ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ [One Piece] Straw hat & 7 huntsmans !? [Yaoi] [END]

    ลำดับตอนที่ #2 : Page I : Shabby boy

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.42K
      119
      24 เม.ย. 65


     


     


     


     

    นานมาแล้วได้มีตำนานเล่าขาน... 

    จุดกำเนิดแห่งมหากาพย์ที่กำลังจะเปิดม่านขึ้น 

    ในหมู่บ้านเล็กๆที่แสนสงบสุขกำลังจะถือกำเนิด 'สโนว์ไวท์' คนใหม่ 

    ผู้จะนำมาซึ่งความวุ่นวายแห่งยุคสมัย

      

     

     

         การออกไปเดินเล่นในเวลานี้ คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักสำหรับผู้คนในอาณาจักรเล็กๆที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์นี้ สายฝนสาดลงสู่พื้นดินไม่ขาดสาย เจิ่งนองจนเกือบจะกลายเป็นสภาวะอุทกภัย ท้องฟ้าที่ถึงแม้จะเป็นเวลากลางวันกลับระบายสีมืดครึ้มเช่นเวลาโพล้เพล้ ก้อนเมฆจำนวนมากมายบดบังสีฟ้าสดใสจนกลายเป็นเพียงความมืดมิด สายฟ้าสีขาวสว่างพาดผ่านขอบฟ้า เสียงกระหึ่มของมันดังก้องไปทั่วจนชวนให้รู้สึกหวาดผวา

      

    สภาพอากาศเลวร้ายอย่างไม่เคยมีมาก่อน...

      

         เป็นวันที่ไม่ดีเอาเสียเลย ...หญิงสาวชาวบ้านในชุดกระโปรงเก่าคร่ำครึพยายามแบกสังขารของตัวเองขึ้นไปยังกระท่อมหลังเล็กๆ อาการเจ็บปวดเร่งมาจากบริเวณท้องที่ใหญ่โตเพราะมีสิ่งมีชีวิตน้อยๆที่กำลังประท้วงหาความเป็นอิสระ

      

    ทนหน่อยนะลูกรัก... อีกนิดเดียวเท่านั้น

      

         ใบหน้าหวานงดงามนิ่วเข้าหากันอย่างทรมาน เส้นผมยาวสลวยสีไม้มะเกลือชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดฝนที่โหมกระหน่ำ นับว่าเป็นโชคดีที่เพื่อนบ้านพอมีน้ำใจมาช่วยเธอทำคลอดในครั้งนี้ด้วย การจัดเตรียมความพร้อมต่างๆจึงเป็นไปได้ง่ายกว่าที่คิด

      

         ฟ้าฝนดูท่าจะไม่มีความปราณีใดๆ บรรยากาศมืดครึ้มเต็มไปด้วยสายฟ้าสว่างวาบดั่งเป็นฉากประกอบการทำคลอดครั้งนี้ไปโดยปริยาย เป็นวันที่หญิงสาวรู้สึกทรมานมากมาย แต่ในเวลาเดียวกันกลับรู้สึกมีความสุขนัก เมื่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆกำลังจะกำเนิดขึ้นมา

      

    “ มาแล้ว..! ออกมาแล้วล่ะ ” หญิงสาวชาวบ้านอีกคนที่ดูแลการทำคลอดเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าดีใจ ร่างกายเล็กๆปรากฏขึ้นแก่สายตาผู้เป็นแม่ พร้อมๆกับสายฝนที่อยู่ๆก็ซาลงอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากบางนั้นเพียงเผยรอยยิ้มรับอ่อนๆ

      

    “ ช่างเป็นเด็กที่มีความงดงามอะไรเช่นนี้ ” ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยเสียงเบาหวิว ผู้ทำคลอดมองตามพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะตบเบาๆบริเวณขาให้ทารกน้อยรู้สึกตัว 

     

    พลันเสียงแรกแห่งการมีชีวิตก็ได้ดังขึ้น

      

    แง้ แง้ แง้!!

