนจะเริ่มก้าวออกไปพร้อมกัน ใบหน้าหวานเอาแต่ก้มมองพื้นด้านล่าง
และหมวกฟางใบนั้นที่ปีกของมันกว้างพอที่จะบังสีหน้าของคนตัวเล็กจากมุมสูงได้จนหมด
ดูตั้งใจกินอมยิ้มมากเกินไปจนบทสนทนาระหว่างคนสองคนกลายเป็นความเงียบ... จนคนเป็นพี่รหัสสังเกตได้
“ หลังจากนี้ไป... เดินกลับด้วยกันทุกวันเลยมั๊ย ”
เสียงใสดังขึ้นทำลายความเงียบ
ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมามองคนผิวแทนเหมือนกำลังรอคำตอบ
ทำเอาคนตัวสูงรู้สึกแปลกใจขึ้นมาไม่น้อย
ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา
...เด็กคนนี้
กำลังเอ่ยปากชวนเขาอยู่งั้นสิ ?
“ ก็เอาสิ...
” ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว...
พร้อมๆกับรอยยิ้มของลูฟี่ที่ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบาง
ก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้าลงไปอีกรอบ
คนที่ควรจะพูดจ้ออย่างทุกวันอย่างเด็กคนนี้กลับเอาแต่เงียบอย่างผิดปกติ ...ท่าทางแปลกๆไปที่ทำให้คนตัวสูงรู้สึกใจสั่นแปลกๆ
ลูฟี่ไม่กล้าสบตากับคนตัวสูงตรงๆ.... ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แถมพอคนๆนั้นหันมาทีไร
เสียงของเขามันก็พลอยจะสั่นไปด้วยทุกที บทสนทนาที่เคยมีมากมายในหัว
ตอนนี้เหมือนกับโดนเสียงหัวใจที่เต้นแปลกๆของตัวเองดังขึ้นมากลบทั้งหมด...
ยังไม่ลืมไปหรอกนะ... ว่าเมื่อวานนี้เขาเพิ่งโดนคนๆนี้ชิงหอมแก้มไป
ตั้งแต่นั้นมาก็รู้สึกเหมือนตัวเองทำตัวไม่ถูกเลย...
“ ฉันจะรอรับนายอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน... เข้าใจแล้วนะ ”
“ เอ๊ะ..?
”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกข้อตกลงที่ตัวเองกำหนดขึ้นมาเองอย่างเสร็จสรรพ
ร่างเล็กเงยหน้ามองด้วยความตกใจ
ถึงจะบอกว่ากลับด้วยกันแต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้คนๆนี้มารอรับซักหน่อย... รอยยิ้มของรุ่นพี่ที่อยู่ๆก็รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดทำให้ใบหน้าเล็กขึ้นสีเรื่อๆขึ้นมาบนแก้มนิ่มทั้งสองข้าง
“ ชิชิชิชิ... ก็ได้อยู่หรอก ”
รอยยิ้มกว้างที่ส่งมาจากคนหน้าหวาน
ทำเอาใบหน้าคมคายอดขึ้นสีไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ...วันนี้เด็กคนนั้นท่าทางแปลกๆ
ใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อๆนั่น ความเงียบที่ผิดปกติ กับท่าทางหลบหน้าหลบตาที่ไม่เคยเห็นแบบนั้น ...มันชวนให้คิดอยู่ลึกๆ
...ว่าบางที
คนแบบเขาอาจจะพอมีโอกาสเข้าไปอยู่ในใจของคนๆนี้ได้บ้างซักนิด
แต่ว่ากว่าจะสะกิดให้รู้สึกตัวได้นี่... ก็ผ่านมานานจริงๆ
ความเงียบยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
ในความรู้สึกของลูฟี่มันเป็นอะไรที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดใจจริงๆ ...จะขุดอะไรมาคุย
จะยกเรื่องไหนมาเล่า ในหัวตอนนี้มันก็ว่างไปหมดจนชวนให้รู้สึกหงุดหงิด
แถมคนที่อยู่ข้างๆเขาก็ดันเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้วยิ่งลำบากไปอีก...
