ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ย้อนอดีต :: ชี้ชะตา ณ วันสอบหมอ
อ่าพี่จะแจงคร่าวๆก่อนว่าคำว่าวันสอบหมอของพี่นั้น คือวันสอบวิชาสามัญ
ซึ่งวิชาสามัญนี้มีน้ำหนักถึง 70% บวกกับความถนัดแพทย์ 30% ที่สอบไปแล้ว
วิชาสามัญนี้แบ่งออกเป็น 5 วิชา (ซึ่งพี่ได้ข่าวว่าปีน้องๆจะแบ่งเป็นเจ็ดน้ะ
เพราะวิทยาศาสตร์แยกออกมาเป็นสามวิชา)
คือ
วิทยาศาสตร์ 40%
คณิตศาสตร์ 20%
ภาษาอังกฤษ 20%
สังคมศึกษา 10%
ภาษาไทย 10%
ในส่วนของวันแรกนั้นสอบสี่วิชา แบ่งเป็น 3 ช่วง
ช่วงเช้า คณิตศาสตร์ สองชั่วโมง
ช่วงกลางวัน ภาษาอังกฤษ สองชั่วโมง
ช่วงบ่าย ภาษาไทยและสังคม สองชั่วโมง
และวันที่สองสอบวิทยาศาสตร์ แบ่งเป็น 2 ช่วง
ช่วงเช้า วิทย์ หนึ่ง
ช่วงบ่าย วิทย์ สอง
ซึ่งน้องอาจจะงงว่าไอวิทย์หนึ่งวิทย์สองนี่ต่างกันยังไงอ่า ?
สำหรับปีก่อนหน้าพี่นั้น พี่ทราบมาว่าวิทย์หนึ่งนั้นง่ายกว่าวิทย์สองมาก
แต่ในปีพี่นั้น พี่พบว่าวิทย์หนึ่งกับวิทย์สองแทบไม่แตกต่างกันเลย
คือวิทย์หนึ่งนั้นง่ายกว่าในแง่เนื้อหา แต่พอมานั่งคิดแต่ละข้อ
ก็ต้องนั่งวิเคราะห์กันขี้แตกขี้แตนไม่ต่างจากวิทย์สองเท่าไหร่
และสำคัญมากคือ ในปีก่อนพี่นั้น อะไรที่ออกข้อสอบในวิทย์หนึ่งแล้ว
จะไม่นำมาออกในวิทย์สอง
ซึ่งปีพี่ก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน
________________" 10%
บรรยายไปคร่าวๆแล้วพอเข้าใจกันแล้วน้า
ย้อนไปก่อนวันสอบนิดนึง 5555
ก่อนหน้านั้นพี่เคยขอแม่ครั้งนึงว่า อยากไปบนที่่พระพรหมเอราวัณ
เห็นมีเพื่อนบนหลายคนก็เลยอยากบนมั่งอ่าละ
ตอนแรกก็เหมือนจาได้ไปอ่า ไปๆมาๆไม่ว่างซะงั้น
พี่ก็แบบว่า...สอบครั้งนี้ ไม่บนก็ได้เนอะ
ทุกอย่างต้องเกิดจากตัวของช้านเอง (ประมาณนั้นเลย)
โอเคเรากลับมาวันสอบก่อน คืนนั้นพี่ก็นอนตามเวลาปกติ
เช้าวันสอบพี่ก็ตื่นเช้ากว่าปกตินิดนึงเพราะตั้งนาฬิกาไว้
เพื่อที่จะมาดูเลขเพิ่มอีกจิ๊ดดดดดดดดดดดนึง(เพื่อความอุ่นใจง้ะ งุงิ)
อะ และพี่ก็ออกเดินทางไปสนามสอบโดยมีคุณพ่อเป็นสารถี
ด้วยความงงเล็กน้อยถึงปานกลางก็แล่นเลยสนามสอบไปเฉ้ย(กำ)
เลยต้องขับรถยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ(แป่ว)
แต่ความที่ออกจากบ้านเช้าก็เลยมีเวลาเหลือเฟือ
อิอิ สนามสอบของพี่ก็คือ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ รังสิต ค่ะน้อง
อะไรจะเหมาะเจาะเหมาะเหม็งขนาดนี้น้ะ กรี๊ดดดดดด
ความที่พี่ไม่ได้ไหว้บนไหว้ขออะไรที่ไหนมาก่อนเลยแม้กระทั่งที่โรงเรียน
อาจจะเพราะลืมด้วยเพราะมัวแต่คิดเรื่องว่าจะอ่านหนังสือยังไงให้ทัน
พอพี่มาถึงที่ธรรรมศาสตร์พี่ก็นึกขึ้นได้ว่าที่นี่มีรูปปั้น ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
พี่ก็ให้พ่อส่งหน้ารูปปั้น ศ.ดร.ป๋วย แล้วพี่ก็ไหว้ท่านค่ะ
พี่ไม่ได้บนนะ แต่พี่ขออ่า
พี่ขอว่า พี่อยากติดหมอจริงๆ หมอที่ไหนก็ได้ แล้วพี่สัญญาว่าพี่จะตั้งใจเรียนมากขึ้น
จะตั้งใจฟังครูสอนมากขึ้น จะเป็นหมอที่ดี ตั้งใจรักษาคนไข้
พอพี่ไหว้ท่านเสร็จก็อุ่นใจขึ้นนิดนึง ^_____^
แล้วพี่ก็เดินเข้าสนามสอบค่ะ
อืมม..อยากบอกว่าสนามสอบที่ธรรมศาสตร์นั้นคนเยอะจริงๆ
ตอนพี่เดินไปนั้นคนเยอะมากกกกกก...หลายพันคน
ณ ตอนนั้นถ้าพี่จะคิดว่า โอ้โห มีคนอยากเข้าหมอเยอะขนาดนี้แล้วเราจะไหวไม๊เนี่ย
ก็คิดได้น้ะ แต่มันคงบั่นทอนกำลังใจพิลึก
ในขณะที่ตอนนั้นพี่ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่าคนเยอะจัง ตรูจะเดินเข้ายังไงดี 55555
อ่อช่าย อยากจะบอกว่าวันสอบพี่ไม่ตื่นเต้นเลยย
ความที่ผ่านสนามสอบทั้งแกทแพทสอบตรงมาหลายที่ หลายครั้ง
ก็เลยไม่ได้ตื่นเต้น กับการเดินเข้าสนามสอบที่มีคนเป็นล้านแบบนี้ (เว่อร์สุดๆ)
พอไปถึงหน้าห้องสอบ พี่ก็นั่ง(กับพื้น)รอห้องสอบเปิดนั่นละ
รู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีสมาธิมาก ไม่รู้ทำไม