      

         ภาในเวลานี้ค่อยๆสงบลง เมฆฝนที่กรรโชกมาจนถึงเมื่อครู่กลับสงบลงดั่งปราฏิหารย์ แสงแดดอ่อนๆเริ่มส่องลอดผ่านก้อนเมฆให้ความรู้สึกสดชื่น ก่อนที่สายรุ้งอันละมุนละไมจะคาดผ่านแผ่นฟ้ากว้าง

      

    “ ช่างเป็นเด็กที่น่าอัศจรรย์ใจเสียจริง.... อีกทั้งยังมีความงดงามแม้จะเพิ่งเกิดก็ตาม ” หญิงสาวชาวบ้านผู้ทำคลอดเอ่ยชื่นชมจากใจ จะเพราะความบังเอิญหรือเปล่า เธอไม่แน่ใจนัก... แต่เมื่อเสียงร้องของเด็กคนนี้ดังขึ้น ฟ้าฝนก็เหมือนเป็นใจเปิดทางต้อนรับผู้มาใหม่คนนี้

      

    แต่หญิงชาวบ้านนั้นรู้ดี... แม้ทารกผู้นี้จะงดงามเพียงใดก็ตาม

      

    แต่เขาคนนี้ก็เป็นเด็กผู้ชาย... และมีปัญหาอื่นๆที่สำคัญกว่านั้น

      

     

     

     

     

         ข่าวลือในหมู่ชาวบ้านนั้นแพร่งพรายออกไปเร็วกว่าที่คิด เพียงเพราะเหตุการณ์พายุฝนสงบลงอย่างกะทันหันในวันนั้น เกิดเสียงเล่าอ้างมาหลายครั้งเกี่ยวกับคำทำนายในตำนาน... หญิงสาวแม่ลูกอ่อนพยายามปฏิเสธเรื่องราวเหล่านั้น แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครเชื่อถือแม้แต่น้อย

      

    คำทำนายเกี่ยวกับสโนว์ไวท์รุ่นต่อไป... แม้ไม่ทราบที่มาว่ามาจากที่ใด

      

    แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงได้ว่ามันมีความแม่นยำยิ่งนัก...

     

     

    เขาคือผู้ที่จะทำให้โลกวุ่นวายอย่างยิ่ง...

     เด็กหนุ่มร่างกายบอบบางดุจอิสตรี ผิวขาวผ่องเนียนนุ่มดุจหิมะ ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อเช่นกลีบกุหลาบ

     ...เส้นผมนุ่มดำสนิทดั่งไม้มะเกลือ และสุรเสียงอันไพเราะดึงดูดสรรพสิ่ง

     

    ถึงแม้กายจะเป็นชาย.... แต่ช่างอันตรายยิ่งนัก

      

         เพราะเหตุใด... ยามเมื่อเธอก้มลงมองหน้าบุตรชายของตนที่แม้จะเพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่เดือนนั้น ก็ไม่อาจปฏิเสธคำทำนายนั้นได้เลย... ทำไมถึงเป็นเจ้า ...เหตุใดเด็กน้อยไร้เดียงสาผู้นี้จึงกลายเป็นตัวอันตรายไปได้

      

    เหตุใดสโนว์ไวท์คนใหม่ถึงได้ถือกำเนิดมาเป็นลูกของข้า... 

     

         ชาวบ้านยังคงตามราวีไม่ให้ชีวิตประจำวันของหญิงสาวรู้สึกเป็นสุขเลยแม้แต่น้อย เด็กน้อยในอ้อมกอดยังคงยิ้มร่าไร้เดียงสา เพราะคำทำนายว่า'อันตราย'นั้นแท้ๆ เป็นตัวตัดสินอนาคตของเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย

      

    อันตรายที่ว่านั่น หมายถึงสิ่งใดกันแน่.... 

     

         สิ่งเดียวที่เธอต้องทำคือพาเด็กคนนี้หนีไปให้ไกลที่สุด พาเขาไปยังที่ที่จะปลอดภัยพอให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในอนาคต ยิ่งการอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ใบหน้างดงามที่เป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาว ทำให้ผู้คนสังเกตได้ง่ายดายเหลือเกิน และเป้าหมายของพวกเขาคือการกำจัดลูกน้อยของเธอทิ้งไป

      

    ทำให้เธอได้รู้ตัวแล้วว่า... การที่เธออยู่ใกล้เด็กคนนี้ เป็นสาเหตุให้เขาเป็นอันตรายไปด้วย

      

         กายบอบบางร่อนเร่ไปหลายหมู่บ้าน ทั้งใกล้เคียงและห่างไกล แต่อนิจจา... ดูเหมือนคำทำนายนั่นจะเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งหมด ทั้งเหนื่อยล้าจนอยากจะหมดแรงไปดื้อๆ เหนื่อยกับการหลบหนี... เหนื่อยกับการถูกตามล่า

