ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Twilight x Harry Potter - once upon a time i'm crush on wizard

    ลำดับตอนที่ #6 : five

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 64


     

    Chapter 5

    --

    แฮร์รี่รู้สึกเหมือนหัวของเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ยามลืมตาขึ้นในเช้าวันใหม่อาการปวดเมื่อยตามร่างกายสร้างความรำคาญให้เด็กหนุ่มอย่างมากและเขาก็ควรหายาสักสองสามเม็ดกินแก้ขัดไปก่อนแฮร์รี่กำลังไม่สบายและเขาก็รู้ว่ามันอาจมาจากการที่ตัวเขาโหมทำการบ้านวิชาฟิสิกส์เกือบทั้งคืนผนวกกับการนอนน้อยที่สะสมมาร่วมหลายสัปดาห์ ไอเย็นชื้นจากหยาดน้ำฝนกลางดึกสร้างความไม่อยากขยับกายออกจากเตียงยิ่งขึ้นไปอีกแฮร์รี่บิดกายขับไล่ความขี้เกียจก่อนลุกออกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวสำหรับไปโรงเรียน เขาใช้เวลาอยู่สักพักก่อนเดินลงมาจากชั้นสองซีเรียสนั่งอยู่ตรงที่ห้องรับแขกเขากำลังจิบกาแฟพลางอ่านหนังสือพิมพ์รายวันเหมือนทุกครั้ง

                “อรุณสวัสดิ์ซีเรียส” ซีเรียสเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเสียงแหบแห้งจากลูกชายทูนหัวของตน “ไม่สบายเหรอเจ้าหนู” ซีเรียสถามพลางพับหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตลงวางกับโต๊ะ แฮร์รี่ตอบรับเสียงเบาในลำคอก่อนฝ่ามือกระด้างของอีกฝ่ายจะจรดบนหน้าผากของเขา

                “เหมือนจะมีไข้ด้วยนะเธอควรหยุดเรียนสักวัน”

                “เป็นความคิดที่เยี่ยมไปเลย” แฮร์รี่ยิ้มร่า “แต่ไม่ดีกว่าครับ มันใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว”

                “ฉันรู้ว่าเธอกลัวจะเรียนไม่ทันแต่ก็ไม่ควรหักโหมนะ” ซีเรียสพูดเสียงดุ

                “ครับแต่..” เสียงของแฮร์รี่เงียบลงก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเสียงกริ่งดังจากหน้าบ้าน ทั้งเขาและซีเรียสหันมองกันด้วยความสงสัยปกติแล้วยามเช้าตรู่แบบนี้ไม่ค่อยมีแขกมาเยือนเสียเท่าไหร่และใครก็ตามที่มาในเวลานี้คงจะไม่พ้นคนส่งนมหรืออะไรก็ตาม

                “ฉันไปดูเอง”

    ซีเรียสว่าก่อนลุกออกจากโต๊ะกินข้าวไป แฮร์รี่มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายด้วยความสงสัยก่อนเริ่มจัดการมื้อเช้าแสนง่ายอย่างขนมปังปิ้งและแยมผลไม้รสโปรดของพวกเขาทั้งสอง เสียงพูดคุยดังขึ้นแฮร์รี่เดินปรี่ไปที่หน้าบ้านด้วยความฉงนก่อนพบกับร่างสูงที่คุ้นเคย แฮร์รี่กะพริบตาด้วยความตะลึงใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีซับเลือดเมื่อเห็นชายหนุ่มผมสีทองแดงที่ส่งยิ้มละลายใจมาให้ตน เอ็ดเวิร์ด คัลเลน เพื่อนร่วมชั้นของเขามาทำอะไรที่นี่

                “อรุณสวัสดิ์แฮร์รี่” เสียงทุ้มกล่าวทักทาย เอ็ดเวิร์ดหันไปตอบรับคำเชิญของซีเรียสที่ชวนเข้ามาในบ้านร่างสูงกวาดสายตามองทั่วบ้านของแฮร์รี่ด้วยความรวดเร็วแล้วหันกลับไปหาผู้ปกครองของอีกฝ่าย

