ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ย้อนอดีต :: พฤติกรรม ม.5 จุดเปลี่ยนสำคัญ
ในช่วงบทความพฤติกรรมนี้เนื้อหาอาจจะยาว
และบ่นเยอะนิดนึง
ซึ่งถ้าขี้เกียจอ่านอาจจะข้ามไปก่อนก็ได้
เพราะตอนพิมพ์เสร็จถึงได้รู้สึกว่า เนื้อหามันเยอะจัง >O<"
___________________________________
ก่อนจะเข้าสู่ ม.5 ก็ย้อนกลับไป ม.4 นิดนึง(อ่าว อะไรของมันฟระเนี่ย)
ตอน ม.4 เป็นปีที่พี่ได้รู้จักคำว่า การเข้าค่าย สอวน.
ซึ่งเป็นหนทางไปสู่การแข่งโอลิมปิกนั่นเอง
ตอนพี่ได้ยินครั้งแรก พี่ก็ไม่สนใจตั้งแต่เริ่มแล้วล่ะ
พี่คิดว่าไอค่ายพวกนี้ คนที่เข้าได้ต้องเก่งมากเว่อร์ๆแน่ๆๆๆๆ
ฉะนั้นมันก็ไม่อยู่ในความสนใจของพี่เลย
สอวน.นั้นมีสอบช่วงประมาณสิงหาถึงกันยา
ผลก็ออกก่อนปิดเทอมเล็กซึ่งก็คือช่วงตุลานั่นล่ะ
แต่ที่พี่ต้องสนใจเพราะห้องพี่อาจารย์บังคับสอบทุกคน(อะไรกับหนูเนี่ย)
สอวน.นั้นแบ่งเป็น 6 ค่าย (แก้ไขๆข้างล่างบอกมาค่ะ อิอิ)
คือ คอม เลข เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์
สอวน.คอมนั้นก็คือข้อสอบเลขนี่แหละซึ่งเป็นเลขม.ปลาย
แต่ง่ายกว่าสอวน.เลขหลายเท่า
ตอนนั้นเพราะว่าไม่สนใจ พี่จึงเลือก สอวน.คอมไป
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นวิชาที่ทำได้บ้างและไม่ไปนั่งหลับในห้องสอบ
แล้วพี่ก็ไปสอบแบบไม่ได้คิดอะไร
ยังง... !! อย่าเพิ่งคิดว่าพี่ไปชิวเล่น ๆ แล้วติดน้ะ
ชีวิตคนเรามันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก
และพี่ก็ไม่ติด ตอนผลออกพี่ไม่รู้ด้วยซ้ำแต่เพื่อนมาบอก
พี่ก็แบบว่า ไม่ติดไม่เห็นแปลกเลยย
แต่เพื่อนมันบอกต่อว่า พี่น่ะ ขาดไปสามคะแนน ก็ติดแล้ว
พี่ถึงเริ่มแบบ เฮ้ย จริงดิ !! เพราะตอนนั้นพี่ไม่ได้อ่านไปเลย
พี่ก็แบบชั้นน่าจะอ่านอ้ะ เสียดายจัง
แต่พี่คิดถึงเรื่องนี้อยู่วันสองวัน ก็ออกนอกความสนใจไป
คราวนี้เรามาเข้า ม.5 กันดีกว่า >O<!
