ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #28 : ◣Fanfic◥ [LawxLuffy] Hey! you are my cutie code =) (Part5)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.04K
      54
      14 มิ.ย. 65

    Title: Hey! you are my cutie code =)
    Pairing: Law x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 5/9

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




















                  

    ท้องฟ้าของยามเย็นเริ่มขึ้นสีส้มเล็กน้อย เมื่อพระอาทิตย์ที่ส่องแสงจ้ามาทั้งวันใกล้จะได้เวลาตกดิน นักเรียนจากโรงเรียนชื่อดังพากันทยอยออกจากสถานศึกษา เวลาแบบนี้เหลือคนอยู่เพียงประปราย รวมไปถึงร่างของลูฟี่ที่ไหลรวมไปกับฝูงชนไม่มากนักนี้ด้วย

     

            ร่างเล็กห้อยหมวกฟางใบโปรดเอาไว้ใต้ปกเสื้อ แขนข้างหนึ่งสะพายกระเป๋านักเรียน นิ้วมือเรียวยกขึ้นมาแคะจมูกอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์ที่สุดแสนจะน่ารักของตัวเอง เป็นเวลากลับบ้านที่แสนจะปกติของเขา หากแต่วันนี้เจ้าตัวกลับไม่ได้เดินกลับคนเดียวอีกต่อไป... 

     

    เพราะไม่ได้ระวังตัว... ร่างเล็กจึงไม่ได้สังเกตสิ่งผิดปกติที่อยู่ข้างทาง ตรงมุมเสาไฟฟ้าไม่ห่างออกไปนัก มีคนกลุ่มหนึ่งที่คอยดักซุ่มรอเวลา ใช้การสะกดรอยตามคนๆนี้มาได้พักใหญ่ ในมือของคนๆหนึ่งมีสิ่งที่คล้ายกับรูปถ่าย 

     

    “ คนนี้ไม่ผิดแน่... พวกแกเตรียมตัวเข้าไปเลย ” ชายร่างใหญ่ที่เหมือนกับหัวโจกสั่ง เป็นตัวสะกิดให้ลูฟี่เพิ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองกำลังโดนใครบางคนเดินตามอยู่ 

     

    “ เอ๊ะ...?” ใบหน้าหวานฉายแววงงวย เมื่ออยู่ๆปลายเท้าก็ลอยขึ้นจากพื้น แขนทั้งสองข้างของเขาถูกล็อกโดยผู้ชายตัวใหญ่หน้าตาน่ากลัวสองคน ก่อนที่คนพวกนั้นจะหิ้วปลีกคนตัวเล็กไปทั้งอย่างนั้น 

     

    “ เดี๋ยวสิ... พวกนายเป็นใครเนี่ย! ” 

     

    ร่างบางดิ้นขลุกขลักให้หลุดจากพันธนาการ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร หุ่นของคนหิ้วปลีกสองคนใหญ่โตพอจะไปเป็นนักมวยปล้ำได้สบายๆ ไม่รู้ว่าจะพาเขาไปไหนกัน... แต่ดูท่าแล้วไม่น่าจะใช่พวกมาดีซักเท่าไรนัก... 

     

    คนกลุ่มไม่ใหญ่นักเดินเข้าไปในซอยแคบๆ ลัดเลาะมาเรื่อยๆจนมาหยุดในสถานที่ก่อสร้างที่ดูเหมือนจะทิ้งร้างมานานแล้ว ตามผนังมีรอยพ่นสีเสปรย์ของพวกมือบอลอยู่เต็มไปหมด 

     

    สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายสุดๆ... 

     

    “ เจ้าเด็กท่าทางอ่อนแอนี่น่ะหรอ... ลูกพี่ต้องดีใจแน่ๆที่ได้ตัวมันมาง่ายแบบนี้ ” หัวโจกอีกคนหันไปพูดกับหัวโจกเอที่เพิ่งมาถึง แล้วหันไปมองหน้าลูฟี่ต่อเหมือนต้องการข่มขู่ ยื่นใบหน้าที่ดูโหดเหี้ยมนั่นเข้าไปใกล้ๆคนร่างเล็กที่เอาแต่ทำหน้าไม่เข้าใจตั้งแต่มาถึง 

     

    “ หมอนี่มันเป็นน้องชายของโปรโตกัส ดี เอส คนนั้น แล้วดูเหมือนว่าหัวหน้าของกลุ่มฮาร์ทก็กำลังสนใจมันอยู่ด้วย... ” หัวโจกเอพูดต่อ ร่างของคนตัวเล็กถูกวางลง ใบหน้าหวานหันมองซ้ายมองขวา สถานที่นี้มีแต่คนท่าทางเหมือนนักเลงทั้งนั้น... 

