ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC Parallel of love KYUMIN

    ลำดับตอนที่ #2 : Parallel of love I

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 57




    Parallel  of love


     

     

    น่าเบื่อ...ผมรู้ดีว่าตอนนี้คุณแม่ท่านคงกำลังไม่พอใจผมเป็นอย่างมาก งานเลี้ยงการกุศลถูกจัดขึ้นเพียงเพื่ออวดความมั่งคั่งขอแขกในงานเท่านั้น ผมหยิบน้ำผลไม้สีหวานขึ้นจิบพลางจ้องมองผู้คนรอบกาย หลายคนมักบอกกับผมว่า...เกิดเป็นอีซองมินนี้น่า...สบายไปทั้งชาติ

     

    “คุณแม่ครับ”

    “แม่ไม่ชอบใจเวลาลูกรักของแม่ดูไม่มีความสุข”

    “................” ผมถอนหายใจ ก่อนจะหันหน้าออกนอกหน้าต่างประตูรถ อีกไม่นานเดี๋ยวผมก็ได้พักผ่อนแล้ว ผมจับขอบประตูรถแน่นเมื่อสายตาของผมพลันไปเห็นผู้ชายในวันนั้น ยิ่งผมจ้องมองภาพข้างนอกนั้นเท่าไร ยิ่งดูเหมือนว่ามันค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ

    “ลูกแม่กำลังมองอะไรอยู่ครับ”

    “เปล่าครับ” ผมโกหกคุณแม่และยิ้มส่งกลับให้ท่าน

     

    สายน้ำที่กำลังพาดผ่านร่างบางไม่อาจสลัดความรู้สึกขุ่นมัวในใจได้ ริมฝีปากเม้นเข้าหากันก่อนที่มือบางจะเอื้อมแตะมันเบาๆราวกับว่ากลัวรสชาติความสัมผัสเมื่อครั้งก่อนจากเลือนหาย

     

     

    “ซองมินนี่”

    “..............”

    “ซองมิน!

    “...............”

    “อีซองมินนน!

    “ตกใจหมดเรียวอุค!” ผมตวัดสายตาคาดโทษเพื่อนตัวเล็ก ก่อนอีกคนจะยู้หน้าใส่ผมคืน

    “เรียกตั้งนานแหนะ”

    “เรียวอุคเรียกเราหรอ?”

    “ก็ใช่นะสิ”

    “ขอโทษนะ” ผมเอ่ยบอกเรียวอุค พลางลูบหัวทุยนั้นเบาๆเพื่อเป็นการไถ่โทษ

    “คิดอะไรอยู่?”

    “หื้ม...ปะเปล่าหนิ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะชักมือกลับมาวางบนหนังสือตามเดิม เรียวอุคเอนหน้าเข้าหาผมพลางชมวดคิ้วเข้าหากัน ผมจึงยิ้มกลับ...

     

    “วาดรูปผู้ชายคนนั้นอีกแล้วหรอ”

    “อื้ม”

    “เราชักอยากเจอผู้ชายคนนั้นเร็วๆแล้วสิ”

    “.......................................................”  ใจผมกระตุกวาบ คำว่า”อยากเจอ”มันดังก้องทั่วความรู้สึกของผม กี่วันแล้วนะที่ผมได้รู้จักผู้ชายคนนั้นครั้งแรก...หึ ผมเค้นหัวเราะกับตัวเองรู้จักงั้นหรอ?พลางเขียนตัวอักษรลงกระดาษตรงหน้า

    “แล้วเจอกันครับ”

     

     

    อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกผมเข้าไปพบเมื่อตอนเช้า นักเรียนเกือบทั่วทั้งโรงเรียนต่างให้ความสนใจ ผมยิ้มรับกับคำชื่นชมยินดีเหล่านั้นหากแต่สุดท้ายแล้วผมรู้ดี...คำพูดพวกนั้นหาความจริงใจไม่ได้เลย...

    “ซองมินโอเคนะ”

    “เราไม่เป็นไร” คงจะมีแต่เรียวอุคคนเดียวที่เข้าใจผมตลอดมา ผมเหม่อมองท้องฟ้าในยามบ่ายความคิดถึงเมื่อผมเจอผู้ชายตัวเล็กคนนี้ครั้งแรกก็แล่นเข้ามา

     

    เรียวอุคเป็นนักเรียนทุนจากต่างจังหวัด ผมว่าเพื่อผมคนนี้เจ๋งนะ...เรียวอุคไม่ย่อท้อแท้ต่อคำติฉินนินทาจนในที่สุด ผมก็พังกำแพงที่ผมเคยตั้งขึ้นลงด้วยมือของผมเอง ถ้าจำไม่ผิดผมกับเรียวอุคเป็นเพื่อนกันมาได้2ปีแล้วมั้ง ถ้าไม่นับม.ปลายปี1 ที่ผมแทบไม่สนใจเรียวอุคเลย

