ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แล้วนายจะต้องรักฉัน khundong

    ลำดับตอนที่ #3 : chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 56


     

    เช้ารุ่งขึ้น

    ป๊อก!

     

    “อือ...” ผมตื่นขึ้นมาอย่าสะลึมสะลือ แก้มข้างซ้ายของผมยังคงบวมเป่ง เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าผมไม่ได้ฝันไป

     

    ป๊อก!

    “ใครเอาก้อนหินมาเขวี้ยงหน้าต่างบ้านฟร๊ะ”

    ผมลุกขึ้ยจากที่นอนด้วยความหงุดหงิด แล้วเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อจะดูว่าไอ้บ้าที่ไหนเอาก้อนหินมาเขวี้ยงใส่กระจกห้องผม

     

    ฟิ้ววววววว

    ทันทีที่ผมเปิดหน้าต่างออก ก้อนหินก้อนเล็กๆก็ลอยพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแรงม้า

    ป๊อก!

    “โอ๊ยยย” ผมลูบหน้าฝากที่ปูดโนเป็นลูกมะนาวป้อยๆ

    ใครบังอาจมารอบทำร้ายผม!!

    “อ๊ะอูยอง ผมอยู่ตรงนี้”

    ผมมองลงไปด้านล่างตามเสียงตะโกน ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกำลังกระโดดโหยงเหยงเป็นผีกองกอยอยู่ด้านล่างคือไอ้บ้าชานซอง!!

     

    ไอ้ตัวซวยมาทำอะไรที่บ้านผมแต่เช้าฟร๊ะ

    “อูยอง นายรู้มั๊ยว่าวันนี้เป็นวันอะไร”

    วันตายของแกยังไงหล่ะ

     

    ตั้งแต่ผมเจอกับไอ้บ้านี่ ชีวิตผมก็เจอแต่เรื่องซวยๆไม่หยุดหย่อนโดยเฉพาะเมื่อวันงานสถาปนามหาวิทยาลัยที่ผ่านมา

    ที่ไอ้บ้านี่ได้ขึ้นไปร้องเพลงเปิดงานแต่อยู่ดีๆก็ดันหุดร้องเพลงและประกาศบอกรักผมกลางเวทีซะงั้น

    มันคิดว่ามันเป็นพระเอกละครน้ำเน่าหลังข่าวหรือไงฟร๊ะ หลังจากวันนั้นผมก็ถูกพวกยัยชะนีจองเวรองกรรมเฮ๊อออ

     

    ผมกำลังมองหาอะไรแข็งๆเขวี้ยงใส่หัวไอ้บ้าชานซองโทษฐานที่มาแหกปากหน้าบ้านแต่เช้า แถมมันยังทำให้ผมหัวโนอีก แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้หยิบอาวุธ ไอ้บ้าชานซองก็ขว้างตุ๊กตารูปเผ่ากินคน มีใบตองใบเดียวปิดจุ๊ดจู๋ ใส่หน้าผมเต็มๆ

     

    ตุ้บบบบ

     

    “ของขวัญครบรอบสิบวันของพวกเรา ^^

     

    ปุดๆ นายอยากได้ของขวัญครบรอบวันตายของนายมั๊ยชานซอง -_-              

     

    “จริงสิ! นายมีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ผู้ชายที่หล่อหล่อโคตรๆอ่ะ ไม่ต้องมาใช้ฉันบังหน้าเลยนะ”

     

    “ไม่ใช่นะ! ชานไม่มีแฟน ชานรักแค่อูยองคนเดียว ซารังแฮโยยยยย”

     

    ผมมองไอ้บ้าชานซองที่ทำหน้าแอ๊บแบ๊ว แล้วทำแขนโค้งๆเป็นรูปหัวใจด้วยความอ่อนใจ -_-

    นี่มันดวรกรรมอะไรของผมวะ ถึงต้องตื่นมาดูอะไรที่มันเสียสายตาแต่เช้าแบบนี้ T^T

     

     

     

     

     

    หลังจากที่ผมไล่ตะเพิดไอ้บ้าชานซองออกจากหน้าบ้านได้แล้ว ผมก็ล่างหน้าแปรงฟันแล้วลงไปกินข้าวข้างล่าง

     

    “หะเหวอออออ ผีหลอกกก”

    ทันทีที่จุนโฮพี่ชายฝาแฝดเห็นแก้มอันบวมเป่งของผมพี่แกก็ร้องแหกปากซะลั่นบ้าน

     

    “ผมไม่ใช่ผีนะเฮีย”

     

    “ม๊าฮะ ผมเห็นหน้าเฮียด้งแล้วกินข้าวไม่ลง”

