คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : -05-
-05-
[ F A M I L Y ]
เมื่อบรีสกลับมาถึงห้องในตอนเย็น ทำการเชื่อมต่อวายฟายหอเข้ากับไอแพด เสร็จ แจ้งเตือนมากมายก็เด้งขึ้นมาบดบังหน้าจอล็อคสกรีนวอลเปเปอร์รูปฮีโร่ชุดแดงที่มีดาบเป็นอาวุธอยู่ด้านหลัง เขาเลื่อนดูผ่านๆ เห็นว่ามีหนึ่งอันเป็นพี่ชายคนกลางทักมาจึงกดเข้าไปตอบ
'ทำไมพี่โทรหาไม่ติด'
'อาทิตย์นี้กลับบ้านมั้ย?'
'กลับครับ' ส่งกลับไปซักพักก็ขึ้นอ่าน
'แล้วทำไมโทรหาไม่ติด'
'โทรศัพท์พังครับ'
'อ้าว'
'แล้วใช้อะไร'
บรีสเผลอกัดปากอย่างกังวล เขาจะตอบว่ายืมไอแพดของเมทมาใช้มันก็ดูไม่ค่อยดีนักพี่คนกลางอาจจะคาดคั้นถามอะไรมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้อยากทำให้มันวุ่นวาย
'โน้ตบุ๊กครับ มันเชื่อมต่อไลน์อยู่' เขาโกหกกลับไป
'หรอ ก็โอเค'
'งั้นกลับบ้านนะเดี๋ยวพาไปซื้อใหม่'
'ขอบคุณครับ'
'เดี๋ยวพี่ไปรับที่นั่น'
'ผมจะกลับเองครับ' บรีสตอบประโยคนี้กลับไปก็ขึ้นอ่านแต่ก็นานกว่าที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมา
'อ่อ ระวังตัวด้วยยิ่งไม่มีโทรศัพท์อยู่'
'จะกลับกี่โมงเดี๋ยวพี่ออกไปรอรับ'
'น่าจะเก้าโมง'
'เดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่เข้าบ้านเอง'
'บรีส'
'รอนั่นแหละเดี๋ยวพี่ไปรับ'
แล้วบรีสจะกล้าขัดอะไรได้อีก 'ครับ'
บทสนทนาจบลงแค่นั้น ดีแล้วที่พี่บาสไม่ถามถึงสาเหตุที่โทรศัพท์พัง ไม่งั้นคนเป็นน้องอาจจะโดนว่าจริงๆ เข้าให้
เสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมร่างสูงของรูมเมททำให้เขาตกใจนิดหน่อย อีกคนเดินเข้ามายิ้มร่าหิ้วถุงสองใบใหญ่เต็มมือถูกวางลงบนโต๊ะกับกระเป๋าที่ถอดออกมาวางบนเก้าอี้ เขากำลังอ้าปากจะคุยเรื่องไอแพดแต่อีกฝ่ายก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน
"ขอบใจมึงมากเว้ยบรีส วันนี้กูได้ควิสเต็มเพราะมึงเลย" มือใหญ่ตบที่ไหล่เขาปุๆ ไม่แรงมากแต่ก็เจ็บๆ "อะขนม ซื้อมาให้รางวัลคนทำดี"
"..." เลิกคิ้วอย่างสงสัย เขาไปช่วยให้อีกฝ่ายได้ควิสเต็มยังไง เรียนก็คนละคณะ แต่เหมือนชาร์จจะรู้ว่าเมทข้างตนไม่เข้าใจเลยตอบให้คลายสงสัย
"ก็เลคเชอร์ที่กูฝากให้มึงจดใหม่อะ ควิสแม่งออกหน้านั้นพอดีสองข้อเด๊ะๆ กูจำได้ขึ้นใจเลยเพราะมึงเขียนเข้าใจง่ายมาก"
"อ่อ" พยักหน้าเข้าใจพลางคุ้ยขนมที่อยู่ในถุงใบโตออกมาดู ลืมเรื่องที่จะคุยไปซะสนิท
"คืองี้ มึงจดเป็นระเบียบมากอะ กูอยากจะจ้างมึงจดเลคเชอร์ให้กูหน่อย ใส่ไอแพดเนี่ยแหละ" ชาร์จพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "หน้าละยี่สิบบาทเลยเอา"
บรีสคิดหนักไอ้จดเลคเชอร์ให้ก็พอได้อยู่หรอก ถึงจะพูดว่าจ้างแต่มันก็ไม่ต่างจากใช้แล้วให้ตังค์หรือเปล่า ไหนจะต้องมาแกะลายมือที่อ่านยากอีก ทำไมเขาต้องเอาเวลาของตัวเองไปทำอะไรให้อีกฝ่ายตลอดเลยอะ