     

    “ตอนเย็นเราไปเล่นที่หอเรียวอุคนะ”

    “ไปสิ”

     

     

    ผมก้มศีรษะขอบคุณคุณลุงคนขับรถพลางโบกมือให้คุณลุงกลับบ้านไปก่อน คุณลุงทำสีหน้าคิดหนักก่อนจะพยักหน้าแล้วออกรถไป เรียวอุคจับมือผมเดินเข้าซุปเปอร์มาเก๊ตด้วยกัน ไม่นานทั้งผมและเรียวอุคก็มาหยุดอยู่หน้าเค้าเตอร์

    “เดี๋ยวเรามานะ”

    “อ๊ะ!ซองมิน”

    ผมทิ้งกระเป๋าสตางค์ให้เรียวอุค มือบางของผมเอื้อมพลักประตูร้านออกไป ผมมั่นใจว่าเขาต้องใช่ผู้ชายคนนั้นแน่ๆ ทุกการก้าวเดินของผมทำไมผมถึงรู้สึกว่าวันนี้มันทำได้ยากเกินกว่าทุกวัน ผมปาดเหงื่ออกจากใบหน้าแต่แล้วน้ำตาผมกลับรินไหลออกมา

    “อึก...รอผะผม..ก่อน”

     

    เมื่อผมกลับมาถึงห้องของเรียวอุคเพื่อนตัวเล็กตบเบาๆที่ไหลผม ก่อนจะยกขนมคุกกี้ที่เพิ่งเปิดใส่จานมาให้ ผมเคี้ยวคุกกี้รสชาติที่โปรดปราน พลางอมยิ้มน้อยๆส่งกลับให้เพื่อน

     

     

    แสงแฟล็ชกล้องนับสิบตัวสาดส่องมายังผมและคุณแม่ วันลูกกตัญญูความภาคภูมิใจในเกียรติคุณ ผมฉีกยิ้มเหมือนคุณแม่ ก่อนที่ท่านจะเอ่ยบอกนักข่าวว่า...พอ

    “ซองมินของแม่ น่ารักที่สุดเลยครับ” ท่านเอื้อมมือมาจัดปรกคอเสื้อให้ผม

    “ครับ”

    ผมโบกมือให้คุณแม่เมื่อท่านขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ท่านต้องเดินไปอเมริกาอย่างเร่งด่วน ตอนแรกผมก็ตกใจแทบแย่เพราะตั้งแต่ผมจำความได้ผมกับคุณแม่เราไม่เคยห่างกันเลย แต่เมื่อผมนึกขึ้นได้...ถึงแผนการชั่วร้ายที่เรียวอุคตั้งใจให้ ผมกับพึงพอใจกลับการเดินทางครั้งนี้ของคุณแม่

     

     

    “เรียวอุคหนีไป!!!” ผมตะโกนสุดเสียง ก่อนจะพลักเพื่อนตัวเล็กไปข้างหน้า เรียวอุคหันกลับมามองผมทั้งน้ำตาเจ้าตัวส่ายหน้ารัวให้ผม หากแต่เสียงไล่ล่าที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ไม่อาจทำให้เรียวอุคขัดความต้องการของผมได้

    “จับมันมา”

    “ปล่อยนะ! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้”

    “อีกคนล่ะลูกพี่”

    “ช่างมัน”

    ผมถูกลากตัวเข้ามายังโกงดังร้างท้ายซอย ตลอดทางเดินผมพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ ดูเหมือนคนพวกนั้นจะรำคาญผมเอาเสียมากๆ ผมเลยถูกมัดมือ มัดเท้า..รวมถึงมัดปากด้วย

     

    “มันมายังว่ะ”

    “เดี๋ยวก็มาแหละพี่”

    ผมสะดุ้งตัวเมื่อได้ยินเสียงดังโครมจากด้านนอก แต่แล้วคนพวกนั้นกลับหัวเราะชอบใจขึ้น

     

    “กูว่าแล้วมึงต้องมา”

    “ปล่อยเด็กคนนั้นไป” น้ำเสียงนั้น...ผมจำมันไม่ผิดแน่

    “ถุ้ย!!!

