ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กว่าจะ "ติด" หมอ

    ลำดับตอนที่ #11 : หนังสือที่ใช้ในการอ่านสอบ :: ทุกวิชา [99.9%]

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 54


     อาหะะ  ะ ะ  ะ ตามรีเควส ฮ่าๆๆ
    วิชาทั้งหมดที่พี่จะเขียน
    ก็มี เลข อังกฤษ เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ ไทย สังคม

    อ่าหนังสือที่พี่ใช้อ่านนั้น มีทั้งที่พี่เรียนกวดวิชาเอง
    ทั้งที่พี่ชายของพี่ไปเรียนกวดวิชามา(ซึ่งเป็นส่วนใหญ่)
    และหนังสือเสริม ที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน
    คือหนังสือเสริมในที่นี่เกือบทั้งหมดก็เป็นของพี่ชายของพี่อีกเหมือนกันอ่ะ
    สรุปพี่ซื้ออาไรมาใหม่มั่งมั้ยเนี่ย แป่วว ว ประหยัดไว้อ่าดี คริคริ

    เรามาเริ่มที่วิชาสุดเลิฟของใครหลายคน
    และวิชาแสนเกลียดของใครหลายคนดีกว่า า
    อิอิอินั่นคือ

    คณิตศาสตร์..นั่นเอง
    คือปกติแล้วก่อนที่เราจะเริ่มทำข้อสอบอะไรก็ตาม
    เราก็ต้องเข้าใจในส่วนเนื้อหาให้หมดซะก่อน อะป้ะอะป้ะ ><!

    ในส่วนของเนื้อหานั้นพี่อ่านหนังสือเลขของเดอะเบรน
    ซึ่งพี่ชอบน้ะ หนังสือเค้าเจ๋งดีอะ
    เล่มเล็กกว่าเอสี่พอสมควร ตัวหนังสือน่ารัก น่าอ่านม๊ากมาก
    คือเวลาเปิดแล้วรู้สึกอยากอ่านอ่ะ มีวิธีจำแบบศัพท์ตลกๆด้วยอะ
    แต่ว่าหนังสือไม่ได้มีขายทั่วไปน้ะ ก้อต้องเรียนพิเศษของที่นี่อ่า
    และทั้งหมดนี่ก็คือหนังสือของพี่ชายพี่ (อีกแล้ว คิคิ)



    โฉมหน้าหนังสือเลขเดอะเบรน (ของจริงมีหลายเล่มกว่านี้น้ะ)

    และก็เนื่องจากว่าพี่เรียนพิเศษเลขของ อ.อรรณพอยู่สองเทอม คือ ม.5 เทอม 1 และ 2
    พี่ก็เลยอ่านทั้งเดอะเบรนและอ.อรรณพซะเลย
     

    โฉมหน้าหนังสืออ.อรรโน้บ อิอิ

    ซึ่งพี่ว่าดีทั้งคู่นะ ทั้งเดอะเบรนและอ.อรรณพอะ
    คือดีคนละแบบ อ.อรรณพจะออกแนวจริงจังกว่า ได้ความรู้ละเอียดกว่า 
    แต่ถ้าเป็นเดอะเบรนจะออกแนวเนื้อหาน้อยกว่า แต่จะได้แก่นหลักของเรื่อง อาจจะไม่ละเอียดเท่า
    แต่มีมุกแทรก มีวิธีจำขำๆด้วยอ่ะ พี่ว่าเจ๋งไม่แพ้กันนะ

    คราวนี้เรามาดูหนังสือที่หาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไปมั่ง


    และนี่คือ คัมภีร์ ENTRANCE คณิตศาสตร์
    เล่มบักฟา...ยยยยย เลยทีเดียว
    สุทธิแล้ว 1000 กว่าาหน้า
    ซึ่งพี่อ่านทุกหน้า (ไม่ได้โม้ จิงๆน้ะ อิอิ)
    เป็นหนังสือที่ดี คือจุดสำคัญของแต่ละเรื่องเค้าเน้นดีนะ
    แต่ในหลายประเด็นย่อยๆ ก็ออกจะละเอียดเกินไปสักหน่อย
    แบบบางทีเราอาจจะไม่ต้องรู้เนื้อหาละเอียดขนาดนั้นน่ะ
    ก็คือถ้าจะอ่านก็อาจจะต้องเสียเวลาสกรีนนิดนึงว่าเรื่องไหนไม่ค่อยสำคัญ
    แต่โดยรวม เจ๋งดีนะ !
      

