คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : One minute
One minute
แสงแดดสีส้มอมเหลืองถูกทอประกายลอดผ่านผ้าม่านสีขาวแซมชมพู สายลมหอบเอาไอความร้อนระเหยสัมผัสร่างบางที่นอนคดตัวอยู่บนเตียง ใบหน้าหวานซุกแนบชิดหนอมใบใหญ่ก่อนจะตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมโปร่ง ไม่นานนักแขนเรียวกลับตวัดมันห่างตัว...หายใจไม่ออก
มือบางตะบบคลำไปตามผ้าปูที่นอนลายการ์ตูนน่ารัก เครื่องมือสื่อสารแผดเสียงน่ารำคาญอยู่ได้...ติ๊ด นอนต่อให้หายง่วงซักหน่อยค่อยตื่นแล้วกันเนอะ
“ห๊า!8โมง เจ้าบ้าทำไม่ปลุก” ริมฝีปากบางขยับสวดคำพูดใส่อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคข้างตัว ขาเรียวบางพาดผ้าห่มปลิวขึ้นหัวเตียง ก่อนจะรีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
“เสื้อยังไม่รีด โอ๊ยโง่จริง!” มือบางเสียบปลั๊กเตารีดพลางสะบัดเสื้อนักศึกษาตัวเก่งกลางอากาศ ยับชิบหาย...มือรีดไปปากก็บ่นไป เกือบ30กว่านาทีที่คนช่างสำอางมันวุ่นอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ที่กำลังสะท้อนเงารูปร่างที่ค่อนไปทางอวบ ปากบางเบะลงเล็กน้อยก่อนจะหันรอบตัวเอง...ก็คนมันชอบกินนี้จะให้หุ่นผอมเหมือนนางแบบก็คงไม่ใช่
แยมส้มถูกปิดเปิดฝาออกอย่างง่ายดาย มือบางหยิบขนมปังออกจากเครื่องปิ้งตัวจิ๋วก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาละเลงแยมลงหน้าขนมปัง ลิ้นเรียวเล็กตวัดเลียคราบแยมที่ติดอยู่ตามมุมปากอย่างพอใจ...รสชาติยังอร่อยไม่เปลี่ยนเลยแฮะ
ติ๊ด!!! เสียงสัญญาณโทรศัพท์เครื่องบางดังขึ้น ดึงความสนใจจากขนมปังในมือชั่วครู่ ซวยแล้ว! ย้ายห้องเรียนอะไรกันเปิดเรียนมาเกือบครึ่งค่อนเทอมจะมาย้ายอะไรตอนนี้ ตากลมเบิกโตอีกคราเมื่อชื่อสถานที่ไม่คุ้นเคยปรากฏ ขาดเรียนเลยดีมั้ยหื้ม...ตื่นสายไม่พอยังไม่รู้จักเส้นทางไปห้องเรียนใหม่อีก
“เราอยู่หอ”
“...............”
“อ่อ เดี๋ยวรีบไปรอเราอยู่หน้าห้องก่อนนะ” มือบางวางโทรศัพท์ในมือลงพลางเคี้ยวเมนูอาหารเช้าในปากต่อ...อร่อยเหาะ
เสื้อฮู้ดแขนยาวลายกระต่ายสีชมพูอ่อนมันดูรับกับใบหน้าเล็กที่กำลังมุ่ยในตอนนี้เสียจริง ถุงเท้าถูกระเบียบถูกดึงออกมาจากลิ้นชักชั้นล่างของตู้ มือบางคว้ารองเท้าเพื่อความเสร็จสมบูรณ์ ก่อนจะกลับไปยืนจ้องตัวเองหน้ากระจกอีกครั้ง...เฮ้ออ้วน
ตึก...ตัก...ตึก...ตักเสียงฝีเท้าเร่งรีบตามทางเดิน เวลาไม่เคยคอยท้าใครอย่างที่คนเขาพูดก็คราวนี้แหละ เจ้าแมวเหมียวหลบไปนะ...งื้อเราจะเอารถไปเรียน ปากบางเอ่ยบ่นกับสัตว์เลี้ยงน่ารักของคุณแม่บ้านประจำหอพัก พลางใช้นิ้วเขี่ยเล่นบนลำตัวนุ่ม