     

    ดวงตาของผมสะท้อนภาพตรงหน้ามันกำลังฉายใบหน้าของคนที่ผมกำลังถวิลหา...ผู้ชายคนนั้นอยู่ในชุดนักเรียนช่างเต็มยศ ความปลื้มใจของผมแล่นขึ้นสู่หัวใจ และแล้วเราก็ได้เจอกัน...อีกครั้ง

    “กูไม่มีเวลามาเล่นอะไร ไร้สาระพวกนี้หรอกนะ”

    “งั้นหรอ” ผู้ชายตัวสูงสง่าก้าวเท้าเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้น พลางทิ้งบุหรี่ในมือลงพื้น เท้าหนาบดขยี้มันอย่างไม่ใยดี

    “กูไม่รู้จักเด็กคนนี้...กูไปล่ะ” หัวใจของผมกระตุกวาบ...ผู้ชายคนนั้นหันหลังกลับทำท่าเดินออกจากโกงดัง

     

    “อ๊ะ!อย่านะ...อย่าทำอะไรผม”

    “มาสนุกกันดีกว่าคนสวย”

    “อื้อออย่า..ผมเจ็บ” ผมสะบัดหน้าหนีสันจมูกจากผู้ชายนับสิบคน มือหยาบลูบทั่วเลือนร่างของผม ตอนนี้ผมพูดได้คำเดียว...ผมอยากตาย

     

    “พวกระยำ!!!

    เสียงหายใจรวยรินของผมกับดวงตาที่กำลังหลับลงได้ที เรียกความสนใจจากผู้ชายคนนั้น มือหนาตบเบาๆที่ข้างแก้มผมพลางกระซิบบอกว่า...

    “ปลอดภัยแล้วนะ”

    “ครับ”

    “เด็กดื้อ” ผมยิ้มรับฉายาใหม่ที่ผู้ชายคนนั้นตั้งให้ ก่อนที่สติผมจะดับวูบลงไป

     

     

    “ซองมินเราขอโทษ..อึกขอโทษนะฮือ”

    “เรียวอุค...ผู้ชายคนนะนั้น”

    “นี้แหนะ เราเป็นห่วงแทบแย่ตื่นมาก็ถามหาเขาก่อนเลยหรอ” เรียวอุคปาหมอนใส่ผม ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวผมลุกขึ้นนั่ง

    “เรา....”

    “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ เราได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้องเลยออกไปดู...แล้วก็เจอซองมินนอนอยู่”

    คิ้วผมขมวดเข้าหากัน ผมจำได้ว่าครั้งสุดท้ายผมอยู่กับผู้ชายคนนั้นหนิ แต่แล้วทำไมผมถึงมานอนอยู่ห้องของเรียวอุดได้ล่ะ

    “ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น กินยาแล้วนอนพักนะ” เหมือนเพื่อนตัวเล็กจะเดาความคิดผมออก จึงพูดตัดโอกาสที่ผมจะทบทวนปะติดปะต่อเรื่องราว ผมพยักหน้าให้เรียวอุคพลางเอนตัวลงนอนตามเดิม

     

     

    แสงแดดในยามเช้ากำลังกลืนกินเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ผมเคยมี ผมจับหมอนใบใหญ่ของเรียวอุคขึ้นมาปิดหน้า พลางดึงผ้าห่มที่ผมยึดจากเจ้าของห้องขึ้นคลุมมิดศีรษะ เรื่องราวเมื่อคืน...ถือได้ว่าเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตถ้าไม่นับรวมเรื่องของคุณพ่อ ความน้อยใจแล่นขึ้นจุกอก เมื่อภาพที่ผู้ชายคนนั้นกำลังหันกลับเดินหนีให้กับผม

    “ซองมินตื่นๆ มาดูนี้เร็ว”

    “เราจะนอน..งื้อ”

    “นายชอบกินน้ำฟักทองใช่มั้ย”

    “อื้ม” ผมบอกปัดเรียวอุคเพราะตอนนี้ผมต้องการความเงียบสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด

    “มีคนเอามาห้อยไว้ที่หน้าห้องเราด้วยแหละ” เพียงเท่านั้นผมเด้งตัวออกจากผ้าห้มทันที มือไม้ของผมสั่นเมื่อเพื่อนตัวเล็กยื่นมันมาให้กับผม

     

    ขนมปังถูกจัดวางลงกล่องสวยงาม เช้าวันนี้เรียวอุคสอนผมทำเมนูง่ายๆ ตอนเรียกเพื่อนตัวเล็กแทบลมจับเมื่อผมบอกว่า...เราทำไม่เป็น...