    ไอ้จินอุนน้องชายวัย15ที่มีปัญญาเหมือนเด็ก8ขวบ หันหน้าหนีผมทันทีที่ผมเดินมาร่วมโต๊ะ

    ไอ้เด็กเวรนี่ท่าทางจะอยากโดนควายธนูยัดปาก

     

     

    หลังจากที่มื้อเช้าสุดเฮงซวยผ่านไป ผมก็เดินตามเฮียจุนโฮเข้าไปในห้องเพราะต้องการถามเรื่องเนื้อคู่สุดหล่อทั้งสามที่เจอเมื่อวาน บังเอิญผมเพิ่งคิดได้ว่าเฮียแกก็มีวาสนาได้เรียนมหาลัยไฮโซนั่นเหมือนกัน

     

    ก๊อกๆๆ

     

    “เฮียเปิดประตูหน่อย อั๊วมีเรื่องจะถาม”

    “มีไรก็ว่ามา อั๊วไม่ให้ลื๊อเข้าห้องหรอก”

     

    แกรกกก

     

    ที่มันเสียงล็อคประตูนี่หว่า -0-

     

    “เง๊ออออ เฮียทำไมทำแบบนี้อ่ะ”

     

    “แกชอบทำข้าวของในห้องเฮียพัง คราวก่อนก็เอาตุ๊กตาหมีปชำแหละห้อง แล้วเอาปลัดขิกยัดไว้!

     

    “นั่นอั๊วช่วยให้เฮียมีแต่คนรักต่างหากเล่า ><

     

    “มีแต่คนรักอะไรล่ะ พออั๊วได้นอนกอดตุ๊กตาหมีปลัดขิกนั่นวันต่อมาอั๊วก็โดนไอ้ ซึลอง บอกเลิกทันที”

     

    ไอ้ซึลองไม่ใช่ชื่อแมวที่ไหน แต่เป็นชื่อแฟนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายของเฮียนั่นเองและมันก็ทิ้งเฮียเพราะหลงเสน่ห์ยัยชะนีนมโตตะหากเล่า ไม่ใช้น้องหมีปลัดขิกของผมซะหน่อย

     

     

    “ไม่เข้าก็ได้ แต่ขอถามอะไรหน่อย เฮียรู้จักผู้ชายสามคนี่หล่อๆมั๊ยอะรู้สึกว่าจะชื่อ นิดชา นิดชะ นิดชี่ โอ๊ยยยยนึกไม่ออกโว๊ยยย”


    “นิชคุณ!!

     

    “เออเฮียนั่นแหล่ะๆ นิชคุณ”

     

    แอ๊ดดดด

     

    “อย่ายุ่งกับคนพวกนั้นเด็ดขาด!!

    เฮียโฮเปิดประตูพรวดพราด แถมยังทำหน้าตื่นอย่างกับว่าถูกหวยรางวัลที่1

     

     

    “แทคยอน นิชคุณ แจบอม ไอ้สามตัวนี้มันเป็นตัวอันตรายสุดๆ ถ้าไม่อยากตายให้อยู่ห่างจากคนพวกนี้ซะ ที่เฮียเห็นแกเป็นน้องนะถึงได้เตือนด้วยความหวังดี”

     

    ปัง!

     

    แล้วไอ้เฮียก็ปิดประตูใส่หน้าผมเต็มๆ

     

     

     

    ผมเดินกลับเข้ามาในห้องด้วยอารมณ์เซ็งจิต ผมสุดท้ายไอ้เฮียโฮก็พึ่งอะไรไม่ได้เลย อ๊ะ แต่อย่างน้อยผมก็ได้รู้ชื่อของไอ้หล่อสามคนนั้น แทคยอนคือหัวหน้าเผ่าที่ร้ายกาจแบบสุดๆ นิชคุณคือผู้รูปหล่อจอมเย็นชาที่ต่อยหน้าผม ส่วนแจบอมคือไอ้หน้าหล่อผู้น่ารักที่คิดจะมัดผมไว้กับไอ้พวกปลากะโห้

     

    กึกๆ กึกๆ

     

    ผมหันไปมองทางต้นเสียง ขลุ่ยสีดำสนิทกลับมามีขนาดใหญ่เท่าเดิมแถมยังสั่นกึกๆอยู่บนโต๊ะหนังสือรกๆของผมอย่างบ้าคลั่ง

     

    “เป็นบ้าอะไรของแกฮะ หรือว่าหิว เป็นขลุ่ยต้องกินข้าวด้วยหรอ??” (ดูมัน -_-)