                “บ้านสวยนะครับ” เอ็ดเวิร์ดยิ้ม

                “ขอบใจนะ ไม่ยักรู้ว่าแฮร์รี่มีเพื่อนหน้าตาดีขนาดนี้” ซีเรียสหัวเราะร่าก่อนตบลงที่ไหล่ของเอ็ดเวิร์ดเบาๆ เขาหันหลังกลับก่อนก้มลงกระซิบที่ข้างหูของแฮร์รี่

                “เหมือนที่เธอบอกจริงๆ” เขาพูดแค่นั้นก่อนผละออกจากลูกชายทูนหัว “กินข้าวมารึยังคัลเลน” 

                “เรียบร้อยแล้วครับขอบคุณที่ชวนครับคุณแบล็ค” ชายหนุ่มตอบรับ 

                “นายมาทำอะไร” แฮร์รี่ถามอีกฝ่ายโดยไม่ต้องใช้ความคิดในมือยังคงถือขนมปังปิ้งไว้

                “มารับนายไง” เอ็ดเวิร์ดตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ “ฉันส่งข้อความไปเมื่อคืนแต่ไม่เห็นนายตอบกลับมาเลย”

                “อ่า สงสัยคงเพราะมัวแต่ทำการบ้าน” 

                เอ็ดเวิร์ดพยักหน้าก่อนจะถูกแฮร์รี่ดันให้ออกไปจากบริเวณบ้านอย่างรวดเร็วแฮร์รี่หยิบกระเป๋าก่อนบอกลาซีเรียสด้วยความรวดเร็ว คนตัวสูงหันกลับมามองแฮร์รี่ด้วยความสงสัยเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขาพึ่งถูกชวนให้เข้าบ้านก่อนจะถูกคู่แท้ตัวน้อยลากกลับออกมาที่หน้ารั้วบ้านอีกแล้ว

                “เป็นอะไรไปฉันไม่ได้มาปล้นบ้านนะ” เอ็ดเวิร์ดหยอกล้อแฮร์รี่ที่มองเขามาด้วยสายตาคาดโทษ

                “นายรู้บ้านฉันได้ยังไง นายแอบตามฉันเหรอ” 

                “ฉันไม่ได้เป็นสตอล์กเกอร์นะคุณพอตเตอร์” ใบหน้าหล่อแกล้งทำเป็นขุ่นเคืองเมื่อได้ยินแบบนั้นถึงแม้ตนเองจะแอบไขว้นิ้วไว้บริเวณด้านหลังก็ตาม “ฉันก็ถามเบลล่าสิ”

                “เยี่ยมเลย” คนตัวเล็กกัดฟันพูด “งั้นก็รีบไปเถอะฉันไม่อยากเป็นจุดสนใจตอนถึงโรงเรียน” 

                แฮร์รี่จัดการกับขนมปังคำสุดท้ายก่อนเดินนำคู่สนทนาไปที่รถคันสวยแต่ยังไม่ทันจะได้เปิดประตูรถอีกฝ่ายก็ฉวยเปิดให้เสียก่อนคนตัวสูงยกยิ้มก่อนผายมือเหมือนพวกบัตเลอร์หนุ่มเพื่อหยอกล้อคนตัวเล็ก แฮร์รี่กลอกตาด้วยความรำคาญก่อนขึ้นรถไปตามความประสงค์ของเอ็ดเวิร์ด 

     

     

     

    --

     

     

