>> แนะนำตัว #4 :: กว่าจะมาเป็น.. "กว่าจะ 'ติด' หมอ" [END]" />
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กว่าจะ "ติด" หมอ

    ลำดับตอนที่ #4 : >>> แนะนำตัว #4 :: กว่าจะมาเป็น.. "กว่าจะ 'ติด' หมอ" [END]

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 54


     หัวข้อแลดูเว่อร์ดีจัง ช้อบชอบ >___________<
    หลังจากวันที่ 4 มีนาคมผ่านไป ช่วงชีวิตหลังจากนั้นก็ชิวสบายยยค่ะ
    ก็มีนัดเที่ยวบ้าง นัดกินข้าวบ้าง นัดไปเดินเล่นโรงเรียนบ้าง นอนอืดบ้าง เล่นคอมบ้างอะไรบ้าง
    เคยไหมอ่าบางทีมันรู้สบาย...สบายจน..เกินไป (?)
    มันสบายไปแล้ว ชีวิตชั้นควรจะมีจุดมุ่งหมายอะไรบ้าง

    หลังจากนั่งนอนเพ้อเจ้อมาสองอาทิตย์กว่าก็ทำให้นึกถึงความตั้งใจของตัวเองขึ้นมาได้
    นั่นคือจะเขียนบทความ แนะนำน้อง ๆ ที่อยากเรียนแพทย์
    แค่คิดว่าจะเริ่มโปรเจคนี้ ใจมันก็เต้นดึ้บ ๆ แล้วล่ะ อิอิ
    ความที่ไม่เคยเขียนบทความเป็นชิ้นเป็นอันมาก่อนก็ทำให้รู้สึกกระตือรือร้นที่จะเริ่มเขียนมากขึ้น
    มากขึ้นมากขึ้น จนกลายมาเป็นบทความดังที่พวกท่านเห็นนะฮ้า

    ^O^

    พี่ก็เริ่มร่างคร่าว ๆ ว่าพี่จะเขียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง
    อะไรที่น้อง ๆ มักจะสงสัยและอยากรู้พี่ก็กำลังรวบรวมอยู่
    เพื่อที่จะให้น้อง ๆ ได้ประโยชน์สูงสุดจากบทฟามนี้
    โคตรเศรษฐศาสตร์เล้ย -_-"


    "หน้าที่ของแพทย์เป็นหน้าที่ที่จะได้รับความยากลำบากมาก เหตุฉะนั้นผู้ที่จะเป็นแพทย์จะเป็นได้ด้วยใจ
    ถ้าใจไม่เป็นแพทย์ก็เป็นแพทย์ไม่ได้ที่ว่าจะเป็นได้ด้วยใจนั้นคือ

    หนึ่ง ต้องมีใจกล้าหาญไม่สยดแสยง

    สอง ต้องมีใจมั่นคงหนักแน่นไม่ประหม่าตื่นเต้น

    สาม ต้องมีใจอดทนต่อหิวหาวยากเหนื่อยและโสโครก ไม่เป็นคนฉุนเฉียวและละทิ้งการงานเสียง่ายๆ
    ถ้าผู้ที่จะเป็นแพทย์ไม่ฝึกหัดอัธยาศัยใจตน ให้เป็นได้ทั้ง 3 ประการนี้คือ
    ยังเป็นผู้ใจขลาดหวาดเสียวสยดแสยงอยู่ ก็ย่อมไม่สามารถจะดูหรือจะทำสิ่งอันใดแก่คนไข้และคนตายได้

    ถ้ายังมีความประหม่าตื่นเต้นอยู่ก็ไม่สามารถจะตั้งสติอารมณ์ในการที่จะรักษาไข้ ในเวลาสำคัญ มีตัดผ่าร่างกาย เป็นต้น ใจก็จะเสียมือก็จะสั่นจะทำการตามหน้าที่ไม่ได้

    ถ้าเป็นคนอ่อนแอหรือฉุนเฉียวหิวเข้าหน่อยก็ทนไม่ไหว หาวนอนก็ทนไม่ได้ ทำการยากเหนื่อยก็ท้อถอย และรังเกียจอายสิ่งโสโครกเหล่านี้ ก็ย่อมที่จะไม่สามารถทำการตามหน้าที่ของแพทย์ อันจำจะต้องประสบพบปะและรับรองอยู่เสมอๆ นั้นได้.

    ผู้ที่จะเป็นแพทย์จำจะต้องฝึกหัดใจให้มีธรรมทั้ง 3 ประการคือ ความเป็นผู้ใจกล้าสติมั่นคง ใจอดทนและขับไล่ข้อที่ตรงกันข้ามคือ ความขยาดสยดแสยง ความประหม่าตื่นเต้น ความอ่อนแอและฉุนเฉียวเมื่อได้รับความลำบากเหล่านี้ให้เบาบางไปจนหมดจากสันดานตน เช่นเดียวกับชาวเดินทะเลที่จำจะต้องฝึกหัดตนจนไม่เมาคลื่นฉะนั้น จึงจะเป็นแพทย์ได้".                                                                     

     
    เล็กเชอร์ของเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี 
    ขณะที่ยังมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ ร.ศ. 126


    และพี่ก็อยากให้น้องคิดแบบที่ท่านกล่าวไว้นะ
    อย่าเป็นแพทย์เพราะคิดแค่ว่า คะแนนถึง
    อย่าเป็นแพทย์เพราะคิดแค่ว่า ใคร ๆ จะชื่นชม
    เป็นหมอ ต้องเป็นด้วยใจค่ะน้อง 
    ขอให้รักอาชีพนี้จากข้างในตัวน้อง
    แล้วสิ่งที่น้องตั้งใจ ก็จะเป็นดั่งหวังค่ะ :')

    พี่เป็นกำลังใจให้นะ สำหรับทุกคนที่อยากเป็นหมอ
    น้องมีความฝัน มีความตั้งใจมุ่งมั่นขยัน มีเจตนาที่ดี
    ไฉนแล้วสิ่งที่น้องทำจะไร้ค่าละ ^O^

    พี่คิดเสมอนะว่า
    "จะต้องมีรางวัลให้ สำหรับคนที่มีความพยายามและตั้งใจอย่างแน่นอน"
    หมายถึงว่า สิ่งที่พี่ทำไป จะต้องไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน
    แม้สมมติว่าพี่จะไม่ติดหมอ แต่มันก็ทำให้ได้รู้นะ ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตพี่เคยตั้งใจขนาดไหน
    เคยพยายามขนาดไหนเพื่อสิ่งนี้ และแม้่ว่าจะไม่ติดแต่สิ่งนั้นก็จะเป็นความทรงจำ
    ที่คอยเตือนในอนาคตให้พี่ไม่กลับมาผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง
    และยังเป็นแรงผลักดัน ให้พี่ตั้งใจมากขึ้นไปอีกด้วย

    นี่แหละ รางวัลของพี่ ^O^

    _____________________________________


    แล้วเจอกันในบทต่อไป ย้อนอดีต พฤติกรรม ม.4 นะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×