แล้วก็มีสติมากกว่าเคย รู้สึกว่าวันนี้ละต้องเป็นวันของเรา (ย๊ากกก)
แล้วอาจารย์ก็เปิดประตูห้องสอบค่ะ
ก่อนเดินเข้าเค้าก็จะเช็คบัตรประจำตัวประชาชนกับบัตรสอบว่าเรานำมาหรือเปล่า
เน้นเลยนะว่าต้องบัตรประจำตัวประชาชน เพราะถ้ามีแต่บัตรนักเรียนมักจะมีปัญหาค่ะ
อยากจะบอกว่าตั้งแต่สอบมาหลายที่ นี่
พี่ไม่เคยเห็นที่ไหนคุมสอบเข้มงวดเท่าการสอบแพทย์มาก่อนเลย
คนคุมสอบทุกคนซีเรียส และเคร่งเครียดมาก !! ไม่ได้เครียดขำๆนะ เค้าเครียดกันจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีการปั๊มลายนิ้วมือทุกครั้งที่เข้าสอบแต่ละวิชาด้วย
แล้วก็ต้องปิดมือถือ ถอดแบตนำใส่ถุงพลาสติกที่เค้าให้แล้ววางไว้หน้าห้อง
คือ ห้องสอบที่ธรรมศาสตร์จะเป็นห้องโถงใหญ่ๆ ห้องเลคเชอร์อ่ะ
ที่นั่งต่างๆเหมือนเวลาเราดูหนัง เป็นชั้นอย่างนั้นล่ะ
ดูหรูหราไฮโซมวาก มีแอร์ด้วย 5555555555 โฆษณาเสร็จสรรพ
ก่อนจะไปที่นั่งสอบพี่ก็หยิบมือถือถอดแบต ถอดซิม ใส่ถุงพลาสติก
แล้วก็นำไปประเคนให้ครูคุมสอบ (ฮือฮือมือถือนู๋)
จากนั้นก็ไปนั่งประจำที่ รอเปิดข้อสอบ
รอรอเวลา... 8.30น. เพื่อสอบคณิตศาสตร์เป็นวิชาแรก
วันนี้พี่ห้อยพระ ติดพระเกี้ยว(สัญลักษณ์รร.พี่)องค์จริงที่ชุดนักเรียน
ใส่นาฬิกาใหม่ที่พ่อให้ แล้วก็ไหว้ดร.ป๋วย
คงจะช่วยให้พี่ทำข้อสอบได้บ้างน้ะ
(ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวเลยนะเนี่ย 55555 ช่วยทางจิตใจค่ะน้อง)
อ่อใช่ ตอนเช้ากินซุปไก่สกัดมาด้วย คริคริ
โด๊ปกันเต็มที่ >____<
เป๊งงง 8.30 น. ขณะนี้เวลาแปดนาฬิกาสามสิบนาที ให้นักเรียนเปิดข้อสอบได้
พี่ก็แกะๆๆไอที่เค้าติดก๊อดเทปไว้แล้วก็เปิดดูข้อสอบ
อะพี่ก็เปิดทุกหน้าเลยยย ดูสภาพข้อสอบ
พอเปิดดูคร่าวๆแล้วพี่ก็พบว่า..
มันไม่ยากนี่หว่า !!!! ง่ายกว่าปีก่อนราวฟ้ากับเหวเลย (เพราะปีก่อนยากแบบระดับโอลิมปิกเลย)
กรี๊ดดดดดด งั้นเราก็ทำได้น่ะสิ อ๊าๆๆ แล้วพี่ก็นั่งทำๆๆๆไป
อ่อ ข้อสอบเลขมี 25 ข้อค่ะ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
ข้อละ 4 คะแนน แทบอ้วกกันเลยทีเดียว 555555555555
ตอนทำเสร็จพี่ก็แบบ อ๊า สุดยอด ชั้นมีเวลาเหลือด้วยอ่ะ
ก็เลยนั่งทวนข้อสอบ พบว่าคิดผิดไปสองสามข้อ ดีนะที่ชั้นทวนเนี่ย T_T
ระหว่างทำก็จะมีครูคุมสอบเดินมาให้เราเซ็นชื่อพร้อมกับปั๊มลายนิ้วมืออ่า
ขณะนี้เหลือเวลาอีก 15 นาที จะหมดเวลาทำข้อสอบ...
ปั่นๆๆๆๆๆๆ
นักเรียนทุกคนกรุณาวางดินสอและปากกาค่ะ
หมดเวลาซะแร้ว T_T 10.30 น.
หลังจากนั้นช่วงนี้ก็จะเป็นเวลาไปหาอะไรรับปะทานค่ะ
มีเวลากินข้าวอยู่หนึ่งชั่วโมงต้องใช้ให้คุ้มค่า ย๊ากก
ก่อนจะกลับมาเจอกันเวลา 11.30น. เพื่อที่จะสอบภาคกลางวันในวิชาภาษาอังกฤษ
11.30-13.30น. พักอีกหนึ่งชั่วโมง แล้วก็สอบสังคมไทยอีกทีเวลา 14.30-16.30น. ค่ะ
โอเคคค
มาถึงการสอบภาษาอังกฤษ พี่ก็เดินมาห้องสอบพร้อมกะเพื่อน
แล้วก็นั่งรอหน้าห้อง เพื่อเจอการสอบสุดหินในวิชาต่อไป ฮือฮือ
พอห้องสอบเปิดก็เหมือนเคย ตรวจบัตรประชาชนตรวจบัตรสอบ
พอเข้าไปก็ถอดซิมถอดแบตใส่ถุงนำไปวางที่ๆเค้าจัดให้
อ่ะๆๆ เสร็จนั่งที่เรียบร้อย
ก็รอเวลาเปิดข้อสอบค่ะ
ตรุ๊ด ตรุ๊ด ขณะนี้เวลาสิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาที ให้นักเรียนเปิดข้อสอบได้
พี่ก็เปิดๆๆๆดูข้อสอบทั้งหมดคร่าวๆก่อน พี่ก็พบว่า..
โอ้วมายก็อด ชั้นไม่เคยเห็นข้อสอบแนวนี้มาก่อน ออลมายไลฟ์เลยทีเดียว
ข้อสอบ 100 ข้อ แบ่งเป็นประมาณอย่างละสิบนะ ถ้าจำไม่ผิด
เช่น สิบแรกเป็นเออเร่อ สิบต่อหน้าเป็นแพสเสจ
สิบต่อมาเรียงประโยค สิบต่อมาโวแคบ สิบต่อมาเช็คคำผิด(?)
ประมาณนั้นอะ คือแบบว่าแปลกมากๆ พี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
พอเห็นแล้วก็อึ้งไปนิดนึงก่อนที่จะเริ่มทำ
อืม..ตอนทำก็ไม่มีอะไร ห้องเงียบอย่างเคย ทำไปเรื่อยๆ
เรื่อยๆ เรื่อยๆ....