"ช่วยหน่อยนะ พวกไอ้ห่าดิวมันก็รออนิสงค์เลคเชอร์ที่มึงจดจากกูอยู่"
สุดท้ายก็ตอบตกลงไปเพราะไม่ใช่แค่รูมเมทที่จะต้องการเลคเชอร์ แต่พวกกลุ่มของชาร์จก็จะเอาด้วยเหมือนกันถ้าปฏิเสธก็ออกจะน่าเกลียด และก็อีก..นั่นแหละ บรีสไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
การจดเลคเชอร์ที่ทำอยู่นี้ไม่ใช่ให้บรีสไปอ่านชีทของพวกบริหารแล้วมาสรุปจดใหม่ แต่เป็นการจดเลคเชอร์ที่ชาร์จเขียนขึ้นมาจากคาบเรียนแล้วมาให้เขาเรียบเรียงเขียนใหม่ให้อ่านง่ายมากขึ้น ซึ่งของรูมเมทที่จดมาจะว่าเรียงความก็ไม่ปาน มันยังพอมีความเป็นกรอบ ลากลูกศรโยง(มั่ว)ไปมาอยู่
แต่ความหนักใจมันอยู่ตรงลายมือเนี่ยแหละ อยากถอนหายใจทิ้ง
"อาทิตย์นี้กลับบ้านมั้ย" เมทถามขึ้นระหว่างที่เขาจดเลคเชอร์ให้อีกฝ่ายอยู่
บรีสไม่แน่ใจว่าวันนี้เขาโดนถามว่า 'อาทิตย์นี้กลับบ้านมั้ย' มากี่รอบแล้ว ทำไมมันดูมีอะไรกับอาทิตย์นี้จัง เขาจึงพยักหน้าตอบกลับไปส่งๆ
"เอ้าหรอ กูไม่ได้กลับว่ะเหงาเลย ฮ่าๆ"
"ครับ" ไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายว่าอะไรอีก จึงรับคำไปส่งๆ แค่นั้น แล้วเสียงแจ้งเตือนแชทก็ดังขึ้นมาทำให้เขากลับมาสนใจไอแพดตรงหน้าต่อ
'บรีสกลับบ้านปะ?' จากพี่คิว คนที่4ของวันจากคำถามอาทิตย์นี้จะกลับบ้านมั้ย
'กลับครับ'
'พี่คิวมีอะไร?'
'อ้าว จะชวนไปเลี้ยงสาย'
'แต่ไม่เป็นไร'
'วันอื่นก็ได้ เอาที่เอ็งว่าง'
'ผมจะบอกอีกทีนะครับ'
'ขอโทษนะครับ'
'เฮ้ย ไม่เป็นไร'
'กลับบ้านดีๆล่ะ มีไรทักได้เสมอ'
ส่งสติ๊กเกอร์หน้ายิ้มกลับไปเป็นการปิดบทสนทนาและล็อคหน้าจอเสร็จสรรพ
บรีสนั่งนิ่ง เขาไม่อยากกลับบ้านเลย
"เอ้อ แล้วมึงกลับไง" ชาร์จถามขึ้นมาทำให้อีกคนสะดุ้งนิดหน่อย
"ก็..รถโดยสารครับ"
ขมวดคิ้วยุ่งแต่ก็คลายออกในทันที "กูไปส่งบขส.เอาป้ะ"
"เดี๋ยวเพื่อนผมจะไปส่งเองครับ"
"เออๆ งั้นก็กลับดีๆ " บอกเพียงเท่านั้นแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปนอนเล่นโทรศัพท์ที่เตียงของเจ้าตัว
บรีสกลับมาก้มหน้าก้มตาทำงานจ้างวานที่ได้รับมอบหมายต่อ สมุดใหม่เอี่ยมที่มีลายมือหวัดๆ แกะยาก เขียนผิดบ้าง คำตกหล่นบ้าง แต่ก็ถูกเรียบเรียงเขียนใหม่ให้สวยงามโดยเขา เหลือบตาไปเห็นวันเดือนปีของวันนี้ก็ฉุกคิดในใจ เหลือเวลาอีกเดือนกว่าๆ กับเมทคนนี้
ซึ่ง.. ถ้าเมทคนนี้ย้ายไปเทอมหน้าเขาก็ต้องนอนคนเดียวในห้องพักนี้จนกว่าจะขึ้นปีการศึกษาใหม่ หรืออาจจะมีคนย้ายเข้ามาอยู่เลยก็ได้ถ้ารู้ว่าว่างหนึ่งที่ แต่เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรดีเสียอีกที่จะได้นอนคนเดียว
แต่จริงๆ ก็มี..คือกลัวเมทไม่ย้ายนี่สิปัญหา
บรีสเข้าแอพปฏิทินนับวันเมื่อไหร่จะหมดเทอมนะ
...
