SEVEN STARS มหาสงครามเจ็ดดารา
เมื่อความชั่วร้ายในอดีต กลับมามีอำนาจเข้มแข็งอีกครั้ง เหล่าผู้สืบทอดแห่งเจ็ดดาราจึงต้องเข้าขัดขวางทุกวิถีทาง การต่อสู้เพื่อความรัก ความยุติธรรม และความสงบสุขของพื้นพิภพ จึงเริ่มต้นขึ้น...
ผู้เข้าชมรวม
451
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
เป็นเวลานานมาแล้ว ที่สงครามระหว่างแสงสว่างและความมืดได้อุบัติขึ้น แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วพันธมิตรแห่งแสงสว่างมักจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่ก็หาได้ทำให้สงครามหมดสิ้นไปไม่ ต่างสถานที่ ต่างช่วงเวลา ดำเนินติดต่อกันเรื่อยมา และเช่นเดียวกับครั้งนี้ เมื่อโลกแห่งนี้ถูกเลือกให้เป็นสมรภูมิแห่งมหาสงครามครั้งใหม่ ที่จะต้องถูกจารึกไว้ชั่วกาลนาน
เมดาเรีย โลกอันแสนสงบสุขที่สิ่งมีชีวิตมากมายหลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกัน แม้ในบางครั้งอาจมีการขัดแย้งกัน ตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต แต่ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อจักรพรรดิไอเซ็นที่ 3 ผู้ครองอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมดาเรีย นาม แชงกรีล่า เกิดความทะเยอทะยาน อยากจะรวมทุกอาณาจักรไว้ภายใต้การครอบครองของตนเอง
ถึงแม้ว่าแชงกรีล่าจะเป็นอาณาจักรที่กว้างใหญ่ และอุดมสมบูรณ์ดุจสรวงสวรรค์สมดังชื่อ และยังมีกองทัพที่มีแสนยานุภาพเข้มแข็ง ก็ยังมิอาจทำให้ไอเซ็นที่ 3 พึงพอใจได้ แต่การจะเข้าครอบครองอาณาจักรทั้งหมดย่อมมิใช่เรื่องง่าย ไอเซ็นที่ 3 จึงคิดยืมพลังจากเหล่าพันธมิตรแห่งความมืดมาเป็นกำลัง ด้วยการทำพิธีกรรมต้องห้าม ทำสัญญากับเหล่าพันธมิตรแห่งความมืด แต่สิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งความมืดนั้น มีค่ามหาศาลเกินกว่าที่ไอเซ็นที่ 3 คาดเอาไว้
ทันทีที่บรรลุพันธะสัญญา ไอเซ็นที่ 3 ก็ถูกพลังแห่งความมืดเข้าครอบงำ ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง พละกำลัง ความแข็งแกร่ง และอำนาจเวทย์มนตร์ เพิ่มพูนจนอยู่ในระดับเทียบเท่ากับราชาแห่งโลกปีศาจ กระทั่งอาณาจักรแชงกรีล่าก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ต้นไม้ที่เคยเขียวขจีถูกแทนที่ด้วยพืชพันธุ์ประหลาดดูน่ากลัว ผืนดินอันชุ่มชื้นกลายเป็นแตกระแหง แหล่งน้ำทั้งหลายพากันแห้งเหือด รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแชงกรีล่าล้วนเปลี่ยนแปลงไปจนหมดสิ้น
เพียงชั่วข้ามคืน อาณาจักรแชงกรีล่าที่เคยเป็นดั่งสรวงสวรรค์ของเมดาเรียก็กลับกลายเป็นผืนดินแห่งความตายไป
แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยร่างกายของตนเองและทั้งอาณาจักร แต่ไอเซ็นที่ 3 ก็ได้รับสิ่งที่ต้องการสมใจ กองทัพอันยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง ที่มีพลังแห่งความมืดหนุนหลังอยู่ กองทัพที่ครั้งหนึ่งเคยสง่างาม น่าเกรงขาม แต่บัดนี้กลับเปลี่ยนแปลงไปจนดูเหมือนเป็นกองทัพปีศาจจากความมืด
และเมื่อพลังเวทย์มนตร์กล้าแข็งขึ้น ไอเซ็นที่ 3 จึงสามารถใช้มหาเวทย์ต้องห้ามเรียกเหล่าอสูรจากโลกปีศาจมาเป็นกำลังรบ ยังมีสัตว์ร้ายต่างๆที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากพลังแห่งความมืด ยิ่งทำให้กองทัพของไอเซ็นที่ 3 ในขณะนั้นกลายเป็นกองทัพอสูรปีศาจโดยสมบูรณ์
นอกจากกองทัพปีศาจอันแข็งแกร่งแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ได้รับพลังจากความมืด และฟื้นคืนชีพจากความตาย มันคือจ้าวมังกรทมิฬ ด๊าร์คดราก้อน ซึ่งในอดีตเคยอาละวาดไปทั่วพิภพเมดาเรียมาแล้ว แต่ก็ถูกสังหารโดย ดรากูน ผู้กล้าในตำนานที่ยอมสละชีวิตตนเอง เหลือไว้เพียงดาบศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่อาณาจักร ดราโกเนีย อาณาจักรที่สถาปนาขึ้นโดยลูกหลานของผู้กล้าดรากูน และด้วยพลังอันกล้าแข็งของไอเซ็นที่ 3 รวมถึงเป้าหมายที่เหมือนกัน คือการครอบครองเมดาเรีย ทำให้การชักจูงด๊าร์คดราก้อนมาเป็นกำลังรบจึงมิใช่เรื่องยาก
เมื่อพร้อมทำสงครามแล้ว ไอเซ็นที่ 3 จึงกรีทาทัพทั้งหมดจากแชงกรีล่า เข้าโจมตีเมดาเรีย โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่มหาอาณาจักรทั้งเจ็ดซึ่งถือเป็นเสาหลักของเมดาเรีย อันได้แก่ รันเดีย, ดราโกเนีย, ยูเรเซีย, เอลฟาเรีย, เอโดเรีย, โอเชียน่า และ โซซาเรีย พร้อมๆกัน
มหาอาณาจักรทั้งเจ็ดทำได้เพียงต้านทานกองทัพของไอเซ็นที่ 3 ไว้ แต่มิอาจโต้กลับเนื่องจากถูกโจมตีโดยมิทันตั้งตัว ได้แต่สะสมกำลังรบไว้เพื่อรอเวลาอันเหมาะสมเท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนว่าโอกาสที่จะมาถึงนั้นมันช่างเรือนรางเหลือเกิน
ในขณะที่ประกายแสงแห่งความหวังกำลังจะดับลง และไอเซ็นที่ 3 จวนเจียนจะได้รับชัยชนะ ปาฏิหาริย์จากพันธมิตรแห่งแสงสว่างก็เกิดขึ้น เมื่อบังเกิดแสงสาดส่องลงมาจากท้องฟ้าทั่วทั้งเมดาเรีย ขับไล่พลังแห่งความมืดที่ปกคลุมอยู่จนหมดไป แล้วฝูงมังกรสีขาวจำนวนมหาศาลก็บินลงมาจากท้องฟ้าตามลำแสงนั้น จ้าวมังกรศักดิ์สิทธิ์ แกรนด์ดราก้อน ตอบรับความหวังของมวลมนุษย์ จึงนำพาเหล่ามังกรขาวเข้าโจมตีกองทัพปีศาจของไอเซ็นที่ 3 ที่กำลังปิดล้อมมหาอาณาจักรต่างๆจนแตกพ่าย กระทั่งด๊าร์คดราก้อนก็ยังต้องเพลี่ยงพล้ำจากการต่อสู้กับแกรนด์ดราก้อน ทำให้ฝ่ายมหาอาณาจักรทั้งเจ็ดมีโอกาสในการตีโต้กลับ และในที่สุดก็ขับไล่กองทัพของไอเซ็นที่ 3 ให้ล่าถอยกลับไปยังแชงกรีล่าได้
