ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF & OS) คลังลั่นฟิค`s ขี้ตะไคร่ | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #15 : [SF] CURSE | 03

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 61






     

    * ไม่มีความสมจริง ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์อะไรมารองรับเลยฮับ

    เป็นจินตนาการเพื่อความบันเทิงล้วนๆ *



    CURSE - 3

     

    “คุณครับ”

     

    หลายวันแล้วที่ชานยอลกลับมาจากทำงานก็ต้องมาเคาะประตูห้องเรียกรูทเมทอีกคนที่เอาแต่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่รู้ว่าวันทั้งวันได้กินอะไรบ้างหรือยังยิ่งอีกคนกำลังท้องอยู่ด้วย เขาก็ยิ่งไม่สบายใจกลัวว่าอีกคนจะเป็นอะไรไป

     

    “ถ้าคุณไม่ออกมาผมขออนุญาตเข้าไปนะครับ”

     

    ชานยอลจัดการไขกุญแจสำรองที่ไปขอมาจากเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ปล่อยให้เขาเช่าอยู่ในปัจจุบัน เขาไม่อยากจะทำแบบนี้ซักเท่าไหร่แต่ถ้าคนในห้องไม่ยอมออกมาเลยมันก็ไม่มีทางเลือก

     

    เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่าภายในห้องนั้นมืดสนิท หน้าต่างในห้องก็ถูกปิดโดยผ้าม่านไม่ให้แสงได้เล็ดลอดเข้ามา และคนที่ชานยอลกำลังตามหาอยู่นั้นก็นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง เขาได้ยินเสียงสะอื้นจากคนใต้ผ้านวมแว่วมาด้วย

     

    “คุณ”

     

     

    “เอ่อ..ผมเรียกคุณหลายครั้งแล้ว เห็นคุณไม่ออกมาก็เลยเข้ามา”

     

     

    “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”

     

    “ฮึก”

     

    “คุณเป็นอะไรก็ปรึกษาผมได้นะ”

     

    “ไม่ต้องมะ..มายุ่ง ฮึก กับผม”

     

    ชานยอลขมวดคิ้วแน่น เขาอุตส่าห์เข้ามาหาด้วยความเป็นห่วงและถามไถ่ด้วยความหวังดีแต่กลับมาถูกผลักไสแบบนี้มันก็ดูจะเกินไปหน่อย ถ้ามีอะไรก็ควรพูดกันตรงๆ ไม่ใช่มาไล่กันแบบนี้

     

    “คุณแบคฮยอนครับ ถ้าคุณไม่คิดที่จะดูแลตัวเองก็อยากให้คุณคิดถึงลูกบ้าง”

     

    “ฮะ..ฮึก”

     

    “คุณไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว ถ้าไม่นึกถึงตัวเองก็นึกถึงลูกในท้องบ้างนะครับ เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย” ชานยอลว่าอย่างใจเย็นเพราะเขาอยากให้อีกคนคิดและตั้งสติให้ดีๆ

     

    “คุณก็พูดได้หนิ!!!” แบคฮยอนขึ้นเสียงใส่ เจ้าตัวยอมลุกออกมาจากเตียงเพื่อประจันหน้ากับรูมเมทอีกคน “ก็คุณไม่ได้ท้องแบบผมไง!

     

     

    “ผมไม่ได้อยากมีเด็กคนนี้! ผมไม่ได้อยากท้อง ฮึก”

     

     

    “ผมไม่ต้องการเขา ฮะ..ฮึก! มันไม่ควรเกิดขึ้น ฮือออ” แบคฮยอนยกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้

     

    ชานยอลที่ได้ยินความรู้สึกจริงๆ ของอีกฝ่ายก็ตกใจไม่ใช่น้อย คำพูดที่ว่าไม่ต้องการเด็กคนนี้ทำเอาเขาสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ก็จริงที่ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขาเขาไม่ใช่พ่อเด็ก แต่ชานยอลก็ไม่อยากให้แบคฮยอนคิดว่าเด็กคนนี้ที่เกิดมาโดยไม่ได้ตั้งใจว่าเด็กเป็นคนผิด

