ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดาวซ่อนใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : ยินดีที่ได้พบกัน 2/2

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 56


    หญิงสาวใบหน้าอ่อนเยาว์ปล่อยผมตรงยาวสลวยคนนั้นส่งรอยยิ้มเป็นมิตรมาให้เธอ ดาริกาส่งยิ้มตอบไปเล็กน้อย ก้มหน้าลงนิดหน่อยเพื่อใช้ความคิด แล้วก่อนที่ผู้หญิงที่เธอแน่ใจว่าเป็นเจ้าสาวของพี่เสือจะเดินออกไปจากห้องน้ำเธอจึงตัดสินใจพูดขึ้นมาทันทีว่า

    “คุณเป็นเจ้าสาวที่สวยสดใสมากเลยนะคะ” หญิงสาวที่ถูกทักหันหน้ามามองคนพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “ขอบคุณมากนะคะ คุณเป็นแขกของพี่สิงห์เหรอค่ะ” ชื่อพี่สิงห์ที่ออกจากปากของหญิงสาวตรงหน้าสะกิดใจดาริกาเล็กน้อย แต่ก็พูดต่อไปตามน้ำ

    “เอ่อ ค่ะ ใช่ค่ะ” เสียงที่ตอบออกไปค่อนข้างตะกุกตะกักเล็กน้อย

    “แล้วได้เจอหรือยังคะ” หญิงสาวคนเดิมยังคงถามต่อไปด้วยน้ำเสียงสดใส จนดาริกาเองก็รู้สึกหวาดหวั่น ทำไมเธอถึงได้รู้สึกคุ้นจังกับชื่อพี่สิงห์ที่ผู้หญิงคนนี้เรียกเหลือเกิน แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก

    “ยังเลยค่ะ” เพียงเท่านั้น หญิงสาวคนนั้นก็เดินเข้ามาจับจูงที่มือของเธอ จากนั้นก็ทั้งลากทั้งจูงเธอเข้าไปในงานโดยที่ปากยังคงพูดอะไรไปเรื่อย

    “วันนี้พี่สิงห์ยุ่งมากค่ะ เพื่อนเขาเยอะจริงๆบางทีขาดตกบกพร่องไปคุณก็อย่าถือสานะคะ พี่สิงห์เขาฝากไว้นะคะว่าให้ลี่ช่วยดูแลแขกด้วย เพื่อนลี่มีไม่เยอะก็เลยว่างกว่าเค้าเยอะเลย” ดาริกาเริ่มงุนงงไปหมดกับคำพูดของผู้หญิงที่จูงมือเธอให้เดินตามมาโดยมาหยุดลงที่กลางงานเลี้ยง ตรงด้านหลังของผู้ชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับเสื้อกั๊กคลุมสีครีมทองที่กำลังยืนคุยอะไรบางอย่างอย่างออกรสออกชาติกับคนอื่นๆ

    “พี่สิงห์ค่ะ เพื่อนพี่สิงห์มาค่ะ”ชายหนุ่มที่ถูกเรียกหันขวับมาทันที เขาหรี่ดวงตาคมกริบของตัวเองมองทั้งคนพูดและดาริกาอย่างสงสัย เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยพูดขึ้นมา พร้อมกับดึงมือหญิงสาวที่เป็นเจ้าสาวไปยืนข้างกายของตัวเองด้วยท่าทางหวงแหนทันที

    สิงหนาทยังคงขมวดคิ้วมองผู้หญิงหน้าตาคมคายสวยงาม ท่าทางมาดมั่นตรงหน้า เขามั่นใจว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อนอย่างแน่นอน แล้วเธอเป็นใครกัน

