คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ◣Fanfic◥ [CrocodilexLuffy] The usurp man (Part3-END)
Title: The usurp man
Pairing: Crocodile x Luffy
Rate: PG-13
Writer: PINKUHERO
Part: 3/3
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
น่าสมเพส...
คนอย่างเขาควรจะใช้คำนี้หรือเปล่านะ...
ทั้งๆที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้แก่เด็กหนุ่มหมวกฟางคนนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว
ในเวลานี้กลับขอให้มันมาช่วยเหลือตัวเองเสียอย่างนี้ ดูสายตาที่มันมองสิ... ยังเกลียดฉันอยู่หรือไง...
ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้...
มันน่าจะสาแก่ใจแกดีแล้วไม่ใช่หรือไง... ที่ได้เห็นฉันมาอยู่ในที่แบบนี้
ได้ยินข่าวลือมาจากเจ้าพวกขี้คุกห้องข้างๆว่าน้องชายของเอสหมัดเพลิงมันบ้าดีเดือดขนาดบุกเข้ามายังปราการที่แข็งแกร่งที่สุดก็นึกตกใจ
ไม่คิดว่ามันจะฝ่าด่านนรกลงมาถึงชั้นนี้ได้
พอออกจากห้องขังนี้ไป
ด้วยเหตุผลแค่เพียงว่าจะไปอัดหนึ่งในสี่จักพรรดิ์อย่างหนวดขาวให้คว่ำ
สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับช่วยมันแหกคุกหรือต่อสู้ร่วมกันชัดๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร ตรงข้ามกัน
เขาเองต่างหากที่กำลังรู้สึกแปลกๆ
ทำไมจะต้องไปอยากช่วยมันด้วยนะ... มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยแท้ๆ
รู้สึกว่าก่อนหน้านี้จะไปแพ้ให้กับผู้คุมคุกแมคเจลเลน... อยากจะรู้ว่าเจ้าเอสหมัดเพลิงคนนั้นสำคัญกับแกมากถึงขนาดต้องเอาชีวิตของตัวเองมาแลกเลยหรือไง
“ ก็ได้... ฉันจะยอมให้นายไปกับฉัน แต่ถ้านายคิดจะมาขัดขวางกัน ...ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนฆ่านายเอง ” นั่นคือคำพูดจากปากคนตัวเล็กหลังจากที่ขึ้นมาอยู่บนเรือรบที่ปล้นมาได้
ตั้งแต่ออกมาได้เจ้านี่ก็มีท่าทางลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา
ก็แน่นอนสินะ... เวลามันชักจะกระชั้นชิดเข้ามาทุกที
ต่อหน้าทุกคนสีหน้าของเด็กหนุ่มยังคงยิ้มแย้มทั้งๆที่ในใจเต็มไปด้วยความวตกกังวล
คนแบบนี้มีหรือที่เขาจะดูไม่ออก
เจ้ากระเทยน่ากลัวคนนั้นเองก็บอกว่ายากระตุ้นที่ใช้กับเขา อีกไม่นานก็คงจะหมดฤทธิ์
และย้อนกลับมาทำลายร่างกายของผู้ใช้ อาศัยแค่เพียงกำลังใจที่แน่วแน่ก็เท่านั้น
ถึงแม้ใครจะเข้าไปท้วงยังไง
แต่เด็กหนุ่มก็ยังยืนยันจะนั่งอยู่ที่ปืนใหญ่ซึ่งเป็นหัวเรือ
หวังเพียงจะเจอประตูแห่งความยุติธรรมที่เปิดอ้ารอให้เรือลำนี้ผ่านเข้าไป
แถมยังทำท่าทางหลบหลีกเวลาที่เขาเดินเข้าไปใกล้เสียด้วย
“ เจ้าหนู...ถึงแกจะนั่งอยู่ตรงนั้น มันก็ไม่ได้ช่วยให้เรือไปถึงเร็วขึ้นหรอกนะ ”
เสียงทุ้มบอกในขณะที่ปากคาบซิการ์เอาไว้ ควันสีขาวพ่นออกมาเป็นทาง
ใบหน้าของอดีตเจ็บเทพโจรสลัดเหม่อมองไปยังท้องทะเลรอบข้างที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
พลางทิ้งตัวลงใกล้ๆกับปืนใหญ่นั้นลงในท่าชันเข่า
เรียกให้คนตัวเล็กหันมามองพร้อมกับยิ้มเศร้าๆ
“ นั่นสินะ...ก็คงต้องรออีกซักพัก ” ร่างเล็กไถลตัวลงมายืนกับพื้นเรือ
หันมาพูดกับเขาเพียงเบาๆ ก่อนที่ปลายเท้าคู่นั้นจะก้าวผ่านหน้าไป
กึก!