    เอ่อ เล่มนี้จริงๆแล้วไม่จำเป็นมากนัก เพราะดูจากด้านบนแล้วเฉยๆป้ะ
    แต่ด้านข้างนี่โคดจะหนาเลย
    เหมาะสำหรับคนที่พื้นฐานไม่ค่อยดี
    อย่างเล่มนี้อ่ะมีเนื้อหาตอน ม.6 เทอมปลายเยอะ
    ซึ่งก็คือเรื่องความน่าจะเป็นที่พี่ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
    พี่ก็มานั่งทำอ่า โจทย์เยอะดี ก็โอเคนะ
    แต่ถ้าน้องไม่มีปัญหากับเรื่องไหนเป็นพิเศษ
    ก็ไม่จำเป็นมากอ่า


    ตะลุยโจทย์ ม.4 5 6
    อย่างเล่มซ้ายพี่ทำเกือบหมดเล่ม ในขณะที่เล่มขวาทำไปไม่เยอะ
    เล่มขวาพี่ว่า โจทย์ออกจะยากเกินไปสักหน่อย
    เล่มขวาเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นโจทย์เอนทรานซ์จากปี 41 42 43 ซึ่งยากเป็นบร้าเยยอ้ะ
    เล่มซ้ายก็คล้ายๆรวมโจทย์เอเนต ซึ่งก็คือโจทย์เอนทรานน่ะแหละ ทั่ว ๆ ไป
    พี่ทำเกือบหมดเล่ม และมันก็ช่วยได้มากจริง ๆ
     

    แต่นแต๊นนน และนี่คือหนังสือที่ทุกคนควรจะมีไว้ในครอบครอง
    15 พ.ศ. นั่นเอง 15 พ.ศ.ก็คือข้อสอบเอนทรานซ์ของปีที่ผ่านๆๆๆมา
    ไม่จำเป็นนะว่าจะต้องมีข้อสอบแค่ 15 ปี อาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่พี่ก็เห็นว่ามีมากกว่านั้นนะ 
    เป็นหนังสือที่ควรทำให้หมดเล่มเป็นอย่างมาก
    เพราะมันจะทำให้เรารู้แนวทางว่าโจทย์ที่นำมาออกข้อสอบเอนทรานซ์นั้นมีแนวโน้มข้้อสอบเป็นยังไง
    และก็ทำให้เราจับจุดได้ด้วยว่าเราควรอ่านตรงไหนเพิ่ม หรือตรงไหนไม่จำเป็นต้องอ่าน

    เออพี่อยากจะแนะนำเพิ่ม เวลาซื้อ 15 พ.ศ.อะ
    อยากให้เลือกหนังสือที่มีสถิติคะแนนของทุกปีมาด้วย
    คือข้อสอบในแต่ละปีอาจจะมีมาตรฐานไม่เท่ากัน
    ซึ่งสิบห้าพ.ศ.บางเล่มของพี่ัเค้าใช้สถิติคะแนนเฉลี่ยเป็นตารางเดียวเลยอ่ะ
    อ่านแล้วงงป้ะ ? คนอธิบายก็งงเหมือนกัน เดียวพี่มีรูปให้ดูในสิบห้าพ.ศ.ของชีวะนะ



    มาถึงวิชาต่อไปกันมั่งดีก่า

    ชีววิทยา

    วิชาที่เต็มไปด้วยการจำ
    >O<!! !
    และหนังสือที่ภูมิใจนำเสนอที่สุด ก็คือ ตะแด้น แต๊น แต๊น
    หนังสือชีววิทยาเล่มนี้ นี่เองงง
       