                ใช้เวลาไม่นานรถวอลโว่สีเงินก็จอดนิ่งอยู่ที่บริเวณลานจอดรถหน้าโรงเรียนมัธยมฟอร์ค แฮร์รี่มองเหล่าเด็กนักเรียนที่เริ่มหนาตาชุมนุมอยู่ตามจุดต่างๆ ของสถานศึกษาด้วยความกังวลแฮร์รี่เกลียดการเป็นจุดสนใจมากที่สุดและการย้ายมาที่ฟอร์คทำให้เขารู้ว่าจุดสนใจที่ตัวเขากล่าวมานั้นถูกเรียกว่า เอ็ดเวิร์ด คัลเลน สารถีจำเป็นที่เอาแต่ฮัมเพลงตลอดการเดินทาง คนตัวเล็กเอื้อมมือปลดเข็มขัดนิรภัยออกแต่ไม่ทันจะได้ก้าวลงจากรถมือใหญ่ก็กอบกุมรอบข้อมือทำให้ต้องหันไปสบตากับเอ็ดเวิร์ดอย่างเลี่ยงไม่ได้

                “ทำไมนายถึงคิดว่าฉันแอบตามล่ะ” เอ็ดเวิร์ดพูดพลางจ้องมาที่เขา “มีคนตามนายเหรอ”

                “ไม่เชิงหรอกฉันแค่รู้สึกไปเอง” แฮร์รี่ตอบกลับแต่สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ “บางทีเฮ็ดวิกก็มีท่าทางแปลกๆน่ะสิ”

                “เฮ็ดวิก?” อีกฝ่ายเลิกคิ้วใบหน้าของเอ็ดเวิร์ดดูราวกับมีเครื่องหมายคำถามติดไว้เต็มกรอบหน้าหล่อสลัก

                “นกฮูกที่ฉันเลี้ยงไว้เอง” แฮร์รี่ถอนหายใจความรู้สึกมึนหัวเริ่มแทรกแซงเข้ามาในความคิดเขาไม่ได้อยากจะโทษเอ็ดเวิร์ดแต่ที่เขารีบร้อนจนลืมกินยาส่วนนึงก็มาจากชายหนุ่มที่นั่งด้านข้างตนเช่นกัน

                “นายไม่สบายนี่” เอ็ดเวิร์ดกระซิบเสียงเบาเมื่อสังเกตถึงสีหน้าที่ดูซีดเซียวราวกระดาษของคู่ตัวน้อยและเหงื่อที่ซึมบนใบหน้า เขาเขยิบใกล้ชิดแฮร์รี่จนได้กลิ่นหอมจากจุดชีพจรตรงต้นคอขาวร่างสูงยกมือขึ้นจรดกับหน้าผากเนียน ดวงตาคมลอบมองดวงหน้านวลที่เจือสีแดงระเรื่อเพราะพิษไข้ด้วยความเป็นห่วงมืออีกข้างเลื่อนลงมาประคองแก้มนิ่มของแฮร์รี่อย่างระวัง สัมผัสแผ่วเบาเหมือนขนนกและความเย็นจากฝ่ามือของเอ็ดเวิร์ดทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเคลิ้มเปลือกตาบางปิดลงเขาเผลอขยับหาสัมผัสจากเอ็ดเวิร์ดด้วยความลืมตัว

                “กินยาเดี๋ยวก็หาย” แฮร์รี่พูดทั้งที่ยังหลับตา “ไปเถอะฉันไม่อยากพลาดคาบแรก”

                “ไหวแน่นะ” น้ำเสียงของเอ็ดเวิร์ดเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แฮร์รี่ลืมตาขึ้นสบกับอีกฝ่ายแล้วยคลี่ยิ้ม

                “เห็นฉันอ่อนแอขนาดนั้นเลยรึไง”

                แฮร์รี่ผละออกจากสัมผัสของเอ็ดเวิร์ดเขาเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่มากที่ยอมให้คนตรงหน้าสัมผัสตัวเองทั้งที่ปกติแล้วเขาไม่ค่อยอยากให้ใครแตะตัวนักนอกจากคนในครอบครัวหรือเชสเตอร์แต่กลับกันสัมผัสของเอ็ดเวิร์ดมันแตกต่างคล้ายกับว่าตัวเขาถูกดึงดูดและแฮร์รี่เองก็ไม่อยากยอมรับว่าส่วนนึงในตัวเขาชอบมันแต่เอ็ดเวิร์ดไม่ต้องการแบบนั้น

