ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กว่าจะ "ติด" หมอ

    ลำดับตอนที่ #8 : ย้อนอดีต :: ความถนัดแพทย์และชีวิต ม.6 เทอม 2

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 54



    จากบทก่อน พี่กำลังรอเพื่อเผชิญกับสนามสอบต่อไป
    ซึ่งก็คือ ความถนัดแพทย์ นั่นเอง
    (ถ้าน้องอ่านมาตั้งแต่บทแรกก็จะพอเข้าใจคร่าวๆ ว่าความถนัดแพทย์ คืออะไร)

    แต่ถึงยังไงพี่ก็จะอธิบายซ้ำอีกครั้งก่อน
    การสอบเข้ากลุ่มสถาบันแพทย์นั้นจะแบ่งเป็นสอบ ๒ อย่าง
    คือ การสอบความถนัดแพทย์ 30% และการสอบวิชาสามัญ 70%

    ฟังก็งงแล้วป้ะ ความถนัดแพทย์ ? ถนัดอะไรหว่า
    ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถนัดอะไรนะ
    แต่ข้อสอบความถนัดแพทย์นั้นมีคะแนนเต็ม 300 คะแนน
    แบ่งเป็น 3 พาร์ท พาร์ทละ 100 คะแนน
    พาร์ทแรก พาร์ท IQ
    พาร์ทที่สอง คือพาร์ทจริยธรรม
    พาร์ทที่สาม คือพาร์ทเชื่อมโยง

    อืม...จากการวิเคราะห์(ของพี่) สามพาร์ทนี้น่าจะสื่อถึงคำว่าแพทย์อย่างนี้
    พาร์ทแรก การเรียนแพทย์น่าจะต้องฉลาดในระดับนึง ต้องจำได้เยอะ 
    วิเคราะห์เป็น ดัดแปลงเป็น แก้ปัญหาเป็น ฉะนั้นไอคิวต้องดี
    พาร์ทที่สอง คนเป็นแพทย์นอกจากเก่งอย่างเดียวแล้วยังต้องมีคุณธรรม
    จริยธรรมโดยเฉพาะต่อคนไข้มากกว่าอาชีพอื่น  ทั้งรู้ว่าในสถานการณ์แบบไหน
    ควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไรด้วย
    พาร์ทที่สาม งงคำว่าเชื่อมโยงป้ะ? ถ้างงลองไปเปิดข้อสอบ GAT พาร์ทเชื่อมโยงดู
    เชื่อมโยงก็จะคล้าย ๆ การเขียนมายแมพ (แต่ไม่เหมือนนะ)
    อืม..เนื่องจากการเรียนแพทย์จะมีชื่อโรค ชื่ออวัยวะเซลล์ต่าง ๆ เยอะแยะมาก
    และโรคหรือเซลล์หลาย ๆ เซลล์มักมีความเกี่ยวข้องกัน
    เมื่ออ่านไปเยอะ ๆ จะทำให้เราตาลาย เพราะแต่ละอันก็จะมีบางส่วนเกี่ยวข้องกัน
    อย่างละนิดอย่างละหน่อย การที่เราทำแบบย่อเชื่อมโยงไว้
    จะทำให้เราจำบทเรียนต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

    อืม.. น้องอาจจะสงสัยว่า ความถนัดแพทย์นี่มันอะไรอ่า
    แล้วสอบทำไมอ้ะ แล้วทำไมต้องใช้ตั้งสามสิบเปอเซ็นแน่ะ
    หน้าที่ของเราคือต้องสอบค่ะน้อง T______T
    เป็นพาร์ทที่รุ่นพี่(ถ้ามีรุ่นพี่มาแนะนำ)
    มักจะบอกเราว่า น้องไปชิวเลยความถนัดแพทย์
    ไม่จำเป็นต้องอ่าน ความถนัดแพทย์เตรียมตัวไม่ได้อยู่แล้ว
    สิ่งที่น้องควรจะทำให้ดีคือวิชาสามัญ

    งืม..และรุ่นพี่ก็ทำพี่ล่มอีกแร้วค่ะน้อง T___T (โทดรุ่นพี่ไว้ก่อน อุอิอุอิ)
    (ในส่วนรายละเอียดความถนัดแพทย์ แนะนำการเตรียมตัว
    ไว้พี่จะแยกบทตอนหลังน้ะ ตอนนี้เป็นส่วนอัตชีวประวัติ((เว่อร์))
    เลยจะย่อนิดนึง นะจ้ะ นะจ้ะ)
    เพราะแทบไม่ได้เตรียมตัวไป
    ความถนัดแพทย์ของพี่จึงมีคะแนนออกมาเกินมีน(ค่าเฉลี่ย)มานิดเดียว
    อาจจะดูเหมือนไม่มีปัญหา แต่..เข้าหมอนะน้อง..คะแนนมันควรจะสูงกว่านั้น