    คุ้นๆป้ะ ? พี่เห็นน้อง ๆ ม.5 ม.4 เค้ามีกันทุกคนเรยว่ะ
    ยังกะแบบเรียนแน่ะ 555555555555
    แต่ตอนนี้หนังสือเป็นสีน้ำเงินหมดแล้วงะ 
    คือเล่มนี้พี่ซื้อตั้งแต่ตอนหนังสือเพิ่งออกใหม่ๆ ก็เลยเป็นสีแดงเลือดหมู
    เป็นหนังสือที่ คุณพระคุณเจ้าช่วย
    เจ๋งว่ะนาย +++ เจ๋งสุดยอด
    พี่ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด
    แต่จะบอกว่าเล่มนี้เล่มเดียว ทำให้พี่ทำข้อสอบชีววิทยากสพท.ได้เยอะมากกกกก
    เยอะกว่าเคมีกับฟิสิกส์ซะอีก
    เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่า สมควรแก่การนำไปชาบูชาบูเป็นอย่างยิ่ง
    กรี๊ดดดดดดด
    ตอนน้องเปิดหนังสือดู น้องอาจจะรู้สึกว่าหนังสือเค้ามีเนื้อหาน้อยจัง
    ตอนแรกพี่ก็เคยคิดอย่างนั้นน้ะ แต่จากการวิจัยของพี่ผ่านกระบวนการซับซ้อนมากมาย
    พี่พบว่า หนังสือเล่มนี้ เค้าย่อส่วนที่สำคัญและควรจำมาให้เราหมดแล้ว
    หน้าที่ของเราก็คือ จำ จำ จำ จำให้หมดทุกบรรทัดทุกรูป เน้น ทุกบรรทัดทุกรูป
    และทุกแบบฝึกหัดด้านหลังควรทำให้หมดบวกจำให้หมดเป็นอย่างมาก
    คือตอนพี่อ่านก่อนไปสอบอ่ะ พี่แทบจะกลืนเล่มนี้เข้าไปเลยทีเดียว
    แต่ก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่นะ ( เอ๊ะ ยังไง 5555)
       

    อันนี้ก็คือภายในหนังสือคร่าวๆ
    อ่า พี่อยากจะบอกว่าเวลาไฮไลท์หรือขีดเส้นใต้น่ะ
    การที่เรามีสีหลายสี มันก็ดีน้ะ
    แต่น้องเคยไหมเวลาเรามีสีมากเกิน แล้วเราก็นั่งเปลี่ยนสีทุกครั้งที่เราขึ้นย่อหน้าใหม่หรือเปลี่ยนเรื่อง
    มันทำให้เราจดจ่ออยู่กับความงดงามของสี มากกว่าเนื้อหาที่ควรจะจำ
    ในตอนหลังเวลาพี่ขีดพี่เลยจะใช้อย่างมากสามสี
    ส่วนใหญ่จะเป็นสีเดียวหรือสองสี อย่างภาพซ้ายสุดพี่ใช้สีเดียว
    อันไหนสำคัญก็วงไว้เลย
    ส่วนรูปกลางก็ีมีสองสี อันไหนสำคัญก็วงเหมือนกัน เวลากลับมาอ่านจะได้เห็นชัดๆว่าสำคัญ

    ส่วนขวาสุดนั้นเป็นแบบฝึกหัด เวลาพี่ทำข้อไหนผิดพี่ก็จะวงไว้
    ปกติพี่จะทำทีละสิบข้อหรือยี่สิบข้อ จากนั้นก็มาตรวจเช็ค
    พอเช็คเสร็จพี่ก็จะวงข้อที่ผิดไว้ แล้วก็มานั่งดูว่า เออ ทำไมถึงผิดหว่า
    แล้วพี่ก็จะจำตอนนั้นทันทีว่าที่ถูกน่ะเป็นยังไง
    ส่วนข้อที่ผิดพี่ก้วงไว้แบบนั้น ไม่ได้้มาลบทิ้ง
    เพราะในตอนหลังเวลามาเปิดซ้ำพี่จะได้จำได้ว่าพี่เคยผิดตรงนี้ๆๆๆ น้ะ


    และนี่ก็คือหนังสือคอร์ส ICU ของนพ.พิชญ์หรือเจ้บีมนั่นเอง
    อันนี้พี่ก็ไม่ได้เรียนเอง (อีกแล้ว ของพี่ชายหมดเลย)
    คือ ของเจ้บีมอะ จริงๆหนังสือเค้าดีมากนะ
    แต่มันเหมาะที่จะไปนั่งเรียนแล้วเข้าใจ มากกว่าจะมานั่งอ่านจากหนังสือของเค้าด้วยตัวเองน่ะ
    เพราะฟ้อนท์กับรูปภาพนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ -_- ทำให้อ่านยากมาก

    ในส่วนของหนังสือเจ๊บีม พี่ก็อ่านนะ แต่อ่านแล้วจำไม่ค่อยได้
    อาจจะเพราะเนื้อหาละเอียดเกินไปด้วยส่วนนึง ทำให้พี่จับจุดไม่ค่อยถูก
    แต่ปกติเวลาเรียนกับเค้าเค้าจะพูดให้เข้าใจดีนะว่าตรงไหนควรจำไม่ควรจำ
    จากการที่เคยเรียนกับเค้ามาคอร์สนึง พี่ว่าเค้าเจ๋งดีนะ

