คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
[แก้คำผิด]
ลองดูจะรู้ว่า...รัก
<บทนำ>
“ไอ้น่าน...”ร่างสูงของคเชนต์ที่เดินมาหาเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าเศร้าหมองอย่างมาก
“มีไรไอ้เค กูจะรีบกลับบ้าน”ร่างบางรีบเดินออกมาจากชมรมที่ณ ตอนนี้มีเขาอยู่เพื่อเก็บงานเพียงคนเดียวเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนสนิท
“พี่หลิว.........”ร่างสูงเอ่ยเสียงแผ่วคนเป็นเพื่อนตรงหน้าจึงอดถามต่อไม่ได้
“ทำไม พี่หลิวทำไมวะ?”ร่างบางจับแขนเพื่อนเขย่าเล็กน้อยเพื่อเรียกสติคนที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวให้กลับมาตอบคำถามของเขา
“พี่หลิวคบกับพี่โมแล้ว”ร่างสูงเอ่ยเสียงแผ่วๆ
“อะไรนะ พี่พุทน่ะหรอ คบกับพี่หลิว!!”ร่างบางที่สีหน้าตกใจสุดขีดหันมาแหกปากใส่หน้าเพื่อนอย่างแรง
“ใช่ เมื่อกี๊กูไปหาพี่หลิวที่มหาลัย แต่เห็นพี่หลิวกลับบ้านไปพร้อมกับพี่โมกูเลยไปถามเพื่อนพี่หลิว พี่เขาบอกว่าสองคนนั้นคบกันแล้ว”
“เห้ยมึง จะบ้าหรอวะ ไหนมึงบอกพี่หลิวเขาไม่เคยชอบใครเลยไงวะ แล้วพี่หลิวเขาจะคบกับพี่พุทได้ไง”
“กูไม่รู้.......”ร่างสูงเอ่ยเบาก่อนที่สีหน้าจะหมองกว่าเดิม
“งั้นเอางี๊วันนี้กูมีนัดไปกินข้าวกับบ้านนั้น มึงก็ไปด้วยสิ”ร่างบางเอ่ยพลางยิ้มๆเพราะในใจมีแผนที่ตนแสนจะมั่นใจว่าพี่ข้างบ้านจะต้องรับรักเพื่อนแน่นอน
“แต่ว่ากู...”ร่างสูงจะเอ่ยปฏิเสธแต่โดนพื่อนตัวดีขัดไว้จึงต้องจำใจ
“ไม่ต้องเลยมึง ไปเลยไปกินข้าวเย็นกับบ้านกู”
“ก็ได้ๆ งั้นเดี๋ยวกูกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนนะ”ร่างสูงเอ่ยพลางพยายามหาทางไม่ไปที่บ้านรัตนไพศาลเพราะเขาเองไม่กล้าไปหาต้นหลิวหรอก ก็รักมากเสียขนาดนั้นถ้าฟิวส์ขาดขึ้นมาต้นหลิวเองจะไม่ปลอดภัย
“ไม่ต้องเลย มากินแล้วค่อยกลับบ้านเดี๋ยวมึงหนี”น่านฟ้าเอ่ยพลางลากเพื่อนออกไปโบกรถแท็กซี่กลับบ้านอย่างไวเพราะนี่ก็ใกล้เวลานัดเต็มทีแล้ว
ณ บ้าน รัตนไพศาล
“แม่ครับกลับมาแล้วครับ”ร่างสูงของ ต้นโอ๊ค ลูกชายคนโตของบ้านที่นานๆทีจะหอบสังขารมากินข้าวที่นี่เพราะอาศัยอยู่หอทั้งๆที่บ้านกับมหาวิทยาลัยไม่ได้ไกลจากบ้านมาถึงขนาดนั้นแต่วันนี้ไม่รู้ติดอย่างไรถึงมากินข้าวเย็นที่บ้านตัวเอง
“ลมอะไรหอบมาห๊ะพี่โอ๊ค” ต้นหลิวน้องชายคนเล็กของบ้านเอ่ยพลางลดสายตาจากหนังสือการ์ตูนในมือมามองพี่ชายตนเองที่หอบของพะรุงพะรังกลับบ้าน
