ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ [One Piece] Straw hat & 7 huntsmans !? [Yaoi] [END]

    ลำดับตอนที่ #6 : Page V : Find Shanks

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.25K
      61
      24 เม.ย. 65


     


     

     


     

         สภาพพื้นที่ยืนอยู่กำลังสั่นโคลงเคลง ความชื้นกับคลื่นทะเลที่เข้าปะทะ เสียงของนกนางนวลฝูงใหญ่ที่บินผ่านบนศีรษะ ทำให้คนร่างเล็กที่กำลังวิ่งไปมาบนพาหนะทางน้ำรู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

      

    “ ว้าว นี่มันสุดยอดกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก ” 


     

         น่าแปลกใจที่เด็กหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอยู่กับทะเลมาตลอดชีวิตกลับไม่เคยขึ้นเรือลำใหญ่ขนาดนี้ซักที อย่างมากก็เรือพายที่เคยนั่งไปตกปลากับเพื่อนสนิท นี่จึงนับว่าเป็นครั้งแรกที่ลูฟี่ได้ออกจากหมู่บ้านสู่ทะเลกว้างใหญ่นี่เอง

      

         ดวงตากลมโตพราวระยับทอดมองไปตามผืนน้ำกับท้องนภาสีคราม ทั้งที่ยังคงเป็นภาพเดิมตลอดเวลา แต่ก็น่าแปลกที่เพียงแค่มองเฉยๆก็ให้ความรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ...รวมเวลาแล้วก็สองวันเต็มๆที่เดินทางออกมาจากหมู่บ้านกับนายพรานแชงคูส ทั้งการเดินเท้า ทั้งการเดินทางทางน้ำ โดยจุดมุ่งหมายคือเมืองอะไรซักอย่างที่เป็นศูนย์กลางของประเทศนี้ 

     

    “ นี่ลูฟี่..."

     

    “ หือ? ” 

     

    “ นายเคยได้ยินเรื่องสโนว์ไวท์มาบ้างหรือเปล่า? ” 

     

         เสียงทุ้มของคนข้างกายเอ่ยถามขึ้น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชายผมแดงวัยกลางคนที่สวมผ้าคลุมสีดำทะมึน คิ้วเรียวของคนถูกถามขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะเอียงคอกลับมาพร้อมคำตอบ

      

    “ อืม...ไม่รู้สิ...นิทานหรือเปล่า? ” 

     

         ทั้งชีวิตนี้เด็กหนุ่มจำอะไรไม่ได้มากนอกจากของกิน วีรกรรมวัยเด็ก และอาจจะมีบ้างที่เรื่องราวอย่าง'นิทาน'เคยผ่านหู... แต่ก็ไม่ยักจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องแบบไหนอยู่ดี 

     

    “ ใช่... มันเป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงคนหนึ่ง ที่โดนแม่มดใจร้ายเอาแอปเปิ้ลอาบยาพิษให้กินจนเธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ” ชายผมแดงดูตั้งอกตั้งใจเล่าเรื่องราวปรัมปราในขณะที่ดวงตาคู่คมกำลังเบนออกไปด้านข้าง และเด็กหนุ่มที่พยักหน้ารับตามอย่างงงๆ 

     

                ท่าเอียงคอเมื่อครู่ราวกับมีพลังงานบางอย่างที่ทำให้คนอายุมากกว่าไม่อาจมองตาใสๆคู่นั้นได้...พลังทำลายล้างมันสูงเกินไป 

     

    “ อือ...? ” 

     

    “ แต่เรื่องราวของสโนว์ไวท์มันไม่ได้หยุดลงเพียงครั้งเดียว มันเกิดขึ้นใหม่ได้ทุกยุคสมัย และเวลาใดก็ได้... ”

      

         เรื่องราวมันไม่ได้ถูกล็อคให้ต้องเป็นแบบเดิมเสมอไป... เหตุการณ์อาจจะกลับตาลปัตร แต่ความจริงว่านั่นคือสโนว์ไวท์ก็ยังไม่เปลี่ยนไป 

     

    ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรกับเจ้าหญิงบ้าง... ถึงเวลาของนายพรานต้องออกโรงแล้ว 

     

    “ อา...หิวจัง แล้วมันมีอะไรงั้นหรอ? ” เด็กน้อยยกมือขึ้นมาลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองที่กำลังส่งเสียงโครกครากด้วยใบหน้าละห้อย ราวกับมีคนมาสอนทฤษฎีคณิตศาตร์ให้ลูกลิง ...เจ้าตัวดูจะไม่สนใจฟังมันซักเท่าไร เรื่องกินต่างหากที่สำคัญกว่า

      

    เขาไม่รู้เรื่องนี้จริงๆด้วยสิ... 