    แต่ถ้าอยากเป็นสุดยอดนักอ่านเองแบบพี่ เล่มบนโลดเลย

       

    มาถึงเล่มที่สำคัญที่สุดที่ควรทำให้หมดเล่ม
    และนี่คือ 15 พ.ศ. ชีววิทยา ค่ะ
    น้องอาจจะงง อ่าว ไม่เห็นมีคำว่า 15 พ.ศ.เลย
    เอาเป็นว่าเป็นหนังสือข้อสอบเก่าน่ะ

    ทางขวาก็คือตารางค่าสถิติคะแนนแบบที่พี่บอกอ่ะ
    ช่องแถบฟ้าๆๆ มันจะเป็น 0-10 11-20 22-30
    ส่วนด้านบนจะเป็นปี 43 44 45 46
    ซึ่งบางเล่มเค้าไม่มีมาแจกแจงปีอย่างนี้
    แต่พี่ว่าสำคัญมาก เวลาเลือกซื้อ คือข้อสอบแต่ละเล่มก็เหมือนกันอยู่แล้ว
    ก็เลือกเล่มที่มีตารางอย่างนี้ดีกว่านะ
    เวลาทำข้อสอบเก่าเสร็จ จะได้เห็นภาพอันดับที่แท้จริงของตัวเอง
    ที่ใกล้เคียงกับของจริงมากกว่าตารางที่เค้าเฉลี่ยคะแนนมาแล้วน่ะ

    ________________" หลังจากผ่านชีวะมาแล้วเราก็มาเจอกับวิชาในหมวดวิทย์วิชาต่อไป
    นั่นคือ

    เคมี

    โอวววววว ว...
    เป็นวิชาสุดหินหากไม่เข้าใจและไม่มีพื้นฐานม.4 ที่แน่นพอ
    แต่จะเป็นวิชาที่ง่ายและน่าทำ ถ้ามีพฐ.ที่ดี
    นั่นละนะ..
    มาดูหนังสือที่พี่อ่านดีกว่า



    ของจริงมีหลายเล่มกว่านี้พอสมควร

    หลายคนก็คงจะคุ้นกับหนังสือรูปร่างแบบนี้ เคมีอาจารย์อุ๊นั่นเอง
    อันนี้เป็นกวดวิชาอย่างเดียวที่พี่เรียนเกือบหมดทุกคอร์ส
    ถึงเวลาสอนอาจารย์อุ๊อาจจะไม่มีมุขตลกมากเหมือนหลายๆที่ แต่พี่ว่าอาจารย์อุ๊เค้าสอนดีอ่า
    เป็นครูสอนพิเศษที่ให้ความรู้สึกว่าเค้าเป็น ครู จริงๆ
    ก็เพราะเค้าเคยเป็นครูมาก่อนด้วยล่ะ
    เวลาเรียนก็อบอุ่นดีๆ (นี่ตรูโฆษณาที่เรียนพิเศษปะฟะ)
    ก็โอเคอ่ะ 
    เนื้อหาส่วนใหญ่ของเคมีพี่อ่านจากอาจารย์อุ๊หมด

     

    คัมภีร์ ENTRANCE เคมี
    มานมาอีกแล้วค่ะท่านผู้ช๊มมมมมมม
    คัมภีร์สุดโหดความหนาเกือบพัน หรือพันหว่า ของอ.สำราญ
    เป็นหนังสือที่หาซื้อได้ทั่วไป คิดว่าน้อง ๆ คงเคยเห็น
    และพี่ว่าหนังสือนี้ดีนะ ในหลายประเด็นก็ละเอียดดีอะ
    แบบไม่ใช่ละเอียดเกินไป อ่านแล้วรู้เรื่องดี
    โดยส่วนตัวพี่อ่านเป็นบางเรื่องน่ะ อย่างเคมีอินทรีย์ ไอโซเมอร์ พี่ก็อ่านจากเล่มนี้
    ถ้าอยากให้เทียบระหว่างอาจารย์อุ๊กับเล่มนี้
    พี่ไม่อยากตอบแบบนางงามเยยอ่ะ
    แต่จะบอกว่า
    ดีพอๆกันเลย แล้วแต่คนชอบค๊าา า ^O^