    ผมตะโกนถามแล้วไอ้ขลุ่ยมันก็ดันบ้าจี้ตอบด้วยการสั่นกึกๆยิ่งกว่าเดิม ผมจึงเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วหยิบมันขึ้นมาด้วยความตั้งใจอย่างสูงว่าจะโยนมันออกไปนอกหน้าต่าง -_-

     

    แต่แล้วความตั้งใจของผมก็หายไป เพราะเสียงทำนองประหลาดที่ฟังแล้วประสามจะแดรกดังก้องเข้ามาในหูอีกครั้ง

    มือของผมจับขลุ่ยขึ้นมาเป่าตามท่วงทำนองที่ได้ยินอย่างไม่รู้ตัวแล้วห้องทั้งห้องก็ดูโครงเครงก่อนที่ทุกอย่างในห้องจะดับวูบไป...

    พรึ่บบบ...

     

    ตู้มมม!!

     

    นี่ไม่ใช่เสียงระเบิด ไม่ใช่เสียงซาวด์ ไม่ใช่เสียตด แต่มันคือเสียงผมตกน้ามมมมมมม

     

    อ๊ากกกกก ใครก็ได้ช่วยด้วยผมว่าน้ำไม่เป็นนนน

    น้ำคลอรีนที่ผมเผลกกินไปอึกใหญ่ ทำให้ผมสำลักขึ้นจมูกอุณภูมิที่เย็นเฉียบทำให้ขาของผมเป็นตะคริว

     

    “ชะช่วยด้วย”

     

    แรงของผมเริ่มจะหมดลงไปเรื่อยนี่ผมกำลังจะตายจริงๆใช่ไหม ไม่นะ ผมยังไม่รู้เลยว่าเนื้อคู่ของผมเป็นใคร แทคยอน... แจบอม... หรือว่า...

     

    นิชคุณ!

    ใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตรฉายชัดอยู่ตรงหน้า แข็นอันแข็งแกร่งของเขารวบเอวของผมไว้ก่อนจะพาขึ้นมาพ้นผิวน้ำ

     

    “แค่กๆ”

    นิชคุณพยุงผมขึ้นจากสระน้ำ แล้ววางร่างของผมลงบนพื้น

     

    แปะๆ นิชคุณ ตบแก้มผมเบาๆ เพื่อเรียกให้รู้สึกตัว

     

    “จะ เจ็บ”

    เสียงที่เปร่งออกไปของผมมันช่างเบาราวกับเสียงกระซิบ

     

    “เจ็บตรงไหน”

    นิชคุณก้มหน้าลงมาฟังใกล้ๆ

     

    “กะแก้ม”

    แผลเก่าที่โดนต่อยยังไม่หายเจ็บเลย แล้วเมื่อกี๊ยังมาตบแก้มผมอีก

     

    “แก้มนายกระแทบหรอ”

     

    น้ำเสียงเย็นชาของนิชคุณแฝงไปด้วยความเป็นห่วง มือใหญ่ลูบแก้มของผมเบาๆ เพื่อสำรวจร่องรอยฟกช้ำ

    อ๊ะ เดี่ยวก่อนฉากแบบนี้เหมือนเคยเห็นในละครน้ำเน่าบ่อยๆนะที่พระเอกช่วยนางเอกขึ้นมาจากน้ำแล้วจากนั้นก็ ผายปอดจูจุ๊บแอร๊ยยยยย ผมหลับตาปี๋ทำปากจู๋รอรับจูบจากนิชคุณ

     

    “นาย...”

    นิชคุณก้มหน้าลงมาใกล้ๆ หยดน้ำที่อยู่บนหน้าของเขาหยดใส่หน้าผม ของใจของผมเต้นถาแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมหายใจติดขัดเพราะความตื่นเต้น มือใหญ่ที่อบอุ่นของเขาลูบหัวผมเบาๆก่อนที่เสียงเย็นยะเยือกจะหลุดออกมาจากปากคนตรงหน้า

     

     

     

     

     

    “สมองนายก็โดนกระแทกด้วยหรอ -_-

     

     

    TBC

     

     เย๊ๆๆจบไปอีกหนึ่งตอนแย๊ววววววว

    ชี้แจงficเรื่องนี้ไรท์มีแรงบรรดาลใจจากนิยายเรื่องหนึ่งที่ประทับใจมากกกกเลยอยากจะลองมาแต่งแนวแบบนี้ดูอิอิ

    แต่ไม่ค่อยเห็นคอมเม้นเลยอ่าน้อยใจนะ

    อ่านจบแล้วอย่าลืมเม้นน๊า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×