คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : [SF] CURSE | 01
CURSE
บยอน แบคฮยอน เรียนจบมาแล้วสองปีแต่ก็ยังไม่มีงานทำ
วันๆ เอาแต่เที่ยวกลางคืนจนเงินหมดก็โทรไปขอพ่อแม่เรื่อยๆ โดยไม่คิดที่จะหางานทำเอง…เขาอาศัยอยู่ในบ้านพักที่ปล่อยให้เช่าเป็นรายเดือน
โดยที่แชร์ค่าเช่ากับรูมเมทหนึ่งคนที่ชื่อว่า ปาร์ค ชานยอล
เราสองคนไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน
ต่างคนต่างอยู่กับชีวิตของตัวเอง ชานยอลมักออกไปทำงานแต่เช้าและกลับมาตอนห้าโมงเย็น
ส่วนแบคฮยอนมักจะออกไปเที่ยวตอนกลางคืนและกลับมาอีกทีตอนที่ฟ้าเริ่มสว่าง
หลังจากนั้นก็นอนยาวๆ อยู่ในห้อง
ช่วงเวลาที่จะทำให้เราสองคนอยู่ด้วยกันก็คือตอนกินข้าวเย็นเพียงเท่านั้น
เราทั้งคู่ตกลงกันว่าข้าวเย็นจะสลับเปลี่ยนกันซื้อมากิน
ยังไงเราก็อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยกันก็ควรจะหาซักช่วงเวลาหนึ่งมาพบหน้าพบตาหรือพูดคุยกันบ้าง
แบคฮยอนเป็นเสือผู้หญิงวันไหนที่ชานยอลไม่อยู่บ้านเขาก็มักจะพาสาวๆ
มาสานต่อที่บ้านดีกว่าไปเปิดโรงแรมแพงๆ ให้เปลืองตัง
เพราะยังไงแบคฮยอนก็ไม่ใช่ผู้เช่ารายเดียวเขามีรูมเมทจะนึกจะทำอะไรก็ต้องมีความเกรงใจอีกฝ่ายด้วย
ส่วนชานยอล..เป็นคนเงียบๆ
ถ้าไม่พูดด้วยก็ไม่พูดเลย แต่ก็ไม่ใช่คนน่ากลัวอะไรบางวันที่เจ้าตัวออกไปข้างนอกก็จะมีข้างฝากมาให้แบคฮยอนบ้าง
ก็นับว่าความสัมพันธ์ฉันรูมเมทระหว่างเราก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
ในคืนหนึ่งแบคฮยอนไปเที่ยวผับประจำตามปกติ
ชานยอลก็คงจะกำลังนอนหรือไม่ก็อ่านหนังสือตามปกติ
แต่ก็มีสิ่งที่ไม่ปกติเลยก็ตรงที่ว่าไม่มีสาวคนไหนเข้ามาสานต่อกับแบคฮยอนเลยซักคน
เพราะปกติแล้วไม่ว่าคืนไหนต่อคืนไหนก็ต้องมีใครซักคนเข้ามาคุยกับเขาแล้วไปต่อกันที่อื่น
แบคฮยอนอยู่ที่ผับเกือบค่อนคืนก็ไม่มีใครเข้ามาเหลียวแลเลยซักคน
หรือว่าวันนี้อาจจะไม่ใช่วันของเขา แบบว่า..สาวๆ
ที่มีรสนิยมชอบคนแบบเขาจะไม่มา เอาเถอะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็จะคิดเพียงแค่ว่าออกมากินเหล้าแก้เบื่อก็แล้วกัน
เมื่อกลับมาถึงบ้านโดยแท็กซี่ในเวลาประมาณตีสองกว่าๆ
ก็เห็นว่าไฟในบ้านนั้นปิดหมดทุกดวงคาดว่ารูมเมทอีกคนคงจะหลับไปนานแล้ว ถึงจะดื่มไปเยอะแต่ก็ยังคงประคองสติของตัวเองได้อยู่
เมื่อเข้าไปในบ้านได้ก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงของตัวเองโดยไม่คิดจะลุกไปอาบน้ำแต่อย่างใด
แล้วก็หลับไปอย่างไวราวกับโดนสับสวิตช์
แบคฮยอนกำลังเดินไปยังที่ไหนซักที่
แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปไหนเหมือนกันเขารู้แค่ว่าเขาต้องเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ
แม้รอบข้างจะมืดมิดจนมองอะไรไม่เห็นก็ตาม
แต่แล้วอยู่ๆ
ก็มีแสงสว่างวาบจนแบคฮยอนต้องยกมือขึ้นปิดตา
แต่เมื่อเปิดตาขึ้นมามองอีกครั้งรอบด้านก็กลายเป็นหมู่เมฆสีขาวมากมายลอยละล่องราวกับว่าเขายืนอยู่บนท้องฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
“สวัสดี” จู่ๆ
ก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏกายของใครบางคนที่เขาไม่รู้จัก
“เธอเป็นใคร?”