    โฉมหน้าสิบห้าพ.ศ.เคมี หรือข้อสอบ ENTRANCE เคมีนั่นเอง
    ควรมี และควรทำให้เยอะๆๆๆเป็นอย่างมาก
    ไม่ต้องกลัวจำข้อสอบได้
    ทางที่ดีจำข้อสอบไปเลยยย

    และก็มาพบกับวิชาวิทย์ตัวสุดท้ายยย อ๊ายอ๊ายย
    นั่นก็คือ

    ฟิสิกส์

    PHYSICS~
    วิชาที่ว่าด้วยแขนกลคนมหัศจรรย์ (?)
    ห้ะ (?) งง เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยละกัน 55555
    ในส่วนเนื้อหาของฟิสิกส์นั้นพี่อ่านจากหนังสือแอพพลายเป็นส่วนใหญ่
    ซึ่งหนังสือส่วนใหญ่ไม่ใช่ของพี่นะคะ

       

    ของจริงมีเยอะกว่านี้พอสมควร
    แอพพลายมีข้อดีที่หนังสือเล่มบางเบา
    แล้วก็สรุปประเด็นหลักสำคัญของเรื่องชัดเจนดี
    แต่คนที่เรียนอาจจะต้องหัวเร็วนิดนึงอะ
    เพราะเวลาสอนเค้าจะให้ประเด็นใหญ่ๆมา
    แต่น้องต้องมีความสามารถในการประยุกต์ให้เป็น
    คือเค้าจะไม่ได้มานั่งบอกละเอียดเว่อร์ๆนักว่า หัวข้ออย่างนี้จะสรุปเป็นประเด็นย่อยๆอะไรได้บ้าง
    เพราะพี่เห็นบางที่เค้าแยกประเด็นย่อยแบบว่ายิบมากอะ
    ซึ่งพี่ว่าแล้วแต่คนนะว่าจะชอบเรียนที่ไหน
    เดี๋ยวนี้พี่ก็เห็นมีที่เรียนพิเศษฟิสิกส์หลายที่
    ถ้าอยากจะเรียนก็ลองไปดูหลายๆที่แล้วก็หาที่ที่เหมาะกะน้องเน้อ
    ส่วนตัวพี่ชอบที่นี่น้ะ ^O^



    มีตะลุยโจทย์เลข A-net ไปแล้วก็ต้องมีตะลุยโจทย์ ฟิสิกส์ A-net สินะ
    ตะลุยโจทย์ฟิสิกส์นั้นมีจำนวนข้อที่มากกว่าตะลุยโจทย์เลขมาก
    ในส่วนตะลุยโจทย์เลขนั้นเฉลี่ยจะมีจำนวนข้อ 40 ข้อต่อหนึ่งบทซึ่งเหมือนคัดสรรมาแล้วว่าเป็นโจทย์ที่จะออกเอนท์
    (ซึ่งจริงๆตะลุยโจทย์พวกนี้ก็เหมือนการนำข้อสอบเอนท์มาแยกเรื่องแล้วก็รวมเล่มให้เราน่ะ)
    ในส่วนตะลุยโจทย์ฟิสิกส์นั้นจะมีจำนวนข้อเฉลี่ย 100 ข้อต่อหนึ่งบท
    ซึ่งมีถึง 20 บท อุแม่จ้าว
    ถ้าทำหมดเล่มนี่คงต้องไปนอนหยอดน้ำเกลืออ่า

    พี่แนะนำว่าให้หาหนังสือเนื้อหาดีๆอ่านสักเล่ม แล้วทำโจทย์ในแต่ละเล่มให้เข้าใจ
    ถ้าบทไหนไม่เข้าใจจริงๆถึงจะมาทำตะลุยโจทย์เล่มนี้ดีกว่า
    คือตะลุยโจทย์ฟิสิกส์ต่างจากเลขตรงที่
    ตะลุยโจทย์ฟิสิกส์อาจจะไม่ใช่โจทย์จากเอนทรานซ์เสมอไปเหมือนกับตะลุยโจทย์เลข
    แต่เป็นเหมือนการรวมโจทย์จากที่ไหนไม่รู้มาเยอะๆ
    ซึ่งพี่ก็ว่าดีอะ ถ้ามีเวลามากพอ
    แล้วก็โจทย์ในนี้ส่วนมากจะเป็นโจทย์ที่แทนค่าแล้วออกเลย
    โจทย์ยากๆจะอยู่ข้อหลังๆ คือถ้าน้องซื้อมาน้องจะเห็นอะว่าโจทย์มันเรียงตามเนื้อเรื่องย่อยๆในนั้น
    อย่างสมมติเรื่องคลื่นงี้ มี 100 ข้ออะ ในร้อยข้อนั้น เช่น
    25 ข้อแรกเป็นเรื่องคลื่นเสียง ข้อยากๆจะอยู่ประมาณข้อ 20-25
    ข้อ 26-50 เป็นคลื่นแสง ข้อที่ยากๆจะอยู่ประมาณข้อ 46-50 อะ
    ทั้งหมดนี้สมมตินะ นึกภาพออกแล้วป้ะ

