ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Is it too late,If I say love you? (YURI)

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 3

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 51


    ตอนที่ 3

    เย็นวันนั้นร่างสูงรู้สึกโมโหตัวเอง เธอไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเธอต้องเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้หญิงคนนั้นถึง 2 ครั้งด้วย แล้วทั้งสองครั้งนั้นก็ทำให้เธอเจ็บตัวทั้งนั้น  เด็กสาวร่างสูงขึ้นรถเมล์ไปที่โรงพยาบาลใกล้ๆโรงเรียนเพื่อเย็บแผลที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ  ปกติหากแผลยังใหม่อยู่แล้วมาเย็บจะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเพราะจะชาๆ แต่นี่หัวแตกแล้วรอจนถึงเย็นค่อยมาเย็บสร้างความเจ็บปวดให้เด็กสาวร่างสูงอย่างหาไม่ได้

    เจ็บ!!” เธอแผดร้องออกมาขณะที่หมอกำลังเย็บแผล

    อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้วครับ ทนหน่อยนะ หมอหนุ่มกล่าวก่อนจะลงมือเย็บแผลของเธอต่อ

    กว่าเธอจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆ และแม่ของเธอก็ยังไม่กลับบ้านอีกตามเคย

    ว้าย!!คุณหนูของป้า เป็นอะไรค่ะ หัวแตกเหรอค่ะ?ป้าแดง รีบวิ่งเข้ามาหาซีนเมื่อเห็นซีนเดินมาเข้ามาในบ้านและที่หัวมีผ้าก๊อตสีขาวพันอยู่รอบ

    อือ ไม่เป็นอะไรหรอก ซีนจะขึ้นห้องแล้ว ซีนกล่าว แล้วเดินขึ้นห้องไป

    ด้วยความอ่อนเพลีย

    ยิ่งเจ็บแผลเท่าไหร่ ก็ยิ่งแค้นตัวเอง แค้นผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกประหลาดๆนี่ขึ้น ..ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยแม้แต่สักครั้งที่จะเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ไม่เคยสักครั้งที่เอาตัวเองเข้าไปช่วยคนอื่นจนต้องได้บาดแผลมาอย่างครั้งนี้ ทำไมกัน?

    แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาจากทางหน้าต่างของห้องนอน ทำให้เด็กสาวร่างสูงโปร่งที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราสะดุ้งตื่นทันที

    ด้วยความเจ็บที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณศรีษะของเธอ ทำให้เธออดที่จะร้องออกมาไม่ได้

    โอย!!” ไ ม่รู้ปากแผลจะปริหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นเด็กสาวร่างสูงโปร่งคนนี้ก็จะต้องเจ็บตัวซ้ำสองเป็นแน่ หากแผลติดเชื้อ ยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่

    คงไม่เป็นอะไรหรอกนะ เด็กสาวร่างสูงคิด เธอเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำกิจวัตรประจำวันเหมือนทุกๆวัน

    เมื่อเสร็จกิจวัตรประจำวันส่วนตัวของเธอ เด็กสาวร่างสูงก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อรับประทานอาหารเช้า

    หัวไปโดนอะไรมา ไม่ทันที่เธอจะได้นั่งดี ผู้เป็นแม่ก็ถามเธอด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

    หกล้ม เด็กสาวร่างสูงตอบ ก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้า

    หึ! หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วล่ะสิ อ้อ! ฉันลืมซะสนิทเลย เมื่อวันศุกร์แกไปทำอะไรมาอีกล่ะ ? อาจารย์ที่โรงเรียนโทรมาบอกฉันว่าแกไม่ได้อยู่ในคาบเรียน 4 คาบสุดท้าย ผู้เป็นแม่จ้องหน้าบุตรสาวของตนไม่ละสายตา

    ........ ไม่มีคำพูดใดใด รอดออกมาจากปากของเด็กสาว

     ฉันตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่ให้แกย้ายโรงเรียน อยู่โรงเรียนเก่าก็คงคบแต่เพื่อนแย่ๆสินะ ถึงได้พากันทำอะไรสถุลๆแบบนี้

