ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    M R M L • chanbaek

    ลำดับตอนที่ #3 : -03-

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 62





    -03-


    [  T H A N K  Y O U  ]


     

     

     

     

     

    วันนี้บรีสไม่มีเรียนเช้า เขาก็เลยตื่นสายนิดหน่อยอาจจะด้วยฤทธิ์ยาที่กินไปเมื่อคืนด้วยเหมือนกัน แต่พอตื่นมาก็ไม่เห็นรูมเมทแล้วคงจะออกไปเรียนตั้งแต่เช้า

     

     

    นั่งตั้งสติซักพักก็ลุกขึ้นจากเตียงจะไปห้องน้ำก็ต้องถอนหายใจเหนื่อยก่อนกับสภาพห้องที่เละเทะอย่างกับมีคนมาปาระเบิดทิ้งไว้อย่างไรอย่างนั้น ทั้งๆ ที่บรีสก็เพิ่งจะเก็บกวาดไปเมื่อสองวันก่อนแท้ๆ

     

     

    รกอีกแล้ว รกประจำและก็ต้องเป็นเขาที่ต้องมาทำความสะอาดตลอดเลย

     

     

    บรีสตัดสินใจไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อนก่อนแล้วค่อยมาทำความสะอาดห้องทีหลัง เขาก็ไม่ใช่คนที่รักความสะอาดอะไรขนาดนั้นแต่ถ้าห้องรกรุงรังเละเทะแบบนี้ต่อให้เป็นคนที่ขี้เกียจทำความสะอาดก็ต้องจำใจเก็บ

     

     

    'ตื่นยัง ฝากซักผ้าหน่อย'

    'เงินอยู่บนโต๊ะ'

     

     

    บรีสเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ชาร์จทิ้งไว้บนเตียงเมื่อมันส่งเสียงแจ้งตือนมาสองข้อความ คิดว่าเป็นธุระสำคัญอะไรสุดท้ายก็ใช้เขาซักผ้าให้อีกแล้ว

     

     

    เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่มาจากร่างเล็กที่ยืนเคว้งอยู่กลางห้อง โยนโทรศัพท์ลงบนเตียงแล้วจัดการเก็บซากเสื้อผ้าที่ถูกถอดวางระเกะระกะบนพื้นมาใส่ไว้ในตะกร้าผ้าของเพื่อนร่วมห้อง 

     

     

    จากนั้นจึงหยิบเงินที่อีกฝ่ายวางไว้บนโต๊ะและหยิบผงซักฟอกของตัวเองเพื่อไปซักผ้ายังเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญด้านล่างหอ ไม่ลืมที่จะแยกพวกชั้นในใส่ในถุงซักอีกทีนึง ใส่ผงซักฟอก หยอดเหรียญเป็นอันเสร็จ

     

     

    และ

     

     

    ไปเก็บห้องต่อ

     

     

    บรีสหยิบไม้กวาดคู่กายที่เขาเป็นคนออกเงินซื้อเองกับไม้ถูพื้นมาตั้งแต่ต้นเทอม เอามากวาดห้องพร้อมกับหยิบขยะชิ้นใหญ่ๆ ใส่ไว้ในถุงรอไปทิ้งข้างล่างอีกที กระดาษหลายแผ่นที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นเขาก็เก็บขึ้นมาเรียงให้เข้าที่อันไหนที่ดูเหมือนจะไม่ใช้แล้วก็แยกเอาไปให้แม่บ้านหอ

     

     

    ก๊อก ก๊อก

     

     

    กวาดห้องไปซักพักเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูที่น่าจะเป็นห้องเขาเอง ซึ่งไม่น่าจะใช่รูมเมทเพราะอีกคนไม่เคยเลยที่จะเคาะประตูตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา

     

     

    "เซอร์ไพรส์! กูมารอไปคณะพร้อมมึง"

     

     

    เมื่อเปิดประตูก็เจอกับเพื่อนโก้ที่ยืนกางแขนออกจากกันทำเป็นเซอร์ไพรส์ หน้าตาตื่นเต้นไม่ได้ชวนให้เขารู้สึกตกใจเลยซักนิด และไม่แปลกใจด้วยที่เห็นมันมายืนหน้าห้องเพราะเขาก็เคยบอกมันว่าพักอยู่หอไหนห้องไหน