     

    “ เพราะนายคือสโนว์ไวท์... เจ้าหญิงคนนั้นยังไงล่ะ ” 

     

    “ หา? ” 

     

         บนใบหน้าคมของแชงคูสปรากฏรอยยิ้มบางๆเหมือนกับกำลังเพิ่มน้ำหนักให้คำพูดนั้น ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังไม่รู้จะแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปดี

      

    “ ...นายเพี้ยนหรือเปล่าเนี่ย? ” 

     

    เจ้าหญิงอะไรกัน... เห็นชัดๆอยู่ว่าเขาเป็นผู้ชายนี่นา! 

     

    “ ฉันไม่ได้โกหกนะ นายต้องระวังคนที่เข้าหาตัวเองเอาไว้ ...โดยเฉพาะแอปเปิ้ล ” 

     

    “ ร...ระวังแอปเปิ้ล?? ” 

     

    ระวังของอร่อยทำไม... ผู้ชายคนนี้เพี้ยนจริงๆด้วย 

     

         ในระหว่างนั้น นายพรานแชงคูสไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้ายุ่งๆของคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย บนริมฝีปากได้รูปเพียงระบายยิ้มบางๆ ในขณะที่ดวงตาคู่คมทอดมองไปยังเกาะที่มองเห็นอยู่ไม่ห่าง …ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดตอนนี้ก็ได้ 

     

    ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆนี่นะ... 

     

         ในโลกใหม่นี้... ไม่รู้ว่าคนแคระจะเป็นใคร สิ่งที่แน่ชัดคือนายพรานเป็นเขาไม่ผิดแน่นอน เขาคือองครักษ์แห่งราชินีที่มีหน้าที่ต้องปกป้องหนุ่มน้อยผู้น่ารักคนนี้จากแม่มดใจร้ายตามตำนานให้จงได้

      

    ตัวเล็กบอบบางน่าคว้ามากอดแบบนี้... ให้ตายยังไงก็ไม่ให้แม่มดใจร้ายนั่นแย่งไปง่ายๆหรอกน่า 

     

    “ เอาเถอะ... ถึงพอดีเลย นายกำลังบ่นว่าหิวอยู่ไม่ใช่หรือไง? ” 

     

         เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เรือโดยสารเข้าจอดเทียบฝั่ง สะพานไม้ถูกวางเชื่อมกับท่าเรือ ทันทีที่ปลายเท้าสัมผัสลงกับพื้นดิน ภาพตรงหน้าที่ละลานตาก็ทำให้เด็กหนุ่มอดร้องว้าวออกมาไม่ได้

      

    “ ส..สุดยอด!! ” กลิ่นของกินที่โชยมาเตะจมูก ผู้คนที่กำลังเดินพลุกพล่าน แผงขายอาหารที่วางอยู่เกลื่อนกลาด บรรยากาศก็คล้ายคลึงกับสถานที่ที่เขาจากมาอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ความเจริญและขนาดของมันดูยิ่งใหญ่กว่ามากมายเลยทีเดียว

      

    “ เนื้ออออ!! ” 

     

         ปลายเท้าเล็กๆทั้งคู่ตรงไปยังร้านเนื้อติดกระดูกควันฉุยอย่างไม่ลังเล สะบัดมือที่เคยเกาะกุมกันไว้ออกจนไม่เหลือสภาพ ทำเอาใบหน้าคมของนายพรานผมแดงจ๋อยลงแทบจะทันที แต่ก็ยอมเดินตามร่างนั้นไปพร้อมควักเงินในกระเป๋าออกมาจ่ายให้ด้วยความยินดี

      

    “ ไม่เอาน่าลูฟี่... จับมือฉันไว้สิ เดี๋ยวก็หลงกันหรอก ”

      

