คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : The Wind's Visitor
Chapter 2 : The Wind’s Visitor
“ยินดีต้อนรับกลับค่า/ครับนายหญิง!”
พนักงานของร้านคินคาเสะทุกคนออกมายืนต้อนรับมิคังที่หน้าประตูกันอย่างพร้อมเพรียง มีเด็กสาวสามคนและเด็กหนุ่มอีกสองคน
“กลับมาแล้วค่ะทุกคน” มิคังกล่าวอย่างสุภาพ
‘ร้านคินคาเสะ’ เป็นร้านอาหารที่มีลักษณะเฉพาะของตนเอง โดยมิคังเรียกมันว่า ‘อาหารสไตล์แดนอาทิตย์อุทัย’ ตั้งอยู่ที่เมืองหลวงของเขตสอง จุดเด่นคืออาหารจานหลักที่ประกอบไปด้วยข้าวหรืออาหารเส้น และกับข้าวที่ทำจากปลา เนื้อสัตว์ ผัก และเต้าหู้ ปรุงรสชาติด้วยเต้าเจี้ยวที่หมักแบบเฉพาะของร้าน เรียกว่า มิโสะ ซอสรสเค็มกลมกล่อมที่เรียกว่า โชยุ รวมไปถึงวัตถุดิบสีเขียวอ่อนอันมีกลิ่นฉุนขึ้นจมูกและรสชาติที่เผ็ดตรึงใจ เรียกว่า วาซาบิ นอกจากนี้ยังมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านอีกหลายอย่างเช่น ข้าวที่ปั้นพอดีคำวางทาบด้วยเนื้อปลาดิบแล่บาง ซึ่งเรียกว่า ซูชิ และน้ำซุปรสชาติหอมกลมกล่อม ประกอบด้วยผัก เต้าหู้ และสาหร่าย เรียกว่า ซุปมิโสะ
พื้นที่ของร้านคินคาเสะนั้นกินบริเวณกว้างสองช่วงตึก ล้อมด้วยรั้วที่ทำจากไม้ไผ่ ตัวอาคารเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว แบ่งออกเป็นหลายๆ ห้อง มีระเบียงด้านนอกที่ปูด้วยพื้นไม้สีเข้ม รอบตัวอาคารเป็นสวนสไตล์แดนอาทิตย์อุทัย ประดับไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ บ่อน้ำที่ตกแต่งรอบๆ ด้วยหินน้อยใหญ่ และที่โดดเด่นที่สุดคือต้นไม้ใหญ่ที่ออกดอกสีชมพูอ่อนทั้งต้น ชื่อว่า ต้นซากุระ ซึ่งด้วยวิทยาการตัดต่อพันธุกรรมของโมโทรโปลิสจึงสามารถทำให้มันคงสภาพดอกเต็มต้นเช่นนี้ไปตลอดปี
ถ้าเทียบกับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่โดยรอบ ทั้งอาคารคอนกรีตและตึกสูงระฟ้าล้ำสมัย ร้านคินคาเสะก็ราวกับเป็นสถานที่ซึ่งหลุดออกมาจากอีกยุคสมัยหนึ่งเลยทีเดียว
เมื่อกลับมาถึง ยุยก็ไปที่ห้องแต่งตัวของพนักงานพร้อมกับพนักงานคนอื่นๆ ส่วนมิคังก็เดินผ่านห้องครัวเพื่อไปยังห้องพักส่วนตัวของเธอที่อยู่ด้านในสุด ระหว่างที่เดินผ่านห้องครัวนั้นเอง มิคังก็ชะงักฝีเท้า ยืนนิ่ง และมองเข้าไป...
ชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าเตาไฟ เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายคนนั้นหันมาหามิคังพอดี ตาของทั้งสองจึงประสานกัน
“ยินดีต้อนรับกลับครับคุณมิคัง”
เขาเป็นชายอายุราวๆ สามสิบกว่า รูปร่างสูงใหญ่ ผมสีดำแลดูยุ่งเหยิงราวกับไม่สนใจที่จะหวีให้เรียบร้อย ใบหน้าคมสัน ดวงตาคมฉายแววอ่อนโยน ขนตายาวงอนแม้จะเป็นผู้ชาย ไว้เคราเล็กน้อยพองาม ดูจากความเรียบร้อยแล้วเขาน่าจะให้ความสำคัญกับการตัดแต่งเครามากกว่าทรงผมของตัวเองเสียอีก
“กลับมาแล้วค่ะ คุณสุริยะ”
รอยยิ้มอันเจิดจรัสของหญิงสาวนั้น ราวกับเปล่งประกายออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของเธอ...