    ซีนได้แต่นั่งเงียบ หากปริปากพูดอะไรออกไปในยามที่แม่กำลังโกรธแบบนี้ เธอรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไร ...น้ำน้อยมันย่อมแพ้ไฟอยู่วันยังค่ำ

    เอาล่ะ แกอยู่เกรด10 ห้อง 4 ในสายชั้นของโรงเรียนใหม่แกมีอยู่ด้วยกัน 10 ห้องเพราะฉะนั้นแกจงสำนึกไว้ซะ ว่ากว่าฉันจะใช้เงินฝาดหัวอาจารย์ใหญ่โรงเรียนแกให้แกได้อยู่ห้อง 4 น่ะมันยากแค่ไหน เงินมันหายาก ตั้งใจเรียนแล้วหัดทำให้ฉันชื่นใจบ้าง ไม่ใช่วันๆก็มีแต่เรื่องๆให้ฉันปวดหัวจนจะเป็นบ้าตายอยู่อย่างทุกวันนี้ ผู้เป็นแม่พูดรัวและเร็ว

    ซีนจะไปแล้ว สวัสดี เด็กสาวร่างสูงโปร่งเบื่อกับการที่เธอจะต้องมานั่งฟังแม่บ่นก่อนไปโรงเรียนอย่างนี้ ในเมื่อเถียงไม่ได้ ก็ลุกหนีเสียเลย

    ซีนลุกขึ้นยืนกล่าวคำบอกลาแม่ และไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ตามทำเนียมของลูกที่ปฏิบัติมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล

    ชิชนนท์ คนขับรถที่วันนี้มีหน้าที่ไปส่งเธอที่โรงเรียนทักเธออย่างอารมณ์ดี

    คุณหนู จะไปโรงเรียนแล้วเหรอครับ

    ใช่ สิ้นคำตอบ ลุงคนขับรถเปิดประตูหลังให้เธอขึ้นนั่ง ก่อนที่ตัวเองจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับแล้วเคลื่อนรถออกจากบ้านอย่างไม่ช้าไม่เร็ว

    ซีนลงจากรถ และเดินเข้าไปในโรงเรียนโดยมีสายตาของนักเรียนหญิงเกือบทุกคนที่เธอเดินผ่านจับจ้องมาที่เธออย่างชื่นชม

    คนอะไร หน้าตาดีขนาดนี้เนี่ย เด็กสาวหลายคนคิดอย่างนี้

    แต่ตรงกันข้าม เด็กชายหลายๆคนมองเธอด้วยสายตาเกลียดชัง

    อย่าหนีสิหยิน มาให้จับซะดี ฮ่าๆ!” เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังวิ่งไล่เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ผิวขาดเนียน ตะโกนขึ้น

    ไม่เอา ! ไม่เล่นนะไอซ์ ฉันไม่เล่นอย่าตามมา! อุ๊บ!” สิ้นเสียงของเด็กผู้หญิงคนที่กำลังวิ่งหนีเพื่อน เธอก็พบว่าเธอชนเข้ากับอะไรสักอย่าง ด้วยแรงปะทะที่เธอวิ่งมาด้วยความรวดเร็วทำให้ร่างของเธอและสิ่งที่เธอชนนั้นล้มไปกองที่พื้นพร้อมกัน

    รู้สึกตัวอีกทีเธอก็พบว่าร่างของเธอกำลังนอนทับอยู่บนร่างของใครบางคนที่ตอนนี้ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ..เพราะแรงสะเทือนเมื่อครู่ จึงทำให้แผลของเด็กสาวร่างสูงปริ

    เด็กสาวคนที่เป็นต้นเหตุในการชนครั้งนี้ถึงกับผงะไปชั่วครู ด้วยความตะลึง ..

