คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4
เด็กชายได้เดินออกมาในสภาพที่มีรอยแผลนิดหน่อยแต่ตามลำตัวของเด็กชายแต่สำหรับคนทั่วไปเห็นก็คงคิดว่าโดนเพื่อนในวัยเดียวแกล้งมาก
เด็กชายเดินเข้ามาในหม้อใหญ่รั่วที่เป็นร้านขายเหล้าและอาหารสไตล์ลอนดอน ร้านแห่งนี้เป็นร้านที่มีแต่เหล่าพ่อมดแม่มดมาใช้บริการ เด็กชายเดินไปตรงกำแพงจากนั่นก็เคาะกำแพงตาวแนวทางก้อนที่สามจากซ้ายเหนือถังขยะ จากนั่นกำแพงก็แหวกทางออกมาเพื่อเข้าไปในตรอกไดแอกอน
เด็กชายเดินเข้าไปหลังจากนั่นเด็กชายก็เห็นภาพของผู้คนที่เดินกันพลุกพล่านกันอย่างคึกคักบนถนนทางเดิน เด็กชายมองไปยังทางข้างหน้าที่มีผู้คนเดินกันอยู่
“คงต้องไปธนาคารกริงกอตส์ก่อนสินะ”
เดินชายกล่าวออกมาพร้อมกับตลอดทางได้มีผู้คนนั่นหยุดมองไปทางเด็กชายเพราะเด็กชายนั่นมีแผลโดนรอบแล้วเด็กชายที่หูดีก็ยังได้ยินเสียงต่างๆจากผู้คนที่กล่าวถึงตน
“เด็กแบบนั่นมาทำอะไรที่นี้นะ”
“น่าสงสารจัง”
“อย่าไปมองสิ ลูกรักของแม่”
“ยังกล้ามาที่นี่อีกนะ”
เสียงต่างๆนานาที่กล่าวว่าเด็กชายแต่เด็กชายหาได้สนใจเดินชายเดินมาถึงธนาคารกริงกอตส์ที่อยู่ใกล้ๆกับตรอกน็อกเทิร์น จากนั้นเด็กชายก็เดินเข้าไปภายในอาคารนั่นเป็นห้องโถงที่ตกแกต่งด้วยสีเงินและมีเคาน์เตอร์ตั้งเรียงอยู่สองข้างทาง นั่นจึงทำให้เดินชายเดินไปทางเคาน์เตอร์
“ไงฮาโอ ไม่เจอกันตั้งนานนะครับ”
เด็กชายกล่าวออกไปให้กับก็อบลินผู้ที่ดูแลตู้ของตระกูลเพฟเวอเร็น นั่นยิ่งทำให้ก็อบลินตกใจกับสภาะของเด็กชายตกหน้าตน
“ไม่เจอกันนานคุณชายเพฟเวอเร็น ทำไมคุณถึงได้มีสภาพนั่นละ”
ก็อบลินถามออกมาเพราะสภาพตรงหน้าต้องเรียกว่าควรพาไปที่โรงพยาบาลมากกว่าที่จะมายืนอยู่ตรงนี้
“ขอถอนเงินในตู้หน่อยนะ เรื่องแผลชังมันเถอะ”
“เรื่องแผลนะคงชังไม่ได้เหรอ ข้าเป็นคนรักเด็กและยิ่งเธอคือเป็นคนสุดท้ายของตระกูลเพฟเวอเร็นแล้วยิ่งใหญ่”
ก็อบลินกล่าวออกมาพร้อมกับลากตัวเด็กชายไปข้างในแถมต้องเรียกว่ากดตัวเด็กชายให้นั่งอยู่กับโซฟาแล้วเดินเข้าไปเอาผ้าพันแผลมา
“ข้ารู้ว่าเธอไม่อย่าให้ใช้เวทย์มนตร์รักษา ข้าเลยเตรียมอุปกรณ์ทำแผลไว้”
ก็อบลินกล่าวออกมาพร้อมกับจับไปที่แขนและรักษาตามตัวเด็กชายถึงแม้ว่าก่อนกลับมาจากเอลีเซียนแผลจะหายแล้วก็ตามแต่แผลที่มีมานี้ได้มาจากตอนที่สู้กับกลุ่มคนของเอลซ่าไว้ จนก็อนลินนั่นพันผ้าให้เด็กชายเสร็จ
“ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร ข้าจะพาท่านไปที่ตู้เอง ตามมาสิ”
“ครับ”
เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับตามหลังไปติดๆ ก็อบลินยังถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้ได้แต่เด็กชายส่ายหน้า ก็อบลินที่เห็นแบบนั่นก็ถอนหายใจออกมา
“งั้นคำถามสุดท้าย รอบนี้เข้ามาที่โลกเวทย์มนตร์ทำไหม”
ก็อบลินถามขึ้นเพราะเด็กชายที่ตัวเองเป็นผู้ดูแลตู้ให้อยู่นั่นนับได้เลยการเข้ามาในโลกเวทย์มนตร์แห่งนี้มีอยู่นิดเดียว เพราะเด็กชายตรงหน้านั่นต้องอาศัยอยู่กับญาติทางพ่อ
“ฮอกวอตส์”
เด็กชายกล่าวออกมา นั่นจึงทำให้ก็อบลินเข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กชายถึงเข้ามาที่นี่และต้องการที่จะถอนเงินในตู้ไป
“ขอให้สนุกกับการเรียนละ ถึงแล้ว”
ก็อบลินกล่าวออกมาพร้อมกับเด็กชายเดินเข้าไปในตู้เพื่อที่จะหยิบเงินจำนวนหนึ่งมาแต่ดันไปเห็นหนังสือเรื่องเล่าเรื่องนิทานสามพี่น้อง เด็กชายจึงยิ้มแล้วหันไปถามอีกฝ่าย
“นี้ฮาโอ นายเชื่อเรื่องนิทานสามพี่น้องหรือป่าว”
“นั่นสินะ ตัวของเธอเชื่อมันหรือป่าวละ”
“จะเชื่อก็เชื่อ จะไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ”
เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับกันไปจดจ้องหนังสือนิทานของสามพี่น้องอยู่เพราะในตำนานตามเรื่องเล่า ผู้ที่ได้ของ 3 ชิ้นมาจะกลายเป็นนายแห่งความตายนายแห่งยมทูต เด็กชายคิดมาในหัว
“ไม่คิดว่ามันจะบังเอิญเหรอนะอยู่ในตระกูลที่เกี่ยวกับความตายแถมยังได้ทานาทอสแห่งความตายมาเป็นผู้ให้พรอีก”
เด็กชายกล่าวออกมาเบาๆนั่นทำให้ก็อบลินสงสัยอยู่นิดหน่อยแต่เจ้าตัวก็ไม่สนเพราะไม่อยากให้เด็กชายข้างหน้าตนโกธร
“ถึงอยากพิสูจน์อยู่ละนะแต่ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์และหินชุบวิญญาณอยู่ไหนละ อีกอย่างผ้าคลุมล่องหนก็อยู่กับตระกูลพอตเตอร์ไปแล้ว”
เด็กชายกล่าวออกามาพร้อมกับเดินออกจากตู้เพื่อที่จะให้ก็อบลินตรงหน้าพาออกไป ก็อบลินที่ฟังก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“นั่นสินะ แต่ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ในเรื่องเล่าไม่ได้บอกนิว่าแกนกลางของมันคืออะไร ถ้าเธอได้ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์มา.”