    เสียงเคาะจากกระจกข้างรถดังขึ้นสองสามครั้งก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะได้ทำอะไรตามใจไปมากกว่านี้เขาเห็นโรซาลียืนกอดอกมองด้วยสายตาคาดโทษและอลิซที่ยืนส่งยิ้มให้พวกเขาเธอเคาะที่ข้อมือของตนพลางขยับปากออกมาเป็นประโยคว่า ‘เฮ้ พวกนายจะมาสวีทกันตรงนี้ไม่ได้นะ’ ใบหน้าของแฮร์รี่ร้อนฉ่าตอนนี้พ่อมดหนุ่มเริ่มแยกไม่ออกระหว่างพิษไข้หรืออาการอายจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ถูกเห็นโดยพี่น้องคัลเลนกันแน่

    “สวัสดีแฮร์รี่” อลิซทักทายเมื่อแฮร์รี่ลงจากรถของเอ็ดเวิร์ด “ฉันไม่ได้แอบมองนะ”

    “ใช่ เพราะแค่มองเข้ามาก็เห็นหมดแล้ว”

    “รถฉันติดฟิล์มทึบโรส” เอ็ดเวิร์ดส่งยิ้มขี้เล่น 

    โรซาลีสะบัดหน้าหนีไปอีกทางเธอไม่แม้แต่จะปรายตามองแฮร์รี่แม้แต่น้อยซึ่งนั่นทำให้คนตัวเล็กรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากเขาไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิดไปหรือเปล่า

    “โรซาลีก็เป็นแบบนี้แหละ” คนตัวสูงพูดขึ้นพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาใกล้ใบหูของแฮร์รี่

    “ฉันว่าเธอไม่ชอบฉัน” แฮร์รี่พูดเสียงเบาก่อนจะสะดุ้งเพราะสายตาที่ดุดันราวกับจะกินเลือดเนื้อของหญิงสาวตรงหน้า

    “กลางวันนี้เจอกัน” เธอกระแทกเสียงก่อนเดินจากไปซึ่งนั่นสร้างเสียงหัวเราะให้กับอลิซอย่างมาก

    “ฉันว่านั่นเป็นคำชวนให้นายไปกินข้าวด้วยนะแฮร์รี่” เธอว่า “งั้นเจอกันกลางวันนี้โอเค?”

    “โอเค..” และรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาวตัวเล็กก็คงไม่ต้องบอกว่าเธอพอใจกับคำตอบของแฮร์รี่มากเพียงใด

     

     

     

    --

     

     

     

    แฮร์รี่รู้สึกเหมือนกับเดจาวูยามก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียน ทุกสายตาเอาแต่จับจ้องมาที่เขาจนรู้สึกกระอักกระอ่วนถัดไปไม่ไกล แฮร์รี่เห็นหญิงสาวร่วมชั้นเรียนวิชาพละกระซิบกระซาบกับเพื่อนสนิทของหล่อนอย่างออกรสทั้งยังมองมาด้วยสายตาที่ฉายแววริษยาอย่างปิดไม่อยู่เขาได้ยินเสียงเอ็ดเวิร์ดหัวเราะขึ้นจมูกพร้อมกับคิ้วที่ขมวดอย่างรำคาญใจ แฮร์รี่หลุบตาต่ำเขาพอจะตระหนักถึงที่มาของสายตาประหลาดที่มองมาได้แล้วคนตัวเล็กขยับกายหนีร่างสูงทีละนิดแต่เอ็ดเวิร์ดกลับเลือกที่จะกระชับมือและดึงเขาให้เข้าไปใกล้

    “เอ็ดเวิร์ด.. เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดพอดี” 

    “พวกเขาไม่ได้เข้าใจผิดสักหน่อย” เอ็ดเวิร์ดพูดเสียงเบาราวกับคุยกับตัวเอง

    “หมายความว่าไง” แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายแต่เอ็ดเวิร์ดกลับเงียบไม่ยอมตอบ