    กับใบหน้าของคนที่เธอกำลังนอนทับอยู่นี่ ..เหมือนว่าหัวใจของเธอกำลังตีรวนคล้ายกับกลองชุด คนๆนี้ คนที่เธอนอนทับอยู่นี่มีใบหน้าเนียนขาว จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าเรียว ดวงตาลึกล้ำน่าค้นหา ผมที่ซอยถึงแค่บ่า คิ้วเข้มๆที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ

    ขะ ขอโทษ เสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยินดังออกมาจากปากเธอ

    เล่นอะไรกัน? ปัญญาอ่อนหรือไง? ร่างสูงที่ถูกนอนทับผลักตัวของเด็กสาวที่นอนทับเธออยู่ออก และแทนที่จะตอบกลับมาด้วยคำว่า ไม่เป็นไร เด็กสาวร่างสูงที่ถูกชนกลับตอบกลับไปอย่างดูแคลน

    อะไรกันครับ นี่เพื่อนผมเค้าไม่ได้ทำให้คุณล้มหัวแตกซะหน่อยนะ เด็กผู้ชายคนที่เป็นฝ่ายไล่ตามเด็กหญิงร้องขึ้น

    แล้วยังไง? นี่มันโรงเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่พวกเธอจะมาวิ่งซุ่มสี่ซุ่มห้าอย่างนี้ ร่างสูงกล่าวเสียงราบ ตอนนี้ร่างสูงไม่ได้หันหน้าไปมองเด็กผู้ชายคนนั้นเลย

    ดวงตาของร่างสูงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเด็กผู้หญิงคนที่ชนเธอเมื่อครู่ต่างหาก เพิ่งสังเกตว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ น่ารักทีเดียว ทั้งหน้าตา กริยาท่าทาง แต่ด้วยเวลาหน้าบึ้งเพราะคงจะโกรธที่โดนร่างสูงตำหนิไปอย่างนั้น

    ร่างสูงพินิจอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ ส่วนเด็กผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้โต้เถียงอะไรกลับเช่นกัน

    ฉันขอโทษค่ะ ! ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษแล้วก็น่าจะให้อภัยกันได้ไม่ใช่เหรอค่ะ? เด็กสาวตัวเล็กกล่าวขึ้นเสียงแข็ง

    แล้วนี่ เห็นไหม? อะไร? เธอทำให้ฉันเลือดออก ร่างสูงบิดข้อมือของเด็กสาวที่ตัวเล็กกว่าเธอ(มาก) อีกมือหนึ่งชี้มาที่ศีรษะของตนที่ตอนนี้เลือดไหลซิบๆ

    โอ๊ย ปล่อยนะ ฉันเจ็บ เด็กสาวคนตัวเล็กกว่า ร้อง

    ฉันก็ไม่ได้อยากจับนักหรอก แค่จะทำให้เธอเห็นว่าเจ็บน่ะมันรู้สึกยังไง ร่างสูงกล่าวอย่างนั้น แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยข้อมือของเด็กสาวที่ตัวเล็กกว่าตน

    คุณ! ปล่อยมือจากเพื่อนผมเดี๋ยวนี้เถอะ ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว เด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆเด็กผู้หญิงกล่าว

    ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มที่มุมปาก

    แฟนนายหรือไง ถึงได้เป็นห่วงเป็ใยกันขนาดนี้น่ะ?

    ปะ เปล่า แต่ยังไงเธอก็เป็นเพื่อนผม ปล่อยเธอ!” เด็กชายตอบเสียงตะกุกตะกักในตอนแรก

    ร่างสูงพอจะเดาได้รางๆ ว่าเด็กชายคนนี้คงจะชอบเด็กหญิงคนนี้แน่ๆ เห็นแก่เด็กชายร่างสูงจึงคลายข้อมือของเด็กหญิงคนนั้น

    เจ็บตรงไหนหรือเปล่าหยิน? ดูสิข้อมือแดงหมดเลย เด็กชายกล่าวพลางลูบๆที่ข้อมือของเด็กหญิงอย่างเบามือที่สุด