     

    มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้สิ

     

    ชานยอลเดินเข้าไปกอดปลอบให้กำลังใจรูมเมทร่างเล็กที่ยังคงยืนร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาอาจจะช่วยอะไรไม่ได้แต่ก็อยากจะช่วยทุกๆ อย่างให้อีกฝ่ายมีกำลังใจมากขึ้นและให้เด็กคนนี้ได้เติบโตในโลกนี้อย่างมีความสุข

     

     

     

     

    ตั้งแต่คราวที่แบคฮยอนระบายความในใจออกมาจนหมด จนในตอนนี้เจ้าตัวก็หันกลับมาดูแลตัวเองบ้างแล้วทำให้ชานยอลสบายใจไปได้มากขึ้น ถึงแม้จะยังดูซึมๆ เหมือนจะทำใจยอมรับไม่ได้อยู่บ้างแต่ก็นับว่าดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา

     

    “ผมขอยืมโทรศัพท์คุณหน่อยได้ไหม” แบคฮยอนเดิมเข้ามาหาชานยอลที่กำลังนั่งทำงานอยู่

     

    “อ่อ ครับ” ชานยอลยื่นโทรศัพท์ให้ทันทีโดยไม่ได้ถามอะไร

     

    เมื่อได้โทรศัพท์มาแล้วแบคฮยอนก็ไม่รีรอที่จะกดหมายเลขคนสำคัญนั่นก็คือพ่อของตัวเอง เพราะโทรศัพท์ของเขาไม่สามารถโทรออกได้จึงต้องมาขอใช้ของรูมเมทรอสายนานหน่อยแต่ซักพักก็มีคนกดรับสาย

     

    “คะ..คุณคิมครับ เดี๋ยวผม ดะ..เดี๋ยวผมจะรีบหาเงินไปคืนนะครับ ขอเวละ

     

    แบคฮยอนกดตัดสายทิ้งทันทีมันอะไรกันกับประโยคที่พ่อของเขาพูดออกมาเมื่อกี้ เขาไม่มีทางโทรไปผิดเบอร์แน่ๆ เพราะเขาจำเสียงพ่อได้อย่างแม่นยำแต่ที่พ่อของเขาบอกว่าจะรีบหาเงินไปคืนมันหมายความว่ายังไง ที่เขาโทรไปขอเงินตลอดก็เป็นเงินที่พ่อเขายืมมาจากคนอื่นใช่ไหมเขาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่คิดเลยว่าครอบครัวที่เคยอยู่อย่างสุขสบายตอนนี้ต้องยืมเงินคนอื่นเพื่อมาให้เขาใช้

     

    “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” ชานยอลรีบลุกออกมาจากโต๊ะทำงานแล้วเดินไปหารูมเมทที่ยืนร้องไห้อยู่หลังจากที่ส่งโทรศัพท์ให้อีกคนเขาก็ไม่ได้ทำงานต่อแต่อย่างใดเพราะเขาเอาแต่จ้องอีกฝ่ายที่ยืนโทรศัพท์อยู่ไม่ไกลกัน

     

    แบคฮยอนตัดสินใจเล่าเรื่องให้รูมเมทฟังทั้งน้ำตา..มันเกินไปที่เขาจะรับไหวแล้ว มันมืดทั้งแปดด้านจนไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้วจริงๆ ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะพึ่งพาใครได้เลย เงินที่มีติดตัวอยู่ตอนนี้ก็มีไม่มากแล้วจะให้เขาทำยังไงต่อไป

     

    แบคฮยอนมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองเลย

     

     

    CURSE

     

     

    สามเดือนต่อมา

     