    เบลล่ายืนอยู่ไม่ไกลจากตู้ล็อคเกอร์นักเธอหันมามองทั้งสองเมื่อแองเจล่าชี้นิ้วมาทางพวกเขา ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสายตาที่เบลล่ามองมาเต็มไปด้วยความสงสัยและเจ็บปวด? แฮร์รี่สะบัดหัวไล่ความคิดบางทีพิษไข้อาจจะทำให้เขารู้สึกเบลอเกินไปกระมัง

    แต่แล้วภาพของการเข้าเรียนวันแรกก็ฉายซ้ำขึ้นมาในความทรงจำ

    แองเจล่าเคยเอ่ยแซวเบลล่าเรื่องระหว่างเธอและเอ็ดเวิร์ด ใบหน้าของเบลล่าแดงปลั่งเหมือนมะเขือเทศทั้งอาการประหม่าหรือแม้แต่สายตาที่ดูมีชีวิตชีวายามได้พูดคุยกับชายหนุ่มข้างกายเขา

    แฮร์รี่ปล่อยมือออกจากเอ็ดเวิร์ด เบลล่าชอบเอ็ดเวิร์ดและเธอชอบอีกฝ่ายมาก่อนเขาเสียด้วยซ้ำ คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนกับน้ำท่วมปากเขาเผลอใจกับเอ็ดเวิร์ดจนเผลอละเลยความรู้สึกของเพื่อนสาวไปได้อย่างไร

    “ทำไมพวกนายมาด้วยกันล่ะ” เจสสิก้าถามด้วยความสนใจทันทีที่พวกเขามาถึง

    “รถฉันเสียน่ะแล้วเอ็ดเวิร์ดเอ่อ..ผ่านมาพอดี” แฮร์รี่ตอบทันควันเขาไม่รู้ว่าคำแก้ตัวของเขาจะน่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ดูจากสีหน้าของกลุ่มเพื่อนเขาแล้วคงจะไม่ เป็นอย่างที่คนอื่นว่าบ้านธันเดอร์เบิร์ดไร้เชิงจริงๆ 

    “ฉันไปรับแฮร์รี่ที่บ้านเอง” เสียงทุ้มตอบรับ เพียงเท่านั้นสายตาทั้งหมดก็เพ่งเล็งไปที่เอ็ดเวิร์ดทันที

    “นี่พวกนายสนิทกันจนต้องไปรับที่บ้านตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” ไมค์พูดพลางหัวเราะราวกับสิ่งที่เขาได้ยินเป็นเรื่องตลกที่สุดที่เคยได้ยินมา 

    “รอบที่แล้วพวกนายก็ไปซื้อของด้วยกัน” เบลล่าหรี่ตามองทั้งสองเหมือนกับจะจับผิด “ชอบเขาเหรอ แฮร์รี่น่ะ”

    แองเจล่าหันไปมองเพื่อนสาวอย่างไม่เชื่อสายตาเธอทำหน้าตะลึงเหมือนกับว่าสิ่งที่เบลล่าพูดออกมานั้นไม่ได้ออกมาจากปากของเธอ เอ็ดเวิร์ดสบตากับดวงตาสีน้ำตาลไหม้ของอีกฝ่ายไม่มีคำตอบมีเพียงรอยยิ้มบนใบหน้าเท่านั้น เพียงเท่านี้หญิงสาวก็ถอนหายใจใบหน้าฉายแววเจ็บปวดอย่างปิดไม่มิดแต่ก็เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น

    “เจอกันตอนเย็นนะแฮร์รี่” เธอส่งยิ้มให้กับเขาก่อนหันหลังเดินออกไป 

    แฮร์รี่รู้สึกเหมือนถูกตีเข้าที่หัวอย่างแรงไม่ช้าก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดที่หนักอึ้งในอกราวถูกถ่วงด้วยเหล็กหลายตัน พ่อมดตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรและเพื่อนชายทั้งสองของเขาก็มีท่าทีอึกอักไม่ต่างจากตนนัก