และการต่อสู้เพื่อตัดสินชะตาของมหาสงครามครั้งนี้ก็มาถึง เพื่อเป็นการทำลายกำลังรบหลักของกองทัพปีศาจ กษัตริย์แห่งดราโกเนียผู้สืบเชื้อสายของผู้กล้าดรากูน จึงร่วมมือกับ
แกรนด์ดราก้อนโดยใช้เทพอาวุธ ดาบฆ่ามังกร ดราก้อนสเลเย่อร์ (DRAGON SLAYER)
เข้าต่อสู้ขั้นแตกหักกับด๊าร์คดราก้อน จนในที่สุดก็สยบด๊าร์คดราก้อนลงได้ แต่ต้องแลกมาด้วยการพลีชีพของแกรนด์ดราก้อน และกษัตริย์แห่งดราโกเนียที่รอดมาได้พร้อมข้อกังขาว่าเหตุใด
ด๊าร์คดราก้อนจึงมิได้ถูกทำลายลง แต่กลับถูกผนึกไว้ในถ้ำภูเขาหินของอาณาจักรดราโกเนียด้วยดาบดราก้อนสเลเย่อร์ที่ปักลงบนหน้าผาก
ทางด้านกองทัพปีศาจของไอเซ็นที่ 3 ก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่กองทัพของเจ็ดมหาอาณาจักรด้วยการนำทัพของกษัตริย์นักรบแห่งรันเดีย นอกจากจะได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพมังกรขาวแล้ว ยังมีพลังเวทย์โจมตีอีกหลากหลายรูปแบบ จากฝีมือของจอมปราชญ์หนุ่มผู้หนึ่งจากอาณาจักรโซซาเรียอีกด้วย
เมื่อเวลาแห่งการตัดสินมาถึง ด้วยอำนาจของพันธมิตรแห่งแสงสว่างบันดาลให้อุกาบาตขนาดใหญ่เจ็ดลูก ตกใส่อาณาจักรแชงกรีล่าพร้อมกัน เหล่าอุกาบาตได้ทำลายล้างเหล่าปีศาจและอาณาจักรแชงกรีล่าจนหมดสิ้น รวมถึงกษัตริย์ไอเซ็นที่ 3 ซึ่งถูกทำลายไปพร้อมกัน และยังก่อให้เกิดเขตอาคมปิดกั้นอาณาจักรแชงกรีล่าเอาไว้ นับจากวันนั้นมา ที่แห่งนั้นก็ถูกขนานนามว่า แผ่นดินแห่งความตาย และอุกาบาตทั้งเจ็ดก็สลายไป หลงเหลืออยู่เพียงแผ่นหินจารึกคำทำนาย ว่าอีก 100 ปีให้หลังเมื่อพันธมิตรแห่งความมืดแข็งแกร่งขึ้น เขตอาคมของแผ่นดินแห่งความตายจะเสื่อมอำนาจ และถูกเปิดผนึกขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีอัญมณีอีกเจ็ดเม็ดหลงเหลืออยู่ เหล่าผู้นำของอาณาจักรทั้งเจ็ดจึงเห็นพ้องกันว่าจะเก็บรักษาเอาไว้ เพื่อใช้ต่อต้านพลังแห่งความมืด ที่อาจกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกในภายหลัง คืนวันผันผ่านไป วันแล้ววันเล่า จากคำทำนายที่ใครๆก็พากันหวาดหวั่น จนกลายเป็นตำนานไปในที่สุด และแล้ว เวลาก็ผ่านไป 100 ปี .......
.............................................................................
ผลงานอื่นๆ ของ Brave_Valhalla ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Brave_Valhalla
ความคิดเห็น