ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic inazuma eleven Go AU) Kongo no yosoku {TAKURAN}

    ลำดับตอนที่ #5 : ll Chapter 3 ; Begins [เสียงเรียก] ll ( Shindou Takuto) [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 59




    ll Chapter 3 ; Begins [เสียงเรียก] ll ( Shindou Takuto) 
    By Miren-San 
    xxxxxxxxxx



        ยามเช้าที่แสนสดใส ...เสียงนกร้องขับขานเป็นท่วงทำนองอันไพเราะแสงแดดยามรุ่งอรุณสาดส่องทะลุผ่านผ้าม่านผืนใหญ่สีขาวสะอาดตาที่ปิดกั้นกัดแสงแดดที่อาจจะทำลายดวงตาในยามตื่นจากการหลับไหลจากทวงนิทราอย่างยาวนานนั้นได้ 
     "อรุณสวัสดิ์~ ....เช้าแล้วยังหลับได้อยู่อีกหรือเนี่ย??" 
     น้ำเสียงนุ่มนวลเอยขึ้น ถึงจะอยากปลุกร่างสูงที่นอนซบกับหมอนอยู่ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ผู้ที่นอนมุดตัวอยู่ในผ้าห่มนั้นตื่นขึ้นมา และเกรงว่าคงเป็นการรบกวนเขา...
     ไม่ใช่ว่าแค่ร่างสูงเท่านั้นที่ยังคงอยากจะหลับต่ออีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ยังดี อากาศที่กำลังอุ่นสบายต้อนรับยามเช้าแบบนี้ ร่วมถึงความเหนื่อยล้าจากการเดินทางของเขาทำให้หลับปุ้ยไปถึงเที่ยงวันได้เลยทีเดียว 
     "ชินโด...ถ้านายมัวแต่นอนอยู่แบบนี้จะไม่ได้ทานข้าวนะ!"
      คิริโนะกอดอกพร้อมส่งเสียงขู่นิดๆ แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะเขายังหลับอยู่! แถมดึงผ้าห่มมาคลุมหัวแล้วกลับนอนต่อเสียแบบนั้นอีก! เส้นเสียงความอดทนของร่างบางนั้นขาดสะบั้น เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขึ้นมาปลุก เขาพูดว่า 'อรุณสวัสดิ์~' ไปเกือบ4-5ครั้งได้ ตอนแรกๆพอ   มือกำเสื้อยืดแขนยาวของตนเองจนยับยู่ยี่ คิ้วเรียวเริ่มกระตุกเบาๆ แต่ก็ยังยิ้มรับถึงแม้จะรู้ว่าเขาหลับอยู่....
     " งั้น....อย่าตื่นเลยนะครับ...."
     
    [ SHINDOU TAKUTO TALK ]

