คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 2/3
“แต่ฉันไม่อนุญาต
ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับเสี่ยซ้ง” ทิพเกสรประกาศเสียงแข็ง
ก่อนจะพยักหน้าให้ลูกสาวช่วยกันจับตัวชาลิดาเอาไว้ เรื่องอะไรเธอจะยอมชวดโอกาสทองไปง่ายๆ
ขอแค่ส่งชาลิดาไปหาเสี่ยประจักษ์เท่านั้น เธอกับลูกก็จะสบายไปทั้งชาติ
แม้แต่ตัวหลานสาวของเธอก็จะได้เป็นคุณนายคอยส่งเงินกลับบ้าน
นี่แหละที่เธอฝันเอาไว้
“จะทำอะไรกันน่ะ ปล่อยดาวนะคะป้า ยายฟ้าปล่อยพี่นะ”
ชาลิดาทั้งร้องทั้งดิ้นอย่างขัดขืนเต็มที่
ทิพเกสรไม่ฟังเสียงแต่ยิ่งออกแรงจับตัวหลานสาวไว้ให้แน่นยิ่งขึ้น
ก่อนจะสั่งให้ลูกสาวรีบโทรตามคนของเสี่ยประจักษ์ให้ส่งรถมารับ
เมื่อเกลี้ยกล่อมกันดีๆ แล้วไม่ยอมฟัง เธอก็ต้องใช้วิธีบังคับกันละ
หญิงสาวมองผู้เป็นป้าอย่างคิดไม่ถึง
เธอเคยคิดว่าแค่จ่ายเงินใช้หนี้ให้แล้วทุกอย่างจะจบ แต่ความจริงป้าหวังอยากจะให้เธอแต่งงานกับเสี่ยประจักษ์อยู่แล้ว
แค่คิดถึงตาแก่ท่าทางหื่นกามคนนั้นเธอก็ขยะแขยงไปทั้งตัว
ความกลัวทำให้เธอออกแรงดิ้นจนสุดชีวิต อาศัยช่วงที่น้องสาวไปโทรศัพท์และป้าจับตัวเธอไว้อยู่คนเดียว
สลัดมือหนีจนหลุดแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที
โชคดีที่เธอยังสะพายกระเป๋าอยู่กับตัว
ทำให้สามารถโทรไปขอความช่วยเหลือจากสุรกิจได้
ชาลิดาวิ่งเท้าเปล่าออกมาถึงหน้าปากซอย
โดยมีทั้งป้าและน้องวิ่งตามมาแบบทิ้งระยะห่างพอสมควร
เธอจึงอาศัยความมืดหลังพระอาทิตย์ตกดิน
วิ่งลัดไปแอบที่อีกซอยหนึ่งไม่ได้ตรงไปที่ป้ายรถประจำทางอย่างที่พยายามหลอกป้าและน้องให้เข้าใจ
ระหว่างวิ่งเธอก็โทรคุยกับเพื่อนชายไปด้วย ซึ่งอีกฝ่ายกำลังขับรถออกมารับเธอแล้ว
หญิงสาวจึงบอกจุดนัดหมายและเตรียมจะวิ่งไปรอที่ตรงนั้น
ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อความมืดทำให้เธอเผลอเหยียบเศษแก้วเข้าเต็มเท้า
หากเพราะกลัวว่าป้าและน้องจะตามมาทัน เธอจึงรีบดึงเศษแก้วชิ้นใหญ่ที่ปักอยู่ทิ้ง
แล้ววิ่งกะโผลกกะเผลกตรงไปยังจุดนัดหมาย
หลังจากแอบซุ่มหลบอยู่หลังต้นไม้ได้ไม่นาน
รถของสุรกิจก็แล่นเข้ามาจอดแต่เพื่อนของเธอไม่ได้มาคนเดียว
เจ้านายของเขาเป็นคนแรกที่เปิดประตูก้าวลงมาจากรถ
แม้ที่ตรงนั้นจะมืดแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนเขาเป็นตะวันดวงเดียวที่เจิดจ้าที่สุด
“คุณวัชคะ”
หญิงสาวเรียกแล้วรีบเดินโขยกเขยกออกไปหา
“เป็นยังไงบ้างครับคุณครู” ศิวัชถามอย่างเป็นห่วง
เพราะรู้เรื่องจากสุรกิจมาตั้งแต่แรกเขาจึงรีบขึ้นรถออกมาด้วย
ถ้าหากว่าเจ้าหนี้ต้องการเงินรวดเร็วขนาดนั้น เขาจะได้จ่ายเงินไปเสียให้หมดเรื่อง
“ดาวหนีป้าออกมาค่ะ ถ้าคุณวัชไม่ว่าอะไร
ดาวขอเริ่มงานวันนี้เลยได้ไหมคะ” ชาลิดาถามพลางจับมือของชายหนุ่มเอาไว้อย่างยึดเป็นที่พึ่ง
เธอรู้ว่าไม่สมควรทำอย่างนั้นกับเขาที่เป็นผู้ชายแถมยังเป็นเจ้านายของเธอด้วย
แต่ตอนนี้เธอกลัวมาก กลัวว่าจะถูกป้าพาตัวกลับไปส่งให้เสี่ยประจักษ์
ศิวัชพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด
เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากตัวของหญิงสาว เขาจึงจูงมือเธอจะพาไปที่รถ
ก่อนจะสังเกตได้จากการเดินว่าที่เท้าของเธอมีแผล
“โดนอะไรมาครับ”
ชายหนุ่มถามพลางเพ่งมอง แสงริบหรี่จากถนนทำให้เขาพอมองเห็นเลือดที่เท้าของเธอ
“ดาววิ่งเท้าเปล่าออกมาค่ะ
ก็เลยเผลอเหยียบเศษแก้วเข้า แต่ไม่เป็นไรค่ะแผลแค่นี้เอง เรารีบ...”