         มือนิ่มๆที่อุตส่าห์เนียนจับได้เมื่อกี๊ ลุงอยากจะจับไปอีกนานๆเลย ...เวลาเคี้ยวแล้วแก้มตุ่ยออกมาด้านข้างก็น่ารักเหมือนกัน

      

    “ ไม่เอาอ่ะ ขืนจับมือนายก็กินไม่ได้สิ ...ยังไงก็ขอบคุณที่เลี้ยงนะ! ” ใบหน้าหวานที่เคยขมวดคิ้วเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างจนตาหยีไปด้วย เสียงหัวเราะชิชิหลุดมาไม่ทันเท่าไร ปลายเท้าคู่เดิมก็วิ่งไปยังเป้าหมายใหม่ซะแล้ว ...

      

         จากนั้นไม่นาน... เงินจำนวนไม่ได้มากก็ถูกหยิบออกจากกระเป๋าครั้งแล้วครั้งเล่า ต่างไปจากสีหน้าของนายพรานคนเดิมที่ยังคงความเคลิ้มเอาไว้ ในขณะที่ปลายเท้าก็วิ่งตามร่างเล็กที่มีอาหารอยู่เต็มอ้อมแขน

      

    “ นี่ลูฟี่ ฉันว่านายพอก่อนเถอะนะ เราเริ่มจะไม่มีตังจ่ายค่าเดินทางกันแล้วล่ะ ฮะฮะ ”

      

    “ …..... ”

      

         เสียงนั้นเป็นตัวเรียกให้เด็กหนุ่มหันกลับมาพยักหน้ารับแต่โดยดี ในขณะที่ดวงตากลมโตยังแอบเหลือบมองทางเดินที่ทอดยาวต่อไปด้วยนึกเสียดายนิดหน่อย

      

    ช่วยไม่ได้ล่ะนะ... แค่นี้ก็เยอะแล้วจริงๆด้วย

      

    “ ก็ได้... งั้นเรามากินด้วยกันเถอะ! ” ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มน่ามองพลางยื่นอาหารในอ้อมแขนให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกัน ใบหน้าคมพลันปรากฏรอยยิ้มปลื้มปริ่มและน้ำตาเอ่อชื้นขอบตาคม ซึ่งลูฟี่ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจภาพนั้นนัก

      

    น้ำใจงามจริงๆ... ดีจริงๆที่ได้พบก่อนที่ใครจะมาชิงตัวไป

      

    “ เจ้าข้าเอ้ย! เร่เข้ามา! ของหายาก ของวิเศษหาได้จากร้านนี้เลยจ้า! ”

      

    ของวิเศษ...? 

     

         ไม่ห่างออกไปจากบริเวณที่ยืนอยู่ ปรากฏแผงขายของที่มีคนกำลังมุงอยู่ประปราย สินค้าอย่าง'ของวิเศษ'ที่พ่อค้าเอ่ยขึ้น ทำให้ผู้คนหันมาสนใจไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่ตัวลูฟี่เองก็ด้วย

      

    “ เครื่องรางชิ้นนี้ถ้าพกติดตัว มันจะนำพาท่านไปสู่สโนว์ไวท์แห่งยุคนี้! ไงล่ะ ไม่อยากเจอเจ้าหญิงสโนว์ไวท์กันหรือไง!? ” ประโยคโฆษณาที่แสนเกินจริงนั้นอดทำให้แชงคูสหลุดขำออกมาไม่ได้ แต่เมื่อมองไปยังคนข้างตัว เจ้าตัวเล็กดันหายไปแล้วซะงั้น... 

     

    “ จริงหรอลุง! เอาติดตัวแล้วจะเจอสโนว์ไวท์จริงหรอลุง!? ” แต่ดันไปปรากฏตัวอยู่ข้างๆพ่อค้าขายเครื่องรางคนนั้นแทน ...ไอ้ตาเป็นประกายวิบวับทั้งสองข้างนั่นมันอะไรกัน

      

    สโนว์ไวท์ที่ว่านั่น... มันก็ตัวนายเองไม่ใช่หรือไงเล่า?

      

    “ จริงสิเจ้าหนู! เจ้าหญิงที่ใครเขาก็ล่ำลือว่างดงาม มีข่าวลือมาว่าปรากฏตัวขึ้นมาแล้วนะ! ”

      

         เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมากมายในวงคนมุง ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งขยายวงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนลูฟี่ไม่ได้ทันรู้ตัวว่าตัวเองละสายตาออกไปจากนายพรานคนที่เดินทางมาด้วยกันเสียแล้ว....