    “ซองมินนี่ เก่งที่สุดเลย”

    “ไม่ต้องมาประจบเราเลยนะ” ผมส่ายหน้าในกับความขี้เล่นของเพื่อน พลางหยิบแซนวิชชิ้นสุดท้ายส่งให้เจ้าตัว เรียวอุคยิ้มให้กับผมเมื่อปิดฝากล่องเรียบร้อย ไม่นานผมกับเรียวอุคก็จับกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย ทันทีประตูห้องของเราถูกเปิดออก ประตูฝั่งตรงข้ามที่เหมือนจะเปิดออกพร้อมกับเรา ถูกดึงกลับเสียเสียงดัง ผมกับเรียวอุคยืมมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ช่างเถอะ...เรื่องของคนอื่นผมไม่ชอบยุ่งอยู่แล้ว

     

    ไม่เบื่อหรือไงว่ะ ตามดูเด็กนั้นแทบทุกวัน

    เรื่องของกู

    ดอกฟ้ากับหมาวัดงั้นสิ

     

     

    “ซองมินคุณแม่กลับจากอเมริกาหรือยังจ๊ะ”

    “เห็นว่าอีก2-3วัน ท่านถึงจะเดินทางกลับครับ” เป็นเรื่องปกติสำหรับผมไม่แล้ว หากมีใครหรือคนที่รู้จักมักจะถามถึงคนในครอบครัวของผมบ่อยครั้ง ผมโค้งศีรษะให้อาจารย์ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา...ถ้าเป็นไปได้ผมยังไม่อยากให้คุณแม่กลับเกาหลีเลย

     

    ผมเอียงคอเมื่อเห็นรถคันคุ้นตาแล่นมาจอดอยู่ตรงหน้า ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยถามอะไรคุณลุงก็รีบวิ่งลงมาเปิดประตูรถให้กับผม ริมฝีปากผมเริ่มขยับเมื่อเห็นบุคคลที่สามนั่งรออยู่ก่อนแล้ว...พี่ยุนโฮ

     

    “คุณแม่เราบอกให้พี่มาคอยดูแลเรา เพราะท่านยังทำธุรกิจทางโน้นยังไม่เสร็จ”

    “แต่ผมโตแล้วนะครับ” ผมเอ่ยตอบพี่ยุนโฮ ทั้งๆที่ไม่ยอมมองหน้า

    “ซองมิน เด็กสำหรับพี่เสมอ”

    “ถ้าพี่ทำแบบนี้อีก ผมจะลงจากรถ” ผมชักมือกลับเมื่ออีกคนเอื้อมมือหนามาสัมผัสผม ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจหากแต่ผมไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวผม...นอกจากผู้ชายคนนั้น

    “ขอโทษครับ” พี่ยุนโฮบอกขอโทษก่อนจะหันหน้าไปสั่งให้คุณลุงเร่งเครื่อง ผมอมยิ้มให้คุณลุงพลางพยักหน้าให้กับท่าน

     

    “ซองมิน! ซองมินกลับมานะ!!!โถ่วโว้ย”

    “ผมขอโทษครับๆ”

    “ทำไมไม่รู้จักล็อครถว่ะ เป็นคนขับรถภาษาอะไรว่ะ!

     

    “ระวังรถ”

     “คุณ!” ผมหยุดวิ่งตามแรงดึงจากคนข้างหลัง ดวงตาของผมกำลังเอ่อนองด้วยน้ำสีใส ผู้ชายคนนั้นเอื้อมมือมาปาดมันออกให้ผมช้าๆ

    “ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันจะทำยังไงหื้ม”

    “ผม...”

    “ซองมิน...อีซองมิน”

    “คุณ...”

    “ฉันชื่อ...โจวคยูฮยอน” ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้กับผม ก่อนที่พี่เขาจะดึงผมเข้าไปกอด ความอบอุ่นแผ่ซึบซาบทั่วความรู้สึกข้างใน

    “อื้ม พี่คยู”

    “เด็กดื้อ”

     



     


    Talk...
    ในที่สุดตอนแรกก็คลอดจนได้...ปาดเหงื่อ
    มีใครงงตรงไหนหรือช่วงไหนบอกเราได้นะคะ
    ใครอ่านแล้วไปเม้าส์กับเราได้ @pooyfaizera น้า
    ยินดีน้อมรับทุกคำติชมค่ะ

    ในที่สุดพี่คยูกับเด็กดื้อก็ได้มาเจอกันอีกครั้ง
    เด็กดื้อที่หนีคุณแม่ไปตามหาผู้ชายคนนั้นจนได้เรื่อง

    เม้น=กำลังใจ (สำคัญมาก)
    แล้วเจอกันใหม่ตอนต่อไปค่ะ^__^


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×