“วันนี้ฉันจะตั้งใจเรียน” แฮนมอไซต์คันเก่งถูกบิดเพื่อเคลื่อนตัวสู่เส้นทางข้างหน้า
“ซวยอีกแล้ว” สัญญาณไฟจราจรบอกข้อควรปฏิบัติกับผู้ใช้รถ ร่างบางรู้ดีไม่ควรแหกกฎเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ เครื่องมือสื่อสารสั่นครือๆในกระเป๋ากางเกง
“ติดไฟแดงอยู่...โอเคเราจะรีบไป” เสียงถอนหายใจดังขึ้นติดๆกัน ระบายความเบื่อหน่าย ไม่นานนักสีไฟตรงหน้าก็เปลี่ยนดังใจหวัง ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างพอใจพลางบิดเร่งความเร็วของเครื่องยนต์
“อ๊ะ!” ดวงตากลมหรี่มองสัตว์บ้าที่กำลังท้าทายอำนาจมืออยู่ มันใช่เวลาวิ่งเล่นของเจ้าสุนัขตัวนั้นหรอ
“รีบๆไปสิ นี้เราจอดให้นายข้ามถนนแล้วนะ”
สองข้างทางถูกเติมเต็มไปด้วยทุ่งหญ้า กลิ่นอายดอกไม้ในป่าผสมผสานกับแสงแดดในยามสาย ใบไม้เล็กใหญ่พปลิวล่องลอยในสายลมเมื่อมันพัดผ่าน เขาเลือกไม่ผิดเลย...กับการเข้ามาเรียนที่นี้ พืชผักผลไม้ผลงานของนักศึกษาภาควิชาการเกษตรเรียกความสนใจจากผู้คนสัญจรไปมากได้ตามช่วงเทศกาลของมัน บางครั้ง...มีหลายคนแอบคิดว่าถ้าหากใครที่มามหาลัยวิทยาแห่งนี้แล้วไม่เคยทานข้าวโพดคณะเกษตรก็เปรียบได้ว่ามาไม่ถึง...เสียอย่างนั้น
“ไม่ได้การแล้ว” หยาดน้ำฝนกระทบร่างบางผ่านเนื้อผ้า ไอความเย็นสร้างความกังวลไม่เทียบเท่าเวลาที่กำลังกระชั้นชิดเข้ามาเรื่อย...เรื่อย
ปลายเสื้อฮู้ดถูกถลกขึ้นข้อมือบางกำลังฉายเส้นตายของตัวเองอีก7นาทีเท่านั้น อยากตะโกนบอกกรมทางหลวงของทางมหาลัย ยิ่งกว่าบ้า!ถนนเส้นตรงหน้าถูกปิดซ่อมแซมท่อระบายน้ำ ร่างบางกำเบรครถมอไซต์ก่อนจะสถบคำพูดกวนๆออกมา
“งบเยอะหรือไง” ล้อกลมหักเลี้ยวตามความต้องการของเจ้าของรถ คงต้องอ้อมแล้วล่ะสิงานนี้...มันน่าน้อยใจที่เขาขับผ่านสวนข้าวโพดถึง2คราในเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่กลับไม่สามารถแวะจอดเชยชมรสชาติของมันได้ เอาไว้วันหลังก็ได้เนอะTT
“ถูกทางแล้ว” ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยเมื่อป้ายบอกทางข้างหน้าชี้ลูกศรไปตามเส้นทางในความคิดของตัวเอง...อีก200เมตรถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์
นักศึกษาปี1กับภาคเรียกแรกที่ล่วงเลยมาจวบจนจะปลายเทอม กับสถานที่ที่เท้าบางเพิ่งเคยย่างก้าวเข้ามาครั้งแรกในชีวิต มอไซต์คันเล็กสติ๊กเกอร์รูปฟักทองน่ารักถูกจอดข้างตึกเรียน มือบางเอื้อมปิดกุญแจรถพลางเช็คระบบรักษาความปลอดภัยให้ลูกรัก
“อย่าดื้อนะเดี๋ยวกลับมา”
