ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (AU Fic HP Blessing) Daredevil's Strange Love (Bellatrix x OC)

    ลำดับตอนที่ #35 : Special Chapter Nitts And Mizel

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 131
      13
      27 มิ.ย. 62

    • * เนื้อเรื่องนี้เป็นเนื้อเรื่องในอดีตของเซนที่ตอนนั้นยังมีชื่อว่า ไนทท์ โยฮาร่า โรวว์ ใครที่ไม่อยากโดนสปอยเนื้อเรื่องความสัมพันธ์ก่อนที่เนื้อเรื่องหลักจะกล่าวถึงแนะนำให้ปิดตอนนี้ทิ้งซะ ด้วยความหวังดีจาก ชินะ 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทำไหมลินน่าต้องไปอยู่กับคนแบบนั้นด้วยนะ 

     

    เสียงของเด็กชายกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคนขอไปทีแต่คำพูดนั้นไปคนละทาง กำลังเดินไปที่ห้องสมุดอยู่ ผู้คนมากมายเดินผ่านไปผ่านมาแต่สีผมที่แปลกกว่าชาวบ้านและส่วนสูงที่เตี๋ยกว่าคนอื่นนั้นทำให้คนอื่นมาด้วยความแปลก เด็กชายที่เดินมาถึงห้องสมุดแล้วนั้นพอเข้าไปไม่แปลกจเลยว่าทำไหมห้องสมุดมีแต่เด็กของเรเวนคลอเต็มห้องสมุด แต่เด็กชายไม่สนใจเดินตรงไปหาหนังสือที่ตนเองสนใจแล้วหาที่นั่งที่คนไม่เยอะ 

     

    เด็กชายนั่งอ่านเป็นเวลานานและหนังสือที่กองอยู่บนโต๊ะก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงคนจะมองยังไงเด็กชายก็ไม่สนจะเรียกว่าไม่ได้รับรู้ถึงสายตาที่ส่งมาจะดีกว่าจนอยู่ๆมีอะไรบ้างอย่างให้เด็กชายหันไปมองที่หน้าประตูห้องสมุดพร้อมกับคนที่เข้ามาดันเป็นเด็กชายผู้มีเรือนผมสีบรอนแดงดูยังไงก็ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์แน่แท้และเสื้อผ้าที่ใส่นั้นเป็นของบ้านสลิธีรินอีกด้วยแต่ด้วยอะไรไม่ทราบเพราะโต๊ะที่เด็กชายนั่งนั้นดันวางเพราะตัวของเด็กชายนั่งคนเดียว ตัวอื่นๆนั้นเต็มนั้นทำให้เด็กบ้านสลิธีรินนั้นต้องมานั่งกับเด็กชาย 

     

    นั้นทำให้บรรยากาศรอบๆโต๊ะของเด็กชายนั้นเงียบยิ่งกว่าป่าช้าและพอเด็กชายมองดีก็ทำให้นึกออกมาชายคนมานั่งโต๊ะเดียวกันนั้นเป็นรุ่นพี่ของตัวเองรู้สึกจะอยู่ปีสามละมั่ง เด็กชายที่เลิกอ่านหนังสือก็ได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายจนทำให้อีกคนที่ตั้งตาอ่านหนังสือนั้นหยุดลงแล้วสบตากับเด็กชาย 

     

    มีอะไร 

     

    เสียงที่เย็นชานั้นทำให้เด็กชายที่ดูรู้ว่าอีกฝ่ายรู้แล้วตนมองนั้นได้แต่ยิ้มออกมาแต่ในใจนั้นเกิดอาการกลัวกับน้ำเสียงที่เย็นชาเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเด็กชายตั้งสินใจที่จะพูดกับคนตรงหน้า 

     

    ป่าวเหรอ แค่แปลกนะ.. 

     

    แปลก? 

     

    อีกฝ่ายทำท่าทางสงสัยในคำพูดของเด็กชายนั้นทำให้เด็กชายหัวเราะในลำคอแต่ดูเหือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเด็กชายหัวเราะ ใบหน้าที่เหมือนกับนักเลงนั้นและสายตาที่ส่งมานั้นทำให้เด็กชายหยุดหัวเราะและสบสายตาให้ 

     

    ใช่ นี้ขอเสียมารยาทจะได้ไหม 

     

    “.....” 

