คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : [SF] LADY BOY | END
LADY BOY
“ฮ๊ายยยย กระเทยยยยยยย”
“มาทำไมห๊ะ อิดอกกก”
ชานยอลแทบอยากจะปิดประตูไล่แขกที่มาในวันนี้
แล้วดูพวกมันแต่งองค์ทรงเครื่อง..ตำรวจไม่ลากเข้าซังเตได้ยังไงวะ
หรือไม่โรงพยาบาลศรีธัญญาก็น่าจะรับพวกมันไปเป็นสมาชิกได้แล้ว
“กล้าไล่พวกกูเหรอห๊ะ!! มึงควรจะขอบคุณพวกกูซะด้วยซ้ำนะที่ไม่ให้เจ้ใหญ่เขี่ยมึงออกจากผับ”
คนที่สะพายกระเป๋าคิตตี้พูดขึ้น
เขาเท้าสะเอวเตรียมพร้อมจะหาเรื่องเพราะอุตส่าห์มาเยี่ยมถึงที่แต่มาโดนเจ้าของห้องไล่เนี่ยนะ
ชอลลี่รับมิดั๊ยย!!!
“แล้วเป็นห่าอะไรไม่ไปทำงานคะอิดอก
เป็นริดซี่เหรอไงยะ” คนผิวสีแทนที่รอบลำคอนั้นถูกพันด้วยขนเฟอร์นุ่มนิ่มสีชมพูเข้มพูดขึ้นมาบ้าง
“หรือมึงหมกตัวอยู่กับผัวฝรั่งจนลืมวันลืมคืน?”
คราวนี้คนที่มีผิวสีขาวกว่าใครเพื่อนพร้อมกับอุ้มน้องแมวพันธ์เปอร์เซียสีเดียวกับเจ้าตัวถามขึ้น
ชานยอลถึงกับเอามือตบหน้าผากตัวเองใครแม่งเชิญให้พวกมันมาวะ
คือเขาแค่ไม่ไปทำงานสองวันมาตามถึงที่
ถ้าไม่ไปเป็นเดือนมันไม่ตามจนสุดขอบโลกเลยเหรอวะ
แล้วดูแต่ละคำถามที่พวกมันแต่ละคนถาม ชานยอลรับมิดั๊ยยย!!!
“ใครมาเหรอครับ?” แบคฮยอนเดินออกมาตามเมื่อไม่เห็นว่าแฟนของตนเองจะเข้ามาในห้องซักทีหลังจากทีได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง
“ว๊ายยยยยยย”
“นั่นใครยะ”
“อิดอกกกก!!! เล่าค่ะ”
และความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในทันทีเมื่อเหล่าแก๊งค์กระเทยของชานยอลได้เข้ามาอยู่ในห้อง
แต่คนที่ดูจะวุ่นวายที่สุดก็คงจะเป็นแฟนตัวเล็กของเขานั่นแหละที่โดนซักถามไม่หยุดหย่อนชานยอลอยากจะเข้าไปช่วยใจแทบขาดแต่ก็ไม่มีจังหวะเข้าไปขัดเลย
“นี่หนูเป็นใครอ่ะ
เด็กเลี้ยงยัยชานเหรอ?”
ชานยอลแทบจะเข้าไปกินหัวเจ้าของกระเป๋าคิตตี้ที่มันบังอาจมาว่าแฟนเขาเป็นเด็กเลี้ยง
“เอ่อ..เปล่าครับ ผมไม่ใช่”
“แล้วหนูมาทำอะไรที่ห้องยัยชาน
โดนจ้างมาเท่าไหร่อ่ะ?” ดูไอ้ขนเฟอร์สีชมพูมันถามแฟนเขา กูไม่ได้จ้างมานั่นแฟนกูโว๊ยยยยยยยย
“ปะ..เปล่าครับ
ไม่ได้โดนจ้าง”
“แล้วตกลงเป็นอะไรกันห๊ะ!?”
อิขาวจั๊วะมึงอย่ามาตะคอกใส่แฟนกู
ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยย
“อิเชี้ยยยย!!! นั่นแฟนกู!!!!!!”
