คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Parallel of love I
Parallel of love
น่าเบื่อ...ผมรู้ดีว่าตอนนี้คุณแม่ท่านคงกำลังไม่พอใจผมเป็นอย่างมาก งานเลี้ยงการกุศลถูกจัดขึ้นเพียงเพื่ออวดความมั่งคั่งขอแขกในงานเท่านั้น ผมหยิบน้ำผลไม้สีหวานขึ้นจิบพลางจ้องมองผู้คนรอบกาย หลายคนมักบอกกับผมว่า...เกิดเป็นอีซองมินนี้น่า...สบายไปทั้งชาติ
“คุณแม่ครับ”
“แม่ไม่ชอบใจเวลาลูกรักของแม่ดูไม่มีความสุข”
“................” ผมถอนหายใจ ก่อนจะหันหน้าออกนอกหน้าต่างประตูรถ อีกไม่นานเดี๋ยวผมก็ได้พักผ่อนแล้ว ผมจับขอบประตูรถแน่นเมื่อสายตาของผมพลันไปเห็นผู้ชายในวันนั้น ยิ่งผมจ้องมองภาพข้างนอกนั้นเท่าไร ยิ่งดูเหมือนว่ามันค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ
“ลูกแม่กำลังมองอะไรอยู่ครับ”
“เปล่าครับ” ผมโกหกคุณแม่และยิ้มส่งกลับให้ท่าน
สายน้ำที่กำลังพาดผ่านร่างบางไม่อาจสลัดความรู้สึกขุ่นมัวในใจได้ ริมฝีปากเม้นเข้าหากันก่อนที่มือบางจะเอื้อมแตะมันเบาๆราวกับว่ากลัวรสชาติความสัมผัสเมื่อครั้งก่อนจากเลือนหาย
“ซองมินนี่”
“..............”
“ซองมิน!”
“...............”
“อีซองมินนน!”
“ตกใจหมดเรียวอุค!” ผมตวัดสายตาคาดโทษเพื่อนตัวเล็ก ก่อนอีกคนจะยู้หน้าใส่ผมคืน
“เรียกตั้งนานแหนะ”
“เรียวอุคเรียกเราหรอ?”
“ก็ใช่นะสิ”
“ขอโทษนะ” ผมเอ่ยบอกเรียวอุค พลางลูบหัวทุยนั้นเบาๆเพื่อเป็นการไถ่โทษ
“คิดอะไรอยู่?”
“หื้ม...ปะเปล่าหนิ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะชักมือกลับมาวางบนหนังสือตามเดิม เรียวอุคเอนหน้าเข้าหาผมพลางชมวดคิ้วเข้าหากัน ผมจึงยิ้มกลับ...
“วาดรูปผู้ชายคนนั้นอีกแล้วหรอ”
“อื้ม”
“เราชักอยากเจอผู้ชายคนนั้นเร็วๆแล้วสิ”
“.......................................................” ใจผมกระตุกวาบ คำว่า”อยากเจอ”มันดังก้องทั่วความรู้สึกของผม กี่วันแล้วนะที่ผมได้รู้จักผู้ชายคนนั้นครั้งแรก...หึ ผมเค้นหัวเราะกับตัวเองรู้จักงั้นหรอ?พลางเขียนตัวอักษรลงกระดาษตรงหน้า
“แล้วเจอกันครับ”
อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกผมเข้าไปพบเมื่อตอนเช้า นักเรียนเกือบทั่วทั้งโรงเรียนต่างให้ความสนใจ ผมยิ้มรับกับคำชื่นชมยินดีเหล่านั้นหากแต่สุดท้ายแล้วผมรู้ดี...คำพูดพวกนั้นหาความจริงใจไม่ได้เลย...