“ห้อง137ใช่มั้ย?...ขอบคุณนะ” ขาบางออกแรงเร่งตัวเองเพื่อสถานที่นัดหมายกับเพื่อนสนิทในชั้น นักศึกษาคณะนี้หน้าตาสมคำล่ำลือจริง...จริง ใบหน้าหวานอมยิ้มพลางหัวเราะน้อยๆให้กับความคิดไม่เข้าท่าของตัวเอง
วินาทีที่1...“อ๊ะ!!!/เห้ย!!!” มือหนาคว้าหมับเข้าต้นแขนของเด็กต่างคณะที่ดูเหมือนจะมีคาบเรียนที่นี้ สายตาคมก้มลงมองคนที่กำลังพยุงตัวเองขึ้นตามแรงดึงของเขา พลางเอ่ยขอโทษเบา...เบา
วินาที13...หัวใจสองดวงถูกตรึงกับห้วงความรู้สึกปวนแปร คนตัวเล็กก้มหัวเพื่อบอกว่าตัวเองไม่เป็นไรนะ...หากแต่อีกคนกลับเอาแต่ยืนยิ้มอยู่แบบนั้น
วินาที20...“เอ๋”
“โทษทีๆ” คนตัวโตยกมือเกาะท้ายทอยตัวเองพลางเอ่ยคำพูดห้วนตามสไตล์ รอยยิ้มนั้น...มันทำให้เขาไม่อยากเดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้
วินาที32...ไหล่บางกับไหล่หนาผัสพันธ์กันอย่างไม่ตั้งใจ คนตัวเล็กหดตัวลงพลางนึกอยากขอโทษ หากแต่ขาเรียวกลับสั่งการให้เดินหน้าต่อไป
วินาทีที่35...“เดี๋ยวๆ” มือหนากอบกุมเข้าข้อมือบางของเด็กต่างคณะ คนตัวเล็กนึกกลัวอยู่ในใจ...เข้าใจดีว่าคณะนี้รุ่นพี่แสนโหดแต่ไม่คิดว่าสักวันจะเจอเข้ากับตัวเอง ร่างบางหันกลับเพื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เลวร้ายในความคิดของตัวเองอย่างช้า...ช้า
วินาทีที่45...ข้อมือบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ คนตัวโตสะกิดเข้าข้างลำตัวของคนที่กำลังก้มหน้าสู้ดิน
วินาทีที่50...คนตัวเล็กรับของในมือจากคนตรงหน้ามา ก่อนจะจรดปลายนิ้วสัมผัสแป้มพิมพ์นั่น โปรแกรมแชทออนไลน์ยอดฮิตเรียกรอยยิ้มที่ไม่อาจปิดกลั้นความรู้สึกล่องลอยได้ มือบางส่งคืนให้กับเจ้าตัวพลางพยักหน้าเข้าใจ
วินาทีที่59...“จีบนะ”
วินาทีที่60...“ครับผม”
ห้อง137 ร่างบางยกมือทักทายเพื่อนสนิทที่รับปากว่าจะรอเขาอยู่หน้าห้องเรียน จารย์...ยังไม่เข้าคำพูดไร้เสียงนั้นทำเอาความดีใจมันโลดแล่นเต็มใบหน้าหวาน นิ้วเรียวชี้เลือกที่นั่งพลางวางกระเป๋าเป้ลง
ติ๊ด!
“พี่ชื่อคยูฮยอนนะครับ” รอยยิ้มถูกประดับขึ้นอีกครั้งเพียงเวลาอันสั้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างเขินอายคนอะไรแค่ชื่อก็ดูดี...ยิ่งนึกนึกใบหน้าคมนั้นอีก จมูกโด่งเป็นสันรับกับดวงตากลมเหมือนหมาป่าในนิยาย ไหนจะผิวขาวราวกับสะท้อนแสงอยู่ตลอดนั่นอีก...เขาเจอแล้วผู้ชายในฝัน มือบางกำลังจรดตัวอักษรอย่างใจเย็น...หากแต่
“อีซองมิน!จะเล่นโทรศัพท์อีกนานมั้ยห๊า!” งื้อจารย์เข้ามาตอนไหน เขาไม่เห็นรู้เรื่องเลยยยยยยยยยยยยย
...One minute...