เป็นปีที่ทำกิจกรรมเยอะม๊ากกกกก โดยเฉพาะกีฬาสี
การเรียนเลยขึ้น ๆ ลง ๆ ตามสภาพอะน่ะ -__-"
ตอนม. 5 เทอมหนึ่งโดยเฉพาะก่อนกลางภาคนั้นพี่ตั้งใจมากกกกก
มากกว่าตอนม.4 แบบเทียบไม่ติดเลย
ผลกลางภาคก็เกือบจะน่าพอใจ
จากคะแนนกลางๆค่อนไปทางหลังๆทุกวิชา
ตอนนั้นคะแนนขึ้นมาอันดับต้น ๆ ทุกวิชา ยกเว้น__เคมี
โหล่ห้องเลยทีเดียว เคมีคาบเส้นค่ะน้อง 10/20
คือน้องต้องนึกตามว่าสภาพการเรียนเคมีพี่แย่พอ ๆ กับชีวะ
ซึ่งตอนนี้ชีวะมันโอเคแล้ว พี่ก็เริ่มชอบชีวะขึ้นแล้ว
แต่เคมียังแย่เหมือนเดิม T____T
พอผ่านกลางภาคไป ทั้งๆที่คะแนนดีขึ้น
แต่พี่ก็เหมือนคนถอดใจแล้วเพราะเคมีตัวดีนี่เอง
เหมือนกับว่ามันเหนื่อยเกินไปแล้ว
พี่ก็เริ่มทิ้งการเรียน กลับมาไม่สนใจเหมือนตอนม. 4 เทอมหนึ่งอีกรอบ
กลับไปทำตัวแบบเดิมอีก ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ดี
พอมาถึงตอนนี้พี่เริ่มคิดว่าพี่อยากเรียนคณะสายศิลป์
เรื่องย้ายสายคงต้องพับเก็บ เพราะเพื่อนห้องนี้นิสัยดี
และก็พี่เริ่มมองคณะบัญชีไว้
มันคงจะเหมาะกับคนไม่เก่งวิทย์อย่างพี่ ณ ตอนนั้นพี่คิดแบบนั้น
จุดเปลี่ยนของพี่เริ่มเมื่อมาถึงปลายกันยาต้นตุลา
พี่จำวันไม่ได้ จำได้แต่ว่าอาจารย์มาบังคับสอบ สอวน.แบบปีก่อน
ตอนนั้นพี่ซึ่งถอดใจแล้ว และเริ่มทำตัวไร้แก่นสารอีกครั้ง
เมื่อเห็นเพื่อนเลือก สอวน.เคมี กันเยอะ พี่ก็เลือกตาม
ไม่ได้คิดหรอกว่าจะทำได้หรือทำไม่ได้
รู้แต่ว่าเค้าบังคับ ก็ไปสอบตามที่เค้าบอก
อืม...จำได้ว่าสอบวันอาทิตย์ ตอนวันเสาร์พี่ก็เล่นเกมเล่นคอมตามปกติ
แต่ว่า คุณแม่ที่เคารพของพี่ เค้าเดินมาหาพี่ที่คอม
ถามพี่ว่า พรุ่งนี้มีสอบใช่ไหม
ค่ะ
สอวน.ใช่ไหม ที่ปีก่อนลืมบัตรสอบไว้แล้วต้องวกกลับมาเอาอีกรอบใช่มั้ย
ค่ะแม่ -___- ใช่ค่ะ
งั้นปีนี้อุตส่าห์ลงสอบก็อ่านหนังสือหน่อย แล้วคราวนี้อย่าลืมบัตรสอบอีกล่ะ
แต่แม่ คราวนี้มันเป็นสอวน.เคมีไม่ใช่สอวน.คอม แล้วแม่ก็รู้ว่าแก้วไม่เก่งเคมี อ่านไปก็เท่านั้นอ้ะะ
อย่างน้อยก็อ่านไปก่อน ดีกว่าไปแบบไม่มีความรู้นะ เสียเวลาเปล่า ๆ
ค่ะแม่ T___________T
วันนั้นพี่เริ่มอ่านหนังสือตอน 6 โมงเย็น
หยิบหนังสืออาจารย์อุ๊ของพี่ชาย+ของพี่ห้าเล่มมานั่งอ่าน (ตอนนั้นเนื้อหาที่เรียนถึงแค่นั้น)
มีโครงสร้างอะตอม สมบัติของสาร พันธะเคมี ปริมาณสารหนึ่งและสอง
อืม นั่งอ่านอยู่ห้าชั่วโมง อ่านอยู่ห้าเล่มเนี่ยล่ะ -_-"
น้องลองนึกภาพคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรโดยเฉพาะสามเล่มแรก
(ปริมาณสารหนึ่ง+2 เป็นเนื้อหาที่สอบกลางภาค)
แล้วอยู่ ๆ มาสร้างความรู้ใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมง
แต่น้องเคยป้ะ ไม่กี่ชั่วโมง แต่อ่านเพื่อจำ และเพื่อสอบวันพรุ่งนี้
ไม่มีการเน้นข้อความขีดเส้นใต้อะไรทั้งนั้น
แต่อ่านปุ๊บจำปั๊บ อ่านเสร็จก็จำได้เกือบหมด !?
