คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : two
Chapter 2
warning : stalk , peek มิควรทำตามอย่างยิ่ง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตั้งแต่แฮร์รี่ก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียนมัธยมฟอร์คทุกสายตาก็จับจ้องมายังเด็กหนุ่มด้วยความใคร่รู้แฮร์รี่พยายามไม่สบตาเหล่านักเรียนตามทางเดิน เขาได้ยินคนอื่นพูดกันถึงเรื่องของตนเองว่า ‘เด็กใหม่จากบอสตันที่เข้าเรียนช้าไปหนึ่งอาทิตย์เต็มเพราะปัญหาสุขภาพ’ เยี่ยมเลยตอนนี้เขากลายเป็นเด็กขี้โรคไปเสียแล้วแฮร์รี่ถอนหายใจก่อนเดินไปที่ตู้ล็อคเกอร์สีเทาพลางลูบที่หลังคอด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจ ผมยาวระต้นคอถูกเล็มจนสั้นผมสีดำที่เคยยุ่งเหยิงถูกเซ็ตลวก ๆ แต่กลับทำให้แฮร์รี่ดูน่าค้นหาวันนี้เขาสวมเพียงเสื้อคอกลมสีเทาทับด้วยฮู้ดสีดำตัวเก่งและสวมกางเกงซิโนสีทึบ ใบหน้าของแฮร์รี่ดูอ่อนเยาว์ร่างบางนึกถึงสิ่งที่เจคอบบอกกับตนหลังตัดผมเสร็จ
‘นายดูไม่โตขึ้นเลยนะ’
ในคราแรกเขาไม่เข้าใจความหมายนักแต่เมื่อส่องกระจก ใช่อย่างที่เจคอบบอกเขาดูไม่โตขึ้นเลยอาจมีส่วนสูงที่เพิ่มบ้างแต่ใบหน้าที่สะท้อนในกระจกเงาบานเล็กมันดูไม่ต่างจากสองปีที่แล้วเท่าไร
มือบางปิดประตูตู้เหล็ก เขาคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับการที่ผู้เสพความตายเริ่มตามล่าตัวเขาเป็นแน่ก่อนที่แฮร์รี่จะจมกับความคิดตัวเองมากกว่านี้ฝ่ามือของใครบางคนก็แตะลงที่ไหล่ของเขาสองสามครั้งแฮร์รี่สะดุ้งเขาหันกลับไปแล้วพบเด็กสาวอายุไล่เลี่ยกับตน
“แฮร์รี่.. ใช่มั้ย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลังเล “เบลล่า สวอนเพื่อนเจคอบ”
“อ่อ เธอเองที่เจคอบพูดถึงฉันแฮร์รี่..แฮร์รี่ พอตเตอร์”
เด็กหนุ่มรีบแนะนำตัวด้วยท่าทีลนลาน เขายื่นมือเพื่อทักทายหญิงสาวที่ยกมือค้างรอไว้ก่อนเบลล่าส่งยิ้มให้เขาก่อนเดินไปตามโถงเพื่อเข้าเรียนในวิชาแรก เบลล่าเป็นผู้หญิงรูปร่างโปร่งเธอมีผมสีน้ำตาลเข้มปลายผมเป็นลอนอ่อน ดวงตาสีน้ำตาลเหมือนกับสีผมของเธอ อีกฝ่ายสวมเพียงเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มคลุมด้วยเสื้อสเวตเตอร์สีเทาแขนยาวและกางเกงยีนส์เข้ารูปแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของเธอลดลงแม้แต่น้อย แฮร์รี่ยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มองผิวเผินอาจดูธรรมดาแต่แท้จริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากอีกคนนึงที่เขาเคยพบ