เสียงทุ้มดังขึ้นอีกครั้งเหมือนกับสั่งได้... แต่คำพูดที่พูดออกมายิ่งทำให้ความเงียบของลูฟี่เพิ่มขึ้นไปอีก
“ นี่... ฉันถามอะไรหน่อยสิ... ฉันกับนาย
พวกเรารู้จักกันในแบบไหน ”
ดวงตาคมสีนิลมองกลับไปยังคนตัวเล็กเหมือนต้องการคำตอบ
แต่สิ่งที่ตอบเขากลับมามีเพียงความเงียบจากร่างบางเท่านั้น...
ลูฟี่สะดุ้งขึ้นอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว... เขาไม่ได้ตอบลอว์กลับไป
มือบอบบางยกขึ้นมาดึงปีกหมวกฟางของตัวเองลง หวังให้มันบิดบังใบหน้าของเขาตอนนี้ให้มิด ...ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป
เป็นคำถามที่ยากสำหรับลูฟี่... แบบไหนที่รู้จักกันงั้นหรอ...
คนรู้จักของเอส..? พวกพี่รหัส...? หรือคนที่มากินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน...
ก็ไม่น่าใช่... มันมีอะไรมากกว่านั้น
จะว่าเป็นเพื่อนกันมันก็....
มันก็...
“ เป็นเพื่อนกันหรือเปล่า...?
”
“ ม..ไม่ใช่! ”
เสียงของรุ่นพี่ที่ถามขึ้นเหมือนกับรู้สิ่งที่คนตัวเล็กคิดอยู่ทำเอาลูฟี่รีบปฏิเสธกลับไปแทบจะทันที
พอรู้ตัว ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้น รีบดึงหมวกลงมาบิดใบหน้าตัวเองอีกครั้ง...
บ้าจริง... ดันตอบไปทันทีซะอย่างงั้น
แต่นั่นมันก็เป็นความรู้สึกจริงๆของเขา... ลูฟี่คิดว่าตัวเองรู้จักคำจำกัดความของเพื่อนดี
แต่ตอนนี้กำลังมีเรื่องที่คิดยังไงก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้อยู่...
เหตุการณ์วันที่เขาโดนนักเลงพวกนั้นลากไป พอโทราโอะเจอเขาแล้ว
ทำไมถึงต้องกอด...? แล้วไหนจะเมื่อวานที่โดนหอมแก้มแบบงงๆนั่นอีก...
เพื่อนกันจำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่า...? คิดว่ามันคงไม่ใช่...
“ แล้วเป็นแบบไหนกันล่ะ ?
”
คนตัวสูงยิงคำถามมาอีกครั้งเหมือนจงใจ... ใบหน้าคมคายปรากฏรอยยิ้มน้อยๆเหมือนกำลังอดดีใจไม่ได้
ท่าทางแปลกๆของเด็กน่ารักข้างๆทำให้เขากำลังรู้สึกเข้าข้างตัวเองอย่างสุดๆ
ถ้าหากมันพอเป็นไปได้... ก็อยากจะลองเชิงดูซักนิด...
สายตาคู่เดิมย้ายไปหยุดลงตรงที่มีร่างบางอยู่ข้างๆ
แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจ... ลูฟี่หายไปแล้ว...?
“ โหวววว... น่าอร่อยชะมัด! ลุง..ขอฉันไม้นึง!
”
เสียงเล็กดังเจื้อยแจ้วจากด้านหน้าที่มีควันโขมง
อาคารพาณิชย์สูงสี่ชั้นที่มีชั้นล่างสุดเปิดร้านขายอาหารอยู่
ติดป้ายเครื่องหมายการค้า 'Niku Niku' ชัดเจน และร่างของเด็กน่ารักที่ยืนเกาะขอบเคาน์เตอร์ของร้านอยู่ด้วยตาเป็นมัน
ไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่...