ในที่สุดวันเสาร์ที่นักศึกษาต่างพากันรอคอยที่จะได้กลับบ้านก็มาถึง บรีสเป็นหนึ่งในนักศึกษาไม่กี่คนที่ไม่ได้อยากกลับแต่ต้องกลับ เขาจึงต้องตื่นเช้าและโทรไปปลุกเพื่อนโก้ที่ตื่นมารับสายอย่างงัวเงีย พอนัดแนะเวลากันเสร็จก็ลุกขึ้นมาเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำ พยายามทำทุกอย่างให้เบาที่สุดเพราะเกรงใจเมทที่กำลังนอนอยู่
เวลาเจ็ดโมงครึ่งที่เขาเตรียมตัวทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพยายามปิดประตูให้เสียงเบาที่สุดและลงไปหาเพื่อนโก้ที่มารออยู่หน้าหอแล้ว
"ไม่หาเสื้อคลุมมาใส่วะ แดดมันร้อน"
"ลืม" แต่ก็ไม่เชิงว่าลืมหรอก ปกติบรีสก็ไม่ใส่เสื้อคลุมอยู่แล้ว
"อยากเป็นมะเร็งผิวหนังตายไง ไอ้นี่" ยื่นหมวกกันน็อคใบที่สองให้อีกฝ่ายไปสวมใส่ อย่าหวังว่าจะให้เสื้อคลุมทำเท่เหมือนในพระเอกฟิค แต่พอดีเรื่องนี้เขาไม่ใช่และแดดตอนแปดโมงไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับคนขับหันหน้าหาแดด เรื่องทำให้ตัวเองดูดีมันสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งสำหรับโกโก้เสมอ
ใช้เวลาไม่นานเราทั้งคู่ก็มาถึงสถานีขนส่ง บรีสไปจัดการซื้อตั๋วให้ตัวเองเสร็จสรรพอีกประมาณครึ่งชั่วโมงรถก็จะมา โกโก้เลยตัดสินใจนั่งรอส่งเพื่อนขึ้นรถ ระหว่างรอก็พากันไปซื้อของกินตุนไว้เผื่อหิวระหว่างทางจะได้มีอะไรกิน
"ถึงแล้วโทรหากูด้วยนะเว้ย" โกโก้บอกตอนมาส่งเพื่อนที่รถ
"..." พยักหน้ารับแล้วโบกมือลาก่อนจะเดินขึ้นรถไป
โชคดีที่บรีสไม่ได้มีสัมภาระอะไรมากมาย เขามีแค่กระเป๋าเป้ใบเดียวสะพายหลังจึงได้ขึ้นมานั่งที่ของตัวเองเลยไม่ต้องรอเก็บ บ้านของบรีสนั้นอยู่ไกลจากมหาลัยไปประมาณสามจังหวัดแต่ก็ใช้เวลานั่งรถนานหลายชั่วโมงอยู่เหมือนกัน คาดว่าจะถึงประมาณบ่ายๆ แต่ตัวบ้านของบรีสอยู่ไกลจากตัวเมืองมากต้องนั่งรถโดยสารประจำทางต่อเข้าไปอีกแล้วเดินเท้าเข้าซอยอีกนิดหน่อย แต่ถ้านั่งแท็กซี่ก็จะเข้าไปถึงหน้าบ้านพร้อมกับราคาที่แพงกว่าหลายเท่า
ในเวลาบ่ายโมงกว่าๆ ใกล้บ่ายสอง บรีสสะดุ้งตื่นจากอาการเมารถจนเผลอหลับ ถึงจะไม่ได้เมารถรุนแรงถึงขั้นอ้วกออกมาแต่ก็ทำให้ง่วงและปวดหัวตลอดทาง รถที่นั่งอยู่เข้ามาจอดยังสถานีขนส่งปลายทางพอดี ถุงขนมต่างๆ มากมายถูกรวบมาใส่ไว้ในถุงเดียวแล้วคว้ากระเป๋าเป้เตรียมตัวลงจากรถ
พี่ชายคนกลางที่มารออยู่ก่อนแล้วรีบเดินเข้ามาหา สีหน้าไม่ค่อยพอใจเมื่อเห็นน้องชายดูเพลียๆ ไม่ค่อยมีแรง คงจะเมารถที่เป็นมาตั้งแต่เด็กไม่หาย