      ....เจ็บแฮะ....
      ผมคร่ำครวญในใจพร้อมกับลูบคลำศีรษะของตัวเองปอยๆ ความเจ็บชายังคงหลงเหลือจากการปลุกของร่างบอกบางที่สุดแสนจะอันตราย โดยเฉพาะหมัดหนึ่งหมัดที่ใส่เข้าเต็มๆช่วงหน้าท้อง กับการโดนพลักตกเตียงนอนจนส่วนหัวได้รับการกระทบกระเทือนจนเกือบได้ความจำเสื่อม นี้เรามีชีวิตรอดออกมาได้ยังไงกันนะ? 
      แอบถามตัวเองนิดๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูเล็กๆที่นำมาซับเส้นผมที่เปียกโชกจากการสระ แชมพูของที่นี้มีกลิ่นที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ และเพราะเคยแต่ใช้ของของตัวเองมานานคงไม่เคยลองใช้กลิ่นแบบอื่นของแชมพล่ะมั้ง
     " ช้าจริง ข้าวน่ะเย็นหมดแล้วนะ! "
      เสียงหวานปะปนด้วยน้ำเสียงดุๆของคิริโนะเรียกให้ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องทานอาหารของเขา สายตาของผมหันไปจ้องกับผู้ที่นั่งอยู่ด้วยความงุดหงิดเล็กน้อย
     ....ไม่นับว่าเป็นผู้ชาย เราคงเรียกแม่ไปแล้วนะเนี่ย
     " หมัดที่นายชกใส่ฉันยังจุกท้องอยู่เลยนะ "
     " ก็นายผิดเองนินาที่ไม่ยอมตื่น! "
      เขาทำหน้างุ่ยจนเหมือนคนกำลังงอนแทนที่จะสำนึกผิดว่าการกระทำแบบนี้ทำเอาผมแทบไม่อยากอาหาร แถมยังตักข้าวมาเตรียมไว้อีกแล้วด้วยนะเนี่ย! ให้ตายสินึกว่าหน้าตาน่ารักอ่อนหวานจะมีนิสัยที่ใสซื่อกว่านี้เสียอีก อันนี้อะไร? ปากกล้า แถมจู้จี้จุกจิก และยังแรงเยอะอีก จะว่าก็เพราะว่าเป็นผู้ชายก็พอเข้าใจหรอก... แต่นี้มันจะขัดกับหน้าตาไปหน่อยไหม
     "อา ขอโทษล่ะกัน งั้นจะทานล่ะนะครับ..."
      ผมกล่าวเสียงเรียบพร้อมคีบอาหารเช้าเข้าปากอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาทางผมอย่างไม่ล่ะสายตา ความรู้ของผมมันบ่งบอกว่าต้องเป็นคนตรงหน้าแน่ๆ แต่อีกใจหนึ่งกลับไม่ใช่.... เพราะดวงตาแวววาวสีฟ้าครามไม่ได้จ้องมาทางผมด้วย 
    .....แล้วใครล่ะ?
     "มีอะไรหรือเปล่า? กับข้าววันนี้ไม่อร่อยหรือไง??"
     " เอะ!? อ่ะ...เปล่า อร่อยมากตามเคยแหละ"
     " งั้นเหรอ? "
     เขาเอียงคออย่างสงสัย และเหมือนทำท่าจะถามอะไรต่อแต่สุดท้ายก็ปิดปากเงียบแล้วเดินหายไปในห้องครัวในที่สุด ผมนั่งทานข้าวเช้าต่อแบบเงียบๆจนหมดจาน ไม่แน่ใจหรอกนะว่านานไหมแต่รวมกับที่ผมเหม่อนิดๆก็คงทานข้าวนานอยู่ แต่คนที่อยู่ในห้องครัวกลับไม่ออกมาเลยแหะ? 
     *ติ๊ด~ติด~ติ๊ด~♪*
     '...YATSUHARA YOKADA' 
      คิ้วเรียวผมกระตุกขึ้นด้วยความสงสัยหลังจากที่เห็นรายชื่อปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ นิ้วชี้ตวัดลงบนหน้าจอเพื่อกดรับก่อนจะลุกจากเก้าอี้เพื่อเดินมารับสาย อืม...จริงๆก็ควรจะรับตรงนั้นเลยอ่ะนะแต่ผมชินกับการลุกมายืนดูวิวจากบานหน้าต่างเสียมากกว่า 
    " สวัสดีครับ ผมชินโด ทาคุโตะ...."
    [ ไฮๆ ทาคุโตะคุง~ ว่าไงบ้างเรื่องสมาชิกคิลคนที่สองน่ะ?]
     ปลายสายกล่าวรับด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง จากน้ำเสียเองผมก็เดาได้ล่ะนะว่าทำท่าทางอะไรอยู่ในตอนนี้....
    " อืม... เขาปฏิเสธลูกเดียวเลยน่ะครับ..."
    [ อื้มๆ พอเข้าใจนะ ท่าทางทาคุโตะคุงจะไม่มีความสามารถเรื่องชักชวนสาวน้อยสินะ~]
    " เจ๊ครับเขาเป็นเด็กผู้ชาย...." ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ให้ตาย...อยู่คุยกับเจ๊เขาทีไรต้องโดนพูดเรื่องที่ผิดคาดตลอด 
     [ ทาคุโตะคุงเข้าใจไหมล่ะว่า.... ถ้าจะพาตัวเด็กสาวมาต้องดักตีให้สลบแล้วก็รวบตัวใส่ถุงบินกลับญี่ปุ่นเลยน่ะ!]
     ....นั้นมันเข้าข่ายการลักพาตัวแล้วครับเจ๊!!! 
    " ชวนเขาไปดีๆน่าจะพอได้อยู่แหละครับ ...."
    [ อำเล่นน๊า! ฮ่ะๆ ยังไงก็กลับมาก่อนจะเปิดเทอมเสียด้วยล่ะ ]
    " ครับๆ ผมพาเขาไปแน่ "
    [ จ้าๆ อ้ะ? มีคนเรียกไปแล้ว งั้นไปก่อนนะหนุ่มน้อยยย ]
    ตรู้ดด... ตรู้ดด..

