ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC Parallel of love KYUMIN

    ลำดับตอนที่ #6 : Parallel of love V

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 57





    Parallel of love




     

    สายฝนกระหน่ำหยาดน้ำรินหลั่งกระทบสาบเสื้อนักเรียนช่าง เลือดสีแดงซ่านถูกชะล้างเป็นสีอ่อน มือหนาจับข้อมือบางก่อนเตะเข้าช่องท้องฝ่ายตรงข้าม โจวคยูฮยอนกดศีรษะคนรักลง...ฟู้ว์เกือบไปแล้ว อีซองมินหลับตาปี๋เมื่อคนตัวโตเหวี่ยงตำแหน่งยืนตัวเองไปอีกด้าน คู่ต่อสู้ล้มพับกันพื้น คยูฮยอนจ้องเด็กดื้อตาเขม่น...ร่างบางเบิกตาโตแขนเล็กสะบัดหนีเกาะป้องกัน

    “อั่ก!” ผมยืนหอบหายใจเมื่อคนใจร้ายพวกนั้นล้มลง พี่คยูดึงผมเข้าไปกอดแน่น ท่อนไม้ขนาดกลางล่วงหล่นนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น

    “ใจเด็ดไม่เบานะเราเนี่ย”

                   “.........” ผมขึงตาใส่พี่เขา ไหนบอกแค่แวะมาเอาของกับเพื่อนไง เพื่อนที่ไหน...ถึงต้องทำร้ายฆ่าแกงกันถึงขนาดนี้

                   “ตามพี่มาแบบนี้ทำไม?” มือหนาประกบเข้าข้างแก้มทั้งสองของผม สายตาอบอุ่นถูกส่งผ่านให้ไอความร้อนเข้าแทรกซึมบนความรู้สึก

                   “ถ้าผมไม่ตามมา ผมจะได้รู้หรอว่าพี่โกหกผม”

                   “หึ เด็กดื้อของพี่” พี่คยูดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้ง แขนเรียวของผมเลยตวัดรัดร่างพี่เขาซะเลย เพียงเสี้ยววินาทีที่เห็นภาพเมื่อครู่...ใจของผมแทบแหลกไม่มีชิ้นดี

     

     

                   “มึงไม่เป็นไรนะ” พี่เยซองเดินเข้ามาตบบ่าพี่คยู คนรักของผมทำเพียงพยักหน้าเนืองๆตอบกลับไปให้

                   “พวกนั้นมันใช้มีดว่ะ” เสียงของพี่ฮันดังขึ้นเรียกความสนใจของพวกเรา แน่ล่ะ...ถ้าผมไม่ตามมามีดเล่มนั้นคงฝังในตัวพี่คยูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

     

     

                   กระเป๋าสตางค์ใบน้อยส่งสัญญาณเตือน ซองมินเทเศษเหรียญออกมาเกลื่อนเต็มพื้นห้อง มือบางค่อยๆนับเม็ดเงินที่เหลืออยู่ ริมฝีปากเบะลงเหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจ

                   “พี่คยู” ผมเอ่ยเรียกพี่เขาเบาๆ

                   “อยู่กับพี่มันลำบากขนาดนี้ เรายังอยากอยู่อีกหรอหื้ม”

                   “พี่ครับ เรากลับไปบ้านผมอีกครั้งกันเถอะ” มันคือหนทางเดียวจริงๆ เพราะผมไม่อยากให้พี่เขาทำเรื่องผิดกฎหมายอีกแล้ว...แม้ตอนนั้นผมรู้สึกสนุกกับมันก็ตามที

                   “รู้สึกเหมือนแมงดายังไงไม่รู้แฮะ” ผมมองตามแผ่นหลังที่ผมชอบซบแอบอิงในยามค่ำคืน ควันสีเทาถูกพ้นออกมาบนใบหน้าเคร่งขรึม ผมมองไม่ออกว่าตอนนี้พี่คยูคิดอะไรอยู่

     

                   “ดูดด้วย” เราสองคนนอนมองแสงจันทราที่กำลังสาดส่องมายังพื้นโลกเบื้องล่าง ผมเอนหลังซบเข้าหน้าอกแกร่งปลดปล่อยสายตาทอดผ่านราวระเบียงห้อง

                   “อื้มมมม” เอวบางถูกลุกล้ำด้วยมือหยาบ แอลกอฮอล์ไหลผ่านลำคอผมตามที่พี่เขาต้องการ

                   “คืนนี้ ตรงนี้นะคนดี” พี่คยูคนเจ้าเล่ห์...