แฮร์รี่แทบกลั้นใจทุกขณะที่ออกเดินจากที่เขารู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กแล้วเมื่อมาเดินกับเบลล่าเขายิ่งรู้สึกเหมือนกับตัวเองตัวหดเหลือเพียงสามมิลลิเมตร ไม่ใช่เพราะเบลล่าสูงแต่เพราะสายตาจากคนรอบข้างที่มองมาตั้งหากสงสัยว่าหญิงสาวคนนี้คงจะโด่งดังไม่น้อยเป็นแน่
“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจคมีเพื่อนคนอื่นอีก” เบลล่ายักไหล่ “ฉันกับเขารู้จักกันตั้งแต่สมัยเด็กน่ะ”
“ฉันพึ่งรู้จักเขาเมื่อไม่กี่ปีก่อน แล้วฉันก็ย้ายไปเรียนที่บอสตัน”
แฮร์รี่หันมองเบลล่าพร้อมส่งยิ้มเธอไม่ถามอะไรต่อแต่ก็ตอบรับในลำคอ เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเบลล่าอาจไม่ใช่คนพูดเก่งหรือไม่ก็เป็นที่ตัวเขาเองที่กำลังทำบรรยากาศเสีย แฮร์รี่อึกอักเขาอ้าปากเหมือนต้องการพูดบางอย่างละจบลงที่เบนสายตาไปทางอื่น
“ฉันก็พึ่งย้ายกับมาฟอร์คเหมือนกันเราคล้ายกันเลยเนอะ” เบลล่าหัวเราะในลำคอ เธอหันไปทักทายตอบเด็กนักเรียนคนอื่นที่ทักทายตน
“อือ ฉันพูดไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่เธอคงไม่อึดอัดนะ”
“ไม่เลยความจริงฉันสบายใจนะ คาบแรกนายเรียนอะไรเหรอ”
เบลล่าถามด้วยความสงสัย แฮร์รี่หยิบกระดาษใบเล็กขึ้นดูเขาขมวดคิ้ววิชาชีววิทยา? เจอวิชาที่หนักแต่วันแรกเลยสิพอตเตอร์
“ชีวะ.. เธอล่ะ” แฮร์รี่ส่ายหัวเล็กน้อยด้วยความเซ็งแซ่
“ประวัติศาสตร์ งั้นตอนกลางวันเราไปกินข้าวด้วยกันนะฉันจะแนะนำเพื่อนให้นายรู้จัก” เบลล่ามีท่าทีกระตือรือล้นซึ่งนั่นก็ทำให้แฮร์รี่ไม่สามารถปฏิเสธเธอได้และมันก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับเด็กใหม่แบบเขาที่จะปฏิเสธความหวังดีที่คนตรงหน้าหยิบยื่นมาให้เช่นกัน
“เอาสิงั้นเจอกันพักเที่ยงนะ”
ทั้งสองบอกลากันเบลล่าเดินแยกตัวออกมาไปทางขวาและขึ้นบันไดไปในขณะที่แฮร์รี่เลี้ยวไปทางซ้ายมองป้ายห้องที่เขียนเอาไว้ว่าห้องแลป โต๊ะทุกตัวถูกจับจองไปด้วยหนังสือเล่มหนาและสมุดเล่มบางที่เอาไว้จดเนื้อหาเด็กส่วนมากมีกลุ่มกันหมดแล้วเสียงพูดคุยดังอื้ออึงไปทั่วห้องแฮร์รี่กวาดสายตาไปทั่วห้องก่อนจะพบโต๊ะว่างตัวหนึ่งที่ติดริมหน้าต่างหลังสุดของห้อง
