คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : prology
เสียงเคาะของค้อนประธานดังก้องไปทั่วห้องพิจารณาคดี เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าผู้วิเศษที่เข้ามาฟังคดีต่างแตกออกเป็นหลายเสียง สงสัย ประหลาดใจ และโกรธเคือง ซีเรียส แบล็คจ้องมองชายร่างท้วมด้วยความแค้นเคือง ปีเตอร์ เพ็ตติกกรูว์ที่ บัดนี้กำลังถูกส่งตัวไปยังอัซคาบันด้วยข้อกล่าวหาการสมรู้ร่วมคิดการฆาตกรรมเจมส์และลิลลี่ พอตเตอร์
ลอร์ดโวลเดอร์มอร์สลายไปแล้วก่อนหน้าที่เขาและเซเวอร์รัส สเนปที่ไปถึงที่ก็อดดริกฮอลโลว์พวกเขาทั้งสองพบเพียงร่างไร้วิญญาณของเพื่อนรักและภรรยาของเจมส์ไม่ไกลมีเด็กชายวัยหนึ่งปีที่บนหน้าผากปรากฎรอยแผลรูปสายฟ้า ซีเรียสจำไม่ได้ว่าตัวเขาร้องไห้ครั้งสุดท้ายตอนไหนแต่ในวันนั้นชายหนุ่มไม่สามารถหยุดน้ำตาบนใบหน้าของตนได้
ปีเตอร์ เพ็ตติกกรูว์ทรยศพวกเขา ชายอ้วนคนนั้นบอกที่ซ่อนของเจมส์ให้แก่โวลเดอร์มอร์ ซีเรียสยอมรับว่าถึงแม้เขาจะเป็นคนตั้งข้อสันนิษฐานเรื่องการทรยศของปีเตอร์ต่อภาคีขึ้นมาเองแต่เบื้องลึกในใจแล้วเขาก็ไม่เคยอยากให้มันเกิดขึ้น แรงบีบที่บ่าข้างซ้ายเรียกความสนใจจากซีเรียส รีมัสมีท่าทีกระอักกระอ่วนตัวของเขาเองก็ไม่อยากคิดว่าปีเตอร์จะกล้าหักหลังเจมส์จริง ๆ
ดัมเบิ้ลดอร์กล่าวว่าบาดแผลบนหน้าผากของแฮร์รี่คือหลักฐานเวทมนตร์ที่หลงเหลือชี้ชัดถึงการตายของเจ้าของศาสตร์มืดและกระทรวงเวทมนตร์เชื่อว่าคนที่คุณรู้ว่าใครจะไม่มีทางกลับมาได้อีกเป็นครั้งที่สอง คำสาปพิฆาตที่ตัวของโวลเดอร์มอลเสกได้ย้อนกลับมาทำร้ายตัวของผู้เสกจนมิอาจฟื้นจากความตายได้อีก และในไม่ช้าทางกระทรวงก็สามารถจับตัวปีเตอร์ที่หลบหนีโดยใช้ร่างอนิเมไจได้ในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
ซีเรียสมองเด็กชายในอ้อมกอดของอาจารย์ใหญ่แห่งฮอกวอตส์ด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาแห่งความบริสุทธิ์ ดัมเบิ้ลดอร์ส่งเด็กชายตัวน้อยคืนสู่อ้อมกอดของพ่อทูลหัวที่แท้จริง มือหนากร้านของซีเรียสลูบบนเด็กน้อยด้วยท่าทีเก้กัง แฮร์รี่ในวัยละอ่อนส่งเสียงหัวเราะยามซีเรียสหยอกล้อ
“ผมจะพาเขาไปที่อเมริกา” ซีเรียสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าผมจะขอรับเลี้ยงเขาคุณจะว่าอะไรไหม”
ชายแก่ในชุดผ้าลื่นส่ายหน้า ดัมเบิ้ลดอร์ส่งรอยยิ้มใจดีเหมือนทุกครั้งและตบลงที่บ่าของซีเรียสเบา ๆ ก่อนพูดต่อ
“ไม่เลยซีเรียส ฉันเชื่อว่าเธอจะเลี้ยงดูเด็กคนนี้อย่างดี” ดัมเบิ้ลดอร์ว่า “ที่อเมริกาก็มีโรงเรียนเวทย์มนตร์และคาถาที่ยอดเยี่ยม แฮร์รี่จะต้องเป็นพ่อมดที่ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากลิลลี่และเจมส์แน่นอน”