     

    นี่ก็คือคัมภีร์สุดหนาอีกเล่มเช่นกัน
    เป็นหนังสือเนื้อหาที่พี่ว่าก็โอเคอ่า
    พี่มาใช้อ่านมากๆเรื่อง ฟิสิกส์อะตอมกับฟิสิกส์นิวเคลียร์
    ก็ใช้ได้น้ะ อาจจะมีบางตอนละเอียดไปนิดนึง

     

    ปิดท้ายด้วย 15 พ.ศ. ฟิสิกส์เช่นเคยย
    อ่า สำหรับฟิสิกส์พี่ติงไว้หน่อยว่าข้อสอบอาจจะง่ายไปนิดนึง
    (?) ไม่ใช่เพราะว่าพี่ถนัดวิชานี้
    แต่เป็นเพราะโจทย์ส่วนใหญ่เป็นการแทนค่าตอนเดียวแล้วจบ
    ซึ่งโจทย์สอบหมอยากกว่านั้นอะ
    พี่ว่าถ้าอยากทำคะแนนดีในส่วนของฟิสิกส์นั้น
    ลองไปหาอ่านในหนังสือ พฐ.วิศวะ เพิ่มก็ดีนะ
    แต่สำหรับพี่ พี่อ่านคัมภีร์ฟิสิกส์บวกกับแอพพลายพี่ว่าก็พอน่ะ

    เวลาอ่านฟิสิกส์น่ะ ไม่ใช่อ่านแต่เนื้อหานะ น้องต้องอ่านไปทำโจทย์ไปด้วย
    เพราะพี่เคยอ่านเนื้อหาเฉย ๆ พร้อมกับอ่านโจทย์แล้วจำไม่ค่อยได้อะ
    อ่านไปทำไปอะเวิร์คสุด ๆ

    อ่าน้ะ เราก็มาพักสมอง(ตรงไหน?)กับสองวิชานี้กันดีกว่า

    ภาษาไทยและสังคม

    เป็นวิชาที่ไม่ควรละเลย ถึงจะมีน้ำหนักเพียงอย่างละ 10% ก็ตาม
    เริ่มกันที่ภาษาไทยก่อน

      

    แหะ ๆ อันนี้เป็นวิชาเดียวที่อ่านเฉพาะจากที่เรียนพิเศษเลย
    ดาว้องของอ.ปิงนั่นเอง
    อันนี้ก็ไม่ใช่หนังสือพี่น้า
    เคยได้ยินว่าภาษาไทยของดาว้องดี ก็ดีจริงๆน่ะแหละ
    ส่วนหนึ่งเพราะว่าเนื้อหาวิชาภาษาไทยนั้น ไม่ค่อยมีอะไรเพิ่มเติมมากนัก
    ที่ผ่านมาออกข้อสอบยังไง ก็ออกยังง้านแหละ



    นี่ก็คือคลังข้อสอบภาษาไทยและสังคมซึ่งเรียงเรื่องไว้แล้ว
    ไหนๆก็พูดถึงสังคมแล้วก็มาพูดถึงหนังสือที่ช่วยชีวิตพี่ดีกว่า




    _______________สมมติว่าเป็นรูป (ยังไม่ได้ถ่าย)






    และนี่ก็คือหนังสือสังคมศึกษาครูป๊อบ มีขายตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป
    สรุปไว้ดีมากกกก ถึงมากที่สุด
    รวมทั้งใช้ภาษาที่น่าอ่านด้วยอ่ะ
    สำหรับสังคมนี่ก็ไม่มีอะไรมาก
    อ่านแล้วก็จำแบบทื่อๆ เพราะข้อสอบส่วนใหญ่ก็จะถามทื่อๆ เช่นกัน