ชานยอลเดิมแหวกเข้าไปกลางวงล้อมแล้วคว้าแฟนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ในอ้อมอกอย่างหวงแหน
เขาจะต้องปกป้องแบคฮยอนจากสิ่งชั่วร้ายด้วยความรักและความยุติธรรม
ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ผู้นี้แหละจะลงทัณฑ์พวกแกเอง
“ว๊ายยยยยยยย!!!!!!” ทั้งสามเทยหวีดว๊ายประสานเสียงออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ
ไม่อยากจะเชื่อว่ายัยชานที่เลือกแต่คนล่ำๆ หุ่นแซ่บๆ ไอ้จ้อนใหญ่ๆ
แบบอเมริกันแสตนดาร์ทจะมาคบกับยัยหนูหน้าหมาแบ๊วผู้นี้
“ละ…แล้วเควิลผัวฝรั่งมึงล่ะ?”
“เลิกกันนานละ!”
ชานยอลขมวดคิ้วไม่ชอบใจกับคำถาม
ใครสั่งใครสอนให้ถามถึงผัวเก่าต่อหน้าแฟนใหม่แบบนี้
“เอ้า แล้วไม่เล่าให้พวกกูฟัง”
คนผิวสีแทนยกขนเฟอร์สีชมพูของตัวเองฟาดหน้าชานยอลไปหนึ่งทีเป็นบทลงโทษ
“แล้วไม่คิดจะแนะนำให้แฟนเด็กมึงรู้จักพวกกูเลยเหรอคะ?”
“คนอย่างพวกมึงมันไม่น่าให้รู้จักเลยซักนิด”
“อ๊ายยยยยยยย!!!!”
และเสียงหวีดว๊ายก็ประสานพร้อมกันอีกครั้ง
จนชานยอลนึกรำคาญเดินลากแบคฮยอนที่ยังอยู่ในอ้อมกอดไปเข้าห้องนอน
“เดี๋ยวซี่พี่สาว มันเสียมารยาทนะ”
แบคฮยอนยื้อตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของชานยอลแล้วเดินไปแนะนำตัวเองต่อหน้าคนที่มาใหม่ทั้งสามคน
“สวัสดีครับ ผมบยอน แบคฮยอนครับ”
“ว๊ายยยน่าเอ็นดู ฉันชอลลี่นะจ๊ะ”
คนที่สะพายกระเป๋าคิตตี้เดินเข้ามาบีบแก้มของแบคฮยอนจนพอใจแล้วบอกชื่อเจ้าตัวให้รู้จัก
“ส่วนฉันอินนี่…อิสยัวร์เอเรียย๊ะ”
คนผิวสีแทนแนะนำตัวพร้อมกับโพสต์ท่าเซ็กซี่ที่มั่นใจที่สุด
“มยอนงี่และลิลลี่จ้ะ”
คนตัวขาวแนะนำตัวเองพร้อมกับบอกชื่อเจ้าแมวเปอร์เซียตัวน้อยที่อุ้มอยู่ที่อกด้วย
“ว้าวว! น่ารักมากๆ
ขะ..ขออุ้มได้ไหมครับ?”
แบคฮยอนดูจะสนใจเจ้าแมวสีขาวตัวน้อยที่ชื่อลิลลี่เป็นพิเศษ
เมื่อเห็นเจ้าของพยักหน้าอนุญาตก็จัดการอุ้มมันอย่างทะนุถนอมในอ้อมแขมของตัวเอง
ชานยอลที่ยืนเป็นธาตุอากาศก็คิ้วกระตุกอยู่ยิกๆ
พวกมันไม่ควรมาเลย ไม่ควรมาเลยจริงๆ *กำมือแน่นแผ่รังสีความไม่พอใจ*
ทำไมจะต้องไปห้อมล้อมแฟนเขาขนาดนั้น
มึงหยุดบีบแก้มแฟนกูเลยนะอิชอลลี่ อิอินนี่ก็ไม่ต้องเอามือสกปรกๆ
ของมึงมาลูบหัวแฟนกู เอาแมวของมึงไปโยนทิ้งไกลๆ ด้วยอิมยอนงี่กูรังเกียจ
ชานยอลจะไม่ทน!!!!
“แล้วพวกมึงมานี่มีธุระอะไรยะ?”
