คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ::.Preface.:: (รีไรท์ 40 %)
“ โรงเรียนนี้ไม่เหมือนโรงเรียนทั่วไปหรอกนะ! ”
นั้นคือคำพูดของใครหลายๆคนที่พูดออกมาโดยตรง
แม้แต่คนที่เรียนจบออกมาก็พูดแบบเดียวกัน
ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนการสอนคะแนนผลสอบการคัดห้อง ระเบียบของโรงเรียน
ผู้คนและครูอาจารย์ แม้กระทั้งผอ.
แต่หากถามว่าคนในโรงเรียนเล่า
จะปกติหรือเปล่า...? นั้นมันจะเป็นแค่กับบางคน
หากไม่คล้อยไปตามกฏแปลกๆของโรงเรียนหรือไปตามคุณครูและคนอื่นๆในที่นี้เสียก่อน
' เซนเทอร์ (St.ter)'โรงเรียนนานาชาติ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก
เป็นโรงเรียนใหญ่ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยแต่เน้นสไตล์การออกแบบอาคารและสถานที่ไปทางโซนยุโรป
มีสถานที่ต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น ตลาด ทะเล ห้าง หอพัก โรงเรียน ฯลฯ
เหมือนเป็นเมืองนึงเลยก็ว่าได้ !
แต่ที่แปลกของโรงเรียนนั้นยังไม่มีใครทราบและรู้ว่ามันคือสิ่งไหนกันแน่
บางคนเลยต้องมาลองด้วยตนเอง ...
ฤดูใบไม้ผลิคือสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่ของโรงเรียนเซนเทอร์แห่งนี้
บรรยากาศคุ้นเคยเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนมากหน้าหลายตา ต่างสัญชาติ
ที่เดินคุยกันมาตั้งแต่หอพักนักเรียนยันถึงโรงเรียนบ้าง เพราะเปิดเรียนใหม่
แต่ละคนจึงต้องเดินมาดูรายชื่อและชั้นเรียนของตัวเองที่ติดบอร์ดเอาไว้ก่อนจะไปเข้าห้อง
บางคนอาจทราบจากเว็บเพจของโรงเรียนแล้วเลยไม่กังวลบ้าง ไม่สนใจบ้างก็มี
นั้นถือว่ายังคงเป็นเรื่องปกติ
" การแบ่งห้องครั้งนี้เป็นไงบ้างล่ะ?
ฉันคิดว่ามันโอเคนะ "
เสียงหัวเราะของอดีตเพื่อนร่วมชั้น
ทำเอาเด็กสาวที่กำลังมองรายชื่อในใบประกาศละสายตามาจ้องเขม็งคนข้างๆ
เส้นผมสีชมพูหยักโศกสั้นประบ่าพลิ้วตามแรงขยับ
หลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างหนักใจ ก่อนจะคงสีหน้าเรียบนิ่งของตนเอาไว้
" ไม่เลย
มีแต่คนไม่รู้จักเท่าไหร่อีกแล้ว!
นี้พวกเขากำลังคิดว่าการคละคนที่ฉันไม่เคยรู้จักมารวมอยู่ห้องเดียวกันหรือไง
"
วิฬาร์รัตน์พูดออกมาพลางยกนิ้วขึ้นจิ้มชื่อตนเองที่ติดอยู่ในใบรายชื่อของม.ต้นห้อง3
พร้อมมองรายชื่อเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่เคยคุ้นตาเลยแม้สักคนเดียว ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาด้วยละมั้งเลยไม่น่าแปลกใจมากเท่าไหร่ที่เธอจะไม่ค่อยรู้จักเลย
...ก็เล่นเข้าใหม่และย้ายออกไปเพราะรับไม่ได้ตั้งเยอะนินา
" เธอก็น่าจะชินได้แล้วนะศร
เจอตั้งแต่ปี1แล้วไม่ใช่เหรอ...? แต่เสียดายจังน้า~
ตอนนี้เราอยู่คนละห้องกันเสียได้"
" นั้นสินะ
หวังว่าเธอคงจะดูเรียบร้อยขึ้นกว่าเก่าใช่ม้าาา "
" อย่าหวังแบบนั้นเลยศรเธอก็รู้....ฉันจะเป็นบ้าเพราะโรงเรียนนี้อยู่แล้ว
งั้นไปล่ะ! "
เพื่อนของเธอโบกมือลาก่อนจะเดินไปยังอาคารตึกเรียนของเธอคนนั้นในทันที
นี่ก็ผ่านมาเกือบจะ2ปีเศษแล้วมั้งที่เธอได้ย้ายเข้ามา
แน่นอนว่าเธอนั้นรับอะไรไม่ได้กับหลายๆอย่างในโรงเรียนแห่งนี้
แต่มันกลับมีบางสิ่งที่ทำให้เธอนั้นยังคงไม่ลาออกและยังคงอยู่ต่อจนจบ
" วันนี้จะเจออะไรที่เซอร์ไพรส์อีกนะ...