ซองมินเลือกนั่งอยู่กับที่เมื่อเสียงพิพากษาของอาจารย์ประจำวิชาบอกเลิกเรียนได้ มือเรียวจับหนังสือเข้ากระเป๋าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ใบหน้าหวานแสดงสีหน้าความเสียใจออกมาแทบทันที
“ไหนบอกจะจีบ” เด็กคณะนี้นอกจากจะหล่อแล้วคงเจ้าชู้กันหมด ทักไลน์มาบอกแค่ชื่อ...แล้วก็เงียบหาย
ร่างบางยืนเพียงลำพังหน้าตึกเรียน เมื่อเพื่อนตัวดีเกิดนึกผีเข้าอยากปรึกษาอาจารย์ประจำวิชาขึ้นมา เสียงโห่แซวจากทางด้านหลังทำเอาใบหน้าหวานยู้เข้าหากัน...คนในคณะนี้มันจะอะไรหนักหนากันเชียว
“คนใจร้าย” คนตัวโตยืนประชิดแผ่นหลังของคนตัวเล็ก เสียงกระซิบนั้น...ซองมินก้มหน้าลงซ่อนความเขินอาย เมื่อป้ายผ้าดิบถูกประดับด้วยตัวอักษรโงนเงนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
“รู้ชื่อผมแล้ว...ไม่ทราบว่าผมใจร้ายตรงไหนครับ” คนตัวเล็กหันหลังกลับ ส่งสายตาชวนฝันให้รุ่นพี่ต่างคณะที่กำลังเกาะท้ายทอยแก้เก้ออยู่ตรงหน้า
“ไปทานข้าวกันเถอะ พี่นั่งรอเราตั้งสามชั่วโมงแหนะ” มือหนาฉวยข้อมือบางเป็นครั้งที่สองของรอบวัน ก่อนจะออกแรงดึงให้คนน่ารักพ้นจากเป้าสายตาเพื่อนร่วมรุ่น...โจวคยูฮยอนผู้ชายห่ามๆที่กำลังตกหลุ่มรักรุ่นน้องหน้าหวานต่างคณะ ถึงขั้นอ้อนวอนเพื่อนในกลุ่มให้ช่วยเป็นกำลังทัพสำคัญกับศึกครานี้
“โจวคยูฮยอนขอจีบอีซองมินอย่างเป็นทางการได้มั้ยครับ” เสียงโห่แซวดังไล่หลังเมื่อว่าที่คู่รักใหม่ข้ามคณะพยายามเดินแทรกแผ่นดินหนี
“พี่รู้จักชื่อผมได้ยังไงครับ” คนตัวเล็กเอ่ยถามคนตัวโตพลางจ้องตาไม่พริบ ซองมินหัวเราะร่าเมื่ออีกคนชูเอกสารจากสำนักทะเบียนขึ้น
“ไม่ต้องมาหัวเราะพี่เลย เพราะเรารู้มั้ยพี่ถึงต้องเสียเหล้า3ลัง” คยูฮยอนดีดเบาๆปลายจมูกรั้นก่อนจะก้มหน้ากลับไปจัดการอาหารตรงหน้าต่อ
“แค่3ชั่วโมงเอง พี่ไปเอาของพวกนี้มาได้ยังไง” มือบางพลิกแผ่นกระดาษไปมา
“ใครว่าแค่...มันตั้ง3ชั่วโมงเลยต่างหาก” คยูฮยอนเอื้อมมือหนาสองข้างดึงพวงแก้มตุ้ยนุ้ยอย่างหมั่นเขี้ยว เด็กบ้า...กล้าดียังไงมากระชากหัวใจของเขาได้เพียงแค่ได้สบตา
มือหนารับหมวกกันน๊อคพลางยกยิ้มให้คนตัวเล็กที่กำลังเร่งเครื่องมอไซต์คันเล็ก อยากรู้จริง...ว่าทำไมมอไซต์ถึงได้บังอาจเหมือนเจ้าของมันถึงเพียงนี้ น่ารักซะไม่มี
“ขับรถดีๆนะครับ” คยูฮยอนโบกมือขึ้นเหนือหัวก่อนจะก้าวเท้าข้ามถนนเข้าตึกเรียน