“ก็แค่ไปตามหาหินชุบวิญญาณและก็ไปขโมยผ้าคลุมล่องหนสินะ”
เด็กชายกล่าวออกมานั่นจึงทำให้ก็อบลินพยักหน้าตอบรับกับคำตอบที่เด็กชายนั่นตรงกับที่ตัวเองจะพูด เด็กชายตรงหน้านั่นฉลาดและถ้าได้อยู่โลกเวทย์มนตร์ตั้งแต่แรกคงจะเป็นคนที่น่ากลัว ก็อบลินพาเด็กชายมาส่งที่หน้าทางออกมาธนาคารกริงกอตส์
“จริงสิก่อนไป ระวังตัวหน่อยก็ดีคุณชายเพฟเวอเร็น ตอนนี้ได้มีกลุ่มคนที่ชื่อว่าโวลเดอมอร์ขึ้นมา โปรดระวังตัวด้วยเพราะเธอไม่ค่อยรู้เรื่องราวของโลกทางนี้เท่าไร”
“ขอบคุณที่บอกครับ”
จากนั่นเดินชายก็เดินออกไปจากตรงนั่นทันทีและจุดหมายที่เด็กชายจะไปก็คือร้านเสื้อคลุมทุกโอกาสของมาดามมมัลกิ้นส์ เด็กชายเดินเข้าไปในร้านเจอกับเด็กชายอยู่หนึ่งคน
“นายก็ฮอกวอตส์เหรอ”
เด็กชายผู้มีเรือนผมสีทอง ดวงตาสีฟ้ากล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้เขาแต่เด็กชายก็เพียงแค่พยักหน้าออกไป
“นี้ฉันชื่อ นิโค เอซ น็อตต์ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เด็กชายตรงหน้ายื่นมือมากให้ ตอนแรกนั่นเด็กชายจะไม่ยื่นมือไปแต่พอรู้ว่ามาจากอีกฝ่ายเป็นคนของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก็ยื่นไปจับมืออีกฝ่าย
“ผมชื่อน็อคติส เซน เดมอนครับ”
เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับบอกชื่อแต่ไม่ได้บอกชื่อที่ต้องใช้ในโลกเวทย์มนตร์เพราะไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นแต่ถึงยังไงเดียวอีกฝ่ายก็รู้ตอนไปถึงฮอกวอตส์เองหลังจากนั่นไม่นานเด็กชายก็ได้ออกมาจากร้านไปโดยที่มีจากอีกฝ่ายตามมา
“ไว้เจอกันที่ก็ฮอกวอตส์นะ”
เด็กชายไม่สนใจไม่นานเด็กชายก็มาถึงร้านที่ขางอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปรุงยา มีหม้อใหญ่ตะกั่วขนาดมาตรฐานสองชุด ชุดตาชั่ง ขวดแก้วและอีกมากมายเด็กชายรีบซื้อและออกมาจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด ต่อมาเด็กชายได้เดินไปซื้อหนังสือเรียนสำหรับไว้เรียนที่ก็ฮอกวอตส์ เด็กชายก็รีบเข้าไปซื้อแล้วรีบเดินออกมาจนมาถึงร้านไม้กายสิทธิ์ของโอลลิแวนเดอร์
“ยินดีต้อนรับสู่ร้านโอลลิแวนเดอร์ คุณชาย”
เด็กชายไม่กล่าวอะไรพร้อมมองไปที่ชายชราตรงหน้าที่ดุเหมือนว่าเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ แต่ชายชราที่มองเด็กชายนั่นมีแต่ความตกใจกับสภาพของเด็กชายตรงหน้า
“คนที่สองเหรอ คุณชายให้ฉันคนนี้รักษาแผลพวกนั้นให้ไหม”
ชายชรากล่าวออกมาแต่เด็กชายมองกลับไปด้วยสายตาที่น่ากลัวแล้วเด็กเข้าไปหาชายชราใกล้เพราะกับกระซิบข้างหูว่า
“อย่ายุ่งกับแผลพวกนี้~ แต่ก่อนจะหาไม้กายสิทธิ์ช่วยบอกหน่อยสิว่าใครที่มาก่อนหน้าฉัน หึหึหึ~”
เด็กชายกล่าวออกมาก่อนที่จะถอยออกมาให้เห็นหน้าของชายชราเพื่อที่อยากจะรู้ว่าใครคือคนที่คล้ายกับตัวเอง
“เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีทองยาวละนะ แถมตอนมาแรกๆยังขี้อายมากๆด้วยแต่มีแววตาที่กล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ”
“ผู้ได้พรจากอพอลโลสินะ”
เด็กชายกล่าวออกมาเบาแล้วมองไปที่ชายชราเจ้าของร้านว่าโกหกไหมแต่ดูจากเสียงหัวใจแล้วคงไม่ได้โกหก