อ่านจบก็ อะแม่ อ่านจบหมดแล้วนะ แก้วนอนแร้ะ
กู๊ดไนท์ จุ๊บุจุ๊บุ >O<!
ตอนไปสอบ ถ้าจำไม่ผิดข้อสอบมีอยู่ 40 ข้อมั้ง
ตอนทำเสร็จพี่ก็แบบ โอ้โหว ออกเหมือนหนังสืออาจารย์อุ๊เลย
เป๊ะจริงไรจริงตรงมากๆ (รู้สึกจะโฆษณา อ.อุ๊ ไปในตัว ๕๕๕๕)
พอทำเสร็จพี่ก็แบบ ก็เออพอทำได้นะ
แต่ไอเรื่องติดไม่ติดพี่ไม่ได้คิด
แล้วปรากฎว่าผลออกมาว่าพี่ติด สอวน.เคมี ค่ะน้อง -O-
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ถ้าติดสอวน.คอม สอวน.ฟิสิกส์ พี่จะแปลกใจน้อยกว่านี้มาก
แต่นี่คือ เคมี !!?!! อีกหนึ่งวิชาไม้เบื่อไม้เมากับพี่
นี่พี่เมพขิงเคมีขนาดนั้นเลยเรอะ !?!?
ตอนติดนี่ก็เรื่องนึงค่ะ แต่พอติดแล้วพี่ต้องไปเข้าค่าย สอวน.เคมี ทั้งเดือนตุลาอีก
พี่แบบ เฮ้ยยยยยยยย พี่เกลียดเคมี มากกกกกกกกก
พี่ไม่เอาอ่ะ ดีใจก็จริงแต่พี่ไม่ไป สอวน.เคมี เด็ดขาดดดดดด
พี่ก็ไปคุยกับอาจารย์ว่าพี่ขอสละสิทธิ์เนื่องจากพี่ไม่ชอบและไม่เก่งเคมี
-_-" แลดูสวยเลือกได้มากอ่ะ 5555
อาจารย์เค้าก็หว่านล้อมตามสภาพน่ะ คือก่อนหน้านี้
โรงเรียนพี่แทบไม่มีคนติด สอวน.เคมีเลย อย่างมากแค่คนสองคน
แต่ปีพี่มันติดสิบคนอะค่ะะะะะ =O=
อาจารย์เค้าก็ขอว่าเออ นานๆจะติดกันเยอะสักที ไปเถอะ สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน
ก็ง้องแง้งกับอาจารย์อยู่พักนึง แล้วสุดท้ายก็ใจอ่อนยอมไป(ก็ได้) แง๊ะ เพิ้ออาจารย์น้ะTT
และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่พี่กล่าวถึงค่ะ
ค่าย สอวน.เคมี นี่แหละ ทำให้พี่เก่งเคมีขึ้น
(ถึงในค่ายจะเรียนเนื้อหาปีหนึ่งที่มันไม่เหมือนเนื้อหา ม.ปลายก็ตาม)
ทำให้พี่เริ่มจับจุดได้ว่าควรจะฟังอาจารย์พูดยังไง ควรจดย่อยังไง
และยังได้ทำแล็บเคมีอีกเพียบเลยอะ ทำให้เราคล่องกับอุปกรณ์การทดลองขึ้นด้วย
สารเคมีสีสดๆ ฟีนอล์ฟทาลีน เมทิลออเรนจ์ อินดิเคเตอร์ต่าง ๆ
ปิป่งปิเปต ขวดรูปชมพู่ ไทเทรต บลา ๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พี่ฟังชื่อพรรค์นี้พี่ก็คงงงอะ
แต่พอไปอยู่ในค่ายก็ได้รู้จักและทำจนคล่องเลยอะน้องง สนุกมาก >O<
สนุกมากโดยเฉพาะเวลาเดินไปเติมสารเคมีต่าง ๆ แล้วกำลัง งง ว่าต้องทำไรต่อ
พอหันไปถามอีกคนที่หน้าตาดูเป็นผู้มีความรู้ว่า เทอๆเราต้องใส่อะไรต่ออะ
ผู้มีความรู้ก็จะยิ้มอย่างจริงใจแล้วบอกเราว่า เราก็ไม่รู้เหมือนกันอะเทอ -___-"
ที่สำคัญคู่แล็ปพี่หน้าเหมือนแฟนเก่าพี่เยยอะ (๕๕๕๕ เอ๊ะยังไงไม่เห็นเกี่ยว ก๊ากกก ก)
นับว่าคุ้มมาก ๆ ที่พี่ได้ไปเข้าค่าย แม้สุดท้ายแล้วจะไม่มีใครผ่านค่ายหนึ่งเข้าค่ายสองได้
แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ
และตอนนั้นพี่ยังได้เป็นหัวหน้าสอวน.ของโรงเรียนด้วยได้ประสบการณ์มากมายย
และเปลี่ยนความเชื่อที่พี่ว่าตัวเองไม่เก่งเคมีได้ไปตลอดกาลลล ลล ล (เว่อร์ดีป้ะ ก๊ากก)
มันทำให้หลังจากนั้นพอเปิดเทอม ม.5 เทอม 2
พี่มีสมาธิฟังครูสอนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ฟัง แต่ฟังแล้วจำได้แล้วเข้าใจมากขึ้น
ชีวิตเริ่มเป็นระบบ และก็จัดการอะไรต่อมิอะไรได้ถูกต้องมากขึ้น
รู้ว่าตรงไหนควรฟัง ตรงไหนไม่ควรฟัง (อ่าว)
ตรงไหนควรฟังและควรจำ ตรงไหนควรฟังแล้วควรจะจำน้อยๆ (อิอิดูดีขึ้นป้ะ)
ชีวิตเป็นระเบียบมากขึ้น
หลังจากนั้นจนกระทั่งจบม. 6 คะแนนเคมีพี่ก็ไม่เคยแย่อีกเลยย
ส่วนคะแนนชีวะก็ดีถึงดีมาก บางทีอาจมีหลุดลงมาต่ำ ๆ บ้าง แต่ไม่กลับมาแย่อีกแล้ว
ส่วนฟิสิกส์ก็คล้าย ๆ เคมีเช่นกัน
ดูแล้วชีวิตกำลังเป็นไปในทางที่ดี ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะ >o<
ในช่วง ม.5 เทอม 2 พี่เริ่มกลับมาสนใจอาชีพที่ตัวเองเคยสนใจตั้งแต่ในวัยเด็กอีกครั้ง
นั่นคือ..หมอ.. ><!
เริ่มตั้งเป้าหมายแล้วว่า หมอนี่แหละ คือเป้าหมายที่ชั้นต้องการ
ชั้นอยากทำอาชีพแบบนี้ อยากพบปะคนเยอะ ๆ อยากช่วยคน
อยากเห็นคนมีความสุข และคนมีความทุกข์ อยากเรียนรู้คนมาก ๆ
ต้องสนุกแน่ ๆ เลย และในตอนนั้นก็เป็นแค่ฝันกลางวัน
ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
นอกจากหมอแล้วพี่มองไปอีกสองคณะ นั้นคือวิศวะและบัญชี
ดูเป็นอาชีพคนละทางเลยป้ะ ? แต่วิชาที่ใช้ไม่ต่างกันมากหรอก
ก็ต้องเก่งฟิสิกส์ กับเก่งเลข เพราะพี่เห็นว่ายังไงตัวเองก็ถนัดทางคำนวณกว่าอยู่ดี
น่าจะมองสองอาชีพนี้ไว้ เผื่อว่าถ้าม.6 เกิดเปลี่ยนใจเลิกสนใจหมอ
หรือสอบหมอแล้วไม่ติด เราจะได้ไม่เคว้งไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี
และมีเป้าหมายต่อไป ว่าจะเลือกสาขาอะไรเพื่อเรียนต่อ ^O^
ซึ่งการที่พี่มองอาชีพเหล่านี้ไว้เป็นอันดับสอง อันดับสามนั้น ไม่ใช่ว่าอาชีพนั้นไม่ดี
แต่ ณ ตอนนั้นสิ่งที่พี่อยากเป็นที่สุดคือหมอ
อาชีพนอกนั้นพี่ก็เลยถือว่าเป็นอันดับรองลงมา แม้ว่าจะดีไม่แพ้กันก็ตาม
และแล้วช่วงชีวิตม.5 ที่แสนสนุกก็ผ่านไป
ชีวิต ม.6 ก็กำลังคืบคลานจะเข้ามาอย่างช้าช้าาา
และบ่นเยอะนิดนึง
ซึ่งถ้าขี้เกียจอ่านอาจจะข้ามไปก่อนก็ได้
เพราะตอนพิมพ์เสร็จถึงได้รู้สึกว่า เนื้อหามันเยอะจัง >O<"
___________________________________
ก่อนจะเข้าสู่ ม.5 ก็ย้อนกลับไป ม.4 นิดนึง(อ่าว อะไรของมันฟระเนี่ย)
ตอน ม.4 เป็นปีที่พี่ได้รู้จักคำว่า การเข้าค่าย สอวน.