"ให้พี่ไปรับที่มหาลัยก็ไม่เอา นั่งเมารถเล่นสนุกหรอไง" บ่นออกมาอย่างไม่จริงจังมากนัก ดันหลังน้องให้เดินไปที่รถของตนที่จอดอยู่อีกฟาก ปรับเบาะให้น้องนอนต่อให้สบายแล้วจึงสตาร์ทรถยนต์ขับกลับบ้านในเส้นทางที่คุ้นเคย
"มากันแล้วหรอ" เสียงของหญิงสาวมีอายุคนเดียวในบ้านเอ่ยถามเมื่อเห็นรถยนต์ของลูกคนกลางเข้ามาจอดพอดี
"ครับแม่ เดี๋ยวผมพาน้องไปนอนก่อน"
"เมารถอีกแล้วสิ" คนเป็นแม่เดินตามติดหลังลูกทั้งสองคนไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงลูกคนเล็ก เปิดประตูห้องรอไว้ให้พี่ชายคนกลางคอยประคองไปนอนบนเตียงดีๆ พอหัวถึงหมอนคนน้องก็หลับไป ผู้ใหญ่ทั้งสองจึงปิดประตูและออกมาเงียบๆ
คนป่วยจากอาการเมารถเมื่อได้นอนพักเต็มอิ่มอาการปวดหัวก็หายไป บรีสลุกขึ้นมาดูนาฬิกาที่บอกเวลาห้าโมงเย็นพอดีแล้วจึงลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้น ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นพี่คนกลางขึ้นบันไดมาพอดี
"อ้าวตื่นแล้วหรอ หายเมารถยัง"
"หายแล้วครับ"
"ปะ ไปกินข้าวแม่กำลังตั้งโต๊ะ"
บรีสพยักหน้าเป็นการตอบรับแล้วเดินตามหลังพี่ชายคนกลางไปยังโต๊ะกินข้าว มีพี่ชายคนโตนั่งรออยู่ก่อนแล้วเขาจึงยกมือขึ้นไหว้แล้วเดินไปนั่งที่ของตัวเองซึ่งอยู่ข้างๆ พี่ชายคนกลาง
"กินกันเถอะจ้ะ" แม่พูดขึ้นพร้อมกับส่งจานข้าวมาให้เขา
เราทั้งสี่คนนั่งกินข้าวบนโต๊ะกันเงียบๆ บรีสเพิ่งสังเกตว่าถ้วยที่วางอยู่กลางโต๊ะคือแกงฟักทอง ซึ่งเป็นอาหารที่พ่อชอบมาก..และเขาก็ชอบมากด้วยเช่นกัน แม่ทำออกมาซะถ้วยใหญ่และมีพี่คนกลางกับพี่คนโตกำลังแย่งช้อนกันตักฟักทองอยู่ และเป็นพี่บาสที่ได้ช้อนไว้ครอบครอง
ฟักทองสองถึงสามชิ้นพร้อมน้ำแกงกะทิร้อนๆ หอมเครื่องแกงถูกยกตักขึ้น แต่ไม่ได้วางลงบนจานข้าวของพี่บาส มันถูกวางลงบนจานข้าวของน้องชายคนเล็กสุดของบ้าน
"ชอบ ไม่ใช่หรอ?" พี่บาสเลิกคิ้วถามประมาณว่า ยังชอบกินอยู่ใช่มั้ย
บรีสพยักหน้า ค่อยๆ ตักขึ้นเคี้ยว รสชาติอันแสนอร่อยและคุ้นเคยทำให้หัวใจของบรีสกระตุกไปวูบหนึ่ง เหมือนห้วงเวลาหนึ่งเขาได้ลิ้มรสกับใครซักคนที่เขาสนิทใจมากที่สุด เป็นเวลาที่พ่อขอร้องให้แม่ทำแกงฟักทองและเรามารอลุ้นฟักทองที่ไปเลือกซื้อด้วยกันว่าจะมันและทำออกมาอร่อยมั้ย
พ่อบอกเสมอว่า 'ฟักทองไม่มันก็ไม่อร่อย เละไปก็ไม่อร่อย พ่อเลยต้องเลือกแบบมันพอดีๆ แม่จะได้ทำไม่เละและอร่อย'