      

    จนกระทั่งมาถึงหมู่บ้านโทรมๆแห่งหนึ่ง... ทุรกันดารพอที่จะทำให้ผู้คนหาพบได้ยาก

      

         ตระกร้าสานจากหวายถูกปูด้วยผ้าสีพื้นหลายชั้น ให้มีความนุ่มพอที่จะทำให้เด็กน้อยไม่ระคายผิว ก่อนที่ร่างกายเล็กของเด็กทารกจะถูกวางลงไปในตระกร้านั้นอย่างแผ่วเบา ใบหน้าที่งดงามแม้จะเป็นเด็กชายยังคงยิ้มร่าไร้เดียงสา ในขณะที่ผู้เป็นแม่กำลังหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสาย

      

    “ แม่ขอโทษ... ที่ปล่อยให้เจ้าเป็นแบบนี้ ”

      

    มือเรียวลูบไล้ใบหน้าอ่อนอย่างทะนุถนอม... ดวงตาสีสวยจ้องมองใบหน้าของบุตรด้วยคลอน้ำตา

      

    นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้พบหน้ากัน...

      

    “ ลูกจะปลอดภัยเมื่ออยู่ห่างจากแม่... อภัยให้แม่ด้วยนะ... ลูฟี่

      

    เป็นดั่งคำอำลาสุดท้าย ก่อนที่แผ่นหลังของหญิงสาวจะห่างออกไปพร้อมความรู้สึกเจ็บปวดดั่งโดนตอกหมุดลงสู่ขั้วหัวใจ...

     

      

     

     

     

         เสียงโหวกเหวกปนไปกับเสียงคุยระงมดังไปทั่วบริเวณ เมื่อสองข้างทางเต็มไปด้วยแผงขายของนานาชนิดที่ถึงแม้จะเป็นตรอกแคบๆก็ตาม ผู้คนเดินชนไหล่กันเป็นเรื่องธรรมดา นานครั้งจะมีนักเลงเข้ามาวนเวียนและขูดรีดเงินชาวบ้าน แถมยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น

      

    และสิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในเมืองนี้เลยแม้แต่น้อย...

      

    “ นี่ป้า..! หมายความว่าไงถึงได้เอาผลไม้เน่าๆแบบนี้มาขายเนี่ยฮะ!! ” เสียงทุ้มแหบฟังดูน่ากลัวถูกตะคอกไปยังแม่ค้าวัยกลางคน รอบแผงขายผลไม้ล้อมรอบไปด้วยผู้ชายตัวใหญ่ท่าทางแข็งแรงสี่ห้าคน ก่อนที่มือของชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นจะคว้าเอาแอปเปิลสีสวยขึ้นมากัดอย่างหน้าตาเฉย

      

    ผลไม้ไม่ได้เน่า... แต่คนเหล่านี้เพียงแค่หาเหตุผลสำหรับขูดรีดชาวบ้านเท่านั้น

      

    “ ไหนล่ะค่าเสียหาย จ่ายมาเดี๋ยวนี้นะยัยป้าแก่!! ” ชายหนุ่มร่างใหญ่หนวดเฟิ้มตะคอกใส่แม่ค้าหญิงเสียงดังลั่น คนถูกกล่าวถึงทำได้แค่เพียงการยืนหน้าซีดอย่างเดียวเท่านั้น

      

    เคยได้ยินว่าคนพวกนี้ชอบขูดรีดชาวบ้าน... แต่ไม่คิดว่าคราวซวยครั้งนี้มันจะมาตกที่เธอซะแบบนี้

      

    ใครก็ได้ช่วยมาเป็นฮีโร่ช่วยเธอซักนิดก็ดี... แม่จะยกแอปเปิ้ลทั้งแผงนี้ให้เลยก็ได้!