    ....วางสายไปแล้ว?
      ทำไมถึงไม่รอให้ตอบกันก่อนนะ เฮ้อ...แย่จริงๆ เขามองโทรศัพท์ของตนที่ถูกตัดสายไปดื้อๆ ว่าควรจะทำยังไงดีถึงจะพาเขาไปที่ญี่ปุ่นได้ ขนาดลองเอยชักชวนหรือลองขู่ก็ยังไม่ได้ผลเลย
    " ใครโทรมางั้นเหรอ? " คิริโนะเอยถามขึ้นขณะที่ผมเพิ่งหันกลับมาเพื่อมานั่งที่เดิม
    " อ้อ คนที่ฉันทำงานด้วยน่ะ เดี๋ยวถ้านายไปด้วยค่อยพูดให้รู้จัก "
    " เหรอ.... " เสียงแผ่วเบาของเขาทำเอาผมเกิดความสงสัย
    " มีอะไรหรือเปล่าคิริโนะ? "
    " อื้อ... ก็นะ มึนหัวนิดหน่อย เป็นแบบนี้ตลอดแหละ อยู่ๆก็--- อุ๊บ! "
    " เฮ้ย!! เดี๋ยว! "
      ยังไม่ทันที่จะได้ฟังความต่อเขาก็วิ่งพรวดไปที่ห้องน้ำทันที ปล่อยให้ผมยืนงงอยู่แบบนั้น ก่อนจะเดินตามเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะพบว่าเขาอาเจียนออกมาเรื่อยๆเสียงอย่างนั้น ผมรอสักพักให้เขาทำธุระเสร็จก่อนที่เขาจะเดินออกมา สภาพดูแย่ลง นี้คายออกมาทั้งหมดเลยหรือเปล่าเนี่ย?
    " โอเคไหม? " ผมถามสั้นๆก่อนจะช่วยพยุงร่างบางๆที่กระสับกระส่ายราวกับคนไม่มีสติ
    " อะ...อื้ม สังสัยจะเป็นอีกแล้วล่ะมั้ง "
    ....อีกแล้ว?
    " อีกแล้วนี้หมายถึงยังไงกัน? แสดงว่าเคยเป็นมาก่อนสินะ " ผมกล่าวถามพลางพยุงร่างของคิริโนะเดินมาที่ห้องก่อนจะประคองเขาลงนอนที่เตียงนอนของเขาเอง
    " อา.... ไม่แน่ใจนักนะว่าเป็นโรคหรือเปล่า แต่มันมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับพี่อายะ..."
    " ? "
    ..........................................................................

        หลังจากผมปล่อยให้คิริโนะนั้นนอนพักหลังจากที่ให้ทานยาเสร็จแล้ว เขาดูอ่อนล้ามากกว่าทุกที แถมเหมือนจะเป็นไข้หนักเสียด้วย  ผมยกกะละมังใบเล็กที่ใส่น้ำมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะเดินหาสิ่งที่ผมคาใจภายในบ้านหลังนี้ต่อ ภายในบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านสไตล์แบบธรรมดาจริงๆ ชั้นสองก็แลดูมืดๆ เพราะอยู่คนเดียวคงไม่จำเป็นต้องไล่เปิดไฟให้เยอะแบบนี้ล่ะมั้ง 
        และที่แปลกคือบ้านหลังนี้แทบไม่มีฝุ่นเกาะเลยแม้แต่นิดเดียว! อยากถามจริงๆว่านี่เล่นทำความสะอาดทุกวันเลยเหรอเนีย? ผมใช้ฝ่ามือของตัวเองลูบชั้นวางของภายในห้องของพี่สาวคิริโนะ อืม...จริงๆ ทำไม้ราต้องเรียกด้วยนามสกุลด้วยนะ หรือเพราะอีกคนตายไปแล้วเลยให้เรียกนามสกุลแทน 