     

    ...ตั้งแต่ที่มาถึง คนพวกนี้ก็เอาแต่พูดเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ 

     

    เรื่องที่ว่าเป็นน้องชายเอสน่ะใช่อยู่... แต่หัวหน้ากลุ่มฮาร์ทนี่ใครกัน 

     

    “ แค่จับแกมาได้ พวกฉันก็มีสิทธิ์จะต่อรองกับสองขั้วอำนาจของโรงเรียนแล้... ฟังกันหน่อยสิโว้ย! ” บทสนทนาของเอถูกเมินไปหมด ลูฟี่ไม่ได้สนใจจะฟัง แถมยังเอาแต่หันไปสนใจรอบข้าง จนเขาอดโมโหขึ้นมาไม่ได้ ร่างใหญ่เดินเข้าไปจับคางมนของร่างบางแล้วออกแรงบีบ จนใบหน้าหวานเหยเก 

     

    “ แกมีความเกี่ยวข้องยังไงกับเจ้าหัวหน้ากลุ่มฮาร์ทนั่นฮะเจ้าหนู!! ” 

     

    “ จะไปรู้ได้ยังไงเล่าไม่เห็นจะรู้จักเลยซักนิด! ” มือบอบบางรีบปัดมือหยาบนั้นออกแล้วขมวดคิ้วยุ่ง พาลให้รู้สึกโมโหขึ้นมา เจ้าหมอนั่น...มือก็ใช่จะเบา บีบมาได้ยังไง... ว่าแล้วก็เลื่อนมือไปลูบหน้าตัวเองป้อยๆ 

     

    “ หึ... ฉันมั่นใจว่าไม่ผิดตัวอยู่แล้ว แกหนีหัวหน้าคาริบูไปไม่ได้หรอกน่า! ” หัวโจกบีตะคอกใส่เขาเหมือนช่วยเสริม ร่างบางเลิกคิ้วขึ้น เสียงเล็กสบถขึ้นมาเบาๆ 

     

    “ ใครกันล่ะนั่น... ”

      

    แต่ก็ดังพอที่จะทำให้สองหัวโจกได้ยินชัด... แขนแกร่งของมันคว้าเข้าที่คอเสื้อของลูฟี่ด้วยความโมโหทันที 

     

    “ คิดว่าทำไขสือแล้วจะรอดหรือไงหา..! ” หน้าโหดๆนั่นจ้องเขม็งมายังดวงตากลมโต แต่กลับไม่ได้ปรากฏความกลัวขึ้นมาในแววตาของคนตัวเล็กเลยซักนิด เสียงเล็กตะโกนกลับไปบ้างด้วยความรู้สึกรำคาญที่เริ่มจะพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ 

     

    “ ก็ฉันไม่รู้จริงๆนี่เจ้าพวกบ้า!! ” 

     

    คำว่า'เจ้าพวกบ้ามันดันไปกระตุกต่อมโมโหของนักเลงที่อยู่แถวนั้นได้เป็นแถบ สายตาโกรธเคืองพุ่งตรงมาที่ร่างบางพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ร่างกายสูงใหญ่ตีวงเข้ามาใกล้กับลูฟี่มากขึ้นเรื่อยๆ เสียงหักนิ้วมือดังขึ้นเป็นแถบๆ 

     

    เขากำลังจะเจอสถานการณ์เลวร้ายเข้าซะแล้ว... 