“งั้นช่วยเลือกไม้กายสิทธิ์ให้หน่อยสิครับ”
เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปด้านหลังของชายชรา ว่าเมื่อไรตนจะได้จับไม้กายสิทธิ์ ชายชราที่มองไปทางเด็กชายและดูจากน้ำเสียงที่พูดมาเมื่อกี้ไม่เหมือนกันทำให้ชายชราถอนหายใจไปทีนึงแล้วเดินเข้าไปหลังร้านและหยิบกล่องไม้กายสิทธิ์หลายอันมาวางไว้
“ไม้วิลโลว์ แกนกลางเอ็นมังกร ยาว 11 นิ้ว”
เด็กชายหยิบขึ้นมาดูแล้วไม่เป็นผลอะไร ชายชราจึงเปลี่ยนไม้ไปเรื่อยๆจนมันเป็นกองใหญ่นั่นจึงทำให้เด็กชายมองหน้าชายชรา
“นี้คุณนะ มีไม้เอลเดอร์ไหมแกนกลางอะไรก็ได้”
“ทำไมเธอถึงคิดว่ามันจะเหมาะละ ไม้กายสิทธิ์จะเป็นคนเลือกเข้านายของมัน”
“หึ ก็ไม่รู้สิ”
เด็กชายกล่าวออกมา ชายชราจึงเดินไปเอาไม้ที่เด็กชายกล่าวออกมาเพราะไม้เป็นคนเลือกเจ้านายแต่ถ้าพ่อมดเป็นคนเลือกไม้เองละจะเป็นยังไง
“ไม้เอลเดอร์ แกนกลางคือเอ็นมังกร ยามสิบเอ็ดนิ้วครึ่ง ยืนหยุ่น ”
เด็กชายมองไปยังไม้กายสิทธิ์ด้วยแววตาที่เป็นประกายดูน่ากลัวหน่อยๆแล้วไม่นานมันก็หายไป ทันทีที่เด็กชายจับไม้ก็มีพลังเวทย์ไหลออกมาเขาตวัดไม้ออกมาทำให้เกิดลมเบาๆ เด็กชายเด็กไปจ่ายเงินแล้วก็จากไปทิ้งให้ชายชราคิดอยู่ในใจว่าไม่อยากเด็กตรงหน้าอีก
“ไม่คิดเลยว่าจะใช่ไม้เอลเดอร์ได้ น่าสนุกขึ้นมาแล้วสิ”
เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับเข้าไปในร้านขายสัตว์เลี้ยงแล้วหันไปเจอแมวเปอร์เซียที่ดูน่ารักตัวนึง เด็กชายเห็นจึงเกิดความรักให้มัน
‘น่ารัก’
จากนั่นเด็กชายก็เอาเงินไปแล้วเดินกลับออกจากร้านไปโดยไม่ลืมเจ้าแมวเปอร์เซียสัตว์เลี้ยงของตัวเองไปด้วย
จนเวลาผ่านไปวันที่ต้องไปฮอกวอตส์นั่น เด็กชายได้ตื่นแต่เช้ามาทำอาหารอย่างง่าย คือ ขนมปังปิ้งกับไข่ดาว ก่อนที่เด็กชายจะใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีถึงสถานีคิงส์ครอส เด็กชายเดินหาชานชาลาที่เก้ากับสิบอยู่เพราะเจ้าตัวหาไม่เจอจนได้ไปเห็นขึ้นวิ่งสนกำแพง นั่นจึงทำให้เด็กชายยิ้มแล้ว
‘แบบนี้นี่เอง’
เด็กชายวิ่งเข้าไปในกำแพง อีกฝั่งของกำแพงนั่งมีพ่อมดแม่มดที่กำลังยืนรอส่งลูกไปเรียนที่ฮอกวอตส์กับโดยที่รถไฟรออยู่ เด็กชายไม่สนใจพวกเขาเหล่านั่นจะทำอะไรนั่นจึงทำให้เด็กชายเด็กขึ้นรถไฟไปพร้อมสัมภาระของตัวเองและสัตว์เลี้ยงของตนอย่างมาร์ขึ้นไปด้วย
เด็กชายนั่งได้ห้องในรถไฟที่ว่าง นั่งจึงทำให้เด็กชายหยิบหนังสือออกมานั่งรอเวลาที่รถไฟทีออกจากสถานีจนสุดท้ายรถไฟก็ออกจากสถานีไป เด็กชายที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ดีๆก็มีคนเข้ามาให้ห้องเด็กชายหันไปมอง
“อ้าวนายมันเซนนิ”
อีกฝ่ายกล่าวออกมาพร้อมกับนั่งลงข้างๆเด็กชายด้วยรอยยิ้ม เด็กชายที่มองอีกฝ่ายด้วยความมาสบอารมณ์หน่อยๆ
“นิโค เอซ น็อตต์”
“ตอนนี้เราเป็นเพื่อกันแล้วนะเรียกว่านิโคก็ได้ เซนขอนั่งด้วยนะ”
อีกฝ่ายกล่าวออกมาโดยที่ไม่สนใจคำตอบที่เด็กชายกำลังพูดออกมานั่นจึงทำให้เด็กชายหันกลับมาอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ้องต่อ
‘ทำไมต้องมาเจอหมอนี้ด้วย’
ความคิดเห็น