    ไม่ละไอซ์ ไม่เจ็บแต่ตอนนี้อารมณ์เสียมากกว่า!” เด็กหญิงตัวเล็กกล่าว

    คนตัวเล็กพยายามพูดเสียงดังๆเพื่อให้ร่างสูงที่กำลังเดินจากไปได้ยินชัดๆ

    ร่างสูงได้ยินดังนั้นก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความไร้เดียงสาของเด็ก

     

     

    ยังไงก็ดีกว่าเดินหาเอาเองละมั้ง โรงเรียนออกจะใหญ่ขนาดนี้นี่นะ..เด็กสาวร่างสูงที่เป็นฝ่ายถูกถามคิด ก่อนจะเปิดปากพูดออกไป

    ฉันอยู่เกรด 10 คลาส 4 ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน พูดแค่นี้ พวกเด็กหญิงกลุ่มเดียวกับเด็กสองเปียก็รีบวิ่งเข้ามาจูงมือซีนกันยกใหญ่

    เด็กสาวพวกนั้นนำซีนไปที่อาคารสีขาวหลังเมื่อวานที่ซีนเดินมาสำรวจแล้วหัวแตกเพราะช่วยผู้หญิงคนนั้นไว้ 

    เด็กผู้หญิงผมเปียสองข้างเอ่ยขึ้น เมื่อนำซีนมาถึงห้อง

    ถึงแล้วค่ะ พี่ซีน เธอกล่าวแล้วหันไปหัวเราะคิกคักกับเพื่อน

    หนูชื่อตูนค่ะ อยู่เกรด 8 ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เด็กสาวเจ้าของผมเปียกล่าว

    อืม ซีนตอบ แล้วพยักหน้าเบาๆก่อนจะหันไปสนใจห้องเรียนของใหม่ของเธอ

    พี่ซีนรู้แล้วว่าห้องอยู่ไหน งั้นพวกหนูไปก่อนนะค่ะ บ้ายบายค่ะ เด็กหญิงผมเปีย และเพื่อนๆของเธอโบกมือบ้ายบายซีน แล้ววิ่งลงจากอาคารนี้ไป

    เด็กสาวร่างสูงเจ้าของผมซอยประบ่า เดินเข้าไปในห้องเรียนใหม่ของเธอ

    และแล้วเมื่อเธอกล่าวไปหยุดอยู่ที่หน้าประตู สายตาของเด็กผู้หญิงที่อยู่ในห้องหลายๆคนก็จับจ้องมาที่ร่างสูง

    กรี๊ดดด!!! น่าร๊ากกกก ชื่ออะไรค่ะๆ เพื่อนในห้องคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหาซีนก่อนเป็นคนแรก

    จากนั้นก็ตามมาด้วยผู้หญิงคนอื่นๆวิ่งเข้ามารุมล้อม เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่โรงเรียนเดิมก็มีเด็กผู้หญิงทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องหรือรุ่นเดียวกันมาตามจีบเธอเป็นพัลวันอยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าเด็กผู้หญิงโรงเรียนใหม่ซึ่งเป็นโรงเรียนสหศึกษาอย่างนี้จะให้ความสนใจในตัวเธอ

    ชื่ออะไรเหรอค่ะ หนึ่งในผู้หญิงที่มารุมล้อมเธอกล่าวขึ้น

    ซีน ร่างสูงตอบไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    กรี๊ด ชื่อเท่จังเลย

    ความวุ่นวาย ทำให้เด็กสาวร่างสูงเกิดความรำคาญ เธอจึงเลือกที่จะมองหาที่นั่งว่างๆแล้วรีบเดินออกมาจากฝูงคนที่มารุมล้อมเธอ

    ซีนวางกระเป๋าเป้ของตัวเองลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ตัวหนึ่ง แล้วเดินออกจากห้องไป โดยไม่สนใจเสียงเรียกชื่อเธอจากเด็กผู้หญิงพวกนั้น

     