     

    “ หนอย เจ้าเด็กนี่... ” 

     

     

     

     

     

     

    “ หัวหน้าครับ... เมื่อกี๊นี้มีสายจากใครก็ไม่รู้ต่อมาถึงคุณครับ ” 

     

    ร่างของเด็กหนุ่มสวมหมวกทรงนักบิน เดินเข้ามาในห้องเรียนเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วด้วยท่าทางเหมือนคนกำลังรีบ ภายในถูกจัดให้โล่งกว้าง โต๊ะและเก้าอี้โดนย้ายเอาไปไว้ที่มุมห้องจนหมด ในห้องเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่สวมหมวกต่างแบบกันไป เหมือนกับเป็นเทรนด์(?)ประจำกลุ่ม ในมือของผู้มาใหม่ถือโทรศัพท์ที่เหมือนจะเป็นของเจ้าตัว 

     

    เพนกวิ้น หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มฮาร์ทตรงเข้าไปยังเก้าอี้ที่มีร่างของชายร่างสูงที่สวมหมวกขนสัตว์ เรียกสายตาจากคนในห้องให้หันไปมองตาม …แต่เดิมเด็กหนุ่มที่ชื่อ ทราฟลาก้า ลอว์ มีเพื่อนที่รู้จักกันเพราะพ่อแม่ที่ทำงานเป็นหมอเหมือนกัน เพนกวิ้นและชาจิ พวกเขานับถือลอว์เหมือนกับที่พ่อแม่ของเจ้าตัวได้รับความเคารพ... 

     

    โดยเริ่มต้นแล้ว เขาไม่ใช่คนที่ชอบการเป็นอันธพาลอะไรนักหรอก... แต่อาจเป็นเพราะใบหน้าที่ไม่เป็นมิตรกับรอยสักตามแขนและมือ ทำให้โดนหาเรื่องอยู่บ่อยๆ …รวมไปถึงเพื่อนสองคนที่คอยตามติดเหมือนกับลูกน้อง รู้ตัวอีกทีก็มีคนที่บอกว่าอยากจะเป็นลูกน้องอยู่เต็มไปหมด สถานะตอนนี้มันก็เลยไม่ได้ดูต่างไปจากคำว่าอันธพาลเลยซักนิด... 

     

    เขาไม่เคยบอกว่าจะรวมกลุ่มซักคำ... ไหนจะคำเรียกแปลกๆอย่าง 'ตัวอันตรายที่ไม่อยากจะมีเลยซักนิด 

     

    “ พวกมันว่าไง... ” ลอว์ถามขึ้นก่อนยกเครื่องดื่มรสชาติขมในมือขึ้นจิบ ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ...ถึงจะบอกว่าต่อสายถึงเขา แต่ทำไมถึงโทรเข้าเครื่องเพนกวิ้นซะอย่างนั้น 

     

    “ เหมือนจะเป็นสายจากคนที่ชื่อคา...อะไรซักอย่าง ...มันบอกว่าถ้าได้ยินเรื่องนี้แล้วหัวหน้าจะต้องตกใจแน่ๆครับ ” ดวงตาคมปรายมองเพนกวิ้นอย่างนึกสงสัย... ไม่แปลกอะไรนักที่มักจะมีพวกไม่หวังดีมาหาเรื่องอยู่ตลอด... 

     

    ...แต่ครั้งที่มันทำให้รู้สึกแปลกออกไป 

     

    คนสวมหมวกทรงนักบินหันกลับไปมองโทรศัพท์พับในมือด้วยใบหน้างงๆ ประโยคต่อไปที่เขากล่าวออกมาทำเอาคนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าเก็บท่าทีเคร่งขรึมไม่ได้อีกต่อไป... 

     

    “ มันบอกว่าได้ตัวมังกี้ ดี ลูฟี่ มาแล้วครับ ...ว่าแต่ว่าลูฟี่ที่ว่าที่ใครกันนะ ” 

     

    “ ….!! ” 

     

    แกร๊งงงง... 

     

    กระป๋องเครื่องดื่มในมือหนาถูกปล่อยลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจ ของเหลวที่อยู่ข้างในเอ่อทะลักออกมาจนเลอะพื้นเต็มไปหมด ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ร่างของคนเป็นหัวหน้าก็วิ่งผ่านหน้าของพวกเขาไปซะแล้ว 

     

    “ อะ!.. เดี๋ยวสิครับหัวหน้าจะไปไหนน่ะครับ! ” 
     

     นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟัง... แต่เดิมการมีอยู่ของกลุ่มนี้เขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเสียด้วยซ้ำ 

     

    ทำไม... ถึงกลายเป็นลูฟี่ที่โดนพวกมันพาตัวไป... 