    “อย่าคิดมากเลยนายไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก” เอริคพูดปลอบใจเขาพลางมองไปที่เอ็ดเวิร์ด “ฉันรู้ว่านายเป็นสุภาพบุรุษแต่ก็ควรแยกระหว่างความใจดีกับให้ความหวังด้วย”

    เอริคยกยิ้มอีกฝ่ายตบลงที่บ่าของแฮร์รี่สองสามทีก่อนเดินไปทางที่เบลล่าเดินออกไป เด็กหนุ่มถอนหายใจเขายกมือขึ้นกุมขมับความรู้สึกปวดหัวแล่นจี๊ดขึ้นมาในสมองอีกครั้งเขาควรไปหายาที่ห้องพยาบาลกินก่อนจะได้ล้มลงกองกับพื้นเสียก่อน

    “ไหวมั้ย”

    “นายอยากได้ความจริงหรือโกหกล่ะ” แฮร์รี่ตอบกลับ “ฉันจะไปห้องพยาบาลนายไปเข้าเรียนเถอะ”

    “แต่..” เอ็ดเวิร์ดเงียบลงเมื่อถูกแฮร์รี่มองกลับมาด้วยสายตาเชิงดุ

    “เข้าใจแล้วงั้นมีอะไรก็โทรมานะ” 

     

     

     

    --

     

     

     

     

    สุดท้ายแฮร์รี่ก็ไม่ได้คุยกับเบลล่าตลอดทั้งวัน อาการป่วยของเขาเริ่มทุเลาลงบ้างแล้วทิ้งไว้เพียงความรู้สึกง่วงงุนจากผลข้างเคียงของยาที่ตนกินเข้าไปเท่านั้น เมื่อถึงเวลาพักกลางวันแฮร์รี่พยายามกวาดสายตาหาเบลล่าและเพื่อนของเขาจนเกือบทั่วโรงอาหารแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของทั้งห้าคนเลย ทั้งไมค์และเอริคส่งข้อความมาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ข่มความไม่สบายใจไม่ได้อยู่ดี

    “แฮร์รี่ มาทางนี้เร็ว” อลิซเรียกแฮร์รี่เสียงดังไม่พอเธอกวักมือเรียกให้เขาเดินไปร่วมโต๊ะกับเธอตามที่โรซาลีเคยพูดเมื่อเช้า เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้งยามเข้าทรุดกายลงนั่งร่วมโต๊ะกับครอบครัวคัลเลน แฮร์รี่กล่าวทักทายแต่ละคนด้วยความประหม่าก่อนชายหนุ่มผมสีน้ำผึ้งจะพูดขึ้น

    “ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกคิดซะว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันก็ได้” เขาว่า “ฉันแจสเปอร์ เฮล”

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะแจสเปอร์” แฮร์รี่ยิ้ม ดวงตาของแจสเปอร์เป็นประกายราวกับสนใจบางอย่าง “เอ่อ แต่คงไม่ต้องขนาดครอบครัวเดียวกันหรอกมั้ง”

    “อ้าวเอ็ดดี้นายอกหักแล้วล่ะ” ชายหนุ่มร่างกำยำว่าพลางหัวเราะ

    “เงียบเลยเอ็มเม็ตต์” เอ็ดเวิร์ดตอบรับด้วยท่าทางไม่จริงจังนัก “พูดแบบนี้ใจร้ายมากเลยนะแฮร์รี่”

    “เปล่าสักหน่อย” แฮร์รี่ตวัดตามองเอ็ดเวิร์ด เมื่อครู่แจสเปอร์บอกว่าตนนามสกุลเฮล? 