“นั่งที่ได้แล้วทุกคน แล้วก็พอตเตอร์มารับหนังสือ” อาจารย์ประจำวิชาว่าก่อนส่งหนังสือปึกหนาให้กับแฮร์รี่ หน้าปกเขียนชื่อวิชาเอาไว้แฮร์รี่ทำเสียงขึ้นจมูกแล้วจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวนั้น ถึงแม้หนังสือวิชาปรุงยาจะหนากว่าแต่เขาสาบานได้ว่าวิชาเรียนของมักเกิ้ลมันดูชวนพิศวงไม่ต่างกัน
“คัลเลนนายรีบนั่งที่เลย” แฮร์รี่ไม่ได้เงยหน้ามองเขากำลังสนใจหนังสือเล่มหนามากกว่าใครก็ตามที่เข้าเรียนช้า เขารู้สึกว่ามีคนทรุดกายลงทางด้านซ้ายมืออีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรแต่คนตัวเล็กก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่เพ่งมองมา
แฮร์รี่ละสายตาออกจากหนังสือสิ่งแรกที่เขาเห็นคือดวงตาสีอำพันจ้องมาที่เขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เรือนผมสีทองแดงไม่เป็นทรงผิวกายของอีกฝ่ายขาวซีดตัดกับเสื้อยืดแขนสั้นสีกรมและกางเกงสแลคสีทึบใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรรับกับส่วนสูงคนตัวเล็กชะงักเขาเข้าใจคำว่าผู้เป็นที่รักของพระเจ้าก็วันนี้ หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวความรู้สึกประหลาดเกิดขึ้นในอกมันเหมือนกับตอนที่แฮร์รี่เข้าไปในป่าเว้นแต่ความรู้สึกปวดหน่วงที่หัว แฮร์รี่กระพริบตาก่อนพูดออกไป
“ไง”
“ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักนายนะเด็กใหม่เหรอ?” เขาพูดพร้อมรอยยิ้มทรงเสน่ห์ “เอ็ดเวิร์ด คัลเลน”
“แฮร์รี่ พอตเตอร์ขอโทษที่เสียมารยาท” แฮร์รี่กระซิบเสียงเบา เมื่อเสียงของอาจารย์บอกให้ทุกคนเปิดหนังสือพลางหันหน้าเข้ากระดานเพื่อเขียนอธิบายเรื่องที่จะเรียนในวันนี้
“เด็กใหม่ที่เขาลือกันงั้นสิ” เสียงทุ้มน่าฟังพูดต่อแฮร์รี่เปิดหนังสือเรียนแต่ไม่ได้ฟังที่อาจารย์กำลังพูดเขาสนใจเอ็ดเวิร์ดมากกว่ามันน่าแปลกทั้งที่ปกติตัวเขาแทบไม่สนใจใครเลยแต่กับคนด้านข้าง เขาอยากพูดคุยอยากรู้จักเสียอย่างนั้น
“ประมาณนั้นเอ่อ..แต่ที่ลือเขาลือแบบไหนเหรอ”
“ก็ลือว่านายมาเรียนช้าเพราะปัญหาสุขภาพ” เอ็ดเวิร์ดพลิกเปิดกระดาษเล่นไปมาราวกับว่ามันเป็นเพียงนิตยสารแฟชั่นหรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่ตำราเรียน “แล้วก็ขี้อายแต่น่าค้นหา”
“ฉันว่าตัวหลังนายแกล้งฉันแน่” แฮร์รี่หัวเราะ นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองกระดานแล้วเริ่มจดเนื้อหาเขาอยากตั้งสมาธิแล้วสนใจกับสิ่งที่อาจารย์พูดแต่เอ็ดเวิร์ดไม่ต้องการแบบนั้น “ฉันคิดว่าที่คนอื่นบอกคงจริงนายดูน่าค้นหา”
