ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #22 : ◣Fanfic◥ [CrocodilexLuffy] The usurp man (Part3-END)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.34K
      87
      14 มิ.ย. 65

    Title: The usurp man
    Pairing: Crocodile x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 3/3
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------













     

     

     น่าสมเพส...

      

    คนอย่างเขาควรจะใช้คำนี้หรือเปล่านะ...

     

                 ทั้งๆที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้แก่เด็กหนุ่มหมวกฟางคนนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว ในเวลานี้กลับขอให้มันมาช่วยเหลือตัวเองเสียอย่างนี้ ดูสายตาที่มันมองสิ... ยังเกลียดฉันอยู่หรือไง...

      

    ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้...

     

     มันน่าจะสาแก่ใจแกดีแล้วไม่ใช่หรือไง... ที่ได้เห็นฉันมาอยู่ในที่แบบนี้

     

                 ได้ยินข่าวลือมาจากเจ้าพวกขี้คุกห้องข้างๆว่าน้องชายของเอสหมัดเพลิงมันบ้าดีเดือดขนาดบุกเข้ามายังปราการที่แข็งแกร่งที่สุดก็นึกตกใจ ไม่คิดว่ามันจะฝ่าด่านนรกลงมาถึงชั้นนี้ได้

      

                พอออกจากห้องขังนี้ไป ด้วยเหตุผลแค่เพียงว่าจะไปอัดหนึ่งในสี่จักพรรดิ์อย่างหนวดขาวให้คว่ำ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับช่วยมันแหกคุกหรือต่อสู้ร่วมกันชัดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร ตรงข้ามกัน เขาเองต่างหากที่กำลังรู้สึกแปลกๆ

     

     ทำไมจะต้องไปอยากช่วยมันด้วยนะ... มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยแท้ๆ

      

                รู้สึกว่าก่อนหน้านี้จะไปแพ้ให้กับผู้คุมคุกแมคเจลเลน... อยากจะรู้ว่าเจ้าเอสหมัดเพลิงคนนั้นสำคัญกับแกมากถึงขนาดต้องเอาชีวิตของตัวเองมาแลกเลยหรือไง

      

    “ ก็ได้... ฉันจะยอมให้นายไปกับฉัน แต่ถ้านายคิดจะมาขัดขวางกัน ...ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนฆ่านายเอง ” นั่นคือคำพูดจากปากคนตัวเล็กหลังจากที่ขึ้นมาอยู่บนเรือรบที่ปล้นมาได้ ตั้งแต่ออกมาได้เจ้านี่ก็มีท่าทางลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา

      

    ก็แน่นอนสินะ... เวลามันชักจะกระชั้นชิดเข้ามาทุกที

     

                 ต่อหน้าทุกคนสีหน้าของเด็กหนุ่มยังคงยิ้มแย้มทั้งๆที่ในใจเต็มไปด้วยความวตกกังวล คนแบบนี้มีหรือที่เขาจะดูไม่ออก เจ้ากระเทยน่ากลัวคนนั้นเองก็บอกว่ายากระตุ้นที่ใช้กับเขา อีกไม่นานก็คงจะหมดฤทธิ์ และย้อนกลับมาทำลายร่างกายของผู้ใช้ อาศัยแค่เพียงกำลังใจที่แน่วแน่ก็เท่านั้น

     

                 ถึงแม้ใครจะเข้าไปท้วงยังไง แต่เด็กหนุ่มก็ยังยืนยันจะนั่งอยู่ที่ปืนใหญ่ซึ่งเป็นหัวเรือ หวังเพียงจะเจอประตูแห่งความยุติธรรมที่เปิดอ้ารอให้เรือลำนี้ผ่านเข้าไป แถมยังทำท่าทางหลบหลีกเวลาที่เขาเดินเข้าไปใกล้เสียด้วย

      

    “ เจ้าหนู...ถึงแกจะนั่งอยู่ตรงนั้น มันก็ไม่ได้ช่วยให้เรือไปถึงเร็วขึ้นหรอกนะ ”

      

                เสียงทุ้มบอกในขณะที่ปากคาบซิการ์เอาไว้ ควันสีขาวพ่นออกมาเป็นทาง ใบหน้าของอดีตเจ็บเทพโจรสลัดเหม่อมองไปยังท้องทะเลรอบข้างที่ไกลสุดลูกหูลูกตา พลางทิ้งตัวลงใกล้ๆกับปืนใหญ่นั้นลงในท่าชันเข่า เรียกให้คนตัวเล็กหันมามองพร้อมกับยิ้มเศร้าๆ

      

    “ นั่นสินะ...ก็คงต้องรออีกซักพัก ” ร่างเล็กไถลตัวลงมายืนกับพื้นเรือ หันมาพูดกับเขาเพียงเบาๆ ก่อนที่ปลายเท้าคู่นั้นจะก้าวผ่านหน้าไป

     

     กึก!

