ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณแม่เชื่อมรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1/2

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 63


    บทที่ 1/2

              “โอ๊ย นี่แกจะโง่ไปถึงไหนนะยายดาว ทำไมแกไม่รู้จักมองไปข้างหน้าไกลๆ ว่าโชคดีแค่ไหนที่จะได้แต่งงานกับคนแก่แต่รวยมหาศาล ทนอยู่กันไปไม่นานเดี๋ยวก็ตายแล้ว ทีนี้ทรัพย์สมบัติของท่านก็จะตกเป็นของแก พวกเราจะได้สบายกันเสียที แกอยากจะจนกรอบอยู่อย่างนี้ไปจนตายหรือไง”

            “ถ้าท่านตายสมบัติก็ต้องตกเป็นของลูกๆ ท่านสิคะ ดาวได้ยินนะคะที่ท่านบอกว่าไปรับหลานที่โรงเรียน ก็แปลว่าท่านต้องมีลูกแล้ว ดาวไม่อยากกลายเป็นแม่เลี้ยงที่ต้องลุกขึ้นมาแย่งสมบัติกับลูกเลี้ยงหรอกค่ะ” หญิงสาวตอบ ยิ่งฟังเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าป้าฝันลมๆ แล้งๆ เกินไป

            “ก็ไม่เห็นจะยากเลย ก่อนท่านจะตายพี่ดาวก็รีบอ้อนขอสมบัติมาไว้เยอะๆ สิ พอท่านตายลูกท่านก็ไม่มีสิทธิ์มาแย่งแล้ว” ฟ้ารดาบอกอย่างรำคาญในความเรื่องมากของพี่สาว

            “ถ้ามันง่ายขนาดนั้นทำไมฟ้าไม่ตกลงแต่งงานกับท่านเสียเองล่ะ” ชาลิดาย้อนถามทันควัน

            “ก็...ก็ท่านไม่ได้เลือกฟ้านี่ ท่านชอบพี่ดาว ถ้าลองท่านชอบฟ้าสิ ฟ้าจะรีบตกลงแบบไม่ต้องคิดเลย” ฟ้ารดาตอบทั้งที่นึกปฏิเสธอยู่ในใจว่าถ้าเป็นเธอก็ไม่ยอมแต่งงานกับตาแก่หนังเหี่ยวเหมือนกัน

            “ใช่ ยายฟ้าพูดถูก อีกอย่างเราเป็นหนี้ท่านอยู่ตั้งหลายล้าน แกจะไม่คิดช่วยป้าปลดหนี้บ้างเลยหรือไง”

            “ป้าก็เลิกเข้าบ่อนสักทีสิคะ ตอนนี้มีดาวหาเงินเข้าบ้านอยู่คนเดียว แต่ป้ากับยายฟ้าก็ไม่ช่วยกันประหยัดเลย แล้วเราจะใช้หนี้หมดได้ยังไงคะ” ชาลิดาว่าอย่างอ่อนใจ และเคยพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้น

            “นี่แกจะลำเลิกบุญคุณกับป้าเหรอ แกลองคิดดูว่าใครที่เลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ป้าคนนี้เหรอที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาส่งเสียให้แกเล่าเรียน ตอนนี้ป้าแก่ทำงานไม่ไหวแกก็เลยไม่เห็นหัวป้าแล้วสินะ” ทิพเกสรจ้องหน้าหลานสาวพลางเริ่มงัดทั้งพระเดชและพระคุณออกมาใช้

            ชาลิดามองป้าที่ใช้แผนเดิมอย่างหมดคำพูด เธอรู้ว่าป้ามีบุญคุณกับเธอมาก พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก โชคดีที่ได้ลุงกับป้าช่วยรับเลี้ยงเอาไว้ กระทั่งเธอเรียนจบชั้นประถมลุงก็เสียชีวิตไปอีกคน เหลือเพียงป้าที่ทำงานส่งเสียเลี้ยงดูเธอกับฟ้ารดา หากเธอก็ได้เรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย เพราะต้องออกมาหางานทำแบ่งเบาภาระทางบ้าน ซึ่งนอกจากหนี้สินที่ป้าก่อไว้แล้ว เธอยังต้องส่งน้องสาวให้เรียนต่อ รวมถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในบ้าน เป็นบุญคุณเป็นภาระที่เธอต้องตอบแทน

            ตลอดเวลาที่โตขึ้นมาเธอแทบไม่เคยได้รับความรัก เพราะทั้งลุงและป้าต่างก็มีฟ้ารดาเป็นลูกสาว เธอจึงต้องยกทุกอย่างให้น้องหมด หลายต่อหลายครั้งที่ลุงกับป้าแอบพาลูกสาวตัวเองออกไปกินอาหารดีๆ แพงๆ นอกบ้าน โดยไม่เคยพาเธอไปด้วย แม้จะรู้จะเห็นแต่เธอก็จำต้องเงียบเอาไว้ เพราะรู้สถานะของตัวเองดีว่าเป็นเพียงผู้อาศัย และถ้าบอกจากใจจริงก็มีหลายต่อหลายครั้ง ที่เธออยากไปให้พ้นจากบ้านหลังนี้ หากเธอก็ตัดใจทำอย่างนั้นไม่ลง เพราะถึงอย่างไรลุงกับป้าก็เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก

            “ตกลงแกจะเอายังไงยายดาว แกจะเห็นแก่ตัวแล้วปล่อยให้เจ้าหนี้ยึดบ้านเราไปใช่ไหม” ทิพเกสรถามย้ำเมื่อเห็นเป็นโอกาสในการรุกฆาต

            “ป้าติดหนี้ท่านอยู่เท่าไหร่คะ” หญิงสาวถามกลับเสียงเครียด

            “ก็...สามล้าน” ผู้เป็นป้าตอบพร้อมกับนึกสงสัยว่าหลานสาวจะมาไม้ไหนแน่

            “งั้นถ้าดาวหาเงินมาเคลียร์หนี้ก้อนนี้ได้ เรื่องแต่งงานเป็นอันจบนะคะ”

            “แล้วพี่ดาวจะไปหาเงินมาจากไหนตั้งมากมายขนาดนั้น” ฟ้ารดาถามอย่างข้องใจ

            “พี่หาทางได้แล้วกัน และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าต่อไปป้ายังเข้าไปสร้างหนี้ในบ่อนอีก ดาวจะไม่รับผิดชอบอะไรอีกทั้งนั้น ตกลงตามนี้นะคะ”

            “ก็ได้ ตกลงตามนี้” ทิพเกสรตอบทั้งที่ไม่เต็มใจนัก เธอไมได้ต้องการแค่ปลดหนี้ แต่อยากได้ไม้ใหญ่ไว้สำหรับเกาะเกี่ยวเลี้ยงดูเธอและลูกสาวด้วย หากตอนนี้เธอคงต้องตอบตกลงไปก่อน เพราะมั่นใจว่าชาลิดาไม่มีทางหาเงินมากมายขนาดนั้นมาได้แน่ๆ

     +++++++++++++++

            ชาลิดาออกมาไล่โทรหาเพื่อนที่นอกบ้าน แต่เพราะเงินจำนวนมากทำให้ไม่มีเพื่อนคนไหนช่วยเธอได้ หญิงสาวโทรหาสุรกิจเพื่อนเก่าที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถม แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายคงช่วยเหลือเธอเรื่องเงินไม่ได้ แต่เธอได้ยินมาว่าตอนนี้อีกฝ่ายทำงานอยู่บริษัทใหญ่ ถึงจะเป็นแค่คนขับรถของผู้บริหาร แต่การรู้จักคนใหญ่คนโตก็อาจจะทำให้พอมีช่องทางแนะนำเธอบ้างก็ได้

            “ทำอย่างนี้มันเท่ากับขายหลานสาวเลยนี่หว่า ดีแล้วละที่เธอไม่ยอมตกลงน่ะ แต่ทำไมเธอต้องไปหาเงินใช้หนี้แทนป้าด้วย ขยันสร้างหนี้นักก็ให้ใช้ไปเองสิ วุ่นวายนักเธอก็แยกออกมาอยู่เองเลย” สุรกิจว่าอย่างโมโหแทนเพื่อนหลังจากได้รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว

            “เธอไม่ใช่เราเธอก็พูดได้สิ ถึงลุงกับป้าจะไม่ดีกับเรานัก แต่อย่างน้อยพวกท่านก็เลี้ยงเรามา ให้เราได้รู้ว่าตัวเองยังมีญาติ ได้รู้ว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใคร ไม่ใช่เด็กไร้ญาติขาดมิตรที่ถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า จะดีหรือไม่ดียังไงพวกเราก็อยู่ด้วยกันมานาน ความผูกพันมันก็ต้องมีกันบ้างแหละ แล้วจะให้เราใจดำทิ้งไปเฉยๆ ได้ยังไง”

            “เฮ้อ ฟังแล้วเราละกลุ้มแทนเธอจริงๆ ว่ะดาว แต่มันก็จริงของเธอนะ แล้วนี่เธอจะไปหาเงินมาจากไหนล่ะ” สุรกิจถามอย่างพลอยกังวลไปด้วย เพราะเงินล้านไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ

            “เราก็จะโทรมาขอคำปรึกษาจากเธออยู่นี่ไงกิจ เธอพอจะรู้จักใครที่จะให้ยืมเงินได้บ้างไหม แต่เราไม่มีหลักทรัพย์อะไรไปค้ำประกันเลยนะ”

            “งั้นก็ยากหน่อยละ แต่ยังไงเราจะลองถามๆ ให้ก็แล้วกัน เธอก็อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมากนะ เพราะเปอร์เซ็นต์ได้แทบไม่มีเลย” สุรกิจตอบเพื่อนไปตามตรง

            “อือ เราเข้าใจ แต่ยังไงก็ฝากด้วยแล้วกันนะกิจ”

            ชาลิดาวางสายจากเพื่อนลง ก่อนจะถอนใจยาวอย่างกลัดกลุ้ม แล้วรีบไล่ดูรายชื่อคนที่รู้จักในโทรศัพท์ต่ออย่างไม่ยอมแพ้

    +++++++++++++++++

    อีบุ๊กเรื่องคุณแม่เชื่อมรักค่ะ

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNDU3MzEzNiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzOTc2MiI7fQ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×