เท้าสะเอวแสดงความไม่พอใจขั้นสุด ถ้าพวกมึงไม่มีธุระสำคัญกูก็พร้อมจะให้พวกมึงเก็ทเอ้าท์ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ก่อนที่กูจะกริ้ว
“ก็อย่างที่บอกว่ามึงไม่ไปทำงานสองวันแล้ว
มึงก็รู้ว่ามีลูกค้าประจำมาติดมึงหลายคน
นี่เจ้ใหญ่ก็กริ้วจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี่ย” ชอลลี่เป็นคนอธิบายให้เจ้าของห้องฟัง
ที่มาหาก็เพราะเหตุผลนี้แหละแต่เล่นกับเจ้าเด็กหน้าแบ๊วจนลืมบอกไปเลย
“งั้นกูลาออก” ชานยอลบอกเสียงเรียบ
“ว้อทเดอะ…!?”
อินนี่ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างตกใจ
“แล้วมึงจะเอาไรแดก?”
มยอนงี่ก็ถามเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้ามันไม่ทำงานแล้วจะเอาอะไรเลี้ยงแฟนเด็กมันล่ะวะ
ตัวก็ยิ่งผอมๆ นี่กินหรือดมข้าวอยากถามมาก
“กูลาออกจากงานแต่ไม่ได้ลาออกจากหุ้นส่วนนะจ๊ะ
กูถือหุ้นใหญ่สุดพวกมึงอย่าลืม”
ยิ้มเยาะอย่างสะใจแล้วจัดการจับแมวตัวน้อยในอ้อมแขนแบคฮยอนส่งให้เจ้าของอย่างนึกรังเกียจ
จากนั้นก็ดันหลังพวกมันทั้งสามคนให้ออกจากห้อง
ปากก็เอ่ยไล่แบบไม่ใยดีแล้วจัดการปิดประตูใส่หน้าไม่ทันให้พวกแก๊งค์กระเทยทั้งสามได้โวยวายอะไร
“อีกซักพักเราออกไปเที่ยวข้างนอกกันนะ”
“แหะ คะ..ครับ”
แบคฮยอนก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ยืนมึนงงอยู่กลางห้องแต่ก็ตอบตกลงกลับไป
LADY BOY
เมื่อหลายวันก่อนแบคฮยอนบ่นว่าอยากมาดูหนังในโรงภาพยนตร์มากๆ
และก็มีหนังที่เจ้าตัวอยากดูพอดีกำลังจะมาเข้าฉายในโรง วันนี้ชานยอลก็เลยถือโอกาสพามาซะเลยจะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากหน้าจอทีวีเล็กๆ
มาเป็นจอฉายภาพยนตร์ใหญ่ๆ แทน แถมยังซื้อตั๋วแบบสามมิติอีกด้วยนะ
เพื่อความสุขของแบคฮยอนน่ะ
มากกว่านี้ชานยอลก็ทำให้ได้
“ผู้ชายตัวเล็กคนนั้นน่ารักจังเลย”
“ใช่ๆ มาดูหนังคนเดียวเหรอน่ะ ฮืออ
น่ารักจริงๆ”
มีเสียงพูดคุยจากผู้หญิงสองคนที่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากชานยอลมากนักพอให้ชานยอลได้ยินถ้าตั้งใจฟัง
ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังเอ่ยชมผู้ชายคนนึงที่กำลังซื้อป๊อปคอร์นอยู่
ซึ่งนั่นก็คือแบคฮยอนแฟนของเขานั่นเอง ชานยอลแอบอมยิ้มที่ว่าใครๆ
ก็ชมแฟนของเขาว่าน่ารักทั้งนั้น
“พี่สาวผมฝากก่อนนะ
จะไปเข้าห้องน้ำอ่ะ”
เจ้าตัวเล็กวางป๊อปคอร์นถังใหญ่และน้ำไซส์บิ๊กลงข้างแฟนคนสวยของเขา
แล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำให้ทันก่อนที่จะถึงเวลาฉายหนัง
“อะไรน่ะ มีแฟนแล้วเหรอเนี่ย”
หนึ่งในนั้นพูดออกมาด้วยความเสียดาย
เธอมองตามร่างเล็กที่วิ่งไปเข้าห้องน้ำตาละห้อย
“เดี๋ยวก่อนสิเธอ
แฟนของผู้ชายคนนั้นเป็นกระเทย”
“ห๊ะ! จริงเหรอเนี่ย!!!”
