ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณแม่เชื่อมรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 2/3

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 63


    บทที่ 2/3

    “แต่ฉันไม่อนุญาต ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับเสี่ยซ้ง” ทิพเกสรประกาศเสียงแข็ง ก่อนจะพยักหน้าให้ลูกสาวช่วยกันจับตัวชาลิดาเอาไว้ เรื่องอะไรเธอจะยอมชวดโอกาสทองไปง่ายๆ ขอแค่ส่งชาลิดาไปหาเสี่ยประจักษ์เท่านั้น เธอกับลูกก็จะสบายไปทั้งชาติ แม้แต่ตัวหลานสาวของเธอก็จะได้เป็นคุณนายคอยส่งเงินกลับบ้าน นี่แหละที่เธอฝันเอาไว้

    “จะทำอะไรกันน่ะ ปล่อยดาวนะคะป้า ยายฟ้าปล่อยพี่นะ” ชาลิดาทั้งร้องทั้งดิ้นอย่างขัดขืนเต็มที่

    ทิพเกสรไม่ฟังเสียงแต่ยิ่งออกแรงจับตัวหลานสาวไว้ให้แน่นยิ่งขึ้น ก่อนจะสั่งให้ลูกสาวรีบโทรตามคนของเสี่ยประจักษ์ให้ส่งรถมารับ เมื่อเกลี้ยกล่อมกันดีๆ แล้วไม่ยอมฟัง เธอก็ต้องใช้วิธีบังคับกันละ

    หญิงสาวมองผู้เป็นป้าอย่างคิดไม่ถึง เธอเคยคิดว่าแค่จ่ายเงินใช้หนี้ให้แล้วทุกอย่างจะจบ แต่ความจริงป้าหวังอยากจะให้เธอแต่งงานกับเสี่ยประจักษ์อยู่แล้ว แค่คิดถึงตาแก่ท่าทางหื่นกามคนนั้นเธอก็ขยะแขยงไปทั้งตัว ความกลัวทำให้เธอออกแรงดิ้นจนสุดชีวิต อาศัยช่วงที่น้องสาวไปโทรศัพท์และป้าจับตัวเธอไว้อยู่คนเดียว สลัดมือหนีจนหลุดแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที โชคดีที่เธอยังสะพายกระเป๋าอยู่กับตัว ทำให้สามารถโทรไปขอความช่วยเหลือจากสุรกิจได้

    ชาลิดาวิ่งเท้าเปล่าออกมาถึงหน้าปากซอย โดยมีทั้งป้าและน้องวิ่งตามมาแบบทิ้งระยะห่างพอสมควร เธอจึงอาศัยความมืดหลังพระอาทิตย์ตกดิน วิ่งลัดไปแอบที่อีกซอยหนึ่งไม่ได้ตรงไปที่ป้ายรถประจำทางอย่างที่พยายามหลอกป้าและน้องให้เข้าใจ ระหว่างวิ่งเธอก็โทรคุยกับเพื่อนชายไปด้วย ซึ่งอีกฝ่ายกำลังขับรถออกมารับเธอแล้ว หญิงสาวจึงบอกจุดนัดหมายและเตรียมจะวิ่งไปรอที่ตรงนั้น ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อความมืดทำให้เธอเผลอเหยียบเศษแก้วเข้าเต็มเท้า หากเพราะกลัวว่าป้าและน้องจะตามมาทัน เธอจึงรีบดึงเศษแก้วชิ้นใหญ่ที่ปักอยู่ทิ้ง แล้ววิ่งกะโผลกกะเผลกตรงไปยังจุดนัดหมาย

    หลังจากแอบซุ่มหลบอยู่หลังต้นไม้ได้ไม่นาน รถของสุรกิจก็แล่นเข้ามาจอดแต่เพื่อนของเธอไม่ได้มาคนเดียว เจ้านายของเขาเป็นคนแรกที่เปิดประตูก้าวลงมาจากรถ แม้ที่ตรงนั้นจะมืดแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนเขาเป็นตะวันดวงเดียวที่เจิดจ้าที่สุด

    “คุณวัชคะ” หญิงสาวเรียกแล้วรีบเดินโขยกเขยกออกไปหา

    “เป็นยังไงบ้างครับคุณครู” ศิวัชถามอย่างเป็นห่วง เพราะรู้เรื่องจากสุรกิจมาตั้งแต่แรกเขาจึงรีบขึ้นรถออกมาด้วย ถ้าหากว่าเจ้าหนี้ต้องการเงินรวดเร็วขนาดนั้น เขาจะได้จ่ายเงินไปเสียให้หมดเรื่อง

    “ดาวหนีป้าออกมาค่ะ ถ้าคุณวัชไม่ว่าอะไร ดาวขอเริ่มงานวันนี้เลยได้ไหมคะ” ชาลิดาถามพลางจับมือของชายหนุ่มเอาไว้อย่างยึดเป็นที่พึ่ง เธอรู้ว่าไม่สมควรทำอย่างนั้นกับเขาที่เป็นผู้ชายแถมยังเป็นเจ้านายของเธอด้วย แต่ตอนนี้เธอกลัวมาก กลัวว่าจะถูกป้าพาตัวกลับไปส่งให้เสี่ยประจักษ์

    ศิวัชพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากตัวของหญิงสาว เขาจึงจูงมือเธอจะพาไปที่รถ ก่อนจะสังเกตได้จากการเดินว่าที่เท้าของเธอมีแผล