“ซองมินโอเคนะ”
“เราไม่เป็นไร” คงจะมีแต่เรียวอุคคนเดียวที่เข้าใจผมตลอดมา ผมเหม่อมองท้องฟ้าในยามบ่ายความคิดถึงเมื่อผมเจอผู้ชายตัวเล็กคนนี้ครั้งแรกก็แล่นเข้ามา
เรียวอุคเป็นนักเรียนทุนจากต่างจังหวัด ผมว่าเพื่อผมคนนี้เจ๋งนะ...เรียวอุคไม่ย่อท้อแท้ต่อคำติฉินนินทาจนในที่สุด ผมก็พังกำแพงที่ผมเคยตั้งขึ้นลงด้วยมือของผมเอง ถ้าจำไม่ผิดผมกับเรียวอุคเป็นเพื่อนกันมาได้2ปีแล้วมั้ง ถ้าไม่นับม.ปลายปี1 ที่ผมแทบไม่สนใจเรียวอุคเลย
“ตอนเย็นเราไปเล่นที่หอเรียวอุคนะ”
“ไปสิ”
ผมก้มศีรษะขอบคุณคุณลุงคนขับรถพลางโบกมือให้คุณลุงกลับบ้านไปก่อน คุณลุงทำสีหน้าคิดหนักก่อนจะพยักหน้าแล้วออกรถไป เรียวอุคจับมือผมเดินเข้าซุปเปอร์มาเก๊ตด้วยกัน ไม่นานทั้งผมและเรียวอุคก็มาหยุดอยู่หน้าเค้าเตอร์
“เดี๋ยวเรามานะ”
“อ๊ะ!ซองมิน”
ผมทิ้งกระเป๋าสตางค์ให้เรียวอุค มือบางของผมเอื้อมพลักประตูร้านออกไป ผมมั่นใจว่าเขาต้องใช่ผู้ชายคนนั้นแน่ๆ ทุกการก้าวเดินของผมทำไมผมถึงรู้สึกว่าวันนี้มันทำได้ยากเกินกว่าทุกวัน ผมปาดเหงื่ออกจากใบหน้าแต่แล้วน้ำตาผมกลับรินไหลออกมา
“อึก...รอผะผม..ก่อน”
เมื่อผมกลับมาถึงห้องของเรียวอุคเพื่อนตัวเล็กตบเบาๆที่ไหลผม ก่อนจะยกขนมคุกกี้ที่เพิ่งเปิดใส่จานมาให้ ผมเคี้ยวคุกกี้รสชาติที่โปรดปราน พลางอมยิ้มน้อยๆส่งกลับให้เพื่อน
แสงแฟล็ชกล้องนับสิบตัวสาดส่องมายังผมและคุณแม่ วันลูกกตัญญูความภาคภูมิใจในเกียรติคุณ ผมฉีกยิ้มเหมือนคุณแม่ ก่อนที่ท่านจะเอ่ยบอกนักข่าวว่า...พอ
“ซองมินของแม่ น่ารักที่สุดเลยครับ” ท่านเอื้อมมือมาจัดปรกคอเสื้อให้ผม
“ครับ”
ผมโบกมือให้คุณแม่เมื่อท่านขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ท่านต้องเดินไปอเมริกาอย่างเร่งด่วน ตอนแรกผมก็ตกใจแทบแย่เพราะตั้งแต่ผมจำความได้ผมกับคุณแม่เราไม่เคยห่างกันเลย แต่เมื่อผมนึกขึ้นได้...ถึงแผนการชั่วร้ายที่เรียวอุคตั้งใจให้ ผมกับพึงพอใจกลับการเดินทางครั้งนี้ของคุณแม่
“เรียวอุคหนีไป!!!” ผมตะโกนสุดเสียง ก่อนจะพลักเพื่อนตัวเล็กไปข้างหน้า เรียวอุคหันกลับมามองผมทั้งน้ำตาเจ้าตัวส่ายหน้ารัวให้ผม หากแต่เสียงไล่ล่าที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ไม่อาจทำให้เรียวอุคขัดความต้องการของผมได้
“จับมันมา”
“ปล่อยนะ! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้”
“อีกคนล่ะลูกพี่”
“ช่างมัน”
ผมถูกลากตัวเข้ามายังโกงดังร้างท้ายซอย ตลอดทางเดินผมพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ ดูเหมือนคนพวกนั้นจะรำคาญผมเอาเสียมากๆ ผมเลยถูกมัดมือ มัดเท้า..รวมถึงมัดปากด้วย
“มันมายังว่ะ”
“เดี๋ยวก็มาแหละพี่”
ผมสะดุ้งตัวเมื่อได้ยินเสียงดังโครมจากด้านนอก แต่แล้วคนพวกนั้นกลับหัวเราะชอบใจขึ้น
“กูว่าแล้วมึงต้องมา”
“ปล่อยเด็กคนนั้นไป” น้ำเสียงนั้น...ผมจำมันไม่ผิดแน่
“ถุ้ย!!!”