      

    “ ว้ากกกกกก แย่แล้วววววว เบรกไม่ได้แล้วววว!! ”

      

         พลันเสียงโวยวายเล็กๆก็ดังลั่นมาแต่ไกล ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่แทรกเข้ามาท่ามกลางความวุ่นวายด้วยฝีเท้าที่รวดเร็วแบบหยุดไม่ได้อย่างที่เจ้าตัวว่า ด้านหลังมีผู้คนแต่งตัวคล้ายพ่อค้าวิ่งตามมาติดๆ ความสนใจของคนทั้งตลาดจึงเปลี่ยนไปที่เด็กหนุ่มหน้าตามอมแมมคนนี้เพียงคนเดียว

      

    “ หลีกทางไปเจ้าบ้า! แกทำฉันเสียเวลา! ” นักเลงแผงผลไม้ก็ยังไม่วายตะโกนใส่เด็กหนุ่มกลับไปด้วยคน แขนกำยำหมายจะโหมเข้าใส่ด้วยแรงทั้งหมดให้ร่างที่ขวางทางนั้นหายไป แต่ร่างนั้นกลับปราดเปรียวกว่าที่คิด หมุนกายเพียงเล็กน้อยก็หลบแขนนั้นได้มิด

      

    “ อ๊ะ! นายเป็นขโมยหรอ! ”

      

         ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างขึ้นพร้อมสีหน้าสงสัย เพียงชั่วครู่ที่ร่างเล็กกว่าเคลื่อนผ่านหน้านักเลงคนหนึ่งไป ตระกร้าแอปเปิ้ลสดที่มีน้ำหนักหลายสิบกิโลกรัมก็โดนเด็กหนุ่มร่างกายผอมแห้งคว้าออกไปแล้วสาวเท้าหนีไปอย่างรวดเร็ว

      

    มันขโมยตระกร้าแอปเปิ้ลนั่นไปแล้ว!

      

    “ ถ้าอยากได้แอปเปิ้ลนี่มากขนาดนั้นล่ะก็ ตามฉันมาละกันเจ้าหน้าโหด! ” ริมฝีปากฉีกยิ้มโชว์ฟันครบสามสิบสองซี่อย่างภาคภูมิใจ และมันก็ได้ผลเมื่อนักเลงเหล่านั้นกำลังทำท่าหัวฟัดหัวเหวี่ยง อยากจะเข้ามาตะลุมบอนเขาอย่างเต็มที่ 

     

    ไม่นานนักฝีเท้าหนักๆของคนสี่ห้าคนผู้มีใบหน้าโหดเหี้ยมก็เปลี่ยนมาวิ่งไล่เด็กหนุ่มแทน

      

    ไม่วายมีเสียงพ่อค้าแม่ค้า ทั้งที่วิ่งตามคนตัวผอมมาก่อนหน้านี้... ทั้งเจ้าของร้านผลไม้ที่เจ้าตัวเพิ่งไปยกตระกร้ามาเมื่อกี๊

      

    “ เจ้าบ้า!! แกอีกแล้วเรอะ เจ้าลูฟี่!!

      

         คนถูกเรียกหัวเราะร่า วิ่งอุ้มตระกร้าไปด้วยก่อนจะหาทางหลบหลีกกลุ่มนักเลงอย่างคล่องแคล่ว ทั้งยังมีเนื้อและของกินเบ็ดเตล็ดล้นออกมาจากกระเป๋ากางเกง รวมไปถึงปากของเจ้าตัวด้วย

      

    “ ฉันขอโทษนะพวกลุงพวกป้า! คราวหน้าจะไปช่วยงานเป็นค่าตอบแทนอาหารพวกนี้ก็แล้วกันนะ ชิชิ! ”

      

    ในเวลานี้ดอกไม้ที่เคยเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ได้เบ่งบานอย่างสวยงามเสียแล้ว....

      

     

    เด็กน้อยผู้โชคร้ายในวันนั้นได้มีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้...


     

     

     

     

     

    กร๊ากกกกกก ทำไมมันถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้;-;

    เอาจริงๆเลยก็คือนังไรท์แต่งสดค่ะ ทำไมมันถึงกลายมาเป็นเรื่องแบบนี้ได้ก็ไม่รู้

    ใครที่เคยอ่านเวอร์ชั่นแรกสุด(ซึ่งนานมากกกกกกกกกกมาแล้ว) จะรู้สึกว่าคนละพล็อตเลย

    แต่งไปไหลไปตามอารมณ์ล้วนๆเลยค่ะ แม่ลูฟี่มาจากไหนไม่รู้ อิอิ

    แต่ว่าฟิคเรื่องนี้คอมเมดี้นะ ไม่ดราม่านะ;-;

    ถ้ามันดราม่าก็คงตอนนี้ตอนเดียว(ละมั๊ง)แหละค่ะ-..-

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×