ซึ่งเป็นหนทางไปสู่การแข่งโอลิมปิกนั่นเอง
ตอนพี่ได้ยินครั้งแรก พี่ก็ไม่สนใจตั้งแต่เริ่มแล้วล่ะ
พี่คิดว่าไอค่ายพวกนี้ คนที่เข้าได้ต้องเก่งมากเว่อร์ๆแน่ๆๆๆๆ
ฉะนั้นมันก็ไม่อยู่ในความสนใจของพี่เลย
สอวน.นั้นมีสอบช่วงประมาณสิงหาถึงกันยา
ผลก็ออกก่อนปิดเทอมเล็กซึ่งก็คือช่วงตุลานั่นล่ะ
แต่ที่พี่ต้องสนใจเพราะห้องพี่อาจารย์บังคับสอบทุกคน(อะไรกับหนูเนี่ย)
สอวน.นั้นแบ่งเป็น 6 ค่าย (แก้ไขๆข้างล่างบอกมาค่ะ อิอิ)
คือ คอม เลข เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์
สอวน.คอมนั้นก็คือข้อสอบเลขนี่แหละซึ่งเป็นเลขม.ปลาย
แต่ง่ายกว่าสอวน.เลขหลายเท่า
ตอนนั้นเพราะว่าไม่สนใจ พี่จึงเลือก สอวน.คอมไป
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นวิชาที่ทำได้บ้างและไม่ไปนั่งหลับในห้องสอบ
แล้วพี่ก็ไปสอบแบบไม่ได้คิดอะไร
ยังง... !! อย่าเพิ่งคิดว่าพี่ไปชิวเล่น ๆ แล้วติดน้ะ
ชีวิตคนเรามันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก
และพี่ก็ไม่ติด ตอนผลออกพี่ไม่รู้ด้วยซ้ำแต่เพื่อนมาบอก
พี่ก็แบบว่า ไม่ติดไม่เห็นแปลกเลยย
แต่เพื่อนมันบอกต่อว่า พี่น่ะ ขาดไปสามคะแนน ก็ติดแล้ว
พี่ถึงเริ่มแบบ เฮ้ย จริงดิ !! เพราะตอนนั้นพี่ไม่ได้อ่านไปเลย
พี่ก็แบบชั้นน่าจะอ่านอ้ะ เสียดายจัง
แต่พี่คิดถึงเรื่องนี้อยู่วันสองวัน ก็ออกนอกความสนใจไป
คราวนี้เรามาเข้า ม.5 กันดีกว่า >O<!
