คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 4/2
บทที่ 4/2
ประจักษ์ก้าวออกจากร้านอาหารอย่างเบื่อๆ
แม้จะมีสาวน้อยข้างกายมาด้วยถึงสองคน แต่ตอนนี้เขาเบื่อพวกเธอแล้ว
ผู้หญิงที่ซื้อได้ง่ายๆ วันๆ เอาแต่ออดอ้อนเพราะอยากได้เงิน ไม่มีอะไรน่าค้นหาหรือตื่นเต้นเลยสักนิด
ไม่เหมือนชาลิดาที่เขาอยากได้เอามาปราบพยศ
ยิ่งคิดถึงใบหน้างามผุดผ่องและเรือนร่างเย้ายวน
เขาก็แค้นไอ้หนุ่มที่มาตัดหน้าคว้าหญิงสาวไปจนแทบกระอัก
ถ้าไอ้หมอนั่นไม่มายุ่งป่านนี้เขาคงได้เธอเอาหยอกเล่นอย่างเพลิดเพลินไปแล้ว
ชายสูงวัยหันมองไปทางร้านกระเป๋าแบรนด์เนมที่สองสาวชี้ชวนให้ดู
หากสิ่งที่ดึงความสนใจของเขาไม่ใช่กระเป๋าแต่เป็นหญิงสาวที่เขาจำได้ว่าเธอคือลูกค้าวีไอพีของบ่อนเขาต่างหาก
เสี่ยใหญ่จึงไม่รอช้าที่จะก้าวเข้าไปทัก
ระหว่างนั้นก็ปล่อยให้สาวน้อยที่พามาด้วยไปเลือกกระเป๋ากันเองตามความพอใจ
“สวัสดีครับคุณนัน
มาชอปปิงเหรอครับ บังเอิญจัง”
“ใช่ค่ะ
เสี่ยก็คงเหมือนกันใช่ไหมคะ” มนันยาถามยิ้มๆ พลางปรายตาไปยังหญิงสาวสองคนที่ยืนเลือกกระเป๋าอยู่อีกด้าน
ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อหันไปเห็นใครบางคนเข้าพอดี “วัช...”
ประจักษ์หันมองตามหญิงสาวไปอย่างสงสัย
ก่อนจะพึมพำขึ้นบ้าง “หนูดาว”
“เอ๊ะ เสี่ยรู้จักผู้หญิงที่เดินอยู่ตรงนั้นด้วยเหรอคะ”
มนันยาถามต่ออย่างสนใจ
“รู้จักสิครับ
ผู้หญิงคนนั้นเกือบจะมาเป็นเด็กของผมอยู่แล้ว
ถ้าไม่ถูกไอ้หมอนั่นชิงตัดหน้าไปซะก่อน แล้วคุณนันล่ะครับรู้จักไอ้หนุ่มนั่นด้วยเหรอ”
ประจักษ์ถามกลับบ้าง
“ยิ่งกว่ารู้อีกค่ะ นันว่าเราน่าจะหาที่นั่งคุยกันนะคะ”
มนันยาชวนและถ้าเสี่ยประจักษ์อยู่ข้างเดียวกับเธอทุกอย่างก็น่าจะง่ายขึ้น
+++++++++++++++++
ชุดสำหรับเด็กผู้หญิงน่ารักๆ
ถูกหยิบมาจากราวแขวนเสื้อแล้วทาบลงบนตัวหนูน้อย แม้ใบบัวจะยังขมวดคิ้วให้เขาแต่ก็ไม่ร้องไห้จ้าออกมากลางห้าง
ทำให้ศิวัชกล้าที่จะอยู่ใกล้หลานสาวมากขึ้น และเขาคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาลิดาด้วย
เห็นเธอช่วยเลือกของให้ใบบัวแล้วเขาก็ยิ่งพอใจในการทำหน้าที่พี่เลี้ยงของเธอ
“ซื้อของให้ใบบัวครบแล้ว
เราไปดูชุดของคุณกันบ้างดีไหม” ชายหนุ่มเอ่ยเพื่อแสดงน้ำใจเพราะเขาเองก็อยากตอบแทนเธอบ้าง
นอกเหนือจากเงินสามล้านที่ให้เธอยืมไปก่อนหน้านี้
“ชุดของดาวมีปัญหาอะไรเหรอคะ”
ชาลิดาก้มมองตัวเองอย่างไม่แน่ใจ
“ไม่มีอะไรหรอก