“ของมันแน่อยู่แล้ว” ซีเรียสจ้องเด็กชายด้วยแววตาปนความเศร้า ดวงตาของแฮร์รี่ทำให้เขาหวนนึกถึงลิลลี่ หญิงสาวผู้เป็นที่รักเพียงหนึ่งเดียวของเพื่อนสนิทตน รีมัสไม่ได้พูดอะไรอีกฝ่ายเพียงแค่ถอนหายใจระบายความอัดอั้นในอก ดัมเบิ้ลดอร์พูดคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์สองสามประโยคก่อนเดินกลับมาหาซีเรียสอีกครั้ง
“พวกเขาจะแจ้งมาคูซ่าเรื่องของเธอและแฮร์รี่ให้ พวดเธอจะย้ายไปที่ไหนงั้นเหรอ”
“ฟอร์ค วอชิงตัน” ซีเรียสตอบรับ “ผมมีญาติบางส่วนอยู่ที่นั่นและเมืองนั้นมีป่าค่อนข้างใหญ่มันคงจะปลอดภัยมากพอที่จะให้รีมัสกลายร่างคืนวันเพ็ญ”
“แบบนี้นี่เอง หากมีปัญหาอะไรติดต่อพวกเรามาได้ทุกเมื่อพวกเรายินดีช่วยเหลือเสมอ”
ดัมเบิ้ลดอร์ขยิบตาก่อนเดินหายไป ซีเรียสขยับปากขอบคุณอาจารย์ใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายทั้งเขาและซีเรียสไม่เคยเลี้ยงเด็กกันมาก่อนแต่มันคงไม่เกินความสามารถพวกเขาซักเท่าไหร่ ในเมื่อทั้งเขาและเจมส์สามารถเรียนรู้การเป็นอนิเมไจได้การเลี้ยงเด็กชายตัวน้อยคนนี้ก็คงจะไม่หนักหนาสาหัสนัก
---
จากวันนั้นวันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แฮร์รี่ เจมส์ พอตเตอร์ ได้เติบโตจนบัดนี้เด็กหนุ่มมีอายุ14ปีบริบูรณ์ แฮร์รี่มีใบหน้าที่ถอดแบบมาจากเจมส์เกือบทุกระเบียบนิ้วเว้นแต่ดวงตาสีเขียวคู่สวยเท่านั้น เด็กชายมีร่างกายที่ค่อนข้างเล็กกว่าเด็กคนอื่นเมื่อเทียบในช่วงวัยเดียวกัน รีมัสบ่นกระปอดกระแปดว่าตนเลี้ยงแฮร์รี่ไม่ดีหรือเปล่าแทบทุกครั้งที่เขาแวะเวียนมายังฟอร์ค หลังจากแฮร์รี่เข้าเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์อิลเวอร์มอร์นีในวัย11ปีแล้วรีมัสก็กลับไปที่อังกฤษเพื่อเข้ารับตำแหน่งในกระทรวงเวทมนตร์และว่าที่ศาสตราจาร์ยวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดของฮอกวอตส์ ซีเรียสนั่งมองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังสอนเด็กหนุ่มให้ร่ายคาถาใส่บ็อกการ์ด ชายหนุ่มแอบหัวเราะกับท่าทีวางมาดของรีมัสที่คล้ายกับการเตรียมตัวล่วงหน้าในการสอนนักเรียน
“เอาล่ะแฮร์รี่ เธอต้องพูดคำว่าริดดิคิวลัส” รีมัสพูดเสียงเข้ม แฮร์รี่เหลือบมองแล้วหัวเราะ
“ขำอะไรตัวแสบ”
“ผมรู้สึกดีที่ไม่ได้ไปเรียนที่ฮอกวอตส์ แค่นึกภาพคุณสอนแล้วก็หยุดขำไม่ได้”
รีมัสยิ้มมือใหญ่ยกขึ้นยีหัวเด็กน้อยที่เขาเอ็นดูประหนึ่งลูกชายด้วยความหมั่นเขี้ยว แฮร์รี่ส่งเสียงเชิงปรามและโวยวายเพราะอีกฝ่ายทำผมเขายุ่งเหยิงยิ่งกว่าเดิม นัยน์ตาสีมรกตหันไปหาชายผมยาวที่มีศักดิ์เป็นพ่อทูลหัวของตนที่นั่งมองพวกเขาบนโซฟาหนังสีดำด้านด้วยท่าทีราวกับขอความช่วยเหลือ