“ก็อาทิตย์หน้าหนูม่านจะกลับบ้านไงจ๊ะ พี่ชายเราเลยหอบของกลับมาบ้าน นี่ถ้าแม่ไม่รู้นะคงนึกว่าลูกตัวเองหนีหนี้มาแน่ๆ”รวีพรรณเอ่ยติดตลก จนทำให้คนที่ถูกกล่าวถึงยิ้มกว้าง
“รู้ดีจังเลยอ่ะแม่ นี่ถ้าผมไม่ใช่ลูกแม่นะคงนึกว่าเป็นหมอดู”ร่างสูงเอ่ยพลางเดินไปวางของที่โต๊ะรับแขกก่อนเดินไปหามารดาที่ห้องอาหาร
“แม่ครับแล้ววันนี้มีใครมากินข้าวด้วยหรอครับเตรียมไว้ตั้งหลายชุด”
“วันนี้เพื่อนหนูน่านเขามาทานข้าวด้วยตอนนี้นั่งเล่นอยู่บ้านหนูน่าน เดี๋ยวคงมา”
“โอ้โห อย่างนี้ไอ้สนมันก็ต้องรีบแจ้นกลับบ้านเลยน่ะสิแม่”ร่างสูงเอ่ยเสียงตื่นเต้น
“นี่ น้องเรามันก็กลับบ้านเร็วทุกวัน ไม่เหมือนแกหรอก นานๆทีถึงจะกลับถ้าแม่เป็นอะไรคงจะรู้เป็นคนสุดท้ายล่ะมั้ง”มารดาเอ่ยเสียงน้อยใจเพราะลุกชายคนโตที่นานๆทีจะกลับบ้านมิหนำซ้ำเวลาโทรหาก็ชอบปิดเครื่อง
“โหแม่ พูดงี๊เหมือนน้อยใจเลยอ่ะ”
“ช่างแม่เถอะ นี่ว่าแต่เราเถอะ เมื่อไหร่จะขอหนูม่านหมั้นล่ะจ๊ะ เราก็คบกันมาตั้งแต่มัธยมจนตอนนี้จะเรียนจบกับทั้งคู่แล้วเนี่ย”มารดาเอ่ยถามเพราะเห็นว่าทั้งม่านฟ้าและลูกชายของตนก็คบหาดูใจกันอย่างเปิดเผยให้ครอบครัวทราบมาตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย นับรวมๆแล้วทั้งคู่คบหาดูใจกันมากว่าๆหกปีแล้ว
“แม่ครับ ม่านเขาเป็นผู้หญิงยุคใหม่ กว่าจะหมั้นก็คงยี่สิบห้ายี่สิบหกขึ้นไปแล้วนู้น แม่จะรีบทำไมล่ะ ผมอยู่แค่ปีสี่ ทำอย่างกับผมอายุจะสามสิบแล้วอะ”ร่างสูงเอ่ยให้มารดาฟังเพราะเขาเองอายุเท่าไหร่ แม่จะให้รีบหมั้นทำไมกัน
“ก็เห็นว่าคบกันมานานหมั้นก่อนแล้วค่อยแต่งงานหลังมีงานทำก็ได้นี่ลูก”มารดาเอ่ยสียงเป็นเชิงว่าตนอยากมีสะใภ้เต็มแก่แล้ว
“แม่ครับ ผมว่าเราเลิกคุยเรื่องนี้ดีกว่านะ เพราะว่าคุยกันไปยังไงผมก็ยังไม่หมั้นอยู่ดีนั่นแหละ คบกันมาตั้งหกเจ็ดปี ม่านไม่หนีผมไม่หาสามีฝรั่งหรอก”
“แม่ครับ.....”ร่างของผู้มาใหม่เอ่ยเรียกมารดาของตน
“หลิว ไปตามบ้านนั้นมาซิลูก มันใกล้เวลาทานข้าวแล้ว”
“มาถึงก็ใช้เลยนะแม่”ร่างบางเอ่ยอย่างเซ็งๆ
“เอาน่า ไปเถอะไปลูก เร็วๆนะจ๊ะ”
“ครับ.......พ่อล่ะฮะ”ร่างบางเอ่ยถามเพราะวันนี้ตั้งแต่กลับมาจากมหาวิทยาลัยยังไม่เห็นพ่อของตนนั่งดูข่าวตรงห้องรับแขกอย่างเคย
“ไปบ้านนั้นตั้งแต่บ่ายแล้วลูก วันนี้กลับบ้านเร็วเลยไปอยู่กับลุงพลทั้งบ่ายเลย”
“พ่อนี่น้า อะไรก็ไปบ้านนู้นทุกทีเลย”ร่างบางเอ่ยเหนื่อยก่อนเดินไปยังสวนข้างบ้านเพื่อนไปหาพ่อที่คงอยู่ตรงสวนสนทนากับลุงพลอยู่เป็นแน่