หญิงสาวตอบได้แค่นั้นตัวของเธอก็ลอยหวือขึ้นอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม
และสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นก็ทำเอาหัวใจเธอเต้นแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ
“เอ่อ ดาวเดินเองได้ค่ะ”
“ขอโทษนะครับ แต่อย่าเดินเลย
เดี๋ยวแผลจะยิ่งอักเสบนะ” ชายหนุ่มบอกอย่างหวังดี แล้วอุ้มหญิงสาวไปที่รถซึ่งสุรกิจเตรียมเปิดประตูรออยู่แล้ว
ก่อนจะสั่งให้คนรถของเขาขับตรงไปที่โรงพยาบาลก่อน
ชาลิดามองรถที่เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่สับสนอลหม่าน
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต
จากที่คิดว่าจะแค่เปลี่ยนงานและกลับไปบ้านเป็นระยะ แต่ตอนนี้กลายเป็นเธอต้องหนีออกจากบ้าน
แล้วชีวิตจากนี้ของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองอย่างเป็นกังวล
+++++++++++++++++++++
คืนนั้นชาลิดาได้นอนห้องเดียวกับใบบัว
ซึ่งเด็กหญิงดูจะดีใจมากที่เห็นเธอ ส่วนคนอื่นๆ
ก็ดูเป็นมิตรและมีน้ำใจมาช่วยแนะนำและจัดที่นอนให้ ศิวัชบอกกับเธอว่าพรุ่งนี้เขาจะกลับไปที่บ้านพร้อมกับเธอ
เพื่อใช้หนี้แทนเธอตามที่ตกลงกันไว้
ชายหนุ่มดูไม่ชอบใจกับสิ่งที่ป้าและน้องของเธอทำ
แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่พูดต่อว่าออกมาตรงๆ
พี่ยิ้มแม่บ้านที่เอาชุดของตัวเองมาให้เธอยืมใส่นอนก่อน บอกให้เธอนอนหลับให้สบายใจ
เพราะชายหนุ่มเป็นเจ้านายที่ดีมาก
ถ้าเขารับปากแล้วก็เชื่อได้ว่าต้องไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี
เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จศิวัชก็พาเธอและใบบัวไปที่โรงเรียน
เพื่อให้เธอได้ทำเรื่องลาออกจากงาน ซึ่งเป็นเรื่องกะทันหันจนทุกคนพากันตกใจ หากเธอก็ไม่มีเวลาอธิบายอะไรมาก
เพราะหลังจากที่ใบบัวหลับไปชายหนุ่มก็พาเธอกลับไปบ้านทันที
แม้ชายหนุ่มจะมีท่าทางเยือกเย็นและมั่นคง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดหวั่นในใจเธอจางหาย
หัวใจกลับยิ่งเต้นแรงขึ้นอีกเมื่อมาถึงบ้านแล้วเจอเสี่ยประจักษ์และคนของเขารออยู่
“เห็นไหมล่ะคะท่าน ทิพบอกแล้วว่ายังไงยายดาวก็ต้องกลับมา”
“แต่หนูดาวไม่ได้มาคนเดียวนี่สิ” ประจักษ์จ้องไปยังชายสองคนที่มาพร้อมกับหญิงสาวเขม็ง
“ไม่ต้องสนใจพวกเราหรอกครับ
คุณแค่รับเงินคืนไปก็พอ” ศิวัชตอบแล้วหันไปพยักหน้ากับหญิงสาว เพราะระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันเขาให้เช็คเงินสดกับเธอไปแล้ว
“คุณเป็นใครแล้วมาพูดเรื่องอะไรกัน
ฉันยกหลานสาวฉันให้ท่านแล้ว เงินสินสอดก็รับมาแล้วด้วย ยายดาวจะต้องแต่งงานกับท่าน
พวกคุณสองคนออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” ทิพเกสรไล่อย่างไม่ไว้หน้า
ถ้าเธอรับเงินจากชายหนุ่มคนนี้มาก็แค่เปลี่ยนเจ้าหนี้ แต่ถ้าเธอได้ประจักษ์เป็นหลานเขยเธอก็ไม่ต้องใช้หนี้สักบาท
แถมจะสบายไปทั้งชาติด้วย
“แต่ดาวบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ
ผมว่าคุณป้าไม่น่าจะมีสิทธิ์บังคับให้ดาวแต่งงานโดยไม่เต็มใจ”
สุรกิจเถียงแทนเพื่อนด้วยความโมโห
“แต่นี่เป็นเรื่องในครอบครัว
คนอื่นไม่เกี่ยว” ประจักษ์ประกาศแล้วหันไปพยักหน้ากับคนของตัวเองให้เดินเข้ามา
ศิวัชสบตากับคนรถของตนเองทันที เมื่อลูกน้องของประจักษ์ย่างสามขุมเข้ามาหาอย่างคุกคาม
ความคิดเห็น