    ตอนพี่เห็นคะแนนปุ๊บ พี่นั่งนิ่งไปเลยน้อง
    พี่ไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญอีกแล้ว แต่มันนิ่งไปเลย
    อืม..มันไม่ใช่อารมณ์คนท้อ
    แต่เป็นอารมณ์ว่า จะทำยังไงต่อดีนะ..
    ความถนัดแพทย์ 30% วิชาสามัญ อีกตั้ง 70%
    พี่ก็เลยว่ารอสอบวิชาสามัญก่อนดีกว่าแล้วค่อยตัดสินใจตัวเองอีกที
    ตอนนั้นพี่ก็ไปเปรย ๆ กับแม่ว่า อืมแม่..ความถนัดแพทย์ไม่ค่อยดีนะคะ
    โอกาสติดหมอ อาจจะน้อยลง แม่เผื่อใจเยอะๆน้ะ
    จะพยายามนะคะแม่ 
    ......เพราะแม่พี่อยากให้เรียนหมอมาก


    อ่อ ความถนัดแพทย์นั้นสอบประมาณ 30-31 ตุลาคมของทุกปี
    สอบวันเดียวนะ พี่จำวันไม่ได้น่ะ

    จริงๆแล้วช่วงระหว่างนั้นก็เริ่มมีสอบตรงของคณะอื่น
    อย่างที่พี่บอกพี่เล็งวิศวะกับบัญชีไว้
    แต่บัญชีไม่ได้สอบ ไล่สอบแต่วิศวะ
    ก่อนที่จะสอบความถนัดนั้นพี่ก็รู้ผลว่าพี่ติดวิศวะของที่แห่งหนึ่ง
    เอ้อออ วิศวะ s..t เดากันเองนะ ๕๕๕๕
    คนส่วนใหญ่ที่ไปสอบมักจะติดหมด แต่กระนั้นพี่ก็ยังดีใจดีใจ๊ดีใจตอนรู้ผล
    เพราะมันคือสอบตรงอันแรกที่พี่สอบและพี่ก้อติดด้วย >_<

    และหลังจากสอบความถนัดแพทย์เสร็จ ก็รอผลออกประมาณวันที่ 20 พ.ย.กว่าๆ
    ระหว่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลกับอะไร อ่านหนังสือไปเรื่อยๆเพื่อการสอบวิชาสามัญ
    จนประกาศผลความถนัดแพทย์...ที่ทำเอาพี่นิ่งไปเลยเหมือนกัน
    แต่ก็บอกตัวเองว่ามันคือความถนัดแพทย์ 30%
    ที่เราควรจะเอาจริงมากๆคือ 70% ที่เหลือต่างหาก

    ก่อนหน้านี้พี่จะโดนรุ่นพี่ไซโคมาบ้างว่า
    มันมีนะน้อง พวกความถนัดแพทย์เยอะ แล้วทิ้งวิชาสามัญ
    สุดท้ายแล้วก็ไม่ติด พวกนี้มีเยอะซะด้วย (เค้าบอกมา ๕๕๕)
    พี่ก็เลยเดินหน้าต่อไป...

    ช่วงระหว่างเทอมสองนั้น พี่สังเกตคนรอบตัวว่าดูตั้งใจขึ้น
    ขยันขึ้นกันเป็นแถบๆๆๆๆ เอ่อ..บรรยากาศรอบตัวก้อ
    อาจจะมีผลให้เราขยันขึ้นเช่นกัน >_________<

    ช่วงระหว่างนั้นจนถึงก่อนวันสอบหมอนั้นก็จะมีสอบตรงมาเป็นระยะ
    สิ่งที่พี่เล็งไว้สูงสุดสำหรับสาขาที่ไม่ใช่หมอ คือ วิศวะ ฬ
    (ย่องี้ไม่ต้องบอกแล้วมั้งเนี่ยว่าที่ไหน คริคริ)
    ระหว่างนั้นพี่ก็สอบ แล้วก็ติด วิศวะ ไฟฟ้า ลบ 
    ดีใจๆๆ ^______^
    ตอนนั้นก็อ่านหนังสือไปด้วยตลอด
    แต่พี่อ่านแบบ เหมือนอ่านไปเรื่อยๆไม่ได้แบบว่าอ่านเคร่งๆ
    จนกระทั่งผลรับตรง วิศวะ ฬ ออกเมื่อราววันสิ้นปี 30-31 ธันวา
    อืมม.. โชคชะตาก็ไม่ได้เข้าข้างเราตลอดหรอก จริงไหม
    และพี่ก็ไม่ติด รับตรง วิศวะ ฬ

    นี่แหละ คือจุดที่ทำให้พี่เลิกคอมเลิกทีวี เลิกอบายมุขหมด
    อ่านหนังสือตั้งแต่ตื่น หกโมงเช้ายันสองทุ่มทุกวันไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน
    จนถึงวันสอบแพทย์ คือ 22 มกราคม 
    อ่อ ช่วงนั้นเป็นช่วงปีใหม่ปะมันก้เป็นวันหยุดหลายวันนิดนึง
    พอเปิดเทอมมานิดนึงผู้ชายก็ต้องไปรด. หยุดอีกอาทิตย์นึงอีก
    รวมแล้วก็มีวันหยุดเยอะมากกกตลอดช่วงมกราคม
    นอกจากนี้ห้องพี่ยังนัดหยุดอีกหนึ่งอาทิตย์
    รวมแล้วก็หยุดเกือบทั้งเดือนเลยน่ะ

    อืมม....และช่วงนี้ก็คือช่วง ก่อนสอบหมอ ซึ่งจะได้พบกันในบทต่อไปนะจ้ะ >___<


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×