แบคฮยอนเอ่ยถามผู้หญิงตรงหน้าที่ใส่ชุดสีขาวฟูฟ่อง ในมือถือแท่งไม้เล็กๆ
สีขาวที่ปลายสุดเปล่งแสงเป็นประกายไว้อยู่
หลุดมาจากละครเรื่องไหนล่ะจ๊ะแม่นาง
นี่ถ้าไม่ติดว่าหน้าตาสวยก็คงบอกว่าเป็นบ้าไปแล้ว
“นี่ฉันไม่ได้บ้านะ!”
ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาราวกับอ่านใจของเขาได้
ตลกละ! ใครมันจะไปอ่านใจได้กันเล่า
“ฉันนี่ไงอ่านอยู่”
เฮ้ย! บ้าหรือเปล่าวะ
หรือนี่กูกำลังคุยกับคนบ้า
“ก็บอกว่าไม่ได้บ้า
เลิกคุยในใจซักทีเหอะ” เหมือนเธอเริ่มจะมีน้ำโหเพราะเตรียมถกแขนเสื้อจะหาเรื่องเลยน่ะ
“อ่าๆ
แล้วเธอเป็นใคร”
“ฉันเป็นนางฟะ…”
“ถุ้ย!”
“เอ๊ะ! ถุ้ยอะไร”
“ไปหลอกเด็กไปป้า
นางฟ้าอะไรไร้สาระ”
“ปะ..ป้าเหรอ”
ดูเหมือนคุณนางฟ้าจะตกใจกับสรรพนามที่คู่สนทนาของเธอเรียกเป็นอย่างมาก
แบคฮยอนที่ไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่ไหนก็มองซ้ายแลขวา
แต่ถึงแม้จะมองไปกี่รอบทิศก็จะเจอแต่ก้อนเมฆเต็มไปหมด
“นี่!
นายไม่รู้หรือไงว่าตัวเองกำลังจะโดนสาป”
คุณนางฟ้าไม่ยอมแพ้เมื่อตั้งสติได้ก็เอ่ยถึงธุระสำคัญที่เธอต้องมาเจอนายคนนี้
“โดนสาป?”
แบคฮยอนคิดว่าแค่คนตรงหน้าบอกว่าตัวเองเป็นนางฟ้าก็ว่าไร้สาระพอแรงแล้วนะ
แล้วมาพูดถึงเรื่องคำสงคำสาป บ้าบอจริงๆ
“ใช่
และฉันก็จะเป็นคนสาปนายด้วย” เชิดคอพูดอย่างคนเหนือกว่า
แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย “ไม่อยากรู้หรือไงว่าตัวเองทำอะไรผิดจนต้องโดนสาป”
“อ่าๆ ว่ามา”
เอาเถอะมาขนาดนี้แล้วยอมๆ ฟังซักหน่อยก็ได้ ถ้าจะไร้สาระก็มาให้สุดเลย
“ก็นายน่ะชอบเที่ยวกลางคืน
โตจนอายุยี่สิบสามแล้วก็ยังไม่มีงานทำ ขอเงินพ่อแม่ๆไปวันๆ นี่มันน่าตีจริงๆ
เลยให้ตายสิ…แล้วยังจะเป็นเสือผู้หญิงฟันไม่เลือกหน้าอีก โอ๊ยยย!
ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้
ล่าสุดโกหกพ่อแม่บอกว่าได้งานทำแล้วแต่ต้องการเงินไปลงทุนสามหมื่น แต่สุดท้ายก็เอาเงินพวกนั้นไปใช้หนี้ที่เล่นพนันแพ้
แล้วยังจะ…”
“พอๆๆๆ นี่ป้าเป็นอะไรวะเนี่ยบ่นอย่างกับเป็นเมียลุงผมไปได้”
แบคฮยอนรีบเบรคอีกคนก่อนที่วีรกรรมทั้งหมดที่เขาทำมาจะทับตัวเขาตาย
มันก็ละอายใจนะ..แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่หว่าก็งานยังหาไม่ได้
ก็เลยเที่ยวไปเรื่อยๆ ก่อน แต่ผู้หญิงพวกนั้นมาติดเขาเองนะถึงบางคนเขาจะเข้าไปชวนคุยก่อนก็ตาม
แต่เรื่องโกหกพ่อแม่อันนี้ยอมรับว่าเลวจริง..มันช่วยไม่ได้นี่หว่าเขาดันเผลอไปเล่นพนันแล้วดันแพ้ซะนี่
ไม่รู้จะไปเอาเงินจากไหนมาใช้หนี้ก็เลยโกหกพ่อแม่นิดๆ หน่อยๆ เพื่อไม่ให้โดนกระทืบล่ะวะ
“ฉันยังไม่ได้แต่งงาน!!!”
“ไม่แปลกใจเลย”
“เอ๊ะ!”
คุณนางฟ้าดูเหมือนจะเริ่มทนไม่ไหวกับผู้ชายคนนี้แล้ว อย่างนี้มันต้องเจอคำสาปหนักๆ
เอาให้จำไปตลอดชีวิตเลย “คนอย่างนายจะต้องโดนสั่งสอนซะบ้างจะได้จำ”
“สั่งสอนอะไรอีกล่ะป้า”
“หึ
ฉันจะขอสาปให้นายตั้งท้องได้”
“เฮ้ยๆ เดี๋ยวป้ามันไม่ตลกเลยนะ”
แบคอยอนรีบพูดค้านขึ้นมา “ผมเป็นผู้ชายจะไปท้องได้ยังไง ไร้สาระ”
“อ่อเหรอ”
จัดการแกว่งไม้คทาในมือไปหนึ่งที
และเมื่อคุณนางฟ้าแกว่งไม้คทาความรู้สึกหนักๆ
ที่ท้องทำให้แบคฮยอนต้องก้มลงไปมองดูปรากฏว่าหน้าท้องของเขาขยายใหญ่ขึ้นราวกับคนท้องจริงๆ
เขาทรุดตัวลงแล้วประคองท้องของตัวเองเอาไว้เพราะมันหนักมากมายมหาศาลราวกับมีหินอยู่ภายในนั้น
“นี่ป้าทำอะไรกับผมเนี่ย!!?”
เงยหน้าขึ้นไปโวยวายกับคนที่ยืนยิ้มเยาะเย้ยเขาอยู่
“นี่แหละคือคำสาปที่นายจะได้รับต่อจากนี้ไป
ฮ่าๆๆๆ”
“ไม่! เอามันออกไปนะ
ผมเป็นผู้ชาย!!!” เหมือนกับว่ามีใครมากระชากเขาให้ตกลงไปเรื่อยๆ
ทั้งๆ ที่นางฟ้าคนนั้นก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เธอหัวเราะเยาะเย้ยแล้วโบกมือบ้ายบายเขาที่กำลังจะตกลงไป
“โอ๊ะลืมบอก
ถ้านายตามหาพ่อของเด็กไม่เจอ ชีวิตของนายก็จะไม่มีความสุขอีกต่อไป จำไว้ด้วยล่ะ
ฮ่าๆๆๆ”
“ม่ายยยยยยยย!!!!!!”