                   “อ๊ะ..พี่คยู” เปลือกตาบางหลับพริ้มรอรับสัมผัสวาบวิว สะโพกมนเด้งขึ้นลงตามแรงอารมณ์ คยูฮยอนนวดคลึงพลางสะกิดยอดปลายเล่น  ใบหน้าคมกระตุกยิ้ม...ชักทนไม่ไหวแล้วสิ

     

                  

    ---อ่านในกลุ่มนะคะ---



     

                   ผมนอนแน่นิ่ง...นึกโกรธอยู่ในใจ ทั้งตัวพี่คยูฮยอนมีแค่ช่วงเอวเท่านั้นที่เปลือยเปล่า ต่างกันกับผมโดยสิ้นเชิง มือคนหรืออะไรกัน...มาเล่นถอดเสื้อผ้าเขาออกแบบไม่รู้ตัวเลยสักนิด

                   “ซองมินคิดว่าข้างห้องจะได้ยินเสียงเรามั้ย?”

                   “บ้า” ผมล่ะเกลียดจริงๆสายตากรุ่มกริ่มแบบนั้น ถ้าไปใช้มันกับใครล่ะก็ผมจะเฉือนเจ้าโลกพี่เขาทิ้งจริงๆด้วย

                   “พี่รักซองมินนะ”

                   “ผมก็รักพี่” ผมก้มหน้าจนปลายคางชิดอก ตอนนี้มันคงกำลังแดงเป็นลูกมะเขือเทศ

                   “อ๊ะ!” ลำแขนแกร่งยกตัวผมขึ้นลอยหวือ พี่คยูค่อยๆวางผมลงกับเตียงนอนนุ่ม...นึกว่าคืนนี้พี่เขาจะติดใจริมระเบียงไปซะอีก

                   “ฝันดีนะ เด็กดื้อของพี่”

     

     

                   คิมเรียวอุค...ผมลืมนัดสำคัญกับเพื่อนตัวเล็กไปซะสนิทเลย ตายแน่ๆอีซองมิน ผมรีบเก็บกล่องดินสอ หนังสือสำหรับเรียนวันนี้เข้ากระเป๋า ทันทีบานประตูเปิดออก คนในความคิดผมก็สะบัดตูดเดินจ้ำอ้าวนำหน้าผมก่อนเลย ผมเร่งฝีเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งให้ทันเพื่อนขี้งอน

                   “เรียวอุคอ่า เราตื่นสายนิดเดียวเอง”

                   “ชิ” อีกคนตอบกลับทั้งๆที่ไม่หันมาสบตาผมเลย

                   “ขอโทษได้มั้ยล่ะ?”

                   “ซองมินอ่า เล่นแบบนี้ตลอดเลย” มือเล็กเกาะมือผมเอาจากไหล่ พลางหัวเราะคิกคักมาให้

     

                   “วันนี้พี่คยูไม่มาส่งหรอ?”

                   “อื้ม” ผมตอบตามความจริง...ช่วงนี้พี่เขาชอบออกจากห้องตอนเช้ามืด กว่าจะกลับมาก็ตอนสายๆล่ะมั้ง               “อย่าคิดมากนะ”

                   “..................” เรียวอุครู้ทันผมตลอด เพื่อนตัวเล็กเอื้อมมือลูบหัวผมเบาๆเหมือนอยากปลอบโยน...ถ้าปากว่าผมไม่ได้ใส่ใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของพี่เขาก็คงไม่ใช่

                  

     

     

                   ห้องเรียนถูกแปรเปลี่ยนเป็นแหล่งซ่องซุ่ม โจวคยูฮยอนถีบโต๊ะล้มครืด มือหนาง้างตบใบหน้าลูกสมุนเต็มแรง...ถ้าซองมินเป็นอะไรไป เขาไม่มีทางยกโทษให้ตัวเองเป็นแน่

