ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rise of The Wind คมดาบสายลมพิทักษ์

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : The Wind's Visitor

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 57



    Chapter 2 : The Wind’s Visitor

     

    “ยินดีต้อนรับกลับค่า/ครับนายหญิง!

    พนักงานของร้านคินคาเสะทุกคนออกมายืนต้อนรับมิคังที่หน้าประตูกันอย่างพร้อมเพรียง มีเด็กสาวสามคนและเด็กหนุ่มอีกสองคน

    “กลับมาแล้วค่ะทุกคน” มิคังกล่าวอย่างสุภาพ

    ร้านคินคาเสะ เป็นร้านอาหารที่มีลักษณะเฉพาะของตนเอง โดยมิคังเรียกมันว่า อาหารสไตล์แดนอาทิตย์อุทัย ตั้งอยู่ที่เมืองหลวงของเขตสอง จุดเด่นคืออาหารจานหลักที่ประกอบไปด้วยข้าวหรืออาหารเส้น และกับข้าวที่ทำจากปลา เนื้อสัตว์ ผัก และเต้าหู้ ปรุงรสชาติด้วยเต้าเจี้ยวที่หมักแบบเฉพาะของร้าน เรียกว่า มิโสะ ซอสรสเค็มกลมกล่อมที่เรียกว่า โชยุ รวมไปถึงวัตถุดิบสีเขียวอ่อนอันมีกลิ่นฉุนขึ้นจมูกและรสชาติที่เผ็ดตรึงใจ เรียกว่า วาซาบิ นอกจากนี้ยังมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านอีกหลายอย่างเช่น ข้าวที่ปั้นพอดีคำวางทาบด้วยเนื้อปลาดิบแล่บาง ซึ่งเรียกว่า ซูชิ และน้ำซุปรสชาติหอมกลมกล่อม ประกอบด้วยผัก เต้าหู้ และสาหร่าย เรียกว่า ซุปมิโสะ

    พื้นที่ของร้านคินคาเสะนั้นกินบริเวณกว้างสองช่วงตึก ล้อมด้วยรั้วที่ทำจากไม้ไผ่ ตัวอาคารเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว แบ่งออกเป็นหลายๆ ห้อง มีระเบียงด้านนอกที่ปูด้วยพื้นไม้สีเข้ม รอบตัวอาคารเป็นสวนสไตล์แดนอาทิตย์อุทัย ประดับไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ บ่อน้ำที่ตกแต่งรอบๆ ด้วยหินน้อยใหญ่ และที่โดดเด่นที่สุดคือต้นไม้ใหญ่ที่ออกดอกสีชมพูอ่อนทั้งต้น ชื่อว่า ต้นซากุระ ซึ่งด้วยวิทยาการตัดต่อพันธุกรรมของโมโทรโปลิสจึงสามารถทำให้มันคงสภาพดอกเต็มต้นเช่นนี้ไปตลอดปี

    ถ้าเทียบกับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่โดยรอบ ทั้งอาคารคอนกรีตและตึกสูงระฟ้าล้ำสมัย ร้านคินคาเสะก็ราวกับเป็นสถานที่ซึ่งหลุดออกมาจากอีกยุคสมัยหนึ่งเลยทีเดียว

    เมื่อกลับมาถึง ยุยก็ไปที่ห้องแต่งตัวของพนักงานพร้อมกับพนักงานคนอื่นๆ ส่วนมิคังก็เดินผ่านห้องครัวเพื่อไปยังห้องพักส่วนตัวของเธอที่อยู่ด้านในสุด ระหว่างที่เดินผ่านห้องครัวนั้นเอง มิคังก็ชะงักฝีเท้า ยืนนิ่ง และมองเข้าไป...

    ชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าเตาไฟ เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายคนนั้นหันมาหามิคังพอดี ตาของทั้งสองจึงประสานกัน

    “ยินดีต้อนรับกลับครับคุณมิคัง”

    เขาเป็นชายอายุราวๆ สามสิบกว่า รูปร่างสูงใหญ่ ผมสีดำแลดูยุ่งเหยิงราวกับไม่สนใจที่จะหวีให้เรียบร้อย ใบหน้าคมสัน ดวงตาคมฉายแววอ่อนโยน ขนตายาวงอนแม้จะเป็นผู้ชาย ไว้เคราเล็กน้อยพองาม ดูจากความเรียบร้อยแล้วเขาน่าจะให้ความสำคัญกับการตัดแต่งเครามากกว่าทรงผมของตัวเองเสียอีก

    “กลับมาแล้วค่ะ คุณสุริยะ”

    รอยยิ้มอันเจิดจรัสของหญิงสาวนั้น ราวกับเปล่งประกายออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของเธอ...