    “เอ่อ ผมต้องขอโทษคุณด้วยจริงๆช่วงนี้ผมพบปะผู้คนเยอะมาก เลยไม่แน่ใจว่าคุณกับผมเคยพบกันที่ไหนมาก่อน” สาลินีหันไปมองผู้ชายที่ใช้มือตัวเองโอบอยู่ที่เอวของเธอด้วยสายตาตกใจกับคำพูดตัดรอนของเจ้าบ่าวของเธอในวันนี้ ส่วนหญิงสาวอีกคนยิ่งตกตะลึงเข้าไปใหญ่ ดวงตากลมๆกวาดมองไปรอบกายก็พบว่าภาพต่างๆที่ตกแต่งอยู่อย่างมากมายในงานครั้งนี้เป็นภาพที่ถ่ายได้อย่างสวยงาม ส่วนมากเป็นรูปฝ่ายหญิง และแน่นอนเมื่อหันไปพบภาพถ่ายคู่ผู้ชายที่เห็นในภาพเป็นคนเดียวกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้และถึงแม้ว่าเขาจะมีบางอย่างคล้ายกับคนที่เธออยากพบ แต่ไม่ใช่ เขาคนนี้ไม่ใช่พี่เสือ

    สมองที่กำลังมึนงงย้อนคิดไปถึงชื่อของเขา พี่สิงห์ พี่เสือ ใช่แล้ว ทำไมเธอถึงพลาดไปได้ จำได้คร่าวๆแล้วว่าพี่เสือมีน้องชายอยู่คนหนึ่ง เธอเคยพบครั้งหนึ่งตอนที่เธอทำงานอยู่ที่บ้านพักหลังนั้น เพียงครั้งเดียวจริงๆผู้ชายพูดน้อยนัยน์ตาดุคนนั้น เป็นคนเดียวกับที่เป็นเจ้าบ่าวในคืนนี้ ดาริกาเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว ไม่ใช่พี่เสือเสียหน่อย

    นั่นสินะ คนที่รีสอร์ทบอกแค่ว่า งานใหญ่ของตระกูล ไม่ได้บอกนี่นาว่างานแต่งงานของพี่เสือ เธอก็คิดไปเองทั้งนั้น ทั้งสมองยังลืมเลือนพี่สิงห์คนนี้ไปอีก หญิงสาวรีบตอบคนถามไปทันที

    “เอ่อ คือ..คือ ฉันเป็นเพื่อนกับเพื่อนของคุณค่ะ เราเคยพบกันมาบ้างแต่คุณคงจำไม่ได้ งั้นฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ พอดีจะออกไปรอเพื่อนด้านนอกงานนะคะ ยินดีกับคุณทั้งสองด้วยนะคะ เจ้าสาวของคุณสวยน่ารักมากค่ะ พวกคุณเหมาะสมกันจริงๆ” ดาริกาเอ่ยอวยพรคนทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงสดใสจริงใจ แล้วตัดสินใจหันหลังกลับทันที แต่แล้วจังหวะที่เธอหันหลังกลับไปเธอก็ชนเข้าอย่างแรงกับคนๆหนึ่ง ซึ่งท่าทางเขาคงสูงมากจริงๆนี่ขนาดเธอใส่รองเท้าส้นสูงขนาดนี้เธอยังสูงแค่เพียงระดับไหล่ของเขาเท่านั้น หญิงสาวเอ่ยคำขอโทษทันที พร้อมกับช้อนสายขึ้นมองชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาผู้โชคร้ายที่เธอชนเขาเข้าไปเต็มแรง แล้วสายตาของเธอก็ต้องติดตรึงอยู่กับที่เหมือนโดนคำสาปของพ่อมดยังไงอย่างนั้น

    ภาพรอยยิ้มของชายหนุ่มตรงหน้าเป็นพิมพ์เดียวกับรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นของผู้ชายที่แสนจะใจดีเมื่อเกือบสิบปีก่อน รอยบุ๋มเล็กๆตรงแก้มทั้งสองข้างของเขายังคงเพิ่มเสน่ห์ให้รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ได้เฉกเช่นในวันวาน ดวงตาคมๆที่มีแววหวานและอบอุ่นซ่อนอยู่ยังคงฉายชัดอยู่ในดวงตาของเขาเหมือนเดิม และถึงแม้ว่าจะมีริ้วรอยแห่งวัยเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไปแต่ไม่ได้ลดทอนความดูดีของเขาลงไปได้แม้แต่น้อย ตรงกันความความกร้านขึ้นเล็กน้อยของผิว และความนิ่งสุขุมที่มีมากขึ้นในดวงตาของเขากลับทำให้เสน่ห์แห่งบุรุษเพศของผู้ชายคนนี้มีมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า เขาคนนี้ สีหภพ ราชสีห์