“พ่อฮะ แม่ให้มาตาม”ร่างบางเอ่ยเมื่อเห็นพ่อของตนที่นั่งสนทนากับลุงกองพลเจ้าของบ้านหลังนี้เรื่องข่าวสารบ้านเมืองต่างๆอย่างสนุก อันที่จริงตนรู้ว่าหากมาเรียกตอนนี้กว่าจะไปก็คงรออีกนานร่างบางจึงเดินเข้าบ้านไปตามน้องชายข้างบ้านที่วันนี้มีเพื่อนมาด้วยให้ไปทานข้าว
“น่าน.......อ่าวเค หวัดดีจ๊ะ”ร่างบางเอ่ยทักรุ่นน้องของตน ความจริงต้นหลิวเองก็แอบชอบรุ่นน้องคนนี้มาหลายปีแล้วเพราะว่าเวลาเขามีเรื่องไม่สบายใจก็จะมาปรึกษารุ่นน้องคนนี้ตลอด
น่านฟ้าที่กำลังจะเดินกลับเข้าห้องมาเล่นเกมต่อก็ชะงักเพราะเห็นพี่ชายข้างบ้านเดินเข้าไป เขาจึงตัดสินใจไม่เขาไปดีกว่าเพราะเขาได้เตรียมตัวไว้แล้ว เคเองก็คงรู้ดี
“น่านล่ะจ๊ะ”ร่างบางเอ่ยถามรุ่นน้องที่นั่งอยู่บนเตียงที่ในมือกำลังถือจอยเกมตัวใหม่ล่าสุดอยู่ ใช่ว่าบ้านนี้ตามใจลูกชายนะ แต่ญาติที่เทียวไปเทียวมาอเมริกาซื้อมาฝาก เขาเองก็ได้ของฝากจากบ้านนี้บ่อย จึงรู้ว่าใครซื้อมาให้
“พี่หลิว....”ร่างสูงลุกพรวดเดินมาประจันหน้ากับร่างบางที่หน้าเหวอไปจนเกือบหงยาหลัง แต่ยังดีที่ร่างสูงรับไว้ทัน
“มะ...มีอะไร”ร่างบางถามเสียงตะกุกตะกัก
“ผมรักพี่ รักมานานมากแล้วด้วย แล้วผมก็ทนไม่ได้ด้วยที่เห็นพี่ไปคบกับคนอื่น”
“อะไรกันอย่ามาล้อพี่เล่นน่า”
ปากเถียงไปงั้นแต่ใจเต้นจนแทบจะอกมาอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว....
“ผมไม่ได้ล้อพี่เล่น ผมอยากถามพี่ว่า พี่เคยรักผมหรือเปล่า หรือที่มาทำดีเพราะแค่อยากตอบแทนที่ช่วยพี่ในหลายๆเรื่อง”
“คือ.........”
“ตอบผมมสิ!”ร่างสูงตะคอกใส่จนร่างบางกลัวตัวสั่น เขาเองก็ตกใจเช่นกันที่ตนเองทำเช่นนั้นจนต้องกอดปลอบคนตัวเล็กเบาๆ
“ผมขอโทษครับ คือ......”ยังไม่ทันพูดจบร่างบางก็เอ่ยออกมาจนทำให้เขาแทบจะกระโดดเอาหัวโหม่งเพดาน
“พี่รักเคนะ.......”
“อะไรนะครับ”ร่างสูงที่แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเอ่ยถามซ้ำเพื่อย้ำว่าเขาไม่ได้ฝันไป
“พี่บอกว่า พี่ รัก เค นะครับ”ร่างบางเอ่ยเน้นคำ
“ผมฝันอยู่แน่เลย”
“ไม่ได้ฝัน แล้วทำยังไงถึงจะเชื่อน้า....”ร่างบางลากเสียงยาวๆก่อนที่ริมฝีปากของร่างสูงจะประทับลงไปบนริมฝีปากสีกุหลาบนั่น
“เชื่อแล้วครับว่าผมไม่ได้ฝัน”ร่างสูงเอ่ยพลางกอดร่างบางเอาไว้แน่น
“แล้วพี่จะเอาไงต่อ เรื่องพี่โม”ร่างสูงเอ่ยถามเสียงอ่อยๆเพรากลัวว่าถ้าเกิดพี่เขาจะยังคบกับพี่โมเดิร์นแล้วเขาจะทำอย่างไรดี
“พรุ่งนี้ พี่จะไปบอกเลิกเขา”
“หมายความว่า....”