“ไม่เลยฉันมันเดาง่าย” คนตัวเล็กยักไหล่ด้วยเกียรติของบ้านธันเดอร์เบิร์ดเขาไม่คิดว่าบ้านประจำตัวของเขาที่อิลเวอร์มอร์นีเป็นบ้านที่อ่านง่ายแต่ ทุกๆ คนที่บ้านวิหคนั้นเป็นกลุ่มสมาชิกที่ทุกบ้านลงมติว่าโกหกไม่เก่งและแทบไม่มีเชิงให้ดูแม้แต่น้อย
“แต่ตอนนี้ฉันอ่านนายไม่ออกนะ” เอ็ดเวิร์ดยกมือขึ้นเท้ากับโต๊ะนัยน์ตาชวนฝันยังคงจ้องมองมาที่แฮร์รี่ไม่วางตา
“ก็เพราะตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรไง”
เสียงกระแอมเรียกให้ทั้งคู่หันกลับไปสนใจอาจารย์ผู้สอน นักเรียนภายในห้องไม่ว่าชายหรือหญิงกันกลับมามองพวกเขาเป็นตาเดียวแฮร์รี่ได้ยินนักเรียนสองคนด้านหน้ากระซิบกันว่าเอ็ดเวิร์ดแทบไม่คุยกับใครเลยเป็นครั้งที่สองที่เขาทักคนอื่นก่อนรองจากเบลล่าสวอน เพื่อนใหม่ที่เขาเจอเมื่อเช้า
“คุณคัลเลนคุณอาจจะได้ท็อปวิชานี้ตลอดแต่ผมคิดว่าคุณพอตเตอร์ควรตั้งใจเรียนนะ”
อาจารย์ประจำวิชาพูดแค่นั้นก่อนเริ่มแจกจ่ายอุปกรณ์สำหรับทำแลปทดลองให้ตามโต๊ะและประกาศสั่งทำงานคู่ เป็นโชคดีของแฮร์รี่ที่บังเอิญได้นั่งคู่เอ็ดเวิร์ด เพราะอาจารย์หนุ่มพึ่งบอกไปว่าอีกคนเก่งระดับได้ท็อปและแฮร์รี่เองก็ไม่เข้าใจอะไรเลยเช่นกันหากคู่คนอื่นคงมิวายโดนด่าสองสามประโยคแน่เป็นไปตามคาดเอ็ดเวิร์ดจัดการทุกอย่างเกือบทั้งหมด ร่างสูงขยับเบี่ยงกายเล็กน้อยเพื่อให้แฮร์รี่ได้ส่องกล้องจุลทรรศน์แล้วเขียนผลทดลองให้เสร็จ
“ทำไมถึงย้ายมาที่ฟอร์คล่ะ” เสียงกระซิบดังขึ้นข้างหู แฮร์รี่เหลือบสายตาก่อนพบว่าเอ็ดเวิร์ดและตนในตอนนี้อยู่ห่างกันเพียงปลายจมูกเขากลั้นหายใจพยายามไม่สนใจ
‘ใกล้ไปรึเปล่า’ แฮร์รี่คิดในใจ
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับโรงเรียนแค่นั้นแหละ” พ่อมดหนุ่มตอบกลับไปลมหายใจเย็นยะเยือกเป่ารดที่ข้างแก้มนวล แฮร์รี่สะดุ้งพร้อมคิดในใจมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่อีกฝ่ายจะมีอุณหภูมิที่ดูต่ำเกินมนุษย์ปกติทั่วไปไหล่ของทั้งสองสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา เอ็ดเวิร์ดจ้องไปที่แฮร์รี่ราวกับรู้ความคิด
“ฝนมันตก.. อากาศก็ต้องเย็นเป็นธรรมดา”
“คงงั้นแต่มันจะไม่ใกล้ไปรึไง” แฮร์รี่เอนหน้าหนีพร้อมขยับกายหนีสัมผัสและความรู้สึกประหลาดในอก เอ็ดเวิร์ดดูไม่ใช่มนุษย์หรือมักเกิ้ลทั่วไปเขาเริ่มรู้สึกปวดหัวอีกแล้วมันมักจะชอบเป็นเวลาที่เอ็ดเวิร์ดพูดเหมือนอ่านใจเขาได้
---