ผมแค่อยากซื้อให้ใหม่ เป็นสวัสดิการที่ผมให้พนักงานอยู่แล้ว” ศิวัชเลือกตอบไปตามนั้นเพื่อไม่ให้หญิงสาวคิดมาก
“ไปเถอะ เสร็จแล้วจะได้กลับบ้านกัน”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำพร้อมกับพยายามห้ามหัวใจไม่ให้ยิ้ม
เพราะเขาทั้งใจดีและอ่อนโยนแบบนี้แหละ
ที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่นานก็มาถึงแผนกเครื่องแต่งกายสตรีที่ชายหนุ่มดูจะคุ้นกับอะไรแบบนี้อยู่ไม่น้อย
อาจจะเพราะเขาเคยตามแฟนสาวมาซื้อของบ่อยๆ ก็เป็นได้ ชาลิดาได้แต่ยืนเฉยๆ
มองเจ้านายเลือกชุดให้ เธอไม่มีโอกาสได้เข้าไปลองสวมดูด้วยซ้ำ เพราะพอวางใบบัวลงหนูน้อยก็ไม่ยอมอยู่นิ่ง
ตั้งท่าจะวิ่งไปทางนั้นทางนี้ไม่ได้หยุด จะฝากไว้กับคนที่เป็นทั้งลุงทั้งพ่อก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้
จึงต้องอุ้มเอาไว้ตลอดเวลา
ภายในร้านนอกจากเธอและชายหนุ่มแล้ว
ยังมีหญิงสาวอีกสองคนเลือกดูเสื้ออยู่อีกด้านหนึ่ง
และเสียงที่คุยกันก็ดังมาถึงจุดที่เธอยืนอยู่พอดี
เธอจึงพลอยรู้เรื่องไปด้วยแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจแอบฟังก็ตาม
“เธอรู้หรือยังว่าคุณวัชน่ะเลิกกับยายนันแล้วนะ
ได้ยินว่าไปหลงเด็กที่ไหนก็ไม่รู้
เลยทุ่มตั้งสามล้านซื้อตัวมาเป็นนางบำเรออยู่ที่บ้าน
ฉันนี่คิดไม่ถึงเลยนะว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้”
“เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวดังซะที่ไหนล่ะ
ใครเขาก็ว่ายายผู้หญิงจ้องจะจับผู้ชายรวยๆ อยู่แล้ว
ฉันว่ามันคงไม่ได้หวังแค่สามล้านหรอก คุณวัชนะคุณวัชไม่นึกว่าจะตัณหากลับขนาดนี้
แค่แอบมีลูกกับคนอื่นก็ว่าแย่แล้ว สงสารก็แต่ยายนันนั่นแหละที่ต้องเสียใจอยู่ฝ่ายเดียว”
แม้จะไม่ได้ยินชื่อตัวเองหลุดจากปากสองสาวที่คุยกันอยู่
แต่ชาลิดากลับรู้สึกสะดุดใจราวกับเรื่องที่ได้ยินเป็นเรื่องระหว่างเธอกับศิวัช
หันไปมองชายหนุ่มก็เห็นเขาชะงักมือที่กำลังเลือกชุดไปเช่นกัน
ยังไม่ทันที่เธอจะได้อ้าปากถามเรื่องที่สงสัย เขาก็หันไปมองที่มาของเสียงตรงๆ
จนคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่อย่างออกรสรู้สึกตัว แล้วก้าวตรงมาหาเขาเช่นกัน
“อ้าว คุณวัชนี่เอง
มาชอปปิงเหมือนกันเหรอคะ”
“ใช่ครับ
พาลูกมาซื้อของ” ศิวัชตอบอย่างไม่ปิดบัง
“อุ๊ย
งั้นเรื่องที่เขาลือกันก็เป็นความจริงสิคะ” หญิงสาวหนึ่งในสองรีบถาม ก่อนจะยกมือปิดปากราวกับรู้สึกว่าเผลอหลุดปากไป
จึงรีบพากันขอตัวแล้วเลี่ยงออกไปจากร้านทันที
“เอ่อ