“เบาๆ สิ ก็ไม่เห็นเหรอแต่งเป็นผู้หญิงแต่ลูกกระเดือกชัดเจนขนาดนั้น
กระเทยชัวร์”
“อึ๋ย ทำไมถึงได้มีแฟนเป็นกระเทยนะ
เสียดายชะมัด!”
“อีกคนก็น่ารักแท้ๆ
น่าจะได้แฟนที่ดูแลปกป้องได้มากกว่านี้นะ”
“เอ่อ..เธอๆ เราไปกันเถอะ”
ชานยอลที่ฟังผู้หญิงทั้งสองคนนั้นพูดคุยกันตั้งแต่แรกก็รู้สึกทนไม่ไหวหันไปมองหน้าพวกหล่อนโต้งๆ
จนหนึ่งในนั้นสะกิดให้เพื่อนอีกคนเดินหนีไปที่อื่น
ตั้งแต่บอกว่าเขาเป็นกระเทยแล้ว
ทำไมล่ะ? เป็นกระเทยแล้วมันรักใครไม่ได้เหรอ
เป็นกระเทยแล้วจะดูแลปกป้องใครไม่ได้เหรอ ทำไมคนอื่นจะต้องมาตัดสินเขาที่ภายนอก
ตัดสินที่รสนิยมการแต่งตัวของเขา ตัดสินเพศสภาพที่เขาเลือก
ทำไมถึงได้มองข้ามความรักที่เขามีให้กับแบคฮยอน
“พี่สาว อ่า..เป็นอะไรหรือเปล่า?
ทำไมทำหน้าเครียดๆ” แบคฮยอนที่กลับมาจากเข้าห้องน้ำเอ่ยถามคนรักด้วยความเป็นห่วง
เพราะชานยอลดูเครียดๆ เหมือนคนกำลังวิตกกังวลกับอะไรบางอย่าง
“อ่อ..อืม..เปล่าๆ ได้เวลาแล้วรีบเข้าไปกันเถอะ” ชานยอลสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป
เขาหันมาส่งยิ้มให้แฟนตัวเล็กแล้วช่วยถือน้ำแก้วใหญ่เข้าไปในโรงด้วยกัน
แบคฮยอนจึงถือถังป็อปคอร์นเดินตามไปแม้จะอดสงสัยไม่ได้ก็ตาม
…
ตั้งแต่กลับมาจากดูหนังคราวนั้นชานยอลก็ทำตัวแปลกๆ
ไป ไม่ใช่ว่าแปลกจนเปลี่ยนไป แต่มันแปลกๆ แบบว่าแบคฮยอนรู้สึกได้เองว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่คนสวยของเขาตอนที่เขาไม่อยู่หรือไม่รู้
อย่างเช่น
แบคฮยอนมักจะเอ่ยชมชานยอลทุกครั้งเวลาเจ้าตัวแต่งตัวสวยๆ
แต่หลายวันมานี้ชานยอลไม่ค่อยได้หยิบจับเสื้อผ้าสวยๆ มาใส่เลย นานๆ
ทีได้ออกไปข้างนอกก็จะใส่ซักครั้ง เขาก็เอ่ยชมตามปกติเพราะเวลาชานยอลแต่งตัวสวยๆ
นั้นสวยจริงๆ ในสายตาของเขาเสมอ
แต่ดูเหมือนว่าคนสวยของแบคฮยอนดูไม่ดีใจเลย
มียิ้มให้ทุกครั้งแต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ
แล้วยิ่งใกล้ครบรอบ 100 วันที่เราคบกันแล้ว
แบคฮยอนยิ่งไม่สบายใจถ้าระหว่างเรายังเป็นแบบนี้
“พี่สาวอยากไปฉลองครบรอบหนึ่งร้อยวันที่เราคบกันที่ไหนดี”
แบคฮยอนล้มตัวลงนอนทับท้องชานยอลแนวขว้าง
พยายามก่อกวนอีกฝ่ายที่กำลังดูทีวีอยู่ให้สนใจกัน
และเพราะว่าเราทั้งคู่ก็ยังหาซื้อโซฟาที่ถูกใจชานยอลไม่ได้
พี่คนสวยจึงซื้อฟูกมาปูให้นอนเล่นหน้าทีวี เพราะบางวันแบคฮยอนที่นั่งดูทีวีอยู่เฉยๆ