      

    “ แล้วว่ายังไงล่ะ? นายสนใจจะซื้อหรือเปล่า? ”

      

    “ เอ่อ... ขอโทษนะลุง ฉันไม่มีตังหรอก ” มือเล็กยกขึ้นกระชับหมวกฟางที่สวมมาด้วยก่อนยิ้มแห้งๆให้คนขาย อีกฝ่ายตอบกลับมาเพียงจะตั้งแผงขายถึงพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย ก่อนที่จะเลิกสนใจเขาอีก

      

    หวา..!

      

         แต่เหล่าผู้คนที่ดันเข้ามาเรื่อยๆก็ใช่จะน้อยที่ไหน ร่างแห้งๆของลูฟี่ถูกดันไปมาเหมือนกระดาษบางๆที่ปลิวไปตามแรงลม จนกระทั่งหลุดออกมาจากวงคนมุงด้วยสภาพเกือบจะหน้าคะมำ

      

    “ อ๋า...อะไรกันเนี่ยคนพวกนี้! ” ก้มลงหยิบหมวกฟางที่พลัดตกพื้นขึ้นมาปัดฝุ่นออกอย่างถนอมแล้วสวมมันคืนบนศีรษะ ดวงตากลมโตพยายามสอดส่องหาร่างที่คุ้นเคย แต่ก็หาไม่เจอ...


     

    “ แชงค์! นายอยู่ที่ไหนอะ! ”

      

         ปลายเท้าคู่เล็กเริ่มเดินวนหารอบๆร้านขายของประหลาดนี่ ทั้งเดินกลับไปยังจุดเดิมที่เคยยืนอยู่เมื่อครู่ แต่ก็ต้องพบว่ากลุ่มคนได้ขยายวงจนกลืนพื้นที่นั้นไปด้วยเสียแล้ว ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มองไม่เห็นคนที่มีสีผมเด่นชัดอย่างสีแดงเดินอยู่แถวนี้เลยซักนิด 

     

    หวา... แย่แล้วสิ 

     

    หลงกับแชงค์แล้วงั้นหรอ...?

     

     

     

      

     

    “ แชงงงงค์!! โฮ่ยยย นายอยู่ที่ไหนนนน!! ” 

     

         กายผอมบางสาวเท้าไปตามทางเดินของตลาด ในขณะที่เอ่ยเรียกอีกฝ่ายไปด้วย ผู้คนที่เดินพลุกพล่านอยู่ก็มีมากมายเหลือเกิน ไม่รู้ว่าแชงคูสคนนั้นจะเดินอยู่ที่ไหนด้วยสิ 

     

    “ แชงงงค์!! โฮ่ยยยย ได้ยินแล้วตอบฉันหน่อย!! ” คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันพร้อมกับริมฝีปากบางที่มู่เข้ามาด้วยรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เสียงตะโกนของเขาเริ่มจะทำให้กลายเป็นที่สนใจของคนรอบข้างขึ้นมาแล้ว... ลูฟี่ยกแขนขึ้นมาในท่ากอดอก ใบหน้าน่ารักเอียงไปด้านข้างเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ในใจ 


     

    จะทำยังไงดีล่ะทีนี้... 

     

    “ นี่ป้า เห็นผู้ชายผมแดงหน้าตาน่ากลัวใส่ผ้าคลุมเดินผ่านมาทางนี้บ้างหรือเปล่า? ” สองเท้าเดินเตาะแตะเข้าไปแวะยังร้านขายเนื้อสดที่มีหญิงอวบวัยกลางคนกำลังยืนทำหน้างงอยู่ แต่เธอกลับเพียงตอบปฏิเสธกลับมาเท่านั้น 

     

    “ ม..ไม่เห็นนะ ฉันไม่เห็นคนแบบนั้นหรอก ” 

     

    “ งั้นหรอ...? ขอบคุณนะ ” 

     

         ใบหน้าหวานหงอยลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ตัดสินใจว่าจะกลับไปเดินตามหาต่อไป เสียงของพ่อค้าร้านที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยขึ้นเรียกความสนใจเสียก่อน 