     

    ไร้คำตอบจากอีกฝ่ายนั้นทำให้เด็กชายยิ้มออกมาเพราะถ้าไร้คำตอบสำหรับเด็กชายแล้วนั้นถึงว่าเป็นคำตอบที่ว่า “ได นั้นเอง 

     

    อยู่คนเดียวเหงาหรือป่าว? 

     

    เด็กชายนำคางของตนมาไว้ที่มือด้านซ้ายของตนและมองดูสีหน้าที่ตกใจกับคำถาม เพราะตัวของเด็กชายนั้นเป็นคนที่ชอบสังเกตุสีหน้าของคนอื่นเป็นอย่างมากนั้นก็พอทำให้เด็กชายเหมือนอ่านใจคนได้จากทางสีหน้าถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่แสดงออกมา 

     

    ทำไหมถึงถามคำถามนั้น?” 

     

    นั้นสินะ.. แค่สีหน้าของคุณมันดูโดดเดียวละมั่งแทนการที่เด็กบ้านสลิธีรินมาคนเดียวด้วยนั้นเป็นเรื่องประหลาด” 

     

    นายนี้ประหลาดดีนะ มาถามคนอย่างบ้านสลิธีริน 

     

    อีกฝ่ายกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปที่เด็กชายแทนยิ่งประหลาดใจเพราะตอนแรกคิดว่าเด็กชายนั้นเป็นเด็กบ้านเรเวนคลอเพราะกองหนังสือที่อ่านนั้นมหาสารแต่เด็กชายดันเป็นคนที่อยู่บ้านฮัพเฟิลพัฟซะงั้น 

     

    งั้นเหรอครับ แต่จะยังไม่ตอบคำถามนี้ก็ได้นะเพราะดูเหมือนว่าจะหมดเวลาซะแล้ว 

     

    เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับเตรียมตัวลุกออกจากโต๊ะและกำลังจะเก็บกองหนังสือตรงหน้าของตัวเองแต่นั้นทำให้อีกฝ่ายกล่าวถามออกมา 

     

    นายชื่ออะไร ฉันชื่อเซล มิโอ เรนนิโค ปีสาม 

     

    ผมไนทท์ โยฮาร่า โรวว ปีหนึ่ง 

     

    การแนะนำชื่อของตัวเองนั้นเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆของไนทท์และมิเซลที่ทำให้ทั้งสองการเป็นเพื่อนสนิทข้ามชั้นปีไปเลยก็ว่าได้ถึงแม้ว่าในตอนแรกทั้งสองจะเป็นแค่คนคุยกันเท่านั้นแต่เหมือนเวลาผ่านไปก็ทำให้ทั้งสองจากคนแปลกหน้ามาเป็นเพื่อนสนิท 

     

    เวลาผ่านไปทั้งไนทท์และมิเซลต่างได้มาเจอกันและได้นั่งโต๊ะที่เดียวกันเหมือนกับโชคชะตาที่ทำให้ไนทท์และมิเซลต้องมาพบกัน 

     

    งั้นรุ่นพี่คำถามที่ผมถามไป เมื่อไรรุ่นพี่จะตอบผมละ? 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาเพราะการเจอมิเซลนั้นเป็นเวลาตั้งสามเดือนแล้วเพราะดูเหมือนว่าทุกครั้งที่ไนทท์นั่งตรงไหนเหมือนว่าโต๊ะจะเต็มทุกคนั้งและมิเซลจะต้องมานั่งกับไนทท์ แต่เมื่อไรที่มิเซลมาก่อนไนทท์พอไนทท์เข้ามาโต๊ะก็จะเต็มและนั้นต้องทำให้ไนทท์มานั่งกับมิเซลอีกด้วย 

     

    “....” 

     

    ไร้เสียงจากมิเซลนั้นทำให้ไนทท์ถอยหายใจกับคำถามที่ตัวเองนั้นอย่างจะได้จากอีกฝ่ายแต่สีหน้าของมิเซลนั้นทำให้ไนทท์ยิ้มออกมานิดหน่อย เพราะดูเหมือนว่าตัวของมิเซลจะเปิดใจให้กับไนทท์บ้างแล้ว  

     