     

     

    "งั้นก็รอก่อนนะเก็บห้องอยู่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย" บรีสกล่าวเสียงเรียบและเชิญเพื่อนเข้าห้อง

     

     

    "กวาดห้องแต่เช้า วิญญาณแม่บ้านเข้าสิงหรอจ๊ะ" โกโก้เอ่ยแซวแล้วเดินไปนั่งบนเตียงของเพื่อน

     

     

    "ห้องรก"

     

     

    "แล้วไม่ให้เมทมึงทำบ้างอะ" ว่าพลางเสสายตาไปมองถุงขยะสองถุงที่วางบนโต๊ะของคนที่กำลังกวาดห้องอยู่

     

     

    "คงทำอะ"

     

     

    "ก็ปล่อยให้ห้องรกสุดๆ ไปเลยดิ เดี๋ยวมันก็ทำเองแหละ"

     

     

    "กลัวไม่ทำอะดิ แล้วเราจะอยู่ไม่ได้ก่อน" บรีสว่าอย่างอ่อนใจ

     

     

    "เนี่ย ก็คิดอย่างนี้มันก็ได้ใจให้มึงทำตลอด"

     

     

    "..." เขายักไหล่หนึ่งทีแล้วกวาดห้องต่อปล่อยให้อีกคนนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนของเขาที่ยังไม่พับผ้าห่ม ไม่งั้นได้มีเละไปพับอีกรอบแน่

     

     

    "กูนอนรอละกัน เสร็จแล้วปลุกด้วย"

     

     

    เพราะเหลือเวลาอีกเป็นชั่วโมงกว่าๆ เพื่อนโก้จึงขอนอนต่อให้มันทำอะไรๆ ให้เสร็จก่อนเราจะได้ไปเรียนพร้อมกัน อากาศข้างนอกก็ร้อนทั้งที่จะใกล้ฤดูหนาว สงสารมันไม่อยากให้ขึ้นรถไปคณะคนเดียว

     

     

    เมื่อบรีสกวาดห้องเสร็จก็จัดการถูห้องซ้ำเพื่อให้มันสะอาดมากขึ้น หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพอยังมีเวลาเหลือจึงตัดสินใจที่จะไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยเอาผ้าขึ้นมาตาก ซึ่งน่าจะเสร็จพอดีกันทันไปเรียน

     

     

    ไม้แขวนเสื้อมากมายถูกกองมาไว้ตรงราวระเบียง เขาคว้าผ้าเช็ดตัวมาพาดบ่าหยิบอุปกรณ์อาบน้ำและเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองให้เสร็จสรรพ พร้อมๆ กับเอาเสื้อผ้าขึ้นมาไว้บนห้องเตรียมตาก

     

     

    "ทำไรอะ" เพื่อนโก้ที่หลับไปนานสะดุ้งตื่นขึ้นมาเห็นเพื่อนตัวน้อยยืนอยู่ข้างนอกระเบียงก็เอ่ยถาม

     

     

    "ตากผ้าแป๊บนึง"

     

     

    "เดี๋ยว นี่เสื้อผ้ามึงหรอ" โกโก้เดินออกมาดูเจ้าตัวน้อยตากผ้าหวังจะมาช่วยให้มันเสร็จเร็วขึ้น แต่เห็นว่าเสื้อผ้าที่อยู่ในตะกร้ามันดูจะไซส์ใหญ่กว่าคนตาก เขาขมวดคิ้วแน่น "ของเมทมึง?"