“ไปรู้จักกันตอนไหน”
เบลล่ากอดอกมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าสงสัย แฮร์รี่ทำได้แค่ส่งยิ้มแห้งให้เธอใครจะไปคิดว่าเพื่อนที่เบลล่าอยากจะแนะนำให้กับแฮร์รี่คือเอ็ดเวิร์ดกันเล่า (ความจริงก็พอรู้ตอนคาบแรก) ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงห้องอาหารเต็มไปด้วยนักเรียนจากทุกชั้นปีที่แปลกก็คือแทบทุกคนดูจะรู้จักกันหมดเบลล่าบอกว่าเป็นเพราะฟอร์คเป็นเมืองเล็กแถมโรงเรียนก็ไม่ได้ใหญ่มากจึงไม่แปลกที่จะรู้จักกันหมดหรือแม้แต่รู้จักเด็กใหม่อย่างแฮร์รี่ด้วย แฮร์รี่มองเอ็ดเวิร์ดที่ไม่ได้สนใจอาหารอะไรเลยเขาเพียงแต่ถือแอปเปิ้ลลูกนึงไว้ในมือไม่มีร่องรอยของการกินแตกต่างกับแฮร์รี่ที่อาหารพร่องไปจนจะครึ่งแล้ว
“บังเอิญนั่งด้วยกันคาบชีวะ” เอ็ดเวิร์ดตอบ “ตลกดีเนอะ”
“ช่าย นายดูมีดวงกับเด็กใหม่นะ” หญิงสาวตอบใบหน้าของเบลล่าขึ้นสีแดงจาง “แล้ววันนี้ไม่ไปนั่งกับพี่น้องเหรอ”
“อยากแวะมาทักทายแฮร์รี่แต่ในเมื่อไล่แล้วงั้นขอตัวนะ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงไม่วายหันกลับมาบอกลาแฮร์รี่อีกรอบ เจสสิก้าพุ่งตัวเข้ามาถามเด็กหนุ่มทันทีที่เอ็ดเวิร์ดกลับไปโต๊ะของตัวเอง
“สนิทกันได้ยังไง” ดวงตาสีน้ำเงินสดใสเปร่งประกายกว่าทุกครั้งแฮร์รี่ลากเสียงยาว จู่ ๆ ก็เกิดนึกคำพูดไม่ออกเสียอย่างนั้นไม่ใช่แค่เจสสิก้าแต่เบลล่าและแองเจล่าเองก็จ้องมาทางเขาอย่างต้องการคำตอบ
“จับคู่กันตอนวิชาชีวะแล้วเอ็ดเวิร์ดก็ขอเบอร์เอาไว้ติด—”
“ขอเบอร์!! พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเนี่ยนะขอเบอร์นาย” เจสสิก้าร้องลั่นแฮร์รี่แอบเห็นพี่น้องคัลเลนหัวเราะ เขาไม่รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดพูดอะไรแต่ทำไมกลับรู้สึกไม่ดีซะงั้น
“นี่ถ้านายตีสนิทเขาได้ช่วยถามเรื่องผู้หญิงที่เขาชอบทีสิฉันอยากรู้ว่าเบลล่าพอได้มั้ย”
“แองเจล่า!!” เบลล่าตวัดตาเชิงตำหนิเพื่อนสาว ใบหน้าเธอแดงก่ำไม่รู้เพราะโมโหหรือว่ากำลังเขินกันแน่เพื่อนชายอีกสองคนไม่ได้พูดอะไรเขาเพียงแต่พึมพำบอกว่า ‘เรื่องของสาวๆ’ เท่านั้นเว้นแต่ไมค์ที่ถึงแม้จะแซวแต่ก็มีอาการไม่พอใจอยู่บ้าง
“นี่พวกเธอไม่คิดบ้างรึไงว่าเอ็ดเวิร์ดอาจจะจีบแฮร์รี่ก็ได้”