    ทั้งสองเล่มนี้ก็คือหนังสือข้อสอบเก่าเหมือนกัน แต่เล่มขวามี 7 พ.ศ.แต่จะมีทั้งไทยและสังคม
    เล่มซ้ายจะหนากว่า มีหลายพ.ศ.กว่า แต่มีเฉพาะภาษาไทย
    ไม่ควรละเลยกับสองวิชานี้
    เพราะอาจเป็นวิชาดึงคะแนนน้องขึ้นก็ได้น้ะ

    มาถึงวิชาสุดท้ายที่พี่ทำคะแนนได้มากที่สุด

    ภาษาอังกฤษ

    จริงๆแล้ววิชานี้พี่ไม่ค่อยมีอะไรจะแนะนำ
    เพราะเป็นวิชาที่เรียนแล้วสะสมมาตั้งแต่เด็ก
    คือต้องใช้ประสบการณ์ของน้องๆ มาทำอ่ะ
    อย่างที่บอกพี่เรียนโรงเรียนรัฐธรรมดา
    ภาษาอังกฤษก็เลยอาจจะไม่เก่งนัก
    แต่พี่ภาษาอังกฤษดีขึ้นได้เพราะอ่านมากขึ้น ทำโจทย์มากขึ้น
    และสำคัญมากๆพี่ท่องศัพท์มากขึ้น (กำ)
    คือ อย่างเวลาน้องอ่านบทความภาษาอังกฤษ (Passage) 
    น้องอาจจะเคยว่าอ่านจนจบเรื่องแล้ว
    มันแปลว่าอะไรหว่า..?
    สำคัญมากในการอ่านบทความอะไรรู้เรื่องนั้น
    เราก็ต้องรู้ศัพท์ก่อน
    ซึ่งศัพท์สมัย ม.3 กับสมัย ม.6
    เมื่อเทียบจากมาตรฐานโรงเรียนรัฐที่ไม่ได้อยู่โครงการอังกฤษแล้วยิ่งค่อนข้างจะฟ้ากับเหว
    ยิ่งภาษาอังกฤษนั้นสายวิทย์ส่วนใหญ่จะเรียนอ่อนกว่าสายศิลป์
    เพราะสายศิลป์เรียนเยอะกว่า เราก็ยิ่งต้องฟิตมาก ๆ
    ที่น้องควรทำก็คือท่องศัพท์ ท่องไปนั่นแหละพี่ท่องรวม ๆ แล้วน่าจะเกินพันคำมั้งน่ะ
    ท่องทุกวัน ว่าง ๆ ก็หยิบมาดู ตอนหลังก็จำได้เองอ่า
    ศัพท์ที่พี่ท่องนั้นก็เป็นของครูสมศรีหมดเลยยย ทั้งจากของตัวเองคอร์สนึง และจากของเพื่อนอีกหลายๆคอร์ส -_-"
    ซึ่งการท่องศัพท์อาจจะใช้เวลานิดนึง ขอให้น้องอดทนน้า

       

    อ่าวกำ? หนังสือเล่มนี้เกี่ยวยังไงเนี่ย
    อิอิไม่ได้โฆษณาสถาบันน้า
    แต่จะบอกว่าเล่มนี้พี่ใช้จดศัพท์ค่ะ

      

    พี่จะจดเฉพาะคำภาษาอังกฤษ ไม่ได้จดคำแปลเลย คำแปลอยู่อีกเล่ม 
    เพราะพี่เคยท่องแล้วมีคำแปลอยู่ข้าง ๆ
    พอจะเริ่มอ่านศัพท์ทีไร ตามันต้องเหลือบไปดูคำแปลก่อนทุกที 5555555555
    เลยทำให้การท่องศัพท์ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ -____-"



    พี่เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่าสมุดจดที่พวกรุ่นพี่มาขายจากมหาลัยต่าง ๆ อ่า
    พี่ซื้อของธรรมศาสตร์เป็นที่แรกเลย
    เลยทำให้พี่ได้มาอยู่ธรรมศาสตร์แน่ๆเยย ฮ่าๆๆๆ ว่าไปนั่น

     