     

    ปลายเท้าของคนผิวแทนออกวิ่งมาเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย จากโรงเรียนออกมาจนไกลพอสมควร เขาวิ่งไปหาตามตึกที่ตรอกซอยที่ดูจะลับตาคน ...แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ยังคงไร้วี่แววของคนตัวเล็ก ท้องฟ้ายามเย็นเริ่มมืดลงทีละนิด ยิ่งทำให้ทัศนวิสัยในการค้นหาแย่ลงไปอีก 

     

    ร้อนรน... อึดอัดใจ... อยากจะหาให้เจอเดี๋ยวนี้เลย 

     

    ไปอยู่ที่ไหนกันแน่... เขากลัวว่าเจ้าเด็กน่ารักนั่นจะเป็นอะไรไปซะก่อน 

     

    ที่ไหนที่จะโดนพาตัวไป... ที่ไหนที่จะลับพอที่จะเป็นรังให้เจ้าพวกนั้นได้ 

     

    “ โถ่เว้ย! ” เสียงทุ้มสบถออกมาอย่างนึกโมโห ...รู้สึกเหมือนตัวเองสงบใจไม่ได้เลย ทำไมพวกมันถึงได้รู้ว่าเขารู้จักกับเด็กคนนั้น... 

     

    แต่บางที... อาจจะเป็นวันที่บังเอิญไปเจอกันในห้าง ...ทั้งเอสและเขาต่างก็อยู่กับลูฟี่ 

     

    นิ้วทั้งห้ากำเข้าหากันแน่น ร่างสูงวิ่งผ่านร่างของนักเรียนหญิงแต่งตัวฉูดฉาดสองคน เป็นเหมือนดั่งโชคดีในโชคร้าย ที่บทสนทนาระหว่างพวกเธอดันเป็นเรื่องที่น่าจะเกี่ยวข้องอย่างพอดิบพอดี 

     

    “ อะไรนะเจ้าพวกนั้นเอาอีกแล้วหรอ! ” ดวงตาสีสวยของเด็กสาวคนหนึ่ง ละสายตาจากโทรศัพท์ที่ห้อยพวงกุญแจเหมือนกับมาลัยหน้ารถขึ้นมามองเพื่อนข้างๆด้วยความแปลกใจ คนถูกถามยกนิ้วมือที่ประดับไปด้วยสีทาเล็บขึ้นมามอง 

     

    “ ก็คงงั้น... เที่ยวหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว ซักวันคงได้เจอดีแน่ๆ ” 

     

    “ เหมือนว่าไปได้ตัวใครมาก็ไม่รู้ ตอนนี้กำลังวุ่นวายกันใหญ่.....เลยล่ะ ” แต่แล้วบทสนทนาระหว่างเด็กสาวสองคนก็ต้องหยุดลง ปลายเท้าของทั้งคู่ชะงักงันเมื่อมีร่างสูงในชุดเครื่องแบบนักเรียนของใครอีกคนเดินเข้ามาดักหน้า 

     

    “ อยู่ที่ไหน... ” 

     

    เสียงทุ้มกดลงต่ำ ใบหน้าคมคายในเวลานี้มันกลับดูน่ากลัวในสายตาของคนรอบข้าง ...คนๆนี้กำลังโกรธ ดวงตาคมนั้นกำลังจ้องนิ่งมาที่ใบหน้าที่ประดับไปด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะ เป็นสายตาที่ชวนให้รู้สึกว่าไม่ควรมีเรื่องด้วยเลย... 