...ที่มอบให้แก่ชายคนนี้เพียงผู้เดียว
...........................................................................................
“เป็นไงบ้างจ๊ะยุ้ย เดทกับนายหญิงวันนี้”
พนักงานสาวคนหนึ่งเอ่ยถามยุยขณะอยู่ในห้องครัว ซึ่งแท้จริงแล้วเธอมีชื่อว่า ‘ยุ้ย’ แต่มิคังกลับเรียกชื่อเธอด้วยสำเนียงบ้านเกิดของเจ้าตัวจนกลายเป็นยุย รวมไปถึงชื่อของคนอื่นๆ ในร้านบางคนที่ออกเสียงยากด้วย
“แหม...พี่เอลลี่ เดทอะไรกันคะ แค่ไปซื้อวัตถุดิบ...” ยุ้ยตอบกลับ
“เธอน่ะโชคดีนะ นานๆ ทีนายหญิงถึงจะอารมณ์ดีพาพวกเราไปซื้อของด้วย แต่เธอทำงานมาแค่สองอาทิตย์นายหญิงก็ชวนไปแล้ว” พนักงานสาวอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“งั้นเหรอคะพี่อันนา”
“ว่าแต่ไปที่ไหนกันมาบ้างล่ะ เล่าให้พวกพี่ฟังบ้างสิ”
“ไปเมืองดีพวอเทอร์มาน่ะค่ะ”
ขณะที่สาวๆ กำลังสนทนากันเพลินๆ นั้น ประตูห้องครัวก็เลื่อนเปิดออก นายหญิงมิคังอยู่ชุดเสื้อคลุมยาวที่มีแขนกว้างสีชมพูเข้ม มีลวดลายเป็นรูปดอกซากุระสีทอง พันรอบเอวด้วยผ้าที่เรียกว่าสายโอบิเพื่อรัดให้เสื้อคลุมอยู่คงที่ สวมถุงเท้าสั้นสีขาวและรองเท้าสาน ชุดอันสวยงามนี้มีชื่อว่า ‘กิโมโน’
“เอาล่ะ เลิกโอ้เอ้ได้แล้ว ลูกค้ากำลังรออาหารของเราอยู่นะ แสดงฝีมือให้เต็มที่เลย!”
“โอ้~!!!”
ราวกับเป็นคำประกาศิต พนักงานทุกคนดูกระฉับกระเฉงขึ้นทันตา
“อันนะจังคุมไฟอย่าให้หม้อต้มหัวไชเท้าเดือดเด็ดขาดนะ”
“ค่ะ!”
“เอริจังหั่นต้นหอมเตรียมไว้ให้ที”
“ได้ค่ะ!”
“มิงบุนคุงข้าวสุกรึยังคะ”
“สุกแล้วครับนายหญิง”
“สุกียากี้เต้าเจี้ยวเสร็จแล้วครับ”
“ยุยจังยกไปเสิร์ฟที่ห้องสีแดงที”
“ค่ะนายหญิง!”
คำบัญชาและบารมีแห่งนายหญิง ช่วยขับเคลื่อนฟันเฟืองทุกชิ้นของร้านคินคาเสะ ให้เริ่มหมุนอย่างเข้าที่เข้าทาง เพื่อสรรค์สร้างสุดยอดแห่งอาหารที่จะตราตรึงในหัวใจของผู้คนไปตราบนานเท่านาน
...........................................................................................
“คุณมิคัง ลูกค้าสั่งซูชิรวมหนึ่งที่ค่ะ” พนักงานสาวที่ชื่อเอลลี่เอ่ยบอกนายหญิงของเธอ
“ได้เลย”
มีดแล่ปลาอันคมกริบเฉือนหั่นเนื้อปลาแล่ออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างประณีตและสวยงาม ทั้งความรวดเร็วและลีลาในการตวัดมีดช่างดุดันทว่างดงามในที ยากจะหาผู้ใดเทียบเท่าความงดงามของนายหญิงผู้นี้
“เอ่อ...คุณมิคังคะ ลูกค้าที่สั่งซูชิรวมเมื่อกี้เขาขอพบคุณมิคังด้วยค่ะ”
“ขอพบฉัน?”