ดวงตาของผมสะท้อนภาพตรงหน้ามันกำลังฉายใบหน้าของคนที่ผมกำลังถวิลหา...ผู้ชายคนนั้นอยู่ในชุดนักเรียนช่างเต็มยศ ความปลื้มใจของผมแล่นขึ้นสู่หัวใจ และแล้วเราก็ได้เจอกัน...อีกครั้ง
“กูไม่มีเวลามาเล่นอะไร ไร้สาระพวกนี้หรอกนะ”
“งั้นหรอ” ผู้ชายตัวสูงสง่าก้าวเท้าเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้น พลางทิ้งบุหรี่ในมือลงพื้น เท้าหนาบดขยี้มันอย่างไม่ใยดี
“กูไม่รู้จักเด็กคนนี้...กูไปล่ะ” หัวใจของผมกระตุกวาบ...ผู้ชายคนนั้นหันหลังกลับทำท่าเดินออกจากโกงดัง
“อ๊ะ!อย่านะ...อย่าทำอะไรผม”
“มาสนุกกันดีกว่าคนสวย”
“อื้อออย่า..ผมเจ็บ” ผมสะบัดหน้าหนีสันจมูกจากผู้ชายนับสิบคน มือหยาบลูบทั่วเลือนร่างของผม ตอนนี้ผมพูดได้คำเดียว...ผมอยากตาย
“พวกระยำ!!!”
เสียงหายใจรวยรินของผมกับดวงตาที่กำลังหลับลงได้ที เรียกความสนใจจากผู้ชายคนนั้น มือหนาตบเบาๆที่ข้างแก้มผมพลางกระซิบบอกว่า...
“ปลอดภัยแล้วนะ”
“ครับ”
“เด็กดื้อ” ผมยิ้มรับฉายาใหม่ที่ผู้ชายคนนั้นตั้งให้ ก่อนที่สติผมจะดับวูบลงไป
“ซองมินเราขอโทษ..อึกขอโทษนะฮือ”
“เรียวอุค...ผู้ชายคนนะนั้น”
“นี้แหนะ เราเป็นห่วงแทบแย่ตื่นมาก็ถามหาเขาก่อนเลยหรอ” เรียวอุคปาหมอนใส่ผม ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวผมลุกขึ้นนั่ง
“เรา....”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ เราได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้องเลยออกไปดู...แล้วก็เจอซองมินนอนอยู่”
คิ้วผมขมวดเข้าหากัน ผมจำได้ว่าครั้งสุดท้ายผมอยู่กับผู้ชายคนนั้นหนิ แต่แล้วทำไมผมถึงมานอนอยู่ห้องของเรียวอุดได้ล่ะ
“ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น กินยาแล้วนอนพักนะ” เหมือนเพื่อนตัวเล็กจะเดาความคิดผมออก จึงพูดตัดโอกาสที่ผมจะทบทวนปะติดปะต่อเรื่องราว ผมพยักหน้าให้เรียวอุคพลางเอนตัวลงนอนตามเดิม
แสงแดดในยามเช้ากำลังกลืนกินเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ผมเคยมี ผมจับหมอนใบใหญ่ของเรียวอุคขึ้นมาปิดหน้า พลางดึงผ้าห่มที่ผมยึดจากเจ้าของห้องขึ้นคลุมมิดศีรษะ เรื่องราวเมื่อคืน...ถือได้ว่าเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตถ้าไม่นับรวมเรื่องของคุณพ่อ ความน้อยใจแล่นขึ้นจุกอก เมื่อภาพที่ผู้ชายคนนั้นกำลังหันกลับเดินหนีให้กับผม
“ซองมินตื่นๆ มาดูนี้เร็ว”
“เราจะนอน..งื้อ”
“นายชอบกินน้ำฟักทองใช่มั้ย”
“อื้ม” ผมบอกปัดเรียวอุคเพราะตอนนี้ผมต้องการความเงียบสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด
“มีคนเอามาห้อยไว้ที่หน้าห้องเราด้วยแหละ” เพียงเท่านั้นผมเด้งตัวออกจากผ้าห้มทันที มือไม้ของผมสั่นเมื่อเพื่อนตัวเล็กยื่นมันมาให้กับผม
ขนมปังถูกจัดวางลงกล่องสวยงาม เช้าวันนี้เรียวอุคสอนผมทำเมนูง่ายๆ ตอนเรียกเพื่อนตัวเล็กแทบลมจับเมื่อผมบอกว่า...เราทำไม่เป็น...