    ธะ เธอ เลือด!” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเดินสวนกลับซีนก่อนจะถึงแถวทักขึ้น เด็กสาวร่างสูงจึงนึกได้แล้วรีบเอามือกุมหัวตัวเองทันที เพราะเมื่อเช้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องแผลที่เพิ่งไปเย็บมา เลยไม่ได้บอกให้ป้าแดงดูแลทำความสะอาดและพันผ้าก๊อตให้  ตอนนี้เลือดมันเลยไหลอีก...ปากแผลคงปริแล้ว

    ซีนไม่รอช้ารีบวิ่งไปห้องพยาบาลของโรงเรียน

    เป็นอะไรมาเนี่ยเธอ ไหนครูดูหน่อยสิ เมื่อครูพยาบาลเห็นเด็กสาวร่างสูงวิ่งเข้ามาในห้องพยาบาลก็รีบเดินไปดูทันที และต้องเอามือปิดปากเมื่อเห็นแผลที่หัวของเด็กสาวร่างสูงปริออก มีเลือดไหลไม่หยุด

    แผลเธอมันปริแล้ว เพิ่งจะเย็บมาใช่ไหมเนี่ยแล้วทำไมถึงไม่ดูแลตัวเองเลยล่ะ เฮ้อ!!” ครูพยาบาลกล่าว ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ของห้องพยาบาล แล้วเดินออกมาพร้อมกับเครื่องมือเย็บแผล

    เด็กสาวร่างสูงได้แต่มองครูพยาบาลอย่างหวาดๆ ถ้าเป็นหมอเธอคงจะไม่กลัว แต่นี่เป็นครู!!??

    ไม่ต้องห่วง ครูน่ะเรียนจบพยาบาลสี่ปีมานะจ้ะ ครูเย็บเป็นน่ะเรื่องแค่นี้สบายมาก อ๊ะ!! นั่งเฉยๆล่ะ ครูพยาบาลรีบบอกเมื่อเห็นสีหน้าหวาดของซีน

    ได้ยินดังนั้นเด็กสาวร่างสูงจึงค่อยโล่งใจและนั่งตัวเกร็งเพื่อรับความเจ็บปวดจากการเย็บแผลสดอีกครั้ง

    เจ็บกว่าเมื่อวานหลายเท่านัก!!!

    โอ้ย!!” ซีนร้องออกมาเสียงดัง

    อีกนิดเดียวนะ ครูพยาบาลบอกพร้อมกับลงมือเย็บต่อไป

    ซีนรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงด้าย ดังฟืดผ่านไปผ่านมาอยู่ที่หน้าผากของเธอ ซีนกัดฟันกรอดๆเพื่อระงับความเจ็บ ไม่นานนักภาระกิจการเย็บแผลก็เสร็จสิ้น ครูพยาบาลให้ยาแก้ปวดและยาแก้อัพเสพ  ยังกำชับกับซีนอีกว่าให้ซีนกินยาทุกวันจนกว่ายาหมดจะได้ไม่ปวดแผลและแผลจะได้ไม่เกิดการติดเชื้อ

    เธอต้องบอกให้ที่บ้านเค้าทำแผลให้เธอทุกๆวันนะ หรือถ้าลำบาก็มาที่นี่ทุกเช้าก็ได้ ครูว่างน่ะ ครูพยาบาลบอกแล้วกลับไปในห้องพักผ่อนของตน

    เวลา 08.30 กิจกรรมที่แถวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซีนไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเธอมาเย็บแผลที่ห้องพยาบาล ซีนเดินดุ่มไปทางอาคารสีขาวที่ตัวเองอยู่แล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสองของอาคาร หยุดก้าวขาที่หน้าห้อง เกรด 10 คลาส 4 ซึ่งเป็นห้องเรียนใหม่ของเธอ

    อาจารย์ยังไม่เข้าสอน ที่นี่เริ่มเรียน 09.00 น. ตรง

    กรี๊ด!!!นั่นซีนนี่ ไม่เห็นมาเข้าแถวเลยนึกว่าหนีกลับบ้านไปซะแล้ว แก้ว..เพื่อนหญิงคนที่เมื่อวันอาทิตย์ได้เห็นซีนแล้วกล่าวขึ้นเสียงดัง