“เขาบอกว่าชื่อ ‘โกสต์’ ค่ะ”
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง มิคังก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับถือถาดซูชิรวมมาเสิร์ฟให้กับแขกที่ไม่ได้เจอกันมานานถึงสามปี ซึ่งกำลังนั่งเอกเขนกอยู่บนเบาะรองนั่ง
“ ’ดีครับ เจ๊มิคัง”
เขาเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสมส่วน อายุประมาณยี่สิบปี ผมสีดำตัดสั้นเรียบร้อยยกเว้นปอยเส้นผมที่ชี้ขึ้นเป็นเสาอากาศสองข้างจนดูเหมือนเขาแพะ ใบหน้ากลมมนรูปไข่ ดวงตาเรียวเล็กและนัยน์ตาสีน้ำตาลแลดูไม่มีพิษมีภัย รอยยิ้มร่าเริงปรากฏบนใบหน้าเมื่อได้เจอกับหญิงสาวที่ไม่ได้พบกันมานาน
“สวัสดี โกสุโตะคุง” มิคังกล่าว
“โห...เจ๊ใส่ชุดสวยจัง แต่งหน้าซะด้วย” ตาเรียวเล็กของเด็กหนุ่มเบิกกว้างขึ้นด้วยความตะลึง เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวแต่งกายเช่นนี้มาก่อน ภาพในความทรงจำของเขามีเพียงสาวมาดเท่ในชุดแท็กติคอลสูทรัดรูปสีเทาพร้อมกับดาบยาวเล่มสีทองอร่าม
“ขอบใจ นี่เรียกว่าชุดกิโมโนน่ะ...ว่าแต่ลมอะไรหอบนายมาเนี่ย”
“พอดีผมลงเวรพอดีน่ะ ว่างอยู่สามวันครับ เดี๋ยวก็ต้องไปทำงานต่อ พอดีเห็นร้านเจ๊มีรีวิวใน’เน็ตด้วย ก็เลยแวะมาครับ”
‘มีคนเขียนรีวิวลงอินเทอร์เน็ตด้วยเหรอเนี่ย’ มิคังยิ้มที่มุมปากแอบภูมิใจอยู่เล็กๆ
“เจ๊เป็นไงบ้างครับ สบายดีไหม”
โกสต์ถามพลางคีบวาซาบิเล็กน้อยผสมลงในถ้วยที่ใส่ซอสโชยุสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ
“ก็สบายดี แล้วนายล่ะ”
เมื่อถูกย้อนถาม โกสต์ก็เปลี่ยนอิริยาบถในการนั่ง เอนหลังลงแล้วยืดมือทั้งสองข้างเท้ากับพื้น ก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“เฮ่อ เหนื่อยจังเลยครับ อยู่ที่เขตศูนย์วันๆ ก็ทำแต่งาน”
มิคังรู้ดีว่า ‘งาน’ ของเด็กหนุ่มคนนี้คืออะไรจากการที่เคยร่วมงานกันมาในอดีต ถึงภายนอกจะเห็นเป็นเพียงเด็กหนุ่มท่าทางเป็นมิตร แต่จริงๆ แล้วโกสต์เป็นสมาชิกของหน่วยอเลฟซีโร่ (Aleph Zero) หน่วยจารชนพิเศษสังกัดองค์กรที่มีชื่อย่อว่า ‘ทีโม่ (T.E.E.M.O.)’ งานของสมาชิกมีตั้งแต่การสอดแนมไปจนถึงการลอบสังหาร เป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังความมั่นคงของประเทศเมโทรโปรลิสเลยก็ว่าได้
โกสต์คีบซูชิปลาซาบะแตะๆ ซอสโชยุแล้วนำเข้าปาก ก่อนจะทำตาโตราวกับเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ รีบกลืนซูชิคำนั้นลงคอไป
“โอ๊ะ เกือบลืม หยงฝากนี่มาให้ครับ”
ว่าแล้วโกสต์ก็ล้วงกระเป๋าหยิบกล่องใบเล็กที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงขึ้นมา ก่อนจะเปิดกล่องให้มิคังเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน
“แหวน ‘ซุเปอร์อัลตร้าไรซิ่งซันไรซิ่งริง’ สร้างจากวัตถุดิบพิเศษ หยงให้เจ๊เก็บไว้ใช้คู่กับดาบ ‘อัลติเมทเอเลเมนต์ไฟเออร์ฟรีซเซอร์ธันเดอร์’ ของเจ๊ครับ”
คิ้วของมิคังขมวดเป็นปมทันทีที่ได้ยินชื่อของแหวนวงนี้ คิดไปถึงชายผู้ซึ่งสร้างดาบยาวคาตานะให้แก่เธอเพื่อใช้ทำภารกิจร่วมกับหน่วยอเลฟซีโร่เมื่อครั้งก่อน ‘หยง ประมูล เว็บมายสเตอร์’ ชายนักประดิษฐ์อัจฉริยะแห่งโมโทรโปลิส แต่กลับมีเซนส์ในการตั้งชื่อผลงานที่แปลกพิสดาร
“ทำไมชื่อแหวนถึงมีคำว่า ‘ไรซิ่ง’ ซ้ำสองคำ...ไม่สิ นั่นไม่ใช่ประเด็น...”
ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลของโกสต์เขม็ง แรงกดดันที่แผ่ออกมาทำให้เด็กหนุ่มถึงกับเสียวสันหลังวาบ
“ฉันวางมือแล้วนะ หยงจะสร้างของแบบนี้มาให้ฉันอีกทำไม?” มิคังกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเคร่งเครียด
“จริงๆ แล้วคือหยงสร้างผิดครับ แทนที่ใช้แบบแปลนอาวุธที่กำลังคิดค้นใหม่ ดันหยิบผิดไปเอาแบบแปลนของแหวนที่เคยสร้างให้เจ๊มาใช้ครับ วัตถุดิบสุดยอดที่หยงได้มาเลยกลายเป็นแหวนวงนี้ซะอย่างงั้น แถมยังใช้ได้เฉพาะกับดาบที่อยู่กับเจ๊เท่านั้นด้วย หยงเลยคิดว่าเอามาให้เจ๊น่าจะดีที่สุด”
คำตอบขอบโกสต์ทำเอามิคังแทบจะกุมขมับ นึกบ่นความเซ่อซ่าของนักประดิษฐ์สติเฟื่องอยู่ในใจ
“เอาเถอะ ฉันจะรับไว้ละกัน ฝากขอบใจคุณหยงด้วยนะ”
มิคังคุยสัพเพเหระกับโกสต์อยู่อีกครู่หนึ่ง ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปหลังร้าน เด็กหนุ่มก็ร้องทักขึ้น
“อ๊ะ เจ๊มิคัง ผมขอซาชิมิแซลมอนกับซูชิเอนกาวะอีกอย่างละที่นะครับ”
มิคังหยุดเดินแล้วหันมายิ้มให้กับเด็กหนุ่ม
“ได้เลยพ่อหนุ่ม”
ในที่สุดจานปลาดิบทุกจานที่เด็กหนุ่มสั่งก็ว่างเปล่า ปิดท้ายด้วยชาเขียวอุ่นๆ ที่มิคังชงและเดินออกมาเสิร์ฟให้ด้วยตนเอง
“ชาเขียวนี่...อร่อยมากเลยครับ”
เด็กหนุ่มวางถ้วยชาอันว่างเปล่าลงก่อนจะพูดต่อ
“ว่าแต่...ที่นี่มีกาแฟไหมครับ?”
“ไม่มี”
คำตอบของมิคังทำให้โกสต์แลดูเซื่องซึมไปถนัดตา
“ถ้างั้น...ผมคงต้องลาแล้วล่ะครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับเจ๊มิคัง”
เด็กหนุ่มโบกมือให้มิคังก่อนจะลุกขึ้นและเดินคอตกออกจากร้านไปด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวที่ไม่ได้ดื่มกาแฟสมใจอยาก
มิคังมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้
“เดี๋ยว! โกสุโตะคุง เธอลืมจ่ายเงิน!”
อ่านเรื่องราวของโกสต์ได้ที่ [Call of duty : GOAT]
ความคิดเห็น