เสียงถอนหายใจหนักๆดังขึ้น
ก่อนที่ลอว์จะเดินตามร่างของคนตัวเล็กไปอย่างช่วยไม่ได้... มันชวนให้คิดจริงๆว่าเจ้าเด็กน่ารักนั่นตั้งใจจะหลีกเลี่ยงคำถามของเขา ...พอหยุดตรงหน้าร้านได้แล้ว
ลูฟี่ที่รู้สึกตัวว่ามีใครอีกคนเดินมาหยุดข้างๆก็หันมามองพร้อมรอยยิ้มน่ารักและแก้มที่ขึ้นสีชมพูอ่อนๆ
“ พรุ่งนี้ไปด้วยกันมั๊ย... งานวันเกิดของปู่น่ะ ”
ใครมันจะไปกล้าปฏิเสธคนน่ารักแบบนั้นได้... แล้วก็มีอีกเรื่องที่ทำให้คนอย่างทราฟลาก้า
ลอว์ รู้สึกอึ้งไม่น้อย ใครมันจะไปคิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นหลานของมังกี้ ดี
การ์ป คนที่มีศักดิ์เป็นถึงผอ.โรงเรียนคนนั้น...
ร่างสูงหยุดอยู่ที่หน้าบ้านขนาดใหญ่มหึมาที่ล้อมรอบไปด้วยสวนหย่อมขนาดไม่ต่างกัน
ถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะมืดไปแล้วแต่ก็มีไฟประดับตามรั้วคอยให้ความสว่าง ...ได้ยินมาว่างานวันเกิดนี้จัดขึ้นกันแค่คนรู้จักเท่านั้น
แต่แค่เพื่อนของหลานชายคนโตที่ชวนมาด้วยมันก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว... เสียงของเครื่องดนตรีกำลังบรรเลงเพลงจังหวะสนุกสนาน
พร้อมๆกับบรรยากาศเซ็งแซ่ของคนหลายรุ่นที่กำลังเดินอยู่ในงานวันเกิดขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป
ถึงจะบอกว่ามาเข้าร่วมงานด้วยมันก็ยังไงอยู่... ลอว์ได้แต่ยืนอยู่รอบๆบ้าน
ห่างจากบริเวณที่กำลังเต็มไปด้วยงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่มากโข
เขาไม่ใช่คนที่จะไปอยู่รวมกับคนหมู่มาก... แถมยังไม่มีคนรู้จักอยู่ในนั้นอีกต่างหาก
จะชวนมาก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะไม่มีเพื่อนเลยหรือไงนะ... เจ้าเด็กน่ารักคนนั้น
ว่าแล้วร่างสูงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ...
ดวงตาคมเหลือบไปเห็นร่างเล็กๆนั้นยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนและรุ่นพี่
เจ้าคนผมทองที่เป็นรุ่นเดียวกันนั่น
ถึงสายตากับปากจะบอกว่ากำลังสนใจผู้หญิงผมสีส้มที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็เถอะ
แต่ทำไมแขนของเจ้านั่นถึงได้โอบไหล่บางของลูฟี่อยู่ได้เล่า...!
นึกแล้วอยากจะเดินเข้าไปแยกคนสองคนให้ห่างออกจากกันซะตอนนี้...
อยู่ๆก็รู้สึกโมโหขึ้นมา... ติดก็ตรงไม่มีคนรู้จักนอกจากเด็กคนนั้นเลยซักคน ...แต่ถ้าไม่เข้าไปก็จะชวดโอกาสทำคะแนนไปได้ง่ายๆ
พอปลายเท้านั้นคิดจะก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด
ก็พลันเห็นร่างเล็กที่ถูกใครอีกคนดึงตัวออกไปอีกทาง
หัวเขียวๆนั่นทำให้นึกออกไม่ยากเลยว่าเป็นใคร
เขาจูงมือนิ่มๆนั่นออกไปทางโต๊ะที่มีอาหารวางเรียงรายอยู่
และเนียนเป็นคนป้อนอาหารให้พร้อมกับใบหน้าที่ดูจะมีความสุขไม่น้อย
น่าหมั่นไส้สุดๆ...
หมั่นไส้เจ้านั่นโว้ยยยย... ทำไมคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นถึงไม่เป็นเขา
ลอว์กำลังไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนี้เขาถึงทำได้แค่กำลังตะโกนด่าคนอื่นอยู่ในใจ(แถมยังอยู่ห่างๆ)เหมือนกับเด็กมีปัญหาแบบนี้
ไม่มีวิธีที่เขาพอจะเข้าไปหาร่างบางนั่นได้บ้างเลยหรือไงกันนะ...