      

                แผ่นหลังของหนุ่มหมวกฟางชนเข้ากับผนังไม้ของเรือ ด้านหน้ามีร่างใหญ่ของชายหนุ่มวัยกลางคนที่กำลังใช้มือยันผนังเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้ร่างเล็กตรงหน้าหนีออกไปไหน ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำสนิท คนเสียเปรียบได้แต่เบี่ยงสายตาที่ประปรายไปด้วยความไม่พอใจออกไปด้านข้าง คิ้วเรียวขมวดเข้าใกล้กับดวงตากลมโต

      

                ใบหน้าคมลดลงไปในระดับเดียวกัน ริมฝีปากหนาประทับจูบลงไปด้วยความโหยหา ถึงแม้จะไม่ดุดันแต่ก็ทำให้เขาขยับไปที่ไหนไม่ได้ ถึงแม้จะขัดขืน แต่ก็ไม่มีวี่แววที่คนตัวสูงจะยอมผละออกเลยแม้แต่นิด เวลาผ่านไปนานพอสมควร ร่างของทั้งสองจึงแยกออกจากกัน ในเวลานี้มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่คอยควบคุมสถานการณ์

      

    “ แก... ”

     

     “ …. ”

      

    “ แกรู้มั๊ยว่าฉันอยากเจอแกมานานขนาดไหน... ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เด็กหนุ่มตรงหน้ายังคงเบี่ยงสายตาออกไปด้านข้าง มีเพียงพวงแก้มที่ขึ้นสีแดงเรื่อเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาตอบสนอง ตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอกัน ความโหยหามันก็ยิ่งมากขึ้น...

      

    “ ในเวลาแบบนี้แกยังเกลียดฉันอยู่อีกหรือไง... ” น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความน้อยใจ สายลมเย็นจากทะเลพัดผ่านให้ปลายผมสีดำคลอเคลียกับผิวเนียนละเอียด เจ้าของหมวกฟางเงียบไม่ตอบอะไรคนตรงหน้า ปัดมือหนาออกและเดินออกไปโดยทิ้งคำพูดเอาไว้

     

     “ ไม่ใช่... ฉันไม่ได้เกลียดนายซักหน่อย... ”

     





                การเดินทางดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนพอเห็นจุดหมายลางๆ เจ้ามนุษย์เงือกนั่นที่โดนขังรวมกับเอสหมัดเพลิงก็ดูวุ่นวายกับเด็กหนุ่มเสียเหลือเกิน จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง แต่มันทำให้เขารู้สึกขัดใจชะมัด ทางข้างหน้ามีน้ำวนขนาดมหึมากำลังต้อนรับเรือลำนี้ลงไปสู่ก้นทะเล

      

    หากยังไม่มีใครเปิดประตูนั้นออก ...ก็คงถึงจุดจบเป็นแน่

      

    สีหน้าของทุกคนในเรือเปลี่ยนไปในทันที หวาดกลัวความตายที่กำลังจะมาขัดขวางจุดหมายของตน

     

     ครืน...

     

                 แต่ก็เหมือนดังปาฏิหาริย์เมื่อประตูบานใหญ่ตรงหน้าค่อยๆเปิดออก แสงสว่างจากทะเลอีกฟากสอดส่องเข้ามาจ้าซะจนแสบตา

     

     ใกล้ได้เวลาประหารเสียแล้ว...

     

                คนตัวเล็กยังคงว้าวุ่นใจไม่เปลี่ยน อาศัยคนรอบข้างคอยขับกล่อมให้ใจเย็นลงบ้าง ผ่านระยะทางมาไกลพอสมควรจนได้ยินเสียงปะทะของคนกลุ่มอื่นที่ดังแว่วเข้ามา น้ำทะเลที่เชี่ยวกรากกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่พร้อมจะถล่มทั้งเกาะให้พังทลาย เรือที่วิ่งอยู่บนคลื่นลูกนั้นโคลงไปมาจวนเจียนจะล่มเต็มที่

      

    พลังของหนวดขาวงั้นเรอะ...