“พี่จะมาคบกับเราไง ในเมื่อพี่รักเค เคก็รักพี่ เราก็คบกัน มันไม่เห็นจะแปลก”
“แฟนใครวะ น่ารักจัง”
“แฟนเคไง......”
ในที่สุด ก็เจอสักทีสินะคนที่ตามหา........
ตกเย็น (ณ บ้าน รัตนไพศาล)
“มาแล้วๆ”ร่างสูงที่ลงมาพร้อมกับร่างบางที่เพิ่งคบกันหมาดๆจูงมือคนรักลงมาทานข้าว
“นี่ตกลง คบกันแล้วใช่ป่ะ?”ร่างบางถามอย่างสงสัย
“อือ.......”ต้นหลิวตอบเบาแล้วยิ้มให้กับน้องชายข้างบ้านส่วนไอ้พี่ชายคนโตที่นั่งดูดน้ำอย่างไม่สนใจว่ามันจะเสียมารยาทหรือเปล่าก็หันมาหาน้องชายตัวเองแล้วยิ้มให้ประมาณว่า ‘พี่รู้เรื่องจากไอ้น่านแล้ว’
“น่านบอกพี่โอ๊คหรอ?”ร่างบางเอ่ยถามอย่างสงสัยก่อนจะกระจ่างเมื่อร่างบางพยักหน้า
“ปากไวนะเรา”ร่างบางบอกก่อนนั่งลงตรงที่นั่งประจำ
“โห พี่เรื่องดีๆอย่างนี้มันต้องบอกใช่ป่ะ”ร่างบางเอ่ยก่อนรินน้ำลงแก้ว
“แล้วเมื่อไหร่เราจะมีเรื่องดีๆกับเขาบ้างล่ะน่าน ชอบไอ้สนมันมาตั้งหลายปี เมื่อไหร่จะบอกฮะ”เจ้าพี่ชายตัวแสบที่นั่งดูดน้ำจนหมดแก้วเอ่ยถาม
“โห่......พูดงี๊ไปต่อไม่ถูกเลยอ่ะงั้นเดี๋ยวผมไปช่วยแม่ก่อนนะ.”
“จ้าๆ แหม......”
“พี่หลิว พรุ่งนี้ผมมารับนะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปกลับเองดีกว่านะ เราก็ไปเจอกันอีกที มหาลัยเลยไง สอบเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ”
“ครับ เดี๋ยวก็จะต่อมหาลัยเดียวกับพี่นี่แหละ”
“แล้วรู้หรือเปล่าว่าน่านจะเรียนต่อไหน”ร่างบางเอ่ยถามถึงน้องชายข้างบ้านที่เคยเปรยๆไว้ว่าจะเรียนต่อที่เดียวกับเขาเพราะพวกบ้านเขานั้นเรียนต่อที่เดียวกันทั้งหมด
“ไม่รู้สิครับ มันคงเรียนต่อที่เดียวกับผมนั่นแหละครับ เห็นมันคุยๆอยู่ว่าถ้าจบจะเรียนต่อที่เดียวกับพวกพี่ๆ”
“อื้ม......”
“มาแล้วๆ อาหารมาแล้วครับ”ร่างบางเอ่ยพลางวางจารอาหารต่างๆที่ตัวเองถือช่วยมา
“ปลาทอด น่องไก่ ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ ผัดเปรี้ยวหวาน ย้ำวุ้นเส้น ของโปรดของพวกพี่ๆทั้งนั้นเลยนะเนี่ย.....”ร่างบางเอ่ยบอกก่อนนั่งลง
“แล้วนี่เมื่อไหร่พี่สนจะมาเนี่ย นี่คนอื่นเขารอกินอยู่นะเนี่ย”ต้นหลิวบ่นอุบก่อนเสียงทุ้มๆของพี่ชายตัวเองจะแว่วมาแต่หน้าบ้าน
“นินทาอะไรพี่ห๊ะหลิว......”ร่างสูงเดินเข้ามานั่ง โดยมีสาวร่างเล็กในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันเดินตามเข้ามา
“พี่สนคะ แล้วแพตตี้จะนั่งตรงไหนคะ?”เสียงแหลมๆของนักศึกษาสาวที่เดินผ่านหัวพี่ชายและผู้ใหญ่เข้ามาโดยไม่ทักทาย
“มานั่งนี่มา เออ...นวลเตรียมจานมาให้แพตตี้อีกชุดนะ”
”ค่ะคุณสน”แม่บ้านขานรับก่อนเดินหายเข้าไปในครัว
“เออ..นี่ พ่อกับแม่พี่จ๊ะ แม่ครับพ่อครับนี่แพตตี้แฟนผมเองครับ”
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”
เพล้ง!