    “ขอโทษด้วยนะครับ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เสียงทุ้มต่ำทรงพลังของเขาเอ่ยถามออกมาอย่างนุ่มนวลทันที หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนถามรู้สึกตื่นตระหนกจนพูดอะไรไม่ออก ทำแค่เพียงส่ายหน้าเบาๆเท่านั้น เมื่อได้รับคำตอบสีหภพจึงปล่อยมือของตัวเองออกจากท่อนแขนเรียวบางของหญิงสาวทันทีด้วยท่าทางสุภาพ ส่งรอยยิ้มเล็กน้อยให้เธอพร้อมกับเดินไปด้านหน้าและพูดจากับผู้เป็นน้องชายอย่างสนุกสนานทันที

    ดาริกามองตามร่างสูงใหญ่ไปด้วยสีหน้าแปลกใจระคนงุนงง อันที่จริงเธอก็ไม่คิดว่าพี่เสือจะจำเธอได้หรอก แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะลืมกันไปแบบขนาดว่าไม่คุ้นหน้าคุ้นตากันได้ขนาดนี้ หญิงสาวกะพริบตาปริบๆยืนติดอยู่กับที่ตรงนั้นโดยที่ขาทั้งสองข้างไม่สามารถขยับไปไหนได้ ดวงตาจับจ้องเขม็งอยู่กับชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาที่บัดนี้เขาเดินไปพูดคุยกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนของเขา เพราะท่าทางในการคุยดูเป็นธรรมชาติและสนุกสนานเอามากๆ คนที่ตั้งใจว่าจะปลีกตัวกลับทันทีที่เจอคำถามสกัดดาวรุ่งของเจ้าบ่าวก็ต้องเปลี่ยนใจ หญิงสาวตัดสินใจอย่างเด็ดขาดยังไงวันนี้เธอจะต้องพบและคุยกับพี่เสือให้ได้

    ในขณะที่หญิงสาวยังคงจ้องมองไปยังพี่เสือของเธออย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อรอจังหวะที่เขาไม่ได้คุยกับใคร หรือว่างจากการต้อนรับแขกเพื่อเข้าไปคุยกับเขา ซึ่งการหาเวลาแบบนั้นช่างดูยากเย็นเหลือเกิน เพราะแทบจะทุกคนต้องเดินเข้าไปทักทายผู้ชายที่ชื่อสีหภพ และในตอนนี้เธอก็ได้เห็นภาพหญิงสาวรูปร่างสูงคนหนึ่งเดินตรงเข้าไปยังพี่เสือพร้อมกับสอดมือของตัวเองเข้าไปคล้องไว้กับท่อนแข่นแข็งแรงของชายหนุ่ม เธอเห็นสีหภพหันมามองผู้หญิงคนนั้นพร้อมๆกับส่งรอยยิ้มเล็กน้อยให้เธอ คนรักของพี่เสืองั้นเหรอ

     

    ช่วงเวลาในงานเลี้ยงผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในที่สุดโอกาสที่เธอรอคอยก็มาถึงจนได้ ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจเรื่องราวที่ดำเนินไปบนเวทีเตี้ยกลางงาน สีหภพกลับปลีกตัวเดินออกมาที่มุมหนึ่งของงาน เขายืนค่อนข้างชิดกับขอบตึกซึ่งทำเป็นกระจกโดยรอบและปลูกต้นไม่เรียงรายไว้อย่างสวยงามทอดสายตามองวิวทิวทัศน์เบื้องล่าง ดาริกาก้าวเดินอย่างแผ่วเบาเพื่อตรงไปยังสีหภพทันที แต่แล้วขาทั้งสองข้างของเธอก็ต้องหยุดก้าวเดินต่อเพราะผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงเขามายังชายหนุ่มก่อนเธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนละคนกับหญิงสาวที่เธอเห็นในงานก่อนหน้านี้ ดาริกายืนหลบมุมเข้าไปเล็กน้อย รู้ดีว่าเสียมารยาทกับการแอบฟังเรื่องราวของคนอื่น แต่ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ

    “พี่เสือคะ” ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่เรียกชื่อเขาทันที รัตติกาล ผู้ซึ่งเป็นอดีตคนที่เคยคบแต่บัดนี้ความสัมพันธ์ก็จบลงไปแล้ว เธอเป็นนางแบบสาวอนาคตไกลที่รู้จักกันกับสิงห์มากพอสมควรจึงได้รับเชิญให้มาในงานวันนี้ด้วย

    “อ้าว รัตนั่นเอง สบายดีไหม” สีหภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ และรอยยิ้มทรงเสน่ห์

    “ค่ะ พี่เสือล่ะคะ งานยุ่งไหม” ชายหนุ่มยิ้มอีกครั้งพร้อมกับตอบว่า

    “ก็ยุ่งนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีอะไรหนักหนา”

    “พี่เสือคะ รัตคิดถึงพี่เสือค่ะ” ชายหนุ่มสะอึกเล็กน้อยกับท่าทีของรัตติกาล ผู้หญิงหลายคนชอบกลับมาพูดประโยคนี้กับเขา แต่เขาให้อะไรมากไปกว่าคำๆนี้ไม่ได้

    “ก็โทรมาคุยกันได้นี่ครับ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันเสมอ แต่พี่เคยบอกแล้วใช่ไหมรัต ว่าสำหรับความสัมพันธ์แบบคนรักพี่ไม่เคยคิดให้ใคร หรืออย่างน้อยๆตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิด รัตเองเป็นคนที่บอกเองว่าเข้าใจ ดังนั้นอย่าพูดอะไรให้เราทั้งคู่ลำบากใจอีกเลยดีกว่า” สีหภพพูดคำพูดตัดรอนอย่างสุภาพ พูดจบชายหนุ่มก็ตั้งท่าจะเดินจากไปทันที

    “รัตมีอะไรไม่ดีคะพี่เสือ” สีหภพหันไปหารัตติกาลด้วยรอยยิ้มที่ระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลา

    “รัตดีทุกอย่าง อย่าดูถูกตัวเองแบบนั้นอีก แต่สำหรับพี่ ผู้หญิงที่พี่จะเรียกว่าเป็นคนรัก จะต้องเป็นผู้หญิงที่พี่อยู่ด้วยแล้ว รู้สึกได้ว่าเธอเป็นเพื่อนคู่คิดของพี่ได้ ดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ไม่ใช่คนอ่อนแอที่ร้องไห้กับเรื่องรอบตัวได้ตลอดเวลา” พูดเพียงเท่านั้นน้ำตาของรัตติกาลหยดลงอาบใบหน้าสวยงามทันที ผู้ชายคนนี้ยังเหมือนเดิม ภายใต้ท่าทางยิ้มๆ คำพูดสุภาพๆของเขา มันแฝงไปด้วยความเย็นชาและร้ายกาจอย่างที่สุด เขาพูดทิ่มแทงเธอได้อย่างนุ่มนวลจริงๆ แต่นั่นแหละเขาก็บอกกกับเธอมาตลอดเวลาที่คบหากันแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาจะรักได้ แต่เธอผิดเองที่ยังคงอยากสานต่อความสัมพันธ์ครั้งนี้ต่อไป

    ดาริกาที่ยืนหลบอยู่ที่มุมศาลาด้านหนึ่งสะดุ้งเฮือกยามได้ยินคำพูดที่ออกจากปากพี่ชายที่ใจดีของเธอ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะพูดถ้อยคำที่ฟังดูใจร้ายได้มากขนาดนี้ หญิงสาวถามตัวเองว่าหากเธอเดินดุ่มๆตรงเข้าไปหาเขาแล้วบอกว่า พี่เสือคะ น้องดากลับมาแล้ว เขาจะรู้สึกยังไงกับเธอ คำตอบก็คงหนีไม่พ้นการที่ผู้ชายคนนี้ก็คงคิดแค่ว่าเธอก็คือเด็กหญิงดาริกาที่เขาเคยอุปถัมป์ช่วยเหลือเธอและแม่เอาไว้ยามที่เธอลำบากเดือดร้อน ก็แค่นั้นแต่แน่นอนเธอไม่ได้ต้องการแค่นั้น ในเมื่อเธอหลงรักเขามานานเหลือเกิน มันคงไม่แปลกหากเธออยากจะหาวิธีเอาชนะหัวใจอันแข็งแกร่งของพี่เสือ มันคงจะดีกว่าที่เธอจะก้าวเข้าไปแล้วบอกเขาเพียงแค่ว่าเธอเคยเป็นเด็กอนาถาที่ครั้งหนึ่งเขาเคยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แล้วจะผิดไหมหากเธอจะเข้าไปหาเขาโดยไม่บอกว่าเธอคือดาริกา หากเธอจะเข้าไปเพื่อทำให้เขาเห็นในมุมที่เปลี่ยนไปของเธอ เพื่อทำให้เขายอมรับเธอมากไปกว่าเด็กน้อยไร้ที่ไปคนเดิม