    นั้นทำให้ไนทท์เลิกที่จะถามมิเซลและหันมาอ่านหนังสือต่อแต่ไม่รู้เลยว่าตัวของมิเซลนั้นแอบใช้สายตามองไนทท์อยู่ตลอดและยังรู้สึกแปลกใจที่ตัวของไนทท์นั้นอ่านหนังสือของปีสี่เพราะมิเซลรู้ว่าไนทท์เด็กที่นั่งฝั่งตรงข้ามตนนั้นอยู่ปีหนึ่งและพอรู้มาบ้างว่าเลือดบริสุทธิ์นั้นจะได้เรื่องรู้เนื้อหาของปีหนึ่งและปีสองแล้วแต่พอมาเห็นไนทท์มาอ่านหนังสือปีสี่เลยรู้สึกแปลกใจหน่อยๆ 

     

    ไนทท์อยู่นี้เองเหรอ?” 

     

    เสียงของผู้หญิงที่กำลังเรียกชื่อของไนทท์นั้นทำให้ตัวของไนทท์ที่กำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจนั้นหันหน้าขึ้นมาด้วยรอยยิ้มและนั้นทำให้มิเซลเห็นมาทั้งสองหน้าเหมือนกันมาแต่คงเว้นไว้อย่างหนึ่งคือส่วนสูงของเด็กหญิงและไนทท์เพราะตัวของไนทท์นั้นเตี๋ยกว่าเด็กหญิงมาก 

     

    ลินน่าเธอไม่ได้อยู่กับหมอนั้นเหรอ? 

     

    เซฟ เขาไปทำธุระกับเพื่อนนะพอดีเห็นว่านี้มันเย็นแล้วเลยจะมารับนายด้วยไนทท์” 

     

    งั้นเหรอ ลินน่าไปรอข้างนอกแปปนะเดียวผมขอเก็บหนังสือพวกนี้ก่อน 

     

    ลินน่าที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าแล้วเดินออกมาไปนั้นทำให้เหลือแค่ไนทท์และมิเซล ไนทท์ที่กำลังเก็บหนังสืออยู่นั้นได้แต่เก็บเพราะมิเซลนั้นเงียบมากจนหนังสือที่อยู่ในแขนของไนทท์กำลังตกมิเซลที่เห็นแบบนั้นก็เดินเข้าไปช่วย 

     

    เดียวช่วย อีกอย่างเด็กคนนั้นรออยู่นิ 

     

    ขอบคุณครับ 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาแต่ในใจนั้นรู้แล้วว่ามิเซลเข้าใจผิดว่าลินน่าเป็นแฟนของไนทท์แต่หารู้ไม่ว่าตัวของไนทท์กับลินน่าเป็นแฝดกัน แต่เพราะการที่มิเซลเห็นไนทท์รีบเก็บหนังสือก็คงไม่แปลกถึงแม้ในตอนแรกจะสงสัยว่าเป็นแฝดกันหรือป่าวก็ตาม 

     

    แต่เวลาก็ยังผ่านไปไม่ว่าจะหลายวัน หลายเดือนจนเป็นปี สิ่งเดียวคือการที่ไนทท์และมิเซลเป็นได้แค่คนคุยกันเท่านั้นถึงแม้ว่าทั้งสองจะเจอกันที่ห้องสมุดเหมือนเคยแต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิมเพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ค่อยเข้าหากันเท่าไร ให้ความเป็นส่วนตัวกันมาก 

     

    จนเมื่อถึงเวลาที่ไนทท์ขึ้นปีสองและมิเซลขึ้นปีสี่นั้นเองคงจะเรียกว่ามันเป็นความบังเอิญอีกก็ว่าได้เพราะไนทท์ที่ของตัวมานั่งคนเดียวและดุเหมือนคนที่ขอเข้ามานั่งด้วยจะเป็นใครไปไม่ได้คือ มิเซล รุ่นพี่บ้านสลิธีริน แต่การที่ไนทท์คนเดียวนั้นหลังจากที่มิเซลขอนั่งด้วยแล้วนั้นทำให้ตัวขอไนทท์ยิ้มหัวเราะออกมา 

     

    ฮ่าๆๆ โชคซะตาอีกแล้วสินะครับ?” 

     

    โชคชะตา?” 