ก็เผลอหลับไปบ้าง เขาจึงขนหมอนขนผ้าห่มมาไว้มันกลางห้อง
บางคืนก็ชวนกันนอนที่ตรงนี้แหละเพราะเจ้าตัวเล็กบอกว่าสบายดีมีทีวีให้ดูก่อนนอน
“แล้วแต่เราเลย”
ชานยอลยังคงจดจ้องไปที่หน้าจอทีวี ไม่ได้สนใจเจ้าตัวเล็กที่นอนคว่ำทับท้องเลย
“ไม่ได้ซี่ ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนอ่ะ”
แบคฮยอนไม่ยอมแพ้ดิ้นเร้าๆ อยู่บนท้องของอีกฝ่าย
“งั้นก็ไปผับที่พี่เคยทำงาน”
“เอางั้นก็ได้”
แบคฮยอนลุกขึ้นมานั่งทับขาตัวเองมองหน้าอีกฝ่ายที่ก็ยังจดจ้องทีวีที่มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้น
พี่คนสวยของเขาเหมือนไม่ได้แปลกแต่ก็ดูแปลกๆ ในความรู้สึกของแบคอยอน
ไอ้ความคาใจที่มันอยากถามออกไปโต้งๆ นี่เขาควรจะทำยังไงดี
LADY BOY
เมื่อมาถึงวันครบรอบ 100 วันที่เราคบกันแล้วแบคฮยอนก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ
เขาจัดการเลือกชุดที่คิดว่าเท่ที่สุดเท่าที่มีในตู้เสื้อผ้าออกมาใส่ เพราะการไปผับที่เป็นสถานที่ที่คนอยู่เยอะมากๆ
เขาจึงต้องดูดีเพื่อไม่ทำให้พี่คนสวยขายหน้า
“โหววว วันนี้พี่สาวสวยเป็นพิเศษเลย”
แบคฮยอนยอมรับว่าเขาตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้เห็นแฟนของตัวเองใส่ชุดสวยๆ
แล้ววันนี้พี่คนสวยก็ทำเอาเขาตกตะลึงตาค้างเพราะมันเป็นวันพิเศษของเราทั้งคู่มันจึงทำให้วันนี้พี่คนสวยของแบคฮยอนสวยเป็นพิเศษกว่าวันไหนๆ
เลยจริงๆ
“วันนี้แบคฮยอนก็น่ารักมากๆ”
“อ่า…” แบคฮยอนน่ะไม่เคยได้รับคำชมว่าเท่
ว่าหล่อ จากปากแฟนตัวเองเลยซักครั้งมีแต่คำชมว่าน่ารักๆ ทั้งนั้นเลยแต่ก็ช่างมันเถอะเขาไม่ได้หวังคำชมอยู่แล้ว
แต่เขาหวังแค่ว่าพี่คนสวยของเขาจะยิ้มได้เพราะเขาหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ในที่สุดเราทั้งสองคนก็มาถึงผับที่ชานยอลเคยมาทำงานหรือเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ในที่นี้
แบคฮยอนรู้สึกประหม่าเพราะไม่เคยเข้ามาในที่ๆ คนเยอะ
เสียงดนตรีก็ดังกระหึ่มเหมือนมีลำโพงอยู่ข้างหูทำให้เจ้าตัวเล็กไม่ชินเอาเสียเลย เขาเกาะแขนอีกคนเอาไว้เดินไม่ห่างกายเพราะเขามีสิทธิ์หายเข้าไปท่ามกลางผู้คนที่กำลังเต้นอยู่ได้ทุกเมื่อ
“โอเคนะ”
“สุดๆ”
ทำมือโอเคเพื่อให้อีกคนไม่ต้องห่วง
“เดี๋ยวพี่ไปหาพวกชอลลี่ก่อนนะ
อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม?”