“อะไรเจ้าลูกหมาตั้งใจเรียนสิ” ซีเรียสยักไหล่พลางเอนกายมองอย่างสนุกสนาน แฮร์รี่ขมวดคิ้วเขารู้ได้ในทันทีที่เห็นท่าทางจากพ่อทูลหัว นอกจากจะไม่ช่วยแล้วอีกฝ่ายคงหาทางร่วมแกล้งเขาแน่
“พอเลย ผมจะไปเดินเล่นแล้ว” เด็กหนุ่มเอนศีรษะหนีมือที่กำลังรังแกเขาทันทีที่คิดได้ คนตัวเล็กคว้าหมวกกันน็อคใบเก่งก่อนเดินหายออกจากห้องโถง
“เห็นแล้วนึกถึงเจมส์จริง ๆ”
ซีเรียสพยักหน้าเห็นด้วยกับรีมัส ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีเบจทรุดกายลงข้างเพื่อนสนิทตนพวกเขาได้ยินเสียงสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นก่อนจะห่างออกไปทางทิศเหนือ รีมัสอมยิ้ม เขารู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายคงจะไปที่ป่านอกเมืองอีกเป็นแน่และพวกเขาไม่คิดจะห้ามเด็กหนุ่มด้วย แฮร์รี่เคยเขียนจดหมายมาเล่าถึงความสวยงามและแรงดึงดูดประหลาดในป่าทึบนอกเมืองนั่น
“มาคูซ่าแจ้งมาว่ามีผู้เสพความตายบางส่วนมาที่อเมริกา”
ซีเรียสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งในขณะที่จ้องมองไปยังเตาผิง ฉับพลันรอยยิ้มบนใบหน้าของรีมัสก็พลันหายไป เหลือแต่ความกังวลที่อยู่ในดวงตา เสียงไม้ลั่นจากความร้อนดังขึ้นท่ามกล่ามความเงียบที่โรยตัวในห้องโถงใหญ่ รีมัสนั่งใช้ความคิดก่อนพูดบางอย่าง
“ดัมเบิ้ลดอร์ก็บอกฉันมาแบบนั้น” เขาพึมพำ
“นายคิดว่ายังไง”
“อาจเพราะแฮร์รี่หรือบางทีพวกเขาคงแค่หนี”
ซีเรียสคิดตามสิ่งที่เพื่อนตนพูด ตัวเขาอาจจะคิดมากแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินกว่าเหตุนัก แฮร์รี่ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของผู้เสพความตาย พวกนั้นต้องการใช้ลูกของเพื่อนพวกเขาเพื่อการแก้แค้นหรือแย่กว่านั้น.. การฟื้นคืนชีพจอมมาร รีมัสหันมองเพื่อนของตนที่ทำหน้าเคร่งเครียด เขาตบเข้าที่หลังอีกฝ่ายแรง ๆ เพื่อเรียกสติ
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะปกป้องเขาจริงมั้ย” รีมัสพูด
“มันแน่อยู่แล้ว”
---
ลึกเข้าไปในป่า เสียงลมกระทบยอดไม้ดังเป็นจังหวะชวนให้จิตใจสงบเด็กหนุ่มก้าวเท้าข้ามรากไม้ใหญ่ที่โผล่พ้นดินออกมา แฮร์รี่ชอบมาที่ป่านอกเมืองเพราะอะไรบางอย่างที่ตัวเขาเองก็อธิบายไม่ถูกเช่นกัน ครั้งแรกที่เขามาที่นี่เพื่อฝึกคาถาเรียกของกับรีมัสในการปิดภาคเรียนตอนปี1 ตั้งแต่วันนั้นแฮร์รี่ก็มักจะมาที่ป่าแห่งนี้ทุกครั้งในวันปิดภาคเรียนวันสุดท้ายก่อนที่เขาจะกลับไปโรงเรียนเสมอ