     

    มิเซลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่สงสัยกับคำว่าโชคชะตาที่ไนทท์กล่าวออกมาถึงแม้ว่าตัวเองจะรู้สึกแปลกประหลาดเพราะไม่ว่าอะไรก็จะเจอไนทท์อยู่คนเดียวเสมอ 

     

    ครับ โชคซะตาที่ทำให้เรามาเจอกัน 

     

    ไนทท์ยิ้มให้แล้วหยิบตระกร้าขนมที่ตัวเองนั่งกินอยู่ยื่นไปให้กับมิเซลด้วยรอยยิ้ม ตอนแรกตัวของมิเซลนั้นไม่คิดจะหยิบมันออกมาแต่พอไนทท์พูดออกมานั้นทำให้ตัวของมิเซลนั้นหยิบ 

     

    ไม่ต้องห่วงเหรอครับ ผมไม่ใส่ยาพิษลงไปเหรอ อีกอย่างถ้าผมใส่ผมคงตายไปแล้วละ 

     

    หลังจากนั้นก็ไร้เสียงพูดคุยกันเช่นเคย ในห้องนั้นมีแต่ความเงียบถึงแม้ว่าไนทท์จะพูดเกี่ยวกับโชคชะตาไว้ก็ตามแต่ตัวของมิเซลพยายามจะไม่คิดอะไรสิ่งเดียวที่ตัวของมิเซลคิดคือ พยายามที่จะเรียนให้จบแล้วกลับไปช่วยครอบครัวทำงาน 

     

    หลังจากที่รถไฟได้มาถึงฮอกวอตส์นั้นตัวของไนทท์และมิเซลก็แยกย้ายกันเพราะนี้เป็นเวลาที่จะได้ตอนรับักเรียนปีหนึ่งที่กำลังจะมาเรียนอยู่ที่นี้ แม้จะเป็นแบบนั้นแต่ตัวของไนทท์ก็ไม่ได้สนใจมันมากนักแต่สายตายังคงจับจ้องไปมองมิเซลที่นั่งอยู่โต๊ะสลิธีรินอยู่ด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าตัวของมิเซลจะรับรู้ถึงรอยยิ้มที่ไนทท์ส่งข้ามบ้านมาก็ตาม 

     

    ไนทท์ นายจะไปยุ่งกับรุ่นพี่คนนั้นมากไปหรือป่าว?” 

     

    เสียงของลินน่านั้นทำให้ไนทท์หันกับมามองเธอที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตนด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะกล่าวคำพูดหนึ่งออกมา 

     

    เพราะมีความรู้สึกที่คล้ายกับผมตอนอยู่บ้านไงละลินน่า ผมถึงเข้าไปหาเขา รู้สึกโดดเดียว ไม่มีใครต้องการ มาทำอะไรที่นี้...” 

     

    สิ้นเสียงของไนทท์ลินน่าก็เอาไก่มาไว้ที่ปากของไนทท์ทันทีนั้นทำให้ไนทท์กินจากช้อนของลินน่าทันที 

     

    อย่าพูดแบบนี้สิไนทท์ นายยังมีฉันอยู่นะ 

     

    รู้อยู่แล้วนะ ลินน่า 

     

    จนเวลาก็ยังผ่านไปทั้งไนทท์กับมิเซลก็ไม่ได้เจอกันเพราะนักเรียนเหล่าปีสี่นั้นต้องมาจัดสถานที่เกี่ยวกับงานเต้นรำแห่งดวงดาวที่ดันมาตรงกับปีนี้พอดีนั้นทำให้ทั้งสองแทบไม่ได้เจอกันเลย 

     

    จนมาถึงค่ำคืนของงานเต้นรำแห่งดวงดาวตัวของไนทท์ได้ออกมาจากกลุ่มลินน่าเพียงเพราะไม่อยากไปทำลายความสุขของพี่สาวฝาแฝดถึงแม้ว่าในใจจะไม่ยอมรับคนที่จะอยู่กับลินน่าก็ตามแต่ไนทท์ก็เดินออกมาเจอกันมิเซลที่ยังไงก็ยังอยู่ตัวคนเดียวเหมือนเดิมไม่เหมือนกับทอม ริดเดิลที่เป็นเลือดผสมแต่มีความโดดเด่นเป็นของตนเอง 

     

    ยืนอยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอครับ รุ่นพี่?” 

     

    นายอีกแล้วเหรอ..” 

