คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 3/2
ชาลิดาได้แต่ขยับตัวอย่างอึดอัด
เธออยากจะพูดอะไรบ้างก็ถูกชายหนุ่มสั่งให้เงียบๆ
ไว้และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาเอง
แม้แต่สุรกิจก็กำชับเธออย่างนั้นเพราะกลัวว่าเธอจะใจอ่อน ส่วนเรื่องสัญญาเธอก็เพิ่งจะรู้ตอนนั่งมาในรถ
และค่อนข้างมั่นใจว่าป้าคงไม่ยอมเซ็น
“สัญญาอะไรกันฉันไม่รับรู้ด้วยหรอกนะ” ทิพเกสรรีบบอกเสียงดัง
เพราะได้ยินแว่วๆ ว่าเธอต้องเซ็นสัญญาอะไรสักอย่าง ถ้าชาลิดาไปกู้หนี้ยืมสินใครก็ต้องรับผิดชอบเอง
เธอไม่ยอมตกเป็นลูกหนี้ไปด้วยหรอก เสี่ยประจักษ์ก็ผลุนผลันออกไปโดยไม่ยอมให้ความกระจ่างใดๆ
แก่เธอเลย เธอจึงยิ่งอยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันแน่
“แม่มาทางนี้ก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวฟ้าอธิบายให้แม่ฟังเอง”
ฟ้ารดาบอกเสียงหวานพร้อมกับขยิบตาส่งสัญญาณให้แม่เดินตามมา กระทั่งเข้ามาด้านในแล้วเธอจึงอธิบายสั้นๆ
ก่อนจะสรุปว่า “เซ็นๆ ไปเถอะแม่ ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรได้ยังไง
แล้วต่อไปใครจะคอยทำงานหาเงินให้พวกเราใช้” ผู้เป็นแม่ปฏิเสธอย่างไม่เห็นด้วย
“พี่ดาวก็ยังต้องเลี้ยงพวกเราเหมือนเดิมนั่นแหละ
สัญญานี่หมายถึงพวกหนี้จากการพนันเท่านั้นแหละแม่ เพราะฉะนั้นแม่ต้องเซ็นนะ คุณศิวัชเขาจะได้รู้ว่าพวกเราเป็นคนดี
ไม่ได้คิดจะสร้างหนี้ให้พี่ดาวต้องชดใช้ ขืนแม่ไม่ยอมเซ็นเขาคงมองฟ้าไม่ดีไปด้วย”
“ก็แล้วยังไง
นี่มันเรื่องในครอบครัวของเราจะให้เขามาวุ่นวายทำไมนะยายฟ้า” ทิพเกสรยังไม่เห็นด้วย
“ก็ฟ้าชอบเขานี่ ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ ถ้าฟ้าได้แต่งงานกับเขาก็สบายไปทั้งชาติแน่
แม่แค่ช่วยฟ้าบีบพี่ดาวให้หาทางช่วยให้ฟ้ากับคุณศิวัชลงเอยกันก็พอ
ตอนนี้เขาว่าอะไรเราก็ยอมๆ ไปก่อนเถอะแม่ สร้างภาพไว้ก่อนน่ะแม่เข้าใจไหม” ฟ้ารดาบอกแม่อย่างมั่นใจในแผนการของตนเอง
ชายหนุ่มน่าจะมองพี่สาวของเธอเป็นเพียงพี่เลี้ยงเด็ก
และถ้าให้เทียบกันเธอสวยกว่าพี่สาวหลายเท่า เพราะเธอรู้จักแต่งเนื้อแต่งตัวให้สมกับเป็นผู้หญิง
ส่วนชาลิดาไม่มีเครื่องสำอางหรือเครื่องประดับเลยสักชิ้น
ถ้าให้ยืนเทียบกันก็ดูโทรมกว่าเธอไม่รู้ตั้งกี่เท่า
“แกมั่นใจนะยายฟ้า
ว่าถ้าเซ็นแล้วพวกเราจะไม่เดือดร้อนจริงๆ” ผู้เป็นแม่ถามย้ำอีกครั้ง
และเมื่อได้รับคำยืนยันเธอจึงยอมจรดปากกาเซ็นชื่อลงไป
หลังจากเครียดเพราะต้องนั่งเงียบๆ
ห้ามพูดอะไรอยู่นาน ชาลิดาก็เปลี่ยนเป็นแปลกใจ เมื่อจู่ๆ ป้าก็ยิ้มแย้มเข้ามาหาเธอ
และรีบฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้านายของลูกและหลาน เธอหันไปมองชายหนุ่มก็ไม่เห็นเขาว่าอะไร
นอกจากบอกให้เธอไปเก็บข้าวของ หากก่อนที่เธอจะขึ้นไปชั้นบนหูยังได้ยินเสียงป้าแว่วๆ
ว่าจะขอไปเยี่ยมเธอบ่อยๆ เพราะเป็นห่วง ทำให้เธอนึกสังหรณ์ใจอย่างไรชอบกล
หญิงสาวขนกระเป๋าใส่ท้ายรถแล้วกลับไปที่โรงเรียนพร้อมกับชายหนุ่มอีกครั้ง
ตอนนั้นใบบัวตื่นนอนแล้วและกำลังร้องไห้งอแงอยู่ ศิวัชรีบย่อตัวลงแล้วกางมือออกเมื่อเห็นลูกสาววิ่งตรงมา
แต่หนูน้อยกลับวิ่งมาหาเธอแทนที่จะหาพ่อ
ทำให้เธอนึกเห็นใจเขาอยู่ไม่น้อยที่ลูกไม่สนใจ ใบบัวคงจะไม่คุ้นกับพ่อจริงๆ
และน่าจะติดแม่มากกว่า ว่าแต่แม่ของใบบัวเป็นใครและตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว
เธอยังไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
“งั้นผมกลับไปทำงานก่อนนะ
ผมเรียกให้รถอีกคันขับมารับแล้ว เดี๋ยวจะให้กิจไปส่งคุณครูกับใบบัวที่บ้าน อ้อ
ฝากคุณครูช่วยจัดการเรื่องลาออกจากเนอสเซอรีให้ด้วยนะครับ
แล้วเย็นนี้เจอกันที่บ้าน” ศิวัชบอกและเป็นจังหวะเดียวกับที่รถอีกคันของเขาแล่นเข้ามารับพอดี
เขาจึงรีบขึ้นรถเพื่อไปสะสางงานที่บริษัทต่อ
ชาลิดาจัดการเรื่องทุกอย่างจนเรียบร้อยและล่ำลาเพื่อนร่วมงาน
ซึ่งแต่ละคนพากันตกใจกับการลาออกจากงานอย่างกะทันหันของเธอ
หากทุกคนก็ยอมเข้าใจเมื่อเธอสรุปสั้นๆ ว่ามีความจำเป็นส่วนตัว
เพราะแต่ละคนก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าเธอมีปัญหาเรื่องเงิน ครูใหญ่ยังมีน้ำใจกับเธอเสมอและยังยินดีต้อนรับหากเธอต้องการกลับมาทำงานที่นี่อีก
หญิงสาวไหว้ขอบคุณทุกคนก่อนจะก้าวขึ้นรถออกจากโรงเรียนที่เธอทำงานมาหลายปี
“เจ้านายของกิจนี่เขารวยมากเลยเหรอ ดาวจะไปทำงานที่บ้านเขาอยู่แล้ว
แต่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย เขาหย่าแล้วเหรอถึงไม่เห็นแม่ของใบบัวเลย”
ชาลิดาถามระหว่างนั่งรถกลับบ้าน ส่วนใบบัวตอนนี้หยุดร้องไห้แล้ว
และเพราะรถคันนี้ยังไม่ได้ติดที่นั่งสำหรับเด็ก
เธอจึงจำต้องอุ้มให้นั่งตักเอาไว้ก่อน
“รวยมากแล้วก็เหนื่อยมากด้วย คุณวัชต้องมาดูแลกิจการแทนพ่อแม่ที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย
ต่อสู้กับทั้งหุ้นส่วนในบริษัท แก้ปัญหาทุกอย่างมาด้วยตัวเอง
กว่าทุกอย่างจะมั่นคงขนาดนี้ก็ใช้เวลาตั้งหลายปี
เรื่องในบริษัทไม่พอยังต้องคอยแก้ปัญหาเรื่องทางบ้านอีก ตอนนี้คุณวัชก็กลุ้มใจเรื่องคุณหนูใบบัวมากเลย
ได้ดาวมาช่วยดูแลคุณหนูคุณวัชจะได้สบายใจขึ้นสักที”
สุรกิจตอบเพื่อนอย่างรู้ใจผู้เป็นนายดี
+++++++++++++++++++
อีบุ๊กเรื่องคุณแม่เชื่อมรักค่ะ
ความคิดเห็น