.....ตะแด๊ดแตแด๊ด แต๊ดแตแด๊ด แต๊ดแตดดด (อินโทรเพลง ตอบได้ไหมว่าได้ไหม)
เฮ้ย ทำไม เพลงมันเหมือนเพลงนาฬิกาปลุกในมือถือชั้นจนน่าตกใจ
กำ ไม่น้ะ .... แล้วเสียงๆนึงก็ดังก้องในหัว
"ถ้ามือถือใครดังในขณะสอบเราจะถือว่ามีเจตนาทุจริต จะตัดสิทธิ์ในการสอบทันที"
ขณะที่เพลงก็ดังต่อไป ทั้งห้องก็หันมามองทางต้นเสียงว่ามือถือใครฟะ
พี่ก็นั่งตัวแข็งเลยแบบ... มือถือเราแน่ๆ
แต่เอ๊ะ เราก็ถอดซิม ถอดแบต ปิดเครื่องหมดแล้ว มันจะดังได้ยังไง
พี่ก็เหลือบไปมองครูคุมสอบเค้าหยิบมือถือขึ้นมา
อ๊า มือถือตรู !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แล้วเค้าก็กดปิดเสียง ... ก่อนที่ทั้งห้องจะกลับมาเงียบกริบอีกครั้ง
รู้อาไรไหมคะน้อง พี่สมาธิ แตกกกกกกกกกกกกกก กระเจิงเลยจากเหตุการณ์ครั้งนี้
แตกไปเกือบสิบนาที กลัวว่าเค้าจะถามว่ามือถือใคร แล้วก็แบบจะตัดสิทธิ์
ตอนนั้นคิดแต่ว่าถ้าเค้าจะตัดสิทธิ์จริงๆ แล้วเค้าถามว่ามือถือใคร
เราจะแบบ ทิ้งมือถือแร้ว T_T ไม่ใช่มือถือนู๋ค่ะ อะไรอย่างนี้
คือถ้าไม่เจอกับตัว จะไม่มีวันเข้าใจเลยว่ารุ้สึกสติแตกขนาดไหน
เพราะคุมสอบแพทย์นั้นจริงจังมากด้วย เค้าตัดสิทธิ์จริงมาตลอด และอาจจะตัดสิทธิ์ไม่ให้ซิ่วด้วย
ฮืออออออออออออออ.
...
แต่แล้วก็ไม่มีใครเรียกอะไร (?)
พี่ก็เลยพยายามรวบรวมสติทำข้อสอบต่อไป
อยากจะบอกว่าอังกฤษ 100 ข้อ 120 นาที นั้น
ถ้ากะเวลาไม่ดีต้องทำไม่ทันแน่ๆ
พี่อะ ฝนข้อสุดท้ายเสร็จปุ๊บเค้าก็บอกหมดเวลา
คราวนี้เค้าก็มาประกาศคืนมือถือตามปกติ คือหยิบมือถือขึ้นมาทีละเครื่องแล้วถามว่าของใคร
คือเค้าจะแบ่งเป็นโซนๆ เวลาให้มือถือก็ให้ตามโซน คืนก็คืนตามโซนอ่า
ถ้าจำไม่ผิดพี่โซน B มั้ง เค้าก็เดินมา
หยิบมือถือพี่ขึ้นมาเครื่องแรกเล้ย แล้วถาม อันนี้มือถือใคร
พี่นั่งนิ่งเลย ทำเป็นเก็บนู่นเก็บนี่ ...แบบว่าทำเป็นไม่เห็นไปก่อน ให้เค้าคืนๆๆคนอื่นไปก่อนแล้วค่อยไปขอทีหลัง
แต่ปรากฎว่า นัง(ขอจิกหน่อยเตอะ)นังคนข้างๆอ่ะค่ะคุณน้องง มันจำมือถือพี่ด้ายยย
(คือมือถือพี่ห้อยตุ๊กตาห้อยพวงกุญแจอะไรรุงรังม๊ากมาก เค้าเลยจำได้มั้ง)
เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เธอคนนั้นก็บอกว่า เธอๆ นั่นมือถือเธออ่ะ
พี่ก็ยิ๊มมมมมมม อ่า ขอบคุณนะ (T_T ทำไมถึงทำกับชั้นด้ายยย)
แต่พี่ก็พบว่าครูคุมสอบไม่ได้ว่าอะไร (?)
พอพี่ได้มือถือมาพี่ก็เดินออกมาทันที แล้วก็เช็คที่มือถือ
เฮ้ยย..ปิดเครื่องแล้วแถมถอดแบตถอดซิมอีกต่างหาก
แล้วมันยังดังได้ยังไง
หรือเพราะแบบนี้ละมั้งเค้าเลยไม่ว่าอะไร เพราะถือว่าทำกติกาแล้วที่ว่าให้ถอดแบตถอดซิม
เพื่อนพี่ที่สอบห้องเดียวกันมันก็เดินมาถาม มือถือมิงรุ่นไรเนี่ย
กรุจาไม่ซื้อรุ่นนี้ มันดีเกินไป 555555555555
ขนาดถอดแบตแล้วนาฬิกาปลุกยังดังได้อะ สามารถจริงๆ
แต่ก็ทำพี่ประสาทไปเลยน้ะ พี่กลับบ้านไปพี่ลบเพลงทิ้งเกือบทั้งมือถือ กดปิดเสียงด้วย
กลัวมันดังอีกรอบ - -" คราวหน้าอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้
อ่ะๆอย่าเพิ่งข้ามไปอีกวัน
สอบเสร็จไปสอง ยังเหลืออีกหนึ่งค่ะ คือวิชาสังคม-ไทย
ก็นั่งเล่นกันไปจนกระทั่งเวลาสอบ
ก็ตรวจบัตรอะไรกันเหมือนเคยพร้อมกับถอดมือถือวางไว้
งืมม แล้วก็รอเวลาสอบ
พอเริ่มสอบพี่ก็ทำอย่างเคยอ่ะ คือเปิดดูข้อสอบคร่าวๆก่อน
อืมม..สำหรับสังคมไทยพี่ว่าไม่ค่อยมีอะไร
คือข้อสอบเหมือนปีก่อนๆอะละ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมมาก
แต่พี่ดูมาไม่แม่นก็เลยทำได้บ้างไม่ได้บ้างตามประสาอ่าา
ระหว่างนี้ก็มีอาการประสาทกลัวมือถือดังอีกรอบบ้าง 5555
ให้นักเรียนวางดินสอและปากกาค่ะ หมดเวลาทำข้อสอบ...