“น่าน! เป็นไร?”ต้นหลิวหันมาหาน้องชายข้างบ้านที่กำลังเดินไปหยิบน้ำมารินให้แต่เมื่อได้ยินแจกันรินน้ำถึงกับตกเลยทีเดียว
“ปะ....เปล่าครับ”ร่างบางเอ่ยบอกกก่อนเดินเข้าไปในครัวแล้วออกมาพร้อมกับแจกันใบใหม่และผ้าขี้ริ้วอีกผืน
“น่านไม่ต้องเช็ดก็ได้จ๊ะ ติ๋มๆ มาเช็ดให้หน่อยนะ”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
ในขณะรับประทานอาหารน่านฟ้าไม่คุยกับใครเลยๆทั้งๆที่คนตรงหน้ากับแฟนสาวและคนอื่นๆคุยกันอย่างสนุกสนานที่แรกก็กะจะขอตัวกลับบ้านแล้วแต่กลัวเสียมารยาทเพราะลุงต้นกับป้าน้ำอยู่ด้วยเลยทานไปนิดหน่อย แต่อันที่จริงความหิวมันหมดลงตั้งแต่พี่สนบอกว่าคนที่มาด้วยคือแฟนสาวแล้ว
“เอ่อ......คือผมอิ่มแล้ว...ขอตัวนะครับ”
“เดี๋ยวสิ.....น่านอยู่ทานของหวานหน่อยสิ”ร่างสูงเอ่ยบอกแต่ตอนนี้เขาไม่พร้อมจะเจอใครทั้งสิ้นรวมทั้งคนที่เรียกเขาเมื่อครู่ด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอิ่ม......”สิ้นเสียงร่างบางก็เดินกลับบ้านไปทันที
หลังจากทานอาหารเสร็จแพตตี้ก็ขอตัวกลับไปทันทีเพราะที่บ้านโทรตามต้นสนเลยไปส่งหน้าปากซอย
“ไอ้สน...”ต้นโอ๊คเรียกน้องชายตัวเองที่เพิ่งกลับเข้าบ้านมาหาตนตรงห้องรับแขกที่มีคนอื่นๆอยู่ด้วยยกเว้นน่านฟ้า
“พี่สน พี่รู้มั้ยว่าพี่ทำอะไรลงไป”ต้นหลิวเริ่มตามด้วยเคที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
“เพื่อนผมมันแอบรักพี่มาตั้งนานนี่พี่พาแฟนมากินข้าวบ้านแบบนี้ นี่พี่ทำอะไร”
“เออ ถ้าเกิดน่านมันเสียใจแล้วคิดสั้นมึงจะทำไง”ต้นโอ๊คเสริม
“พี่โอ๊ค เข้าใจนะว่าอยากมีส่วนร่วม แต่ช่วยคิดอะไรให้มันสร้างสรรค์กว่านี้ได้มั้ย?”ต้นหลิวเอ่ย
“หยุดๆ นี่พวกเราน่ะคิดอะไรกันมันจะเป็นไปได้ยังไง น่านมันจะมาชอบผมได้ยังไงในเมื่อผมก็เป็นผู้ชายมันก็เป็นผู้ชาย มันจะมาชอบผมได้ยังไง ถึงแม้มันจะชอบผมแต่ผมก็ชอบมันไม่ได้หรอกเพราะผมกับมันเป็นผู้ชาย”ต้นสนเอ่ยแต่ไม่รู้ว่าคนที่ถูกกล่าวถึงยืนอยู่ด้านหลัง....
“ผมเข้าใจแล้ว....ฮึก....ผมเข้าใจแล้วครับ.....”น่านฟ้าที่ยืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เริ่มสนทนาออกมาจากที่ซ่อนทั้งน้ำตา
“นะ...น่าน...คือ..พี่คือว่าพี่ไม่ได้......”ต้นสนพยายามอธบายแต้ร่งเล็กก็ไม่ฟังเสียแล้ววิ่งกลับบ้านไปด้วยความเสียใจ
ถ้าไม่รักกัน.....ก็ไม้ตองบอกก็ได้ ผมเข้าใจดี
............................................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น