แผ่นหลังของหนุ่มหมวกฟางชนเข้ากับผนังไม้ของเรือ
ด้านหน้ามีร่างใหญ่ของชายหนุ่มวัยกลางคนที่กำลังใช้มือยันผนังเอาไว้
เพื่อกันไม่ให้ร่างเล็กตรงหน้าหนีออกไปไหน ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำสนิท
คนเสียเปรียบได้แต่เบี่ยงสายตาที่ประปรายไปด้วยความไม่พอใจออกไปด้านข้าง
คิ้วเรียวขมวดเข้าใกล้กับดวงตากลมโต
ใบหน้าคมลดลงไปในระดับเดียวกัน
ริมฝีปากหนาประทับจูบลงไปด้วยความโหยหา
ถึงแม้จะไม่ดุดันแต่ก็ทำให้เขาขยับไปที่ไหนไม่ได้ ถึงแม้จะขัดขืน
แต่ก็ไม่มีวี่แววที่คนตัวสูงจะยอมผละออกเลยแม้แต่นิด เวลาผ่านไปนานพอสมควร
ร่างของทั้งสองจึงแยกออกจากกัน ในเวลานี้มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่คอยควบคุมสถานการณ์
“ แก...
”
“ …. ”
“ แกรู้มั๊ยว่าฉันอยากเจอแกมานานขนาดไหน...
” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
เด็กหนุ่มตรงหน้ายังคงเบี่ยงสายตาออกไปด้านข้าง
มีเพียงพวงแก้มที่ขึ้นสีแดงเรื่อเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาตอบสนอง ตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอกัน
ความโหยหามันก็ยิ่งมากขึ้น...
“ ในเวลาแบบนี้แกยังเกลียดฉันอยู่อีกหรือไง...
” น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความน้อยใจ
สายลมเย็นจากทะเลพัดผ่านให้ปลายผมสีดำคลอเคลียกับผิวเนียนละเอียด
เจ้าของหมวกฟางเงียบไม่ตอบอะไรคนตรงหน้า ปัดมือหนาออกและเดินออกไปโดยทิ้งคำพูดเอาไว้
“ ไม่ใช่... ฉันไม่ได้เกลียดนายซักหน่อย...
”
การเดินทางดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนพอเห็นจุดหมายลางๆ
เจ้ามนุษย์เงือกนั่นที่โดนขังรวมกับเอสหมัดเพลิงก็ดูวุ่นวายกับเด็กหนุ่มเสียเหลือเกิน
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง แต่มันทำให้เขารู้สึกขัดใจชะมัด
ทางข้างหน้ามีน้ำวนขนาดมหึมากำลังต้อนรับเรือลำนี้ลงไปสู่ก้นทะเล
หากยังไม่มีใครเปิดประตูนั้นออก ...ก็คงถึงจุดจบเป็นแน่
สีหน้าของทุกคนในเรือเปลี่ยนไปในทันที
หวาดกลัวความตายที่กำลังจะมาขัดขวางจุดหมายของตน
ครืน...
แต่ก็เหมือนดังปาฏิหาริย์เมื่อประตูบานใหญ่ตรงหน้าค่อยๆเปิดออก
แสงสว่างจากทะเลอีกฟากสอดส่องเข้ามาจ้าซะจนแสบตา
ใกล้ได้เวลาประหารเสียแล้ว...
คนตัวเล็กยังคงว้าวุ่นใจไม่เปลี่ยน
อาศัยคนรอบข้างคอยขับกล่อมให้ใจเย็นลงบ้าง ผ่านระยะทางมาไกลพอสมควรจนได้ยินเสียงปะทะของคนกลุ่มอื่นที่ดังแว่วเข้ามา
น้ำทะเลที่เชี่ยวกรากกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่พร้อมจะถล่มทั้งเกาะให้พังทลาย
เรือที่วิ่งอยู่บนคลื่นลูกนั้นโคลงไปมาจวนเจียนจะล่มเต็มที่
พลังของหนวดขาวงั้นเรอะ...