ช่างเป็นวันที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ...
“ กำลังคิดว่ามันยากที่จะเข้าถึง...ก็เลยเหนื่อยที่จะวิ่งตามอยู่งั้นหรอ ”
แต่แล้วอีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
ท่ามกลางความคิดที่กำลังวุ่นวาย... ร่างสูงของชายอีกคนเดินเข้ามาในงาน
พร้อมกับไพ่ทาโรต์หน้าตาประหลาดๆในมือ
'บาจิล
ฮอว์กินส์' เป็นคนที่จัดว่าหน้าตาดีอยู่พอตัว
แต่เคยได้ยินมาว่าเป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ
อยู่ในชมรมวิจัยเรื่องเหนือธรรมชาติของโรงเรียน ผมสีทองหยักศกถูกปล่อยยาวถึงกลางหลัง
สายตาที่เหมือนกับคนไม่ยินดียินร้ายอะไรซักอย่าง
และคิ้วแต่ละข้างที่เหมือนกับมีรูปสามเหลี่ยมมาแปะเอาไว้
ทำไมคิ้วของเจ้าหมอนี่ถึงได้แปลกนัก...
ว่าแต่ว่าคนแบบนั้นมีธุระอะไรกับเขา...
“ นายหมายถึงอะไร...
” เสียงทุ้มของลอว์ถามกลับไปนิ่งๆ
ในขณะเดียวกันกับที่สีหน้าของร่างสูงแสดงความไม่ไว้วางใจออกมาอย่างชัดเจน
คนๆนี้กำลังพูดเหมือนกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ...
“ บางทีมันก็ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งตามให้เสียแรงหรอก... เพราะเมื่อถึงเวลา มันก็จะเข้ามาหานายเอง... ”
“ ….? ”
เสียงทุ้มของชายอีกคนไม่ได้ตอบคำถาม
แต่กลับพูดเรื่องที่ทำให้ลอว์ไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก ร่างสูงของฮอว์กินส์ค่อยๆเดินห่างออกไปโดยไม่ได้กลับมาสนใจเขาอีก
ทิ้งไว้เพียงประโยคสุดท้ายให้คนฟังรู้สึกแปลกใจเล่น
“ ความรักน่ะ....
”
คิ้วของลอว์ขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจนัก... แต่ก็ต้องเป็นอันต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งไปเมื่อได้ยินเสียงใสๆที่คุ้นเคย
เรียกชื่อของเขาดังมาแต่ไกล
“ โทราโอ่อออออ! ทางนี้! เข้าไปในงานกันเถอะ..! ”
ร่างบอบบางของใครอีกคนวิ่งเข้ามาทางร่างสูงพร้อมรอยยิ้มร่าที่พร้อมกระชากใจคนมองได้ทุกเมื่อ
พลันประโยคแปลกๆจากชายคนนั้นก็ค่อยๆประติดประต่อความหมายขึ้นมาในหัวของเขา...
ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งตามให้เสียแรงหรอก... เพราะเมื่อถึงเวลา
มันก็จะเข้ามาหานายเอง...
...ความรักน่ะ
มือบอบบางที่นิ่มสุดๆคว้าเข้าที่มือหนาข้างหนึ่งของคนเป็นรุ่นพี่
ก่อนจะออกแรงน้อยๆ ดึงให้ใครอีกคนเดินตามมาด้วย บนใบหน้าหวานนั้น
ถ้าหากเมื่อกี๊เขาไม่ได้มองผิดไป... มันคงกำลังขึ้นสีชมพูน่ามองอยู่ไม่ผิดแน่
ริมฝีปากหนาของลอว์เผยรอยยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ
มือหนากอบกุมมือเล็กนั้นไว้บ้างอย่างถือสิทธิ์ ปลายเท้าของคนสองคนก้าวเข้าไปในงานด้วยกันพร้อมกับเสียงของหัวใจที่กำลังเต้นแปลกไป...
หึ...ถ้าหากมันเป็นอย่างที่นายบอกจริงๆ
ก็คงจะดีไม่น้อยเลยล่ะ...
ความคิดเห็น