แล้วพี่ก็ส่งคืน ก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนนับล้านกลับบ้าน
_____________60%
พ่อพี่ก็มารับพี่ที่ มธ.เนี่ยละ คือจริงๆวันนี้เป็นวันรับคะแนนกลางภาคของที่โรงเรียนผู้ปกครองก็เลยต้องไปรร.
ตอนพ่อพี่มารับก็เหมือนว่าเค้าเพิ่งไปรับคะแนนกลางภาคของพี่เสร็จสดๆร้อนๆเลย
พอพี่เข้ารถปุ๊บ พี่ก็พูดๆบ่นๆเรื่องข้อสอบเรื่องมือถืออยู่พักนึง
พอเหนื่อยเริ่มหมดเรื่องพูดก็เลยนั่งพิงพนักเก้าอี้
พ่อก็เริ่มพูดบ้าง..
เออคะแนนกลางภาคแก้ว ไม่ค่อยดีเลยนะ
พี่ก็ยิ้ม แก้วไม่ค่อยได้อ่านกลางภาคค่ะแก้วเอาเวลามาอ่านกสพท.หมด
พ่อก็แบบ แต่ว่าอาจารย์(ที่ปรึกษา)บอกว่า ห้องแก้วอะน่าจะมีติดหมอประมาณ 5-6 คน
แล้วแก้วได้อันดับกลางๆค่อนไปทางปลายๆแบบนี้ บางทีก็อยากให้แก้วเผื่อใจไว้
คราวนี้พี่ชักเคือง ก็แบบ อันดับกับเกรดบอกอะไรไม่ได้หรอกค่ะ วันนี้แก้วทำข้อสอบได้เท่านั้นก็พอ
แล้วพี่ก็บ่นว่า เมื่อไหร่จะสอบเสร็จสักที เห้ออ
พ่อพี่ก็บอกว่า แล้วมันก็จะผ่านไป
..
..
.
พอถึงบ้านก็นั่งนิ่งๆพักสมองแปบนึง เพราะพี่ตั้งใจว่าจะดูหนังสือต่อทันที
แต่พอหยิบวิทย์ขึ้นมาอ่าน(วันที่สองสอบวิทย์) ก็พบว่า
อ่านไม่รู้เรื่อง ความที่สอบมาทั้งวันรวมหกชั่วโมงมันทำพี่แฮงค์จริงๆ
คือปกติจะอ่านได้นะ แต่วันนี้มันคงเต็มที่แล้ว
แม่ของพี่ก็บอกให้พี่ไปนอนพักก่อนแล้วตื่นมาอ่านก็ได้
วันนั้นพี่นอนสองหรือสามทุ่มเนี่ยละ แล้วตื่นมาตีสองมาอ่านวิทย์
แล้วนอนอีกทีตีสี่ ตื่นหกโมงไปสอบ -_-"
จะบอกว่าตื่นมาไม่แฮงค์ด้วยน้ะเออ มันมีพลังอะไรไม่รู้นะ แบบวันแรกมันทำข้อสอบได้
วันที่สองอีกวันเดียว ชั้นต้องทำได้ดิดิดิดิดิดิอ๊า
วันนี้ก็เหมือนเมื่อวาน เพียงแต่สอบแค่สองอย่างคือวิทย์หนึ่ง กับวิทย์สอง
ภาคเช้าเริ่มเวลาเดิมคือ 8.30น. สอบวิทย์หนึ่ง
เป๊ง ขณะนี้เวลาแปดนาฬิกาสามสิบนาทีให้ทุุกคนเปิดข้อสอบได้
พี่ก็ใช้วิธีเดิม เปิดๆๆๆๆดูทั้งหมดก่อนว่าแนวโน้มข้อสอบเป็นยังไงก่อนจะเริ่มลงมือทำ
ในวิทย์หนึ่งนี้ก็แบ่งเป็นสามพาร์ท เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ อย่างละเท่าๆกัน
คือจำนวนข้อในแต่ละพาร์ทไม่เท่ากันนะ แต่คะแนนในแต่ละพาร์ทเท่ากัน
เออ พอเปิดไปพี่ก็แบบ.. ตอนนั้นเค้าบอกมาว่าไรนะ วิทย์หนึ่งง่าย ใช่ไหม ?
เฮ้ย มันไม่เห็นง่ายเลยอ่ะ คือเนื้อหาคล้ายๆจะเป็นพื้นฐานก็จริง
แต่มันไม่พื้นฐานว่ะ ต้องคิดลึกๆอยู่เหมือนกัน
ก็ทำๆๆๆไป
วิทย์หนึ่งพี่ว่าฟิสิกส์เฉยๆ ชีวะค่อนข้างง่าย เคมีกลางๆ
แต่เพื่อนพี่บอก เคมีค่อนข้างง่าย ชีวะเฉยๆ ฟิสิกส์กลางๆ
อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาอะนะ - -"
หมดไปภาคเช้า เพื่อนพี่ก็บอกว่าอะไรที่ออกวิทย์หนึ่งจะไม่ออกวิทย์สองใช่ปะ
อ่ะ ก็มานั่งไล่กันเรื่องไหนออกไปแร้วหว่า
ระหว่างพักก็นั่งอ่านเรื่องที่ยังไม่ได้ออก
แล้วก็ถึงเวลาสอบวิทย์สองค่ะ
พอสอบปุ๊บพี่ก็เปิดดูข้อสอบทั้งหมดดูแนวโน้ม
อุแม่จ้าวววว ฟิสิกส์ยากห่-านเลยอ่ะ ยากจริงๆ ขนาดพี่สอบพฐ.วิศวะแล้วยังรู้สึกว่ายากอ่ะ
เคมียากกกก แต่ชีวะยังพอกลางๆให้ได้อุ่นใจนะ
ในส่วนของวิทย์สองนี่พี่ว่ายากกว่าวิทย์หนึ่งในระดับนึงเลยย
ต้องเผื่อใจมาเยอะๆๆๆๆๆๆๆ เยอะมากๆๆๆ
เพราะตอนหมดเวลาปุ๊บพี่ก็เดินมาเก็บกระเป๋า
เพื่อนที่สอบห้องเดียวกันก็เดินมาแบบ
แก้ว กุหมดหวังแล้ว ฟิสิกส์กุทำไม่ได้เลย
พี่ก้แบบ เห้ยยย ยังไม่หมดดิ เรายังมีหวัง T-T
ก็ท้อใจกันไปอะ เพราะวิทย์สองนั้นยากจริงๆ
วันนั้นก่อนกลับพี่ก็ไปไหว้รูปปั้น ศ.ดร.ป๋วย อีกรอบ ขอแบบเดิมอีกรอบ
แล้วภาวนา ขอให้นู๋ติดเถอะค่ะ.. .
สาธุ...