    ...ที่มอบให้แก่ชายคนนี้เพียงผู้เดียว

     

    ...........................................................................................

     

    “เป็นไงบ้างจ๊ะยุ้ย เดทกับนายหญิงวันนี้”

    พนักงานสาวคนหนึ่งเอ่ยถามยุยขณะอยู่ในห้องครัว ซึ่งแท้จริงแล้วเธอมีชื่อว่า ยุ้ย แต่มิคังกลับเรียกชื่อเธอด้วยสำเนียงบ้านเกิดของเจ้าตัวจนกลายเป็นยุย รวมไปถึงชื่อของคนอื่นๆ ในร้านบางคนที่ออกเสียงยากด้วย

    “แหม...พี่เอลลี่ เดทอะไรกันคะ แค่ไปซื้อวัตถุดิบ...” ยุ้ยตอบกลับ

    “เธอน่ะโชคดีนะ นานๆ ทีนายหญิงถึงจะอารมณ์ดีพาพวกเราไปซื้อของด้วย แต่เธอทำงานมาแค่สองอาทิตย์นายหญิงก็ชวนไปแล้ว” พนักงานสาวอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

    “งั้นเหรอคะพี่อันนา”

    “ว่าแต่ไปที่ไหนกันมาบ้างล่ะ เล่าให้พวกพี่ฟังบ้างสิ”

    “ไปเมืองดีพวอเทอร์มาน่ะค่ะ”

    ขณะที่สาวๆ กำลังสนทนากันเพลินๆ นั้น ประตูห้องครัวก็เลื่อนเปิดออก นายหญิงมิคังอยู่ชุดเสื้อคลุมยาวที่มีแขนกว้างสีชมพูเข้ม มีลวดลายเป็นรูปดอกซากุระสีทอง พันรอบเอวด้วยผ้าที่เรียกว่าสายโอบิเพื่อรัดให้เสื้อคลุมอยู่คงที่ สวมถุงเท้าสั้นสีขาวและรองเท้าสาน ชุดอันสวยงามนี้มีชื่อว่า กิโมโน

     

    “เอาล่ะ เลิกโอ้เอ้ได้แล้ว ลูกค้ากำลังรออาหารของเราอยู่นะ แสดงฝีมือให้เต็มที่เลย!

    “โอ้~!!!

    ราวกับเป็นคำประกาศิต พนักงานทุกคนดูกระฉับกระเฉงขึ้นทันตา

    “อันนะจังคุมไฟอย่าให้หม้อต้มหัวไชเท้าเดือดเด็ดขาดนะ”

    “ค่ะ!

    “เอริจังหั่นต้นหอมเตรียมไว้ให้ที”

    “ได้ค่ะ!

    “มิงบุนคุงข้าวสุกรึยังคะ”

    “สุกแล้วครับนายหญิง”

    “สุกียากี้เต้าเจี้ยวเสร็จแล้วครับ”

    “ยุยจังยกไปเสิร์ฟที่ห้องสีแดงที”

    “ค่ะนายหญิง!

    คำบัญชาและบารมีแห่งนายหญิง ช่วยขับเคลื่อนฟันเฟืองทุกชิ้นของร้านคินคาเสะ ให้เริ่มหมุนอย่างเข้าที่เข้าทาง เพื่อสรรค์สร้างสุดยอดแห่งอาหารที่จะตราตรึงในหัวใจของผู้คนไปตราบนานเท่านาน

     

    ...........................................................................................

     

    “คุณมิคัง ลูกค้าสั่งซูชิรวมหนึ่งที่ค่ะ” พนักงานสาวที่ชื่อเอลลี่เอ่ยบอกนายหญิงของเธอ

    “ได้เลย”

    มีดแล่ปลาอันคมกริบเฉือนหั่นเนื้อปลาแล่ออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างประณีตและสวยงาม ทั้งความรวดเร็วและลีลาในการตวัดมีดช่างดุดันทว่างดงามในที ยากจะหาผู้ใดเทียบเท่าความงดงามของนายหญิงผู้นี้

    “เอ่อ...คุณมิคังคะ ลูกค้าที่สั่งซูชิรวมเมื่อกี้เขาขอพบคุณมิคังด้วยค่ะ”

    “ขอพบฉัน?”

