คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Season 1] บทที่3 ขอแค่นายเท่านั้น 100 %
[Season 1]
บทที่3 ขอแค่นายเท่านั้น
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
[KIRINO RANMARU PHAKY]
ช่วงนี้ผมไปอะไรมาบ้างเนี่ย...ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยกัน!? ผมไม่เข้าใจเลยทั้งๆที่น่าจะคิดว่าเป็นแค่อุบัติเหตุรอบสองก็แค่นั้น! แต่... นี้มันจูบแรกในชีวิตผมเลยนะ! ถึงแม้บางทีผมก็เคยโดนแม่หอมแก้มหรือแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใย ผมยังไม่คิดอะไรเลยแท้ๆ!
ทำไม!? ทำไมต้องเป็นกับนายกันล่ะ! ...ชินโด...?
"คิริโน้ววว*~ถ้านายไม่รีบทานมันจะเย็นเอาน้า~" (*วิบัติเพื่อเสียง)
เบลล่าเอยเรียกชื่อผมก่อนจะใจดีตักซุปไก่ใส่ถ้วยเล็กๆแล้วส่งมาให้กับผม ผมหัวเหราะแห้งๆเล็กน้อยก่อนจะรับมาโดยไม่ลืมกล่าวขอบคุณเธอ
บางคนอาจสังเกตได้นะว่าบรรยากาศของห้องอาหารแห่งนี้มันเงียบแปลกๆ ถึงแม้พีเบลกับมิเรนจะผละกันพูดคุยเล็กๆน้อยๆให้ฟังแล้ว มีผมกับชินโดเขาเนี่ยแหละที่รู้สึกจะหันหน้ากันไปคนล่ะทางเลยด้วยซ่ำ ไม่ปริปากพูดคุยกันเลย หลังจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่
"พวกนายนี้.... เป็นอะไรกันหรือเปล่าเงียบตลอดเลย ไหนว่ารันมารุคุงกลับมานายจะคุยกับเขาไม่ใช่เหรอทาคุโตะ"
"นั้นสิ! ปิดปากเงียบแถมเหม่อเหลือเกินนะ ไม่ทราบว่าศรีภรรยาอยู่บนเพดานหรือค่ะ?"
"เบล.....อย่าพูดแบบนั้น นั่งทานไปเลย"
"คร้า~=3=" (*วิบัติเพื่อเสียง)
เบลล่ากับมิเรนเริ่มหันมาให้ความสนใจก่อนจะถกเถียงกันอีกครั้ง..... ก็ใช่ว่าจะทำให้เราหันมาพูดคุยกันได้หรอกนะ มากกว่านั้น ผมรู้สึกเวลาได้ยินชื่อเขาแล้วทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว จนแอบหมดอารมณ์ที่จะนั่งทานอาหารเย็นไปเลย
"อิ้มแล้วครับ....งั้นฉันขอไปจัดของบนห้องก่อนแล้วกันนะ"
" เดียว....เอ่อ เดียวฉันไปช่วย"
ชินโดรีบลุดขึ้นยืนทันทีที่ผมลุกขึ้นมาเพื่อจะเดินไปที่ห้อง ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าตอนนี้ห้องของผมอยู่ที่ไหน แต่ถ้าชินโดมาด้วย...ผมจะทำอะไรไม่ถูกกว่าเดิมหรือเปล่า...?
"ไม่เป็นไรๆ นายบอกห้องที่จะให้ฉันนอนก็พอแล้วล่ะ " ผมรีบเอยปฎิเสธอีกฝ่ายทันทีพลางยกมือขึ้นห้าม
"ห้องนอนฉันเองเนี่ยแหละ...."
ชินโดเอยเสียงเรียบ ทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนวาบขึ้นทันทีทั้งที่อากาศไม่ได้ร้อนอะไรเลยแท้ๆ จู่ๆชินโดก็เดินมาคว้าข้อมือของผมไปโดยที่ไม่ทันจะให้ผมพูดเถียงหรือร้องค้านอะไรใดๆออกมา แถมยังไม่ได้ถามเลยด้วยซ่ำว่าทำไมต้องห้องนอนเขาด้วย!? ทั้งที่เพิ่งจะเจออุบัติเหตุไม่คาดฝันจนต้องเสียจูบแรกทั้งคู่....!