     

     

    "..." คนตากพยักหน้ารับ พร้อมกับหยิบชั้นในขึ้นมาหนีบไว้กับที่หนีบผ้า

     

     

    "เฮ้ย กูว่ามันไม่ใช่แล้วนะ" โกโก้ท้วงขึ้น "เสื้อผ้าของใครก็ซักตากเองดิ มาใช้กันแบบนี้ได้ไง"

     

     

    "เขาฝากซัก"

     

     

    "ฝากห่าไรนี่มันใช้กันชัดๆ ถ้าฝากซักมึงก็แค่เอาลงไปซักแล้วให้มันมาตากเองดิ"

     

     

    "ถ้าไม่รีบตากผ้าจะเหม็นอับนะ"

     

     

    "ไอ้บรีส!" โกโก้อดไม่ไหวเฮ้วใส่เพื่อนตัวน้อยที่ยิ้มแห้งส่งมาให้เขา มันยังจะมีกะจิตกะใจมาห่วงผ้าเหม็นอับอีกหรอวะของตัวเองก็ไม่ใช่ "มึงอย่ามาคนดีเกิน ที่ทำอยู่เนี่ยเขาเรียกว่าใช้ มันใช้มึงจนไม่เห็นหัวมึงแล้ว"

     

     

    "ใจเย็น" บรีสปรามเพื่อนพลางหันมองซ้ายขวาเผื่อมีคนออกมาโวยวายที่เพื่อนเสียงดัง

     

     

    "มึงเป็นเมทนะไม่ใช่คนใช้ ห้องมึงก็กวาดให้ ผ้ามึงยังจะซักให้มันอีกหรอ" เพื่อนโก้ขมวดคิ้วไม่พอใจ ไม่พอใจมากๆ นี่เพื่อนเขานะเว้ยไม่ใช่คนรับใช้ส่วนตัว

     

     

    "เอาหน่า ไม่เป็นไรช่วยๆ กัน" ถึงบรีสจะพูดไปอย่างนั้นแต่ตัวเองก็เริ่มคิดตามคำพูดของเพื่อนโก้ เขาพยายามจะไม่คิดมาก พยายามคิดว่าตัวเองแค่ช่วยและตอบแทนอีกฝ่ายในหลายๆ อย่างที่ทำให้เขาก็เท่านั้น

     

     

    อีกอย่าง..เขาก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง แค่อีกฝ่ายเอ่ยปากเขาก็เกรงใจที่จะปฏิเสธ

     

     

    "เสร็จแล้วไปเรียนเหอะ" ดุนหลังเพื่อนให้รีบออกไปจากระเบียง เตรียมตัวไปเรียนด้วยกัน

     

     

    "หัดปฏิเสธมันบ้างอย่าเป็นคนดีเกินเหตุ มึงเป็นแค่เมทอย่ายอมให้มาก"

     

     

    "อ่าๆ ไปเรียนเถอะ" บรีสเลือกที่จะตอบรับไปส่งๆ จัดการสะพายเป้หยิบถุงขยะกับกุญแจห้องปิดประตูล็อคให้เรียบร้อย แล้วก็นึกอะไรบางอย่างออกจึงหันไปบอกกับเพื่อนโก้ "เรื่องนี้ห้ามบอกพี่คิวนะ"

     

     

    "กูจะไปบอกพี่เพลง" 

     

     

    โกโก้ตั้งใจจะไปบอกพี่เพลงอยู่แล้ว แรกๆ ที่มันมาปรึกษาคิดว่าจะไม่หนักหนาอะไร แต่พอมาเห็นกับตาได้สัมผัสด้วยตัวเอง เขาคิดว่าคงจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แน่ ไหนเมทมันจะยังเป็นแฟนพี่เพลงอีก อะไรๆ ก็น่าจะคุยง่ายมากขึ้น ไอ้ตัวดีมันจะได้ไม่ต้องโดนใช้อีก

     

     

    "ยิ่งพี่เพลงยิ่งห้ามบอกเลย" บรีสเอ่ยอย่างซีเรียสด้วยสีหน้าจริงจัง

     

     

    "ทำไม?" โกโก้ว่าเสียงเข้มคือเขาไม่เข้าใจไอ้เพื่อนคนนี้ว่ามันจะยอมอะไรกันนักกันหนา "มึงจะยอมโดนมันใช้ไปอย่างนี้ตลอดหรอ มึงอย่ามาทำตัวอย่างนี้ว่ะไม่อึดอัดหรอไง"

     

     

    "เราไม่อยากให้พวกเขามีปัญหา ช่างเถอะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่" บรีสส่ายหน้าหมายถึงว่าไม่เป็นไร ช่างมันยังไงซะก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร

     

     

    ฝ่ายเพื่อนโก้ก็ได้แต่หรี่ตามองและถอนหายใจอย่างยอมแพ้ โอเค ถ้ามันสุดวิสัยจริงๆ เรื่องนี้ยังไงก็ต้องถึงหูพี่เพลงแน่นอน ไม่รู้จะทนไปทำไมตัวเองเป็นคนใช้หรือก็เปล่า ชวนไปอยู่หอนอกด้วยกันก็ไม่ไป จนปัญญาที่จะว่าหัวดื้อล่ะที่หนึ่ง

     

     

     

     

     

    ...

     

    บรีสกลับมาห้องตอนห้าโมงเย็น เคาะประตูก่อนบิดลูกบิดจึงรู้ว่ามันไม่ได้ล็อคแสดงว่ารูมเมทก็คงกลับมาแล้ว เมื่อเปิดเข้าไปข้างในก็เห็นใครอีกคนนั่งหน้าเครียดที่โต๊ะของตัวเองอยู่ เขาเดินเข้าห้องไปเงียบๆ ไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวน วางถุงของฝากจากพี่รหัสและกระเป๋าเป้ลงบนโต๊ะเบาๆ พลางมองอีกฝ่ายไปด้วย

     

     

    "กลับมาแล้วหรอ กินไรยัง" ชาร์จทักขึ้นเมื่อเห็นรูมเมทกลับมาแล้ว

     

     

    "ยังครับ"

     

     

    "เอ้อ เห็นชีทบทที่สามที่มันมีรูปคนใส่สูทป้ะ"

     

     

    "เมื่อเช้าเหมือนจะเห็น แป๊บนะครับ" 

     

     

    เขานึกก่อนจะเดินไปเปิดลิ้นชักโต๊ะของอีกฝ่ายนั่งอยู่ ตอนเช้าเขาเก็บพวกกระดาษชีทแล้วเก็บใส่ลิ้นชักอันล่างสุด ชีทที่อีกฝ่ายถามหาก็น่าจะอยู่ในนี้ด้วย ไม่งั้นก็คงโดนเขายัดใส่ถุงให้แม่บ้านไปแล้ว 

     

     

    "อันนี้หรือเปล่า" ยื่นชีทที่มีรูปคนใส่สูทตามที่อีกคนถามหา

     

     

    "ใช่ๆ ขอบใจมาก" เสสายตามองชั่วครู่เมื่อเห็นว่าใช่ก็รับมันไปเปิดหาข้อมูลทันที

     

     

    เมื่อหมดธุระจากตรงนี้แล้วบรีสจึงเดินไปเปิดประตูระเบียงเพื่อเก็บเสื้อผ้าเข้ามาเก็บไว้ในตู้ให้เรียบร้อย ตากไว้หลายชั่วโมงกับแดดจัดๆ ก็น่าจะแห้งพอดี เสื้อผ้าที่ตากอยู่นี่ไม่มีของเขาหรอก แต่ถ้าเขาไม่เก็บอีกฝ่ายก็ไม่เก็บเหมือนกันจะใส่ทีก็คงมาเอาที่ระเบียงแล้วสวมใส่เลย เห็นแล้วมันก็รู้สึกขัดใจเลยต้องอาสาเก็บให้ซะเอง

     

     

    'มึงเป็นเมทนะไม่ใช่คนใช้'

     

     

    เสียงของเพื่อนโก้ที่พูดไว้ตั้งแต่เช้าแทรกเข้ามาในหัวเขาระหว่างที่จะเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ เขาหยุดชะงักและคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนใช้อย่างที่เพื่อนบอก ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาเมื่อเขารู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นคนใช้ของอีกฝ่ายจริงๆ ทั้งกวาดห้อง ซักผ้า ตากผ้า เก็บผ้า ซึ่งเสื้อผ้าก็ไม่ใช่ของเขาเลยซักนิด

     

     

    แล้วทำไมเขาไม่ปฏิเสธ 

     

     