"
.................
“ วันนี้เธอไม่คิดที่จะตื่นเที่ยงใช่ไหม...ริโอะ?
"
" หะ---ห้ะ?? ปะ---เปล่านะคะ!
โธ่....รุ่นพี่เคียวโกะล่ะก็!
เมื่อตอนปิดเทอมมันมีเรื่องจนนอนไม่หลับแค่นั้นเองนะ "
" อาหะ
ก็จริงนะผอ.เล่นสร้างกิจกรรมตอนปิดเทอมก็ชวนให้วุ่นเลย
....ไหนจะเกิดไฟไฟม้อาคารเพราะแสดงโชว์มายากลไฟนั้นอีก "
" ...อันนั้นทำเอาตกใจแทบแย่เลยล่ะค่ะ
นึกว่าจะไหม้จริงๆซะอีก "
" ก็ไหม้จริงๆน่ะสิ!
ดีนะที่อาจารย์เอรุน่าเตรียมถังดับเพลิงมาไม่งั้นยุ่งกันเลยนะ "
อีกด้านนึกระหว่างทางสถานีรถไฟในเมือง
ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่จะมาคอยรับส่งนักเรียนและบุคลากรไปยังที่ต่างๆภายในเกาะแห่งนี้
เด็กสาวสองคนที่ยืนคุยกันระหว่างรอรถไฟ
พวกเธอพูดคุยกันเรื่องปิดเทอมที่ผ่านมากันซึ่งเป้นปิดเทอมที่วุ่นวายเพราะผอ.โรงเรียนกันเป็นอย่างมาก
" อ่ะ? อรุณสวัสดิ์ริโอะ
และก็รุ่นพี่เคียวโกะด้วย "
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ / จ้ะ "
ทั้งสองกล่าวทักทายกับคนที่เดินมาทักทายพวกเธอก่อน
นั้นคือหนึ่งในเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆห้องอย่างคุโมสึยะ นัทสึคิ เด็กหนุ่มผู้อ่อนโยนและสุขุม
เขาเป็นเพื่อนสนิทของริโอะมาตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ
มีเขาคนเดียวเท่านั้นที่มักจะตามความคิดและการกระทำของริโอะได้เสมอ แม้จะไม่ทุกครั้งไป
" ทำไมวันนี้ถึงไปโรงเรียนช้าจังล่ะนัทสึคิ?
ปกติมักจะไปก่อนพวกเราหน่อยนินา? " เคียวโกะเอยถาม
" อ่อ พอดีลืมของไว้น่ะครับ
เลยแวะกลับไปเอา "
" เห้? นึกว่าจะมีงานทำจนโต้รุ่งซะอีกนะ
" ริโอะยกมือป้องปากก่อนจะยิ้มอ่อนๆแซว
" เปล่านะ ว่าแต่แล้วเด็กๆเธอล่ะ?