เป็นปีที่ทำกิจกรรมเยอะม๊ากกกกก โดยเฉพาะกีฬาสี
การเรียนเลยขึ้น ๆ ลง ๆ ตามสภาพอะน่ะ -__-"
ตอนม. 5 เทอมหนึ่งโดยเฉพาะก่อนกลางภาคนั้นพี่ตั้งใจมากกกกก
มากกว่าตอนม.4 แบบเทียบไม่ติดเลย
ผลกลางภาคก็เกือบจะน่าพอใจ
จากคะแนนกลางๆค่อนไปทางหลังๆทุกวิชา
ตอนนั้นคะแนนขึ้นมาอันดับต้น ๆ ทุกวิชา ยกเว้น__เคมี
โหล่ห้องเลยทีเดียว เคมีคาบเส้นค่ะน้อง 10/20
คือน้องต้องนึกตามว่าสภาพการเรียนเคมีพี่แย่พอ ๆ กับชีวะ
ซึ่งตอนนี้ชีวะมันโอเคแล้ว พี่ก็เริ่มชอบชีวะขึ้นแล้ว
แต่เคมียังแย่เหมือนเดิม T____T
พอผ่านกลางภาคไป ทั้งๆที่คะแนนดีขึ้น
แต่พี่ก็เหมือนคนถอดใจแล้วเพราะเคมีตัวดีนี่เอง
เหมือนกับว่ามันเหนื่อยเกินไปแล้ว
พี่ก็เริ่มทิ้งการเรียน กลับมาไม่สนใจเหมือนตอนม. 4 เทอมหนึ่งอีกรอบ
กลับไปทำตัวแบบเดิมอีก ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ดี
พอมาถึงตอนนี้พี่เริ่มคิดว่าพี่อยากเรียนคณะสายศิลป์
เรื่องย้ายสายคงต้องพับเก็บ เพราะเพื่อนห้องนี้นิสัยดี
และก็พี่เริ่มมองคณะบัญชีไว้
มันคงจะเหมาะกับคนไม่เก่งวิทย์อย่างพี่ ณ ตอนนั้นพี่คิดแบบนั้น
จุดเปลี่ยนของพี่เริ่มเมื่อมาถึงปลายกันยาต้นตุลา
พี่จำวันไม่ได้ จำได้แต่ว่าอาจารย์มาบังคับสอบ สอวน.แบบปีก่อน
ตอนนั้นพี่ซึ่งถอดใจแล้ว และเริ่มทำตัวไร้แก่นสารอีกครั้ง
เมื่อเห็นเพื่อนเลือก สอวน.เคมี กันเยอะ พี่ก็เลือกตาม
ไม่ได้คิดหรอกว่าจะทำได้หรือทำไม่ได้
รู้แต่ว่าเค้าบังคับ ก็ไปสอบตามที่เค้าบอก
อืม...จำได้ว่าสอบวันอาทิตย์ ตอนวันเสาร์พี่ก็เล่นเกมเล่นคอมตามปกติ
แต่ว่า คุณแม่ที่เคารพของพี่ เค้าเดินมาหาพี่ที่คอม
ถามพี่ว่า พรุ่งนี้มีสอบใช่ไหม
ค่ะ
สอวน.ใช่ไหม ที่ปีก่อนลืมบัตรสอบไว้แล้วต้องวกกลับมาเอาอีกรอบใช่มั้ย
ค่ะแม่ -___- ใช่ค่ะ
งั้นปีนี้อุตส่าห์ลงสอบก็อ่านหนังสือหน่อย แล้วคราวนี้อย่าลืมบัตรสอบอีกล่ะ
แต่แม่ คราวนี้มันเป็นสอวน.เคมีไม่ใช่สอวน.คอม แล้วแม่ก็รู้ว่าแก้วไม่เก่งเคมี อ่านไปก็เท่านั้นอ้ะะ
อย่างน้อยก็อ่านไปก่อน ดีกว่าไปแบบไม่มีความรู้นะ เสียเวลาเปล่า ๆ
ค่ะแม่ T___________T
วันนั้นพี่เริ่มอ่านหนังสือตอน 6 โมงเย็น
หยิบหนังสืออาจารย์อุ๊ของพี่ชาย+ของพี่ห้าเล่มมานั่งอ่าน (ตอนนั้นเนื้อหาที่เรียนถึงแค่นั้น)
มีโครงสร้างอะตอม สมบัติของสาร พันธะเคมี ปริมาณสารหนึ่งและสอง
อืม นั่งอ่านอยู่ห้าชั่วโมง อ่านอยู่ห้าเล่มเนี่ยล่ะ -_-"
น้องลองนึกภาพคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรโดยเฉพาะสามเล่มแรก
(ปริมาณสารหนึ่ง+2 เป็นเนื้อหาที่สอบกลางภาค)
แล้วอยู่ ๆ มาสร้างความรู้ใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมง
แต่น้องเคยป้ะ ไม่กี่ชั่วโมง แต่อ่านเพื่อจำ และเพื่อสอบวันพรุ่งนี้
ไม่มีการเน้นข้อความขีดเส้นใต้อะไรทั้งนั้น
แต่อ่านปุ๊บจำปั๊บ อ่านเสร็จก็จำได้เกือบหมด !?
อ่านจบก็ อะแม่ อ่านจบหมดแล้วนะ แก้วนอนแร้ะ
กู๊ดไนท์ จุ๊บุจุ๊บุ >O<!