“สบายมาก”
“รอแป๊บนึงนะ” ชานยอลไม่อยากปล่อยให้แฟนตัวเล็กอยู่คนเดียวเลย
แต่เขาจำเป็นที่จะต้องไปหาเพื่อนแก๊งค์กระเทยก็เลยต้องทิ้งให้แบคฮยอนอยู่ตรงบาร์ไปก่อน
แบคฮยอนสั่งแค่น้ำอัดลมเพราะเขาไม่รู้เรื่องแอลกอฮอล์มากนัก
สั่งก็ไม่เป็นก็เลยเลือกแค่น้ำอัดลมหนึ่งแก้วเพื่อรอพี่คนสวยที่ก็ยังคงไม่กลับมาซักที
“ฮัลโหล ยูโลนลี่?” อยู่ๆ
ก็มีชาวต่างชาติเข้ามานั่งข้างแบคฮยอนทักทายเขาด้วยภาษาอังกฤษ
“เอ่อ..”
ไม่ใช่ว่าตอบไม่ได้
แต่เขาไม่อยากจะคุยด้วยมากกว่าเขาไม่อยากจะพูดคุยกับใครเลยจะกว่าแฟนของเขาจะมา
“เฮ้ ไอทอล์กวิทยูนะ อันเซอร์มี!!!”
นายต่างชาติถือวิสาสะจับข้อมือของแบคฮยอน
นั่นทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งพยายามกระชากมือกับแต่ก็ไม่เป็นผล
“…”
เขาจะไม่มีทางตอบโต้อะไรทั้งนั้น แต่ก็พยายามแกะมือใหญ่ๆ ของนายต่างชาติออก
“เฮ้!
เรลีสยัวร์แฮนด์ฟอร์มมายบอยเฟรนด์” ชานยอลบีบมือเข้าไปที่บ่าของอีกฝ่าย
บังคับให้ปล่อยมือออกจากแฟนของเขา
“ฮูอาร์ยู? วะ..ว้อทดาร์ลิ้ง!?” นายต่างชาติสะบัดแขนข้างที่ชานยอลบีบเอาไว้
ลุกขึ้นมาหาเรื่องแต่ปรากฏว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคืออดีตคนรักที่เคยคบกันมาสองปี
“คะ..เควิล!!??” ชานยอลก็ตกใจไม่แพ้กันที่มาเจออดีตผัวฝรั่ง
“จีซัสไคร้! ทำไมยูถึงมาอยู่ที่นี่
เราเลิกกันไปแล้ว”
“เฮอะ นี่มันที่ทำงานกูค่า
มึงนั่นแหละมายุ่งอะไรกับแฟนกู”
“ว้อท!? ฮีอิสยัวร์บอยเฟรนด์???”
เควิลมองหน้าแบคฮยอนสลับกับชานยอลอย่างไม่เชื่อว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นแฟนกัน
“โนวเวย์ อิมพอสซิเบิล”
“โอ้วซอรี่ อิทส์พอสซิเบิล”
ชานยอลป้องปากอย่างสะใจ ไงล่ะ! กูเลิกกับมึงกูก็มีใหม่เลย
ไม่เห็นจะเสียใจที่ไม่มีมึงเลยซักนิ๊ดดดดด
“ฟัค!!!”
ด้วยความโมโหจึงสาดเหล้าที่อยู่ในมือใส่อดีตคนรักอย่างเครียดแค้น
แล้วเดินหนีออกไปในทันที
“เฮ้ยพี่สาวเป็นอะไรไหม?”