    “พวกเราถูกรับมาเลี้ยง” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นตรงใจกับแฮร์รี่อีกครั้ง “คาร์ไลล์กับเอสเม่มีลูกไม่ได้เขาเลยรับพวกเราทุกคนมาเป็นครอบครัวเดียวกัน”

                “ทั้งสองคนเป็นคนที่ใจกว้างมากเลยนะ” แฮร์รี่พูดออกมาจากใจด้วยความชื่นชม รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแวมไพร์หนุ่มเรือนผมสีทองแดงอย่างห้ามไม่ได้เขามองไปที่แฮร์รี่ด้วยความหลงใหลอีกครั้งก่อนจะละสายตาเมื่อได้ยินเสียงกระแอมจากโรซาลี

                “โรซาลี เฮล” หญิงสาวผมบลอนด์พูดด้วยน้ำเสียงกระด้างดังเคย “ความจริงนายคงรู้จักพวกเราหมดแล้วแหละ”

                “ก็ใช่”

                แฮร์รี่ตอบ เป็นดังที่โรซาลีบอกเขารู้จักครอบครัวคัลเลนตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาโรงเรียนแห่งนี้ไมค์ นิวตัน เพื่อนชายร่วมกลุ่มของเขาเล่าเรื่องครอบครัวคัลเลนให้ฟังตั้งแต่ที่อีกฝ่ายย่างกรายเข้ามาในโรงอาหาร ไมค์บอกว่าครอบครัวคัลเลนแทบจะไม่สุงสิงกับใครเลยนอกจากพี่น้องของพวกเขาและแน่นอนว่าการที่เอ็ดเวิร์ดมาร่วมวงสนทนากับพวกเขาในตอนเปิดเทอมสร้างความตกใจให้ทุกคนไม่น้อย

                “ได้ข่าวว่านายทำแม่สวอนอกหักเหรอ”

     โรซาลีเปลี่ยนเป้าหมายคราวนี้เธอพุ่งเป้าไปที่คัลเลนคนเล็ก เอ็ดเวิร์ดเลิกคิ้วมองไปที่โรซาลีด้วยความไม่เข้าใจแฮร์รี่ลดมือลงความรู้สึกอยากอาหารมลายหายไปยามชื่อของเพื่อนของสาวถูกยกมาในวงสนทนา

                “คงใช่แหละเพราะนายทำท่าเหมือนอยากจีบเธอตอนสัปดาห์แรกนี่นะ”

                “ไม่เอาหน่าพวกเขาไม่ได้ทะเลาะกันนะ” อลิซกล่าวอย่างใจเย็น เธอหันมองพี่น้องของเธอพลางถอนหายใจ

                “เบลล่าไม่ได้โกรธนายหรอกแฮร์รี่” อลิซพูดย้ำ “เชื่อสิ”

                “รู้ได้ยังไงกัน” แฮร์รี่ถามด้วยความสงสัย สีหน้าของอลิซเต็มไปด้วยความมั่นใจจนพ่อมดหนุ่มกักเก็บความใคร่รู้ไว้แทบไม่หมด

                “ก็เพราะฉันสนิทกับเบลล่าไง” อลิซยกยิ้ม 

                แฮร์รี่กะพริบตา เขาอาจจะคิดไปเองแต่บทสนทนาระหว่างเขาและเหล่าคัลเลนดูประหลาดหรือเป็นเพราะตัวเขาเองที่คิดมากและเอาแต่จับผิดและปักใจเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นสิ่งมีชีวิตอีกอย่างที่เรียกว่าแวมไพร์กันแน่

     

    Tbc


    ขอสารภาพว่าเค้าเขียนตอนนี้ซ้ำหลายรอบมากจริงๆเพราะไม่รู้ว่าจะเขียนออกมายังไงดีแง ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะเค้าอ่านแล้วมีกำลังใจมากๆแล้วก็เค้าจะแจ้งเรื่องการอัพนิยายว่าจะอัพอาทิตย์ละครั้งนะคะ เพราะบางทีเขาเขียนไม่ออกจริงๆแงข้าพเจ้ายังอ่อนหัดเรื่องการใช้คำอยู่เยอะเลยแล้วก็เดินเรื่องไวจนต้องเบรคเลยค่ะ ;-; หากมีตรงไหนผิดพลาดเค้าต้องขอโทษจริงๆและก็จะพยายามพัฒนาให้ดีขึ้นอีกนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×