    “เขาบอกว่าชื่อโกสต์ ค่ะ”

     

    หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง มิคังก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับถือถาดซูชิรวมมาเสิร์ฟให้กับแขกที่ไม่ได้เจอกันมานานถึงสามปี ซึ่งกำลังนั่งเอกเขนกอยู่บนเบาะรองนั่ง

    ดีครับ เจ๊มิคัง”

    เขาเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสมส่วน อายุประมาณยี่สิบปี ผมสีดำตัดสั้นเรียบร้อยยกเว้นปอยเส้นผมที่ชี้ขึ้นเป็นเสาอากาศสองข้างจนดูเหมือนเขาแพะ ใบหน้ากลมมนรูปไข่ ดวงตาเรียวเล็กและนัยน์ตาสีน้ำตาลแลดูไม่มีพิษมีภัย รอยยิ้มร่าเริงปรากฏบนใบหน้าเมื่อได้เจอกับหญิงสาวที่ไม่ได้พบกันมานาน

    “สวัสดี โกสุโตะคุง” มิคังกล่าว

    “โห...เจ๊ใส่ชุดสวยจัง แต่งหน้าซะด้วย” ตาเรียวเล็กของเด็กหนุ่มเบิกกว้างขึ้นด้วยความตะลึง เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวแต่งกายเช่นนี้มาก่อน ภาพในความทรงจำของเขามีเพียงสาวมาดเท่ในชุดแท็กติคอลสูทรัดรูปสีเทาพร้อมกับดาบยาวเล่มสีทองอร่าม

    “ขอบใจ นี่เรียกว่าชุดกิโมโนน่ะ...ว่าแต่ลมอะไรหอบนายมาเนี่ย”

    “พอดีผมลงเวรพอดีน่ะ ว่างอยู่สามวันครับ เดี๋ยวก็ต้องไปทำงานต่อ พอดีเห็นร้านเจ๊มีรีวิวในเน็ตด้วย ก็เลยแวะมาครับ”

    มีคนเขียนรีวิวลงอินเทอร์เน็ตด้วยเหรอเนี่ย มิคังยิ้มที่มุมปากแอบภูมิใจอยู่เล็กๆ

    “เจ๊เป็นไงบ้างครับ สบายดีไหม”

    โกสต์ถามพลางคีบวาซาบิเล็กน้อยผสมลงในถ้วยที่ใส่ซอสโชยุสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ

    “ก็สบายดี แล้วนายล่ะ”

    เมื่อถูกย้อนถาม โกสต์ก็เปลี่ยนอิริยาบถในการนั่ง เอนหลังลงแล้วยืดมือทั้งสองข้างเท้ากับพื้น ก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

    เฮ่อ เหนื่อยจังเลยครับ อยู่ที่เขตศูนย์วันๆ ก็ทำแต่งาน

    มิคังรู้ดีว่า งาน ของเด็กหนุ่มคนนี้คืออะไรจากการที่เคยร่วมงานกันมาในอดีต ถึงภายนอกจะเห็นเป็นเพียงเด็กหนุ่มท่าทางเป็นมิตร แต่จริงๆ แล้วโกสต์เป็นสมาชิกของหน่วยอเลฟซีโร่ (Aleph Zero) หน่วยจารชนพิเศษสังกัดองค์กรที่มีชื่อย่อว่า ทีโม่ (T.E.E.M.O.)’ งานของสมาชิกมีตั้งแต่การสอดแนมไปจนถึงการลอบสังหาร เป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังความมั่นคงของประเทศเมโทรโปรลิสเลยก็ว่าได้

    โกสต์คีบซูชิปลาซาบะแตะๆ ซอสโชยุแล้วนำเข้าปาก ก่อนจะทำตาโตราวกับเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ รีบกลืนซูชิคำนั้นลงคอไป

    “โอ๊ะ เกือบลืม หยงฝากนี่มาให้ครับ”