     

    “ …... ” สองสาวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทั้งยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆคนๆนี้ถึงเดินเข้ามาถามเสียดื้อๆ แต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเสียงแบบผู้ชายดังขึ้นอีกเหมือนกำลังคาดคั้น 

     

    “ ฉันถามว่าเจ้าพวกนั้นมันอยู่ที่ไหน..! ” 

     

    “ .. เอ่อ ถ้าเป็นรังของเจ้าพวกนั้นก็เข้าไปในซอยนั้นเลย! ” ปลายนิ้วเรียวชี้ไปยังซอยแคบๆที่อยู่ตรงหน้า เพียงเท่านั้นขายาวก็รีบตรงไปอย่างไม่ลังเลทันที ทิ้งให้คนที่เหลือได้แต่ยักไหล่มองกันด้วยความไม่เข้าใจ 

     

    อยู่แค่ตรงหน้าแล้ว... ความรู้สึกมันกำลังบอกเขาว่าแบบนั้น 

     

    ภายในมีเสียงเอะอะโวยวายเหมือนกำลังมีเรื่อง เสียงตุบตับกับกลิ่นคาวของโลหะทำให้ร่างสูงรู้สึกใจไม่ค่อยดี ปลายเท้าคู่เดิมรีบเร่งความเร็วขึ้น ท้องฟ้ายามค่ำยิ่งทำให้บรรยากาศรอบข้างดูน่ากลัว แต่ก็ยังคงพอมองเห็นว่าที่นี่มีพวกอันธพาลคอยเฝ้าอยู่บ้างเป็นประปราย 

     

    การปะทะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลอว์แลกหมัดอยู่กับชายร่างใหญ่หลายคนนานพอสมควร จนกระทั่งศัตรูค่อยๆลดจำนวนลง จนเขาสามารถปลีกตัวออกมาได้ 

     

    แค่บุกมาที่นี่คนเดียวก็อันตรายมากพอแล้ว... นับประสาอะไรกับคนตัวเล็กๆแบบลูฟี่ 

     

    คนตัวสูงก้าวเข้าไปในซากสิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้าง เสียงเอะอะเมื่อครู่เงียบไปแล้ว เหลือเพียงแสงสลัวๆจากหลอดไฟที่ติดไว้ห่างๆเท่านั้น ...ยิ่งเข้าใกล้ไปเท่าไร เสียงที่ควรจะมีการพูดคุยกันบ้างกลับเงียบสนิท ...แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจกับสภาพของกลุ่มอันธพาลที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า 

     

    ...เละ แบบไม่เหลือซาก 

     

    ชายร่างใหญ่พากันนอนกองอยู่บนพื้นเกลื่อนกลาด บนใบหน้าประดับไปด้วยรอยหมัดหนักๆ หรือไม่ก็รอยของพื้นรองเท้าเบอร์ไม่ใหญ่เท่าไรนัก... ดวงตาคมสีดำขยับไปเห็นบางสิ่งที่คุ้นตา ร่างของใครบางคนนั่งอยู่บนซากผนังเก่าๆที่แตกหักพร้อมแกว่งขาไปมา ...บนหัวสวมหมวกฟางใบที่คุ้นเคย 

     

    “ หมวกฟาง!! ” 

     

    คนผิวแทนตะโกนเรียกไปด้วยความดีใจที่ผสมปนเปไปกับความตกใจ ร่างเล็กๆนั้นสะดุ้งขึ้นและหันกลับมามองแทบจะทันที ...ใบหน้าหวานที่คุ้นเคย ซีกหนึ่งมีรอยของเหลวสีแดงไหลลงมาเป็นทางจากหน้าผาก ริมฝีปากบางมีรอยแตกเล็กน้อยเหมือนกับเพิ่งผ่านการต่อสู้มาไม่นาน 

     

    ไม่ผิดตัวจริงๆ... 

     

    เด็กคนนี้... จัดการอันธพาลทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวอย่างนั้นหรอ... 

     

    น่าแปลกใจ... เรี่ยวแรงดูผิดกับร่างกายที่บอบบางนั่นสุดๆ 

     

    “ อ้าวโทราโอะ... ทำไมนายมาอยู่ที่นี่? ” ดวงตากลมโตมองมายังใบหน้าคมคายด้วยความสงสัย ก่อนที่ปลายเท้าเล็กจะกระโดดลงจากกำแพงและเดินตรงมายังร่างของคนเป็นรุ่นพี่ 

     

    ใบหน้าน่ารักนั้น... ร่างกายที่น่าทะนุถนอมนั้น... มีแต่บาดแผลเต็มไปหมด 

     