     

    ก็บอกไปแล้วนิครับว่าเป็นโชคซะตาที่ทำให้เรามาเจอกัน 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูสว่างเป็นอย่างมากสำหรับมิเซลแต่เสียงของศาสตราจารย์ดิพพิตนั้นทำให้คำพูดที่มิเซลจะกล่าวออกมานั้นไม่มี 

     

    ขอต้อนรับสู่งานเต้นรำแห่งดวงดาว ในค่ำคืนนี้จะมีความสนุกสนานและตราตรึงใจ ขอเปิดงานเลี้ยงและเชิญดวงดาวของเราออกมาเต้นรำเพื่อเปิดงาน 

     

    สิ้นเสียงเสียงปรบมือก็ดังขึ้นรวมมั้งไนทท์และมิเซลก็ร่วมกันปรบมือเด็กหนุ่มและเด็กสาวก็ออกมาด้วยการควงแขนยืนอยู่หน้าฟลอร์เต้นรำแล้วดนตรีก็เริ่มบรรเลง จนคู่อยู่ลงมาเต้นรำ 

     

    พวกเขาเหมาะสมกันดีนะครับ 

     

    ใคร?” 

     

    รุ่นพี่เทียร่า อลามานเทียร บ้านเรเวนคลอและเพื่อนร่วมบ้านของรุ่นพี่ รุ่นพี่ทอม ริดเดิล 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาเพราะทั้งสองเต้นได้มีเสน่ห์เป็นอย่างมากนั้นทำให้มิเซลที่อยู่ข้างๆไนทท์พยักหน้าตามถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนในปีเดียวกันแต่ตัวของมิเซลก็ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้างเท่าไรนัก 

     

    งั้นนายไม่ไปเต้นรำกับคู่ละ 

     

    ผมไม่มีคู่เหรอ อีกอย่างการมองลินน่าผู้เป็นแฝดเต้นกับคนอื่นยังจะดีกว่าไปเต้นรำเอง” 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาพร้อมกับยังคงจ้องมองไปยังลินน่าแฝดของตนเองที่กำลังเต้นรำกับเซฟา ไคล์ ร็อกเอล เด็กจากบ้านกริฟฟินดอร์ที่สำหรับไนทท์แล้วไม่ถูดด้วยมากที่สุด 

     

    แต่คุณอยู่คนเดียวไม่เหงาหรือไง?” 

     

    การอยู่คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อีกอย่างตระกูลโรวว์เป็นตระกูลทำนาย นายคงทำนายอะไรได้เลยมาหาฉันใช่หรือป่าว?” 

     

    คำถามที่มิเซลกล่าวออกมานั้นทำให้ไนทท์มีสีหน้าที่ตกใจนิดหน่อยก่อนจะหัวเราะในลำคอเหมือนชอบใจ 

     

    ไม่ต้องห่วงเหรอรุ่นพี่ ถึงผมจะเป็นคนในตระกูลโรวว์แต่ก็ไม่มีพลังแห่งการทำนายเหรอครับ..” 

     

    ไม่มี?” 

     

    ก็ผมนะ เป็นเด็กต้องสาปนิ 

     

    สิ้นเสียงของไนทท์ที่บรรยากาศเริ่มจะเงียบสลบนั้น ตัวของไนทท์ก็ตบหน้าตัวเองเบาพร้อมกับหันมายิ้มให้กับมิเซลพร้อมกับเดินออกมาไปเอาเครื่องดื่มมาให้กับมิเซลอีกตังหาก 

     

    ขอให้วันนี้มีแต่ความสนุกนะครับรุ่นพี่ 

     

    “...เช่นกัน.” 

     

    ถึงแม้มิเซลจะตอบเสียงเบาแต่ตัวของไนทท์ก็ได้ยินก็ยิ้มออกมาก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกลากันไปนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของไนทท์และมิเซลเพิ่มขึ้นมาอีก 

     

    จนอยู่ๆวันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นและก็เหมือนเดินคือไนทท์ดันมาเจอมิเซลเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือกำลังมีน้ำแข็งแผ่ขยายไปทั่วทางเดิน 

     

    โชคชะตาพามาเจอกันอีกครั้งนะครับรุ่นพี่ 

     

    เวลาแบบนี้ยังจะพูดไม่อีกนะ 

     

    มิเซลกล่าวออกมาพร้อมกับยังวิ่งหนีจากน้ำแข็งที่กำลังขยายตัวตามมาติดๆและนั้นทำให้มิเซลตัดสิ้นใจอุ้มไนทท์ไปด้วยเพราะรุ่นน้องที่ไม่รู้อะไรที่ชอบทำให้เจอนั้นวิ่งช้าเป็นอย่างมาก แทนนั้นยิ่งทำให้มิเซลแปลกใจอีกว่าตัวของไนทท์ที่โดนอุ้มอยู่นั้นเบามาก เหมือนน้ำหนักผู้หญิงเลย 

     

    “แต่ไม่คิดเลยนะครับว่าจะเป็นไปตามคำทำนายที่ลินน่ากล่าวไว้ช่วงเปิดเทมอ” 

     

    คำทำนาย?” 