    ว่าแล้วโกสต์ก็ล้วงกระเป๋าหยิบกล่องใบเล็กที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงขึ้นมา ก่อนจะเปิดกล่องให้มิคังเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน

    “แหวน ซุเปอร์อัลตร้าไรซิ่งซันไรซิ่งริง สร้างจากวัตถุดิบพิเศษ หยงให้เจ๊เก็บไว้ใช้คู่กับดาบ อัลติเมทเอเลเมนต์ไฟเออร์ฟรีซเซอร์ธันเดอร์ ของเจ๊ครับ”

    คิ้วของมิคังขมวดเป็นปมทันทีที่ได้ยินชื่อของแหวนวงนี้ คิดไปถึงชายผู้ซึ่งสร้างดาบยาวคาตานะให้แก่เธอเพื่อใช้ทำภารกิจร่วมกับหน่วยอเลฟซีโร่เมื่อครั้งก่อน หยง ประมูล เว็บมายสเตอร์ ชายนักประดิษฐ์อัจฉริยะแห่งโมโทรโปลิส แต่กลับมีเซนส์ในการตั้งชื่อผลงานที่แปลกพิสดาร

    “ทำไมชื่อแหวนถึงมีคำว่า ไรซิ่ง ซ้ำสองคำ...ไม่สิ นั่นไม่ใช่ประเด็น...”

    ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลของโกสต์เขม็ง แรงกดดันที่แผ่ออกมาทำให้เด็กหนุ่มถึงกับเสียวสันหลังวาบ

    “ฉันวางมือแล้วนะ หยงจะสร้างของแบบนี้มาให้ฉันอีกทำไม?” มิคังกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเคร่งเครียด

    “จริงๆ แล้วคือหยงสร้างผิดครับ แทนที่ใช้แบบแปลนอาวุธที่กำลังคิดค้นใหม่ ดันหยิบผิดไปเอาแบบแปลนของแหวนที่เคยสร้างให้เจ๊มาใช้ครับ วัตถุดิบสุดยอดที่หยงได้มาเลยกลายเป็นแหวนวงนี้ซะอย่างงั้น แถมยังใช้ได้เฉพาะกับดาบที่อยู่กับเจ๊เท่านั้นด้วย หยงเลยคิดว่าเอามาให้เจ๊น่าจะดีที่สุด”

    คำตอบขอบโกสต์ทำเอามิคังแทบจะกุมขมับ นึกบ่นความเซ่อซ่าของนักประดิษฐ์สติเฟื่องอยู่ในใจ

    “เอาเถอะ ฉันจะรับไว้ละกัน ฝากขอบใจคุณหยงด้วยนะ”

    มิคังคุยสัพเพเหระกับโกสต์อยู่อีกครู่หนึ่ง ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปหลังร้าน เด็กหนุ่มก็ร้องทักขึ้น

    “อ๊ะ เจ๊มิคัง ผมขอซาชิมิแซลมอนกับซูชิเอนกาวะอีกอย่างละที่นะครับ”

    มิคังหยุดเดินแล้วหันมายิ้มให้กับเด็กหนุ่ม

    “ได้เลยพ่อหนุ่ม”

    ในที่สุดจานปลาดิบทุกจานที่เด็กหนุ่มสั่งก็ว่างเปล่า ปิดท้ายด้วยชาเขียวอุ่นๆ ที่มิคังชงและเดินออกมาเสิร์ฟให้ด้วยตนเอง

    “ชาเขียวนี่...อร่อยมากเลยครับ”

    เด็กหนุ่มวางถ้วยชาอันว่างเปล่าลงก่อนจะพูดต่อ

    “ว่าแต่...ที่นี่มีกาแฟไหมครับ?”

    “ไม่มี”

    คำตอบของมิคังทำให้โกสต์แลดูเซื่องซึมไปถนัดตา

    “ถ้างั้น...ผมคงต้องลาแล้วล่ะครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับเจ๊มิคัง”

    เด็กหนุ่มโบกมือให้มิคังก่อนจะลุกขึ้นและเดินคอตกออกจากร้านไปด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวที่ไม่ได้ดื่มกาแฟสมใจอยาก

    มิคังมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้

    “เดี๋ยว! โกสุโตะคุง เธอลืมจ่ายเงิน!

     

     

    อ่านเรื่องราวของโกสต์ได้ที่ [Call of duty : GOAT]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×