แม้แต่หมอนี่ก็ยังมาช่วยเจ้านั่น...
“ เอสสสส!! ” พอปลายเท้าลงมาแตะกับพื้นน้ำแข็งที่แช่แข็งคลื่นลูกใหญ่เอาไว้ได้
ร่างเล็กก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่สนใจศัตรูจำนวนมากมาย
เหล่าทหารยศน้อยยืนกระจายเต็มลาน บนลานกว้างที่ห่างออกไปยังมีเหล่าเจ็ดเทพโจรสลัด
และทหารเรือระดับพลเอกยืนต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง
เจ้าเด็กนี่กำลังสนุกไปกับการต่อสู้ที่ไม่รู้จะสิ้นสุดตอนไหน
นิสัยที่มุทะลุรวมถึงหมวกฟางใบนั้นเป็นตัวเรียกให้ศัตรูเข้ามาลอบทำร้ายได้อย่างดี
เจ้าเด็กบ้า... อย่าทำตัวให้มันเด่นนักไม่ได้หรือไง...
การทำแบบนั้นทีแต่จะทำให้แกตายเร็วขึ้นเท่านั้นแหละ... ทำไมคนแบบเขาจึงจะไม่รู้ความสามารถของทหารเรือที่ใช้ความยุติธรรมมาบังหน้า
แท้จริงแล้วมันก็แค่คนที่พรากชีวิตผู้คนไปอย่างโหดเหี้ยมก็เท่านั้น
อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก... แต่เขาไม่อยากให้มีรอยขีดข่วนใดๆบนผิวเนียนๆนั่นเลย
แบบนี้เรียกว่าเป็นห่วงคงไม่ผิดสินะ...
อย่างฉันมันก็ทำได้แค่คอยมองแผ่นหลังเล็กๆของแกวิ่งนำหน้าไปก็เท่านั้น...
ถึงจะพยายามเอื้อมมือไปให้ถึง
แกก็คงจะไม่หันหลับมาสนใจฉัน
เด็กหนุ่มกำลังมุ่งหน้าฝ่าเหล่าทหารเรือออกไปมากมาย
จะมีก็เพียงจักรพรรดินีโจรสลัดที่เหมือนจะแปรพักตร์มาเข้าข้าง
ไม่รู้ว่าเคยไปรู้จักกันตั้งแต่ตอนไหน บนยอดลานประหารที่สูงลิ่วอยู่ห่างออกไป
ร่างที่นั่งคุกเข่าอยู่บนสิ่งนั้นทำให้หัวใจของร่างเล็กเต้นระส่ำ
โกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง
สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงการคอยปกป้องอยู่ห่างๆ
เข้าไปรับการโจมตีของโดฟลามิงโก้ที่กำลังเล็งจุดหมายไปที่ร่างนั้นได้ทันเวลา
ริมฝีปากหนาที่กำลังฉีกยิ้มกว้างของฝ่ายตรงข้ามหุบลงอย่างขัดอารมณ์
“ หืม... อดีตเจ็ดเทพโจรสลัดอย่างแกตกต่ำถึงขนาดมารับการโจมตีแทนเจ้าเด็กนั่นแล้วอย่างนั้นรึ ...เหลือเชื่อแฮะ ”
น้ำเสียงนั้นพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
ต่างกับสีหน้าเหยียดหยามของเขาที่แสดงออกมา หมอนี่กำลังต้องการอะไรกันแน่... ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับมันซักเท่าไร แต่ก็คงจะไม่ได้หวังดีอะไรเป็นแน่
“ แกกำลังจะทำอะไรเจ้านั่นกันแน่ ” พายุทรายสาดเข้าสู่ร่างที่สวมสูทขนนกสีฉูดฉาด
แต่เขาก็หลบได้ด้วยท่าทางปราดเปรียวผิดกับร่างกายที่สูงใหญ่นั้น คิ้วหนาของเซอร์
คร็อคโคไดล์ขมวดแน่น ดวงตาคู่เดิมตอนนี้แฝงไปด้วยจิตสังหารมากมาย
“ หืม...ทำอะไรงั้นหรอ? ฉันก็คงคิดเหมือนแกล่ะมั๊ง ”
“ หมายความว่ายังไง!?