CURSE
“เฮือกกกก!”
แบคฮยอนตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่ท่วมตัว
เขารีบจับท้องของตัวเองอย่างอัตโนมัติและพบว่ามันยังคงปกติดีไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนในฝัน
ใช่! แบคฮยอนฝัน..เป็นฝันที่ประหลาดมากๆ เขาฝันว่าตัวเองเดินไปที่ที่หนึ่งที่มืดมากๆ
แต่ซักพักโดยรอบก็กลายเป็นเมฆที่เหมือนเขาลอยอยู่บนท้องฟ้า แล้วจู่ๆ
ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นนางฟ้า แล้วสาปเขาให้ตั้งท้องได้
นี่มันความฝันไร้สาระชัดๆ
นางฟ้าอะไรกันล่ะ
คำสาปอะไรกันล่ะมันช่างไร้สาระสิ้นดี ไหนจะคำสาปที่ให้เขาท้องได้อีก บ้าไปแล้ว..เขาเป็นผู้ชายแล้วผู้ชายที่ไหนตั้งท้องได้กัน
สงสัยเขาคงจะเมามากเลยฝันเป็นตุเป็นตะขนาดนี้
เหลือบไปมองนาฬิกาที่หน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นว่าเป็นเวลาบ่ายโมงกว่าๆ
แล้ว ซึ่งรูมเมทอีกคนก็คงยังไม่กลับ
จะให้เขานอนต่อมันก็ไม่หลับแล้วเพราะความฝันนั่นแท้ๆ เลย
แบคฮยอนจึงจำใจลุกจากเตียงไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย ยังไงซะวันนี้ก็ไม่ใช่วันที่เขาต้องออกไปซื้อกับข้าว
แค่หุงข้าวไว้รออีกคนกลับมาก็พอ
บรรยากาศภายในโต๊ะกินข้าวยังคงเงียบเพราะต่างคนต่างไม่พูดเหมือนเฉกเช่นทุกวัน
แต่แบคฮยอนกลับมีอาการเหม่อผิดปกติข้าวในจานก็ตักกินไปแค่สองสามคำแล้วก็เขี่ยเล่นอยู่อย่างนั้น
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ชานยอลที่นั่งตรงข้ามรูมเมทคอยสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายตลอดก็เอ่ยถามขึ้น
“ห๊ะ..อืม เปล่าๆ”
แบคฮยอนส่ายหน้าปฏิเสธแล้วลุกขึ้นเตรียมเอาจานไปเก็บ “ผมอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะ”
ชานยอลมองตามร่างเล็กจนเดินเข้าห้องไป
ถ้าเจ้าตัวบอกว่าไม่มีอะไรก็คงจะไม่มีอะไรจริงๆ ตามนั้น
แล้วเราทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทกันถึงขนาดมานั่งเล่าปัญหาแล้วขอคำปรึกษากันได้
ชานยอลจึงนั่งกินข้าวตามเดิม
…
หนึ่งเดือนผ่านไป
แบคฮยอนยังคงไปเที่ยวกลางคืนตามปกติ
เพราะสิ่งที่กำลังกังวลอยู่นั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงยังไงมันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน
และเขายังคงเชื่อว่าไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกตั้งท้องได้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดแบบนี้แล้วแบคฮยอนก็เลยกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