" นัทสึคิตอบกลับไปก่อนจะเอยถามถึงแมวน้อยสองตัวของริโอะที่เธอมักจะนำไปไหนมาไหนด้วยเสมอ
" หลับอยู่น่ะ
เดี๋ยวก็คงตื่นเองนั้นแหละ ถ้าไปถึงโรงเรียนแล้วน่ะ "
" นี่ๆ
ตอนนี้น่ะอย่าเพิ่งคุยกันเลยรีบๆขึ้นรถไฟได้แล้วเดี๋ยวก็สายหรอก "
เคียวโกะเอยแทรกขึ้นมาทำให้ทั้ังสองหันไปมองประตูรถไฟฟ้าที่เปิดออกกว้างเพื่อรอรับนักเรียนและบุคลากรทุกคน
ก่อนจะมีคนรีบเดินขึ้นจำนวนไม่น้อยซึ่งถ้าหากไม่รีบๆขึ้นไปล่ะก็ต้องรออีก15นาทีเป็นแน่ พวกเขาทั้งสามเลยหยุดบทสนทนาไว้ก่อนแล้วรีบเดินขึ้นรถไฟทันที
.............................
ในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
ทั้งระดับชั้นม.ต้นห้อง 4 ยังคงครึกครืนไม่ต่างเช่นปีก่อนเลยสักนิด
ในขณะชายหนุ่มผมสีเขียวเข้มกำลังเดินหาที่นั่งประจำของตนอยู่นั้น
ด้วยความที่ว่าเขานั้นไม่ได้ระวัง เขาดันชนเข้ากับหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งเข้าเต็มๆจนเธอล้มลงกับพื้น
ส่วนตนนั้นแค่เซถอยหลังแล้วยันโต๊ะยาวที่ยู่ข้างๆเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปกับพื้น
" ขะ----ขอโทษครับ! คุณ....อา
เป็นอะไรหรือเปล่า? " หยาง มู่หลง เอยถามอย่างเป็นห่วงแม้ตนจะยังทรงตัวเองยังไม่อยู่จนต้องเกาะโต๊ะเรียนข้างๆช่วยในการทรงตัวอยู่ก็ตาม
เขาช่วยเธอลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยการจับมือของเธอไว้แล้วดึงเธอขึ้นมา ดวงตาสีไพลินงามเงยขึ้นสบกับดวงตาสีน้ำทะเลนั้นด้วยแววตางุนงง
หลังจากที่เธอโดนพยุงขึ้นมาได้ไม่นานก็พูดตอบกลับไปทันที
" ไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ
"
" อะ....อา ครับ " เขาพยักหน้าให้เล็กน้อย
ไม่นานเธอก็เดินจากไปในทันที เหม่อมองแผ่นหลังบางที่ถูกเส้นผมสีขาวบริสุทธิ์ที่เพิ่งถูกปัดขึ้นมาให้ปรกไปทางด้านหลังของเธอ
“ เธอคนนั้นอยู่ห้องเดียวกันสินะ... “
เขาพูดกับตัวเองอย่างแผ่วเบาก่อนจะก้มเก็บบางอย่างที่เหมือนจะเป็นสมุดเย็บลวดเล่มบางๆสีปีกกาที่มีลายมือที่ถูกเขียนไว้ว่า
‘ Nami Shiyobi’ แต่เขาดันไม่รู้จัก...พอลองเปิดดูเพียงหน้าแรกดูว่ามันเป็นสมุดอะไร
ก็เห็นว่ามีแต่ลายเส้นดินสอที่วาดหญิงสาวผมทวินเทลสูงกำลังฉีกยิ้มร่าอย่างน่ารักน่าชังเอาไว้พร้อมกำกับด้วยลายเซ็นของเจ้าตัว
...สวยจังแหะ คนที่ชื่อนามิ...ชิโยบิเนี่ยวาดรูปสวยขนาดนี้เชียวเหรอ?