บรีสหวนนึกถึงแล้วอยากนึกขำ พ่อที่เป็นกูรูด้านการเลือกฟักทองแต่เอามาทำอาหารที่ตัวเองชอบไม่เป็นเลย
"แม่ พี่เบส โทรศัพท์ของบรีสพัง" พี่บาสเอ่ยบอกกลางโต๊ะอาหาร
"ทำไมพัง" พี่คนโตขมวดคิ้วหันมาถาม
บรีสเงียบไปซักพัก "ผมเผลอ..ทำตกระเบียง"
มือที่ถือช้อนอยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นหั่นฟักทองเล่น เตรียมตัวฟังใครซักคนในโต๊ะนี้บ่นออกมาว่า ทำไมไม่รักษาของ ทำไมไม่รู้จักระวัง หรืออะไรเทือกๆ นั้น
"อย่าเล่นอาหารสิน้อง" คนแม่เอ่ยตำหนิลูกคนเล็กสุด แล้วเลยหันไปบอกกับลูกอีกสองคน "พี่โตกับพี่กลางก็พาน้องไปซื้อใหม่พรุ่งนี้ น้องจะได้มีไว้ใช้"
"ก็กะจะซื้อให้ใหม่อยู่แล้ว พี่ยังไม่ได้ให้ของขวัญที่เข้ามหาลัยได้เลยหนิ" พี่คนโตพูดพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
"ขอบคุณครับ" บรีสกล่าวเสียงเบา
"อยากได้รุ่นอะไร? ไปซื้อร้านตรงแยกไฟแดงมั้ยพี่เบส ผมพอรู้จักเจ้าของร้านอยู่น่าจะคุยเรื่องราคากันได้" ประโยกแรกพี่บาสหันมาถามเขาแล้วค่อยหันไปบอกพี่เบสเรื่องร้านโทรศัพท์
บรีสยังคงแปลกใจที่ไม่มีใครบ่นออกมาซักคำว่าทำไมเขาถึงทำโทรศัพท์พังได้ ถึงจะรู้สึกดีที่ไม่โดนบ่นแต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ พี่เบสน่ะหรอที่จะซื้อโทรศัพท์ให้เป็นของขวัญ..คนที่ออกให้แค่ค่าเทอมและจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเงินอื่นกับเขาอีก
"ตกลงจะเอารุ่นอะไร หรือจะไปเลือกที่ร้าน" พี่บาสหันมาถามอีกครั้ง บรีสก็พยักหน้าตอบกลับไปส่งๆ ให้พี่คนกลางเข้าใจเอง "งั้นก็ไปเลือกที่ร้าน"
มื้อเย็นจบลงแค่นั้น พี่ๆ ทั้งสองต่างลุกขึ้นย้ายไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูโทรทัศน์ บรีสช่วยผู้เป็นแม่เก็บโต๊ะอาหารและอาสาล้างจานเอง คนแม่จึงนั่งที่โต๊ะและชวนลูกชายคนเล็กคุยเพราะตั้งแต่ไปอยู่มหาลัยก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านเลย
"น้องเรียนเป็นยังไงบ้าง"
"ก็ดีครับ" บรีสว่าเสียงเรียบ
"แล้วอยู่หอเป็นยังไง"
บรีสเงียบ มือที่กำลังถูฟองน้ำกับจานเพื่อทำความสะอาดคราบหยุดชะงัก ไม่แน่ใจว่าควรจะตอบอย่างไร "ก็..ดีครับ" แต่ก็เลือกตอบให้คนเป็นแม่สบายใจ
"หรอจ๊ะ เงินพอใช้มั้ย? ถ้าไม่พอเดี๋ยวแม่คุยกับพี่กลางให้"
"ไม่ต้องหรอก ผมมีอยู่"