                   “เฮ้ย...ยัยคุณหนูก็ปล่อยภัยดี ไม่เห็นต้องทำกันถึงขนาดนี้เลย” เยซองดึงแขนผู้โชคร้ายออกให้พ้นภัย น่าสงสารก็จริง แต่ฉันคงช่วยแกมากกว่านี้ไม่ได้

                   “เงียบไปเลยมึง”

                   “ว่าแต่กู สุดท้ายก็ปล่อยให้ความรักมันบังตา” ฮันคยองควงไฟแซ็กในมือเล่นพลางยักคิ้วขึ้น ก่อนจะกระโดดตัวลงจากริมหน้าต่าง

     

                   “มึงเองก็เหมือนกัน กูรู้นะเมื่อวานมึงแอบไปหาเพื่อนสาวยัยคุณหนูนั้น” เยซองทำหน้าเหวอ...ถูกจับจนได้ อุตส่ากะเก็บเป็นความลับซักหน่อย พวกนี้หูตามันไวยิ่งกว่าจรวดซะอีก

                  

                   “พี่ๆตำรวจ ตำรวจมา!” หนึ่งในลูกสมุนวิ่งตาเหลือกเข้ามาให้ห้อง คยูฮยอนสบถคำพูดเสียงดังพลางพยักหน้าไปทางหน้าต่าง ฮันคยองวางไฟแช็คลง เปลี่ยนเป็นของผิดกฎหมาย...ถุงผ้าสีดำลอยพ้นเขตอันตราย หึ!พวกตำรวจหน้าโง่

                  

                   “ครับ?” ผู้ได้ชื่อว่าหัวหน้าแก๊ง ยิ้มเยาะคนในเครื่องแบบ

                   “..........” สายตากว่าสิบคู่เพ่งมองบริเวณโดยรอบ

                   “มีอะไรรึเปล่าครับ” คยูฮยอนเดินล่วงกระเป๋ากางเกง ย่นระยะห่างระหว่างผู้ร้ายกับโจร

                   “รอดตัวไปนะ โจวคยูฮยอน

                   “หึ คราวหน้าคุณตำรวจช่วยกรองข่าวมาดีๆด้วยนะครับ” มือหนาผายเชิญ...เมื่อผู้ร้ายที่ว่าไม่อาจล่วงล้ำเขตโจรได้ ถ้าไม่เจ๋งจริง...เขาคงไม่มีลูกเสือไว้ในกำมือมาจนถึงทุกวันนี้หรอก

     

     

               

     

                กลิ่นผงซักฟอกหอมฟุ้งทั่วทุกมุมห้อง ร่างสูงถอดเสื้อตัวนอกออก พลางใช้สายตามองหาคนรัก...อีซองมินหายไปไหน รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อ คยูฮยอนใช้มือค้ำขอบประตูจ้องมองร่างบางที่กำลังซักผ้าด้วยมือเปล่าในห้องน้ำ มือเล็กปาดเหงื่อตรงขมับออกอย่างลวกๆก่อนจะหันกลับไปขยี้ชุดนักเรียนในมือต่อ

                   “หื้อ” ผมสะดุ้งเฮือก...พี่คยูชอบมาไม่ได้ซุ่มให้เสียงแบบนี้ผมก็ตกใจแย่สิ

                   “คิดถึง”

                   “มือผมเปื้อนอยู่นะ” ผมพูดไปงั้นแหละ ความจริงหัวใจผมเองก็ขอร้องให้พี่เขาโอบกอดผมจากด้านหลังไว้แบบนี้ไปแสนนาน

                   “เหนื่อยมั้ย?” มือหนาเกลี่ยปอยผมเส้นบางตรงหน้าผากให้ ผมสะบัดหน้ารัว...แค่ช่วงชีวิตของผมได้พบเจอได้รู้จักกับผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าผมจะอยู่ในสถานะแบบไหนหรือผมต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน ผมไม่มีปล่อยคำว่าเหนื่อยออกมาจากปากแน่นอน...เพราะผมรักพี่คยูฮยอนเหลือเกิน

                  

    เมนูประจำตั้งเด่นเป็นสง่าบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเก่า ลายด้านบนของมันบ่งบอกอายุที่ผ่านการใช้งานได้เป็นอย่างดี ผมประกบมือเข้าหากันพลางพรึมพรำบางอย่างเหมือนกับที่คุณพ่อเคยสอนผม ทานแล้วนะครับ