    มันเริ่มตั้งตอนไหนที่เขาทำอะไรๆ โดยที่อีกฝ่ายไม่ช่วยแถมยังใช้เขาทำ แต่ที่จริงก็ไม่เชิงกับว่าใช้ เพียงแต่ว่าฝากทำซึ่งเป็นคำที่เขาปฏิเสธก็ไม่ได้ ไม่รู้จะบอกยังไงว่าไม่อยากทำให้ กลายเป็นว่าเขาเกรงใจที่จะปฏิเสธอีกฝ่ายเพียงแค่บอกว่าฝาก

     

     

    รอบสองกับการเดินไปเอาเสื้อผ้าที่ระเบียงมาเก็บไว้ในตู้ เพราะรอบแรกขนมาไม่หมดรอบสอบจึงได้หอบเอาทั้งหมดเข้ามาให้ทั้งสองแขนโอบอุ้มไปจนถึงตู้เสื้อผ้าของอีกฝ่าย เขาพยายามกดความรู้สึกต่างๆ มากมายเอาไว้ แค่เก็บพวกนี้เข้าตู้อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องคิดมากที่จะต้องทำมันอีก

     

     

    "ขอบใจ" 

     

     

    ระหว่างแขวนเสื้อผ้าไว้กับราวตู้ก็มีสัมผัสหนักๆ วางบนหัวเขาพลางโยกไปมา พร้อมกับประตูห้องที่ถูกเปิดออกและการออกไปของร่างสูงของรูมเมท

     

     

    เพียงถ้อยคำไม่กี่คำกลับทำเอาหัวใจคนฟังฟูขึ้นมา จากที่คิดน้อยใจว่าตัวเองเป็นคนใช้มันก็หายไปอย่างประหลาด

     

     

    แต่จริงๆ บรีสแค่หวังว่าอีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาทำให้แล้วนะเขาก็พอใจแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนใช้เพียงแค่อีกฝ่ายฝากทำแล้วก็จบ คำพูดบอก 'ขอบใจ' จึงมีค่ามากมายทำให้เขาเลิกคิดมากไปโดยฉับพลัน

     

     

    ใช่ บรีสเป็นรูมเมทไม่ใช่คนใช้โกโก้น่ะมั่วแล้ว ถ้าเป็นคนใช้จริงแค่คำว่า 'ขอบใจ' จากเจ้านายก็ไม่ได้ฟังหรอก

     

     

    "อะ" ถุงใบโตจากเซเว่นวางลงตรงหน้าเขาที่กำลังอ่านชีททบทวนของวันนี้อยู่

     

     

    "หื้อ?" บรีสเลิกคิ้วอย่างสงสัย มือก็คุ้ยถุงดูข้างในเป็นขนมสองสามห่อ ไอติมกับน้ำอัดลมรสที่เขาชอบ

     

     

    "กูอยากกินกาแฟเลยซื้อมาฝาก" หมายถึงอยากกินกาแฟเลยออกไปซื้อแล้วก็ซื้อขนมมาฝากเขาด้วย

     

     

    บรีสพนักหน้ารับ "ขอบคุณครับ" แล้วแกะไอติมออกมากินเพราะกลัวมันจะละลายซะก่อน

     

     

    รสชาติหวานๆ และความเย็นของไอติมที่เขากำลังกินอยู่ทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น เหมือนได้เติมพลังของที่ใช้ไปทั้งวันแล้วเลย

     

     

    "เลอะปากแล้วบรีส" ว่าเตือนคนอายุอ่อนกว่าแล้วเอื้อมมือไปเช็ดคราบไอติมที่เปื้อนบนปากให้ บรีสสะดุ้งนิดหน่อยแล้วก็ยกมือขึ้นมาเช็ดซ้ำให้มันสะอาดมากขึ้น

     

     

    "ขอบคุณครับ"

     

     

    "ซกมกว่ะ ฮ่าๆ" 

     

     

    เสียงหัวเราะทำให้บรีสขมวดคิ้วมุ่นไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไป เขาลุกจากเก้าอี้เดินไปหยิบทิชชู่ที่ตู้มาเตรียมไว้เช็ดปากเพราะกลัวจะเปื้อนอีก

     

     