อ่า...ก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าสำหรับชินโดเขาคือจูบแรกหรือเปล่า เขาน่ะฮอตจะตายในหมู่สาวๆขนาดที่โรงเรียนยังมีแฟนคลับตามมาคอยกรีดกราดตลอดเวลาแถมบางทียังมีสโต๊กเกอร์มารังควานอยู่เลย แต่บางทีตอนที่ผมไปอยู่ต่างประเทศเขาอาจจะไปมีแฟนแล้ว แล้วเสียจูบแรกให้กันแล้วก็ได้ใครจะรู้...แต่ของผมนั้นแน่นอนว่า 'จูบแรก' แน่ๆ
"เอ้า...ถึงแล้ว ฉันจะช่วยนายจัดของด้วยแล้วกันนะ" เขาทำท่าฉีกยิ้มอ่อนมาให้ รอยยิ้มของเขาช่างอ่อนโยนและดูอบอุ่นใบหน้าเนียนเรียวมีสีออกชมพูหน่อยๆ ทพให้เขาดูมีรัศมีมากขึ้น....
"ไม่เป็นไรหรอกน่าจริงๆนะ....ฉันสามารถจัดคนเดียวได้"
"นายเหนื่อยมาทั้งวันแล้วไหนจะเดินทางมาอีก ควรนอนพักเยอะๆจะดีกว่านะ " เขาว่าก่อนจะจัดแจงกระเป๋าเดินทางผมออกมา "แถมนายก็ทานข้าวไปน้อยด้วย ยิ่งน่าจะไม่สบายรีบนอนก่อนแล้วกันนะ"
"อ่า....งั้นเดียวฉันจอไปหาพวกสาวๆด้านล่างก่อนนะ"
"ได้สิ! แล้วรีบขึ้นมานะ"
" อื้ม! "
ขอร้องล่ะ อย่าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริ่งเหมือยกับว่าไม่นานมานี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไหม....
"อ้าว? รันมารุคุงมีธุระอะไรเหรอจ้ะ?"
มิเรนเอยถามขึ้นมาปะปนกับความสงสัยที่อยู่ๆผมก็เดินมาเคาะประตูห้องของเธอ ผมแอบมองซ้ายมองขวาเล็กน้อยก่อนจะผลักเธอเข้าไปในห้องก่อนที่ผมจะตามเข้าไปโดยที่ไม่ลืมปิดประตูไล่หลัง ทำให้มิเรนแอบขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัยอีกตามเคย
"ฉันมีเรื่องจะปรึกษาน่ะ" ผมเอยเสียงเรียบ
".....งั้น....นั่งก่อนสิ เดียวฉันมา"
เธอผายมือไปที่โต๊ะเล็กๆสำหรับรับแขกที่มาเที่ยวห้อง ก่อนที่ผมจะนั่งตามที่เธอบอก ส่วนเธอเองก็ออกห้องไปไหนก็ไม่รู้สักพักก็เดินขึ้นมาพร้อมถ้วยน้ำชา เธอยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะยื่นมาให้ผมถ้วยหนึ่งพลางลงมานั่งฝั่งตรงข้ามโต๊ะกับผม
"มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ...? อ๋อ แล้วอย่าแปลกใจพอดีคนมันอยากดื่มน่ะ"
" เอ่อ...พอดีฉันไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน..."
"อ้าว?...."
"จะพูดยังไงดีล่ะ คือฉันมีความรู้สึก...รู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่ตลอดเวลาเลย..." ผมพูดพลางก้มหน้าลงมองน้ำชาที่สั่นไหวเล็กน้อยในถ้วยชาม
"เพราะอะไรล่ะ ? มันต้องมีสาเหตุนะ"
"......คงเพราะตั้งแต่อุบัติเหตุตอนนั้นล่ะมั้ง" ผมว่าพลางนึกถึงเหตุการณ์ที่มิเรนเป็นฝ่ายผลักผมล้มลงไปทับชินโด เธอนิ่งไปสักพักก่อนที่จะถอนหายใจเล็กน้อย
"นายมีอาการอะไรงั้นเหรอถึงเรียกว่าแปลกๆ"
"อ่า...."
