คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1/2
บทที่ 1/2
“โอ๊ย นี่แกจะโง่ไปถึงไหนนะยายดาว ทำไมแกไม่รู้จักมองไปข้างหน้าไกลๆ ว่าโชคดีแค่ไหนที่จะได้แต่งงานกับคนแก่แต่รวยมหาศาล ทนอยู่กันไปไม่นานเดี๋ยวก็ตายแล้ว ทีนี้ทรัพย์สมบัติของท่านก็จะตกเป็นของแก พวกเราจะได้สบายกันเสียที แกอยากจะจนกรอบอยู่อย่างนี้ไปจนตายหรือไง”
“ถ้าท่านตายสมบัติก็ต้องตกเป็นของลูกๆ
ท่านสิคะ ดาวได้ยินนะคะที่ท่านบอกว่าไปรับหลานที่โรงเรียน
ก็แปลว่าท่านต้องมีลูกแล้ว ดาวไม่อยากกลายเป็นแม่เลี้ยงที่ต้องลุกขึ้นมาแย่งสมบัติกับลูกเลี้ยงหรอกค่ะ”
หญิงสาวตอบ ยิ่งฟังเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าป้าฝันลมๆ แล้งๆ เกินไป
“ก็ไม่เห็นจะยากเลย
ก่อนท่านจะตายพี่ดาวก็รีบอ้อนขอสมบัติมาไว้เยอะๆ สิ พอท่านตายลูกท่านก็ไม่มีสิทธิ์มาแย่งแล้ว”
ฟ้ารดาบอกอย่างรำคาญในความเรื่องมากของพี่สาว
“ถ้ามันง่ายขนาดนั้นทำไมฟ้าไม่ตกลงแต่งงานกับท่านเสียเองล่ะ”
ชาลิดาย้อนถามทันควัน
“ก็...ก็ท่านไม่ได้เลือกฟ้านี่
ท่านชอบพี่ดาว ถ้าลองท่านชอบฟ้าสิ ฟ้าจะรีบตกลงแบบไม่ต้องคิดเลย” ฟ้ารดาตอบทั้งที่นึกปฏิเสธอยู่ในใจว่าถ้าเป็นเธอก็ไม่ยอมแต่งงานกับตาแก่หนังเหี่ยวเหมือนกัน
“ใช่
ยายฟ้าพูดถูก อีกอย่างเราเป็นหนี้ท่านอยู่ตั้งหลายล้าน
แกจะไม่คิดช่วยป้าปลดหนี้บ้างเลยหรือไง”
“ป้าก็เลิกเข้าบ่อนสักทีสิคะ
ตอนนี้มีดาวหาเงินเข้าบ้านอยู่คนเดียว แต่ป้ากับยายฟ้าก็ไม่ช่วยกันประหยัดเลย
แล้วเราจะใช้หนี้หมดได้ยังไงคะ” ชาลิดาว่าอย่างอ่อนใจ และเคยพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยมีอะไรดีขึ้น
“นี่แกจะลำเลิกบุญคุณกับป้าเหรอ
แกลองคิดดูว่าใครที่เลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก
ไม่ใช่ป้าคนนี้เหรอที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาส่งเสียให้แกเล่าเรียน
ตอนนี้ป้าแก่ทำงานไม่ไหวแกก็เลยไม่เห็นหัวป้าแล้วสินะ” ทิพเกสรจ้องหน้าหลานสาวพลางเริ่มงัดทั้งพระเดชและพระคุณออกมาใช้
ชาลิดามองป้าที่ใช้แผนเดิมอย่างหมดคำพูด
เธอรู้ว่าป้ามีบุญคุณกับเธอมาก พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก
โชคดีที่ได้ลุงกับป้าช่วยรับเลี้ยงเอาไว้
กระทั่งเธอเรียนจบชั้นประถมลุงก็เสียชีวิตไปอีกคน เหลือเพียงป้าที่ทำงานส่งเสียเลี้ยงดูเธอกับฟ้ารดา
หากเธอก็ได้เรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย เพราะต้องออกมาหางานทำแบ่งเบาภาระทางบ้าน
ซึ่งนอกจากหนี้สินที่ป้าก่อไว้แล้ว เธอยังต้องส่งน้องสาวให้เรียนต่อ
รวมถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในบ้าน เป็นบุญคุณเป็นภาระที่เธอต้องตอบแทน
ตลอดเวลาที่โตขึ้นมาเธอแทบไม่เคยได้รับความรัก
เพราะทั้งลุงและป้าต่างก็มีฟ้ารดาเป็นลูกสาว เธอจึงต้องยกทุกอย่างให้น้องหมด
หลายต่อหลายครั้งที่ลุงกับป้าแอบพาลูกสาวตัวเองออกไปกินอาหารดีๆ แพงๆ นอกบ้าน
โดยไม่เคยพาเธอไปด้วย แม้จะรู้จะเห็นแต่เธอก็จำต้องเงียบเอาไว้ เพราะรู้สถานะของตัวเองดีว่าเป็นเพียงผู้อาศัย
และถ้าบอกจากใจจริงก็มีหลายต่อหลายครั้ง ที่เธออยากไปให้พ้นจากบ้านหลังนี้