แล้ววันสอบหมอก็ผ่านไป
______________________"
จบแร้วว อยากได้บรรยากาศหลังสอบหมอป้ะ ถ้ามีรีเควสจะเขียนให้น้ะ ^^
ซึ่งวิชาสามัญนี้มีน้ำหนักถึง 70% บวกกับความถนัดแพทย์ 30% ที่สอบไปแล้ว
วิชาสามัญนี้แบ่งออกเป็น 5 วิชา (ซึ่งพี่ได้ข่าวว่าปีน้องๆจะแบ่งเป็นเจ็ดน้ะ
เพราะวิทยาศาสตร์แยกออกมาเป็นสามวิชา)
คือ
วิทยาศาสตร์ 40%
คณิตศาสตร์ 20%
ภาษาอังกฤษ 20%
สังคมศึกษา 10%
ภาษาไทย 10%
ในส่วนของวันแรกนั้นสอบสี่วิชา แบ่งเป็น 3 ช่วง
ช่วงเช้า คณิตศาสตร์ สองชั่วโมง
ช่วงกลางวัน ภาษาอังกฤษ สองชั่วโมง
ช่วงบ่าย ภาษาไทยและสังคม สองชั่วโมง
และวันที่สองสอบวิทยาศาสตร์ แบ่งเป็น 2 ช่วง
ช่วงเช้า วิทย์ หนึ่ง
ช่วงบ่าย วิทย์ สอง
ซึ่งน้องอาจจะงงว่าไอวิทย์หนึ่งวิทย์สองนี่ต่างกันยังไงอ่า ?
สำหรับปีก่อนหน้าพี่นั้น พี่ทราบมาว่าวิทย์หนึ่งนั้นง่ายกว่าวิทย์สองมาก
แต่ในปีพี่นั้น พี่พบว่าวิทย์หนึ่งกับวิทย์สองแทบไม่แตกต่างกันเลย
คือวิทย์หนึ่งนั้นง่ายกว่าในแง่เนื้อหา แต่พอมานั่งคิดแต่ละข้อ
ก็ต้องนั่งวิเคราะห์กันขี้แตกขี้แตนไม่ต่างจากวิทย์สองเท่าไหร่
และสำคัญมากคือ ในปีก่อนพี่นั้น อะไรที่ออกข้อสอบในวิทย์หนึ่งแล้ว
จะไม่นำมาออกในวิทย์สอง
ซึ่งปีพี่ก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน
________________" 10%
บรรยายไปคร่าวๆแล้วพอเข้าใจกันแล้วน้า
ย้อนไปก่อนวันสอบนิดนึง 5555
ก่อนหน้านั้นพี่เคยขอแม่ครั้งนึงว่า อยากไปบนที่่พระพรหมเอราวัณ
เห็นมีเพื่อนบนหลายคนก็เลยอยากบนมั่งอ่าละ
ตอนแรกก็เหมือนจาได้ไปอ่า ไปๆมาๆไม่ว่างซะงั้น
พี่ก็แบบว่า...สอบครั้งนี้ ไม่บนก็ได้เนอะ
ทุกอย่างต้องเกิดจากตัวของช้านเอง (ประมาณนั้นเลย)
โอเคเรากลับมาวันสอบก่อน คืนนั้นพี่ก็นอนตามเวลาปกติ
เช้าวันสอบพี่ก็ตื่นเช้ากว่าปกตินิดนึงเพราะตั้งนาฬิกาไว้
เพื่อที่จะมาดูเลขเพิ่มอีกจิ๊ดดดดดดดดดดดนึง(เพื่อความอุ่นใจง้ะ งุงิ)
อะ และพี่ก็ออกเดินทางไปสนามสอบโดยมีคุณพ่อเป็นสารถี
ด้วยความงงเล็กน้อยถึงปานกลางก็แล่นเลยสนามสอบไปเฉ้ย(กำ)
เลยต้องขับรถยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ(แป่ว)
แต่ความที่ออกจากบ้านเช้าก็เลยมีเวลาเหลือเฟือ
อิอิ สนามสอบของพี่ก็คือ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ รังสิต ค่ะน้อง
อะไรจะเหมาะเจาะเหมาะเหม็งขนาดนี้น้ะ กรี๊ดดดดดด
ความที่พี่ไม่ได้ไหว้บนไหว้ขออะไรที่ไหนมาก่อนเลยแม้กระทั่งที่โรงเรียน
อาจจะเพราะลืมด้วยเพราะมัวแต่คิดเรื่องว่าจะอ่านหนังสือยังไงให้ทัน
พอพี่มาถึงที่ธรรรมศาสตร์พี่ก็นึกขึ้นได้ว่าที่นี่มีรูปปั้น ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
พี่ก็ให้พ่อส่งหน้ารูปปั้น ศ.ดร.ป๋วย แล้วพี่ก็ไหว้ท่านค่ะ
พี่ไม่ได้บนนะ แต่พี่ขออ่า
พี่ขอว่า พี่อยากติดหมอจริงๆ หมอที่ไหนก็ได้ แล้วพี่สัญญาว่าพี่จะตั้งใจเรียนมากขึ้น
จะตั้งใจฟังครูสอนมากขึ้น จะเป็นหมอที่ดี ตั้งใจรักษาคนไข้
พอพี่ไหว้ท่านเสร็จก็อุ่นใจขึ้นนิดนึง ^_____^
แล้วพี่ก็เดินเข้าสนามสอบค่ะ
อืมม..อยากบอกว่าสนามสอบที่ธรรมศาสตร์นั้นคนเยอะจริงๆ
ตอนพี่เดินไปนั้นคนเยอะมากกกกกก...หลายพันคน
ณ ตอนนั้นถ้าพี่จะคิดว่า โอ้โห มีคนอยากเข้าหมอเยอะขนาดนี้แล้วเราจะไหวไม๊เนี่ย
ก็คิดได้น้ะ แต่มันคงบั่นทอนกำลังใจพิลึก
ในขณะที่ตอนนั้นพี่ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่าคนเยอะจัง ตรูจะเดินเข้ายังไงดี 55555
อ่อช่าย อยากจะบอกว่าวันสอบพี่ไม่ตื่นเต้นเลยย
ความที่ผ่านสนามสอบทั้งแกทแพทสอบตรงมาหลายที่ หลายครั้ง
ก็เลยไม่ได้ตื่นเต้น กับการเดินเข้าสนามสอบที่มีคนเป็นล้านแบบนี้ (เว่อร์สุดๆ)
พอไปถึงหน้าห้องสอบ พี่ก็นั่ง(กับพื้น)รอห้องสอบเปิดนั่นละ
รู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีสมาธิมาก ไม่รู้ทำไม