การดำเนินชีวิตประจำวันก็ยังเหมือนเดิมทั้งคู่
ชานยอลไปทำงานแต่เช้าแล้วกลับมาตอนห้าโมงเย็น แบคฮยอนที่ออกไปเที่ยวทั้งคืนก็กลับมานอนทั้งวัน
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดคนกับคนที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของตัวเอง
แบคฮยอนรู้สึกขมๆ คอและอึดอัดท้องเหมือนมีอะไรบางอย่างพยายามตีตื้นขึ้นมา
แต่จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำทั้งที่สติก็ยังไม่เต็มร้อยดีนัก
เขาจัดการอาเจียนออกมาอย่างหมดไส้หมดพุงไม่รู้ว่าทำไมถึงได้อยากอ้วก
แต่ก็ไม่ใช่เพราะแฮงค์แน่ๆ เพราะเมื่อคืนเขาแทบจะไม่ได้แตะต้องแอลกอฮอล์เลยด้วยซ้ำ
เมื่ออาเจียนออกมาจนหมดจนไม่มีอะไรให้ออกมาแล้ว
เขาก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรง รู้สึกเหนื่อยล้าไปหมดทั้งๆ
ที่ปกติก็ไม่ได้เป็นแบบนี้พยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแต่ก็รู้สึกวูบๆ
อยู่หลายครั้งจนต้องหลับตาตั้งสติ
เมื่อดูเวลาก็เป็นเวลาที่รูมเมทอีกคนใกล้จะกลับบ้าน
แบคฮยอนรีบเดินไปที่ห้องครัวเพราะเขายังไม่ได้หุงข้าวเลยกลัวชานยอลกลับมาแล้วข้าวยังสุกไม่ทัน
ซึ่งหน้าที่หุงข้าวเป็นหน้าที่ประจำของแบคฮยอนเพราะเจ้าตัวอยู่บ้านทั้งวัน
ไม่ว่าจะเป็นเวรที่แบคฮยอนต้องซื้อกับข้าวหรือชานยอลเป็นคนซื้อหน้าที่นี้ก็จะเป็นของแบคฮยอน
เสียงรถยนต์ดังอยู่หน้าบ้านแสดงว่าชานยอลนั้นได้กลับมาแล้ว
แต่ข้าวที่เพิ่งจะหุงได้ไม่นานก็ยังไม่สุก
แบคฮยอนนั่งหลับตาตั้งสติตัวเองอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเพราะเมื่อกี้เขาเกิดอาการวูบอีกแล้ว
“ขะ..ขอโทษนะ
ข้าวยังไม่สุกน่ะเพิ่งหุง” แบคฮยอนพูดขึ้นเมื่อชานยอลเดินเข้ามาวางกับข้าวไว้ที่โต๊ะ
“ไม่เป็นไร” ร่างสูงว่าเพียงแค่นั้นแล้วขอตัวเอากระเป๋าทำงานไปเก็บที่ห้องของตัวเอง
แบคฮยอนจัดการเตรียมอาหารใส่จานให้เรียบร้อย
อาการวูบๆ ยังไม่หายไปดีนักแต่เขาก็พยายามฝืนตัวเองเอาไว้แล้วคิดว่าถ้าได้กินข้าวซักหน่อยและนอนพักก็น่าจะหาย
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ชานยอลเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกคนหน้าซีดๆ
“ปะ..เปล่าๆ”
ร่างเล็กโบกมือปฏิเสธ ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม
แต่อาการวูบก็ทำให้แบคฮยอนหน้ามืดและเป็นลมล้มพับไปต่อหน้าต่อตาชานยอล
“คุณ!!!!”