    “ อ๊ะ...! ” 

     

    ลอว์คว้าเอาร่างเล็กเข้ามาอยู่ในวงแขนกว้างโดยไม่กลัวว่าคราบเลือดจะเปื้อนเสื้อ ร่างกายบอบบางนุ่มนิ่มแต่อบอุ่น เขากระชับอ้อมกอดแน่นเหมือนกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไป ทิ้งความงุนงงให้กับลูฟี่ที่ยังคงลำดับเหตุการณ์ไม่ค่อยได้นัก 

     

    เหมือนกับยกภูเขาทั้งลูกออกไปจากอกเมื่อรู้ว่าคนๆนี้ปลอดภัย... 

     

    แบบนี้คงไม่ต่างอะไรไปจาก ความเป็นห่วง... 

     

    ให้ตายสิ... ทำไมคนๆนี้ถึงมาสั่นคลอนหัวใจของเขาได้ขนาดนี้กันนะ... 

     

    เจ้าของหมวกฟางไม่ได้ขัดขืนอะไรกับคนที่ตัวสูงกว่า อ้อมกอดของคนตรงหน้า... ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของมันนัก แต่ความอบอุ่นนี่มันให้ความรู้สึกแปลกๆ... 

     

     

     

     

     

     

    ลอว์มองร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ไม่ห่างออกไปนักด้วยแววตาที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ...เพราะไม่เคยถาม ร่างสูงจึงไม่เคยบอกน้องรหัสตัวเองว่าตนก็เป็นตัวร้ายๆในโรงเรียน เพราะสาเหตุนั้นจึงทำให้เรื่องมันลามไปถึงคนร่างเล็กที่โดนลากเข้ามาเกี่ยวด้วย ...พอคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุมันก็พาลให้รู้สึกโมโหขึ้นมา 

     

    ร่างของคนสองคนอยู่ในคลีนิคขนาดกลางที่มีศักดิ์เป็นบ้านของลอว์ มือหนาจัดเตรียมอุปกรณ์ทำแผลต่างๆอย่างคล่องมือ ก่อนจะตรงเข้าไปทำแผลให้กับรุ่นน้องอย่างเบามือ ...แต่ใบหน้าหวานก็เอนหลบสำลีชุบแอลกอฮอลล์ที่กำลังจะมาถึง มือบอบบางคว้าเข้าที่แขนของพี่รหัสแบบทันที 

     

    “ เดี๋ยวสินายก็มีแผลนะ! ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน กะจะจ้องคุณหมอจำเป็นกลับไป ...แต่ก็โดนสายตาที่เหมือนกับกำลังโกรธของอีกฝ่ายข่มมาซะก่อน 

     

    “ ช่างมันเถอะน่า...! ” 

     

    เป็นห่วงคนอื่นแบบไม่ดูสถานการณ์เลยจริงๆ...

      

    ริมฝีปากบางเป็นอันหุบฉับลงอย่างง่ายดาย คงยุ่งแน่ๆถ้าเกิดเขาขัดใจร่างสูงไปมากกว่านี้ ...มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ของรุ่นพี่จัดการแงะมือเล็กๆของลูฟี่ที่เกาะเหนียวออกทันที ใบหน้าโหดๆของโทราโอะตอนนี้ทำเอาเขายอมเป็นเด็กดี นั่งเฉยๆให้คนตรงหน้าทำแผลจนเสร็จโดยไม่ปริปากพูดอะไรซักคำ 

     

    “ เสร็จแล้ว... โทรหาพี่ชายนายให้มารับเถอะ ” 

     

    ผ่านไปซักพัก มือหนาก็ยกขึ้นมาขยี้ผมยุ่งๆของรุ่นน้องเบาๆ พอเห็นลูฟี่ที่ทำท่าเรียบร้อยผิดปกติแบบนี้มันก็ชวนให้รู้สึกขำขึ้นมา ใบหน้าหวานพยักรับอย่างว่าง่าย เขาเองก็ได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากคนตัวเล็กเรียบร้อยแล้ว 

     