แล้วก็มีสติมากกว่าเคย รู้สึกว่าวันนี้ละต้องเป็นวันของเรา (ย๊ากกก)
แล้วอาจารย์ก็เปิดประตูห้องสอบค่ะ
ก่อนเดินเข้าเค้าก็จะเช็คบัตรประจำตัวประชาชนกับบัตรสอบว่าเรานำมาหรือเปล่า
เน้นเลยนะว่าต้องบัตรประจำตัวประชาชน เพราะถ้ามีแต่บัตรนักเรียนมักจะมีปัญหาค่ะ
อยากจะบอกว่าตั้งแต่สอบมาหลายที่ นี่
พี่ไม่เคยเห็นที่ไหนคุมสอบเข้มงวดเท่าการสอบแพทย์มาก่อนเลย
คนคุมสอบทุกคนซีเรียส และเคร่งเครียดมาก !! ไม่ได้เครียดขำๆนะ เค้าเครียดกันจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีการปั๊มลายนิ้วมือทุกครั้งที่เข้าสอบแต่ละวิชาด้วย
แล้วก็ต้องปิดมือถือ ถอดแบตนำใส่ถุงพลาสติกที่เค้าให้แล้ววางไว้หน้าห้อง
คือ ห้องสอบที่ธรรมศาสตร์จะเป็นห้องโถงใหญ่ๆ ห้องเลคเชอร์อ่ะ
ที่นั่งต่างๆเหมือนเวลาเราดูหนัง เป็นชั้นอย่างนั้นล่ะ
ดูหรูหราไฮโซมวาก มีแอร์ด้วย 5555555555 โฆษณาเสร็จสรรพ
ก่อนจะไปที่นั่งสอบพี่ก็หยิบมือถือถอดแบต ถอดซิม ใส่ถุงพลาสติก
แล้วก็นำไปประเคนให้ครูคุมสอบ (ฮือฮือมือถือนู๋)
จากนั้นก็ไปนั่งประจำที่ รอเปิดข้อสอบ
รอรอเวลา... 8.30น. เพื่อสอบคณิตศาสตร์เป็นวิชาแรก
วันนี้พี่ห้อยพระ ติดพระเกี้ยว(สัญลักษณ์รร.พี่)องค์จริงที่ชุดนักเรียน
ใส่นาฬิกาใหม่ที่พ่อให้ แล้วก็ไหว้ดร.ป๋วย
คงจะช่วยให้พี่ทำข้อสอบได้บ้างน้ะ
(ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวเลยนะเนี่ย 55555 ช่วยทางจิตใจค่ะน้อง)
อ่อใช่ ตอนเช้ากินซุปไก่สกัดมาด้วย คริคริ
โด๊ปกันเต็มที่ >____<
เป๊งงง 8.30 น. ขณะนี้เวลาแปดนาฬิกาสามสิบนาที ให้นักเรียนเปิดข้อสอบได้
พี่ก็แกะๆๆไอที่เค้าติดก๊อดเทปไว้แล้วก็เปิดดูข้อสอบ
อะพี่ก็เปิดทุกหน้าเลยยย ดูสภาพข้อสอบ
พอเปิดดูคร่าวๆแล้วพี่ก็พบว่า..
มันไม่ยากนี่หว่า !!!! ง่ายกว่าปีก่อนราวฟ้ากับเหวเลย (เพราะปีก่อนยากแบบระดับโอลิมปิกเลย)
กรี๊ดดดดดด งั้นเราก็ทำได้น่ะสิ อ๊าๆๆ แล้วพี่ก็นั่งทำๆๆๆไป
อ่อ ข้อสอบเลขมี 25 ข้อค่ะ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
ข้อละ 4 คะแนน แทบอ้วกกันเลยทีเดียว 555555555555
ตอนทำเสร็จพี่ก็แบบ อ๊า สุดยอด ชั้นมีเวลาเหลือด้วยอ่ะ
ก็เลยนั่งทวนข้อสอบ พบว่าคิดผิดไปสองสามข้อ ดีนะที่ชั้นทวนเนี่ย T_T
ระหว่างทำก็จะมีครูคุมสอบเดินมาให้เราเซ็นชื่อพร้อมกับปั๊มลายนิ้วมืออ่า
ขณะนี้เหลือเวลาอีก 15 นาที จะหมดเวลาทำข้อสอบ...
ปั่นๆๆๆๆๆๆ
นักเรียนทุกคนกรุณาวางดินสอและปากกาค่ะ
หมดเวลาซะแร้ว T_T 10.30 น.
หลังจากนั้นช่วงนี้ก็จะเป็นเวลาไปหาอะไรรับปะทานค่ะ
มีเวลากินข้าวอยู่หนึ่งชั่วโมงต้องใช้ให้คุ้มค่า ย๊ากก
ก่อนจะกลับมาเจอกันเวลา 11.30น. เพื่อที่จะสอบภาคกลางวันในวิชาภาษาอังกฤษ
11.30-13.30น. พักอีกหนึ่งชั่วโมง แล้วก็สอบสังคมไทยอีกทีเวลา 14.30-16.30น. ค่ะ
โอเคคค
มาถึงการสอบภาษาอังกฤษ พี่ก็เดินมาห้องสอบพร้อมกะเพื่อน
แล้วก็นั่งรอหน้าห้อง เพื่อเจอการสอบสุดหินในวิชาต่อไป ฮือฮือ
พอห้องสอบเปิดก็เหมือนเคย ตรวจบัตรประชาชนตรวจบัตรสอบ
พอเข้าไปก็ถอดซิมถอดแบตใส่ถุงนำไปวางที่ๆเค้าจัดให้
อ่ะๆๆ เสร็จนั่งที่เรียบร้อย
ก็รอเวลาเปิดข้อสอบค่ะ
ตรุ๊ด ตรุ๊ด ขณะนี้เวลาสิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาที ให้นักเรียนเปิดข้อสอบได้
พี่ก็เปิดๆๆๆดูข้อสอบทั้งหมดคร่าวๆก่อน พี่ก็พบว่า..
โอ้วมายก็อด ชั้นไม่เคยเห็นข้อสอบแนวนี้มาก่อน ออลมายไลฟ์เลยทีเดียว
ข้อสอบ 100 ข้อ แบ่งเป็นประมาณอย่างละสิบนะ ถ้าจำไม่ผิด
เช่น สิบแรกเป็นเออเร่อ สิบต่อหน้าเป็นแพสเสจ
สิบต่อมาเรียงประโยค สิบต่อมาโวแคบ สิบต่อมาเช็คคำผิด(?)
ประมาณนั้นอะ คือแบบว่าแปลกมากๆ พี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
พอเห็นแล้วก็อึ้งไปนิดนึงก่อนที่จะเริ่มทำ
อืม..ตอนทำก็ไม่มีอะไร ห้องเงียบอย่างเคย ทำไปเรื่อยๆ
เรื่อยๆ เรื่อยๆ....