    เธอจะลองกระโจนเข้าไปลองเล่นเกมส์ๆนี้สักครั้ง เกมส์ที่เดิมพันหัวใจและความรู้สึกของเธอ เธอจะต้องทำให้เขารู้ได้ว่าดาริกาคนนี้ไม่ใช่คนเดิม เธอจะต้องทำให้เขายอมรับเธอ และคิดให้ได้ว่าเธอนี่แหละสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดให้เขาได้

    หญิงสาวทอดสายตามองไปที่สีหภพอีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด พร้อมกับที่มือข้างหนึ่งถอดสร้อยมุกที่ใส่ติดมือมาตลอดเกือบสิบปีเก็บลงไปในกระเป๋าถือใบเล็กทันที ยิ้มเล็กน้อยให้ตัวเอง  พี่เสือคะ ดากำลังจะเข้าไปหาพี่เสือค่ะ แต่ดาจะทำให้พี่เสือยอมรับดาให้ได้ แม้ผลสุดท้ายพี่เสือไม่อาจมอบความรักให้ดาได้ อย่างน้อยดาก็ได้พยายามแล้วดาก็จะไม่เสียใจเลยค่ะ

    หญิงสาวก้าวเดินตรงไปด้านหน้าอย่างมาดมั่น เธอเรียกความมั่นใจมาพร้อมแล้ววันนี้ ตรงนี้คือโอกาสเดียวที่เธอจะต้องคว้ามันมาให้ได้ เธอเดินตามหลังสีหภพไปเรื่อยๆจนคิดว่าอยู่ในระยะที่คุยกันได้แล้วจึงพูดออกไปว่า

    “สวัสดีค่ะ คุณสีหภพ ฉันชื่อลินดาค่ะ”น้ำเสียงหวานกังวานที่พูดด้วยเสียงที่เชื่อมั่นในตัวเองดังขึ้นเรียกเอาชายหนุ่มที่กำลังตั้งใจเดินหันกลับเข้าไปในงานเลี้ยงหันกลับไปมองทันที เขาจ้องมองผู้หญิงในชุดเดรสเกาะอกสีครีมทอง ใบหน้าของเธอคมคายดวงตาฉายแววเชื่อมั่นในตัวเอง เธอจ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มมุมปากตลอดเวลา และถ้าเขาจำไม่ผิด เธอคือผู้หญิงที่ชนเขาเมื่อสักครู่นั่นเอง

    “คุณมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ คุณลินดา” น้ำเสียงแปลกใจของเขาสร้างความยินดีให้กับดาริกาอีกไม่น้อย เป็นสิ่งที่ดีหากเขาจะยังจำเธอไม่ได้ เธอไม่อยากให้เขาติดภาพเด็กน้อยคนนั้นในวันวานเอาไว้

    “ค่ะ ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากจะเสนอคุณ พอจะมีเวลาสักครู่ไหมคะ” สีหภพจ้องมองผู้หญิงที่ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าเขาอยู่หลายปี เธอพูดจาด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่สุภาพ แต่คำพูดของเธอบ่งบอกได้ดีว่าเธอเป็นคนที่ฉะฉานและมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีแววของความเย่อหยิ่งถือตัวแต่อย่างใด ชายหนุ่มพยักหน้าช้าๆพร้อมจุดรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก

    “ผมหวังว่าเรื่องที่คุณจะเสนอให้ผมคงมีค่าเพียงพอกับการที่ผมต้องเสียเวลามายืนฟังนะครับ คุณลินดา” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×