    ด้วยอายุครรภ์ที่มากกว่าสี่เดือนแล้วหน้าท้องของแบคฮยอนจึงขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เสื้อผ้าที่เคยใส่ได้ก็ดูคับอึดอัดท้องจนต้องซื้อใหม่ เรื่องอาหารการกินก็ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะโดนคุณหมอจงอินกำชับมาอีกที

     

    และเพื่อลดความยุ่งยากของการจัดเวรออกไปซื้อกับข้าวมากิน แบคฮยอนจึงได้รับหน้าที่เพิ่มขึ้นเป็นคนทำอาหารพ่วงด้วยคนหุงข้าวไปทั้งสามมื้อ แบคฮยอนไม่เกี่ยงหากเขาจะได้รับหน้าที่นี้ไปถ้าหากเทียบกับที่ชานยอลออกค่าใช้จ่ายให้เขาทุกอย่างแล้วนั้นมันเทียบไม่ได้เลย

     

    แบคฮยอนไม่รู้จะขอบคุณชานยอลยังไงดีแค่คำขอบคุณยังไม่พอเสียด้วยซ้ำ ชานยอลทั้งอาสาออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ทั้งยังพาเขาไปหาหมอตามที่หมอได้นัดไว้ แม้เจ้าตัวจะดูยุ่งๆ กับงานแต่ก็ยังมาถามไถ่ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่า..เขาไม่รู้จะตอบแทนผู้ชายคนนี้ยังไงเลยทั้งๆ ที่เด็กในท้องคนนี้ก็ไม่ใช่ลูกของตัวเองแท้ๆ แต่ก็ยังคอยห่วง คอยดูแล จนแบคฮยอนรู้สึกละอายใจที่เขาไม่ต้องการเด็กคนนี้ในตอนแรก

     

    หลังจากที่แบคฮยอนได้เล่าเรื่องให้ชานยอลฟังในคราวนั้นเพราะเขาหมดหนทางที่จะเดินต่อไปแล้ว แต่ชานยอลกลับหยิบยื่นน้ำใจนั้นมาให้เขา..ร่างสูงเอ่ยปากอาสาว่าจะเป็นคนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างเอง ขอแค่มีปัญหาอะไรก็ให้บอกกันเพียงเท่านั้น แน่นอนว่าแบคฮยอนปฏิเสธไปในทันทีเพราะเรื่องค่าใช้จ่ายมันต้องเยอะมากและไม่ใช่เรื่องที่จะเอ่ยปากช่วยกันได้ง่ายๆ และเขาไม่อยากจะเป็นภาระให้อีกฝ่ายต้องคอยดูแลตลอด

     

    เพราะเราเป็นเพียงแค่รูมเมทกัน

     

    ชานยอลยังคงยืนยันในคำพูดของตัวเองจนแบคฮยอนต้องยอมแพ้ แต่เขาก็มีคำสัญญาแลกเปลี่ยนว่าถ้ามีโอกาสตัวเองจะหาเงินมาคืนชานยอลทั้งหมดและขอให้ร่างสูงอย่าปฏิเสธ

     

    จากนั้นเราทั้งคู่ก็ดำเนินชีวิตร่วมกันในรูปแบบใหม่ ชานยอลยังคงไปทำงานตามเดิมแต่เปลี่ยนเวลากลับบ้านเร็วขึ้นเป็นบ่ายสามโมง แบคฮยอนจากที่ต้องไปเที่ยวกลางคืนเป็นประจำก็ไม่ไปอีกและยังคงอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหนเพราะเจ้าตัวรู้สึกอายที่ต้องทนสายตาคนอื่นที่มองมาว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ท้องได้

     

    เวลาสองทุ่มกว่าๆ ชานยอลยังคงนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงานหลังจากที่กินข้าวเสร็จ แบคฮยอนก็นั่งดูทีวีเพราะก็ไม่รู้จะทำอะไรเช่นกัน มันน่าเบื่อ..จากคนที่เคยไปเที่ยวบ่อยๆ ก็ต้องมาอยู่แต่ในบ้านเป็นเดือนๆ เพราะดันมาท้องได้อย่างไม่ทราบสาเหตุแต่ยิ่งนานวันเข้าเขาก็ยอมรับและทำใจได้แล้วว่ามันเป็นความจริง..ความจริงที่ว่าเขากำลังท้องอยู่