    คราวนี้พี่ไม่ได้ปิดท้ายด้วยสิบห้าพ.ศ.เน่อ ยังมีอีกเล่มอยู่ข้างล่าง
    อืม..พี่อยากจะบอกว่าหนังสือเสริมอังกฤษทั้งหลายอ่าไม่จำเป็นเลย
    สิบห้าพ.ศ.ภาษาอังกฤษเล่มเดียว เพียงพอค่ะ
    ทำให้ครบทุกปีละกัน ในเล่มนี้มีตั้งแต่ปี 32 33 เลยมั้ง
    คือจะบอกว่าสิบห้าพ.ศ.ของแต่ละวิชาความยากง่ายไม่เหมือนกันนะเพราะคนออกข้อสอบก็ต่างแล้วอะ
    อันนี้พูดถึงเฉพาะภาษาอังกฤษ คือ ช่วงตั้งแต่ปี 40 ลงมาข้อสอบภาษาอังกฤษจะยากมากๆ
    แต่พอปี 40 ขึ้นไป ซึ่งรู้สึกปีนั้นเค้าเปลี่ยนระบบมั้ง
    ข้อสอบอังกฤษง่ายขึ้นเยอะเลย
    ซึ่งแม้ว่าอังกฤษในปัจจุบันจะไม่ยากเท่าปี 36 37 แต่ว่าทำไว้เหอะ ไม่เสียหาย
    อนาคตเค้าอาจจะกลับมายากอีกก็ได้น้ะ
    มีความรู้ให้ครอบคลุมน่ะดีแล้ว

    จะติดอยู่อย่างที่ 15 พ.ศ.ไม่มีให้เรา
    นั่นคือข้อสอบ errors ค่ะ

       

    พี่ก็ไปหาซื้อเพิ่มมา เล่มนี้แพงมากอ่า แง๊งๆๆ

    สำหรับอังกฤษที่พี่พูดถึงทั้งหมดนั้นเป็นแค่การอ่านจับใจความกับแกรมม่าแบบไม่ละเอียดมากนิดหน่อย
    แต่ถ้าอยากได้แกรมม่าเยอะๆจริงๆก็ต้องลองหาหนังสือแกรมม่าอังกฤษดีๆมาอ่านดูอะ
    ตอนนั้นพี่ยืมหนังสือห้องสมุดมาอ่าน แต่คืนไปแล้วเน่อ

    คือในข้อสอบกสพท.อะ อังกฤษเค้าออกข้อสอบแนวแปลกๆ
    มีการเรียงประโยคด้วย ซึ่งหลายๆข้อพี่ไม่เคยเห็นออกข้อสอบแบบนี้มาก่อนเลย
    ก็หาแกรมม่าดูเพิ่มกันน้ะ

    สุดท้ายนี้น้องจะมีหนังสือเสริมหรือหนังสือหลักในการอ่านกี่เล่มก็ตาม
    สิ่งที่น้องควรให้ความสำคัญที่สุดคือการทำข้อสอบเก่า

     

    ทำๆๆๆทำให้หมดเลยยยยยยยยย ย ย ย 
    สู้สู้น้า ^_____^

    แถมๆ ตัวอย่างหนังสือสอวน.เคมี
    เผอิญพี่ขุดเจออะเลยถ่ายมาด้วย

     

    จริงๆมีอีกสองเล่ม ต้องนั่งหาอีกสักพัก
    เผื่อใครสนใจอยากเข้าสอวน.เคมี >___<

    ____________" เกือบจะจบแร้ะ


    ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ (หรือเค้าเปิดข้ามมาอ่านกันเลยหว่า)
    ขอบคุณทุกคนเพื่อที่จะบอกว่า บทความนี้...คงมีเนื้อหาต่อ อีกยาวเลย - -"
    อ่านมาเยอะแล้วเหนื่อยกันป่าววว
    เหนื่อยก็ทนแล้วก็อ่านกันต่อไปน้ะ ฮ่าๆๆ

    ขอบคุณที่ทนอ่านคำบ่นแปลก ๆ อย่างเช่น
    อุอุอิอิงุิงิคริคริฮ่าๆคุคุคิคิ ฯลฯ อีกมากมาย
    ซึ่งคนทั่วไปก็คงพูดจาภาษามนุษย์กันมากกว่านี้อ่า 555555555 ทำไปได้

    ขอบคุณที่ติดตามน้ะคะ

    และก็เราจะนำท่านไปสู่บทต่อไปกับ..
    FAQ :: คำถามที่คนมักสงสัย
    อาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ดูก่อนน้า

    ขอบคุณอีกครั้ง T____T ซาบซึ้ง

    _______________________99.9% ยังเหลือลงรูป -*-

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×