“ไอ้เชี้ย!” ร่างสูงตบหัวเพื่อนสนิทกล้าดียังไงไปแกล้งคนน่ารักของเขาแบบนั้น ถ้าเกิดน้องเขาเขินจนหัวใจวายขึ้นมากูจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง
“สามลังครับมึง” ความเจ็บไม่อาจเป็นอุปสรรคต่อความอยากของเด็กวิดวะ มือหนายัดแบงค์จำนวนหนึ่งใส่มือเพื่อนก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณพวกมัน...จากใจ
เสียงนาฬิกาปลุกจากเครื่องมือสื่อสารความสามารถหลากหลายชนิดดังขึ้น ซองมินดีดตัวพลางขยี้เปลือกตาไปมา วันนี้7โมงไม่สายแฮะ ใบหน้าหวานเคลิ้มตามเสียงเพลงปนสายน้ำพลางถูกฟองสบู่ในมือ ร่างบางฮ่ำเพลงก่อนจะละเลงแยมส้มลงหน้าขนมปัง
“พี่คยูคนกินเยอะ” แซนวิช5คู่ถูกจัดวางลงกล่องรูปกระต่ายที่กำลังนอนหลับพริ้มบนดวงจันทร์ทราในยามค่ำคืน ซองมินถือมันขึ้นก่อนจะปิดประตูห้อง ไม่นานนักขาเรียวบางก็หยุดอยู่สถานที่เดิมในรอบ7วัน
“แฟนมึงมาโน้นแล้ว” คยูฮยอนหันตามใบหน้าเพื่อนที่บุ้ยปากไปทางด้านหลังของตัวเอง ใบหน้าคมยกยิ้มพลางดึงแขนเรียวให้นั่งลง
“จับมือกันแล้วโว้ย”
“เอ่อ...ครับ” พวงแก้มน่ารักถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงตามความรู้สึก คราวก่อนพวกพี่เขาพากันยกโขยงไปกินข้าวที่คณะเขาก็เขินแทบแย่แล้ว นี้ต้องโดนแซวให้แดงไปทั้งตัวเลยรึไงเล่า
“วันนี้ไม่สายแล้วนะ” คนตัวโตยัดขนมปังปิ้งเข้าปากพลางไล่อ่านชีทงานตรงหน้า ซองมินมองอีกคนยิ้มๆก่อนจะเอื้อมมือเช็ดคราบแยมมุมปากให้ ใบหน้าหวานก้มลงอย่างห้ามไม่ได้เมื่อคนห่ามๆอย่างพี่คยูฮยอนเขินจนหูแดงแบบนั้น
“ผมไปเรียนแล้วนะครับ”
อิโมติคอนน่ารักถูกส่งโต้ตอบกันผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยม อีซองมินนอนเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียง คารมผู้ชายคณะวิดวะมันดีอย่างที่คนเขาว่าจริงๆ
“ขอบคุณนะครับ”
“ขอบคุณพี่เรื่องอะไรครับ?(อีโมติคอนหมีหน้างง)”
“ขอบคุณที่จีบกัน(อีโมติคอนหมีเขิน)”
“(อีโมติคอนหมีกอดกัน)”
“ขี้แตะอั๋ง แบร่!”
“ฮ่าๆ ให้โอกาสพี่ได้ดูแลแม่ของลูกพี่เถอะนะครับ”
“ไอ้พี่คยูบร้า(อีโมติคอนหมีพ้นไฟ)”
"fin"
Talk...
เนื่องจากสถานการณ์ทางจิตใจ
เปิดSFหน้าใหม่เลยเป็นไง คึคึ
คำว่า"รัก"จะกี่วินาทีมันก็ย่อมคือ"รัก"
ขอดูกระแสตอบรับกันสักหน่อย
ถ้ากระแสเป็นที่น่าพอใจจะมาอัพ
Partของคยูให้ค่ะ ^_^
ปล.เหตุผลแค่นี้ไม่สามารถทำให้เราปล่อยมือจากคยูมินได้หรอก
ปล.สุดท้ายได้ฉายาใหม่มา555+ "สาวน้อยไรเตอร์คยูมิน" น่าร้ากเนอะ
ความคิดเห็น