ผมนิ่งไปอีกสักพักเช่นกันราวกับบรรยายความรู้สึกตอนนั้นไม่ออกเลย ส่วนมิเรนเองก็คอยรับฟังทั้งที่ผมตอบได้ช้าขนาดนี้แท้ๆ เมื่อผมตัดสินใจยอมเล่าเรื่องทุกอย่างด้วยต้นเหตุที่ว่ามาจากความรู้สึกใจเต้นเมื่อได้มองหน้าของ 'ชินโด' จนกระทั้งถึงตอนที่เขาล้มทับผมเพราะสะดุดล้มในห้องเปียโนของเขา มิเรนเองก็พยักหน้านิ่งๆก่อนจะจิบชาไปนิดหน่อยพร้อมตอบกลับมา
"ฉันว่า...ฉันพอรู้แล้วล่ะเพราะอะไร"
"เพราะอะไรล่ะ?"
"นี่นาย? ยังไม่รู้อีกเหรอ??" เธอเอยอย่างไม่สบอารมณ์นิดๆ "ก็เพราะนายน่ะ! ชอบทาคุโตะไงเหล่า!!"
"เอ๋!!!"
"ไม่ต้องมาองมาเอ๋เลยนะ นี้น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรออาการแบบนี้น่ะเห็นอยู่ชัดๆว่า หลงรักหมอนั้นแล้วน่ะ!"
มิเรนดูมีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากการตอบคำถามเมื่อกี้ ทำเอาผมแทบจะชะงักๆไปหลายครั้งและที่ยิ่งกว่าคือ คำว่า 'ชอบ' 'หลงรัก' แน่ล่ะเพราะชื่อที่ต่อท้ายไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเพื่อนสนิทของผมเองยังไงล่ะ
"เอาเถอะอาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อหน่อยแต่มันก็ใช่ไปแล้วนินา"
"ฉันยังไม่มั่นใจ....." ผมก้มหน้าลงตอบ
"ขอมันแน่ล่ะ ถ้าความรู้สึกแค่นั้นนายยังคิดว่าไม่พอก็ต้อง......"
บางทีผมก็มั่นใจในการตัดสินใจของมิเรนพอดูเหมือนเพราะเรื่องความรักนี้.....ก็เพราะเธอมีแฟนแล้วนินา จะมีการตัดสินใจหรือเรื่องความรักมาก่อนบ้างก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด
"ต้อง.....พิสูจน์เรื่องนี้ให้แน่ชัดยังไงล่ะ!"
เธอพูดออกมาอย่างหมาดมั่นก่อนจะยิ้มหวานให้ผม ถึงแม้จะเห็นความเจ้าเล่ห์ภายใต้รอยยิ้มนั้น ผมก็ยังยิ้มบางให้แล้วถามต่อด้วยความสงสัย ไอ้พิสูจน์นี้มันยังไงกันแน่นะ และดูเหมือนมิเรนจะอ่านจิตผมออกเธอวางตั๋วดูหนังลงบนโต๊ะสองใบพร้อมกับเลื่อนมาตรงหน้าผม
"เอาไปสิ แล้วไปกับหมอนั้นดูแล้วกัน"
"ฉันไม่เข้าใจที่เธอกำลังทำอยู่"
"ไปเดตกับหมอนั้นซะ...." เธอตีน้ำเสียงนิ่งสนิทก่อนจะยกชาขึ้นจิบอีกรอบ
"จะบ้าเหรอะ! เธอก็น่าจะรู้ว่าเราเป็นผู้ชายทั้งคู่!!"
"งั้นตัดใจเสียดีกว่า"
เธอพูดพลางเก็บตั๋วหนังไปผมใไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นเลยจนความเงียบเริ่มปกคลุมพร้อมเสียงของพายุฝนจากภายนอก ทำให้ความรู้สึกของผมตอนนี้เริ่มไม่มั่นคงหรือเรียกง่ายๆว่าผมกำลังลังเลใจอยู่ ไม่รู้ว่าการแสดงท่าทีของผมออกหน้าออกตาไปไหม มิเรนถึงได้ทำท่าเหมือนอ่านใจผมได้ยังไงยังงั้น
"ถ้าตัดสินใจได้...จะมาขอตั๋วจากฉันก่อนเช้าได้นะ ตอนนี้รีบกลับห้องเถอะ"
"นะ....นั้นสินะ...ขอบคุณที่รับฟังนะ"
"ด้วยความยินดีจ้ะ"
ผมเดินเหม่อลอยเล็กน้อยพลางพยายามลบคำพูดที่มิเรนพูดมา... แต่มันดันกึกก้องอยู่ในหัวมากขึ้นจนผมรู้สึกปวดหัว แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงก็แย่น่ะสิก็แค่อยู่ด้วยกันแค่นี้ก็ใจเต้นแทบสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่แล้ว น่าจะทำอย่างที่บอกตัดใจซะดีกว่าปล่อยให้ใจของผมมันเจ็บกว่านี้.....