ตอนไปสอบ ถ้าจำไม่ผิดข้อสอบมีอยู่ 40 ข้อมั้ง
ตอนทำเสร็จพี่ก็แบบ โอ้โหว ออกเหมือนหนังสืออาจารย์อุ๊เลย
เป๊ะจริงไรจริงตรงมากๆ (รู้สึกจะโฆษณา อ.อุ๊ ไปในตัว ๕๕๕๕)
พอทำเสร็จพี่ก็แบบ ก็เออพอทำได้นะ
แต่ไอเรื่องติดไม่ติดพี่ไม่ได้คิด
แล้วปรากฎว่าผลออกมาว่าพี่ติด สอวน.เคมี ค่ะน้อง -O-
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ถ้าติดสอวน.คอม สอวน.ฟิสิกส์ พี่จะแปลกใจน้อยกว่านี้มาก
แต่นี่คือ เคมี !!?!! อีกหนึ่งวิชาไม้เบื่อไม้เมากับพี่
นี่พี่เมพขิงเคมีขนาดนั้นเลยเรอะ !?!?
ตอนติดนี่ก็เรื่องนึงค่ะ แต่พอติดแล้วพี่ต้องไปเข้าค่าย สอวน.เคมี ทั้งเดือนตุลาอีก
พี่แบบ เฮ้ยยยยยยยย พี่เกลียดเคมี มากกกกกกกกก
พี่ไม่เอาอ่ะ ดีใจก็จริงแต่พี่ไม่ไป สอวน.เคมี เด็ดขาดดดดดด
พี่ก็ไปคุยกับอาจารย์ว่าพี่ขอสละสิทธิ์เนื่องจากพี่ไม่ชอบและไม่เก่งเคมี
-_-" แลดูสวยเลือกได้มากอ่ะ 5555
อาจารย์เค้าก็หว่านล้อมตามสภาพน่ะ คือก่อนหน้านี้
โรงเรียนพี่แทบไม่มีคนติด สอวน.เคมีเลย อย่างมากแค่คนสองคน
แต่ปีพี่มันติดสิบคนอะค่ะะะะะ =O=
อาจารย์เค้าก็ขอว่าเออ นานๆจะติดกันเยอะสักที ไปเถอะ สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน
ก็ง้องแง้งกับอาจารย์อยู่พักนึง แล้วสุดท้ายก็ใจอ่อนยอมไป(ก็ได้) แง๊ะ เพิ้ออาจารย์น้ะTT
และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่พี่กล่าวถึงค่ะ
ค่าย สอวน.เคมี นี่แหละ ทำให้พี่เก่งเคมีขึ้น
(ถึงในค่ายจะเรียนเนื้อหาปีหนึ่งที่มันไม่เหมือนเนื้อหา ม.ปลายก็ตาม)
ทำให้พี่เริ่มจับจุดได้ว่าควรจะฟังอาจารย์พูดยังไง ควรจดย่อยังไง
และยังได้ทำแล็บเคมีอีกเพียบเลยอะ ทำให้เราคล่องกับอุปกรณ์การทดลองขึ้นด้วย
สารเคมีสีสดๆ ฟีนอล์ฟทาลีน เมทิลออเรนจ์ อินดิเคเตอร์ต่าง ๆ
ปิป่งปิเปต ขวดรูปชมพู่ ไทเทรต บลา ๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พี่ฟังชื่อพรรค์นี้พี่ก็คงงงอะ
แต่พอไปอยู่ในค่ายก็ได้รู้จักและทำจนคล่องเลยอะน้องง สนุกมาก >O<
สนุกมากโดยเฉพาะเวลาเดินไปเติมสารเคมีต่าง ๆ แล้วกำลัง งง ว่าต้องทำไรต่อ
พอหันไปถามอีกคนที่หน้าตาดูเป็นผู้มีความรู้ว่า เทอๆเราต้องใส่อะไรต่ออะ
ผู้มีความรู้ก็จะยิ้มอย่างจริงใจแล้วบอกเราว่า เราก็ไม่รู้เหมือนกันอะเทอ -___-"
ที่สำคัญคู่แล็ปพี่หน้าเหมือนแฟนเก่าพี่เยยอะ (๕๕๕๕ เอ๊ะยังไงไม่เห็นเกี่ยว ก๊ากกก ก)