คนตัวเล็กเดินลึกเข้าไปในป่าทึบเรื่อย ๆ ที่ป่าแห่งนี้ส่วนมากจะถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ดูมีอายุมากคละกับต้นสนสูงและพืชประเภทเฟิร์นสลับมอสอันมาจากอากาศชื้น ฟอร์คเป็นเมืองที่มีปริมาณฝนตกเยอะมากเมื่อเทียบกับเมืองอื่นในอเมริกาแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนัก เด็กหนุ่มชอบเวลาที่ฝนตกเขาชอบกลิ่นชื้นจากดิน และเสียงหยาดฝน
เสียงพุ่มไม้ขยับเรียกความสนใจจากเด็กหนุ่มได้อย่างดี แฮร์รี่จับไม้กายสิทธิ์ใต้เสื้อโค้ทแน่นราวกับระวังอันตรายฉับพลันกวางตัวโตก็พุ่งออกจากพุ่มไม้ใหญ่ มันดูหวาดกลัวและเหมือนหนีอะไรบางอย่างมา
“แกหนีอะไรมาเหรอ” แฮร์รี่พูดเสียงเบา เจ้ากวางวิ่งวนอย่าว้าวุ่นแต่มันก็ไม่ตั้งท่าจะพุ่งชนใส่พ่อมดตัวน้อยตรงหน้าแต่อย่างใด แฮร์รี่หันกลับไปมองข้างหลังด้วยความรู้สึกประหลาด คิ้วเรียวขมวดแทบเป็นปมเขารู้สึกมาซักพักหนึ่งแล้วว่าเหมือนตนไม่ได้อยู่คนเดียว หรือควรจะบอกว่าเป็นครั้งแรกมากกว่าที่เขารู้สึกเหมือนถูกจ้องมองจากที่ใดที่หนึ่ง สายลมเอื่อยที่พัดอยู่ตลอดจู่ ๆ ก็เงียบลง เพียงเท่านั้นป่าก็เงียบจนตัวเขาได้ยินเสียงจากรอบทิศ บรรยากาศโดยรอบดูน่ากลัวขึ้นอย่างหาสาเหตุไม่ได้
เสียงกิ่งไม้ใหญ่จากต้นไม่ไกลเด็กหนุ่มดังลั่น แฮร์รี่เงยหน้ามันไม่ใช่เสียงลมหากแต่มันเป็นเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างที่หนักขึ้นไปบนนั้น ดวงตาสีมรกตกวาดมองบนกิ่งไม้ใหญ่ด้วยความสงสัย มือบางยกขึ้นป้องเหนือคิ้วเพื่อกันแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านช่องพุ่มไม้
‘ก็ไม่มีอะไรนี่’ เด็กหนุ่มคิดในใจ แฮร์รี่ลดสายตาลงเขาเลือกที่จะไม่สนใจก่อนมองนาฬิกาที่ข้อมือเวลาผ่านไปไม่นานนักแต่เขาลืมไปว่าตนเองมีนัดกับเจคอป แบล็ค ญาติของพ่อทูลหัวตนเรื่องการตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์ของเขา แฮร์รี่ลูบหัวเจ้ากวางขนสีน้ำตาลแผ่วเบาแล้วเดินกลับออกไป
เสียงฝีเท้าดังไกลออกไปหลายเมตรแล้ว หากแต่ประสาทหูของใครบางคนยังรับรู้อยู่ ชายหนุ่มคนนึงปรากฎตัวขึ้นบนกิ่งไม้ใหญ่ไกลจากบริเวณที่พ่อมดตัวน้อยเคยอยู่ ดวงตาสีอำพันจ้องไปที่ร่างบางเขม็ง เสียงหัวใจดังเป็นจังหวะ กลิ่นหอมปริศนาฟุ้งไปทั่วเมื่ออีกฝ่ายย่างกายเข้าใกล้
และดวงตาสีมรกตคู่สวยที่ดึงดูดเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นมัน
---------------------------------
#กาลครั้งหนึ่งECHP
ฟิคนี้เป็นฟิคแก้บนของเราเองค่ะ ;-; ถ้าผิดพลาดประการไหนต้องขออภัยไว้ที่นี้ด้วยนะคะเราจะพยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุด ติชมพูดคุยกันได้เสมอนะคะ
ความคิดเห็น