“ซองมินนี่ เก่งที่สุดเลย”
“ไม่ต้องมาประจบเราเลยนะ” ผมส่ายหน้าในกับความขี้เล่นของเพื่อน พลางหยิบแซนวิชชิ้นสุดท้ายส่งให้เจ้าตัว เรียวอุคยิ้มให้กับผมเมื่อปิดฝากล่องเรียบร้อย ไม่นานผมกับเรียวอุคก็จับกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย ทันทีประตูห้องของเราถูกเปิดออก ประตูฝั่งตรงข้ามที่เหมือนจะเปิดออกพร้อมกับเรา ถูกดึงกลับเสียเสียงดัง ผมกับเรียวอุคยืมมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ช่างเถอะ...เรื่องของคนอื่นผมไม่ชอบยุ่งอยู่แล้ว
“ไม่เบื่อหรือไงว่ะ ตามดูเด็กนั้นแทบทุกวัน”
“เรื่องของกู”
“ดอกฟ้ากับหมาวัดงั้นสิ”
“ซองมินคุณแม่กลับจากอเมริกาหรือยังจ๊ะ”
“เห็นว่าอีก2-3วัน ท่านถึงจะเดินทางกลับครับ” เป็นเรื่องปกติสำหรับผมไม่แล้ว หากมีใครหรือคนที่รู้จักมักจะถามถึงคนในครอบครัวของผมบ่อยครั้ง ผมโค้งศีรษะให้อาจารย์ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา...ถ้าเป็นไปได้ผมยังไม่อยากให้คุณแม่กลับเกาหลีเลย
ผมเอียงคอเมื่อเห็นรถคันคุ้นตาแล่นมาจอดอยู่ตรงหน้า ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยถามอะไรคุณลุงก็รีบวิ่งลงมาเปิดประตูรถให้กับผม ริมฝีปากผมเริ่มขยับเมื่อเห็นบุคคลที่สามนั่งรออยู่ก่อนแล้ว...พี่ยุนโฮ
“คุณแม่เราบอกให้พี่มาคอยดูแลเรา เพราะท่านยังทำธุรกิจทางโน้นยังไม่เสร็จ”
“แต่ผมโตแล้วนะครับ” ผมเอ่ยตอบพี่ยุนโฮ ทั้งๆที่ไม่ยอมมองหน้า
“ซองมิน เด็กสำหรับพี่เสมอ”
“ถ้าพี่ทำแบบนี้อีก ผมจะลงจากรถ” ผมชักมือกลับเมื่ออีกคนเอื้อมมือหนามาสัมผัสผม ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจหากแต่ผมไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวผม...นอกจากผู้ชายคนนั้น
“ขอโทษครับ” พี่ยุนโฮบอกขอโทษก่อนจะหันหน้าไปสั่งให้คุณลุงเร่งเครื่อง ผมอมยิ้มให้คุณลุงพลางพยักหน้าให้กับท่าน
“ซองมิน! ซองมินกลับมานะ!!!โถ่วโว้ย”
“ผมขอโทษครับๆ”
“ทำไมไม่รู้จักล็อครถว่ะ เป็นคนขับรถภาษาอะไรว่ะ!”
“ระวังรถ”
“คุณ!” ผมหยุดวิ่งตามแรงดึงจากคนข้างหลัง ดวงตาของผมกำลังเอ่อนองด้วยน้ำสีใส ผู้ชายคนนั้นเอื้อมมือมาปาดมันออกให้ผมช้าๆ
“ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันจะทำยังไงหื้ม”
“ผม...”
“ซองมิน...อีซองมิน”
“คุณ...”
“ฉันชื่อ...โจวคยูฮยอน” ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้กับผม ก่อนที่พี่เขาจะดึงผมเข้าไปกอด ความอบอุ่นแผ่ซึบซาบทั่วความรู้สึกข้างใน
“อื้ม พี่คยู”
“เด็กดื้อ”
Talk...
ในที่สุดตอนแรกก็คลอดจนได้...ปาดเหงื่อ
มีใครงงตรงไหนหรือช่วงไหนบอกเราได้นะคะ
ใครอ่านแล้วไปเม้าส์กับเราได้ @pooyfaizera น้า
ยินดีน้อมรับทุกคำติชมค่ะ
ในที่สุดพี่คยูกับเด็กดื้อก็ได้มาเจอกันอีกครั้ง
เด็กดื้อที่หนีคุณแม่ไปตามหาผู้ชายคนนั้นจนได้เรื่อง
เม้น=กำลังใจ (สำคัญมาก)
แล้วเจอกันใหม่ตอนต่อไปค่ะ^__^
ความคิดเห็น