     

     

    “เก็บศพเชี่ยไร กูกินข้าวอยู่” ผมแอบหันมองพี่คยูที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงหน้า ใบหน้าหล่อยับยู้ยี้...จนผมอดขำไม่ได้

    “ใครเมาหรอ?” ผมเอ่ยถาม

    “ทั้งคู่” มือหนากดวางสายพลางส่ายหน้าไม่พอใจ ไม่รู้ที่เคืองใจเพราะเพื่อนเมาหรือเพราะตัวเองไม่ได้ไปด้วย

    “ไปมั้ยล่ะ?” ผมแกล้งบอก

    “จะดีหรอ?”

    “ดีสิ ถ้าให้ผมไปด้วย” ไวยิ่งกว่าคำพูด ผมลุกขึ้นยืนก่อนเดินเข้าไปหยิบเสื้อแขนยาวสองตัว พี่คยูฮยอนดูลุกลี้ลุกลนนะ...ผมว่า แน่สิ!ก็ยัยอึนซอทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ร้านนั้นหนิ

     

    เมายิ่งกว่าหมา...คำแรกที่ฟุดออกมาจากปากพี่คยู มือหนาตบข้างแก้มเพื่อนเบาๆ ว่าแล้วเชียว...ไม่เคยให้รอนานผู้หญิงคนนั้นก็รีบปลีกตัวจากแขกโต๊ะอื่นตรงมาหาพี่เขา ผมสะบัดสายตาใส่พี่คยูเต็มที่แค่คนรักเก่าอย่าให้ผมต้องแผลงฤทธิ์

    “คยูฮยอน มาทำไม่บอก” ผมกัดริมฝีปากแน่น ยืนนิ่งให้เขาเอาหน้าอกมาชนอยู่ได้

    “เรามาดูไอ้ฮันกับไอ้เยซองมัน”

    “อ่อ เอ๊ะนั้นแฟนใหม่ของคยูฮยอนหรอ” เธอแย้มรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรส่งมาให้ผม

    “อ้อใช่ๆ ชื่อซองมิน ลีซองมินน่ะ” มือหนากอบกุมมือผมหลังเอ่ยจบ แววตาหนักแน่นของพี่เขาพังกำแพงที่ผมเพิ่งสร้างขึ้นได้สำเร็จ

    “หึงหรอ?” คล้อยหลังพี่ฮันกับพี่เยซองไม่ทันไร ร่างสูงกลับฉุดรั้งข้อมือผมไว้ ก่อนจะเอ่ยถามออกมา

    “ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ?” ผมจ้องลึกลงไปในดวงตาของพี่เขา

    “ขอโทษ ที่ผ่านใครมามากมาย...แต่สัญญาพี่จะรักเราเป็นคนสุดท้ายเด็กดื้อของพี่”

    “อึก..พี่คยูฮือ” ผมร้องไห้อีกจนได้ ความรู้สึกตื้นตันมาเอ่อล้นดวงใจ น้ำตาแห่งความสุขพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือหนาปลอบประโลมผมด้วยความหวงแหน ใบหน้าคมค่อยๆจรดปลายจมูกของเราแทบชนกัน

    “รัก..โจวคยูฮยอนจะรักลีซองมินจนลมหายใจสุดท้าย”

     

     

     

                   ผลพวงจากข้อความในโทรศัพท์ เพียงไม่กี่นาทีขาเรียวกลับนำพาผมมายังสถานที่แปลกตา ทางข้างหน้าเลี้ยวขวา...หึ คิดแล้วไม่มีผิด ที่แท้ก็พี่ยุนโฮ...

                   “ติดใจไอ้เด็กนั้น จนลืมทางกลับบ้านแล้วหรอครับน้องซองมิน”

                   “เรื่องของผม”

                   “ดูท่าจะรักกันมาก” พี่ยุนโฮพูดออกมาพร้อมท่าทีสบาย ขายาวไขว้ห้างบนเบาะรถราคาแพง

                   “อิจฉาหรอ?” ผมกลั้วหัวเราะในลำคอพลางยักคิ้วใส่พี่ยุนโฮ

                   “จะมากเกินไปแล้วนะลีซองมิน!