แบคฮยอนแทบจะร้องไห้เมื่อเห็นสภาพคนรักของตัวเองเปียกปอนไปด้วยเหล้าและมีกลิ่นแอลกอฮอล์เต็มตัว
“ให้ตายเถอะ
อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลยชาตินี้”
ชานยอลก้มลงมองสภาพตัวเองแล้วถอนหายใจอย่างปลงจิต
ขอให้นี่มันเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจออดีตผัวเฮงซวยด้วยเถอะ
สุดท้ายแบคฮยอนก็ขอให้พวกเรากลับห้องเพราะชานยอลตัวเปียกแบบนี้อาจจะทำให้อีกฝ่ายเป็นหวัดได้
เขาก็ไม่นึกขัดแต่ก็แอบเสียดายเล็กๆ ว่าเรายังไม่ได้ฉลองครบรอบ 100 วันที่เราคบกันเลย
มันควรจะเป็นวันที่พิเศษสำหรับเราสองคนแต่ก็ดันมาเจอไอ้ผัวเฮงซวยเควิลซะได้
“พี่สาวไปอาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวไม่สบาย”
“โอเค” ชานยอลรับคำอย่างว่าง่าย
เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับถุงบางอย่างในมือที่แบคฮยอนไม่ได้เอ๊ะใจเลยซักนิด
เจ้าตัวเล็กก็ยังคงมานั่งบนฟูกดูทีวีรอเจ้าของห้องอาบน้ำ
ความรู้สึกเหมือนมันเดจาวูเลยแหะ
แต่เขาก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไปเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำและเสียงปิดสวิตช์ไฟ
“แบคฮยอน”
เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกแต่ก็ต้องตกตะลึงค้างกับการแต่งกายมาดใหม่ของเจ้าของห้อง
ที่ไม่ได้ใส่ชุดสวยๆ
เหมือนหลายวันที่ผ่านมาแต่เป็นการใส่ชุดสูทสีดำที่ไม่เป็นทางการ
พร้อมกับผมที่เซทเปิดหน้าผากมาอย่างดี
นะ..นี่ใช่พี่คนสวยแฟนของเขาหรือเปล่า?
“คะ…คุณเป็นใครครับ?”
เอ่ยถามออกไปโง่ๆ แต่ก็เพื่อความมั่นใจของตัวเองล่ะนะ
“แฟนของนายไง”
ชัดเจนแต่ทำไมต้องส่งยิ้มหล่อมาให้ด้วยกันเล่า
“ทำไมแต่งตัวแบบนี้อ่ะ”
ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่คือแปลกใจมากๆ ถึงมากที่สุด
“เอ่อ..คือว่า..พี่น่ะ..”
ประหม่าอีกแล้วชานยอลแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมคำพูดหรือซ้อมอะไรเลยนะ
นี่จะมาด้นสดให้แฟนซึ้งล้วนๆ
“…”
“รู้อะไรไหม?
พี่น่ะชอบการแต่งตัวสวยๆ มาก ถึงแม้ว่ามันจะไม่เข้ากับพี่เลยก็ตาม
และใครหลายคนก็มองมาด้วยสายตาแปลกๆ”
“ไม่เลยนะ พี่สวยจะตาย”
แบคฮยอนยืนขึ้นค้านพี่คนสวยของเขา
“ใช่ แบคฮยอนชมพี่ตลอดเลยทั้งๆ
ที่พี่ก็เป็นแบบนี้แต่แบคฮยอนก็ยังรักพี่”
“…”
“แต่การที่พี่เป็นแบบนี้มันทำให้แบคฮยอนต้องทนทุกสายตาของคนอื่นที่มองมา”
เพราะมันไม่ใช่แค่ผู้หญิงสองคนนั้นที่พูดนินทาเขา
แต่ยังมีใครอีกมากมายที่มองมาที่เราสองคนด้วยสายตาแปลกๆ ถึงแม้แบคฮยอนจะทำตัวเหมือนไม่รู้สึกอะไร
แต่เขาที่แคร์ความรู้สึกของเจ้าตัวเล็กก็ไม่อยากให้อีกคนต้องโดนมองแบบนี้ไปตลอด
“เขาจะมองก็เรื่องของเขาไปเลย ฮึก
ก็ผมรักพี่ทำไมผมจะต้องแคร์สายตาคนอื่น ผมรักพี่ที่เป็นแบบนี้ ฮึก
พี่อย่ามาพูดว่าเหมือนจะเลิกกับผม!!!” แบคฮยอนทนกลั้นน้ำตาไม่ได้
เขาปล่อยมันออกมาอย่างสุดจะฝืน ที่พี่คนสวยของเขาแปลกๆ ไปก็เพราะแบบนี้สินะ
“พี่ไม่ได้จะเลิก แต่พี่แค่จะเปลี่ยน…”
“พี่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรทั้งนั้นแหละ!!!”