มู่หลงดูสมุดได้ไม่นานก่อนจะปิดมันลง
มันคงแย่หากไปเปิดดูอะไรซีซั่วหากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ มันจะใช่ของหญิงสาวเมื่อครู่หรือเปล่านะ? หากใช่คงต้องรีบนำไปคืนเสียแล้วแต่หากไม่เขาคงต้องหาคนที่เดินผ่านโต๊ะนี้เสียแล้ว
แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวต่อเสียงสัญญาณเริ่มเรียนก็ดังขึ้น
พร้อมๆกับอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามาภาพในห้องแล้วเสียด้วย
เมื่อเป้นเช่นนั้นเขาจึงต้องเก็บสมุดสีปีกกานั้นลงกระเป๋าตนก่อนจะรีบวิ่งหาที่นั่งของตนให้วุ่นจนในที่สุดก็หาเจอจนได้
เสียงเอกสารที่มัดไว้หลายฉบับเคาะลงบนโต๊ะพื่อหวังจะให้จัดเรียงให้เอกสารเข้าทาง
อาจารย์หนุ่มแย้มรอยยิ้มบางๆให้เล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงดังเพื่อให้ฟัง
“ เอาล่ะนักเรียนห้อง 4 ทุกคน...
วันนี้ครูจะเริ่มแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักนะ !“
……………….
หลังความวุ่นวายภายในห้องเรียนจบลงพร้อมกับการแนะนำตัวของรุ่นน้องปี1
ครูก็ปล่อยคาบให้ทำอะไรก็ได้ทันที
จะเรียกว่าไงดีเหมือนกับโรงเรียนนี้ปล่อยให้เรียนด้วยตัวเองเสียมากกว่า
ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถาม แล้วจะสอนต่อเมื่อนักเรียนในระดับชั้นนั้นๆเริ่มถามคำถามเดิมมากๆ
ก็จะเปลี่ยนมาเข้าสู่โหมดสอนบนกระดานทันที
หากปีอื่นที่คิดว่าเก่งแล้วหรือไม่อยากฟัง ก็สามารถทำแบบฝึกต่อได้โดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาฟัง
ระบบการสอนแบบนี้จะเป็นเฉพาะรายวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ส่วนวิชาพละสุขศึกษา ดนตรี
การงานอาชีพ และพวกภาษาประเทศต่างๆ จะใช้ระบบสอนร่วมกันทั้งระดับ ส่วนวิชาอื่นๆอาจจะเป็นการแยกไปเรียนตามระดับบ้างก็มี
ทุกๆวันจะมีคาบอยู่สองคาบสุดท้ายเท่านั้นที่จะเป็นคาบส่งเสริมอาชีพของเหล่านักเรียนและส่งกิจเรรมต่างๆ
ส่วนใหญ่ก็มักจะเรียกเป็น ชมรม ล่ะนะ
การเลือกลงชมรมของพวกเขาก็มักจะถูกให้กรอกคราวๆในแผ่นกระดาษแข็งใบเล็กๆสองแผ่นที่ให้มา
แผ่นหนึ่งเป็นสีเหลืองไว้สำหรับเลือกชมรมได้เสร็จก็ต้องเอาไปให้อาจาย์ที่ปรึกษาชมรมนั้นๆรับไว้
ส่วนใบสีชมพูนั้นไว้สำหรับให้หัวหน้าแผนกและชมรมเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนอีกครั้ง
แน่นอนว่ากว่าจะหาชมรมที่ตรงกันกับความชอบและความสามารถของตนเองได้ต้องมีอาการลังเลอยู่ไม่มากก็น้อยเช่นกัน
มิคาเอล เวสต์ เลือกที่จะไม่สนใจแผ่นกระดาษสองแผ่นที่หัวหน้าห้องเขาแจกให้มาเลยแม้แต่น้อย