    เวลาผ่านไปไม่นานนัก ร่างของชายหนุ่มผมดำอีกคนก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาในคลีนิคด้วยสีหน้าร้อนรน แทนที่คนเป็นพี่ชายจะเข้าไปหาน้องชายตัวเอง แต่ร่างนั้นกลับเข้ามากระชากคอเสื้อของชายผิวแทน แล้วมองหน้าด้วยสายตาไม่เป็นมิตรในทันที 

     

    “ เพราะแกงั้นหรอที่เป็นต้นเหตุให้ลูฟี่มีแผลน่ะเจ้าบ้า! ” กลายเป็นเขาผิดคนเดียวไปซะอย่างนั้น... เจ้าของบ้านแกะมือของเอสออกพร้อมถอนหายใจหน่ายๆ 

     

    เจ้านี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างนั้นสิ... 

     

    “ สาเหตุมันก็ทั้งสองคน ...ฉันกับนาย ” ร่างสูงหันไปเก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้าที่โดยไม่ได้มองหน้าคู่กรณี ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหน้าถอดสีลงบ้างทั้งที่ยังงงๆอยู่ 

     

    “ ฉันด้วย...? นายหมายถึงอะไร? ” 

     

    “ โทรศัพท์น่ะ... พวกมันไม่ได้โทรมาบอกหรือไง ” 

     

    คนๆนี้เป็นประเภทชอบฉายเดี่ยว... ถ้าจะติดต่อก็ต้องผ่านเจ้าตัวโดยตรง 

     

    “ เอ๋...? โทรศัพท์ ? ไม่มีคนโทรมานี่ ” 

     

    คนเป็นพี่ชายทำท่าลนลาน หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดดู แต่ก็ไม่มีหมายเลขมิสคอลแสดงขึ้นหน้าจอเลยแม้แต่นิด 

     

    พอนึกไปนึกมา... อยู่ๆร่างนั้นก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ยกมือสองข้างขึ้นกุมหัวตัวเอง 

     

    “ เฮ้ยฉันเพิ่งเปลี่ยนเบอร์ใหม่ไปเมื่อสองวันที่แล้วนี่หว่า! ” 

     

    ลอว์มองไปยังร่างของผู้มาใหม่อย่างหนักใจ... นี่ถ้าเจ้าหนูนั่นไม่ได้เตะต่อยเป็นหรือไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน เจ้าบราค่อนนี่คงจะรู้ทุกอย่างตอนที่มันจบลงแล้วอย่างนั้นสิ... 

     

    เอสโผลเข้าไปกอดน้องชายผู้น่ารักด้วยใบหน้าเศร้าปานจะร้องไห้ ถูหัวตัวเองกับไหล่บางของลูฟี่รัวๆจนคนยืนมองอยู่ห่างๆรู้สึกหมั่นไส้ปนกับโมโหขึ้นมา ไอความรู้สึกโกรธเขาเมื่อกี๊มันหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้... 

     

    “ หัวหน้ามันเป็นใครกล้ามาแหยมกับฉันอย่าหวังว่าจะรอดเลย! ” มือหนาของคนเป็นพี่จูงแขนน้องชายออกไปจากคลีนิคด้วยท่าทางฮึดฮัด ก่อนที่ร่างนั้นจะหันกลับมามองคนรุ่นเดียวกันด้วยใบหน้ากึ่งหาเรื่อง 

     

    “ ขอบคุณมากที่วันนี้ช่วยดูแลลูฟี่ให้... แต่อย่าหวังว่าฉันจะยอมรับแกง่ายๆก็แล้วกัน! ” คำพูดนั้นทำเอาคุณหมอจำเป็นได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ เจ้าเด็กน่ารักหันมาโบกมือลาเขาพร้อมกับหัวเราะชิชิก่อนจากไป 

     

     

    หึ... ถึงนายจะไม่เห็นด้วย แต่เรื่องที่ว่าหัวหน้ากลุ่มฮาร์ทกำลังสนใจเจ้าเด็กนี่ มันก็ไม่เปลี่ยนไปหรอกนะ...

     

     

     

     

     

     

     

     หมายเหตุ** คาริบูก็คือตัวใช้โคลนที่โผล่มาตอนภาคโลกใหม่ที่ลูฟี่กำลังจะไปเกาะเงือกนั่นเองค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×