นอกจากพี่คนโตที่เป็นคนออกค่าเทอมให้แล้ว ค่าหอกับค่าอื่นๆ บรีสก็มีพี่คนกลางเป็นคนส่งให้ แม้พี่บาสจะไม่ว่าอะไรกับเงินที่ต้องส่งให้น้องคนเล็กในทุกๆ เดือน แต่บรีสก็เกรงใจถึงจะเป็นพี่ชายแท้ๆ คลานตามกันมา เงินพอหรือไม่พอก็ไม่กล้าขอเพิ่มอยู่ดี
เมื่อล้างจานอะไรเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่จึงได้แยกย้ายกันพักผ่อนตามสะดวก บรีสเดินมาใช้โทรศัพท์บ้านเพื่อโทรหาเพื่อนโก้ที่เพิ่งจะนึกออกว่าต้องโทรไปหาเมื่อถึงบ้าน สมุดเล่มเล็กที่จดเบอร์โทรต่างๆ ไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินเช่นตอนนี้ถูกเปิดไปทีละหน้าไล่หารายชื่อจนเจอเบอร์ของโกโก้
"ฮัลโหลโกโก้ เราถึงบ้านแล้วนะ" กรอกเสียงลงไปเมื่อปลายสายรับแล้ว
[โอ้โห คิดว่านั่งรถไปถึงซิดนีย์แล้ว] น้ำเสียงประชดประชันกล่าวออกมาตามสาย แต่ไม่ได้ทำบรีสรู้สึกผิดแต่อย่างใดออกจะขำซะมากกว่า ถ้านั่งไปถึงซิดนีย์ได้ก็ไปจริงแล้ว
"โทษทีเราลืม"
[เออ ถึงบ้านก็ดีละ แล้วเรื่องโทรศัพท์มึงอะ]
"เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปซื้อใหม่"
[เออๆ ดีๆ รีบไปซื้อจะได้ติดต่อง่ายๆ นี่พี่เพลงก็รัวแชทมาหากูใหญ่เลยว่ามึงหายไปไหนทำไมไม่ตอบแชทแก]
"เราลืมบอกพี่เพลงไปเลย"
[กูบอกไปละว่ามึงโทรศัพท์พัง ถ้าไม่บอกว่ามึงกลับบ้านด้วยนะพี่เพลงคงจะลากมึงกับพี่คิวพาไปซื้อโทรศัพท์ให้มึงใหม่ เวอร์อะไรขนาดนั้นวะ]
"ฮ่าๆ"
[แต่วันนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์กูแบบมากๆ]
"หื้อ?"
[พี่เต้ยทักแชทมาบอกจะเลี้ยงกูเว้ย แต่ไอ้เหี้ย! กูกลับบ้าน]
"ฮ่าๆ พี่คิวก็จะเลี้ยงเราเหมือนกันแต่เรากลับบ้านไง พี่คิวเลยบอกเอาที่เราว่าง"
[กูก็กลับบ้านทุกเสาร์อาทิตย์อยู่แล้วอะ แล้วคือแบบ..ทำไมต้องมาเลี้ยงวันนี้วะ]
"ลองบอกให้พี่เต้ยเลี้ยงพร้อมพี่คิวมั้ย เราจะได้หาเวลาว่างมากินด้วยกันด้วย"
[ดีล!]
"โอเค งั้นแค่นี้ก่อนนะเจอกันที่มอ"
[เคๆ เจอกันๆ]
จริงๆแล้วเราคิดว่าจะไม่เล่นแท็กอยู่แล้วค่ะ แหะๆ
แต่คุณ Hundredlove ถามหาแท็ก เราก็เลยไปคิดมาเป็นการบ้าน
แล้วได้ชื่อแท็กว่า #เมทนาโร้ก ค่ะ เผื่อมีคนสะดวกติดแท็กเนอะ55
ขอบคุณทุกคนที่ตามมามากๆเลยนะคะ ขอบคุณที่เอ็นดูน้องบรีสนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านฟิคของเรานะคะ มันอาจน่าเบื่อไปหน่อยง่ะ55
ขอบคุณคุณ Hundredlove ด้วยนะคะ
ขอบคุณคุณ @/dididiayep ที่แนะนำฟิคเราด้วยนะคะ55
เราเขินจังเลยค่ะ .///.
ความคิดเห็น