     

    ครับ ก็อย่างที่รุ่นำี่รู้ว่าตระกูลโรวว์เป็นตระกูลทำนาย.. แต่คงยกเว้นผมไว้ละนะ 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสดใสแต่ตัวของมิเซลรู้ว่านี้ไม่ใช่น้ำเสียงที่เด็กชายที่ตนอุ้มนั้นกล่าวออกมาแน่นอน เพราะในตระกูลและครอบครัวมีพลังทำนายแต่ตนไม่มีทำให้รู้สึกเป็นตัวประหลาด ก็เหมือนกับมิเซลเองที่ครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ไม่มีเวทย์มนตร์แต่ตัวเองดันมี นั้นก็ทำให้ตนเองมีความรู้สึกเป็นคนแปลกและประหลาดจากสังคมรอบข้างไปแล้ว 

     

    ลินน่าบอกว่าจะมีการเกิดน้ำแข็งที่ปกคลุมที่นี่นะครับ 

     

    งั้นเราก็ต้องทำสักอย่าง 

     

    ไม่ต้องครับ 

     

    ไม่ต้อง?” 

     

    มิเซลกล่าวออกมาพร้อมกับสงสัยในคำพูดของไนทท์ที่ตัวเองอุ้มอยู่แต่ถ้ายังวิ่งอยู่อย่างนี้อีกไม่นานตัวของมิเซลต้องเหนื่อยก่อนเป็นอย่างแน่ 

     

    ครับ เพราะยังไงเดียวก็คงมีคนมาช่วยอยู่แล้วละ 

     

    คนมาช่วยเหรอ?” 

     

    ครับ ถึงตระกูลโรวว์จะมีพลังในการทำนายแต่การไม่สามารถเข้าไปยุ่งวุ่นวายได้นะครับ รุ่นพี่ 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาพร้อมกับกอดคอจากด้านหน้าของมิเซลแน่นมากเพราะน้ำแข็งกำลังไล่ตามมาแล้วแต่มิเซลกับหยุดพร้อมกับร่ายเวทย์ไฟ 

     

    ถ้าวิ่งต่อฉันว่าคงหนีไม่ทัน นายก็ร่ายเวทย์ไฟด้วยซะ 

     

    ครับๆ รุ่นพี่ 

     

    ทั้งสองร่ายเวทย์ไปคนละทางเพื่อที่จะทำให้น้ำแข็งละลายไปบ้างเพราะท่าวิ่งต่อแน่นอนว่ามิเซลได้เหรื่อยตายแน่นอนจนอยู่ก็มีไฟจากที่ไหนไม่รู้ทำให้น้ำแข็งละลายและพอหันไปดูก็เห็นมังกร 

     

    มังกรละ 

     

    นี้คือสิ่งที่นายบอกว่าจะมีคนมาช่วยใช่ไหม?” 

     

    หึ ครับรุ่นพี่ น้ำแข็งละลายแล้วเรามานั่งพักกันดีกว่าว่าไหมครับ 

     

    ไนทท์กล่าวออกมาเหมือนทุกอย่างจะจบแล้วนั้นทำให้มิเซลที่ได้ยินถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะไปขยี้ผมของไนทท์เล่นด้วยท่าทางร่าเริ่ง 

     

    ฮ่าๆๆ นายนี้เป็นคนแปลกประหลาดดีนะไนทท์ 

     

    รุ่นพี่หัวเราะแล้วนะครับ 

     

    ไนทท์ยิ้มออกมาก่อนจะมองท้องฟ้าที่ดูสวยงามกับมิเซลที่มองมันเช่นกัน ทำให้ทั้งสองเริ่มที่จะเป็นเพื่อนกันจริงๆและไม่ใช่แค่คนรู้จักและคนคุยกันเท่านั้นจากรุ่นพี่การเป็นเพื่อนที่เชื่อใจกันได้ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×