เอริคพูดติดตลกก่อนกัดลงที่เบอร์เกอร์แต่กลายเป็นว่ามุกของเขากลับทำให้เจสสิก้าเริ่มจริงจัง แฮร์รี่หัวเราะเอ็ดเวิร์ดไม่ได้ดูจะชอบเขาแม้แต่น้อยกลับกันอาจจะแค่อยากแกล้งเหมือนที่เชสเตอร์ทำรึเปล่าเมื่อคิดถึงเพื่อนสนิทรอยยิ้มบนหน้าแฮร์รี่ก็หายไป เขาคิดถึงวันแรกที่เข้าเรียนอิลเวอร์มอร์นี เชสเตอร์เป็นคนแรกที่เข้ามาทักทายเขาในขณะที่คนอื่นมาท่าทีลังเล
“เขามองนายแหนะ” เอริคชะโงกหน้ามากระซิบ แฮร์รี่ละสายตาจากจานข้าวพลางหันไปทางโต๊ะริมหน้าต่างด้วยท่าทีที่พยายามไม่ให้ดูน่าสงสัย
“เขามองอยู่จริงด้วยสงสัยจังเพราะอะไร” เจสสิก้าตอบรับหล่อนฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ถึงแฮร์รี่จะอ่านใจใครไม่ได้แต่เขาก็คิดว่าสิ่งที่เจสสิก้าคิดมันคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก เอ็ดเวิร์ดกำลังมองมาทางแฮร์รี่จริง ๆ เขานั่งฟังที่หญิงสาวตัวเล็กผมสั้นตรงข้ามพูดแต่สายตาจ้องมาที่โต๊ะของพวกเขาแฮร์รี่ลอบกลืนน้ำลายอย่างลำบาก โรซาลีเด็กสาวผมบลอนด์ที่ไมค์เคยเล่าก็จ้องมาเหมือนกันแฮร์รี่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนขอตัวแยกออกไปเก็บจานอาการปวดหัวแล่นขึ้นจี๊ดอีกครั้งร่างบางหลับตาสูดหายใจเข้าเต็มปอดมันดูไม่ใช่อาการธรรมดา ดูท่าวันนี้คงต้องถามซีเรียสและเขียนจดหมายหารีมัสเสียแล้วแฮร์รี่คิดก่อนจัดการกับจานตน
---
“คนนั้นน่ะเหรอที่นายเจอในป่า” หญิงสาวผมสั้นพูด เธอถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือล้น “น่ารักนะแต่เขาไม่ดูเด็กไปหน่อยเหรอ”
“เขาดูไม่เปลี่ยนไปเลยแต่ครั้งสุดท้ายที่เจอเขาตัวเล็กกว่านี้” เอ็ดเวิร์ดตอบรับดวงตาสีอำพันจ้องไปที่เด็กหนุ่มตัวเล็กไม่วางตา เขาได้ยินเสียงของแฮร์รี่และชื่อของใครบางคนในความคิดนั่นเป็นสิ่งยืนยันว่าครอบครัวคัลเลนไม่ได้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา
“เมื่อสัปดาห์ก่อนนายบอกว่าแม่สาวน้อยสวอนอาจจะเป็นคู่แท้แต่นี่อะไรพ่อหนุ่มน้อยจากบอสตันเป็นคู่นายจริงงั้นสิ” โรซาลีทำเสียงขึ้นจมูกเธอฉุนเฉียวเหมือนทุกครั้งจนแฟนหนุ่มต้องแตะบ่าเพื่อให้หล่อนสงบใจ
“ฉันแค่พิจารณาตามที่รู้ฉันอ่านใจเธอไม่ได้และเลือดเบลล่าเรียกหาฉัน” ร่างสูงขมวดคิ้ว สำหรับเบลล่าเอ็ดเวิร์ดยอมรับว่าสับสนเพราะตั้งแต่ที่เขาพบแฮร์รี่ครั้งแรกเขาสัมผัสได้ทันทีว่าแฮร์รี่เป็นคู่แท้ของตนแต่การปรากฎตัวของหญิงสาวก็ทำให้เขาลังเล แวมไพร์จะรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณในวันนั้นเขาแอบตามเด็กหนุ่มตัวเล็กจนไปถึงบ้านพลางลอบมองอีกฝ่ายบนต้นไม้ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ที่ติดห้องนอนของแฮร์รี่