” แววตานั้นแข็งกร้าว มองไปยังศัตรูตรงหน้าอย่างนึกแค้นเคือง
ภาพที่เห็นตรงหน้ามีเพียงใบหน้าที่กำลังยิ้มเยาะ ดวงตาคมใต้แว่นตาสีม่วงหรี่ลง
แสดงท่าทางที่ไม่เคยกังวลต่อสิ่งใด
“ น่าสนใจ... เพราะเจ้าเด็กนั่นมันน่าสนใจยังไงล่ะ!!
...หึหึ ”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ความรู้สึกโกรธมันเกินจะระงับเอาไว้เสียแล้ว
การโจมตีจากเขาระดมใส่ชายตรงหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
แต่เจ้าของใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายนั่นก็ยังคงหลบหลีกได้อยู่ร่ำไป
เจ้าบ้านี่.... คิดจะทำอะไรกับเจ้าเด็กหมวกฟาง
คิดเหมือนเขา... อย่างเจ้านี่ก็คิดกับเจ้าเด็กนั่นเหมือนเขาหรือไงกัน?
“ ไม่ว่าใครก็ห้ามทำอะไรเจ้าหมวกฟางทั้งนั้น...! ”
การต่อสู้ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน
ผู้คนบาดเจ็บและเสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ศึกระหว่างเขาและโดฟลามิงโก้จบลงโดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ
เนื่องจากกำแพงของลานกว้างที่ยกขึ้นเสียก่อน
มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ได้เข้ามาเหยียบอยู่บนพื้นมารีนฟอร์ด
เหมือนช่วงเวลาแห่งความสุขได้บังเกิดขึ้นเมื่อร่างเล็กที่เขาคอยเฝ้ามองไปถึงยังตรงหน้าพี่ชายตัวเองเสียแล้ว
กุญแจมือที่เคยล็อกพาดหลังถูกปลดออก
เพลิงสีแดงจากผู้เป็นพี่เผาผลาญสิ่งกีดขวางที่กำลังจะมาทำอันตรายน้องชายของตนอย่างทันท่วงที
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มร่า
ดวงตากลมโตคู่เดิมกำลังเป็นประกายเพราะความดีใจอย่างสุดซึ้ง
ร่างของทั้งสองหันหลังชนกันในท่าเตรียมพร้อมสู้
รอบตัวเต็มไปด้วยทหารเรือและความร้อนจากเพลิงมรณะ
อา... ไม่เคยเห็นสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขขนาดนี้เลยแฮะ...
เพียงแค่แกมีความสุขเท่านั้นก็พอแล้ว...
ได้พบกับพี่ชายอย่างที่แกหวังไว้แล้วยังไงล่ะ
ตอนนี้ฉันก็คงหมดหน้าที่ที่จะต้องปกป้องแกอีกต่อไปแล้วสินะ เจ้าหนู...
ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่อลาบาสต้า
จากครั้งนั้นแกก็พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน แกทำลายชื่อเสียงที่ฉันสั่งสมมา
แกพรากยศถาบรรดาศักดิ์ที่ฉันเคยได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลงี่เง่า
พรากสิ่งที่ฉันควรจะได้รับจากเมืองนั้น ตำแหน่งราชาที่ฉันเคยหวังไว้มันสลายไปกับตา
เหลือแค่เพียงโจรสลัดคนหนึ่งที่ไร้ซึ่งที่พึ่งพาใดๆ
และที่สำคัญ...
แกเองก็ยังพรากกำแพงที่มันเคยปิดตายหัวใจที่แสนเยือกเย็นของฉันออกไป
แกทำให้ฉันไม่อาจลืมแกไปได้เลย
สัมผัสนั้นมันยังคงตกผลึกอยู่ในความทรงจำ
แค่เพียงได้คอยมองอยู่ห่างๆเท่านั้นก็เพียงพอ
รู้ตัวดีว่าถึงแม้จะพยายามไล่ตามแกไปเท่าไรก็คงไม่มีประโยชน์
น่าแปลกที่ความรู้สึกโกรธเคืองของฉันมันกลับไม่มีอยู่เลย...
น่าแปลกที่แกพรากทุกสิ่งไปจากฉัน
อนาคตที่วางไว้ของฉันถูกทำลายทิ้งไปจนหมด...
แต่ฉันก็กลับอยากปกป้องแกให้ถึงวินาทีสุดท้าย...
ฉันกลับไม่อยากพรากสิ่งที่เป็นของสำคัญของแกไปเลยแม้แต่นิด...
END
ความคิดเห็น