     "...."
     "ใครน่ะ!!!??"
      ผมหันขวับทันทีเมื่ออยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงใครบางคน มันเป็นเพียงเสียงเบาๆ ราวกับเสียงกระซิบแต่ผมยังพอได้ยินหน่อยๆ 
     "...."
     " ผม...ถามว่าใคร! "

     ได้ยินอีกแล้ว แถมครั้งนี้มันเริ่มดังขึ้นอีกแหะ=_= สรุปอย่าบอกนะว่าพี่อายาเสะเขานยังวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้....
     เหวอ! ไม่เอาหรอกนะ!! ผมยิ่งเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษอยู่ด้วยยิ่งแย่ไปใหญ่ หากได้เห็นเธอผมคงค้างอยู่กับที่แหงๆ 
      ฟังไม่ผิดกันนะ? ใช่ครับ ผมน่ะจัดเป็นพวกสามารถเห็นพวกวิญญาณได้ หากเพ่งสายตาและสมาธิดีๆผมก็จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ อืม...เห็นแบบนี้ผมคงแลดูเป็นตัวที่นำความสยองขวัญทาสู่นิยายเรื่องนี้หรือเปล่านะ...
     อยู่ๆสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มนึงที่สอดอยู่ตรงส่วนหนึ่งของชั้นหนังสือภายในห้อง มันขยับอยู่จนทำเอาผมเหงื่อตก หากมีใครอยู่ด้วยคงมีคำถามถามมาแล้วล่ะนะว่าหน้าผมซีดลงหรือเปล่า.... หากมีอยู่จริงผมคงรู้แล้วล่ะว่าใครจะถาม
     ผมค่อยๆลอบกลืนน้ำลายนิดๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่ชั้นหนังสือนั้น มือหนาของผมก็เริ่มจับเพียงสันหนังสือของมันเพียงเท่านั้นมันก็หยุดนิ่งลงทันที....

    พรึบ! กริ้ง!!
      เสียงกุญแจที่กระทบกับพื้นไม้ดังขึ้นมาหลังจากที่ผมหยิบเอาหนังสือที่ด้านหน้าเขียนไว้ว่า 'สมุดภาพ' ออกมา มันเป็นเพียงกุญแจที่มีสนิมเกาะอยู่นิดหน่อย แต่รูปร่างของส่วนหัวมันเป็นรูปดอกกุหลาบที่มีเถาวัลย์ที่มีลวดหนามมาพันไว้รอบๆ 
      มันเป็นกุญแจที่สวยงาม ดูเหมือนแตกต่างกว่าใครเลยเสียด้วยซ่ำ ไม่รู้เลยว่ามันมีความหมายว่าอะไรหรือเปล่า แต่สิ่งที่ผมสนใจคือมันสามารถไขประตูส่วนไหนของบ้านได้บ้างล่ะเนี่ย?
    "นาย...ทำอะไรน่ะ?"
    "คิริโนะ?? นายไม่ได้นอนพักอยู่ที่ห้องเหรอ?" ผมถามด้วยความแปลกใจ ที่อยู่ๆร่างที่แลดูซีดเซียวมายืนถามอยู่หน้าประตูห้อง
    "ก็แค่ได้ยินเสียงบางอย่างน่ะ.... ก็เลยสงสัยนิดๆ"
    " อ้อ..แค่เจ้านี้มันตกลงมา ตอนที่ฉันหยิบสมุดนี้ออกมา"ผมชูสิ่งที่อยู่ในมือทั้งสองสิ่งให้เขาดู 
    " กุญแจเหรอ?"
    " อืม....ดูเหมือนจะเป็นของพี่นายล่ะมั้ง "
    " งั้นเหรอ? ไม่เคยเห็นเลยแหะ..." คิริโนะว่าพลางเดินเข้ามาใกล้ๆเพื่อดูมันก่อนจะหยิบมันออกมาจากมือของผมไป " หรือว่า... จะเป็นของห้องนั้น"
     ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัยเมื่อคิริโนะอยู่ๆก็พูดอะไรบางอย่างออกมา ก่อนที่เขานั้นจะหันหลังให้แล้วเดินไปที่ตรงมุมห้องที่อยู่ถัดจากประตูไปมาก เขาค่อยๆขยับกล่องกระดาษกล่องใหญ่ออก จนมองเห็นรอยที่ดูเหมือนจะเป็นประตูลับ และก็มีที่เสียบกุญแจเป็นรูปผีเสื้อที่เกาะบนดอกกุหลาบแบบเดียวกับลายตรงส่วนหัวของกุญแจ และไม่รอช้าคิริโนะนำกุญแจเสียบใส่ก่อนจะปลดล็อคมันออกอย่างง่ายดาย 
    " นายรู้ได้ยังไงว่ามันมีประตูนี้? "
    " ฮ่ะๆ พอดีตอนทำความสะอาดมันเหลือบเห็นน่ะ" 
     ครับๆ=_= พ่อรักความสะอาด....