คิดแค่ว่าคงจะลงพวกกีฬาเหมือนปีก่อนเหมือนเดิมนั้นแหละ หรือไม่ก็อาจจะเปลี่ยนไปชมรมบาสหรือว่ายน้ำบ้างก็ดีเช่นกัน
ไม่นึกว่าเปิดเทอมใหม่มานี้พวกเด็กๆปี1จะเยอะขนาดนี้ล่ะนะ แต่เดี๋ยวก็เหมือนกับปีก่อนอยู่ดีที่ก็มีคนออกจากโรงเรียนกลางคั่นบ้างล่ะ
โดนพักการเรียนกลางเทอมบ้างล่ะ
ดูยังไงถึงแม้โรงเรียนนี้จะดูแปลกแต่ก็คงไม่แปลกเกินกว่าโรงเรียนปกติหรอกน่า
...ละมั้งนะ
ความคิดส่วนนึงถูกลบออกไปในทันทีโดยเฉพาะกับคำว่า ‘ปกติ’ ! เขาอาจจะยังมองโลกในแง่ดีอยู่ก็ได้หากไม่พบเจอกับเด็กสาวผมสองสีที่เหมือนจะเห็นลางๆว่าอยู่ห้องเดียวกับเขาในปีนี้
เธอแต่งตัวประหลาดและแปลกตา เครื่องแบบนักเรียนที่เคยเป็นแบบธรรมดาถูกปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย
โดยเฉพาะกระโปรงลายสก็อตที่ฟูฟองกว่าปกติ บริเวณใต้ตาซ้ายมีอะไรสักอย่างสีแดงๆ
บนศีรษะของเด็กสาวมีเครื่องประดับเล็กๆนั้นคือมงกุฎเล็กๆที่เอามากระดับไว้
เธอดูโดดเด่นกว่าใครพอดูคราวๆเปรียบเหมือนราชินีที่หลุดมาจากโลกแฟนตาซีแล้วมาอยู่โรงเรียนนี้ยังไงอย่างงั้น
บุคลิกของเธอดูราวกับคุณหนูตะกุลผู้ดีโดยสมบูรณ์ หากแต่งนิสัยหลงตัวเองนิดๆหน่อยๆกับคำพูดชวนหมั่นไส้นิดๆจนเหมือนกับว่าเธอกำลังอินกับการเป็นราชินีจริงๆยังไงอย่างงั้น
โดยปกติเขาก็มักจะทำเมินกับเธอบ่อยๆในตอนที่อยู่ในห้องก็ตาม
ยอมรับว่าเธอคือตัวสร้างสีสันและระดับความคิดเกี่ยวกับโรงเรียนของเขาเปลี่ยนผันไปโดยสิ้นเชิงทันที
ตอนนี้เขาพบเธอที่โต๊ะยาวในโรงอาหารซึ่งเธอกำลังอยู่กับรุ่นน้องม.ต้นคนหนึ่งกำลังพูดคุยเรื่องอะไรสักอย่าง
อย่างสนุกสนานจนฝ่ายราชินียิ้มร่า ถึงขั้นลุกขึ้นพรวดพราดแล้วชี้นิ้วไปทางรุ่นน้องจนถูกเป็นเป้าสายตาจากหลายๆคนในที่นั้นเป็นอย่างมาก
....จะว่าโรงเรียนแปลกมันก็ไม่เชิงแต่ นักเรียน
นี่ท่าจะหนักกว่า.....
…………………………..
(รีไรท์ 40%)
TALK
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดกลุ่มให้เด็กๆค่ะ จะจัดว่าใครสนิทกับใครดีล่ะค่ะ55555+ มันอาจจะสั้นไปสักหน่อยนะคะเพราะกำลังเกิดอาการลังเลนิสัยหน่อยๆคะ
บางคนที่ยังไม่มีบทก็จะเป็นพวกคลาสที่2กับคลาสอื่นๆ ซึ่งอาจจะตามมาหลัง 60 %ที่เหลือค่ะ! อย่าเสียใจไปนะคะ
โอเคจะขอเวลาไปปั่นอีก 60% ที่เหลือก่อนนะคะYvY หากเจอคำผิด / พิมพ์ตกหล่นไป สามารถทักได้นะคะ!
[ เพิ่มเติม ]
อันนี้คือส่วนชุดนักเรียนคราวๆเผื่อใครนึกชุดไม่ออกนะคะ
จะมีตราโรงเรียนเป็นสัญลักษณ์อยู่ด้านซ้าย
ผู้ชายจะแค่เปลี่ยนจากโบเป็นเนคไท / เปลี่ยนกระโปรงเป็นกางเกง
โบ/เนคไทจะเป็นสีตามระดับ
ม.ต้น ม.ปลาย
ปี1 สีฟ้า สีแดง
ปี2 สีส้ม สีเขียว
ปี3 สีน้ำเงิน สีน้ำตาลแดง
/หรือม่วง
ความคิดเห็น