.....ตะแด๊ดแตแด๊ด แต๊ดแตแด๊ด แต๊ดแตดดด (อินโทรเพลง ตอบได้ไหมว่าได้ไหม)
เฮ้ย ทำไม เพลงมันเหมือนเพลงนาฬิกาปลุกในมือถือชั้นจนน่าตกใจ
กำ ไม่น้ะ .... แล้วเสียงๆนึงก็ดังก้องในหัว
"ถ้ามือถือใครดังในขณะสอบเราจะถือว่ามีเจตนาทุจริต จะตัดสิทธิ์ในการสอบทันที"
ขณะที่เพลงก็ดังต่อไป ทั้งห้องก็หันมามองทางต้นเสียงว่ามือถือใครฟะ
พี่ก็นั่งตัวแข็งเลยแบบ... มือถือเราแน่ๆ
แต่เอ๊ะ เราก็ถอดซิม ถอดแบต ปิดเครื่องหมดแล้ว มันจะดังได้ยังไง
พี่ก็เหลือบไปมองครูคุมสอบเค้าหยิบมือถือขึ้นมา
อ๊า มือถือตรู !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แล้วเค้าก็กดปิดเสียง ... ก่อนที่ทั้งห้องจะกลับมาเงียบกริบอีกครั้ง
รู้อาไรไหมคะน้อง พี่สมาธิ แตกกกกกกกกกกกกกก กระเจิงเลยจากเหตุการณ์ครั้งนี้
แตกไปเกือบสิบนาที กลัวว่าเค้าจะถามว่ามือถือใคร แล้วก็แบบจะตัดสิทธิ์
ตอนนั้นคิดแต่ว่าถ้าเค้าจะตัดสิทธิ์จริงๆ แล้วเค้าถามว่ามือถือใคร
เราจะแบบ ทิ้งมือถือแร้ว T_T ไม่ใช่มือถือนู๋ค่ะ อะไรอย่างนี้
คือถ้าไม่เจอกับตัว จะไม่มีวันเข้าใจเลยว่ารุ้สึกสติแตกขนาดไหน
เพราะคุมสอบแพทย์นั้นจริงจังมากด้วย เค้าตัดสิทธิ์จริงมาตลอด และอาจจะตัดสิทธิ์ไม่ให้ซิ่วด้วย
ฮืออออออออออออออ.
...
แต่แล้วก็ไม่มีใครเรียกอะไร (?)
พี่ก็เลยพยายามรวบรวมสติทำข้อสอบต่อไป
อยากจะบอกว่าอังกฤษ 100 ข้อ 120 นาที นั้น
ถ้ากะเวลาไม่ดีต้องทำไม่ทันแน่ๆ
พี่อะ ฝนข้อสุดท้ายเสร็จปุ๊บเค้าก็บอกหมดเวลา
คราวนี้เค้าก็มาประกาศคืนมือถือตามปกติ คือหยิบมือถือขึ้นมาทีละเครื่องแล้วถามว่าของใคร
คือเค้าจะแบ่งเป็นโซนๆ เวลาให้มือถือก็ให้ตามโซน คืนก็คืนตามโซนอ่า
ถ้าจำไม่ผิดพี่โซน B มั้ง เค้าก็เดินมา
หยิบมือถือพี่ขึ้นมาเครื่องแรกเล้ย แล้วถาม อันนี้มือถือใคร
พี่นั่งนิ่งเลย ทำเป็นเก็บนู่นเก็บนี่ ...แบบว่าทำเป็นไม่เห็นไปก่อน ให้เค้าคืนๆๆคนอื่นไปก่อนแล้วค่อยไปขอทีหลัง
แต่ปรากฎว่า นัง(ขอจิกหน่อยเตอะ)นังคนข้างๆอ่ะค่ะคุณน้องง มันจำมือถือพี่ด้ายยย
(คือมือถือพี่ห้อยตุ๊กตาห้อยพวงกุญแจอะไรรุงรังม๊ากมาก เค้าเลยจำได้มั้ง)
เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เธอคนนั้นก็บอกว่า เธอๆ นั่นมือถือเธออ่ะ
พี่ก็ยิ๊มมมมมมม อ่า ขอบคุณนะ (T_T ทำไมถึงทำกับชั้นด้ายยย)
แต่พี่ก็พบว่าครูคุมสอบไม่ได้ว่าอะไร (?)
พอพี่ได้มือถือมาพี่ก็เดินออกมาทันที แล้วก็เช็คที่มือถือ
เฮ้ยย..ปิดเครื่องแล้วแถมถอดแบตถอดซิมอีกต่างหาก
แล้วมันยังดังได้ยังไง
หรือเพราะแบบนี้ละมั้งเค้าเลยไม่ว่าอะไร เพราะถือว่าทำกติกาแล้วที่ว่าให้ถอดแบตถอดซิม
เพื่อนพี่ที่สอบห้องเดียวกันมันก็เดินมาถาม มือถือมิงรุ่นไรเนี่ย
กรุจาไม่ซื้อรุ่นนี้ มันดีเกินไป 555555555555
ขนาดถอดแบตแล้วนาฬิกาปลุกยังดังได้อะ สามารถจริงๆ
แต่ก็ทำพี่ประสาทไปเลยน้ะ พี่กลับบ้านไปพี่ลบเพลงทิ้งเกือบทั้งมือถือ กดปิดเสียงด้วย
กลัวมันดังอีกรอบ - -" คราวหน้าอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้
อ่ะๆอย่าเพิ่งข้ามไปอีกวัน
สอบเสร็จไปสอง ยังเหลืออีกหนึ่งค่ะ คือวิชาสังคม-ไทย
ก็นั่งเล่นกันไปจนกระทั่งเวลาสอบ
ก็ตรวจบัตรอะไรกันเหมือนเคยพร้อมกับถอดมือถือวางไว้
งืมม แล้วก็รอเวลาสอบ
พอเริ่มสอบพี่ก็ทำอย่างเคยอ่ะ คือเปิดดูข้อสอบคร่าวๆก่อน
อืมม..สำหรับสังคมไทยพี่ว่าไม่ค่อยมีอะไร
คือข้อสอบเหมือนปีก่อนๆอะละ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมมาก
แต่พี่ดูมาไม่แม่นก็เลยทำได้บ้างไม่ได้บ้างตามประสาอ่าา
ระหว่างนี้ก็มีอาการประสาทกลัวมือถือดังอีกรอบบ้าง 5555
ให้นักเรียนวางดินสอและปากกาค่ะ หมดเวลาทำข้อสอบ...
แล้วพี่ก็ส่งคืน ก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนนับล้านกลับบ้าน
_____________60%
พ่อพี่ก็มารับพี่ที่ มธ.เนี่ยละ คือจริงๆวันนี้เป็นวันรับคะแนนกลางภาคของที่โรงเรียนผู้ปกครองก็เลยต้องไปรร.