      

    แม้แต่หมอนี่ก็ยังมาช่วยเจ้านั่น...

     

     “ เอสสสส!! ” พอปลายเท้าลงมาแตะกับพื้นน้ำแข็งที่แช่แข็งคลื่นลูกใหญ่เอาไว้ได้ ร่างเล็กก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่สนใจศัตรูจำนวนมากมาย เหล่าทหารยศน้อยยืนกระจายเต็มลาน บนลานกว้างที่ห่างออกไปยังมีเหล่าเจ็ดเทพโจรสลัด และทหารเรือระดับพลเอกยืนต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง

      

                เจ้าเด็กนี่กำลังสนุกไปกับการต่อสู้ที่ไม่รู้จะสิ้นสุดตอนไหน นิสัยที่มุทะลุรวมถึงหมวกฟางใบนั้นเป็นตัวเรียกให้ศัตรูเข้ามาลอบทำร้ายได้อย่างดี

     

     เจ้าเด็กบ้า... อย่าทำตัวให้มันเด่นนักไม่ได้หรือไง...

     

                 การทำแบบนั้นทีแต่จะทำให้แกตายเร็วขึ้นเท่านั้นแหละ... ทำไมคนแบบเขาจึงจะไม่รู้ความสามารถของทหารเรือที่ใช้ความยุติธรรมมาบังหน้า แท้จริงแล้วมันก็แค่คนที่พรากชีวิตผู้คนไปอย่างโหดเหี้ยมก็เท่านั้น

      

    อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก... แต่เขาไม่อยากให้มีรอยขีดข่วนใดๆบนผิวเนียนๆนั่นเลย

      

    แบบนี้เรียกว่าเป็นห่วงคงไม่ผิดสินะ...

     

     อย่างฉันมันก็ทำได้แค่คอยมองแผ่นหลังเล็กๆของแกวิ่งนำหน้าไปก็เท่านั้น...

      

    ถึงจะพยายามเอื้อมมือไปให้ถึง แกก็คงจะไม่หันหลับมาสนใจฉัน

     

                 เด็กหนุ่มกำลังมุ่งหน้าฝ่าเหล่าทหารเรือออกไปมากมาย จะมีก็เพียงจักรพรรดินีโจรสลัดที่เหมือนจะแปรพักตร์มาเข้าข้าง ไม่รู้ว่าเคยไปรู้จักกันตั้งแต่ตอนไหน บนยอดลานประหารที่สูงลิ่วอยู่ห่างออกไป ร่างที่นั่งคุกเข่าอยู่บนสิ่งนั้นทำให้หัวใจของร่างเล็กเต้นระส่ำ โกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง

     

                 สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงการคอยปกป้องอยู่ห่างๆ เข้าไปรับการโจมตีของโดฟลามิงโก้ที่กำลังเล็งจุดหมายไปที่ร่างนั้นได้ทันเวลา ริมฝีปากหนาที่กำลังฉีกยิ้มกว้างของฝ่ายตรงข้ามหุบลงอย่างขัดอารมณ์

      

    “ หืม... อดีตเจ็ดเทพโจรสลัดอย่างแกตกต่ำถึงขนาดมารับการโจมตีแทนเจ้าเด็กนั่นแล้วอย่างนั้นรึ ...เหลือเชื่อแฮะ ”

     

                 น้ำเสียงนั้นพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ต่างกับสีหน้าเหยียดหยามของเขาที่แสดงออกมา หมอนี่กำลังต้องการอะไรกันแน่... ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับมันซักเท่าไร แต่ก็คงจะไม่ได้หวังดีอะไรเป็นแน่

     

     “ แกกำลังจะทำอะไรเจ้านั่นกันแน่ ” พายุทรายสาดเข้าสู่ร่างที่สวมสูทขนนกสีฉูดฉาด แต่เขาก็หลบได้ด้วยท่าทางปราดเปรียวผิดกับร่างกายที่สูงใหญ่นั้น คิ้วหนาของเซอร์ คร็อคโคไดล์ขมวดแน่น ดวงตาคู่เดิมตอนนี้แฝงไปด้วยจิตสังหารมากมาย

      

    “ หืม...ทำอะไรงั้นหรอฉันก็คงคิดเหมือนแกล่ะมั๊ง ”

      