ชานยอลรีบเข้าไปรับตัวแบคฮยอนเอาไว้ได้ทันเขย่าตัวเรียกอีกคนก็ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้น
เขาจึงจัดการอุ้มแบคฮยอนในท่าเจ้าสาวแล้วพาขึ้นรถไปโรงพยาบาลทันที
แบคฮยอนถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินในทันทีโชคดีที่เพื่อนของชานยอลเป็นหมออยู่ที่นี่
จึงทำให้สบายใจในระดับนึงว่ารูมเมทอีกคนจะปลอดภัย
ตอนที่แบคฮยอนเป็นลมไปต่อหน้าของเขานั้นใจชานยอลแทบจะหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ยังดีที่ตั้งสติไว้ได้ทันไม่งั้นรูมเมทอีกคนอาจได้รับบาดเจ็บไปมากกว่านี้
รอซักพักใหญ่ๆ คิม จงแด คุณหมอหรือเพื่อนของชานยอลก็ออกมาพร้อมกับร่างของรูมเมทที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้
จงแดพยักหน้าให้ร่างสูงเดินตามไปพร้อมกันกับตน เขาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องคนไข้บยอน
พร้อมๆ กับร่างสูงที่เอ่ยถามถึงอาการของคนในห้องทันที
“เป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันก็ยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ว่ะ
ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดอีกทีแต่เบื้องต้นคือมีอาการอ่อนเพลียและพักผ่อนน้อย
ไม่เป็นอะไรที่ร้ายแรงมากนายสบายใจได้”
“ขอบใจนะ”
“เข้าไปรอในห้องได้เลย ถ้าได้ผลตรวจเมื่อไหร่ฉันจะมาบอกอีกที”
“อืม ขอบใจมากๆ”
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็แยกย้ายกันไป ชานยอลเปิดประตูเข้าไปในห้องพักที่มีร่างของรูมเมทนอนอยู่บนเตียง
ยังโชคดีที่อีกคนไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงถึงแม้จะต้องรอผลตรวจอีกทีก็ตาม
…
“อะ..อือ”
แบคฮยอนลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับอาการปวดหัวตุ้บๆ
แสงไฟสีขาวบนเพดานส่องเข้ามาแยงตาจนต้องยกมือขึ้นมาบังแต่ก็สังเกตเห็นว่ามือข้างซ้ายของตัวเองถูกเจาะสายน้ำเกลือเอาไว้อยู่
“ระ..โรงพยาบาลเหรอ”
“ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกยังไงบ้าง”
ชานยอลรีบลุกขึ้นมาถามไถ่อาการเมื่อเห็นอีกฝ่ายตื่นแล้ว
“ปวดหัว”
“งั้นเหรอ รอหน่อยนะเดี๋ยวหมอก็มา”
ชานยอลทำการปรับเตียงให้สูงขึ้นมาอีกหน่อยเพื่อจะได้เอาน้ำให้อีกคนดื่มได้ถนัด
เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอจงแดเปิดประตูเข้ามาพอดี
“คุณแบคฮยอนตื่นพอดีเลยครับ
รู้สึกยังไงบ้าง” จงแดยิ้มอย่างใจดีพร้อมกับยกชาร์ทผลตรวจขึ้นมาอ่าน
“ปวดหัวครับ”
“แล้วก่อนหน้านี้มีอาการยังไงบ้างครับ”
“อ้วกครับ แล้วก็วูบบ่อยๆ”
“อืม…ผมจะบอกก่อนนะครับว่าผลตรวจที่ได้มานี้
ผมตรวจดูหลายรอบมากๆ แต่ผลที่ออกมาก็เหมือนกันทุกรอบ”
“ผะ..ผมเป็นอะไรเหรอครับหมอ”
แบคฮยอนกำผ้าห่มแน่นลุ้นไปกับอาการป่วยของตัวเอง
ชานยอลที่นั่งอยู่ข้างเตียงก็รอฟังอย่างตั้งใจ
“คุณบยอน แบคฮยอนครับ”
“…”
“…”
“คุณกำลังตั้งครรภ์”
แบคฮยอนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่เขาฝันในวันนั้นมันจะเป็นความจริง
ความจริงที่ว่าเขาโดนสาปให้ตั้งท้องได้
เป็นผู้ชายที่สามารถตั้งท้องได้
ความคิดเห็น