    ทำให้เพื่อนๆผู้หญิงที่นั่งอยู่แถวนั้นหันมามองซีนกันเป็นตาเดียว เด็กสาวร่างสูงรู้สึกอึดอัดและหน่ายใจเมื่อมีคนมายุ่งวุ่นวายกับเธอ

    ที่หัวซีนมีผ้าก๊อตพันแผลอยู่ด้วยเธอ!! ซีนเป็นอะไรน่ะ ป่านเด็กสาวอีกคนที่ก็เห็นซีนเมื่อวันอาทิตย์หันไปกล่าวกับ นิ้ง ...แน่นอนนิ้งเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เห็นซีนเมื่อวันอาทิตย์

    หัวแตกไง เมื่อวันอาทิตย์จำไม่ได้เหรอ เค้ารับยัยเกรซไว้นี่ นิ้งหันไปบอกป่านเบาๆ ...แต่นั่นก็ดังพอที่จะทำให้ซีนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกนั้น ได้ยินด้วย

    เกรซ ยัยซุ่มซ่ามคนนั้นชื่อเกรซ งั้นเหรอ? เด็กสาวร่างสูงคิด

    เธอคิดว่าพวกนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ เธอเองไม่ควรที่จะมายืนฟังพวกผู้หญิงชอบเม้าส์พูดอย่างนี้ เด็กสาวร่างสูงจึงเดินมองหาโต๊ะของตัวเองที่ตอนเช้าได้นำกระเป๋ามาวางจองไว้เรียบร้อยแล้ว ซีนมองไปยังโต๊ะตัวที่เธอนำกระเป๋ามาวาง แล้วก็ต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะทันที เนื่องจากโต๊ะตัวข้างๆโต๊ะเธอที่ตอนเช้ายังไม่มีใครมานั่ง บัดนี้กลับมีเด็กสาวเจ้าของผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียน  ผมยาวสลวย หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักนั่งอยู่ เด็กสาวคนนั้นคงไม่ได้สังเกตซีนเพราะเธอกำลังก้มหน้าก้มหน้าทำอะไรบางอย่างอยู่

    เด็กสาวคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก เกรซ

    ซีนยิ้มที่มุมปากอย่างไร้เหตุผล แล้วเดินไปนั่งที่ของตัวเอง

    เด็กสาวเจ้าของหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่กำลังอ่านบทความภาษาดัสอยู่รู้สึกเหมือนมีแรงกระทบระหว่างโต๊ะ จึงเงยหน้าขึ้นช้าๆและภาพคนที่นั่งอยู่ข้างๆโต๊ะเธอกลับทำให้เธอนิ่งงันอยู่ซะอย่างนั้น นานสองนาน

    เป็นอะไรน่ะ? เด็กสาวร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นเด็กสาวเจ้าอีกคนทำหน้าตกใจราวกับเห็นผี

    ปะ เปล่าค่ะ เอ๊ะ!! คุณทำแผลมาแล้วเหรอค่ะ? เกรซเอ่ยถามแล้วจ้องมองไปที่ผ้าก๊อตที่พันอยู่รอบศีรษะซีน

    อืมใช่ ซีนตอบ

    ขอโทษนะค่ะ ฉันทำให้คุณเจ็บตัวมาสองครั้งติดกันแล้ว เรื่องเมื่อวันศุกร์ฉันขอบคุณ คุณมากนะค่ะ ...คุณ เอ่อ??

    ซีน ซีนเอ่ยชื่อตัวเองเสียงแผ่วเบา

    ค่ะ ซีน คุณเพิ่งย้ายมานี่ค่ะ ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกได้นะค่ะ เกรซพูดแล้วยิ้มอย่างจริงใจให้เด็กสาวร่างสูง สายตาของเด็กสาวยังไม่ละออกจากใบหน้าของเด็กสาวร่างสูง ใบหน้านี้ช่างงดงามเหลือเกินเหมือนดั่งเทพบุตรบนสวรรค์ก็มิปราน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×