นับว่าคุ้มมาก ๆ ที่พี่ได้ไปเข้าค่าย แม้สุดท้ายแล้วจะไม่มีใครผ่านค่ายหนึ่งเข้าค่ายสองได้
แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ
และตอนนั้นพี่ยังได้เป็นหัวหน้าสอวน.ของโรงเรียนด้วยได้ประสบการณ์มากมายย
และเปลี่ยนความเชื่อที่พี่ว่าตัวเองไม่เก่งเคมีได้ไปตลอดกาลลล ลล ล (เว่อร์ดีป้ะ ก๊ากก)
มันทำให้หลังจากนั้นพอเปิดเทอม ม.5 เทอม 2
พี่มีสมาธิฟังครูสอนมากขึ้น ไม่ใช่แค่ฟัง แต่ฟังแล้วจำได้แล้วเข้าใจมากขึ้น
ชีวิตเริ่มเป็นระบบ และก็จัดการอะไรต่อมิอะไรได้ถูกต้องมากขึ้น
รู้ว่าตรงไหนควรฟัง ตรงไหนไม่ควรฟัง (อ่าว)
ตรงไหนควรฟังและควรจำ ตรงไหนควรฟังแล้วควรจะจำน้อยๆ (อิอิดูดีขึ้นป้ะ)
ชีวิตเป็นระเบียบมากขึ้น
หลังจากนั้นจนกระทั่งจบม. 6 คะแนนเคมีพี่ก็ไม่เคยแย่อีกเลยย
ส่วนคะแนนชีวะก็ดีถึงดีมาก บางทีอาจมีหลุดลงมาต่ำ ๆ บ้าง แต่ไม่กลับมาแย่อีกแล้ว
ส่วนฟิสิกส์ก็คล้าย ๆ เคมีเช่นกัน
ดูแล้วชีวิตกำลังเป็นไปในทางที่ดี ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะ >o<
ในช่วง ม.5 เทอม 2 พี่เริ่มกลับมาสนใจอาชีพที่ตัวเองเคยสนใจตั้งแต่ในวัยเด็กอีกครั้ง
นั่นคือ..หมอ.. ><!
เริ่มตั้งเป้าหมายแล้วว่า หมอนี่แหละ คือเป้าหมายที่ชั้นต้องการ
ชั้นอยากทำอาชีพแบบนี้ อยากพบปะคนเยอะ ๆ อยากช่วยคน
อยากเห็นคนมีความสุข และคนมีความทุกข์ อยากเรียนรู้คนมาก ๆ
ต้องสนุกแน่ ๆ เลย และในตอนนั้นก็เป็นแค่ฝันกลางวัน
ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
นอกจากหมอแล้วพี่มองไปอีกสองคณะ นั้นคือวิศวะและบัญชี
ดูเป็นอาชีพคนละทางเลยป้ะ ? แต่วิชาที่ใช้ไม่ต่างกันมากหรอก
ก็ต้องเก่งฟิสิกส์ กับเก่งเลข เพราะพี่เห็นว่ายังไงตัวเองก็ถนัดทางคำนวณกว่าอยู่ดี
น่าจะมองสองอาชีพนี้ไว้ เผื่อว่าถ้าม.6 เกิดเปลี่ยนใจเลิกสนใจหมอ
หรือสอบหมอแล้วไม่ติด เราจะได้ไม่เคว้งไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี
และมีเป้าหมายต่อไป ว่าจะเลือกสาขาอะไรเพื่อเรียนต่อ ^O^
ซึ่งการที่พี่มองอาชีพเหล่านี้ไว้เป็นอันดับสอง อันดับสามนั้น ไม่ใช่ว่าอาชีพนั้นไม่ดี
แต่ ณ ตอนนั้นสิ่งที่พี่อยากเป็นที่สุดคือหมอ
อาชีพนอกนั้นพี่ก็เลยถือว่าเป็นอันดับรองลงมา แม้ว่าจะดีไม่แพ้กันก็ตาม
และแล้วช่วงชีวิตม.5 ที่แสนสนุกก็ผ่านไป
ชีวิต ม.6 ก็กำลังคืบคลานจะเข้ามาอย่างช้าช้าาา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น