ที่เขาคุยกันเมื่อครู่นี้หมายถึง...เรา...หรือเปล่าคะ” ชาลิดาถามขึ้นเบาๆ
อย่างเกรงใจ เพราะดูจากสีหน้าแล้วชายหนุ่มคงอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก
ชาลิดาได้แต่ทำตามที่ชายหนุ่มสั่งเธอไม่กล้าถามอะไรอีก เพราะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังหัวเสียกับเรื่องอะไรสักอย่าง ทว่าทั้งที่คาดเข็มขัดนิรภัยและสตาร์ทรถแล้ว เขากลับไม่พารถเคลื่อนออกไปจากตรงนั้น ภายในรถเย็นฉ่ำเพราะเครื่องปรับอากาศ แต่เธอกลับรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของชายหนุ่มตอนนี้ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิด หรือว่าจะเป็นเพราะเสียงซุบซิบที่ได้ยินจากผู้หญิงสองคนนั้น ระหว่างที่เธอกำลังลังเลว่าควรจะถามดีไหม เขาก็กลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียก่อน
“ผมรู้แล้วว่าทำไมยายหนูถึงได้กลัวผู้ชาย”
“คะ?” ชาลิดารับคำอย่างงงๆ
เพราะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“ความจริงใบบัวไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของผม
น้องสาวของผมเอาแกมาส่งให้ก่อนจะกลับไปรับสามี แต่ทั้งคู่กลับประสบอุบัติเสียชีวิต
ผมก็เลยตั้งใจจะรับเป็นพ่อให้ใบบัวเอง”
“ค่ะ”
หญิงสาวรับคำอย่างไม่แปลกใจนัก เพราะรู้เรื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว
“แต่เรื่องที่คุณพูดเมื่อคืนทำให้สงสัย
ก็เลยส่งคนไปสืบดูว่าใบบัวถูกเลี้ยงมายังไง แล้วก็ได้รู้ว่าทุกอย่างเป็นเพราะแกเห็นภาพความรุนแรงมาตั้งแต่เด็ก
จากพ่อแท้ๆ ของแกเอง” ศิวัชหันไปมองหลานสาวด้วยความสงสารสุดหัวใจ
คนที่เขาส่งให้ไปสืบได้ข้อมูลมาจากชาวบ้านแถวนั้น
และทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าสกลเป็นผู้ชายที่ไม่ทำงานทำการ วันๆ กินแต่เหล้า
คบเพื่อนเสเพล และมักทำร้ายลูกเมียเสมอ น้องสาวของเขาคงจะทนจนถึงที่สุดแล้ว
ถึงได้ยอมพาลูกมาหาเขา ทั้งที่วรรณศิริเคยเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเองที่สุด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวัช
ใบบัวยังเด็กมาก เราช่วยกันสร้างความทรงจำใหม่ๆ ให้แกได้ พอโตขึ้นแกก็จะจำได้แต่ว่าคุณวัชเป็นคุณพ่อที่ดีที่สุดของแก
เราต้องให้เวลาแกอีกหน่อยนะคะ” ชาลิดาปลอบอย่างเห็นใจอีกฝ่าย
และเพราะคุยเรื่องนี้กันขึ้นมาแล้ว หัวข้อสนทนาต่อจากนั้นจึงกลายเป็นเรื่องของใบบัวคนเดียว
จนเธอลืมถามเขาเรื่องผู้หญิงสองคนที่พบวันนี้ไปสนิทใจ
ความคิดเห็น