เจ้าตัวเล็กพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบประโยค “ผมรักพี่ที่เป็นพี่ ฮึก
ที่เป็นพี่สาวแต่งตัวสวยๆ ยิ้มทุกครั้งที่ผมชม ฮะ..ฮึก หัวเราะให้กับเรื่องตลกฝืดๆ
ของผม แล้วทำไมพี่จะต้องเปลี่ยน..ผมไม่แคร์เลยว่าใครจะมองเรายังไง
ฮือออ”
“แบคฮยอน”
ชานยอลเดินเข้าไปกอดเจ้าตัวเล็กที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
“พะ..พี่อย่าเปลี่ยนไป
ฮึก เลยนะ อย่าเลิกกับผม ฮืออออ” ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดๆ
แต่ชานยอลก็จะรอให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ก่อนแล้วค่อยๆ อธิบายให้เจ้าตัวเล็กเข้าใจอีกที
ชานยอลทั้งกอด ทั้งลูบหลังปลอบ ทั้งโยกตัวไปมาให้คนในอ้อมกอดหยุดร้องไห้
ซักพักใหญ่ๆ เลยล่ะที่เจ้าตัวเล็กหยุดเสียงร้องแต่ก็มีหลุดสะอื้นมาบ้าง
“แบคฮยอน..พี่ไม่ได้จะเปลี่ยนไปไหน
แล้วไม่ได้จะเลิกกับเราด้วย”
“ฮึก แต่พี่…”
“ชู่ววๆ ฟังอธิบายก่อนนะ”
ได้ยินอย่างนั้นแบคฮยอนจึงยอมเงียบปากแล้วให้ชานยอลอธิบายต่อ “พี่ไม่ได้จะเปลี่ยนไปไหนเลย
พี่ยังเป็นคนที่รักแบคฮยอนอยู่เหมือนเดิม..แต่พี่แค่อยากเปลี่ยนตัวเองให้สามารถปกป้องดูแลแบคฮยอนได้”
“…”
“พี่อยากเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่แบคฮยอนสามารถพึ่งพาได้
ไม่ใช่แค่ให้แบคฮยอนคอยดูแลพี่อย่างเดียว”
“…”
“แต่พี่ก็จะดูแลแบคฮยอน
ทำให้แบคฮยอนยิ้ม ทำให้แบคฮยอนหัวเราะ และมีความสุขเหมือนกันกับที่พี่ได้รับจากเราไง”
“ฮึก”
“พี่รักแบคฮยอนนะครับ”
“ฮือออออ”
แบคฮยอนร้องไห้อีกครั้งแต่คราวนี้ก็เพราะซึ้งประโยคของพี่คนสวยเลยแหละ
ทำไมไม่รีบอธิบายให้เร็วกว่านี้ต้องร้องไห้หลายรอบเลย
“แล้วก็…เลิกเรียกว่าพี่สาวได้แล้วนะ”
สำหรับชานยอลไม่ว่าแบคอยอนจะเรียกว่าอะไรเขาก็ยอมให้ได้หมด
แต่เพราะคราวนี้เขาจะเปลี่ยนตัวเองใหม่มันคงจะดีถ้าแบคฮยอนจะเรียกเขาด้วยชื่อน่ะนะ
“ผะ..ผมก็ ฮึก รักพะ..พี่ชานยอล ฮึก นะ”
ชานยอลเชยคางเจ้าแบคฮยอนขึ้นมารับจูบอันแสนหวานจากเขา
นี่เป็นจูบระหว่างเราครั้งแรกเพื่อฉลองให้กับวันครบรอบ 100 วันที่เราได้คบกัน
แม้วันนี้จะมีคนเสียน้ำตาแต่ก็เป็นน้ำตาแห่งความสุข และชานยอลมั่นใจว่าหลังจากวันนี้ไปอีกพันวันหรือเป็นหมื่นๆ
วัน ชานยอลก็จะรักและทำให้แบคฮยอนมีความสุขไปตลอดตราบเท่าที่เรายังอยู่ด้วยกัน
END
ความคิดเห็น