    ชาร์จหันกลับมาตั้งใจพิมพ์งานต่อ แต่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เหลือบมองดูเวลาที่หน้าจอแมคบุ๊กว่าใกล้จะหนึ่งทุ่มแล้วจึงหันไปมองคนข้างๆ แล้วเอ่ยถาม



    "ยังไม่ได้กินข้าวนี่จะทุ่มนึงแล้วไม่ไปหาไรกินล่ะ" ที่ถามเพราะเขากินมาตั้งแต่คณะแล้วแต่อีกฝ่ายก็ยังเลยตั้งแต่ที่เขาถามตอนห้าโมง

     

     

    "ขี้เกียจออกไปแล้ว" บรีสไม่ได้หิวอะไรมาก ขนมที่ชาร์จซื้อมาให้ก็พอกินแทนข้าวได้มันก็อิ่มอยู่ ฉะนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องออกไปซื้อข้าวกินข้างนอก

     

     

    คนตัวสูงขมวดคิ้วขัดใจข้าวก็ไม่กินเดี๋ยวโรคกระเพาะก็ถามหาหรอก ตัวก็เล็กขาดสารอาหารผอมแห้งไปหมดแล้ว "เออๆ ถ้าหิวก็บอกเดี๋ยวพาออกไปซื้อหลังมอ"

     

     

    "..." บรีสพยักหน้ารับรู้ไว้แล้วอ่านหนังสือต่อ

     

     

    จนเวลาล่วงเลยไปสามทุ่มกว่า ชาร์จที่ทำงานเสร็จก็มานอนเล่นไอแพดบนเตียงนอนทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ส่วนคนที่จัดการตัวเองเรียบร้อยไปตั้งนานแล้วก็ยังคงอ่านหนังสือต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหิวเลยซักนิด คนตัวสูงถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะลุกขึ้นคว้ากุญแจกับโทรศัพท์มาถือไว้เตรียมตัวออกไปข้างนอก โดยที่จะลากรูมเมทตัวเล็กไปด้วยอีกคน

     

     

    เขาก็อุตส่าห์รอแล้วรออีกเพื่ออีกฝ่ายจะได้มาบอกว่าหิวข้าวพาไปซื้อข้าวกินหน่อยอะไรประมาณนั้น แต่ก็ไม่ยักจะมีซักแอะที่บ่นหิว แค่บอกว่าหิว..หิวอะไรก็ได้เขาก็พร้อมจะพาไปได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว รถก็มีจะกลัวอะไรเกรงใจไม่เข้าเรื่อง

     

     

    "ลุก ไปหาอะไรกิน" ชาร์จบอกอีกคน

     

     

    บรีสเลิกคิ้วขึ้นถาม "ชาร์จจะไปข้างนอกหรอ"

     

     

    "พามึงไปซื้อของกินนั่นแหละ เร็ว"

     

     

    ถึงจะงงนิดหน่อยแต่ก็ลุกตามอีกคนไปอย่างว่าง่าย พอได้ออกมาข้างนอกเห็นร้านของกินมากมายก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆ แต่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วเขาไม่ได้อยากกินอะไรหนักๆ เลยขอให้ชาร์จแวะจอดที่ร้านลูกชิ้นใกล้ๆ แล้วเลือกซักสามสี่ไม้

     

     

    "เอาไปสิบไม้เลยเผื่อกูด้วย"

     

     

    "ชาร์จจะเอาอันไหน" บรีสหันไปถามคนที่นั่งรออยู่บนรถใกล้ๆ

     

     

    "หยิบๆ มาเหอะกินได้หมดแหละ"

     

     

    พยักหน้ารับแล้วเลือกหยิบอันที่เขาชอบกินออกมาสิบไม้ใส่ตะกร้าเล็กๆ แล้วยื่นให้แม่ค้าคนขายเอาไปทอด เขาบอกแม่ค้าขอแยกน้ำจิ้มก่อนจะเดินไปเอาตังมาจ่ายจากชาร์จเพราะอีกคนบอกจะออกให้เขาก็ไม่อยากแย้ง

     







    ลูกชิ้นช่วยชีวิต มื้อดึกก่อนนอนงับ :3




                 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×