                   “อ๊ะ” ผมเซปะทะอกแกร่งเต็มแรง ปล่อย...บอกให้ปล่อยไง!!! ริมฝีปากหนากดจูบปิดปากผมแน่น กำปั้นเล็กทุบประท้วงการกระทำอุกอาด

                   “ไหนมาดูสิ ถ้าเราได้ลิ้มลองพี่ดูซักครั้ง...เราอาจจะติดใจพี่แทนไอ้เด็กช่างคนนั้นก็ได้”

                   “อย่าเข้ามานะ” ใบหน้าเหี้ยมโหดจ้องผมราวกับว่าผมคือเหยื่ออันโอชะ

     

                   “ม่ายยยยยยย!!!

                   “ตุบ!

                   “เรียวอุค...ฮือ” เพื่อนตัวเล็กวิ่งกรู่เข้ามากระชับสาบเสื้อนักเรียนให้ผม ดวงตาแดงกร่ำของคนข้างหลังทำผมใจกระตุก...พี่คยูฮยอน

                   “เลิกเรียนแล้วทำไมไม่กลับห้อง” พี่เขาทำเหมือนเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเพียงภาพลวงตา มือหนาก้มหยิบกระเป๋าเป้ของผมขึ้นสะพายบ่า

                   “พี่ครับอึก...พี่”

                   “หยุดพูดแล้วกลับห้องกับพี่นะครับ” น้ำตาผมไหลอาบแก้ม ยิ่งยามพี่เขาจูบซับฝันร้ายออกไปมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงตัวเองเป็นเท่าตัว

     

                   “ที่เหลือกูฝากด้วย”

     

     

     

                   ผมร่ำไห้ผ่านสายน้ำ มือบางปัดกลิ่นคาวออกจากตัว ถึงมันแค่เกือบ...แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันคือตราบาป สายตาเหนื่อยอ่อนของพี่คยู ตอนประครองผมเข้ามาให้ห้อง ผมจำมันได้ดี...สายตารู้สึกผิด พี่เขารู้สึกผิดที่ปกป้องผมไม่ได้ แต่นั้นมันไม่ใช่ความผิดของพี่เขาเลย

     

                   มือหนากระชับผ้าห่มขึ้นคลุมลำตัวผมอย่างอ่อนโยน เปลือกตาผมสั่นไม่เป็นจังหวะ...เมื่อความอบอุ่นเข้าครอบงำ ผมลืมตาขึ้นช้าๆปล่อยหยาดน้ำตาไหลลงสัมผัสหมอน ขอโทษที่ดื้อไปไหนไม่บอก ขอโทษที่ทำให้ต้องเป็นห่วงอยู่เรื่อย

                   “นอนได้แล้วนะครับ”

                   “พี่...ยังรักผมใช่มั้ย?” เพราะความไม่มั่นใจสั่งการให้ผมเอ่ยประโยคแบบนั้นออกไป ผมแค่กลัว...กลัวพี่เขาจะรังเกียจผม

                   “ไม่มีวันไหนที่ไม่รัก”

     

     

                   เสียงไฟจากด้านนอกมืดสนิทลง คยูฮยอนปิดประตูห้องนอน มือหนาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากำแน่น ร่างสูงทิ้งตัวลงกับพื้นพลางเช็ดน้ำตาออกลวกๆ สุดท้ายเขาเกือบปกป้องคนรักไว้ไม่ได้

                   “คุณหญิง...เธอกลับมาวันไหน?” เสียงแข็งกรอกไปตามปลายสาย...









     


    Talk...

    สวัสดีค่ะ^_^ คิดถึงเรื่องนี้กันบ้างมั้ยเอ่ย?
    พอดีเพิ่งมีแรงฮึดสู้กลับมาเขียนต่อ555

    คยูฮยอนเวลาอยู่กับเพื่อน
    ต่างกับเวลาที่อยู่กับเด็กดื้อเลย

    เรื่องนี้มันมีปมอยู่ไม่กี่ปม
    มีใครเดาออกบ้างมั้ยนะ?

    เม้น=กำลังใจ

    @pooyfaizera
    by : สาวน้อยไรเตอร์คยูมิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×