แต่หลังจากนั้นคนตัวเล็กก็หายไปราวกับไม่เคยมาที่ฟอร์ค เอ็ดเวิร์ดไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งแต่สิ่งที่เขาพบก็มีเพียงชายหนุ่มวัยกลางคนผมเผ้ายาวกลิ่นอีกฝ่ายดูคล้ายพวกหมาป่าแถวลาพุชเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นผู้ปกครองแฮร์รี่
“แต่ฉันไม่คิดว่าคู่ของเราจะกลิ่นเหมือนอาหารนะ” ชายหนุ่มผมสีน้ำผึ้งออกความเห็นเอ็ดเวิร์ดเห็นด้วยกับแจสเปอร์ครั้งแรกที่เขาพบเบลล่ากลิ่นเลือดของเธอมันหอมหวานจนคอเขาแสบร้อนมันกระตุ้นให้อาการกระหายของเอ็ดเวิร์ดรุนแรงจนตัวเขาอยากกระชากคอเธอแล้วกินเลือดของหญิงสาวจนหยดสุดท้าย แตกต่างกับแฮร์รี่กลิ่นเลือดของแฮร์รี่เป็นกลิ่นที่หวานและหอมคล้ายดอกไม้แต่ไม่ได้ทำให้เขากระหายกลับกันเขาอยากปกป้องคนตัวเล็กพอ ๆ กับที่อยากอยู่ใกล้เช่นกัน
“นายว่ามันไม่แปลกเหรอที่จู่ๆ เด็กคนนี้ก็โผล่มาทั้งๆ ที่สองปีก่อนพวกเราหาเขาไม่เจอ” เอ็มเม็ตต์พูดขึ้นพร้อมมองไปที่แฮร์รี่ที่กำลังเดินไปเก็บจาน ทุกการกระทำของแฮร์รี่อยู่ในสายตาของครอบครัวคัลเลนทั้งหมดพวกเขากำลังสงสัยในตัวเด็กหนุ่มที่มีศักดิ์อาจเป็นคู่แท้ของน้องเล็กบ้านคัลเลน
“แปลก แล้วมันก็มีช่วงนึงที่เราไปอลาสก้ากันด้วยน่าจะคลาดกันตอนนั้น” อลิซบอกพร้อมหยิบขวดน้ำบนโต๊ะตัวกลมขึ้นมาเล่น “แล้วกลิ่นเลือดแฮร์รี่เองก็แปลก..”
โรซาลีพยักหน้าเห็นด้วยกับหญิงสาวตัวเล็ก เธอเคยได้กลิ่นเลือดมนุษย์มามากมายแต่กลิ่นของแฮร์รี่ต่างออกไปมันดูไม่ได้ดึงดูดหรือล่อให้แวมไพร์อย่างพวกเขากระหายเอ็ดเวิร์ดเคยบอกว่าแฮร์รี่กลิ่นเหมือนกับดอกไม้แต่เธอไม่รู้สึกอะไรอาจเพราะแฮร์รี่เป็นคู่ของน้องชายเธอไม่ใช่เธอ
“ฉันไม่ค่อยอยากยุ่งกับมนุษย์” โรซาลีพูดย้ำ
“ช่วยไม่ได้นี่ที่รัก เขาเป็นคู่ของเอ็ดดี้นี่หน่า” เอ็มเม็ตต์ยกแขนขึ้นโอบรอบแฟนสาวพลางยกยิ้มเมื่อหล่อนทำท่าฟึดฟัดแต่ก็เอนศีรษะพิงไหล่ของเขา
เอ็ดเวิร์ดอมยิ้มตอนนี้เขาอาจจะการันตีไม่ได้เต็มร้อยแต่แวมไพร์หนุ่มก็คิดว่าแฮร์รี่ต้องเป็นคู่แท้ที่เขาตามหา กลิ่นหอมจางของแฮร์รี่และดวงตาสีมรกตสวยใต้กรอบแว่นยังตราตรึงในความทรงจำเขาเจออีกฝ่ายแล้วและจะไม่ปล่อยให้หลุดมืออีกแน่
tbc
----------
เปิดตัวพ่อหนุ่มเอ็ดเวิร์ดคนคลั่งรักซักทีหลังจากโผล่มาแค่เงา! แอแฮ่ขอบคุณเม้นและยอดเข้าคลังนะคะอึ้งมากไม่คิดว่าจะมีคนสนใจ แง
ความคิดเห็น