     

    ผลการตรวจล่าสุดคุณหมอจงอินได้ทำการอัลตร้าซาวน์ดูเพศเด็กให้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ได้รับรู้กัน และผลออกมาว่าเป็นเด็กผู้ชายที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากๆ แบคฮยอนบอกความรู้สึกไม่ถูกเลยที่ได้เห็นเด็กคนนั้นที่อยู่ในท้องของเขามาได้สี่เดือนกว่าว่ามันรู้สึกยังไง จากตอนแรกที่ไม่ต้องการแต่ตอนนี้มันได้แปรเปลี่ยนเป็นสายใยเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ว่าความผูกพันไปแล้ว

     

    รูปอัลตร้าซาวน์ถูกหยิบขึ้นมาดูครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็ยิ้มให้กับภาพของทารกน้อยที่นอนนิ่งอยู่ในรูปนั้นบอกไม่ถูกว่ามีความสุขไหมแต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าดีใจที่ได้เห็นหน้ากันเป็นครั้งแรก

     

    “ออกไปข้างนอกกันไหม” ชานยอลละจากโน้ตบุ๊กแล้วเดินมาหาใครอีกคนที่นั่งดูรูปใบเล็กๆ อยู่คนเดียว

     

    น่าแปลกนะที่ชานยอลเห็นใครอีกคนยิ้มอย่างมีความสุขเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย

     

    “ครับ?”

     

    “ตอนนี้น่าจะไม่มีคนแล้ว..ออกไปเดินเล่นข้างนอกด้วยกันไหมครับ”

     

    ชานยอลไม่ได้เอ่ยชวนอีกคนไปเดินเล่นด้วยกันเพราะเขาอยากไป หรือเพราะเขาอยากพักจากการทำงาน แต่มันเป็นเพราะแบคฮยอนรูมเมทอีกคนที่พอเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองท้องก็ไม่คิดจะออกจากบ้านไปไหนหากไม่มีนัดตรวจกับคุณหมอ ร่างเล็กอยู่แต่ในบ้านมาหลายเดือนแล้วและเขาควรที่จะพาอีกคนออกมาข้างนอกบ้างซึ่งในเวลานี้เป็นเวลาที่ไม่ได้มีผู้คนพลุกพล่านทำให้ไม่ต้องไปกังวลกับสายตาของใครที่มองมา

     

    บรรยากาศตอนกลางคืนแถวๆ บ้านกำลังเย็นสบายแต่ก็รู้สึกหนาวไปหน่อยสำหรับแบคฮยอน เสื้อสเวตเตอร์จึงได้ถูกสวมใส่ที่ไม่ใช่แค่ให้ความอบอุ่นแต่ก็เพื่ออำพรางหน้าท้องที่ขยายใหญ่ด้วยเช่นกัน

     

    “คุณเป็นยังไงบ้าง?” ชานยอลเอ่ยถามอีกฝ่ายหลังจากที่เราเดินด้วยกันเงียบๆ มาซักพัก

     

    “ก็ดีครับ ปกติดี” แบคฮยอนวางมือไว้บนหน้าท้องของตัวเองแล้วตอบคำถามของอีกฝ่าย และไม่ลืมที่จะถามกลับ “แล้วคุณล่ะเหนื่อยไหม?”