     

    “ ถ้าคนที่ตัวใหญ่ๆนั่นล่ะก็ ฉันเห็นเดินไปทางนู้นน่ะ...แต่อย่าเข้าไปยุ่งกับเจ้านั่นเลยดีกว่านะ! ” ชายแก่หน้าตาเป็นมิตรชี้มือไปยังย่านที่เริ่มมีร้านอาหารข้างทางปรากฏขึ้นมาบ้าง ท่าทางหวั่นๆกับน้ำเสียงคล้ายกับจะเตือนทำให้ลูฟี่รู้สึกแปลกใจไม่น้อย 

     

    “ ขอบคุณมากนะลุง ฉันกำลังหลงกับเขาอยู่พอดีเลย ” และประโยคนั้นก็เรียกใบหน้าถอดสีจากเหล่าพ่อค้าแม่ค้าได้เป็นแถบ 

     

    ทำหน้าตกใจกันอีกแล้ว... หรือว่า'ผู้ชายผมแดง'จะเป็นคำต้องห้ามที่นี่กันนะ? 

     

         ไม่เข้าใจว่า ช่วงเวลาแค่แป๊บเดียวทำไมจึงหลงกันได้เหมือนกัน...พยายามมองหาตามร้านอาหารอย่างที่ถูกบอกมา พอเจอใครที่พอจะถามได้จึงลองบอกลักษณะของเพื่อนร่วมเดินทางอีกคนออกไป... 

     

    ผู้ชายผมกระเซิงสีแดง หน้าตาน่ากลัว ตัวสูงๆ 

    ใส่ผ้าคลุมสีดำๆ ไม่มีแขนซ้าย มีแผลเป็นบนหน้า... 

     

         ไม่ผิดแน่...ลักษณะแบบนี้แหละ ยังไงก็แชงคูสชัดๆ... บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้ต่างก็ตอบกลับมาพร้อมใบหน้าถอดสีเป็นเสียงเดียวกันว่า 'เห็นคนๆนั้นอยู่ที่โรงเหล้า' 

     

         ทันทีที่ปลายเท้าหยุดลงตรงหน้าอาคารสองชั้นขนาดใหญ่ ใบหน้าหวานก็ยู่เข้าหากันด้วยกลิ่นของแอลกอฮอลล์ที่ตีเข้าจมูก ดวงตาคู่สวยเหลือบไปเห็นร่างสูงของผู้ชายผมแดงกับผ้าคลุมสีดำยืนอยู่ไม่ห่าง จึงไม่ลังเลเลยที่จะเร่งฝีเท้าเข้าไปหยุดตรงหน้าพร้อมคิ้วเรียวที่ขมวดพันกันยุ่ง... 

     

    “ หาเจอแล้ว! ทำไมถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ล่ะ! ” 

     

    แอบโกรธขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว... ก็เกือบจะเดินทั่วตลาดนี้อยู่แล้วนี่นา! 

     

         คนโดนเรียกเพียงมองกลับไปยังคนตรงหน้าที่สูงเพียงอกของตนด้วยติดจะงุนงงไม่น้อย ร่างกายสูงใหญ่ที่เหมือนจะเสียแขนข้างหนึ่งไป ...มันก็ใช่ที่เขาเป็นผู้ชายผมแดงหน้าตาน่ากลัว และมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าคมนั้นด้วย... 

     

    “ เอ๊ะ...?! “ 

     

    แต่ก็ไม่ใช่... 

     

     

    นายไม่ใช่แชงค์นี่นา...?

     

     

     

     

     

    ขอโทษจริงๆค่ะ คราวนี้หายไปเป็นเดือนเลยU_U

    ตอนนี้อาจจะภาษาแปลก ดำเนินเรื่องแปลกๆหน่อยนะคะ

    ตอนแต่งเบลอมาก ถ้าไม่โอเคจะเข้ามาแก้อีกทีค่ะ

    จะมาอัพอีกตอนเร็วๆนี้น้าาา 

    ส่วนป๋าแชงค์ใครสงสัยว่าเฮียแกหายไปไหน 

    อย่าน้อยใจไป บทยังไม่หมดง่ายๆแน่นอนค่ะ 55555

    แล้วไว้เจอกันกับตอนหน้าจ้าาา^^

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×