    “โดนอะไรมาครับ” ชายหนุ่มถามพลางเพ่งมอง แสงริบหรี่จากถนนทำให้เขาพอมองเห็นเลือดที่เท้าของเธอ

    “ดาววิ่งเท้าเปล่าออกมาค่ะ ก็เลยเผลอเหยียบเศษแก้วเข้า แต่ไม่เป็นไรค่ะแผลแค่นี้เอง เรารีบ...” หญิงสาวตอบได้แค่นั้นตัวของเธอก็ลอยหวือขึ้นอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม และสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นก็ทำเอาหัวใจเธอเต้นแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ “เอ่อ ดาวเดินเองได้ค่ะ”

    “ขอโทษนะครับ แต่อย่าเดินเลย เดี๋ยวแผลจะยิ่งอักเสบนะ” ชายหนุ่มบอกอย่างหวังดี แล้วอุ้มหญิงสาวไปที่รถซึ่งสุรกิจเตรียมเปิดประตูรออยู่แล้ว ก่อนจะสั่งให้คนรถของเขาขับตรงไปที่โรงพยาบาลก่อน

    ชาลิดามองรถที่เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่สับสนอลหม่าน เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต จากที่คิดว่าจะแค่เปลี่ยนงานและกลับไปบ้านเป็นระยะ แต่ตอนนี้กลายเป็นเธอต้องหนีออกจากบ้าน แล้วชีวิตจากนี้ของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองอย่างเป็นกังวล

     +++++++++++++++++++++

    คืนนั้นชาลิดาได้นอนห้องเดียวกับใบบัว ซึ่งเด็กหญิงดูจะดีใจมากที่เห็นเธอ ส่วนคนอื่นๆ ก็ดูเป็นมิตรและมีน้ำใจมาช่วยแนะนำและจัดที่นอนให้ ศิวัชบอกกับเธอว่าพรุ่งนี้เขาจะกลับไปที่บ้านพร้อมกับเธอ เพื่อใช้หนี้แทนเธอตามที่ตกลงกันไว้ ชายหนุ่มดูไม่ชอบใจกับสิ่งที่ป้าและน้องของเธอทำ แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่พูดต่อว่าออกมาตรงๆ พี่ยิ้มแม่บ้านที่เอาชุดของตัวเองมาให้เธอยืมใส่นอนก่อน บอกให้เธอนอนหลับให้สบายใจ เพราะชายหนุ่มเป็นเจ้านายที่ดีมาก ถ้าเขารับปากแล้วก็เชื่อได้ว่าต้องไม่มีปัญหาอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี

    เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จศิวัชก็พาเธอและใบบัวไปที่โรงเรียน เพื่อให้เธอได้ทำเรื่องลาออกจากงาน ซึ่งเป็นเรื่องกะทันหันจนทุกคนพากันตกใจ หากเธอก็ไม่มีเวลาอธิบายอะไรมาก เพราะหลังจากที่ใบบัวหลับไปชายหนุ่มก็พาเธอกลับไปบ้านทันที แม้ชายหนุ่มจะมีท่าทางเยือกเย็นและมั่นคง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดหวั่นในใจเธอจางหาย หัวใจกลับยิ่งเต้นแรงขึ้นอีกเมื่อมาถึงบ้านแล้วเจอเสี่ยประจักษ์และคนของเขารออยู่

    “เห็นไหมล่ะคะท่าน ทิพบอกแล้วว่ายังไงยายดาวก็ต้องกลับมา”

    “แต่หนูดาวไม่ได้มาคนเดียวนี่สิ” ประจักษ์จ้องไปยังชายสองคนที่มาพร้อมกับหญิงสาวเขม็ง

    “ไม่ต้องสนใจพวกเราหรอกครับ คุณแค่รับเงินคืนไปก็พอ” ศิวัชตอบแล้วหันไปพยักหน้ากับหญิงสาว เพราะระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันเขาให้เช็คเงินสดกับเธอไปแล้ว

    “คุณเป็นใครแล้วมาพูดเรื่องอะไรกัน ฉันยกหลานสาวฉันให้ท่านแล้ว เงินสินสอดก็รับมาแล้วด้วย ยายดาวจะต้องแต่งงานกับท่าน พวกคุณสองคนออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” ทิพเกสรไล่อย่างไม่ไว้หน้า ถ้าเธอรับเงินจากชายหนุ่มคนนี้มาก็แค่เปลี่ยนเจ้าหนี้ แต่ถ้าเธอได้ประจักษ์เป็นหลานเขยเธอก็ไม่ต้องใช้หนี้สักบาท แถมจะสบายไปทั้งชาติด้วย

    “แต่ดาวบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ ผมว่าคุณป้าไม่น่าจะมีสิทธิ์บังคับให้ดาวแต่งงานโดยไม่เต็มใจ” สุรกิจเถียงแทนเพื่อนด้วยความโมโห

    “แต่นี่เป็นเรื่องในครอบครัว คนอื่นไม่เกี่ยว” ประจักษ์ประกาศแล้วหันไปพยักหน้ากับคนของตัวเองให้เดินเข้ามา

    ศิวัชสบตากับคนรถของตนเองทันที เมื่อลูกน้องของประจักษ์ย่างสามขุมเข้ามาหาอย่างคุกคาม

    +++++++++++++++++
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×