     

    “ไม่ครับ” ชานยอลปฏิเสธ เขาไม่เหนื่อยเลยซักนิดแม้จะมีงานหนักมากเพียงใดก็ตาม แต่พอได้รู้ว่าเขาทำงานหนักไปเพื่อใครมันก็ทำให้มีความสุขจนลืมเหนื่อยไปเลยซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

     

    มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาทั้งสองคนจะเอ่ยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเพื่อไม่ให้อีกคนต้องรู้สึกว่าอยู่เพียงลำพัง และมันก็เป็นกำลังใจเล็กๆ ที่ทั้งสองมีให้กันแบบไม่รู้ตัว

     

    “อ่ะแฮ่ม! คือ..เอ่อ” ชานยอลหยุดเดินเพื่อรวบรวมความกล้าเพื่อจะเอ่ยขออีกฝ่ายบางอย่าง

     

    “ครับ?” แบคฮยอนก็หยุดเดินเพื่อรออีกฝ่ายเช่นกัน

     

    “คือว่าเอ่อผมขอลอง..จับท้องคุณดะ..ได้ไหมครับ?” เอ่ยขอออกไปพร้อมกับใบหูที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ เพราะไปตรวจครั้งล่าสุดคุณหมอจงอินได้บอกไว้ว่าอายุครรภ์ตั้งแต่สี่เดือนขึ้นไปเด็กจะเริ่มดิ้นจนรู้สึกได้ทำให้ชานยอลอยากจะลองสัมผัสซักครั้งดูบ้าง

     

    “ได้สิครับ” ถึงแม้จะตกใจที่อีกฝ่ายมาเอ่ยขอกันในตอนนี้ แต่แบคฮยอนก็ไม่ปฏิเสธหากอีกฝ่ายที่เป็นอีกหนึ่งคนคอยดูแลเจ้าตัวเล็กในท้องอยู่ไม่ห่าง เขาก็ไม่มีอะไรเลยที่จะต้องปฏิเสธเลย

     

    ฝ่ามือหนาของคนตัวโตกว่าค่อยๆ วางสัมผัสลงไปบนหน้าท้องนูนเบาๆ กลัวว่าถ้าวางแรงไปอาจจะกระทบกระเทือนถึงเจ้าตัวเล็กในท้องได้ เพียงไม่นานที่ฝ่ามือหนาสัมผัสกับหน้าท้อง..แรงขยับที่พอจะรู้สึกได้ทำให้ชานยอลสะดุ้งตกใจไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ละมือออก เขารู้สึกตื่นเต้นระคนดีใจที่เจ้าตัวน้อยในท้องได้ส่งสัญญาณมาทักทายกัน

     

    “เขาดิ้นบ่อยไหมครับ?” ชานยอลเอ่ยถามยิ้มๆ

     

    “ผมเพิ่งรู้สึกถึงเขาดิ้นครั้งแรกครับ”

     

    เมื่อแบคฮยอนว่าจบชานยอลก็เงยหน้ามองเจ้าของหน้าท้องนูนๆ ในทันที เขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่ามันเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวรู้สึกว่าเด็กคนนี้ดิ้น ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็เป็นคนแรกที่ได้สัมผัสกับการดิ้นครั้งแรกของเจ้าตัวเล็กในท้องน่ะสิ

     

    ชานยอลระบายยิ้มดีใจอย่างสุดขีด เขาเผลอรวบตัวรูมเมทร่างเล็กเข้าไปกอดอย่างดีใจประหนึ่งว่าตัวเองเป็นพ่อของเจ้าตัวเล็กในท้องซะเอง แต่แค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้วจริงๆ

     

    แบคฮยอนก็ยกมือขึ้นกอดตอบอีกฝ่ายเช่นกัน เขาเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่เด็กในท้องเริ่มส่งสัญญาณให้เขาได้รับรู้บ้างแล้ว เขาตื้นตันใจจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาไม่ได้เลย

     

    เด็กคนนี้ที่เขาเคยคิดว่าไม่ต้องการ

     

    แต่ตอนนี้กลับรู้สึกผูกพันอย่างไม่คาดคิด

     

    พร้อมๆ กับหัวใจที่เต้นแรงเพราะเจ้าของอ้อมกอด











    ขอตัดตอนนี้แค่นี้นะงับ ดูสั้นๆเนอะ 55











    *ย้ำอีกครั้งว่าไม่มีความสมจริงใดๆ*







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×