ตอนพ่อพี่มารับก็เหมือนว่าเค้าเพิ่งไปรับคะแนนกลางภาคของพี่เสร็จสดๆร้อนๆเลย
พอพี่เข้ารถปุ๊บ พี่ก็พูดๆบ่นๆเรื่องข้อสอบเรื่องมือถืออยู่พักนึง
พอเหนื่อยเริ่มหมดเรื่องพูดก็เลยนั่งพิงพนักเก้าอี้
พ่อก็เริ่มพูดบ้าง..
เออคะแนนกลางภาคแก้ว ไม่ค่อยดีเลยนะ
พี่ก็ยิ้ม แก้วไม่ค่อยได้อ่านกลางภาคค่ะแก้วเอาเวลามาอ่านกสพท.หมด
พ่อก็แบบ แต่ว่าอาจารย์(ที่ปรึกษา)บอกว่า ห้องแก้วอะน่าจะมีติดหมอประมาณ 5-6 คน
แล้วแก้วได้อันดับกลางๆค่อนไปทางปลายๆแบบนี้ บางทีก็อยากให้แก้วเผื่อใจไว้
คราวนี้พี่ชักเคือง ก็แบบ อันดับกับเกรดบอกอะไรไม่ได้หรอกค่ะ วันนี้แก้วทำข้อสอบได้เท่านั้นก็พอ
แล้วพี่ก็บ่นว่า เมื่อไหร่จะสอบเสร็จสักที เห้ออ
พ่อพี่ก็บอกว่า แล้วมันก็จะผ่านไป
..
..
.
พอถึงบ้านก็นั่งนิ่งๆพักสมองแปบนึง เพราะพี่ตั้งใจว่าจะดูหนังสือต่อทันที
แต่พอหยิบวิทย์ขึ้นมาอ่าน(วันที่สองสอบวิทย์) ก็พบว่า
อ่านไม่รู้เรื่อง ความที่สอบมาทั้งวันรวมหกชั่วโมงมันทำพี่แฮงค์จริงๆ
คือปกติจะอ่านได้นะ แต่วันนี้มันคงเต็มที่แล้ว
แม่ของพี่ก็บอกให้พี่ไปนอนพักก่อนแล้วตื่นมาอ่านก็ได้
วันนั้นพี่นอนสองหรือสามทุ่มเนี่ยละ แล้วตื่นมาตีสองมาอ่านวิทย์
แล้วนอนอีกทีตีสี่ ตื่นหกโมงไปสอบ -_-"
จะบอกว่าตื่นมาไม่แฮงค์ด้วยน้ะเออ มันมีพลังอะไรไม่รู้นะ แบบวันแรกมันทำข้อสอบได้
วันที่สองอีกวันเดียว ชั้นต้องทำได้ดิดิดิดิดิดิอ๊า
วันนี้ก็เหมือนเมื่อวาน เพียงแต่สอบแค่สองอย่างคือวิทย์หนึ่ง กับวิทย์สอง
ภาคเช้าเริ่มเวลาเดิมคือ 8.30น. สอบวิทย์หนึ่ง
เป๊ง ขณะนี้เวลาแปดนาฬิกาสามสิบนาทีให้ทุุกคนเปิดข้อสอบได้
พี่ก็ใช้วิธีเดิม เปิดๆๆๆๆดูทั้งหมดก่อนว่าแนวโน้มข้อสอบเป็นยังไงก่อนจะเริ่มลงมือทำ
ในวิทย์หนึ่งนี้ก็แบ่งเป็นสามพาร์ท เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ อย่างละเท่าๆกัน
คือจำนวนข้อในแต่ละพาร์ทไม่เท่ากันนะ แต่คะแนนในแต่ละพาร์ทเท่ากัน
เออ พอเปิดไปพี่ก็แบบ.. ตอนนั้นเค้าบอกมาว่าไรนะ วิทย์หนึ่งง่าย ใช่ไหม ?
เฮ้ย มันไม่เห็นง่ายเลยอ่ะ คือเนื้อหาคล้ายๆจะเป็นพื้นฐานก็จริง
แต่มันไม่พื้นฐานว่ะ ต้องคิดลึกๆอยู่เหมือนกัน
ก็ทำๆๆๆไป
วิทย์หนึ่งพี่ว่าฟิสิกส์เฉยๆ ชีวะค่อนข้างง่าย เคมีกลางๆ
แต่เพื่อนพี่บอก เคมีค่อนข้างง่าย ชีวะเฉยๆ ฟิสิกส์กลางๆ
อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาอะนะ - -"
หมดไปภาคเช้า เพื่อนพี่ก็บอกว่าอะไรที่ออกวิทย์หนึ่งจะไม่ออกวิทย์สองใช่ปะ
อ่ะ ก็มานั่งไล่กันเรื่องไหนออกไปแร้วหว่า
ระหว่างพักก็นั่งอ่านเรื่องที่ยังไม่ได้ออก
แล้วก็ถึงเวลาสอบวิทย์สองค่ะ
พอสอบปุ๊บพี่ก็เปิดดูข้อสอบทั้งหมดดูแนวโน้ม
อุแม่จ้าวววว ฟิสิกส์ยากห่-านเลยอ่ะ ยากจริงๆ ขนาดพี่สอบพฐ.วิศวะแล้วยังรู้สึกว่ายากอ่ะ
เคมียากกกก แต่ชีวะยังพอกลางๆให้ได้อุ่นใจนะ
ในส่วนของวิทย์สองนี่พี่ว่ายากกว่าวิทย์หนึ่งในระดับนึงเลยย
ต้องเผื่อใจมาเยอะๆๆๆๆๆๆๆ เยอะมากๆๆๆ
เพราะตอนหมดเวลาปุ๊บพี่ก็เดินมาเก็บกระเป๋า
เพื่อนที่สอบห้องเดียวกันก็เดินมาแบบ
แก้ว กุหมดหวังแล้ว ฟิสิกส์กุทำไม่ได้เลย
พี่ก้แบบ เห้ยยย ยังไม่หมดดิ เรายังมีหวัง T-T
ก็ท้อใจกันไปอะ เพราะวิทย์สองนั้นยากจริงๆ
วันนั้นก่อนกลับพี่ก็ไปไหว้รูปปั้น ศ.ดร.ป๋วย อีกรอบ ขอแบบเดิมอีกรอบ
แล้วภาวนา ขอให้นู๋ติดเถอะค่ะ.. .
สาธุ...
แล้ววันสอบหมอก็ผ่านไป
______________________"
จบแร้วว อยากได้บรรยากาศหลังสอบหมอป้ะ ถ้ามีรีเควสจะเขียนให้น้ะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น