หากเธอก็ตัดใจทำอย่างนั้นไม่ลง เพราะถึงอย่างไรลุงกับป้าก็เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก
“ตกลงแกจะเอายังไงยายดาว
แกจะเห็นแก่ตัวแล้วปล่อยให้เจ้าหนี้ยึดบ้านเราไปใช่ไหม” ทิพเกสรถามย้ำเมื่อเห็นเป็นโอกาสในการรุกฆาต
“ป้าติดหนี้ท่านอยู่เท่าไหร่คะ”
หญิงสาวถามกลับเสียงเครียด
“ก็...สามล้าน”
ผู้เป็นป้าตอบพร้อมกับนึกสงสัยว่าหลานสาวจะมาไม้ไหนแน่
“งั้นถ้าดาวหาเงินมาเคลียร์หนี้ก้อนนี้ได้
เรื่องแต่งงานเป็นอันจบนะคะ”
“แล้วพี่ดาวจะไปหาเงินมาจากไหนตั้งมากมายขนาดนั้น”
ฟ้ารดาถามอย่างข้องใจ
“พี่หาทางได้แล้วกัน
และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าต่อไปป้ายังเข้าไปสร้างหนี้ในบ่อนอีก ดาวจะไม่รับผิดชอบอะไรอีกทั้งนั้น
ตกลงตามนี้นะคะ”
“ก็ได้
ตกลงตามนี้” ทิพเกสรตอบทั้งที่ไม่เต็มใจนัก เธอไมได้ต้องการแค่ปลดหนี้
แต่อยากได้ไม้ใหญ่ไว้สำหรับเกาะเกี่ยวเลี้ยงดูเธอและลูกสาวด้วย
หากตอนนี้เธอคงต้องตอบตกลงไปก่อน เพราะมั่นใจว่าชาลิดาไม่มีทางหาเงินมากมายขนาดนั้นมาได้แน่ๆ
+++++++++++++++
ชาลิดาออกมาไล่โทรหาเพื่อนที่นอกบ้าน
แต่เพราะเงินจำนวนมากทำให้ไม่มีเพื่อนคนไหนช่วยเธอได้
หญิงสาวโทรหาสุรกิจเพื่อนเก่าที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถม
แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายคงช่วยเหลือเธอเรื่องเงินไม่ได้
แต่เธอได้ยินมาว่าตอนนี้อีกฝ่ายทำงานอยู่บริษัทใหญ่
ถึงจะเป็นแค่คนขับรถของผู้บริหาร แต่การรู้จักคนใหญ่คนโตก็อาจจะทำให้พอมีช่องทางแนะนำเธอบ้างก็ได้
“ทำอย่างนี้มันเท่ากับขายหลานสาวเลยนี่หว่า
ดีแล้วละที่เธอไม่ยอมตกลงน่ะ แต่ทำไมเธอต้องไปหาเงินใช้หนี้แทนป้าด้วย
ขยันสร้างหนี้นักก็ให้ใช้ไปเองสิ วุ่นวายนักเธอก็แยกออกมาอยู่เองเลย”
สุรกิจว่าอย่างโมโหแทนเพื่อนหลังจากได้รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว
“เธอไม่ใช่เราเธอก็พูดได้สิ
ถึงลุงกับป้าจะไม่ดีกับเรานัก แต่อย่างน้อยพวกท่านก็เลี้ยงเรามา ให้เราได้รู้ว่าตัวเองยังมีญาติ
ได้รู้ว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใคร
ไม่ใช่เด็กไร้ญาติขาดมิตรที่ถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า จะดีหรือไม่ดียังไงพวกเราก็อยู่ด้วยกันมานาน
ความผูกพันมันก็ต้องมีกันบ้างแหละ แล้วจะให้เราใจดำทิ้งไปเฉยๆ ได้ยังไง”
“เฮ้อ
ฟังแล้วเราละกลุ้มแทนเธอจริงๆ ว่ะดาว แต่มันก็จริงของเธอนะ แล้วนี่เธอจะไปหาเงินมาจากไหนล่ะ”
สุรกิจถามอย่างพลอยกังวลไปด้วย เพราะเงินล้านไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ
“เราก็จะโทรมาขอคำปรึกษาจากเธออยู่นี่ไงกิจ
เธอพอจะรู้จักใครที่จะให้ยืมเงินได้บ้างไหม แต่เราไม่มีหลักทรัพย์อะไรไปค้ำประกันเลยนะ”
“งั้นก็ยากหน่อยละ
แต่ยังไงเราจะลองถามๆ ให้ก็แล้วกัน เธอก็อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมากนะ
เพราะเปอร์เซ็นต์ได้แทบไม่มีเลย” สุรกิจตอบเพื่อนไปตามตรง
“อือ
เราเข้าใจ แต่ยังไงก็ฝากด้วยแล้วกันนะกิจ”
ความคิดเห็น