     คิริโนะค่อยๆเปิดประตูด้านใต้อย่างทุลักทุเลเนื่องจากมันทั้งเก่าและขึ้นสนิม เลยยกขึ้นยากนิดหน่อย อา.... สุดท้ายผมก็ออกแรงช่วยอีกคนนั้นแหละนะ 
     ปัก! 
    ...สำเร็จ!!
    " โห.... มืดแหะ..." 
    " ยังพอมีแสงอยู่นะ ลองลงไปกันไหม?" ผมลองค่อยๆก้มดูข้างล่างที่พอมีบันไดให้เชื่อลงไปยังพื้นดินด้านล่างที่มืดสนิท แต่กลับยังพอมีแสงอ่อนๆทอดมาเป็นระยะๆจากด้านล่าง นับว่ายังพอมองเห็นพื้นล่างได้อยู่
    " อืม... งั้นนายนำ "
    " ห้ะ!? ทำไมต้องฉัน?"
    " ..... "
    " ...เงียบอีก หรือว่านายกลัว? " ผมมองท่าทีนิ่งๆของอีกฝ่ายก่อนจะอดเอยแซวหมอนั้นอย่างอดไม่ได้
    " เงียบนะ! เดี๋ยวฉันลงก่อนเองก็ได้!! หึ!! "
      ดวงตาสีครามหันมาจ้องผมอย่างเดือดดาล ก่อนจะกระแทกเสียงหงุดหงิดใส่และค่อยๆเดินลงไปด้านใน ผมแอบแปลกใจว่านี้คือห้องใต้ดินหรืออะไร เพราะมันอยู่ตั้งชั้นสองเชียวนะ! หรือว่าชั้นแรกมันมีห้องกั้นเอาไว้กันนะ 
     ในที่สุดพวกเราก็เดินลงมาจนถึงพื้น นับว่าห้องตอนลงมานี้ยังพอแคบหรอกนะ แต่พอลงมาจนถึงสุดแล้วกลับมีแสดงสว่างอย่างเพียงพอ แลดูเป็นห้องใต้ดินปนๆกับกับห้องสมุดที่กว้างใหญ่ หากไม่ติดแค่ชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงกันไป 
     แน่นอนว่าคิริโนะเองก็คงแอบอึ้งๆเหมือนกันที่รู้ว่าภายในบ้านตัวเองมีที่แบบนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ? สงสัยพี่อายาเสะคนนั้นคงปิดเงียบเอาไว้ล่ะมั้ง

    " อายาเสะจาง~ มาหรือยาง~? " (*วิบัติเพื่อเสียง)

     น้ำเสียงสดใสดังกึกก้องขึ้นมาทันทีหลังจากที่พวกผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว อืม...เรียกว่ายังคงไม่หายตกใจกับสถานะการณ์ ตอนนี้เสียงเท่าไหร่หนัก ต่อมาก็มีเสียงฝีเท้าบางๆย่ำเข้ามาใกล้ๆ ตามด้วยเสียงหวานที่ฟังดูอารมณ์ดีผิดคาด และปะปนกับน้ำเสียงโมโหนิดๆด้วย

    " โธ่! อายาเสะจัง... หายไปนานมากเลยนะ! ไม่เห็นมานั่งเล่นกับ....เอะ อ้าว!?"

     และแล้วดูเหมือนเธอจะพึ่งรู้ตัวนะครับว่าคู่สนทนากับเธอนั้นไม่ใช่ ' คิริโนะ อายาเสะ "



    [100%]



      
      (C) ELIZILE
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×