    “ หมายความว่ายังไง!? ” แววตานั้นแข็งกร้าว มองไปยังศัตรูตรงหน้าอย่างนึกแค้นเคือง ภาพที่เห็นตรงหน้ามีเพียงใบหน้าที่กำลังยิ้มเยาะ ดวงตาคมใต้แว่นตาสีม่วงหรี่ลง แสดงท่าทางที่ไม่เคยกังวลต่อสิ่งใด

     

     “ น่าสนใจ... เพราะเจ้าเด็กนั่นมันน่าสนใจยังไงล่ะ!! ...หึหึ ”

     

                 ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ความรู้สึกโกรธมันเกินจะระงับเอาไว้เสียแล้ว การโจมตีจากเขาระดมใส่ชายตรงหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เจ้าของใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายนั่นก็ยังคงหลบหลีกได้อยู่ร่ำไป

      

    เจ้าบ้านี่.... คิดจะทำอะไรกับเจ้าเด็กหมวกฟาง

     

     คิดเหมือนเขา... อย่างเจ้านี่ก็คิดกับเจ้าเด็กนั่นเหมือนเขาหรือไงกัน?

     

     “ ไม่ว่าใครก็ห้ามทำอะไรเจ้าหมวกฟางทั้งนั้น...! ”

     

                 การต่อสู้ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน ผู้คนบาดเจ็บและเสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศึกระหว่างเขาและโดฟลามิงโก้จบลงโดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ เนื่องจากกำแพงของลานกว้างที่ยกขึ้นเสียก่อน มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ได้เข้ามาเหยียบอยู่บนพื้นมารีนฟอร์ด

      

                เหมือนช่วงเวลาแห่งความสุขได้บังเกิดขึ้นเมื่อร่างเล็กที่เขาคอยเฝ้ามองไปถึงยังตรงหน้าพี่ชายตัวเองเสียแล้ว กุญแจมือที่เคยล็อกพาดหลังถูกปลดออก เพลิงสีแดงจากผู้เป็นพี่เผาผลาญสิ่งกีดขวางที่กำลังจะมาทำอันตรายน้องชายของตนอย่างทันท่วงที

     

                 ริมฝีปากบางฉีกยิ้มร่า ดวงตากลมโตคู่เดิมกำลังเป็นประกายเพราะความดีใจอย่างสุดซึ้ง ร่างของทั้งสองหันหลังชนกันในท่าเตรียมพร้อมสู้ รอบตัวเต็มไปด้วยทหารเรือและความร้อนจากเพลิงมรณะ

      

    อา... ไม่เคยเห็นสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขขนาดนี้เลยแฮะ...

      

    เพียงแค่แกมีความสุขเท่านั้นก็พอแล้ว...

     

                 ได้พบกับพี่ชายอย่างที่แกหวังไว้แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้ฉันก็คงหมดหน้าที่ที่จะต้องปกป้องแกอีกต่อไปแล้วสินะ เจ้าหนู...

     

                 ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่อลาบาสต้า จากครั้งนั้นแกก็พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน แกทำลายชื่อเสียงที่ฉันสั่งสมมา แกพรากยศถาบรรดาศักดิ์ที่ฉันเคยได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลงี่เง่า พรากสิ่งที่ฉันควรจะได้รับจากเมืองนั้น ตำแหน่งราชาที่ฉันเคยหวังไว้มันสลายไปกับตา เหลือแค่เพียงโจรสลัดคนหนึ่งที่ไร้ซึ่งที่พึ่งพาใดๆ

     

     และที่สำคัญ...

     

     แกเองก็ยังพรากกำแพงที่มันเคยปิดตายหัวใจที่แสนเยือกเย็นของฉันออกไป

      

                แกทำให้ฉันไม่อาจลืมแกไปได้เลย สัมผัสนั้นมันยังคงตกผลึกอยู่ในความทรงจำ แค่เพียงได้คอยมองอยู่ห่างๆเท่านั้นก็เพียงพอ รู้ตัวดีว่าถึงแม้จะพยายามไล่ตามแกไปเท่าไรก็คงไม่มีประโยชน์

     

     น่าแปลกที่ความรู้สึกโกรธเคืองของฉันมันกลับไม่มีอยู่เลย...

     

     น่าแปลกที่แกพรากทุกสิ่งไปจากฉัน อนาคตที่วางไว้ของฉันถูกทำลายทิ้งไปจนหมด...

     

     แต่ฉันก็กลับอยากปกป้องแกให้ถึงวินาทีสุดท้าย...

     

      

    ฉันกลับไม่อยากพรากสิ่งที่เป็นของสำคัญของแกไปเลยแม้แต่นิด...





     

     END

     



    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×