"ไปไหนมาน่ะคิริโนะ? นึกว่าไปห้องเบลล่ามาเสียอีก"
เสียงทุ้มต่ำเอยถามอย่างอ่อนโยน พร้อมกับมือหนาที่แตะบ่าเพื่อเรียกผมให้หันมา แววตาสีเปลือกไม้แสดงความเป็นห่วงกับการหายตัวไปของผมเล็กน้อย ผมส่ายหน้านิดๆเป็นเชิงบอกว่าไม่ได้ไปไหนไกลหรอก
"ห้องมิเรนน่ะไปปรึกษา---เอ่อ ไปทักทายเธอนิดหน่อย" ผมรีบปรับเปลี่ยนคำพูดให้ดูไม่ค่อยจะน่าสงสัย
"งั้นเหรอ?" ชินโดเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ " กลับห้องกันเถอะฉันมีเรื่องที่จะพูดกัยนายเยอะแยะเลย"
" รู้แล้วน่า....."
"และก็มีของจะให้ด้วย"
"อ๊ะ??"
เขาหัวเหราะออกมานิดๆก่อนจะคว้ามือผมแล้วพาเดินไปที่ห้องนอนของเขา วันนี้ผมรู้สึกๆไปเองหรือเปล่าว่าตอนนี้ชินโดดูมีความสุขกว่าปกติ ทุกครั้งน่าจะมีเรื่องอะไรมากระตุ้นก่อนสิถึงจะมีความรู้สึกกับคนเขา
"ของอะไรงั้นเหรอชินโด?"
"นี่ไงล่ะ"
ผมมองอย่างงงๆกับสิ่งที่ชินโดยื่นมาให้มันคือกล่องของขวัญกล่องเล็กห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสีชมพูลูกไม้อย่างสวยงามประดับมัดด้วยริบบิ้นสีสวยจนไม่กล้าแกะมันออก เขายื่นมาให้ผมราวกับว่าให้รีบๆแกะมัน และแล้วผมก็รับมาแล้วค่อยๆบรรจงแกะมันอย่างเสียดายกระดาษห่อ(?) แหม...สีสวยแบบนี้แกะให้ชาดแล้วมันเสียดายอ่ะ;w;
"ไม่ต้องบรรจงขนาดนั้นก็ได้"
"ก็นะ....อ๊ะ?"
หลังจากแกะห่อได้ผมก็สังเกตเห็นว่ามีอะไรที่เป็นสายๆอยู่ด้วย ก่อนที่ชินโดจะเป็นฝ่ายหยิบออกมาให้ดู มันคือสร้อยคอนั้นเองถึงมันจะแอบเหมือนของผู้หญิงไปหน่อยก็ตามทีอะนะ เพราะเป็นคล้ายๆกับล็อกเก็ตมากกว่า
ชินโดหยิบสายสร้อยมาคล้องคอผมเหมือนกับจะช่วยใส่ให้ ผมรู้สึกแปลกใจเองดีหรือเปล่าที่คิดว่ามันดุเหมาะกับผมมากเลยถึงแม้จะเป็นของผู้หญิง แต่เดียวนะ? ผมคิดว่าตัวเองเป็นผู้หยิงไปแล้วเหรอ=-=
"เหมาะกับนายมากกว่าที่คิดนะเนี่ย" เขาโน้มตัวลองพลางจ้องไปที่กระจกตรงหน้า
" ฉันก็คิดแบบนั้น.... "
" พรุ่งนี้ไปเดินเที่ยวด้วยกันไหม?"
" ห่ะ? " ผมหันมาหาเขา
" เดินเที่ยว....โตเกียวน่ะ "
......
....
....
..
.
" มิเรน..."
ผมเดินมาเคาะประตูห้องของเธอ
" มีอะไรงั้นเหรอ...อือ... "
เธอเอยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย
" ฉันขอ.....ตั๋วสองใบนั้นได้ไหม? "
ความคิดเห็น